แนะนำพระดี มีพลังมหัศจรรย์ อาถรรพ์หนุนชีวิต อิทธิฤทธิ์มหาศาล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย หนุ่มเมืองแกลง, 15 พฤษภาคม 2010.

  1. noppornl

    noppornl เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,607
    ค่าพลัง:
    +8,008
    ผมก็ยังเห็นมีอยู่นะคุณโจแถวที่เดิมนี้แหละ แต่ก็ไม่อยากไปคิดอะไรมาก บางทีถึงเวลาในอนาคตที่โลกนี้เปลี่ยนไปมากๆ ก็อาจได้เห็นอะไรที่เคยเห็นมากกว่านี้ได้อีกหนอ

    ทุ่งเสลี่ยมผมเคยไปตอนเด็กมากๆแล้ว สมัยโน้นไปเที่ยวเล่นบ้านญาติทางฝ่ายลุงเขยแถวหนองอ้อ-หาดเสี้ยว ทุกปีๆ ทั้งหมู่บ้านนามสกุลขึ้นต้นด้วย ช่าง.. กันหมด สมัยนี้คงเปลี่ยนไปเยอะ
     
  2. noppornl

    noppornl เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,607
    ค่าพลัง:
    +8,008
    คำนี้คมจริงๆครับพี่หนุ่ม
    เพราะเป็นความจริงแท้ๆ
     
  3. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    สัปดาห์หน้าเป็นช่วงท้าย ของการส่งท้ายปีเก่า อย่าลืมแวะเวียนเข้ากระทู้กันบ้างนะครับ
    ผลจากการนั่งปฏิบัติ และการสื่อกับสิ่งอาถรรพ์ต่างๆที่ได้มาและนำมาสร้างเครื่องรางครั้งนี้
    มีผลออกมาให้แล้วเมื่อคืนนี้ แต่จะขอลองทำซ้ำอีกครั้งก่อนแจ้งเพื่อนๆให้ทราบ
     
  4. CheKuvara

    CheKuvara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,460
    ค่าพลัง:
    +19,341
    ตอนที่อยู่ กทม.นะครับ หาทำบุญแล้วแจ่มใสยาก มีอยู่ครั้งคิดจะปล่อยปลาก็ไปซื้อปลาในตลาดเคหะที่เค้าฆ่า พอซื้อก็ไม่รู้ไปปล่อยที่ไหน ตกลงนึกมาได้ว่ามีสวนสาธารณะอยู่ก็เลยไปปล่อยในสวนสาธารณะ ปรากฏว่าก็มีคนมาจับ และน้ำก็แห้งลง ก็นึกเสียความรู้สึกอยู่หลายวัน มานั่งนึกไปนึกมาปลงครับ ทำได้เท่าที่เราทำ ช่วยได้เท่าที่เราจะช่วยเค้าได้ให้เกิดสุขใจของเราเท่านั้นพอ
     
  5. CheKuvara

    CheKuvara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,460
    ค่าพลัง:
    +19,341
    ช่วงนั้นสถานภาพนักศึกษาครับ ลงทุนขนาดนั้นไม่ไหว ครั้นจะขึ้นรถไปปล่อยปลาก็อาจตายระหว่างทางไม่รู้จะบุญหรือจะบาปครับ อยู่ต่างจังหวัดยัีงพอทำได้ง่ายครับ ตอนนี้ไม่รู้เป็นไร ในใจคิดว่าเคยแต่บ่อยแต่ปลาน้ำจืด อยากปล่อยปลาทะเลบ้าง เช่นโลมา หรือฉลามประมาณนี้ ไม่รู้ผมคิดแปลกหรือเปล่า
     
  6. THATCHAKON

    THATCHAKON เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,248
    ค่าพลัง:
    +3,250


    ขอขอบคุณความมีน้ำใจอันดีกับท่านบุญพามาด้วยครับที่ยังมีน้ำใจแบ่งปันให้กับทุกคนที่พลาดโอกาสในครั้งนี้ครับ
     
  7. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ขณะนี้มีเพื่อนสมาชิกหลายท่านแจ้งความประสงค์ขอร่วมบริจาคพระเครื่องดีๆ ที่เก็บไว้เป็นสมบัติส่วนตัวมานานแล้ว และขอมอบให้เพื่อแบ่งต่อคนที่สนใจต้องการนำไปบูชา เพื่อนำเงินที่ได้เล็กๆน้อยๆมาร่วมทำกุศลกัน คนที่เช่าบูชาไปก็เป็นการร่วมสร้างบุญและได้ของดีๆ คนที่มอบให้ก็ได้บุญและได้มิตรภาพจากเพื่อนในเส้นทางบุญนี้ ทุกคนที่ร่วมอนุโมทนาก็ได้กุศลด้วยกัน หลายชิ้นเป็นของเก่าสะสมนานปี ของบางชิ้นได้ปลดออกจากคอที่สวมใส่ก็มี เพื่อร่วมสร้างกุศลส่งท้ายปีเก่าที่นี่ หลายชิ้นเป็นของยอดนิยมที่เขาเสาะหากันทั่วไป กราบขอบคุณเพื่อนสมาชิกผู้ใจบุญอย่างยิ่งกับน้ำใจและการเสียสละ กุศลทานนี้คงส่งผลให้ท่านประสบแต่สิ่งดีๆอันเป็นมงคลตลอดไป

    เพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจการเสียสละเพื่องานบุญ จากของรักของหวงของท่านในครั้งนี้
    ผมขอมอบ
    ลูกอมพรายมงคลเนื้อก้นครก ให้ท่านที่ร่วมส่งพระเครื่องมาร่วมทำกุศล
    โดยจะมอบให้ทุกท่านที่พัสดุถึงมือผมก่อน 15.00 ของ 29/12/53 ถือว่าเราร่วมกันมอบสิ่งดีๆให้กัน

    ลูกอมนี้ให้ฟรี สำหรับคนมีน้ำใจและได้ทำกุศลร่วมกัน เพื่อส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_4730.JPG
      IMG_4730.JPG
      ขนาดไฟล์:
      476.5 KB
      เปิดดู:
      43
    • IMG_4731.JPG
      IMG_4731.JPG
      ขนาดไฟล์:
      158.2 KB
      เปิดดู:
      36
    • IMG_4064.JPG
      IMG_4064.JPG
      ขนาดไฟล์:
      699.7 KB
      เปิดดู:
      45
  8. chopper1972

    chopper1972 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +13,151
    **
    เช่นกันครับ ผมโอนเงินทำบุญกับหลวงตามหาบัว ในกองทุนทองคำช่วยชาติ, บัญชีกองทุนเพื่อสร้าง รพ.....มูลนิธิ รพ.รามาธิบดี ฯลฯ... แต่ก็มีบางแห่ง ส.ค.ส.ส่งมาให้ ผมก็เลยไม่แน่ใจว่าเขาทราบชื่อเราได้อย่างไร หรือสอบถามจากทางธนาคาร เพราะผมมักจะโอนทางเอทีเอ็มนะครับ ไม่ได้โอนผ่านเคาท์เตอร์ซึ่งต้องกรอกชื่อคนโอน

    ทำบุญเดี๋ยวนี้ต้องเลือกเนื้อนาบุญจริงครับ ไม่งั้นจะกลายเป็นบาปเพราะสนับสนุนโจรครับ:cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ธันวาคม 2010
  9. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    อนุโมทนาบุญทั้งผู้ให้และผู้รับด้วยครับ
     
  10. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ภาพลูกอมพรายมงคลทั้ง 5 แบบ ที่ยังไม่ได้เคลือบผิว
    ลูกอมรุ่น 1 ถึงรุ่น 4 จะเคลือบผิวทุกลูกด้วยแลคเกอร์ใส
    แต่จะยกเว้นเฉพาะเนื้อก้นครก ที่ไม่เคลือบผิวเพราะความพิเศษ
    การผสมทุกน้ำมัน ทุกเนื้อ ทุกครกเข้าด้วยกัน ทำให้แห้งยากมาก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    ตัดรายชื่อของผมที่ซ้ำ ออกได้เลยครับ และขอเปลี่ยนชื่อเป็น " พระพุทธเลิศสามไตรภพ" แทนนะครับ
     
  12. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    บทความที่จะลงต่อไปนี้ ได้คัดลอกมาเพื่อประโยชน์ต่อผู้สนใจในสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    ขอขอบคุณเจ้าของบทความเดิม ซึ่งไม่ทราบชัดเจนว่าเป็นของใครด้วยครับ
    ได้ save เก็บไว้ในเครื่องนานแล้ว และเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นบ้าง
     
  13. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    กำเนิดความเป็นมา เครื่องรางของขลัง

    หากจะพูดถึงเรื่องเครื่องรางของขลัง เป็นเรื่องที่ลึกลับและกว้างขวาง ซึ่งในตำราพิชัยสงครามกล่าวว่า เครื่องรางของขลัง ที่นักรบสมัยโบราณจะมีติดตัวเป็นมงคลซื่งมีด้วยกันหลายชนิด และมีความเชื่อต่อเครื่องรางของขลังนั้นๆและพระคณาจารย์เหล่านั้นอย่างมั่นคงจะเห็นได้จากการสืบทอดสรรพตำรา ตกทอดกันมาเนิ่นนานทีเดียวซึ่งแบ่งออกไปตามประเภทย่อๆดังนี้

    1.
    ความเป็นมาจากตามธรรมชาติได้แก่ สิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ไม่มีการสรรค์สร้างซึ่งถือว่ามีดีในตัวและมีเทวดารักษา สิ่งนั้น ได้แก่ เหล็กไหล คดต่างๆ เขากวางคุดเขี้ยวหมูตัน เขี้ยวเสือ กลวง เถาวัลย์ ฯลฯ
    2.
    ส่วนของดีที่สร้างขึ้นมานั้น ได้แก่ สิ่งของที่มนุษย์สร้างขึ้นมา เช่น แร่ธาตุต่างๆ ที่หล่อหลอมตามสูตร การเล่นแร่แปรธาตุ อันได้แก่ เมฆสิทธิ์ เมฆพัดเหล็กละลายตัว สัมฤทธิ์ นวโลหะ สัตตะโลหะ ปัญจโลหะ เป็นต้น ทั้งนี้คลุมไปถึงเครื่องราง ลักษณะต่างๆที่ได้รับการสร้างขึ้นมาเพื่อคุ้นกันภัยอันตราย


    การแบ่งตามการใช้ดังต่อไปนี้

    1.
    เครื่องคาด อันได้แก่ เครื่องราง ที่ใช้คาดศีรษะ คาดเอว คาดแขน ฯลฯ
    2.
    เครื่องสวม อันได้แก่ เครื่องราง ที่ใช้สวมคอ สวมศีรษะ สวมแขน สวมนิ้ว ฯลฯ
    3.
    เครื่องฝัง อันได้แก่ เครื่องราง ที่ใช้ฝังลงไปในเนื้อหนังของคน เช่น เข็มทองตะกรุดทอง ตะกรุดสาลิกา (ใส่ลูกตา) และการฝังเหล็กไหล หรือ ฝังโลหะมงคล ต่างๆลงไปในเนื้อจะรวมอยู่ในพวกนี้ทั้งสิ้น
    4.
    เครื่องอม อันได้แก่เครื่องราง ที่ใช้อมในปาก อาทิเช่น ลูกอม ตะกรุดลูกอม (สำหรับในข้อนี้ไม่รวมถึงการอม เครื่องราง ชนิด ต่างๆ ที่มีขนาดเล็กไว้ในปากเพราะไม่เข้าชุด)
     
  14. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    การแบ่งตามวัสดุดังนี้

    1.
    โลหะ
    2.
    ผง
    3.
    ดิน
    4.
    วัสดุอย่างอื่น อาทิ กระดาษสา ชันโรง ดินขุยปู
    5.
    เขี้ยวสัตว์ เขาสัตว์ งาสัตว์ เล็บสัตว์ หนังสัตว์
    6.
    ผมผีพรายผ้าตราสัง ผ้าห่อศพ ผ้าผูกคอตาย
    7.
    ผ้าทอทั่วๆไป


    การแบ่งตามรูปแบบลักษณะดังนี้

    1.
    ผู้ชายอันได้แก่ รักยม กุมารทอง ฤาษี พ่อเฒ่า ชูชก หุ่นพยนต์ พระสีสแลงแงงและสิ่งที่เป็นรูปของเพศชายต่างๆ
    2.
    ผู้หญิง อันได้แก่ แม่นางกวักแม่พระโพสพ แม่ศรีเรือน แม่ซื้อ แม่หม่อมกวัก เทพนางจันทร์ พระแม่ธรณีและสิ่งที่เป็นรูปของผู้หญิงต่างๆ
    3.
    สัตว์ ในที่นี้ หมายถึงพระโพธิสัตว์ อาทิ เสือ ช้าง วัว เต่า จระเข้ งูดังนี้เป็นต้น


    การแบ่งตามระดับชั้น ดังนี้

    1.
    เครื่องรางชั้นสูง อันได้แก่ เครื่องราง ที่ใช้บนส่วนสูงของร่างกายซึ่งนับตั้งแต่ศีรษะลงมาถึงบั้นเอว สำเร็จด้วย พระพุทธคุณ พระธรรมคุณพระสังฆคุณ
    2.
    เครื่องรางชั้นต่ำ อันได้แก่ เครื่องราง ที่เป็นของต่ำอาทิ ปลัดขิก อีเป๋อ (แม่เป๋อ) ไอ้งั่ง (พ่องั่ง) ไม่ได้สำเร็จด้วยของสูง
    3.
    เครื่องรางที่ใช้แขวน อันได้แก่ ธงรูปนก รูปตั๊กแตน รูปปลา หรือกระบอกใส่ยันต์และอื่นๆ[FONT=&quot]

    [/FONT]
     
  15. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    เมื่อได้แบ่งแยกกันออกไปเป็นหมวดหมู่ย่อยๆ ออกไปให้เห็นกันง่ายๆแล้ว ทีนี้ก็จะจะมาพูดถึงว่าเขาสร้างเครื่องรางกันทำไมเรื่องนี้อธิบายได้พอสังเขปก็แล้วกันเรื่องก็มีอยู่ว่าเดิมทีนั้นโลกไม่มีศาสนาบังเกิดขึ้นมนุษย์ก็รู้จักกับปรากฏการณ์ของธรรมชาติเท่านั้นอาทิเช่น ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว ฟ้าแลบ ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า และ ดาวตกหรือแม้กระทั่ง ไฟ ดังนั้น เมื่อเห็น พระอาทิตย์ มีแสงสว่างก็เคารพแล้วเขียนภาพดวงอาทิตย์ไว้ในผนังถ้ำ เพื่อให้เกิด ความอบอุ่นใจในตอนกลางคืนเมื่อเขียนใส่ผนังถ้ำแล้วก็มาสลักลงบนหิน เพื่อติดตัวไปมาได้ ก็กลายเป็น เครื่องรางไปโดยบังเอิญ และเมื่อรู้จักไฟก็คิดว่าไฟเป็นเทพเจ้า ก็บูชาไฟ ทำรูปดวงไฟแล้วก็เปลี่ยนมาเป็นสิ่งประหลาด อาทิ นกที่มีรูปร่างประหลาด เป็นต้น

    ต่อมาก็สร้างรูปเคารพของเทพต่างๆ และค่อยๆ เปลี่ยนรูปมาเรื่อยๆ ดังจะเห็นได้จาก
    ประเทศ อียิปต์ กรีก โรมัน เพราะเป็นประเทศที่มี เครื่องราง มากมายดังนั้นเมื่อก่อนพุทธกาลราว 2,000 ปีเศษ ศาสนาพราหมณ์ถือเอาพระผู้เป็นเจ้าเป็นสรณะก็บังเกิดขึ้น พระผู้เป็นเจ้านั้นก็คือ พระศิวะพระนารายณ์ พระพรหม และ เมื่อต้องการความสำเร็จผลใน สิ่งใด ก็มีการสวด อ้อนวอนอันเชิญ ขออำนาจของ เทพเจ้าทั้งสามให้มาบันดาลผลสำเร็จที่ต้องการนั้นๆ
     
  16. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    การกระทำดังกล่าวนี้จำต้อง มีที่หมายทางใจ เพื่อความสำรวมฉะนั้นภาพจำหลักของ เทพเจ้าทั้ง 3 ก็มีขึ้น จะเห็นได้จากรูปหะริหะระ ( HariHara ) แห่งประสาทอันเดต (Prasat Andet) ที่พิพิธภัณฑ์ เมืองพนมเปญ อันเป็นภาพจำหลักของพระนารายณ์ ใน ศาสนาพราหมณ์ กับ เทวรูปมหาพรหม แห่งพิพิธภัณฑ์กีเมต์ที่ประเทศฝรั่งเศส นับเป็นประติมากรรมที่สร้างขึ้นด้วยความมุ่งหมายเอาเป็นที่พึ่งยึดเหนี่ยวทางใจในศาสนาพราหมณ์ซึ่งเป็นศาสนาเก่าแก่ในประเทศอินเดียกาลต่อมาพระพุทธศาสนาก็บังเกิดขึ้นในโลก

    โดย
    พระบรมศาสดา (เจ้าชายสิทธัตถะ) เป็นผู้ทรงค้นพบอมตะธรรมวิเศษอันมีผู้เลื่อมใส่สักการะแล้วยึดเป็นสรณะ ดังนั้น พระพุทธองค์ ทรงมีพระสาวกตามเสด็จ ประพฤติปฏิบัติมากมายจนเป็นพระอสีติมหาสาวก ขึ้น ซึ่งท่านมหาสาวกเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ทรงไว้ ความเป็นเอตทัลคะ ในด้านต่างๆกัน มี พระสารีบุตรทรงความเป็นยอดเยี่ยมทางปัญญา ส่วน พระโมคคัลลานะทรงความเป็นยอดเยี่ยมทางอิทธิฤทธิ์ในพระพุทธศาสนานั้น ผู้ที่สำเร็จญาณสมาบัติได้ ต้องเป็นผู้ที่มีจิตใจบริสุทธิ์ย่อมแสดงอิทธิฤทธิ์ ได้หลายอย่าง เป็นอเนกประการ อิทธิฤทธิ์ เหล่านี้ เรียกว่าอิทธิปาฏิหาริย์เป็นการกระทำที่สามัญชนไม่สามารถจะกระทำได้ดังมีหลักฐานปรากฏอยู่ใน พระไตรปิฎกมากมาย และพระคณาจารย์เจ้าผู้สำเร็จญาณสมาบัติ ท่านย่อมทรงไว้ซึ่งฤทธิ์



    โดยที่พระพุทธองค์ ผู้เป็นเจ้าของ พุทธศาสนานั้น พระองค์ทรงไว้ด้วย พระคุณ 3 ประการคือ 1. พระเมตตาคุณ 2. พระปัญญาคุณ 3.พระบริสุทธิคุณ
    ดังนั้นพระเถรานุเถระผู้ทรงไว้ด้วย ญาณสมาบัติก็มักจะใช้ฤทธิ์ของท่านช่วยมนุษย์และสัตว์โลก ซึ่งถือเอาหลัก พระเมตตาคุณเป็นการรอยพระยุคบาทแห่ง สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือ พระบรมศาสนานั่นเอง

    ทีนี้ก็มาถึงเรื่องที่ถกเถียงกันมานานแสนนานทีเดียว แต่ลงรอยกันไม่ได้นั่นก็คือคำว่า เครื่องรางกับ เครื่องลางซึ่งในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานเขียนว่า เครื่องรางอันหมายถึงเครื่องป้องกันภัยที่สำเร็จด้วยรางหรือร่องแต่สำหรับ นักนิยมสะสม เครื่องราง ระดับสากลนิยมจะเรียกว่าเครื่องลาง อันหมายถึง เครื่องที่ใช้เกี่ยวกับโชคลาง เพราะดั่งเดิมนั้น มนุษย์ทำของเช่นนี้ ขึ้นมา เพื่อป้องกัน เหตุร้ายที่เรียกว่า ลางซึ่งเป็นลางดีและไม่ดีแต่ก็เอาละเมื่อเขียนว่า เครื่องรางก็เอาตามพจนานุกรมนั่นแหละ
     
  17. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ความรู้เกี่ยวกับ เครื่องรางของขลัง!


    ควายธนูดีทางเผ้าบ้าน เฝ้าเรือน ทั้งป้องกันภูตผีและโจรผู้ร้าย


    ควายธนู เป็นเครื่องรางตามความเชื่อทางไสยศาสตร์ ควายธนูนั้นสะท้อนให้เห็นระบบความเชื่อทางไสยศาสตร์ของสังคมเกษตรกรรม อันมีความผูกพันกับวัฒนธรรมข้าว ซึ่งเลี้ยงวัวควายไว้ใช้งานในด้านการเกษตร

    วิชาเหล่านี้เป็นการทำหุ่นพยนต์รูปแบบหนึ่ง หุ่นพยนต์สามารถทำได้ทั้งรูปคนและสัตว์ ที่นิยมมีทั้งวัวธนูและควายธนูสามารถสร้างได้หลายวิธี เช่น สานจากไม้ไผ่ ปั้นด้วยดินผสมมวลสาร ปั้นจากขี้ผึ้งไปจนถึงหล่อขึ้นด้วยโลหะอาถรรพ์ เช่น ตะปูโลงศพเจ็ดป่าช้า ,เหล็กขนันผีพราย ,เหล็กยอดเจดีย์ เป็นต้น เอามาหลอมรวมกันหล่อเป็นรูปควาย บางสำนักใช้โครงเป็นไม้ไผ่แล้วพอกด้วยครั่งที่ได้จากต้นพุททรา

    เมื่อทำควายธนูสำเร็จแล้วต้องปลุกเสกตามพิธีกรรม แล้วเลี้ยงไว้ให้ดีต้องหาหญ้าและน้ำเลี้ยงเสมอ เชื่อว่าสามารถใช้ให้เฝ้าบ้าน เฝ้าเรือน หรือไร่นาใช้งานได้ตามความประสงค์ ทั้งป้องกันภูตผีและโจรผู้ร้าย และสามารถสั่งให้ไปสังหารคู่อริได้อีกด้วย มีคาถาใช้เสก(คาถาควายธนู) เมื่อทำควายธนูว่า โอมปู่เจ้าสมิงไพร ปู่เจ้ากำแหงให้กูมาทำควายเชิญพระอีศวรมาเป็นตาซ้าย เชิญพระอาทิตย์มาเป็นตาขวา เชิญพระนารายณ์มาเป็นเขาเชิญพระอินทร์เจ้าเข้ามาเป็นหาง เชิญพระพุทธคีเนตร์พระพุทธคีนายมาเป็นสีข้างทั้งสอง เชิญพระจัตตุโลกบาลทั้งสี่ มาเป็นสี่เท้าเชิญฝูงผีทั้งหลายเข้ามาเป็นไส้พุง นะมะสะตีติ


    ความเชื่อเรื่องควายธนูมีอยู่ทุกภาคของประเทศไทย บางท้องถิ่นเชื่อว่า ผู้เลี้ยงต้องดูแลอย่างดีหมั่นให้อาหารและปล่อยออกไปท่องเที่ยวจะประมาทหลงลืมไม่ได้ ไม่เช่นนั้นควายธนูจะหวนมาทำร้ายเจ้าของเสียเอง แต่บางแห่งก็ถือเป็นเสมือนเครื่องรางธรรมดาสำหรับใช้พกพาติดตัว
     
  18. PITINATTH73

    PITINATTH73 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    2,991
    ค่าพลัง:
    +9,624
    สวัสดียามสายๆครับ ญาติธรรมทุกๆท่าน
     
  19. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    พระแม่นางกวักดีทางเสน่ห์ เมตตามหานิยม โชคลาภ ค้าขาย


    เมื่อสมัยโบราณกาลยังมีพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณทางวิชาไสยศาสตร์ เป็นผู้มีอำนาจสมาธิจิตสูงสามารถอธิษฐานจิตปลุกเสกเครื่องรางของขลังได้บรรจุเลขยันต์และคาถาอาคมตามแต่พระเกจิอาจารย์นั้นๆ ในวัตถุรูปแบบต่าง ๆ ทั้งเก่าและใหม่ในทางศิลปะมากมาย ด้วยความสวยงามปราณีตแตกต่างกันออกไปตามแต่จะมีความสามารถหาวัตถุมาได้อาจเป็นโลหะดิน กระเบื้อง หรือผ้ายันต์ ตามความเหมาะสมกับสถาณการณ์เพื่อมอบให้กับศิษยานุศิษย์และผู้เชื่อถืออันอาจนำโชคลาภมาสู่ผู้ศรัทธาในนางกวัก

    นางกวักเป็นรูปสตรีสมัยโบราณในท่านั่งพับเพียบเรียบร้อย ห่มผ้าสะไบเฉียงทอด้วยใยบัวยอดอกประกอบด้วยพาหุรัดและทองกร ยกมือข้างขวาแสดงอาการกวักและบางพระเกจิอาจารย์ประจงตกแต่งให้มือข้างซ้ายถือถุงเงินถุงทอง เพื่อกวักเรียกผู้พบเห็นและเงินทองของต้องใจทั้งหลายให้หลั่งไหลเข้ามาในร้าน และด้วยอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี้เปี่ยมไปด้วยลีลานารีโสภาลักษณ์ส่งถึงน้ำใจอันขาวบริสุทธิ์ ซึ่งเต็มไปด้วยเมตตาอารีธรรมชั้นสูงดึงเอาเพศชายเพศหญิงทั้งหลายให้เข้ามาและนำเอาลาภสักการะทรัพย์สินเงินทองของขวัญต่างๆ มาสู่ผู้สักการะบูชาด้วยจะว่าไปนางกวักจัดเป็นเครื่องรางของขลังที่นิยมกันมากในหมู่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลาย เช่นกันในวงการพระเครื่องก็เช่นการบูชานางกวักนั้นหวังพุทธคุณด้านเมตตามหานิยมและความก้าวหน้าทางกิจการการค้าในโชคลาภมาสู่ตนและครอบครัว


    ส่วนตำนานของนางกวักนั้น สืบเนื่องมาจากเรื่อง "รามเกียรติ์ "โดยกล่าวถึงท้าวอุณาราช เจ้าเมืองสิงขรเป็นฝ่ายยักษ์ขณะที่พระรามกำลังตามหานางสีดาที่ดำดินหนีได้ไปพบท้าวอุณาราชจึงได้ใช้ต้นกกแผลงเป็นลูกศรไปต้องท้าวอุณาราชที่หน้าอกคนทั้งหลายเลยพาเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า "ท้าวกกขนาก"เมื่อพระรามได้สาปให้ท้าวกกขนาก ถูกตรึงด้วยลูกศรอยู่ ณที่เขาวงพระจันทร์อย่างทุกข์ทรมาน จนกว่าจะถึงศาสนาพระศรีอารย์จึงจะหลุดพ้นคำสาปเมื่อข่าวนี้ทราบถึงนางประจันทร์ซึ่งเป็นธิดาของท้าวอุณาราชจึงได้มาอยู่ ณสถานที่แห่งนี้เพื่อมาอยู่ปฏิบัติดูแลพระบิดาและได้พยายามทอจีวรด้วยใบบัวเพื่อไว้ถวายพระศรีอารย์ในกาลอนาคต ซึ่งจะเสด็จมาโปรดพระบิดาของนางจึงจะพ้นคำสาป

    ด้วยเหตุนี้ชาวเมืองทั่วไปต่างพากันเกรงกลัวท้าวกกขนากว่า หากหลุดพ้นจากคำสาปจะออกมาอาละวาดฆ่าฟันเหล่ามวลมนุษย์จึงทำให้ชาวบ้านทั่วไปพากันเกลียดชังนางประจันทร์ไปด้วยทำให้นางประจันทร์ได้รับการทุกข์ทรมานจากการกระทำต่าง ๆ นานาแต่นางประจันทร์ก็ไม่เคยปริปากพยายามอดทนเพื่อดูแลพระบิดาเป็นเหตุให้ปู่เจ้าเขาเขียว ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทมิตรสหายร่วมตายกับท้าวอุณาราชท่านจึงได้ส่งนางกวักบุตรสาวของท่านให้มาอยู่เป็นเพื่อนกับนางประจันทร์


    เมื่อนางกวักได้เข้ามาอยู่เป็นเพื่อนกับนางประจันทร์แล้วก็ปรากฎว่าผู้คนในเมืองที่เคยเกลียดชังนางประจันทร์มาก่อนก็พากันกลับมารักใคร่นางอย่างไม่คาดคิดและถึงแม้ที่อยู่ของนางจะทุรกันดารสักแค่ไหนก้จะมีผู้คนนำเอาลาภสักการะและแก้วแหวนเงินทองไปสู่สำนักของนางประจันทร์เป็นจำนวนมากอย่างไม่ขาดสาย


    ด้วยเหตุนี้ท่านโบราณจารย์ผู้ชาญฉลาดตั้งแต่ยุคอดีตจนถึงปัจจุบันจึงพากันประดิษฐ์คิดแต่งรูปแม่นางกวักขึ้นไว้เพื่อบูชาด้วยทัพสัมภาระต่าง ๆ ดังเช่นหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จังหวัดนครสวรรค์ จะนิยมแกะรูปนางกวักด้วยงาช้างส่วนหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จังหวัดนครปฐม จะแกะด้วยไม้ไผ่สีสุกและท่านอาจารย์เฮง ไพรยวัล ก็นิยมแกะรูปนางกวักด้วยเช่นกันพร้อมทั้งบรรจุอิทธิคุณและพุทธคุณต่าง ๆ ไว้ภายในเพื่อให้ที่ลูกศิษย์ลูกหาได้รับอานิสงส์เฉกเช่นเดียวกับนางประจันทร์


    คาถาบูชาแม่นางกวัก

    โอมศรีวิชัยวังเวียงอันอุดม ปู่เจ้าเขาเขียว มีลูกสาวคนเดียวชื่อว่านางกวักชายเห็นชายรัก หญิงเห็นหญิงทักทุกถ้วนหน้า พวกพ่อค้าพานิชพากูไปค้าเมืองแมนกูจะค้าหัวแหวนก็ได้วันละแสนทะนาน กูจะค้าสารพัดการก็ได้กำไรมาโดยคล่องกูจะค้าเงินทองก็ได้เต็มห้อง กูจะค้าข้าวของก็ได้เต็มหาบมาเรือน สามเดือนเป็นเศรษฐีสามปีเป็นพ่อค้าสำเภา พระฤาษีผู้เป็นเจ้าจงประสิทธิ์ให้ลูกคนเดียว โอมมหาสิทธิโชคโอมมหาระรวย สวาหะฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ธันวาคม 2010
  20. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    " ตะกรุด "

    เป็นหนึ่งในเครื่องรางของขลังที่ผูกพันกับคติความเชื่อในสังคมไทยมาช้านาน โดยเฉพาะในการรบทัพจับศึกเข้าสู่สนามรณรงค์สงคราม พระ บรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่ประทับนั่งเด่นเป็นสง่าอยู่ในมหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก ที่พระรูปขององค์สมเด็จฯ ท่านคล้องไว้ด้วยตะกรุดดอกใหญ่ เรียงเป็นแนวยาวพาดพระอังสะ ในลักษณาการเฉียงลงถึงบั้นพระองค์ มีสายตะกรุด ๑๖ ดอก คล้องเป็นแนวยาวทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โบราณเรียกกันว่า "ตะกรุดโสฬส"พระองค์ท่านสะพาย ๒ เส้น เป็นหนึ่งในความนิยมประเภทเครื่องรางของพระเกจิอาจารย์แต่ละยุคสมัยคงไว้ซึ่งความเข้มขลัง ศักดิ์สิทธิ์ ดีในทางแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี ป้องกันภยันตรายภัยพิบัติทั้งปวง รวมทั้งด้านเมตตามหานิยม ค้าขาย โชคลาภ กลับดวง พลิกชะตา เลื่อนยศร้ายกลายเป็นดี


    บรรดาเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษนิยมสร้าง ตะกรุดเพื่อป้องกันอันตรายและ ตะกรุด ก็มีพัฒนาการเรื่อยมาจากดอกใหญ่หนาสำหรับการออกศึกสงคราม ก็ค่อยๆ ลดขนาดลงหรือใช้วัสดุประเภทไม้สร้าง บางทีก็จัดทำเป็นดอกเล็กๆในลักษณะเครื่องรางติดตัว หรือสามารถตอกฝังเข้าไปในร่างกายได้


    ตะกรุดถือเป็นเครื่องรางของขลังชนิดหนึ่ง ทำด้วยโลหะบ้าง อโลหะบ้าง เช่นแผ่นตะกั่วแผ่นเงิน แผ่นทอง หรือทองแดง บางครั้งก็ใช้ไม้ไผ่ หรือกระดูกสัตว์ก็มีเมื่อได้วัสดุตามต้องการแล้ว ก็จะทำการลงอักขระ หรือผูกเป็นยันต์โดยส่วนใหญ่จะเป็นบทสรรเสริญพุทธคุณ มีความเชื่อที่ว่าตะกรุดสามารถคุ้มครองผู้ครอบครองหรือสร้างความมีเสน่ห์เมตตาให้แก่ผู้พบเห็นได้


    ตะกรุด ทำมาจากวัสดุต่างๆมากมายตามตำราของครูบาอาจารย์แต่ละท่าน แต่ที่พบโดยทั่วไปจะเป็นการนำโลหะแผ่นบางๆ อาจจะเป็น ทองคำ เงิน นากตะกั่ว หรือโลหะธาตุผสมอื่นๆมาลงอักขระเลขยันต์โดยครูบาอาจารย์ ซึ่งจะใช้เหล็กจารเขียนพระคาถาผูกขึ้นเป็นมงคลก่อนที่จะม้วนให้เป็นแท่งกลม โดยมีช่องว่างตรงแกนกลางสำหรับร้อยเชือกติดตัวไปไหนต่อไหน อาจนำมาหล่อหลอมรวมกันแล้วทำเป็นตะกรุดหล่อโบราณทำจากรางน้ำฝน , ทำจากกาน้ำ , ทำจากใบลานตัดเป็นแผ่นก่อนแช่น้ำแล้วนำมาม้วนเป็นทรงกลม , ทำจากหนังสัตว์ เช่น หนังเสือ , หนังหน้าผากเสือ , หนังงู ,หนังเสือดาว ,หนังลูกวัวอ่อนตายในท้องแม่หรือจากกระดูกสัตว์ ตะกรุดกระดูกช้าง , ตะกรุดจากเขาวัวเผือก หรือจากไม้มงคลต่างๆเช่น ไม้ไผ่ ซึ่งมีทั้ง ไผ่ตัน และ ไผ่รวก ไม้คูณ ไม้ขนุนปัจจุบันก็มีรูปแบบใหม่ขึ้นมาโดยทำมาจากปลอกลูกปืน อาศัยนัยยะว่า แม่ไม่ฆ่าลูกแล้วอาจจะถักด้วยเชือก ด้ายมงคล พอกด้วยผงยา จินดามณี แล้วนำไปจุ่มหรือชุบรักปิดทอง ตามตำรา


    ตะกรุดได้ถูกสร้าง โดยอ้างถึงพุทธคุณ ธรรมคุณสังฆคุณเพราะหากทำวัตถุบูชาเป็นรูปพระพุทธเจ้าแล้ว หากนำไปในสถานที่ต่างๆ เช่น สนามรบอาจจะไม่บังควร โดยอาศัยตัวอักขระ หรือ เลขยันต์ แสดงความหมายที่แตกต่างกันออกไปตะกรุด หากเป็นดอกเดียว เราเรียกว่า ตะกรุดโทน หากเป็นสองดอกจะเป็น ตะกรุดแฝดหรือเป็นโลหะ 3 ชนิด ที่เรียกว่า สามกษัตริย์ หาก 16 ดอกเรียกตะกรุดโสฬส


    ตะกรุดต่างๆส่วนใหญ่ที่เป็นโลหะจะมีความเชื่อที่แตกแขนงออกไปอีก อาทิเช่น ถ้าเป็นตะกรุดที่ต้องการให้เกิดผลทางด้านเมตตา มักจะทำโดยใช้ แผ่นทอง หรือแผ่นเงิน ตะกรุดที่ต้องการให้เกิดผลทางคงกระพันจะใช้แผ่นทองแดง ตะกรุดที่ต้องการให้เกิดผลทางด้านแคล้วคลาด มักจะใช้แผ่นตะกั่วเป็นต้น


    ตะกรุด ใช้บูชาอยู่ 2 แบบ คือ ใช้แขวนคอ และอีกแบบใช้คาดเอวโดยดอกตะกรุดจะขนานกันไปในแนวนอน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ธันวาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...