คาถาเพื่อการยกระดับทางด้านจิตใจและจิตวิญญาณ_2

ผมคงต้องมารายงานตัว ทุกเช้า-เย็น ในบอร์ดแล้วหละครับ เกรงว่าจะหลุดวิถี แล้วก็โทรไปทุก 3 วัน

 

ทุกอย่างเป็นหนึ่ง
จุดเล็กสุด คือใหญ่สุด
จุดใหญ่สุด คือจุดเล็กสุด
จักวาลอยู่ในเรา เราอยู่ในจักรวาล
สิ่งที่คุณจิตนนท์ มันคือสิ่งที่คุณจิตนนท์ค้นหาและเป็นจุดสูงสุดของกระทู้นี้คือ พาทุกคนที่ต้องการไปหาจิตหนึ่ง เป็นหนึ่งเดียวกับจิตหนึ่ง จิตหนึ่งคือทุกดวงจิตเชื่อมกันด้วยความรัก ไม่แบ่งแยก ลักษณะทั้งปวง แม้เล็กหรือใหญ่คือสิ่งเดียวกัน เป็นจิตหนึ่งเหมือนกัน

เหมือนจะรู้
แต่ไปไม่สุดสักที
รู้ว่าทุกอย่างอยู่ที่เรา
แต่ก็หากุญแจไขไม่เจอ
รู้จักกับจิตบริสุทธิ์ หรือจิตเดิมแท้ มาเป็นสิบปี
แต่ก็ไปไม่ถึงสักที

(ที่ว่าเหมือนจะรู้ แต่ไปไม่ถึง เพราะยังวางความคิดที่จะไปถึง และยังวางกุญแจไม่ได้ เพราะคิดว่าอยากจะไปเจอ ถึงไม่เจอ เปลี่ยนความคิดเป็นความรู้ 100% ได้เมื่อไหร่ จะเห็นประตูเมือนั้น)
รู้ว่ามีทางลัด แต่ไปเองไม่ได้
รู้ว่าต้องมีครู แต่ไม่รู้เมื่อไหร่

( ทางลัดก้อมี ต้องอาศัยคนพาไป คือวิชานำทาง หรือวิชาเชื่อมจิต แต่ต้องเปลี่ยนความคิด เป็นความรู้ ให้ประตูเปิดก่อนนะ)
บางทีก็ท้อ บางทีก็เหนื่อย
( อันนี้ ความคิดจากสมอง จิตไม่มีเหนือย ไม่มีท้อ)
ตอนนี้เชื่อ แน่วแน่ ว่า ขอภวนา
ตามอย่างคุณจิตอิสระ แนะนำ
ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ
การภาวนา นั้นเพื่อแก้สภาวะอารมที่แต่ละคนติดอยู่ เช่น เป็นคนมักโกรธ เป็นคนมักหลง แต่ของคุณจิตนนท์เป็นคนที่ติดเรื่องความคิด ตอนนี้หนทางได้เปิดมา 50% แล้ว รู้เท่าทันอารมตัวเองมากขึ้นแล้ว แต่ติดตรงที่ตั้งใจและคาดหวังมากไป ขาดรอยยิ้มในการดำเนินชิวิตด้วย

 

ขอบคุณครับ
มียาใหม่ไหมครับ

 

ตอนนี้ ยาภวนา ไม่มีครับ
โทรมานะครับ 082-1433013 จะให้ยาไป ปรับเปลี่ยนทัศนคติก่อน
รู้สึกต้องปรับทัศนคติและ การแผ่กระแสก่อน ถึงจะให้คำภวนาอื่นต่อไปนะครับ

 

ตอนนี้ รู้สึกว่า จิตร้อน สลับกับ จิตเบิกบานนะครับ
ภวนา ปะสะนะวา ปะชานาติ แก้ ดับอารมร้อน ซัก 3 วันนะครับ

 

ท่านพี่ครับ คุณ jittinon ติดสภาวะเดียวกับผมหรือเปล่า สังเกตุจากคำถาม ก็มีอาการคล้ายๆผมนะครับ

 

พิจารณาธรรมข้อนี้นะครับ เวลานั่งสมาธิ
หยุด นิ่ง สงบ และรับรุ้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้ามา อย่างตรงไป ตรงมาที่กลางหน้าอก ให้ทำจิตใจตัวเองเหมือนยามเฝ้าประตูหมู่บ้าน โจร ผู้ร้าย ตำรวจ หรือใครเข้ามาให้รู้แล้วเห็นแต่ไม่ต้องร้องทัก หรือขับไล่เข้าออกไป หรือตามไปดูในหมู่บ้านว่าเขาเข้าไปทำอะไร ยามมีแค่หน้าที่ หยุด นิ่ง รู้ เห็น ผ่านทางสายตา หรือตาจิตอย่างเดียว

ในชีวิตประจำวัน ให้ยิ้มน้อยๆลงที่กลางหน้าอก แล้วภวนา โพธิ โพธิ สวาฮา สวาโฮม สวาฮายะ อย่างที่ผมนำจิตแผ่ออกให้ไปนะครับ
ลองทำซัก 3 วัน แล้วมาเล่าประสบการให้ฟังนะครับ
ตอนนี้รู้สึกว่ากำลังก้าวหน้าไปได้ด้วยดี แค่ขาด ทริคบางอย่างอยู่นะครับ
ลองสังเกตุ จิตตัวเองว่าเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรด้วยนะครับ

 

พอดีเข้ามาอ่านเจอเลยอยากขอคำแนะนำครับ

เหมือนจิตใจผมยังยึดติดอยู่ในเรื่องของความรักความผูกผันกับใครบางคนอยู่ พอเวลาอยู่เฉยๆไม่มีอะไรให้ทำใจมันก็จะนึกถึงแต่คนนี้ขึ้นมา แล้วก็ดูเหมือนจะเป็นเอามากด้วย

แล้วเหมือนจิตจะไม่ค่อยตั้งมั่นด้วย เวลาสวดมนต์หรือภาวนาบางทีก็คิดเรื่องอื่นแทรกไปมา บางทีอยากจะลองกำหนดสติอยู่ตลอดเวลาว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ แปปๆก็ขาดสติแล้วก็ลืมกำหนดไปเกือบทั้งวัน บางทีคิดจะบริกรรมภาวนา ก็บริกรรมไปไม่ถึง 5 นาทีแล้วก็ลืมไปเลย


แล้วบางทีก็คิดที่จะกระตือรือร้นที่จะเริ่มทำอะไรซักอย่าง ก็ได้แค่คิดแต่ไม่ได้ลงมือทำ บางทีพอจะลงมือทำก็คิดหาข้ออ้างสารพัด บางทีลงมือทำแล้วแต่ก็ยังไม่ถึงที่สุด เหมือนยังขาดอิทธิบาท 4 และก็ยังมีความขี้เกียจอยู่
เช่นบางทีคิดจะทำสมาธิ แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้ทำ บางทีคิดจะทำทุกวันๆพอทำได้ 1-2 วันก็เลิก

บางทีอ่านหนังสืออยู่ก็หาเรื่องไปทำอย่างอื่นจนไม่ได้อ่านหนังสือ แบบว่าอ่านหนังสือจะสอบอยู่ก็ขี้เกียจอ่านหาเรื่องไปนั่งเล่นคอม


บางทีพอจะกระตืนรือร้นในด้านทางโลก ก็เหมือนจะคิดในแง่ธรรมมะมาอ้าง เช่นกระตืนรือร้นในด้านการงาน การหาเงิน ก็จะหาข้ออ้างมาอ้างเช่นอยู่อย่างพอเพียงอะไรแบบนี้

แล้วในเรื่องของความโกรธก็มีอยู่มั้งเป็นบางครั้งนานๆๆที แต่ส่วนมากมักจะหลงมากกว่า แบบว่าหลงตัวเอง เป็นคนที่มีมานะถือตนว่าเหนือกว่าคนอื่น บางทีชอบคิดดูถูกคนอื่น คิดว่าเราดีกว่าคนอื่น เก่งกว่าคนอื่น ฉลาดกว่าคนอื่น แบบว่าEgo ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ตัวเองหรือเปล่า แต่บางทีก็คิดที่จะอยากเหนือกว่าคนอื่น เช่นในด้านฐานะความเป็นอยู่ แต่ก็ได้แค่คิด แล้วก็ไม่ได้กระตือรือร้นที่จะลงมือทำกลับมาขี้เกียจอย่างเก่า

แล้วก็เป็นคนที่สนใจในเรื่องอภิญญา

แล้วก็ในเรื่องของสีออร่า ผมเคยลองไปถ่ายดู ออร่าของผมเป็นสีแดงผสมสีม่วง ข้างล่างเป็นสีแดงตรงกลางๆแดงจนเกือบจะน้ำตาลดำ ส่วนด้านบนเป็นสีม่วงตรงกลางเหมือนจะมีสีเหลืองเป็นขอบๆแล้วมีสีขาวอยู่ตรงกลาง

 

เริ่มภาวนา สุขิตายัง ธัมมัง ปะชานาติ ได้7วันแล้วค่ะ เหมือนวนในอ่าง บางวันก็เหมือนจะใจเบา กายเบา แต่บางวันก็เกิดความไม่พอใจ กับคนข้างตัว ต้องเตือนตนให้ปล่อยวาง เริ่มสวดมนต์ตัวก็จะเริ่มร้อน จนนั่งสมาธิก็ยังร้อนจากในกายเหมือนเมื่อก่อน แต่ 2-3คืนหลังนี้ พอนั่งได้สักพักก็เริ่มเย็นลง ไม่ตลอดเหมือนก่อนนี้ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ

 

อาจารย์กล่าวถึงสัจจธรรม

".... สัจจะ คือ ความจริง สัจจะนั้นมีอยู่ 2 ถ้าจะแยกกล่าวโดยนัยแห่งสมมุติโลก คือสัจจะ ความจริงอันไม่ผันแปรเลย และสัจจะที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

อะไรคือสัจจะที่ผันแปรตลอดเวลา ขันธ์ 5 นั่นแหละคือสัจจะที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อะไรก็ตามที่อาศัยเหตุปัจจัยคือสัจจะที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

อะไรคือสัจจะที่เที่ยงตลอดเวลา จิต นั่นแหละคือสัจจะอันแท้จริง จิต คือ หลักธรรมอันสูงสุด จิตคือผู้สร้างสรรพสิ่ง

ท่านทั้งหลายจงเรียนรู้สัจจะทั้งสองนี้ให้แจ่มแจ้ง เมื่อแจ้งแล้วจงอาศัย 2 อย่างนี้ให้ดำเนินชีวิตไปตามสัจจะอันประกอบด้วยประโยชน์ตนและประโยชน์ส่วนรวม.."
<!-- google_ad_section_end -->

 

อาการแบบนี้ สิ่งหลักๆที่ขาดคือ ขาดธรรมมะในหัวข้ออิทธิบาท 4 คือขาดความรัก ความเบิกบานใจในสิ่งที่ๆจะกระทำ
ให้ตั้งจิตไว้ที่กลางหน้าอกแล้วภวนา
อิทธิบาทัง อิทธาปาโท 9 จบ แล้วต่อด้วยคำว่า ปะริสุทธิง ปะชานาติ 3 วัน
ลองนำไปทำดูนะ
ลืมบอกไปด้วยว่าแต่ละวันให้ยิ้มน้อยๆที่ริมฝีปากเหมือนพระพุทธรูป ให้รู้สึกเบิกบานใจที่กลางหน้าอก ไม่ว่าจะทำอะไร ให้ยิ้มน้อยๆที่ริมปากตลอดเวลา

 

<!-- google_ad_section_end -->
1




<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start --><IFRAME class=youtube-player title="YouTube video player" src="http://www.youtube.com/embed/AB7v_0IURm4" frameBorder=0 width=480 height=390 allowfullscreen="" type="text/html"></IFRAME>อ

การฝึกเปิดจักระกุลฑาลินี คือ ให้จำภาพในวิดีโอนี้ วันละ 3 รอบ ให้มีความรู้สึกว่ากระแสแห่งรักไหลมาดังรูป​

2 ให้วางความคาดหวังว่าจะต้องกาย เบา ใจเบา มันจะเป็นอย่างไร ก้อเรื่องของมัน หน้าที่เราคืดการภวนา และอธิฐาน กาย ใจเบา โดยไม่ต้องคาดหวังว่าจะได้อะไร
3 ให้เริ่มภวนา โพธิ โพธิ สวาฮา สวาโฮม สวาฮายะ ได้แล้วครับ ส่งกระแสความรักไปทั่วทั้งจักรวาล ภวนา 3 วันแล้วมาส่งอารมณ์นะครับ
(เพราะการคาดหวังทำให้จิตเราไหลไปในอนาคต เมื่อไม่ได้ในสิ่งที่คาดหวังเลยเป็นทุกข์ เพราะมีความวิตกกังวล จิตจึงถูกใส่ความทุกข์ลงไป เพราะจิตคิดถึงความสุขในอดีต เมื่อปัจจุบัน หายไป จิตก้อถูกใส่ความทุกลงไป อยู่ในปัจจุบัน รับรู้อารมอย่างตรงไปตรงมา และภวนาเพื่อเรียนรู้อารมต่างๆ เพื่อไม่ให้จมกับอารมจึงเป็นสิ่งที่ต้องทำ)
************************************​

การที่เห็นการเปลี่ยนแปลง สลับไป สลับมา เป็นสิ่งที่ดีครับ ไม่ต้องวิตกกังวลกับมัน ให้มองเห็นการเปลี่ยนแปลง นิ่ง สงบ รู้แล้วเห็น ไม่นานเขาจะวาง การยึดมั่นถือมั่น ความสุขและความทุกไปเอง ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเปลี่ยนแปลงอยู่ทุกเสี้ยววินาที มองด้วยใจที่เป็นกลางๆ ไม่เข้าไปตัดสินใจสภาวะต่างๆ
**************************************​

สุข ทุกนั้นเป็นของคู่กัน เมื่อวางสุข โดยการไม่ยึดมั่นถือมั่นความสุข ความทุกจะหายไปเองครับ
เมื่อมีทุกข์ จะต้องการหนีทุกข์ เพื่อมาเอาสุข จะเป็นความสุขที่ไม่ถาวร เพราะเดี่ยวสุขก้อจะหายไป
วาง สุข ทุขข์ได้เมื่อไหร่ บรมสุขที่เป็นออกมาจากจิตเดิมแท้จะปรากฎออกมาเอง เป็นสุขที่อิ่มเอิบใจ เป็นสุขที่เกิดจากการให้อย่างแท้จริง เป็นสุขที่ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้อะไร เป็นสุขในการก่อกำเนิดสิ่งใหม่จริงๆ เป็นสุขที่สร้างสรรค์จริงๆ และเป็นสุขที่ไม่อิงกับอะไร และ อะไร​

 

อาทิตย์นี้จะมีพลังความรักจากจักรวาลเข้าตัวมาเยอะนะครับ
จงอย่าแปลกใจ ถ้ารู้สึกหงุดหงิดง่าย
จงอย่าแปลกใจถ้ามีอาการคัน หรืออาการมดกัด และเจ็บจี้ดในบางตำแหน่ง
จงอย่าแปลกใจถ้ามีอาการเส้นกระตุก
จงอย่าแปลกใจถ้ามีอาการปวดศรีษะ เหมือนมีความรู้เข้ามาในหัว
ทุกสิ่งทุกอย่าง คืออาการที่จิตได้กำลังยกระดับขึ้น
จงยอมรับการเปลี่ยนแปลง จงยอมรับพลังความรักจากทุกสิ่งให้ผ่านร่าง จงส่งผ่านพลังที่เหลือจากการปรับไปปรับให้บุคคลอื่น ด้วยการแผ่เมตตา หรือส่งผ่านความรักไป
---------------------------------------------------------------------
แผ่นดินไหว และสึนิมาจะปรากฏที่โลกใบนี้อีกหลายครั้ง จงอย่าตื่นกลัว เป็นเรื่องปกติของโลกที่ต้องปรับตัว ถ้าเราปรับตัวไปพร้อมกับโลกใบนี้ได้ เราก้อจะได้อยู่บนโลกใหม่นี้ต่อไป ยุคศิวิไล ที่คนจะรู้สึกแบ่งปัน เป็นหนึ่งเดียวกันกำลังเริ่มจะเกิดขึ้นแล้ว

 

รายงานตัวตอนเช้าครับผม
เบิกบานๆ แต่เช้า
อากาศ ครื้มฟ้าครื้มฝน ท่าทาง พัทลุงฝนยังตกอีกหลายวัน
แต่ภายใน โล่งแล้วล่ะครับ ตอนนี้เริ่มรู้จักกับการแผ่ความรัก
สว่างภายใน โล่งๆดี
หลังจากคุยกับคุณจิตอิสระแล้ว เปลี่ยนได้เยอะครับ
ปัญหาที่ต้องแก้
1. ยิ้มให้ตัวเอง กับคนรอบข้าง
2. ความเชื่อ ความคิด สงสัย อยาก ยังเยอะ แต่พอรู้วิธีวางแล้วครับ ขอบคุณครับ
อย่างน้อยๆ วันนี้ก็ ยิ้มจากภายใน จากภายนอก ได้จริงๆสักที
...............................
สิ่งที่คิดได้ และเริ่มทำได้
คือการวางตัวตน ของเราลง ได้เยอะพอสมควร
จากที่เคยคิดผูกโกรธ โมโห หงุดหงิด
ตอนนี้ พอมีความรู้สึกแบบนั้น ก็แค่มอง แล้ววาง
จากนั้นก็ปฎิบัติ
ยกตัวอย่าง ไม่พอใจแฟน หงุดหงิดที่ไม่ได้ดั่งใจ
เมื่อก่อนจะงอน ไม่ง้อ สุดท้ายทะเลาะกันใหญ่โต
ตอนนี้ พอโกรธ ไม่พอใจ ก็วางมันลง ยิ้มให้แฟน แล้วขอโทษ
แค่้นี้ ก็รู้สึกชีวิต ครอบครัว มีความสุขขึ้น
ถึงจะละโกรธ ไม่ได้ แต่ก็ ให้มันจบได้
แค่วางตัวตนของเรา
วันนี้ จะเปลี่ยนตัวเองใหม่
ดูอารมณ์ กระทบ วาง ปฎิบัติ
เดี๋ยวเย็นนี้จะมาเล่าความเปลี่ยนแปลงนะครับ

 

อนุโมทนาครับ
เมื่อเลิกแบ่งแยก เราเขา และของเราของเขา เพราะเราเป็นหนึ่งเดียวกัน อยู่ด้วยการเกื้อกูลกันครับ อย่าลืมส่งพลังความรัก่ให้ตัวเองและสรรพสัตวฺ สรรพสิ่ง ทั่งทั้งอนันตจักรวาล ทั่วทุกมิติ เพราะเราคือหนึ่งเดียวกัน

 

สวัสดีครับท่านพี่ วันนี้ตื่นสาย(มาก) หลับสบายเกิ๊น ! ขออนุญาตนำข้อความนี้ไปแปะใน Facebook นะครับ

 

อนุโมทนาครับ ผมรออ่านประสบการณ์อยู่นะครับ อิอิ

 

ท่านอาจารย์คะ เมื่อสักครู่ได้ลองภาวนาคำใหม่ แล้วรู้สึก ขนลุกอย่างบอกไม่ถูกค่ะ มันเกี่ยวกันไหมคะ

 

ขอบคุณครับ ท่านจิตอิสสระ

 

เกี่ยวกับ ร่างกายกำลังปรับตัวสำหรับคำบริกรรมใหม่ที่ได้ไป
รับรู้แล้วภวนาไป ครับ