ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    คำทำนายจากเทพเจ้าต่างดาว ของชาวไวกิ้ง?

    [​IMG]


    จารึกบนโล่ไม้ไวกิ้ง กลียุคกำลังมา คนทั่วโลกแย่งชิง น้ำ,อาหาร !!!

    พบจารึกบนโล่ไม้โบราณ อายุกว่า 1,000 ปี ของชาวไวกิ้ง ระบุประเทศมหาอำนาจของโลก จะพลิกคว่ำล้มละลาย จากวิกฤติการณ์ทางการเงิน ผู้คนต่างพากันบุกปล้นชิงอาหารและทรัพย์สิน เพื่อความอยู่รอด เกิดเหตุจราจลที่เมืองใหญ่ทั่วโลก

    เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ จารึกบนโล่ไม้ กำหนดไว้ ในปี ค.ศ. 2011 หรือปีนี้เอง

    การขุดค้นแหล่งโบราณคดี ที่ประสาทโบราณ เก่าแก่แห่งหนึ่งบริเวณ ชานกรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงเดนมาร์ค ซึ่งเมื่อพันปีก่อน ดินแดนแถบนี้เป็นที่อยู่ของชนเผ่าไวกิ้ง นักรบผมขาวผิวขาว ตาสีฟ้า และชอบสวมหมวกมีเขาบนหัว 2 เขา คล้ายเขาวัวกระทิง

    ภายในประสาทเก่าแก่ นักโบราณ-คดี ที่มีศาสตราจารย์อูลไรด์สเตนสการ์ด ผู้เชี่ยวชาญการศึกษาวิจัยชนเผ่าไวกิ้ง ได้พบโล่ทำจากไม้เนื้อแข็ง กว่าง 32 นิ้ว

    บนแผ่นโล่ไม้นี่เองมีอักษรจารึกเป็นภาษารูน เป็นภาษาของชาวสแกนดิเนเวีย ใช้กันเมื่อหลายพันปีก่อน ผู้จารึกข้อความเอาไว้เป็นชาวนอร์ส หรือชาวนอร์เวย์ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นลูกหลานโดยสายเลือดของ ชาวไวกิ้ง

    ในอดีตชาวนอร์ส หรือนักรบไวกิ้งนี่เอง กรีฑาทัพบุกโจมตีคนผิวขาวทั้งที่เกาะ อังกฤษ และในทวีปยุโรปในยุคกลางหรือ 500 ปีที่ผ่านมา ชาวไวกิ้งคือชนเผ่ามหาอำนาจแห่งสแกนดิเนเลียน

    นักโบราณคดีได้ถอดความจารึกบนโล่ไม้ ได้ความว่า...เป็นคำพยากรณ์ เมื่อ 1,500 ปีก่อน ถึงโลกในปัจจุบัน

    “ระบบการเงินการคลังของโลก จะแห้งเหือดหายไปทีละนิด การซื้อขายโดยใช้ ธนบัตรจะหมดคุณค่าลงในฉับพลันทันที ธนบัตรมีค่าเท่ากับกระดาษแผ่นเดียวคนไม่มีงานทำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ พร้อม ๆ กับภาวะขาดแคลนอาหาร ลุกลามไปทั่วโลก เมื่อน้ำจืดหาได้ยาก และเกิดการแย่งชิงกันขึ้น

    “จากคำพยากรณ์ระบุว่า ระบบธนาคารในประเทศมหาอำนาจ จะล้มคลืนลงมาก่อน จากนั้นกลายเป็นสถาบันการเงินอื่น ล้มตามเหมือนทฤษฎีโดมิโน่”

    “เงินหายไปจากตลาดเงิน เงินเป็นสิ่งหาได้ยาก แต่เมื่อได้มาแล้วมีคุณค่าน้อยนิด เช่นเดียวกันราคาสินค้า โดยเฉพาะสินค้า อาหารแพงขึ้นหลายเท่าตัว”

    “พยากรณ์บนโล่ไม้บอกอีกว่า ผู้คนออกจากบ้านที่อยู่อาศัยเพราะไม่มี อาหาร น้ำ และเครื่องสาธารณูปโภค มาชุมนุมตามท้องถนน แล้วก่อการจราจล เผาบ้าน เผาเมือง ปล้น จี้ ชิงทรัพย์ เพื่อเอาชีวิตรอด จากวิกฤติการณ์ ”ศาสตราจารย์อูลไรด์กล่าว”

    “ทรัพย์สินที่ชาวบ้านนำไปจำนำจำนอง เพื่อแลกเป็นเงินเพื่อใช้ซื้อข้าวของเลี้ยงชีวิตจะถูกยึดถูกริบ เพราะไม่มีปัญญาหาเงินมาไถ่คืนไปได้” และในที่สุดชาวเมืองพากันบุกเข้าปล้นแหล่งอาหาร อย่างไม่มีทางเลือกเป็นอื่นไปได้”

    “วิกฤติการณ์เช่นนี้เหมือนกับ นักรบไวกิ้งได้กระทำมาแล้วเมื่อหลายพันปีก่อน โดยการปล้นจี้ตีชิงอาหาร และทรัพย์สินจากคนรวย มาแบ่งให้คนจนได้ประทังชีวิตรอด ในยามเกิดวิกฤติการณ์ไปได้”

    “อีกฝ่ายยกพวกปล้นชิง อีกฝ่ายตั้งกองกำลังป้องกันตัวเอง การฆ่าฟันเกิดขึ้น จากเมืองใหญ่ แพร่ไปยังเมืองเล็ก เลือดจะไหลรินท่วมถนนเป็นท้องธาร” ศาสตราจารย์ อูลไรด์กล่าว

    “จารึกบนโล่ไม้ระบุไว้ว่า ปลายปี 2011 จะเกิดสงครามแย่งชิงอาหารและ น้ำดื่มกันขึ้น เป็นสงครามใหญ่ที่มีผู้เสียชีวิตหลายสิบล้านคน และจบลงด้วย การพังพินาศของระบบเศรษฐกิจโลกทั้งระบบ”

    “แต่ไม่นานระบบเศรษฐกิจใหม่ ระบอบการเมืองใหม่ จะอุบัติขึ้นมา ซึ่งระบบ ใหม่นี้ สามารถจัดระเบียบทำให้ผู้คน แต่ละชนชาติอยู่ร่วมโลก กันด้วยสันติสุข ไปอีกระยะหนึ่ง จากนั้นก็เกิดสงครามขึ้นอีก เพราะความโลภ ความไม่พอเพียงซึ่งเป็นธาตุแท้ดั้งเดิมของมนุษย์ทุกคน”

    “และสิ่งแน่นอนที่สุดเมื่อเกิดการ ฆ่าฟันเพื่อแย่งอาหาร แย่งน้ำกัน ถึงเวลานั้น กติกาของสังคม กฎหมาย และความศรัทธา จะพังทะลายลง ผู้คนสวมหัวใจสัตว์เดรัจฉาน จับอาวุธ ฆ่าฟันกันอย่างกระหายเลือด โดยไม่เลือกพี่เลือกน้อง ชนเผ่าและสายเลือดเดียวกันหรือไม่?

    “ในกลียุค ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ ผู้คนใช้อาวุธทำลายล้างกันอย่างเชี่ยวชาญ ตรงข้ามกับระดับจิตใจ ตกต่ำลงถึงขีดสุด” นักโบราณคดีชาวเดนมาร์กกล่าว

    “สิ่งที่ประวัติศาสตร์มนุษยชาติ จะได้เห็นกันอีกครั้ง คนจะอยู่ร่วมอย่างไม่ละอายต่อบาป เพื่อให้ได้ปัจจัย 4 มาเป็นของตัวเอง สามารถฆ่าได้แม้เป็นผู้มีพระคุณเคยช่วยชีวิตตนเองมาก่อน”

    “คุณค่าของคนและชีวิตของ คนลดค่าเท่ากับศูนย์ เพราะคนเราจะหันมาบูชาเงินเป็นพระเจ้า”

    ศาสตราจารย์ อูลไรด์ ตั้งข้อสังเกตอีกว่า การพังพินาศระบอบเศรษฐกิจทั่วโลก อาจเป็นลางร้าย บอกล่วงหน้าว่าโลกกำลัง มาถึงยุคการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้ง เป็นการเปลี่ยนแหลงจากยุคแสวงหาสัจธรรม ในยุคที่ 3 มาเป็นกลียุคในยุคที่ 4 กลียุคจะเกิดขึ้นบนโลกหรือไม่? ก็ขอใช้คำเดิม ๆ ...ถ้าไม่เชื่อกรุณาอย่าลบหลู่

    ที่มา http://plak.nokroo.com/browse.php?cat_id=32&id=14355
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2011
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    <TABLE id=post4131427 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>09-12-2010, 10:45 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#3196 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4131427", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 11,050
    Groans: 1
    Groaned at 473 Times in 325 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 213
    ได้รับอนุโมทนา 70,687 ครั้ง ใน 10,134 โพส
    พลังการให้คะแนน: 5042 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_4131427 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** เที่ยว นอรเว ****

    [​IMG]

    100 year-old slate-roof boathouse, Hardangerfjord, Norway

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    Borgund Stav Church, Norway

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]
    </FIELDSET>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    <TABLE id=post4137285 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>11-12-2010, 08:00 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#3207 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4137285", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 11,051
    Groans: 1
    Groaned at 473 Times in 325 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 213
    ได้รับอนุโมทนา 70,687 ครั้ง ใน 10,134 โพส
    พลังการให้คะแนน: 5042 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]




    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_4137285 class=alt1><CENTER><!-- google_ad_section_start -->*** พ่อดิน ****<!-- google_ad_section_end -->

    </CENTER>
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ หนุมาน ผู้นำสาร [​IMG]
    *** คำว่า "ดิน" ... ในสแกนดิเนเวีย ****

    ...โอดิน....
    ถือเป็นเทพผู้สร้างโลก เทพสูงสุดตามความเชื่อของศาสนาอาซาทรู
    อันเป็นศาสนาโบราณที่เคยนับถือของชนในแถบสแกนดิเนเวีย
    (ชนเหล่านี้ถูกเรียกรวมๆว่าคนเหนือ หรือ นอร์ส Norse )

    โดยหลักศาสนาเน้นที่สัจธรรม คล้ายๆศาสนาพุทธ คือความไม่จีรัง
    ดังนั้น ผู้ที่นับถือศาสนานี้จึงยึดมั่นในสิ่งที่ควรทำ ใฝ่หาความรู้ ยึดมั่นในสัจจะ
    ช่วยเหลือผู้อื่น และออกผจญภัยเพื่อใช้ชีวิตให้คุ้มค่า
    รบอย่างกล้าหาญเพื่อให้ได้ตายอย่างมีเกียรติในสนามรบ
    ให้ลูกหลานนำเรื่องราวของตนไปเล่าขานในฐานะวีรบุรุษ
    และเพื่อให้ดวงวิญญาณได้รับเลือกให้เข้าร่วมกับกองทัพเทพร่วมต่อสู้กับยักษ์ในวันสิ้นโลก ( ไวกิ้งเป็นตัวอย่างหนึ่งของชนที่นับถือศาสนานี้ )

    อ่านต่อ โอดิน - วิกิพีเดีย

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    *** ดิน ****

    พ่อดิน
    แม่ธรณี

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    <TABLE id=post4134997 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>10-12-2010, 11:17 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#3204 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4134997", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 11,051
    Groans: 1
    Groaned at 473 Times in 325 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 213
    ได้รับอนุโมทนา 70,687 ครั้ง ใน 10,134 โพส
    พลังการให้คะแนน: 5042 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_4134997 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** ชาวลพพ ****

    [​IMG]
    [​IMG] [​IMG]


    [​IMG]
    The Lapps - the Indigenous People of Lapland


    The Lapps is the only indigenous people living in the northern parts of Finland, Norway, Sweden and Russia. In Four Countries

    The Sami people is a people living in four countries. They live in:

    • * in the northern regions of Finland
    • * the northern parts of Norway
    • * the inner parts of northern Sweden
    • * the Kola peninsula in northern Russia
    The Lapps - the indigenous people of Lapland
    Sivu 1

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "​
    <!-- google_ad_section_end --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    <TABLE id=post4132155 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>10-12-2010, 09:00 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#[​IMG]

    *** จารึกไทย บอกยุคน้ำท่วมโลก ****

    บอกวิธีแก้ปัญหา "น้ำท่วมโลก"

    ครั้นเมื่อขวบกาลอายุลดลงมาเหลือเพียง ๗ หมื่นปี
    ขุนสรวง และ ขุนแก้ว ได้มาบอกว่าอีก ๑๐ ปีจะมีฝนหนัก
    ทั้งน้ำแข็งก็ละลายเป็นน้ำล้นท่วมโลกหล้า ชาวชนและปวงสัตว์จะตายหมด
    พวกเจ้าขุนแถนหัวหน้า พร้อมกับหมู่คนชาวเมือง
    จงร่วมช่วยกันสร้างเรือใหญ่หลายลํา
    จงใช้แผ่นเหล็กปลอดตอกประสักขันเกลียว ตรึงให้แน่นแข็งแรงทุกลํา
    ทําทุ่นให้มากขนาบตลอด มัดให้ติดกันเป็นกลุ่มเรือพวง

    เอาเสาเท่าๆกัน วางขนาบบนกลาบและใต้ท้องเรือ
    เจาะรูใหญ่ให้ตลอดคานที่วางขนาบ ทั้งบนและล่างทุกตัว
    แล้วเอาท่อนประสักใส่ตรึงบนกับล่าง ใช้หัวเกลียวขันหรือผ่า
    แล้วตอกลิ่มประสักตรึงให้แน่นแข็งแรงก็ได้ ใช้กระดานแผ่นหนาปูบนเป็นพื้น
    เอายางรักประสมชันและปูนยาให้ทั่ว ทํากลาบนอกให้สูง
    พอเจาะรูพอให้น้ำไหลออกได้

    ทําห้องติดกลาบเรือนั้น มีหลังคาแค่กลาบนั้น ให้ตลอดทุกลํา จะได้พออยู่
    ตรงส่วนกลาง ทําเป็นพื้นดินปลูกไม้เล็กและผักหญ้า
    ทําคอก งัว, ควาย, ช้าง, ม้า, เก้ง, กวาง, ฬา, ฬ่อ อย่างละคู่ มากนักคงไม่พอ
    ทําให้เสร็จใน ๙ ปี อีก ๑ ปีให้จับสัตว์ต่างๆ มาขังฝึกหัด และปลูกต้นไม้ผักหญ้า
    เรือทุ่นที่ทําเสร็จแล้วให้คงที่ไว้บนคานนั้น ถึงคราวน้ำท่วมท้นขึ้นมาพอ ก็จะเคลื่อนลอยไปได้เอง


    ต้นกำเนิด "แม่ย่านางเรือ"

    และสั่งว่า พอน้ำท่วมท้นแล้ว
    "ขุนสรวง" และ "ขุนแก้ว" จะมาเป็น เจ้าพ่อทะเล
    "แม่สาง" และ "แม่แก้วขวัญฟ้า" จะเป็น แม่ย่านาง หรือเป็น จ้าวแม่ทะเล
    ช่วยกันประคับประคองเรือให้โต้คลื่นลมพายุได้
    ซึ่งจะประคับประคอง พร้อมกับจะคอยคุ้มครองป้องกันภัยอันตราย
    ให้กระทั่งปลอดภัยพิบัติเพราะน้ำท่วมโลกนั้น

    ถ้ายังเหลืออยู่อีก ก็บอกให้มารวมกันที่ใกล้เรือ
    ทั้งช้างม้าวัวควายเก้งกวางหมาแมว ก็นํามาอย่างละคู่
    เรือทุ่นกลุ่มนั้นใหญ่และสูง จึงทําสะพานบันไดทอดขึ้นลง
    พอฝนตกหนักเข้าก็ลงไม่ได้ ต่างก็หลบฝนอยู่ในห้องประทุนเรือนั้น
    และช่วยกันต้อนสัตว์ต่างๆ ขึ้นเรือทุ่นนั้น
    พวกช่างต่างตรวจดูเรือและเตรียมเครื่องมือวัตถุซ่อมแซมไว้พร้อมในภายในใต้ท้องเรือทุ่นนั้น
    ทุกอย่างจึงครบบริบูรณ์

    น้ำเริ่มสูงขึ้นได้ท้นท่วมที่ลุ่มราบหมด และเอ่อสูงขึ้นท่วมคาน แล้วหนุนเรือกลุ่มให้ลอยอยู่บนพื้นน้ำ
    คนสัตว์ที่เหลือต่างก็ปีนขึ้นต้นไม้ ขึ้นหลังคา ขึ้นดอน และปีนขึ้นภูเขา
    ครั้นท่วมท้นกระทั่งยอดมอและยอดไม้จมอยู่ใต้น้ำ
    แม้ยอดภูเขาเทือกย่อมก็จมน้ำ แม้ ยอดเขาอีโก้ ก็ปริ่มน้ำแล้ว ที่ยังเหลืออยู่ให้เห็นได้ ลมก็แรง


    [​IMG]

    บางคราวก็เป็นพายุ ฝนก็ตกกระหน่ำหนัก คลื่นก็ลูกใหญ่ซัดกระแทกตลอด
    ในกลางวันทั่วท้องฟ้าก็มืดมัวไม่มีแสงแดด กลางคืนก็ยิ่งมืดคลึ้มทึบตลอด
    ทั้งคนสัตว์ที่เหลืออยู่กับพื้น ก็ได้ว่ายน้ำหาที่พักอาศัย พอหมดแรงต่างก็จมน้ำตายหมด
    แม้คนทั้งหลายในเรือทุ่น ก็ไม่มีหวังรอดพ้นภัยนั้น

    คราวแรกเรือทุ่นกลุ่มนั้น
    ซึ่งได้ใช้พวนผูกตรึงโยงไว้กับต้นตอไม้ใหญ่ๆ นึกว่าพอจะอยู่ได้
    กระนั้นเมื่อลมคลื่นซัดพัดกระพือกระแทกบ่อยๆ ตลอดวันคืนไม่หยุดหย่อนผ่อนเบา
    แม้ ขุนสรวง ขุนแก้ว กับ แม่สาง แม่แก้วย่านาง จะมาควบคุมคุ้มครองอยู่ ณ หัวเรือและเสากระโดง
    พวนที่มัดล่ามโยงผูกตรึงไว้นั้นก็ขาดหมด
    เรือทุ่นกลุ่มนั้นก็เลื่อนลอยไปตามกระแสคลื่นลม

    หมู่คนสัตว์ที่เหลืออยู่ในเรือนี้ พอมีหวังว่าจะอยู่รอดได้
    กระนั้นเฉพาะหมู่คนก็อยู่ไปวันหนึ่งคืนหนึ่งเท่านั้น
    ที่มีโอกาสรู้และทําสร้างเรือนั้นมีอยู่หลายหมู่ แต่ก็ทําเรือได้ไม่ใหญ่โตและไม่มั่นคงแข็งแรงพอ
    ก็ถูกลมคลื่นซัด กระแทกแตกเสียหายจมน้ำตายไปเป็นส่วนมาก

    ยังมีที่เหลืออยู่ที่เรือไม่แตก หรือที่แตกแต่ไม่กระจาย
    และที่ทะลุก็ยังเป็นที่พยุงตัวอยู่ได้ ก็ถูกคลื่นลมซัดกระพือไปไม่จํากัดทิศทาง
    ไปถึง บริเวณน้ำแข็ง ณ ทะเลเหนือ ใกล้ขั้วโลกเหนือ ก็มี
    ไปถึง แผ่นดินอื่นคือ อมริกะ ก็มี
    ทั้งไป ใต้ถึง โปลา และ ไนไตลนี ก็มี

    เฉพาะ "แถนไทย"
    ด้วยอานุภาพ พ่อขุนสรวง และ พ่อขุนแก้ว กับ แม่นางสาง และ แม่แก้วขวัญฟ้า
    ซึ่งได้เป็น "จ้าวพ่อทะเล" และ "จ้าวแม่ทะเล" หรือ "แม่ย่านาง"
    ในกาลนั้น ได้รักษาคุ้มครองเรือทุ่นนั้น
    ให้เลื่อนลอยวนเวียนเป็นวงกว้างอยู่ ณ บริเวณนั้นเป็นแรมเดือน

    เมื่อน้ำลดลงเหลือครึ่งขุนเขานั้น
    เรือนั้นได้ถูกลมคลื่นพัดซัดกระหน่ำ ให้วิ่งไปในห้วงน้ำ เป็นวงกว้างนั้น
    แล้วก็ได้วนเข้ามา ณ บริเวณเดิมนั้น
    ก็ได้ถูกคลื่นลมพัดซัดกระแทกเรือทุ่นกลุ่มนั้น
    ให้หัวเรือพุ่งเข้าชนคอภูเขาลูกหนึ่ง กระทั่งคอเขานั้นทะลุ
    ภูเขานั้นจึงมีชื่อว่า "เขาทะลุ" ได้เรียกกันมาทุกวันนี้

    เรือนั้นได้กระดอนเซออกมา กระแทกกับคอภูเขาอีกลูกหนึ่ง
    กระทั่ง คอยอดบิ่นกระเด็นบินออกไป
    ภูเขานั้นจึงมีชื่อว่า "เขาบิ่น" และ "เขาบิน" เวลานี้เรียกกันว่า "เขาบิน" เป็นประจํา
    เรือนั้นจึงเฉียด ไม่กระแทกจนแตกแล้ว
    ได้ลมแรงกระพือพัดหนุนท้ายให้แล่นไปทางตะวันตกถึงห้วงบึงใหญ่
    ส่วนนั้นเป็นแถบถิ่นดินสูงและน้ำลดลงมากแล้ว
    ท้องฟ้าก็แจ้งแดดออกให้ความอบอุ่นบ้างแล้ว

    เรือได้เกยตอม่อหินใต้น้ำก็แตกกระจายออก
    ส่วนหัวได้พุ่งไปเกยตื้นเชิงเขาลูกหนึ่ง ทั้งคนและสัตว์ได้ขึ้นบกอยู่อาศัย ณ ภูเขานั้น
    ต่อมาจึงสร้างเมืองขึ้นรอบภูเขานั้น
    ภูเขานั้นจึงมีชื่อว่า "เขากลางเมือง" ใช้เป็นชื่อเรียกกันมาตลอดกาลนาน
    กระทั่ง พ.ศ.๒๔๓๘ พระบาทสมเด็จพระปิยมหาราช ได้เสด็จประพาส
    ได้พระราชทานชื่อใหม่ว่า "เขาถ้ำจอมพล" จึงเปลี่ยนเป็น "เขาถ้ำจอมพล" กระทั่งกาลบัดนี้

    และในถ้ำภูเขานี้ซึ่งเป็นถ้ำภูเขาหินปูน จึงมีหินงอกและหินย้อยทั้งถ้ำ
    ณ พื้นถ้ำซึ่งเป็นหินปูน โคลนเมื่อยังเป็นดินโคลนอยู่นั้น อย่างน้อยสุดก็มีอายุถึง ๒ แสนปี
    ซึ่งยืนยันว่ามีคนอยู่มาแล้ว จึงมีรอยเท้าหรือรอยตีนใหญ่ที่ชัดเจน
    ปรากฏอยู่ถึง ๕ รอย เป็นรอยใหญ่โตมาก ซึ่งยาวถึง ๓๖ นิ้วฟุต กว้าง ๑๘ นิ้วฟุต
    ที่ไม่ชัดเจนเช่นมีเพียงหนึ่ง กับรอยเล็กๆอีกเป็นจํานวนมาก
    ทั้งก้าวก็ปรากฏยาวกว่าคนสมัยนี้ เมื่อลองดูยังต้องกระโดดจึงถึง
    คงเป็นหลักฐาน ยุคสมัยขุนแถนไทย อันตรงกับกาล พระโคนาคมน์ ได้

    และก็ ส่วนกลางของเรือทุ่นกลุ่ม นั้น
    ซึ่งขาดออกกระดอนออกมา จมลงตรงกลางห้วงบึงน้ำใหญ่
    เสากระโดงยังคงตั้งอยู่ ฉะนี้ห้วงบึงใหญ่นี้ จึงมีชื่อว่า "บึงจมเรือ" หรือ "บึงเรือจม"
    ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นชื่อว่า "จอมบึง" ให้เหมือนชื่อพระราชทานว่า "ถ้ำจอมพล"
    ทุกวันนี้จึงเรียกกันเป็นประจําว่า "จอมบึง"
    ในกาลประมาณก่อน พ.ศ.๒๔๗๐ ยังมีผู้เห็นตอเสานี้โผล่อยู่กลางบึงนั้น
    ยังเล่ากันเสมอว่าไม่รู้ว่าใครปักไว้

    ส่วนท้ายเรือ
    ได้ลอยไปเกยอยู่กับพื้นตื้นเชิงเขาลูกหนึ่ง ผู้คนได้ขึ้นไปอยู่อาศัย ณ ภูเขานั้น
    เมื่อเจริญขึ้นทําผลได้แล้ว จึงนํามาเป็นสินค้าซื้อขายกัน
    ต่างได้ตั้งชื่อภูเขานี้ว่า "เขากลางตลาด"

    ก็กาลที่น้ำท่วมโลกนั้น ได้ท่วมท้นอยู่นาน
    พอลดลงมากแล้ว ณ ที่สูงๆ ซึ่งเปียกชื้นอยู่แล้ว ทั้งมีฝนตกมาบ้าง
    พืชพรรณผักหญ้ากับต้นและย่านพุ่มป่า ก็งอกงามเจริญขึ้นทั่วไป
    สัตว์ที่เหลืออยู่ครั้นเรือแตกแล้ว ต่างก็ขึ้นบก
    จึงได้อาศัยพืชพรรณผักหญ้าใบไม้นั้นๆ เป็นเครื่องเลี้ยงชีวิต

    คนที่ขึ้นจากเรือนั้น ก็ขึ้นอยู่อาศัยตามเพิงผาถ้ำภูเขา
    ที่ขึ้นอยู่ตามเนินโคก ก็เอาต้นไม้เป็นตอตายเพราะถูกน้ำท่วม เอามาทําเสาตั้งขึ้น
    แล้วเอาไม้ไผ่ ทําขื่อ แป อกไก่ ตง รอด
    ใช้ใบไม้และคา มุงโดยเกลี่ย
    ใช้ไม้ขนาบ ใช้เถาวัลย์ผูกมัด
    ใช้ไม้ไผ่ผ่าสับเป็นฟาก ปูเป็นพื้นอยู่อาศัยกัน

    พอน้ำแห้งตลอดพื้นที่ราบ ที่เป็นโคลนตม ก็แข็งแน่นแล้ว
    ต่างก็ออกมาจากถ้ำ ได้ช่วยกันปลูกสร้างเรือนบ้าน
    แบ่งที่ที่ใกล้หนอง, บึง, ห้วย, คลอง, แม่น้ำ, ทํานา สวน ไร่ ทุ่ง
    ทํานา ปลูกข้าว ทําสวนต้นไม้ จึงเป็นบ้านเมือง ตลาด สนาม ทุ่งเลี้ยงสัตว์ ฉะนี้

    ถิ่นแดนแถบนั้น
    จึงมีธรรมชาติ ซึ่งมีชื่อประจําเนิ่นนานมาแล้วจนชิน
    และรู้ตลอดไปแล้วว่า เขาทะลุ เขาบิ่น เขากลางเมือง เขากลางตลาด
    บึงจม,บึงจมเรือ หรือ บึงเรือจม (จอมบึง) ทุ่งหลวง ทุ่งหญ้า สนามหญ้า ฯลฯ ประจําอยู่แล้ว
    ชาวชนต่างได้ฟัง และรู้เรื่องกันมา
    จึงต่างได้กระทํากราบไหว้ บวงสรวง บําบวง ต้นผีสาง ไทยกันมา และกระทําเป็นประจํามา

    ครั้นกาลล่วงนานมา
    กระทั่งถึง ขุนแถน เทียนฟ้า
    กลุ่มหมู่เลาว๊ะ หรือ เราว๊ะ คือ เลาลวั๊ะ เราลวะ ลว้า ฉะนี้
    จึงมีชื่อ แถนเทียนฟ้า ลว้าไทยโท้ หรือ พ่อขุนไทยโท้ นั้น
    ก็ได้ฟังเรื่องน้ำท่วมโลก ซึ่ง พ่อขุนสรวง-นางสาง พ่อขุนแก้ว-แม่แก้วขวัญฟ้า ซึ่งได้มาบอกแจ้ง
    แล้วให้สร้างเรือทุ่นกลุ่มได้อาศัยอยู่ จึงรอดพ้นภัยน้ำท่วมนั้น
    และท่านต้นทั้ง ๔ นั้นจึงขึ้นเป็น "จ้าวพ่อทะเล" และ "จ้าวแม่ทะเล" หรือ "จ้าวแม่ย่านาง"

    �����¾�оط��ҷ - powered by XMB
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <CENTER>[​IMG]
    [​IMG] </CENTER><TABLE><TBODY><TR><TD bgColor=#ffc0ff>[SIZE=+2]ความเป็นมา[/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE align=right border=2 hspace="5"><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <DD>เมื่อ พ.ศ. 2431 นักฟิสิกส์<WBR>ชาวเยอรมัน<WBR>เชื้อสายยิว<WBR>ผู้หนึ่ง<WBR>ชื่อ ไฮน์ริช เฮิรตซ์ ได้<WBR>ค้นพบ<WBR>คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า<WBR>ระหว่าง<WBR>ขั้วไฟฟ้า<WBR>สอง<WBR>ขั้ว<WBR>ที่<WBR>เกิด<WBR>จาก<WBR>การสปาร์ก และ<WBR>รับ<WBR>สัญญาณ<WBR>ที่<WBR>สปาร์กนี้<WBR>ได้<WBR>ใน<WBR>ระยะไกล<WBR>หลายเมตร การค้นพบ<WBR>ครั้งนี้<WBR>ถือ<WBR>ได้<WBR>ว่า<WBR>เป็น<WBR>การค้น<WBR>พบ<WBR>ทาง<WBR>วิทยาศาสตร์<WBR>ครั้งสำคัญ<WBR>ที่สุด<WBR>ครั้งหนึ่ง เพราะ<WBR>ต่อมา<WBR>ได้<WBR>มี<WBR>การนำ<WBR>คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า<WBR>ที่<WBR>เฮิรตซ์<WBR>ค้นพบ (ซึ่ง<WBR>ใน<WBR>สมัยนั้น<WBR>เรียกว่า คลื่นเฮิรตซ์ (Hertzian waves) มา<WBR>ประยุกต์ใช้<WBR>ใน<WBR>การสื่อสาร โดย<WBR>ใน พ.ศ. 2441 มาร์โคนี นักประดิษฐ์<WBR>ชาวอิตาเลียน สามารถ<WBR>สร้าง<WBR>ระบบ<WBR>ส่ง<WBR>และ<WBR>รับ<WBR>โทรเลข<WBR>โดย<WBR>ใช้<WBR>คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า<WBR>ได้<WBR>เป็น<WBR>ผลสำเร็จ ถัดมาอีก 3 ปี คือ<WBR>ใน พ.ศ. 2444 มาร์โคนี ประสบ<WBR>ความสำเร็จ<WBR>ครั้งใหญ่<WBR>เมื่อ<WBR>สามารถ<WBR>ส่ง<WBR>คลื่นเฮิรตซ์<WBR>ข้าม<WBR>มหาสมุทรแอตแลนติก จาก<WBR>ประเทศอังกฤษ<WBR>ไปยัง<WBR>นิวฟาวน์แลนด์ ประเทศ<WBR>คานาดา ความสำเร็จ<WBR>ของ<WBR>มาร์โคนีเป็น<WBR>การเปิด<WBR>โฉมหน้าใหม่<WBR>ของ<WBR>การติดต่อ<WBR>สื่อสาร<WBR>ระยะไกล<WBR>โดย<WBR>ใช้<WBR>คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า<WBR>เป็น<WBR>ครั้งแรก มี<WBR>ผล<WBR>ทำให้<WBR>การสื่อสาร<WBR>เป็น<WBR>ไป<WBR>อย่างสะดวก<WBR>และ<WBR>รวดเร็ว ต่อมา<WBR>เมื่อ<WBR>มี<WBR>การผสม<WBR>สัญญาณเสียง สัญญาณภาพ<WBR>เข้ากับคลื่น<WBR>แม่เหล็กไฟฟ้า<WBR>ได้<WBR>ก็<WBR>ทำให้<WBR>เกิด<WBR>วิทยุกระจายเสียง และ<WBR>วิทยุโทรทัศน์ ตามลำดับ <DD>พัฒนาการ<WBR>อย่างรวดเร็ว<WBR>ของ<WBR>เทคโนโลยี<WBR>ด้านอิเล็กทรอนิกส์<WBR>และ<WBR>คอมพิวเตอร์<WBR>ทำให้<WBR>เครื่องมือ<WBR>และ<WBR>อุปกรณ์<WBR>การสื่อสาร<WBR>ต่าง ๆ มี<WBR>ประสิทธิภาพ<WBR>สูง ทำให้<WBR>การติดต่อ<WBR>สื่อสาร<WBR>เป็นไป<WBR>อย่างรวดเร็ว และ<WBR>กว้างขวาง<WBR>ครอบคลุม<WBR>ไป<WBR>ทั่วโลก เกิด<WBR>การแลกเปลี่ยน<WBR>ความรู้ เทคโนโลยี<WBR>ข่าวสาร<WBR>ข้อมูล<WBR>ระหว่างกัน ทำให้<WBR>เศรษฐกิจ สังคม และ<WBR>วัฒนธรรม เปลี่ยนแปลง<WBR>ไป<WBR>อย่างรวดเร็ว จึง<WBR>อาจ<WBR>กล่าว<WBR>ได้<WBR>ว่า<WBR>คลื่นวิทยุ<WBR>มี<WBR>ส่วนสำคัญ<WBR>ที่<WBR>ทำให้เกิด<WBR>การเปลี่ยนแปลง<WBR>ดังกล่าว

    <TABLE><TBODY><TR><TD bgColor=#ffc0ff>[SIZE=+2]การใช้งานคลื่นวิทยุ[/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE><DD>คลื่นวิทยุ<WBR>มี<WBR>ช่วงความถี่<WBR>ตั้งแต่<WBR>ประมาณ 10 กิโลเฮิรตซ์ ถึง 300 จิกะเฮิรตซ์ ถูก<WBR>นำ<WBR>ไป<WBR>ใช้<WBR>ใน<WBR>การสื่อสาร<WBR>โทรคมนาคม<WBR>ด้านต่าง ๆ สรุปดังตาราง 1 <CENTER>[SIZE=+1]ตาราง 1 คลื่นวิทยุความถี่ต่าง ๆ และการใช้งาน[/SIZE] <TABLE border=1><TBODY><TR align=middle bgColor=#d2b48c><TD width=170>ความถี่ (ชื่อ)</TD><TD width=150>ความยาวคลื่น</TD><TD width=270>การใช้งาน</TD></TR><TR><TD align=middle>ต่ำกว่า 30 kHz (VLF)</TD><TD align=middle>มากกว่า 10 km</TD><TD>ใช้สื่อสารทางทะเล</TD></TR><TR bgColor=#f5f5dc><TD align=middle>30 - 300 kHz (LF)</TD><TD align=middle>1- 10 km</TD><TD>ใช้สื่อสารทางทะเล</TD></TR><TR><TD align=middle>0.3-3 MHz (MF)</TD><TD align=middle>0.1-1 km</TD><TD>ใช้ส่งคลื่นวิทยุระบบเอเอ็ม</TD></TR><TR bgColor=#f5f5dc><TD align=middle>3-30 MHz (HF)</TD><TD align=middle>10-100 m</TD><TD>ใช้ส่งวิทยุคลื่นสั้นสื่อสารระหว่างประเทศ</TD></TR><TR><TD align=middle>30-300 MHz (VMF)</TD><TD align=middle>1-10 m</TD><TD>ใช้ส่งคลื่นวิทยุระบบเอฟเอ็มและคลื่นโทรทัศน์</TD></TR><TR bgColor=#f5f5dc><TD align=middle>0.3-3 GHz (VHF)</TD><TD align=middle>10-100 cm</TD><TD>ใช้ส่งคลื่นโทรทัศน์และไมโครเวฟ</TD></TR><TR><TD align=middle>3-30 GHz (SHF)</TD><TD align=middle>1-10 cm</TD><TD>ใช้ส่งไมโครเวฟและเรดาร์</TD></TR><TR bgColor=#f5f5dc><TD align=middle>30-300 GHz (EHF) </TD><TD align=middle>1-10 mm</TD><TD>ใช้ส่งไมโครเวฟ</TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>
    <DD>ปัจจุบัน<WBR>ประเทศ<WBR>ทั่วโลก<WBR>ใช้<WBR>คลื่นวิทยุ<WBR>ใน<WBR>การติดต่อสื่อสาร<WBR>กัน<WBR>อย่างแพร่หล าย เฉพาะ<WBR>ใน<WBR>สหรัฐอเมริกา ซึ่ง<WBR>เป็น<WBR>ประเทศ<WBR>ที่<WBR>มี<WBR>ความเจริญก้าวหน้า<WBR>ทางวิทยาศาสตร์<WBR>และ<WBR>เทคโนโลยี<WBR>สูง<WBR>นั้น มี<WBR>สถานีโทรทัศน์<WBR>กว่า 1,000 สถานี สถานีวิทยุ 8,000 สถานี เครื่องรับส่งวิทยุ 40 ล้านเครื่อง จานส่งและรับ<WBR>สัญญาณ<WBR>ไมโครเวฟ<WBR>กว่า 250,000 จาน และ<WBR>อุปกรณ์<WBR>ไมโครเวฟ<WBR>ที่<WBR>ใช้<WBR>ใน<WBR>อุตสาหกรรม<WBR>ต่าง ๆ รวมทั้ง<WBR>เตาไมโครเวฟ<WBR>ที่<WBR>ใช้<WBR>ใน<WBR>บ้านเรือน อีก<WBR>กว่า 40 ล้านเครื่อง อุปกรณ์<WBR>เหล่านี้<WBR>ผลิต<WBR>และ<WBR>ส่งกระจาย<WBR>คลื่นวิทยุ<WBR>ออกสู่<WBR>บรรยากาศ<WBR>ตลอดเวลา โดยที่<WBR>ประสาทสัมผัส<WBR>ของมนุษย์<WBR>ไม่<WBR>สามารถ<WBR>รับรู้<WBR>ได้

    <TABLE><TBODY><TR><TD bgColor=#ffc0ff>[SIZE=+2]ผลของคลื่นวิทยุที่มีต่อร่างกาย[/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE><DD>คลื่นวิทยุ<WBR>สามารถ<WBR>ทะลุ<WBR>เข้า<WBR>ไป<WBR>ใน<WBR>ร่างกายมนุษย์<WBR>ได้<WBR>ลึก<WBR>ประมาณ 1/10 ของ<WBR>ความยาวคลื่น<WBR>ที่<WBR>ตกกระทบ และ<WBR>อาจ<WBR>ทำลาย<WBR>เนื้อเยื่อ<WBR>ของ<WBR>อวัยวะ<WBR>ภายใน<WBR>บางชนิด<WBR>ได้ ผลการทำลาย<WBR>จะ<WBR>มาก<WBR>หรือ<WBR>น้อย ขึ้นอยู่กับ<WBR>ความเข้ม ช่วงเวลา<WBR>ที่<WBR>ร่างกาย<WBR>ได้รับ<WBR>คลื่น<WBR>และ<WBR>ชนิด<WBR>ของ<WBR>เนื้อเยื่อ อวัยวะ<WBR>ที่<WBR>มี<WBR>ความไว<WBR>ต่อ<WBR>คลื่นวิทยุ ได้แก่ นัยน์ตา ปอด ถุงน้ำดี กระเพาะปัสสาวะ อัณฑะ และ<WBR>บางส่วน<WBR>ของ<WBR>ระบบทางเดินอาหาร โดยเฉพาะ<WBR>นัยน์ตา และ<WBR>อัณฑะ เป็น<WBR>อวัยวะ<WBR>ที่<WBR>อ่อนแอ<WBR>ที่สุด<WBR>เมื่อ<WBR>ได้รับ<WBR>คลื่นวิทยุ<WBR>ช่วง<WBR>ไมโครเวฟ <DD>คลื่นวิทยุ<WBR>ช่วงความถี่<WBR>ต่าง ๆ อาจ<WBR>มี<WBR>ผล<WBR>ต่อ<WBR>ร่างกาย<WBR>ดังนี้ <DD>1. คลื่น<WBR>วิทยุ<WBR>ที่<WBR>มี<WBR>ความ<WBR>ถี่<WBR>น้อย<WBR>กว่า 150 เมกะเฮิรตซ์ (มี<WBR>ความยาวคลื่น<WBR>มากกว่า 2 เมตร) คลื่น<WBR>จะ<WBR>ทะลุ<WBR>ผ่าน<WBR>ร่างกาย<WBR>โดย<WBR>ไม่ก่อ<WBR>ให้เกิดผล<WBR>ใด ๆ เนื่องจาก<WBR>ไม่มี<WBR>การดูดกลืน<WBR>พลังงาน<WBR>ของ<WBR>คลื่น<WBR>ไว้ ร่างกาย<WBR>จึง<WBR>เปรียบเสมือน<WBR>เป็น<WBR>วัตถุ<WBR>โปร่งใส<WBR>ต่อ<WBR>คลื่นวิทยุ<WBR>ช่วงนี้ <DD>2. คลื่นวิทยุ<WBR>ที่<WBR>มี<WBR>ความถี่<WBR>ระหว่าง 150 เมกะเฮิรตซ์ ถึง 1.2 จิกะเฮิรตซ์ (มี<WBR>ความยาวคลื่น<WBR>ระหว่าง 2.00 ถึง 0.25 เมตร) คลื่นวิทยุ<WBR>ช่วงนี้<WBR>สามารถ<WBR>ทะลุ<WBR>ผ่าน<WBR>เข้า<WBR>ไป<WBR>ใน<WBR>ร่างกาย<WBR>ได้<WBR>ลึก<WBR>ประมาณ 2.5 ถึง 20 เซนติเมตร เนื้อเยื่อ<WBR>ของ<WBR>อวัยวะ<WBR>ภายใน<WBR>บริเวณ<WBR>นั้น<WBR>จะ<WBR>ดูดกลืน<WBR>พลังงาน<WBR>ของ<WBR>คลื่น<WBR>ไว้<WBR>ถึง<WBR>ร้อยละ 40 ของ<WBR>พลังงาน<WBR>ที่<WBR>ตกกระทบ ทำให้เกิด<WBR>ความร้อน<WBR>ขึ้น<WBR>ใน<WBR>เนื้อเยื่อ โดย<WBR>ที่<WBR>ร่างกาย<WBR>ไม่<WBR>สามารถ<WBR>รู้สึก<WBR>ได้ ถ้า<WBR>ร่างกาย<WBR>ไม่<WBR>สามารถ<WBR>กระจาย<WBR>ความร้อน<WBR>ออกไป<WBR>ใน<WBR>อัตรา<WBR>เท่ากับที่<WBR>รับเข้า<WBR>มา อุณหภูมิ<WBR>หรือ<WBR>ระดับ<WBR>ความร้อน<WBR>ของ<WBR>ร่างกาย<WBR>จะ<WBR>สูง<WBR>ขึ้น เป็น<WBR>อันตราย<WBR>อย่างยิ่ง<WBR>ต่อ<WBR>ร่างกาย ความร้อน<WBR>ใน<WBR>ร่างกาย<WBR>ที่<WBR>สูง<WBR>กว่า<WBR>ระดับ<WBR>ปกติ<WBR>อาจ<WBR>ก่อ<WBR>ให้<WBR>เกิด<WBR>ผล<WBR>หลาย<WBR>ประการ เช่น <DD>- เลือด<WBR>จะ<WBR>แข็งตัว<WBR>ช้า<WBR>กว่า<WBR>ปกติ ผลอัน<WBR>นี้<WBR>ถ้า<WBR>มี<WBR>การเสียเลือด<WBR>เกิด<WBR>ขึ้น อาการ<WBR>จะ<WBR>มี<WBR>ความรุนแรง <DD>- การหมุนเวียน<WBR>ของ<WBR>เลือด<WBR>เร็วขึ้น <DD>- ฮีโมโกลบิน<WBR>ของ<WBR>เม็ดเลือดแดง<WBR>จะ<WBR>มี<WBR>ความจุ<WBR>ออกซิเจน<WBR>ลดลง ทำ<WBR>ให้<WBR>เลือด<WBR>มี<WBR>ออกซิเจน<WBR>ไม่เพียงพอ<WBR>เลี้ยง<WBR>เนื้อเยื่อ<WBR>ต่าง ๆ เมื่อ<WBR>เนื้อเยื่อ<WBR>ขาด<WBR>ออกซิเจน<WBR>จะ<WBR>ทำให้<WBR>เซลล์สมอง ระบบ<WBR>ประสาท<WBR>ส่วนกลาง<WBR>และ<WBR>อวัยวะ<WBR>ภายใน<WBR>ขาด<WBR>ออกซิเจน<WBR>ด้วย อาจ<WBR>ทำให้<WBR>มีการกระตุกของ<WBR>กล้ามเนื้อ<WBR>จน<WBR>ถึง<WBR>ชัก ถ้า<WBR>สภาพ<WBR>เช่นนี้<WBR>ดำเนิน<WBR>ต่อไป ผล<WBR>ที่<WBR>ตามมา<WBR>ก็<WBR>คือ ไม่<WBR>รู้สึกตัว<WBR>และ<WBR>อาจ<WBR>เสียชีวิต<WBR>ได้ <DD>3. คลื่นวิทยุ<WBR>ที่<WBR>มี<WBR>ความถี่<WBR>ระหว่าง 1-3 จิกะเฮิรตซ์ (มี<WBR>ความยาวคลื่น<WBR>ระหว่าง 30 ถึง 10 เซนติเมตร) ทั้ง<WBR>ผิวหนัง<WBR>และ<WBR>เนื้อเยื่อ<WBR>ลึกลงไป<WBR>ดูดกลืน<WBR>พลังงาน<WBR>ได้<WBR>ราว<WBR>ร้อยละ 20 ถึง<WBR>ร้อยละ 100 ขึ้นอยู่กับ<WBR>ชนิด<WBR>ของ<WBR>เนื้อเยื่อ คลื่นวิทยุ<WBR>เช่นนี้<WBR>เป็น<WBR>อันตราย<WBR>อย่างยิ่ง<WBR>ต่อ<WBR>นัยน์ตา โดยเฉพาะ<WBR>เลนส์ตา<WBR>จะ<WBR>มี<WBR>ความไว<WBR>เป็น<WBR>พิเศษ<WBR>ต่อ<WBR>คลื่นวิทยุ<WBR>ความถี่<WBR>ประมาณ 3 จิกะเฮิรตซ์ เพราะ<WBR>เลนส์ตา<WBR>มี<WBR>ความแตกต่าง<WBR>จาก<WBR>อวัยวะ<WBR>อื่น<WBR>ตรง<WBR>ที่<WBR>ไม่มี<WBR>เลือด<WBR>มา<WBR>หล่อเลี้ยง<WBR>และ<WBR>ไม่มี<WBR>กลไก<WBR>ซ่อมเซลล์ ดังนั้น<WBR>เมื่อ<WBR>นัยน์ตา<WBR>ได้รับ<WBR>คลื่น<WBR>อย่างต่อเนื่อง<WBR>จะ<WBR>ทำให้<WBR>ของเหลว<WBR>ภายในตา<WBR>มี<WBR>อุณหภูมิ<WBR>สูงขึ้น โดย<WBR>ไม่<WBR>สามารถ<WBR>ถ่ายโอน<WBR>ความร้อน<WBR>เพื่อ<WBR>ให้<WBR>อุณหภูมิ<WBR>ลดลง<WBR>ได้<WBR>เหมือน<WBR>เนื้อเยื่อ<WBR>ของ<WBR>อวัยวะ<WBR>อื่น ๆ จึง<WBR>จะ<WBR>ก่อให้เกิด<WBR>อันตราย<WBR>อย่าง<WBR>รุนแรง<WBR>ตามมา พบ<WBR>ว่า<WBR>ถ้า<WBR>อุณหภูมิ<WBR>ของ<WBR>ตา<WBR>สูงขึ้น<WBR>เซลล์เลนส์ตา<WBR>บางส่วน<WBR>อาจ<WBR>ถูกทำลาย<WBR>อย่างช้า ๆ ทำให้<WBR>ความโปร่งแสง<WBR>ของ<WBR>เลนส์ตา<WBR>ลดลง ตา<WBR>จะ<WBR>ขุ่นลง<WBR>เรื่อย ๆ ในที่สุด<WBR>จะ<WBR>เกิด<WBR>เป็น<WBR>ต้อกระจก สายตา<WBR>ผิดปกติ และ<WBR>สุดท้าย<WBR>อาจ<WBR>มองไม่เห็น <DD>4. คลื่นวิทยุ<WBR>ที่<WBR>มี<WBR>ความถี่<WBR>ระหว่าง 3-10 จิกะเฮิรตซ์ (มี<WBR>ความยาวคลื่น<WBR>ระหว่าง 10 ถึง 3 เซนติเมตร) ผิวหนัง<WBR>ชั้นบน<WBR>สามารถ<WBR>ดูดกลืน<WBR>พลังงาน<WBR>มาก<WBR>ที่สุด เรา<WBR>จะ<WBR>รู้สึก<WBR>ว่า<WBR>เหมือนกับถูก<WBR>แสงอาทิตย์ <DD>5. คลื่นวิทยุ<WBR>ที่<WBR>มี<WBR>ความถี่<WBR>สูง<WBR>กว่า 10 จิกะเฮิรตซ์ (มี<WBR>ความยาวคลื่น<WBR>น้อย<WBR>กว่า 3 เซนติเมตร) ผิวหนัง<WBR>จะ<WBR>สะท้อน<WBR>ให้<WBR>กลับ<WBR>ออกไป โดย<WBR>มี<WBR>การดูดกลืน<WBR>พลังงาน<WBR>เล็กน้อย
    <DD>ผลของคลื่นวิทยุต่อร่างกายโดยสรุป แสดงในตาราง 2

    <CENTER>ตาราง 2 ผลของคลื่นวิทยุต่อร่างกาย <TABLE border=1><TBODY><TR align=middle bgColor=#91efee><TD>ความถี่</TD><TD>ความยาวคลื่น (m)</TD><TD>บริเวณสำคัญ
    ที่อาจเกิดอันตราย
    </TD><TD>ผลที่เกิดขึ้น</TD></TR><TR><TD align=middle>น้อยกว่า 150 MHz</TD><TD align=middle>มากกว่า 2.00</TD><TD align=middle>-</TD><TD>ทะลุผ่านร่างกายโดยไม่มีการดูดกลืน</TD></TR><TR bgColor=#d2fafa><TD align=middle>150 MHz - 1.2 GHz</TD><TD align=middle>2.00-0.25</TD><TD align=middle>อวัยวะในร่างกาย</TD><TD>เกิดความร้อนบริเวณใต้ผิวหนัง และอวัยวะภายใน</TD></TR><TR><TD align=middle>1-3 GHz</TD><TD align=middle>0.30-0.10</TD><TD align=middle>เลนส์ตา</TD><TD>เป็นอันตรายต่อเลนส์ตาทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น</TD></TR><TR bgColor=#d2fafa><TD align=middle>3-10 GHz</TD><TD align=middle>0.10-0.03</TD><TD align=middle>เลนส์ตาและผิวหนัง</TD><TD>รู้สึกร้อนที่ผิวหนัง เหมือนถูกแสงอาทิตย์</TD></TR><TR><TD align=middle>มากกว่า 10 GHz</TD><TD align=middle>น้อยกว่า 0.03</TD><TD align=middle>ผิวหนัง</TD><TD>สะท้อนที่ผิวหนัง หรือถูกดูดกลืนน้อยมาก</TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>
    <DD>เคย<WBR>มี<WBR>รายงาน<WBR>ทางการแพทย์<WBR>เมื่อ พ.ศ. 2495 ว่า<WBR>มี<WBR>ผู้ป่วย<WBR>เป็น<WBR>ต้อกระจก<WBR>จาก<WBR>ไมโครเวฟ ผู้ป่วย<WBR>เป็น<WBR>เจ้าหน้าที่เทคนิค<WBR>ทำงาน<WBR>เป็นเวลา 1 ปี ใน<WBR>บริเวณ<WBR>ที่<WBR>มีเครื่องกำเนิด<WBR>ไมโครเวฟ<WBR>ความถี่ 1.5-3 จิกะเฮิรตซ์ ที่<WBR>ระดับ<WBR>ความเข้ม 100 มิลลิวัตต์<WBR>ต่อ<WBR>ตาราง<WBR>เซนติเมตร <DD>ใน<WBR>การทดลองกับสัตว์ นักวิทยาศาสตร์<WBR>ได้<WBR>ทดลอง<WBR>ฉาย<WBR>คลื่นวิทยุ<WBR>ช่วง<WBR>ไมโครเวฟ<WBR>ความเข้ม 100 มิลลิวัตต์<WBR>ต่อ<WBR>ตาราง<WBR>เซนติเมตร ไป<WBR>ที่<WBR>ตา<WBR>ของ<WBR>กระต่าย พบ<WBR>ว่า<WBR>ใน 1 ชั่วโมง<WBR>ต่อ<WBR>มา ของเหลว<WBR>ภายใน<WBR>ลูกกระตา<WBR>กระต่าย<WBR>มี<WBR>อุณหภูมิ<WBR>สูง<WBR>ถึง 43 องศงเซลเซียส อีก 1 สัปดาห์<WBR>ต่อมา<WBR>กระต่าย<WBR>ตัวนั้น<WBR>ตาบอด ส่วน<WBR>ใน<WBR>การทดลองกับหนู<WBR>ตัวผู้<WBR>จำนวน 200 ตัว โดย<WBR>ให้<WBR>หนู<WBR>ไป<WBR>อยู่<WBR>ใกล้<WBR>เรดาร์ เมื่อ<WBR>ผ่าน<WBR>ไป<WBR>ระยะเวลา<WBR>หนึ่ง<WBR>พบ<WBR>ว่า<WBR>หนู<WBR>ร้อยละ 40 เป็น<WBR>หมัน เนื่องจาก<WBR>เนื้อเยื่อ<WBR>ของ<WBR>อัณฑะ<WBR>ถูก<WBR>ทำลาย และ<WBR>หนู<WBR>อีก<WBR>ร้อยละ 35 เซลล์เม็ดเลือดแดง<WBR>จะ<WBR>พัฒนา<WBR>เป็น<WBR>มะเร็ง<WBR>ต่อไป

    <TABLE><TBODY><TR><TD bgColor=#ffc0ff>[SIZE=+2]มาตรฐานความปลอดภัย[/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE><DD>นับตั้งแต่<WBR>สมัย<WBR>สงครามโลก<WBR>ครั้งที่สอง<WBR>เป็นต้นมา ใน<WBR>ประเทศ<WBR>ที่<WBR>พัฒนา<WBR>แล้ว เช่น<WBR>สหรัฐอเมริกา มี<WBR>การพัฒนา<WBR>และ<WBR>ใช้<WBR>อุปกรณ์<WBR>ไมโครเวฟ<WBR>กัน<WBR>เป็น<WBR>จำนวน<WBR>มาก ทั้ง<WBR>ใน<WBR>กิจการทหาร<WBR>และ<WBR>พลเรือน จึง<WBR>ได้<WBR>มี<WBR>การศึกษา<WBR>ผล<WBR>ของ<WBR>ไมโครเวฟ<WBR>ที่<WBR>มี<WBR>ต่อ<WBR>ร่างกาย โดย<WBR>เริ่ม<WBR>ใน<WBR>ช่วงหลัง<WBR>สงครามโลก<WBR>ครั้งที่ 2 และ มี<WBR>รายงาน<WBR>ใน<WBR>ปี พ.ศ. 2496 ว่า คลื่นวิทยุ<WBR>ช่วง<WBR>ไมโครเวฟ<WBR>เริ่ม<WBR>มี<WBR>ผล<WBR>ต่อ<WBR>ร่างกาย<WBR>ที่<WBR>ระดับ<WBR>ความเข้ม<WBR>ตั้งแต่ 100 มิลลิวัตต์<WBR>ต่อ<WBR>ตาราง<WBR>เซนติเมตร<WBR>ขึ้นไป จึง<WBR>มี<WBR>การกำหนด<WBR>ระดับ<WBR>ความเข้ม<WBR>ปลอดภัย<WBR>ไว้<WBR>ที่ 10 มิลลิวัตต์<WBR>ต่อ<WBR>ตาราง<WBR>เซนติเมตร ต่ำกว่า<WBR>ระดับ<WBR>อันตราย 10 เท่า อย่างไร<WBR>ก็ตาม บาง<WBR>ประเทศ<WBR>ได้<WBR>กำหนด<WBR>ระดับ<WBR>ความเข้ม<WBR>ปลอดภัย<WBR>ไว้<WBR>ต่ำ<WBR>มาก เช่น คานาดา และ<WBR>สวีเดน กำหนด<WBR>ไว้ 1 มิลลิวัตต์<WBR>ต่อ<WBR>ตา<WBR>ราง<WBR>เซนติเมตร โปแลนด์ 0.2 มิลลิวัตต์<WBR>ต่อ<WBR>ตาราง<WBR>เซนติเมตร เท่านั้น <DD>สำนักงาน<WBR>สาธารณสุข<WBR>ด้านรังสี<WBR>ของ<WBR>สหรัฐอเมริกา<WBR>ได้ทำการ<WBR>ทดลอง<WBR>วัด<WBR>ระดับ<WBR>ความเข้ม<WBR>ของ<WBR>คลื่นวิทยุ<WBR>ที่<WBR>กรุงวอชิงตันดีซี พบว่า<WBR>ระดับ<WBR>ความเข้ม<WBR>ของ<WBR>คลื่น<WBR>ที่<WBR>วัด<WBR>ได้<WBR>มี<WBR>ค่า<WBR>เพียง 0.10 มิลลิ<WBR>วัตต์<WBR>ต่อ<WBR>ตารางเซนติเมตร ซึ่ง<WBR>ต่ำ<WBR>กว่า<WBR>ค่า<WBR>มาตรฐาน<WBR>ถึง 1,000 เท่า ค่า<WBR>ที่<WBR>วัด<WBR>ได้<WBR>นี้<WBR>ได้มาจาก<WBR>บริเวณ<WBR>ใกล้ ๆ สถานีวิทยุ<WBR>กระจายเสียง<WBR>และสนามบิน<WBR>ที่<WBR>ใช้<WBR>เรดาร์<WBR>กำลังสูง ซึ่ง<WBR>เป็น<WBR>ที่<WBR>แน่นอน<WBR>ว่า<WBR>ใน<WBR>เขตชุมชน<WBR>ที่<WBR>เป็น<WBR>ที่<WBR>อยู่<WBR>อาศัย<WBR>ต้อง<WBR>มี<WBR>ระดับ<WBR>ความเข้ม<WBR>ต่ำกว่า 0.01 มิลลิวัตต์<WBR>ต่อ<WBR>ตารางเซนติเมตร<WBR>มากทีเดียว

    <TABLE><TBODY><TR><TD bgColor=#ffc0ff>[SIZE=+2]บทสรุป[/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE align=left border=2 hspace="2"><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><DD>อันตราย<WBR>จาก<WBR>คลื่นวิทยุ<WBR>ที่<WBR>กล่าวมา<WBR>ข้างต้น<WBR>นั้น อยาก<WBR>จะ<WBR>เน้น<WBR>ว่า<WBR>จะ<WBR>เกิด<WBR>ขึ้นกับบุคคล<WBR>ที่<WBR>ทำงาน<WBR>ใกล้ชิด<WBR>หรือ<WBR>ได้<WBR>สัมผัสกับคลื่น<WBR>ที่<WBR>มี<WBR>ความเข้มสูง<WBR>และ<WBR>ต่อเนื่อง<WBR>เป็นเวลานาน<WBR>เท่านั้น ซึ่ง<WBR>คล้ายกับผู้ที่<WBR>ทำงาน<WBR>เกี่ยวกับรังสี ย่อม<WBR>มี<WBR>โอกาส<WBR>ได้รับ<WBR>อันตราย<WBR>มากกว่า<WBR>คนทั่วไป อย่างไร<WBR>ก็ตาม<WBR>ใน<WBR>ปัจจุบัน<WBR>มนุษย์<WBR>ใช้<WBR>คลื่นวิทยุ<WBR>ใน<WBR>การสื่อสาร<WBR>กัน<WBR>อย่างมาก ทำ<WBR>ให้<WBR>ใน<WBR>บรรยากาศ<WBR>และ<WBR>ตัว<WBR>เรา<WBR>ถูก<WBR>ปกคลุม<WBR>และ<WBR>ห่อหุ้ม<WBR>ด้วย<WBR>คลื่นวิทยุ<WBR>มากขึ้น ถ้า<WBR>สมมติ<WBR>ว่า<WBR>ตา<WBR>สามารถ<WBR>ตรวจ<WBR>จับ<WBR>คลื่นวิทยุ<WBR>ได้ ก็<WBR>คง<WBR>จะ<WBR>เห็นคลื่นวิทยุ<WBR>เหล่านี้<WBR>ทั้ง<WBR>ห่อหุ้ม<WBR>และ<WBR>ทะลุ<WBR>ผ่าน รวม<WBR>ทั้ง<WBR>ถูก<WBR>ดูดกลืน<WBR>โดย<WBR>ร่างกาย<WBR>ตลอดเวลา แต่<WBR>มนุษย์<WBR>ยัง<WBR>โชคดี<WBR>ที่<WBR>ระดับ<WBR>ความเข้ม<WBR>ของ<WBR>คลื่นวิทยุ<WBR>ใน<WBR>บรรยากาศและ<WBR>สิ่งแวดล้อม<WBR>มี<WBR>ค่า<WBR>ต่ำมาก<WBR>ไม่<WBR>เป็น<WBR>อันตราย<WBR>ใด ๆ ทั้งสิ้น<WBR>ต่อ<WBR>ร่างกาย สำหรับ<WBR>ใน<WBR>ประเทศไทย<WBR>คง<WBR>ไม่ต้องห่วง<WBR>อันตราย<WBR>จาก<WBR>คลี่นวิทยุ เพราะ<WBR>มี<WBR>อุปกรณ์<WBR>และเครื่องมือ<WBR>ผลิต<WBR>และ<WBR>ส่งกระจาย<WBR>คลื่นวิทยุ<WBR>น้อยกว่า<WBR>ใน<WBR>ประเทศพัฒนาแล้ว<WBR>มากมาย แต่<WBR>เมื่อ<WBR>พิจารณา<WBR>ถึง<WBR>แนวโน้มใน<WBR>อนาคต<WBR>แล้ว ก็<WBR>อด<WBR>เป็นห่วง<WBR>ไม่<WBR>ได้<WBR>ว่า<WBR>สักวันหนึ่ง<WBR>คลื่นวิทยุ<WBR>ที่<WBR>มี<WBR>ประโยชน์<WBR>อย่างมหาศาล<WBR>ต่อ<WBR>มนุษย์<WBR>จะกลายเป็น<WBR>อันตราย หรือ<WBR>อาจ<WBR>จะ<WBR>เป็น<WBR>มลพิษ<WBR>ใหม่<WBR>ที่<WBR>สำคัญ<WBR>ของ<WBR>มนุษย์<WBR>ใน<WBR>ยุคหน้า<WBR>ก็เป็นได้

    <TABLE><TBODY><TR><TD bgColor=#ffc0ff>[SIZE=+2]เอกสารอ้างอิง[/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE>Warren, M.L. (1979) Introductory Physics San Francisco : Freeman.
    Gannon, R. (1983) Electromagnetic Pollution are they zapping you?
    <DD>Popular Science : p.96-100.
    สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ (2532) หนังสือเรียนวิชาฟิสิกส์ เล่ม 6 กรุงเทพฯ โรงพิมพ์คุรุสภา
    พ.ต.ท. นายแพทย์ประเวสน์ คุ้มภัย (2521) อันตรายจากการแผ่รังสีของความถี่คลื่นวิทยุ
    <DD>วารสารสุขภาพของแพทยสมาคมฯ และแพทยสภา ปีที่ 6 ฉบับที่ 9 หน้า 105-111.
    <HR width="100%"><TABLE><TBODY><TR><TD width=350>[SIZE=-1]ที่มา : รังสรรค์ ศรีสาคร
    สาขาวิชาฟิสิกส์
    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
    [/SIZE]<TD width=100>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></DD>
     
  7. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ร่องมรสุมพาดผ่านเหนือ -กลาง -อีสาน-ตอ. ฝนหนาแน่นถึงตกหนัก </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. วันนี้ ( 23 ก.ย. ) ร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย

    ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก มีฝนหนาแน่นกับมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์ ลพบุรี สระบุรี ชัยภูมิ ร้อยเอ็ด นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา ที่ราบลุ่ม และใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะนี้

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.
    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดชัยภูมิ ร้อยเอ็ด นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา และกาญจนบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศา
    ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    MThai News : สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัย นอร์ท สแตนฟอร์ดเชียร์ ในอังกฤษ วิจัยค้นพบว่า โปรตีนในน้ำลายของค้างคาวดูดเลือด อาจช่วยบรรเทาอาการ อัมพฤกษ์ อัมพาต หรือเล้นเลือดในสมองแตกได้ เพราะน้ำลายของค้างคาวดูดเลือดทำให้เลือดมีความเข้มข้นน้อยลง และช่วยละลายลิ่มเลือดในสมองได้ด้วย
    ทั้งนี้ ตามปกติ ผู้ป่วยเส้นเลือดแตกจะต้องถึงมือหมอ 4 ชม. การรักษาจึงจะได้ผลดี แต่หากผู้ป่วยได้ยาที่ทำจากโปรตีนในน้ำลายของค้างคาวดูดเลือด จะมีสรรพคุณยืดเวลาให้ผู้ป่วยได้นานถึง 9 ชม.
    อย่างไรก็ตาม การวิจัยดังกล่าวเริ่มต้นใช้ใน โรงพยาบาลกว่า 40 แห่ง ในผู้ป่วยกว่า 400 ราย ในสหราชอาณาจักร แล้ว แพทย์คาดหวังว่าอาจจะนำมาใช้อย่างแพร่หลายในอีก 3 ปี ข้างหน้า
    Mthai News

    [​IMG]
    เพนกวิน แมวน้ำประหลาด
    MThai News : สำนักข่าวต่างปรเทศ เผยภาพลูกเพนกวินและลูกแมวน้ำซึ่งเกิดมามีหน้าตาแตกต่างจากพ่อแม่ ทำให้พวกมันถูกทอดทิ้งไร้การเหลียวแล
    โดย เจ้าลูกเพนกวิน ไร้ขนที่สวนสัตว์แห่งหนึ่งในประเทศจีน มันถูกขับออกจากฝูงเนื่องจากเกิดมาไม่มีขน ทำให้เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ต้องเข้ามารักษาและเอาใจใส่มัน จนเวลาผ่านไปกว่า 1 เดือน เจ้าเพนกวินไร้ขนจึงเริ่มมีขนขึ้นมา และเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ก็นำมันกลับเข้าฝูงได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    ส่วนเจ้าแมวน้ำมีขนก็มีชะตากรรมไม่ต่างจากเจ้าเพนกวินเท่าไหร่นัก มันอาศัยอย่างเดียวดายบนเกาะไทยูเลนีย์ของรัสเซีย ซึ่งช่างภาพคนหนึ่งบังเอิญไปเจอมันเข้า จึงถ่ายรูปและคอยติดตามพฤติกรรมของมันห่างๆ
    เจ้าแมวน้ำขนปุยตัวนี้ เกิดมามีขนยาวปุย สีน้ำตาลสว่าง นัยน์ตาสีฟ้ากลมโต ซึ่งแตกต่างจากแมวน้ำตัวอื่นๆที่มีขนสั้น สีดำ นัตย์ตาสีน้ำตาล มันต้องคอยหลบอยู่ห่างจากชายฝั่งทะเล แล้วรอให้แม่ของมันเอาอาหารมาให้
    Mthai News
    เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
    [​IMG]
    ติดต่อทีมข่าว MThai News : news@mthai.com
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    เพนกวินน้อยมีขนแล้ว


    [​IMG]
    เมดูซ่า งูเหลือมยักษ์
    กินเนสส์ บุค เตรียมบันทึก งูเหลือมยักษ์ เจ้าของสถิติโลก ยาว 25 ฟุต
    Mthainews: สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่ภาพ งูเหลือมยักษ์ (python) ที่มีน้ำหนักถึง 300 ปอนด์ ความยาว 25 ฟุต หรือประมาณ 7 เมตรครึ่ง ที่ต้องใช้คนในการอุ้มมันขึ้นมาถึง 15 คน โดยงูเหลือมเพศเมียตัวนี้ มีชื่อว่า เมดูซ่า และชื่อของมันกำลังจะถูกบันทึกลงในหนังสือสถิติโลก กินเนสส์ บุค ในไม่ช้า
    [​IMG]
    เมดูซ่า งูเหลือมยักษ์
    สัตว์เลื้อยคลานขนาดมหึมา โชว์ตัวที่สวนสนุกบ้านผีสิง คานซัสซิตี้ สหรัฐ ( Edge of Hell haunted house) โดยรายงานยังระบุว่า ในแต่ละสัปดาห์มันจะกินเนื้อสัตว์ ครั้งละ 40 ปอนด์ แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่ยักษ์ มันสามารถกินอาหารได้มากถึง 100 ปอนด์
    [​IMG]
    ลารี่ เอลการ์ ผู้ฝึก กล่าวกับผู้สื่อข่าว NBC ว่า เขาไม่รู้สึกกลัว แม้ว่ามันสามารถกินเขาเข้าไปทั้งตัว หรืออาจจะกินใครคนใดคนหนึ่งที่อุ้มมันอยู่ แต่เพราะเข้าใจธรรมชาติ และปฏิกิริยาของมันเป็นอย่างดี ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ต้องไปกลัวมันเลย

    Mthainews
    pics : NBC
    เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
    [​IMG]
    ติดต่อทีมข่าว MThai News : news@mthai.com
    [​IMG]
    เมดูซ่า งูเหลือมยักษ์
    [​IMG]
    เมดูซ่า งูเหลือมยักษ์

    [​IMG]
    <OBJECT id=video codeBase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=6,0,40,0" classid=clsid:d27cdb6e-ae6d-11cf-96b8-444553540000 width=499 height=437>
























    <embed id="video" width="499" height="437" type="application/x-shockwave-flash" src="http://www.nbcactionnews.com/video/videoplayer.swf?dppversion=10783" FlashVars="&skin=MP1ExternalAll-MFL.swf&embed=true&adSizeArray=1x1000,320x40,3x1000&adSrc=http%3A%2F%2Fad%2Edoubleclick%2Enet%2Fpfadx%2Fssp%2Ekshb%2Fentertainment%2Fdetail%3Bdcmt%3Dtext%2Fxml%3Bsz%3D%25size%25%3Bpos%3D%25pos%25%3Bloc%3D%25loc%25%3Bcomp%3D%25adid%25%3Btile%3D3%3Bfname%3D300%2Dpound%2Dsnake%2Dliving%2Din%2DKCs%2DEdge%2Dof%2DHell%2Dexpected%2Dto%2Dbreak%2Dworld%2Drecord%3Bord%3D424114963617860200%3Frand%3D%25rand%25&flv=http%3A%2F%2Fwww%2Enbcactionnews%2Ecom%2Ffeeds%2FoutboundFeed%3FobfType%3DVIDEO%5FPLAYER%5FSMIL%5FFEED%26componentId%3D188293293&img=http%3A%2F%2Fmedia2%2Enbcactionnews%2Ecom%2F%2Fphoto%2F2011%2F09%2F22%2FRecordbreaking%5Fsnake%5Flbf0585f7%2Da446%2D4683%2D8578%2Dd935239f49f40000%5F20110922075107%5F640%5F480%2EJPG&story=http%3A%2F%2Fwww%2Enbcactionnews%2Ecom%2Fdpp%2Fentertainment%2F300%2Dpound%2Dsnake%2Dliving%2Din%2DKCs%2DEdge%2Dof%2DHell%2Dexpected%2Dto%2Dbreak%2Dworld%2Drecord&category=&title=&oacct=&ovns=" allowNetworking="all" allowScriptAccess="always" flashvars="&skin=MP1ExternalAll-MFL.swf&embed=true&adSizeArray=1x1000,320x40,3x1000&adSrc=http%3A%2F%2Fad%2Edoubleclick%2Enet%2Fpfadx%2Fssp%2Ekshb%2Fentertainment%2Fdetail%3Bdcmt%3Dtext%2Fxml%3Bsz%3D%25size%25%3Bpos%3D%25pos%25%3Bloc%3D%25loc%25%3Bcomp%3D%25adid%25%3Btile%3D3%3Bfname%3D300%2Dpound%2Dsnake%2Dliving%2Din%2DKCs%2DEdge%2Dof%2DHell%2Dexpected%2Dto%2Dbreak%2Dworld%2Drecord%3Bord%3D424114963617860200%3Frand%3D%25rand%25&flv=http%3A%2F%2Fwww%2Enbcactionnews%2Ecom%2Ffeeds%2FoutboundFeed%3FobfType%3DVIDEO%5FPLAYER%5FSMIL%5FFEED%26componentId%3D188293293&img=http%3A%2F%2Fmedia2%2Enbcactionnews%2Ecom%2F%2Fphoto%2F2011%2F09%2F22%2FRecordbreaking%5Fsnake%5Flbf0585f7%2Da446%2D4683%2D8578%2Dd935239f49f40000%5F20110922075107%5F640%5F480%2EJPG&story=http%3A%2F%2Fwww%2Enbcactionnews%2Ecom%2Fdpp%2Fentertainment%2F300%2Dpound%2Dsnake%2Dliving%2Din%2DKCs%2DEdge%2Dof%2DHell%2Dexpected%2Dto%2Dbreak%2Dworld%2Drecord&category=&title=&oacct=&ovns=" allownetworking="all" allowscriptaccess="always"/></OBJECT></P>
    แท็ก : กินเนสส์บุค, งูเหลือมยักษ์, สถิติโลก
     
  8. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    เว็บไซต์ต่างประเทศได้รวบรวมภาพสถานที่ต่างๆในญี่ปุ่นที่โดนคลื่นยักษ์สึนามีถล่ม โดยถ่ายภาพบริเวณเดียวกันในวันที่เกิดเหตุการณ์สึนามี เมื่อวันที่ 11 มีนาคม เปรียบเทียบกับภาพถ่ายเมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา หรือในอีก 6 เดือนต่อมา ซึ่งบริเวณที่ประสบคลื่นยักษ์เหล่านั้น ได้รับการบูรณะ ทำความสะอาด จนกลับมามีสภาพน่าดูชมเรียบร้อยแล้ว

    [​IMG]
    ภาพแรก เป็นภาพของย่านวาคายาชิ เมืองเซ็นได จังหวัดมิยะงิ ภาพทางซ้ายถ่ายไปเมื่อวันที่ 16 มีนาคม เป็นซากปรักหักพังและซากรถยนต์ ในขณะที่รูปทางขวา ซึ่งถ่ายเมื่อวันที่ 3 กันยายน เป็นภาพนักศึกษาอาสาสมัครที่เข้ามาช่วยกันทำความสะอาดพื้นที่บริเวณนั้น
    [​IMG]
    ภาพที่ 2 เป็นภาพเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่ในเมืองเคเซนนุมะ จังหวัดมิยะงิ ภาพทางซ้ายถูกถ่ายเมื่อวันที่ 12 มีนาคม เรือลำดังกล่าวอยู่ท่ามกลาซากปรักหักพัง ขณะที่ภาพทางขวาถูกถ่ายเมื่อวันที่ 5 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งชาวบ้านได้ช่วยกันทำความสะอาดโดยรอบ เพื่อให้เรือเดินสมุทรนั้นกลายเป็นอนุสรณ์แห่งเหตุการณ์ภัยพิบัติ
    [​IMG]
    ภาพที่ 3 เป็นภาพที่ถ่ายในย่านเคเซนนุมะเช่นกัน ภาพทางซ้ายถ่ายเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ซึ่งเรือหลายลำถูกคลื่นสึนามิพัดขึ้นฝั่ง ส่วนภาพทางขวาถ่ายเมื่อวันที่ 5 กันยายน เป็นภาพเมื่อเรือทั้งหลายถูกนำออกไป
    [​IMG]
    ภาพที่ 4 ถ่ายในย่านนาโตริ เมืองเซ็นได จังหวัดมิยะงิ ภาพบนถูกถ่ายเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ขณะที่คลื่นยักษ์กำลังพัดถล่ม ภาพถ่ายล่าสุด ในวันที่ 6 กันยายน จะเห็นว่าบ้านหลังดังกล่าวถูกรื้อถอนออกไปแล้ว
    [​IMG]
    ภาพที่ 5 เมืองอิชิโนมากิ จังหวัดมิยะงิ ภาพบนถ่ายเมื่อวันที่ 12 มีนาคม เป็นภาพซากบ้าน เรือและสิ่งก่อสร้างต่างๆซึ่งถูกพัดมากองกันที่ท่าเรือ ขณะที่ ภาพล่างซึ่งถ่ายเมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา ซากสิ่งก่อสร้างและเรือได้ถูกนำออกไปจนหมด หลงเหลือความสวยงามของทะเล
    [​IMG]
    ภาพที่ 6 เมืองโอซูชิ จังหวัดอิวาเตะ ทางเหนือของญี่ปุ่น ภาพแรกถ่ายเมื่อวันที่ 2 เมษายน เป็นภาพเรือฮามายูริ ถูดพัดขึ้นไปอยู่บนโรงแรมขนาด 2 ชั้น และรอบข้างเต็มไปด้วยซากปูนหินจากอาคารต่างๆที่ถล่มลงมา ส่วนอีกภาพเมื่อวันที่ 1 กันยายน ซากปรักหักพังต่างๆถูกกำจัดออกไปหมดแล้ว
    [​IMG]
    ภาพที่ 7 เมืองอิวานุมา จังหวัดมิยางิ ภาพบนสุดถ่ายเมื่อวันที่ 11 มีนาคม เมื่อสึนามิถล่มใกล้ชายฝั่ง จนเกิดเป็นน้ำท่วมขัง ขณะที่อีกภาพซึ่งถ่ายเมือวันที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมา จากน้ำท่วมขังทำให้เกิดหญ้าขึ้นเป็นบริเวณกว้าง
    [​IMG]
    ภาพที่ 8 เมืองโอตสึอิจ จังหวัดอิวาเตะ ภาพบนสุดถ่ายเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ตึกนั้นรายล้อมไปด้วยซากปรักหักพัง ขณะที่ภาพต่อมา ถ่ายเมื่อ 7 กันยายน ซึ่งซากสิ่งของต่างๆถูกทำความสะอาดและนำออกไปหมดแล้ว
    [​IMG]
    ภาพที่ 9 ถนนในเมืองเคเซนนุมะ จังหวัดมิยะงิ ภาพแรกถูกถ่ายเมื่อวันที่ 13 มีนาคม นั้นเต็มไปด้วยร่องรอยการถูกเผาไหม้ และซากปรักหักพังจำนวนมากกองปิดถนนไว้ อีกภาพถ่ายเมื่อวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งหลงเหลือไว้เพียงร่องรอยการถูกเผาไหม้ และถนนที่ดูสะอาดตา
    [​IMG]
    ภาพที่ 10 สนามบินเซ็นได เมืองเซ็นได จังหวัดมิยะงิ ภาพบนถูกถ่ายเมื่อวันที11 มีนาคม คลื่นยักษ์ได้กลืนเอาสนามบินหายไปในพริบตา ขณะที่ภาพล่างถ่ายเมื่อวันที่6 กันยายน เป็นภาพสนามบินกลับคืนสู่สภาวะปกติ
    [​IMG]
    ภาพที่ 11 เมืองอิชิโนมากิ จังหวัดมิยะงิ ภาพแรกเป็นภาพรถทหารขับเข้าไปในถนนที่มีน้ำท่วมจากคลื่นสึนามิ ถ่ายเมื่อ 15 มีนาคม ภาพต่อมาถ่ายเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ซึ่งถนนเริ่มถูกทำความสะอาดแล้วบางส่วน ส่วนภาพสุดท้ายที่มุมบนซ้ายเป็นภาพ เต็นท์รถมือสอง เปิดให้บริการ ถนนสะอาดตา
    [​IMG]
    ภาพที่ 12 เมืองฮิกาชิ มัตสึชิมะ จังหวัดมิยางิ ภาพบนถ่ายเมื่อ 14 มีนาคม หน่วย JSDF กำลังค้นหาร่างผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเรือหาปลาที่เกยตื้นอยู่และบริเวณใกล้เคียง ขณะที่ อีกภาพซึ่งถ่ายเมื่อวันที่ 1 กันยายน แม้จะยังมีเรือหาปลาเกยตื้นอยู่ แต่ซากและเศษขยะต่างๆก็ได้ถูกกำจัดไปหมดแล้ว
    [​IMG]
    ภาพที่ 13 ภาพท่าเรือหาปลามัตสึคาวารุระในเมืองโซมา จังหวัดฟุกุชิมะ ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ภาพแรกถ่ายเมื่อวันที่ 13 มีนาคม ซึ่งเรือหาปลาหลายลำรวมทั้งซากปรักหักพังถูกคสื่นสึนามิซัดขึ้นมาเกยตื้นบนฝั่ง แต่ในภาพสุดท้าย ซึ่งถ่ายเมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา เรือที่ลอยเกยตื้นถูกนำออกไปหมด เหลือไว้เพียงภาพท่าเรือที่มีเรือจอดอย่างเป็นระเบีบและดูสะอาดตา
    [​IMG]
    ภาพที่ 14 ที่เมืองริกุเซ็นทาคาตะ จังหวัดอิวาเตะ ภาพแรกถ่ายเมื่อวันที่ 18 มีนาคม มีรถตำรวจและรถดับเพลิงจอดอยู่ท่ามกลางซากขยะซึ่งกระจายแผ่ปกคลุมทั่วทุ่งกว้าง ส่วนภาพล่างซึ่งถ่ายเมื่อวันที่ 5 กันยายน เศษขยะเหล่านั้นถูกกำจัดทิ้งเหลือไว้เพียงทุ่งหญ้าสีเขียวที่ขึ้นคลุมดิน
    [​IMG]
    ภาพที่ 15 ที่เมืองอิวากิ จังหวัดฟูกูชิมะ ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ภาพบนถ่ายเมื่อวันที่ 11 มีนาคม คนกำลังเดินข้ามฝ่าซากสิ่งก่อสร้างที่พังทลายจากคลื่นสึนามิ ขณะที่ภาพล่างซึ่งถ่ายเมื่อวันที่ 1 กันยายน ในมุมเดียวกันแต่ซากสิ่งก่อสร้างเหล่านั้นถูกกำจัดทิ้งหมดแล้ว
    Mthai News
     
  9. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    MThai News : สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่ภาพ สัตว์ที่คาดกันว่าเป็นสายพันธุ์หนึ่งของลิง ซึ่งมีหน้าตาแปลกไปจากลิงชนิดอื่นๆ ที่สวนสัตว์แห่งหนึ่งในเมืองเวินหลิ่ง ประเทศจีน
    โดยจ้าลิงตัวนี้ถูกชายคนหนึ่งนำมามอบให้ที่สวยสัตว์ มันมีดวงตากลมโตสีส้ม มีขนสีน้ำตาลอ่อนผสมขาว มีจุดดวงสีน้ำตาลเข้ม จมูกคล้ายหนูแต่ยาวกว่า อุ้งเล็บที่ยาวแหลมคม ซึ่งไม่เคยมีใครพบเห็นมาก่อน สร้างความประหลาดใจให้กับเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์อย่างมาก
    อย่างไรก็ตาม ทางสวนสัตว์จะดูแลเจ้าลิงประหลาดตัวนี้ไว้ และคาดหวังให้มันช่วยเพิ่มจำนวนผู้ชมให้กับสวนสัตว์แห่งนี้ได้
    Mthai News
    เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
    [​IMG]
    ติดต่อทีมข่าว MThai News : news@mthai.com
    [​IMG]
    Photo:: Quirky China News /Rex Features
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เตรียมตัววางแผนการณ์เรื่องการเงินกันได้แล้ว...

    [​IMG]


    - ถ้าเกิดสงครามกลางเมือง(คนไทยรบกันเอง) จนระบบธนาคารใช้การไม่ได้ ท่านจะทำอย่างไร?

    - ถ้าประเทศเพื่อนบ้านฉวยโอกาสรุกรานประเทศไทย ในขณะที่คนไทยกำลังรบกันเอง จนระบบธนาคารใช้การไม่ได้ ท่านจะทำอย่างไร?

    - ถ้าเกิดแผ่นดินไหว แผ่นดินแยก แผ่นดินยุบตัว ในกรุงเทพฯ จนระบบธนาคารใช้การไม่ได้ ท่านจะทำอย่างไร?

    - ถ้าเศรษฐกิจโลกเกิดล่มสลาย จนระบบธนาคารในประเทศต้องประกาศปิดกิจการ ท่านจะทำอย่างไร?

    *********************************************​

    ลิ้งค์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกัน

    19 เม.ย. 2011 ... ดูดวงเมือง 2554 เป็นภาพรวม คำทำนายดวงเมืองของอาจารย์ทศพร ศรีตุลา หรืออาจารย์ช้าง ... Grand Opening เหตุการณ์ความวุ่นวายจะมีลักษณะคล้ายกับกรุงศรีอยุธยาแตก (เป็นช่วงที่ดวงเมืองแรงมาก อาจเกิดการสูญเสียขึ้นได้หลายรูปแบบ ระบุไม่ได้ ....

    จับสัญญาณสงครามสีเขียว! คมชัดลึก : การเมือง : ข่าวทั่วไป
    สีเขียวเสียดสี...กันอย่างรุนแรง จะเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด และผลจากการเสียดสีกันในครั้งนี้จะเกิด ... บ้านเมืองคงต้องบอบช้ำที่เกิดจากการ “เสียดสี” กันของ “สีเขียว”. ...

    บทความน่ารู้ : เรื่องคำทำนายปี 2554 - 'โสรัจจะ นวลอยู่' ... 2554 เป็นดาวปฏิวัตินองเลือดในมุมร่วมธาตุ ย่อมเกิดสภาพการเดือดพลุ่งพล่านไม่สงบ เดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2011
  11. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    "ไอเอ็มเอฟ" ชี้ ศก.โลก เข้าสู่ภาวะอันตราย "มูดีส์" หั่นเครดิตธนาคารกรีซ 8 แห่งรวด <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td height="40"> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">23 กันยายน 2554 12:58 น.</td> <td align="left" valign="middle">

    Share

    </td><td>
    </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td>
    </td> </tr> </tbody></table><table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td align="left" height="12" valign="bottom">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td bgcolor="#CCCCCC"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="1" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" bgcolor="#FFFFFF" valign="top"> <table cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="160"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="4" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="body" align="center" valign="baseline">คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" height="1" valign="middle" width="165">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> <td background="/images/linedot_vert3.gif" width="4">[​IMG]</td> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellspacing="7" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> ไอเอ็มเอฟ ชี้ ระบบการเงินโลกกำลังเข้าสู่ภาวะอันตราย นับตั้งแต่เกิดวิกฤต ศก.ปี 51 แนะผู้นำทั่วโลกต้องร่วมมือร่วมใจใช้มาตรการกู้วิกฤตให้ผ่านพ้นให้ได้ "มูดีส์" ประกาศหั่นเครดิต เงินฝาก-หุ้นกู้ ธนาคารกรีซ 8 แห่ง แนวโน้มยังเป็นลบ

    กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ออกรายงานว่าด้วยเสถียรภาพเศรษฐกิจโลก ระบุว่าขณะนี้ระบบการเงินโลกกำลังเผชิญความเสี่ยงมากกว่าครั้งใดๆ นับตั้งแต่เกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์เมื่อปี 2551 โดยไอเอ็มเอฟ เตือนว่าตอนนี้ธนาคารหลายแห่งของยุโรปกำลังมีสถานะอ่อนแอและจำเป็นต้องเพิ่ม ทุนอย่างเร่งด่วน

    ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟ ประเมินว่าปัญหาหนี้ยูโรโซนได้พ่นพิษทำให้ธนาคารในสหภาพยุโรปต้องสูญเงินไป แล้วกว่า 2 แสนล้านยูโร นับตั้งแต่วิกฤตเริ่มต้นเมื่อปลายปี 2552 ก่อนหน้านี้ ไอเอ็มเอฟ เพิ่งประกาศหั่นตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจยุโรปลง จากผลกระทบของวิกฤติหนี้สินที่กำลังรุมเร้า พร้อมกับแนะว่าถึงเวลาแล้วที่ยุโรปต้องก้าวข้ามความไม่ลงรอยและหันมาร่วมมือ กันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

    นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการ ไอเอ็มเอฟ กล่าวเตือนว่า เศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ระยะที่เป็นอันตรายครั้งใหม่แล้ว พร้อมกับเรียกร้องให้ผู้นำทั่วโลกใช้มาตรการที่สอดคล้องกันในการจัดการวิกฤต ในครั้งนี้

    "เรามองเห็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับ ช่วงขาลง ซึ่งแม้ว่าเศรษฐกิจมีโอกาสที่จะฟื้นตัว แต่โอกาสที่จะเกิดขึ้นก็น้อยกว่าในช่วง 3 ปีที่แล้ว ดังนั้นเราจำเป็นจะต้องแก้ไขวิกฤตการณ์นี้ร่วมกัน"

    นอกจากนี้ นางลาการ์ดกล่าวว่า ทุกประเทศทั่วโลก "มีการเชื่อมต่อกันอย่างมาก" โดยผ่านช่องทางทางการเงินและโครงร้างทางการเงิน โดยเธอย้ำว่า ภาวะผู้นำที่รวมตัวกันอย่างเป็นเอกภาพ และการตัดสินใจร่วมกันทางการเมือง ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยกอบกู้วิกฤตการณ์ในครั้งนี้

    มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อเงินฝากระยะยาวและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของธนาคาร กรีซ 8 แห่ง ลง 2 ขั้น โดยให้แนวโน้มความน่าเชื่อถือของเงินฝากระยะยาวและหุ้นกู้ของแบงก์ทั้งหมด นี้เป็นเชิงลบ

    มูดีส์ ได้ลดอันดับความน่าเชื่อถือเนชั่นแนล แบงก์ ออฟ กรีซ เอสเอ (Ntaional Bank of Greece SA) , อีเอฟจี ยูโรแบงก์ เอร์แกเซียส เอสเอ หรือยูโรแบงก์ , อัลฟา แบงก์ เออี, พีเรอุส แบงก์ เอสเอ, อะกริคัลเจอรัล แบงก์ ออฟ กรีซ และแอตทิกา แบงก์ เอส ลงสู่ระดับ Caa2 จากระดับ B3

    นอกจากนี้ มูดีส์ยังได้ลดอันดับความน่าเชื่อของธนาคารเอ็มเพอริกี แบงก์ ออฟ กรีซ และเจนเนอราล แบงก์ ออฟ กรีซ ลงสู่ระดับ B3 จากระดับ B1
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>


    Moody’s ลดเครดิตธนาคารฝรั่งเศส คาดกดค่าเงินบาทอ่อนในช่วงสั้น <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td height="40"> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">15 กันยายน 2554 19:53 น.</td> <td align="left" valign="middle">

    Share

    </td><td>
    </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td>
    </td> </tr> </tbody></table><table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Moody’s ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ Credit Agricole จาก Aa1 เป็น Aa2 และ Societe Generale (SocGen) จาก Aa2 เป็น Aa3 รวมทั้งให้มุมมองเป็นลบ ซึ่งธนาคารทั้งสองเป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่อันดับ 2 และ 3 ของฝรั่งเศส

    โดย Moody’s ให้เหตุผลในการปรับลดดังกล่าวว่า ธนาคารทั้งสองปล่อยกู้แก่ภาครัฐและเอกชนของกรีซสูง ส่งผลให้ทั้งสองธนาคารได้รับผลกระทบมากหากกรีซผิดนัดชำระหนี้ นอกจากนี้ ในกรณีของ SocGen ยังมีความเสี่ยงที่จะประสบปัญหาการระดมทุนในระยะสั้นเนื่องจากธนาคารพึ่งพา การระดมทุนผ่านตลาดทุน (wholesale funding) ในสัดส่วนที่สูง อย่างไรก็ตาม ระดับความน่าเชื่อถือของธนาคารทั้งสองแห่งที่ระดับดังกล่าวยังถือว่าสูงอยู่ (สูงกว่าเกณฑ์ต่ำสุดของ investment grade ที่ Baa3 อยู่ 5-6 ขั้น)

    แต่ Moody’s ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือของ BNP Paribas ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศส แม้จะมีข่าวว่าอาจจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือเช่นเดียวกับธนาคารอีก 2 แห่ง แต่ Moody’s ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือของ BNP ที่ Aa2 เพราะมองว่า BNP ยังมีส่วนของกำไรและทุนเพียงพอที่จะรองรับผลกระทบหากกรีซปรับโครงสร้างหนี้ อย่างไรก็ตาม ยังมีความเป็นไปได้ที่จะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ BNP ภายใน 3 เดือนข้างหน้า

    ข่าวดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดมากนักในช่วงสั้น เนื่องจากเป็นไปตามที่ตลาดคาดหมายและปรับตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่สำคัญของยุโรป เช่น DAX index ของเยอรมนี FTSE 100 index ของอังกฤษ และ CAC 40 index ของฝรั่งเศสต่างปรับตัวเพิ่มขึ้น 1%-3% ในวันที่ 14 กันยายน 2554 ขณะที่ค่าประกันความเสี่ยง (credit default swap: CDS) ของธนาคารทั้ง 3 แห่งก็ทรงตัวอยู่ในระดับเดียวกับก่อนช่วงการประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือ

    อย่างไรก็ตาม ถือว่าความเสี่ยงในภาคธนาคารยังน่าเป็นห่วง การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือทำให้ธนาคารทั้งสองมีต้นทุนกู้ยืมที่สูงขึ้น รวมทั้งกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อภาคธนาคารของยุโรปโดยรวม สะท้อนจาก CDS โดยเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ยุโรป 115 แห่ง (คำนวณโดย Bloomberg) ล่าสุดเพิ่มขึ้นจากราว 360 bps ณ สิ้นเดือนมิถุนายน มาอยู่ที่ 527 bps (basis points) และสูงกว่าเมื่อเทียบกับของธนาคารพาณิชย์สหรัฐฯ ที่ 208 bps

    นอกจากนี้ บริษัท JP Morgan ยังประเมินว่าเฉพาะในเดือนสิงหาคม มีการลดการปล่อยกู้ให้แก่ธนาคารกลุ่มประเทศยูโรรวมแล้ว 50 พันล้านยูโรจากความกังวลเรื่องผลกระทบของปัญหาหนี้สาธารณะต่อภาคธนาคาร ปัจจัยต่างๆ ชี้ว่าธนาคารยุโรปซึ่งกำลังต้องการสภาพคล่องกลับมีแนวโน้มที่จะระดมทุนได้ ยากขึ้น

    ภาคธนาคารยุโรปเป็นตัวแปรที่ต้องจับตามองเพราะอาจทำให้เกิดวิกฤติการ เงินและเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยูโรอีกครั้ง เนื่องจากการกู้ยืมระหว่างธนาคารประเทศต่างๆ ในยุโรปเป็นช่องทางสำคัญที่ผลกระทบจากปัญหาหนี้ภาครัฐจะแพร่กระจายไปทั่ว ภูมิภาค นอกจากนี้ เสถียรภาพของภาคธนาคารยังเป็นปัจจัยที่มีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลง ทุนอย่างมาก ส่วนผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจจริง หากภาคธนาคารประสบปัญหา
    สภาพคล่องก็จะทำให้การปล่อยกู้แก่ภาคเอกชนลดลง โดยเฉพาะถ้าปัญหาดังกล่าวรุนแรง ก็อาจนำไปสู่ภาวะ credit crunch (ภาวะที่สินเชื่อตึงตัว) ซึ่งจะส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างรุนแรง


    **เงินบาทไทยมีแนวโน้มอ่อนค่าในช่วงที่ปัญหาในยุโรปรุนแรงขึ้น ความเสี่ยงภาคการเงินในยุโรปที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้เงินทุนไหลกลับสินทรัพย์ ปลอดภัยอย่างดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้เงินสกุลอื่นๆ รวมทั้งไทยอ่อนค่าลงเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ** ทั้งนี้ ค่าเงินบาทก็เริ่มกลับมาอ่อนค่าแล้วเกือบ 2% นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกรกฎาคมซึ่งเป็นช่วงที่ข่าวทางลบในยุโรปและความ กังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น สอดคล้องกับเงินยูโรที่อ่อนค่าลงเกือบ 5% ในช่วงเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ ความเสี่ยงในภาคธนาคารและเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้ธนาคารกลางยุโรป พิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายซึ่งจะยิ่งทำให้เงินทุนไหลกลับไปยังสหรัฐฯ ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นและเงินบาทอ่อนค่าลง





     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2011
  12. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    =====================================


    23 ก.ย. 54


    เทโพ ท่าซุง---------ให้ดู---------เป็นตัวอย่าง
    ไม่คิดอ่าน---------เตรียมการ------ให้พร้อมไว้
    หวังพึ่งพระ---------พึ่งเจ้า---------คงยากไร้
    ขอเตือนไว้---------ต้องพึ่ง--------แต่ตัวเอง

    พึ่งพระ เจ้า-------พึ่งได้-----------ที่ดวงจิต
    คอยนิมิต---------ป้องกัน---------ยามมีภัย
    ต้องสร้าง---------ความดี---------ป้องกันไว้
    ยามมีภัย---------ท่านจะได้-------ช่วยเหลือทัน





    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    จับตาปลายปี 54 จุดเปลี่ยนเมืองไทย
    (ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ)

    [​IMG]

    จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของดวงเมืองที่เริ่มขึ้นปลายปี 54 และต่อเนื่องไปถึงปี 2555 ถือว่าไฮไลต์สำคัญ เป็นปีแห่งศตวรรตใหม่ดวงเมืองของไทยอย่างแท้จริง ถือเป็นช่วงดวงเมืองเปลี่ยนแรงที่สุด โดยเป็นผลมาจากดาวพฤหัสฯ กับดาวเสาร์โคจรมาทำมุมกัน ในทางทฤษฎีจะเกิดการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ เช่น ตำนานการประสูติของพระเยซู ก็เป็นจุดเริ่มต้นแนวคิดศาสนาใหม่ ก็เกิดจากเคลื่อนย้ายของดาวทั้งสอง​

    สำหรับเมืองไทย ถือเป็นช่วง Grand Opening เหตุการณ์ความวุ่นวายจะมีลักษณะคล้ายกับกรุงศรีอยุธยาแตก (ปี 2310) ความหมายของกรุงแตก คือ ความขัดแย้ง ความแตกแยก เกิดการเผาเมือง ฟังดูอาจรุนแรง แต่ก็จะผ่านไปได้ หลังจากนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อาจจะออกมาในรูปของการเกิดการเมืองรูปแบบใหม่มาแทนของเดิมที่เคยเป็นมา

    “ถือเป็นช่วงของเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ดวงเมืองของไทย ที่จะต้องเจอกับเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง โดยเหตุการณ์สร้างความเซอร์ไพรส์ของดวงเมืองเยอะมาก และไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไล่มาตั้งแต่มกราคม ต่อเนื่องไปถึงปลายมีนาคม จะเกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่โลกก็คาดไม่ถึง เจอกับเหตุการณ์ประหลาดมหัศจรรย์ เพราะถือเป็นช่วงพีคของดวงเมือง และเมื่อมาถึงจุดพีคมันจะต้องตูมตาม เราคงต้องวางแผนเตรียมตัวกัน สิ่งที่ต้องระวัง เป็นช่วงที่ดวงเมืองแรงมาก อาจเกิดการสูญเสียขึ้นได้หลายรูปแบบ ระบุไม่ได้ แต่เกิดแน่นอน จากนั้นแล้วเราจะเริ่มดีขึ้น”

    อาจารย์ช้างแนะนำมา เมื่อดวงเมืองเป็นไปในลักษณะนี้ การทำบุญใหญ่ในลักษณะของการทำบุญประเทศ แม้ว่าจะเปลี่ยนดวงเมืองไม่ได้ แต่ก็เป็นการเตรียมพร้อม คนทั่วไปควรไปทำบุญช่วงปีใหม่ แทนที่จะเที่ยวอย่างเดียว ก็ควรสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับตัวเองด้วยการทำบุญที่วัด บริจาคทาน เพราะถือเป็นการเตรียมพร้อม แรงอนุโมทนาจะมีพลัง เป็นคลื่นความถี่ที่เป็นพลังบวก

    ภัยธรรมชาติรุนแรงขึ้น ในแง่ของภัยธรรมชาติจะทวีรุนแรงมากกว่าปี 2553 เป็นอิทธิพลของดาวเสาร์กับดาวพฤหัสฯ จะส่งโดยตรงต่อเรื่องของภัยธรรมชาติที่จะรุนแรงมาก ถ้าเกิดปัญหาภัยแล้งจะแล้งแบบสุดๆ ช่วงที่น้ำมาก็จะเกิดน้ำท่วม ไม่มีความพอดี จำเป็นต้องเตรียมตัวกันทั้งปี โดยจะมีผลต่อธุริจด้านการเกษตร ดูแลเลือกสวนไร่นาตัวเองดีๆ จะเป็นปีที่มีสิทธิ์รวย เพราะพืชราคาจะแพงขึ้น ส่วนนักลงทุนที่ชอบลงทุนในสินค้าเกษตรก็จะพบกับโอกาสดีๆ เหตุการณ์นี้ไม่ใช่เฉพาะเมืองไทยแต่จะเกิดขึ้นในทั่วโลก

    อาจารย์ทศพร ศรีตุลา หรืออาจารย์ช้าง

    ที่มา http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=secret-world

    จะมีการปฏิวัติหรือรัฐประหาร ระหว่างเดือน ก.ย.-ต.ค.-พ.ย.2554
    (ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ)

    [​IMG]

    เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 9 กันยายน - 31 ตุลาคม 2554 จะมีการปฏิวัติหรือรัฐประหาร ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น หรือมีการใช้บทบาทของทหารในทางที่เข้มและเคร่งครัดเกิดขึ้น ในช่วงเวลาระหว่างเดือน ก.ย.-ต.ค.-พ.ย.2554 อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ร้ายแรงนี้ ยังมีเวลาที่ดีแก่ประเทศไทยอยู่ระหว่างวันที่ 7 ธ.ค.2554 - 5 เม.ย.2555 และครั้นถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2555 เป็นต้นไปอีก 2 ปีครึ่ง ก็จะถึงวาระที่ประเทศไทยเข้าสู่ทางบวกขนาดใหญ่ จะบ่งบอกถึงพลังขับเคลื่อนขนาดใหญ่และรุนแรง มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างพลิกโฉม ประชาธิปไตยเจริญ.......

    ในช่วงเดือนตุลาคม ต่อเดือนพฤศจิกายน 2554 ประเทศไทยจะมีเหตุบอกถึงภัยธรรมชาติที่รุนแรง มิต่างจากภัยพิบัติของคาบสมุทรอันดามันวันที่ 26 ธันวาคม 2547 โดยฝนจะเริ่มตกชุก น้ำท่วมก่อนทั่วประเทศ อาจจะมีบางพื้นที่ บางท้องที่มีดินโคลนหรือภูเขาถล่ม ซึ่งจะเกิดกรณีนี้ขึ้นตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม ประมาณวันที่ 18 ตุลาคม 2554

    แล้วจะเกิดสินามิขึ้นในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2554 เวลา 21.04 น. สินามิครั้งนี้น่าจะก่อความเสียหายต่อเมืองสำคัญ ๆ รวมทั้งกรุงเทพมหานครด้วย ส่วนจะเป็นผลให้ประชาชนล้มตายสูญหายไปเป็นจำนวนมากเท่าไร อย่างไร ไม่อาจจะพยากรณ์ได้ ในช่วงเกิดน้ำท่วมนี้จะมีเรื่องของสตรีผู้สูงศักดิ์ได้รับเคราะห์กรรมไปพร้อม ๆ กับประชาชนเพราะเหตุน้ำท่วมครั้งนี้ด้วย

    เรายืนยันคำพยากรณ์เดิมที่ว่า และครั้นถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2555 เป็นต้นไปอีก 2 ปีครึ่ง ก็จะถึงวาระที่ประเทศไทยเข้าสู่ทางบวกขนาดใหญ่ จะบ่งบอกถึงพลังขับเคลื่อนขนาดใหญ่และรุนแรง มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างพลิกโฉม ประชาธิปไตยเจริญ.......

    ชลัมพุช โหรชนบท
    7 ม.ค.2554

    ที่มา http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=secret-world

    หมอนิดเตือนนายกยิ่งลักษณ์ ให้ระวังเดือนพฤศจิกายน 54

    [​IMG]

    ถึงคุณยิ่งลักษณ์​

    ผมขอแสดงความยินดีกับคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย ผมเห็นด้วยกับค่าแรงขั้นต่ำสามร้อยบาทต่อวัน แต่ถ้าคนงานคนนั้นไม่มีฝีมือ ทำได้เพียงแค่หิ้วถังปูนกับขนอิฐขนทรายอย่างเดียวใครจะจ้าง แล้วช่างที่มีฝีมือล่ะต้องขยับขึ้นเท่าไหร่ ผมเห็นด้วยกับผู้ที่จบปริญญาตรีต้องได้เงินเดือนหมื่นห้า แต่ถ้าทำงานไม่เป็นหรือไม่ตรงกับสายที่เรียนมามีบริษัทไหนจะจ้าง ผมว่าต่อไปคนที่จบปริญญาตรีในประเทศไทยคงจะตกงานหรือหางานทำยากขึ้น บริษัทต่างๆ คงหันไปรับสมัครผู้ที่จบ ปวส. หรือ ปวช. กันมากขึ้น ​

    นี่คือปัญหาที่พรรคเพื่อไทยต้องคิดหนัก รายการรับจำนำข้าวเป็นช่องทางสำหรับการคอร์รัปชั่นมากที่สุด บรรดาโรงสีและผู้เกี่ยวข้องรวยกันเป็นทิวแถวเพราะจะมีข้าวจากเขมรและเวียดนาม ทะลักเข้ามาสวมสิทธิ์จำนวนมาก ผมเชื่อว่า (ถ้า)รัฐบาลนี้อยู่ครบเทอม จะมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าเร็วขึ้น แต่จะมีการทุจริตคอร์รัปชั่นหรือไม่ คงต้องไปถามรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมคนเก่าดูเอง เพราะว่าเขาเคยทำมาแล้ว ถึงแม้ว่ารัฐมนตรีกระทรวงไหนก็ตาม ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของเขาคนนั้น ผมเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่างานเสร็จเร็วและถึงลูกถึงคนดีกว่ารัฐบาลก่อน​

    ข้อสำคัญต้องจับตามองให้ดีคือ รัฐบาลนี้กล้าที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อกลุ่มบุคคลหรือบุคคลใดคนหนึ่งหรือไม่ รัฐบาลนี้จะคิดแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 112 หรือไม่ ถ้าทำจริงคงจะเกิดการต่อต้านจากประชาชน ขอเรียนท่านผู้นำด้วยความเป็นห่วง ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป ท่านอาจจะมีอุปสรรค์ปัญหาซึ่งสามารถสะเทือนถึงตำแหน่งของท่านได้ หากคิดจะทำอะไรก็ตรองให้ดีก่อน “โปรดอย่าแตะต้องเงินสำรองในกองคลังเด็ดขาด” ผมขอเตือน และพยายามเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด​

    “ผมคิดว่าท่านอยู่ได้ไม่นานก็จะเกิดปัญหาขึ้น ไม่คิดว่าท่านจะอยู่ครบเทอมได้” ถ้าคณะรัฐบาลของท่านทำไม่ถูกหรือทำไม่ดี ผมเห็น “หายนะ” รออยู่ข้างหน้าคงไม่นานเกินรอก็จะรู้จะเห็น หากผมไม่เบื่อไม่เอียนนักการเมืองเสียก่อน คิดว่าไม่นานเราจะได้เจอกัน.....​

    ด้วยความเคารพ
    หมอนิด (กิจจา ทวีกุลกิจ)
    18 ส.ค. 54

    ที่มา http://www.oknation.net/blog/khonsiam/2011/08/20/entry-2
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2011
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ประชาชนต้องหลบลี้เพราะมีภัย !!!

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    แผ่นดินเรา เขาเข้ายึด เป็นของตน ประชาชน ต้องหลบลี้ เพราะมีภัย เสือขาวเหลือง เข้ามาหา กระยาหาร เข้ารุกราน เราตายเป็นเบือ จะเชื่อไหม ส่วนที่เหลือ จะอยู่รอดกันอย่างไร?

    ที่มา ประเทศไทย เป็น ครัวโลก แต่ทำไมยัง จน ? - PaLungJit.com

    ข้อควรพิจารณาในการเลือกซื้อเต็นท์


    ก่อนที่เราจะซื้อเต็นท์สักหลัง เราควรพิจารณาข้อมูลต่างๆ หลายๆ ด้าน แรกสุด เราควรจะสามารถตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้เสียก่อนที่จะพิจารณาเลือกซื้อเต็นท์สักหลัง
    • <TABLE align=right border=0><TBODY><TR><TD align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>จะซื้อเต็นท์แบบไหนดีนะ</TD></TR></TBODY></TABLE>เราเที่ยวบ่อยแค่ไหน? ถ้าในปีหนึ่งๆ เราเที่ยวแค่ไม่กี่ครั้ง ก็อาจจะยืมเต็นท์เพื่อนๆ เอาจะคุ้มกว่า เพราะถ้าเสียเงินซื้อไปแล้วไม่ค่อยได้ใช้ อุปกรณ์บางอย่างจะเสื่อมตามกาลเวลา เช่น สารเคลือบเต็นท์บริเวณผนังเต็นท์อาจจะหลุดลอกเมื่อเวลาผ่านไป เป็นต้น
    • งบประมาณมีเท่าไร? งบประมาณจะส่งผลต่อเต็นท์ที่เราจะเลือกซื้อ ถ้างบประมาณเราน้อยก็อาจจะได้เต็นท์ที่มีคุณสมบัติไม่มากเท่าไร ถ้าคุณต้องการเต็นท์ที่ดี แน่นอนก็ต้องจ่ายแพงกว่า ทั้งนี้ขึ้นกับงบประมาณของคุณเป็นหลัก เพราะใครๆ ก็อยากได้เต็นท์ที่ดีอยู่แล้ว
    • เต็นท์ที่เราซื้อจะไปใช้กับการเดินทางท่องเที่ยวแบบไหน? เช่น การขับรถเที่ยว (คาร์แค้มป์) หรือการเดินป่า เป็นต้น ถ้าหากคุณชอบขับรถเที่ยว น้ำหนักของเต็นท์อาจจะไม่สำคัญเท่าไรในการพิจารณาเลือกซื้อ แต่หากคุณต้องเดินป่าระยะไกลก็อาจจะต้องพิจารณาถึงเรื่องน้ำหนักและคุณสมบัติเฉพาะบางอย่างเป็นพิเศษ ทั้งนี้ขึ้นกับสไตล์การท่องเที่ยวของคุณ
    • ภูมิอากาศของสถานที่ที่เราไปแค้มปิ้ง หากคุณชอบไปป่าหน้าฝน พวกอุปกรณ์กันฝนก็เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อ เพราะเต็นท์บางรุ่นจะมีอุปกรณ์กันฝนมาให้ (เช่น ฟลายชีท) บางรุ่นก็ไม่มี
    • ขนาดของเต็นท์ที่คุณต้องการ คุณต้องการเต็นท์ที่นอนได้กี่คน ไม่ใช่ว่าเต็นท์ขนาดใหญ่จะดีกว่าเต็นท์ขนาดเล็ก เพราะขนาดจะแปรผันตรงกับน้ำหนัก หากไปป่าที่ต้องเดินก็ควรพิจารณาซื้อเต็นท์เล็กนอนได้ 1-2 คน ถ้าเที่ยวกับรถก็ซื้อใหญ่กว่าก็ได้ไม่มีปัญหา
    หลังจากที่คุณสามารถตอบคำถามในใจคุณได้แล้ว ลองดูในใบตัวอย่างสินค้าของแต่ละยี่ห้อ คุณก็จะสามารถเลือกเต็นท์ได้แล้วว่ามีรุ่นไหนที่ตรงกับที่คุณต้องการบ้าง คราวนี้ก็ถึงเวลาที่เราต้องไปซื้อเต็นท์กันแล้ว เราจะมีวิธีเลือกและตรวจสอบตัวเต็นท์ที่จะซื้ออย่างไรบ้าง
    1. เมื่อเราได้คำตอบแล้วว่าเราต้องการเต็นท์แบบไหน ก็ลองหารายละเอียดตัวอย่างสินค้าของแต่ละยี่ห้อมาดูก่อน ศึกษาก่อนว่าแต่ละยี่ห้อมีรุ่นไหนที่ตรงกับความต้องการของคุณบ้าง ซึ่งคุณควรพิจารณายี่ห้อของเต็นท์ที่คุณจะซื้อด้วยว่ามีบริการเป็นอย่างไร ถ้าสินค้ามีปัญหาจะนำมาเปลี่ยนหรือซ่อมได้หรือไม่
    2. พาเพื่อนๆ ที่ชอบเที่ยวกับคุณมาช่วยเลือกเต็นท์กับคุณด้วย เพราะเขาเหล่านั้นอาจจะได้มานอนในเต็นท์ที่คุณซื้อ ให้เขาช่วยตัดสินใจกับคุณ ยังไงซะหลายตาดีกว่าตาเดียว บางครั้ง เพื่อนบางคนอาจจะเคยมีประสบการณ์ในการใช้เต็นท์บางประเภท ซึ่งจะสามารถให้ความคิดเห็นเพิ่มเติมได้อีกด้วย
    3. ลองกางเต็นท์ดู แกะออกจากถุงแล้วลองกางดูว่ากางยากหรือเปล่า เต็นท์บางรุ่นกว่าจะกางได้เสร็จเล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน ถ้าสงสัยอะไรก็ให้ถามพนักงาน แล้วลองดูสเป็คข้างถุงเต็นท์ว่าตรงกับตัวเต็นท์หรือเปล่า
    4. มุดเข้าไปในตัวเต็นท์ลองนั่งดูว่าพื้นที่ใช้สอยมากพอตามความต้องการหรือไม่ หน้าต่างระบายอากาศมีมากพอหรือไม่ แล้วลองนั่งจินตนการดูว่าพวกกระเป๋า รองเท้า อุปกรณ์ต่างๆ ของเราจะวางไว้ตรงไหนของเต็นท์ แล้วจะมีที่เหลือพอสำหรับนอนหรือเปล่า
    5. ตรวจสอบตะเข็บเต็นท์ตามมุมต่างๆ ว่าเย็บดีหรือไม่ ลองรูดซิปตามประตูหน้าต่างดูว่ามีปัญหาหรือไม่
    6. ตรวจสอบการเคลือบผิวของสารกันน้ำตามตัวเต็นท์ หรือฟลายชีทที่มากับเต็นท์ ตามปรกติพวกฟลายชีทและผนังเต็นท์มักจะเคลือบสารเพื่อกันน้ำซึมไหลเข้าเต็นท์เอาไว้
    7. หลังจากตรวจสอบทุกอย่างเรียบร้อย ก็ลองเก็บเต็นท์ดูว่าเก็บยากหรือไม่
    8. ถ้าคุณตัดสินใจแล้วว่าเต็นท์นี้แหละที่ใช่แบบที่คุณต้องการ คราวนี้ก็ต้องมาเลือกสีกันแล้ว เต็นท์แต่ละรุ่นจะมีสีให้เลือกไม่มากนัก ไม่เหมือนเสื้อผ้าที่มีสีหลากหลาย ข้อควรพิจารณาคือ สีอ่อนจะช่วยให้แสงส่องผ่านเต็นท์ได้ดีกว่าสีเข้ม ส่วนสีเข้มจะดูดความร้อนได้ดีกว่าสีอ่อน หากใช้ในที่อากาศหนาวก็จะทำให้อุ่นขึ้น ทั้งนี้ขึ้นกับผู้ซื้อด้วยว่าชอบสีสไตล์ไหน
    ที่มา http://www.mrbackpacker.com/gear/gear_5.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • a131.jpg
      a131.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47 KB
      เปิดดู:
      1,151
    • news_img_388749_1.jpg
      news_img_388749_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      100.6 KB
      เปิดดู:
      1,125
    • 136071-7.jpg
      136071-7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      81.7 KB
      เปิดดู:
      40
    • tent1.jpg
      tent1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      90.1 KB
      เปิดดู:
      1,162
    • 136071-4.jpg
      136071-4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51.5 KB
      เปิดดู:
      72
    • 534682.jpg
      534682.jpg
      ขนาดไฟล์:
      44.4 KB
      เปิดดู:
      44
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2011
  15. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    “ ยานอวกาศขนาดยักษ์สามลำ กำลังเดินทางตรงมาสู่โลก ลำที่ใหญ่ที่สุดกว้างถึง 300 ไมล์ อีกสองลำเล็กลงกว่าเล็กน้อย ปัจจุบันวัตถุทั้งสามดังกล่าวกำลังโคจรผ่านดาวพฤหัสบดีเข้ามา เมื่อดูจากความเร็วของยานทั้งสาม มันคงจะมาถึงโลกในฤดูใบไม้ร่วงของปี 2011 “

    ผู้รายงานข่าวนี้คือ John Malley ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุนอกโลกชั้นนำที่สถาบัน SETI



     
  16. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>น้ำท่วมยังไม่ลด ชาวอุทัยธานีเปิด "เพจเฟซบุ๊ก" </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>สืบเนื่องจากปัญหาน้ำท่วมเรื้อรังที่กำลังเกิดขึ้นในหลายจังหวัด รวมทั้งจังหวัดอุทัยธานี

    ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวอุทัยธานีกลุ่มหนึ่งได้รวมตัวกันเปิดเพจเฟซบุ๊ก "Flooding Uthaithani" โดยมีจุดประสงค์เพื่อรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดจากสถานที่เกิดเหตุ


    ผู้สนใจติดตามข่าวสารและติดต่อสื่อสารเพื่อมอบความช่วยเหลือแก่ชาวอุทัยธานีผ่านช่องทางดังกล่าว สามารถคลิกเข้าไปอ่านความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมได้ที่ http://www.facebook.com/FloodingUthaithani

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ลพบุรีน้ำท่วมหนักเร่งอพยพคนป่วย-คนชรา </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ทะลักเข้ามาตามคลอเชียงราก เนื่องจากประตูน้ำบางโฉมศรี อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี พังทำให้น้ำหลากเข้าท่วมใหญ่ใน 4 ตำบลคือ ตำบลบางพึ่ง ตำบลมหาสอน ตำบลบางขาม และ ตำบลบ้านชี่

    น้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ประชาชนกว่า 4,000 ครอบครัวไม่มีที่อยู่อาศัยต้องหอบข้าวของขึ้นมาจับจองที่พักบนถนนสาย 3028 หรือถนนสายบางงา-บ้านหมี่ ซึ่งขณะนี้ น้ำก็หลากข้ามถนน เข้าท่วมนา ข้าวในทุ่งบ้านชี ทุ่งสมอคอนที่ข้าวยังไม่ทันเก็บเกี่ยวเลย หลายหมื่นไร่

    <DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-TOP: 0px">
    เมื่อเวลา 09.30 น.บรรดาอาสาสมัคร ปภ.จากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่มาช่วยคนย้ายประชาชนที่ถูกน้ำท่วมได้รับแจ้งให้ไปช่วยนางจิตร ปานเดช อายุ 84 ปี ที่หมู่ 5 ตำบลมหาสอน เนื่องจากนางจิตร เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ไม่สามารถเดินได้ นอนซมอยู่กับที่นอน บรรดาอาสาสมัครได้น้ำเรืองท้องแบไปรับนางจิตร มาที่ ริมถนนสายบางงา - บ้านหมี่ จากนั้นก็นำขึ้นรถของมูลนิธิร่วมกตัญญู เพื่อนำไปส่งที่ ตำบลช่องแค อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ เนื่องจากน้ำในแม่น้ำบางขามขึ้นสูงตลอดเวลา
    <DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-TOP: 0px">
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้าน บางพึ่ง ในเขตตำบลมหาสอน น้ำขึ้นสูงมาก บ้านเรือนจมน้ำ รถบรรทุกที่จอดอยู่ในหมู่บ้านไม่สามารถน้ำออกมาได้จมน้ำทั้งคัน พร้อมกันนั้นก็มีการขนย้ายคนเจ็บและคนชรา ออกจากหมู่บ้านในตำบลมหาสอน เนื่องจากน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาทะลักเข้ามาไม่หยุดทำให้ท่วมและไหลข้ามถนนในเขต ตำบลบางพึ่ง ต้องใช้รถ ตักดินปิดกั้นเพื่อไม่ให้น้ำไหลข้ามถนนเนื่องจากอีกฝากของถนนเป็นพื้นนา ที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวเลยหลายหมื่นไร่ในตำบลบ้านชี อำเภอบ้านหมี่ ตำบลเขาสมอคอนอำเภอท่าวุ้ง
    <DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-TOP: 0px">
    สำหรับพื้นที่ในเขตตำบลบางพึ่ง ชาวบ้านจำนวนมากต้องขนย้ายขึ้นมาอยู่บนถนนเช่นกัน นำสัตว์เลี้ยงขึ้นมาเลี้ยง มาอยู่กินกันบนถนน แต่น้ำก็ยังไหลทะลักท่วมข้ามถนนต้องปิดกั้นกันทั้งวันทั้งคืน โดยทาง นายนพพร ชัยพิชิต ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 10 ได้ให้นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่มาตั้งสูบน้ำที่ บ้านบางโพ ตำบลบางพึ่ง เพื่อไม่ให้น้ำไหลทะลักเข้าทุ่งสนามแจง ที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวข้าวเช่นกัน ในทุ่งสนามแจงแห่งนี้ข้าวที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวหลายหมื่นไร่
    <DD style="PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-TOP: 0px">
    สำหรับในเขตเทศบาลตำบลท่าโขลง อำเภอท่าวุ้ง น้ำหหลากเข้าท่วม ทางเทศบาลตำบลท่าโขลงประกาศหยุดจ่ายน้ำประปาให้กับประชาชนในเขตเทศบาล เนื่องจาก น้ำได้ทะลักเข้าท่วมบ่อกรองน้ำประปาเทศบาล โดยหหยุดการจ่าสยไม่มีกำหนด



    </DD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> มหาสารคามประกาศพื้นที่ภัยพิบัติน้ำท่วมเพิ่มอีก 3 อำเภอ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    เมื่อวันที่ 23 กันยายน นายอนุชิต ขันธะมูล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ล่าสุด จ.มหาสารคาม ได้ประกาศเขตภัยพิบัติน้ำท่วมเพิ่มขึ้นอีก 3 อำเภอ คือ ที่ อ.ชื่นชม บรบือ และ อ.กุดรัง รวมประกาศเขตภัยพิบัติน้ำท่วมแล้ว 9 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง กันทรวิชัย โกสุมพิสัย เชียงยืน นาเชือก พยัคฆภูมิพิสัย ชื่นชม บรบือ และ อ.กุดรัง รวม 71 ตำบล 639 หมู่บ้าน 30 ชุมชน ราษฎรเดือดร้อน 145,145 คน 40,178 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 64,696 ไร่ ถนนเสียหาย 52 สาย ซึ่งในพื้นที่ 5 อำเภอ ที่ไม่อยู่ติดเขตลำน้ำชี ฝนที่ตกลงมาส่วนใหญ่ ทำความเสียหายพื้นที่การเกษตร ส่วนอีก 4 อำเภอ ติดริมฝั่งแม่น้ำชี ยังคงต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ตู้แดงเวอร์ชั่นใหม่รับร้องทุกข์-ยา </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ตู้แดง...เวอร์ชั่นใหม่ รับร้องทุกข์-ยาเสพติด : สารพันตำรวจ โดยโต๊ะรายงานพิเศษ


    เกิดคดีอะไรร้ายแรงขึ้นในมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยหรือเปล่า? ตำรวจเกือบ 2,000 นายมารวมตัวกันเต็มหอประชุมไปหมด จึงรีบเข้าไปสอดแนมทันที จึงถึง "บางอ้อ" (ฮา) แค่มายืมสถานที่จัดงาน "มอบนโยบายในการแก้ไขปัญหายาเสพติด และเปิดโครงการตู้แดงรับแจ้งเบาะแสยาเสพติดและอาชญากรรม กองบังคับการตำรวจนครบาล 1" ภายใต้การนำของ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 หรือ "ผู้การแต้ม" นั่นเอง

    "เดือนพฤศจิกายนนี้ นายดาบอายุ 52 ปีขึ้นไป จะกลายเป็นนายร้อยทุกคน ภรรยาทุกคนก็จะกลายเป็นคุณนายแล้ว...แต่ถ้าเป็นนายร้อยแล้วไม่ทำงาน โดนโทษหนักกว่าเดิมแน่" ผู้การแต้มคว้าไมโครโฟนโปรยยาหอมปล่อยมุก เรียกเสียงฮือฮา-ปรบมือกึกก้องหอประชุม

    ก่อนเปิดตัวโครงการ "ตู้แดงรับแจ้งเบาะแสยาเสพติดและอาชญากรรม" เป็นตู้แดงเวอร์ชั่นใหม่ เปลี่ยน "สายตรวจ" ให้ทำหน้าที่คล้าย "บุรุษไปรษณีย์" คอยตรวจรับเรื่องราวร้องทุกข์ แจ้งเบาะแส ที่ประชาชนนำมาหยอดไว้ในตู้แดงด้วย


    "ตู้แดงเวอร์ชั่นใหม่นั้น คิดว่าประชาชนสะดวกในการส่งจดหมายมาหาเรามากขึ้น ข้อมูลจะถึงมือเราเร็วกว่า" พล.ต.ต.วิชัยบอกถึงข้อดีของตู้แดงเวอร์ชั่นใหม่


    สำหรับ "ตู้แดงเวอร์ชั่นใหม่" มีนำร่องใน 2 สน.คือ สน.ห้วยขวาง และ สน.พญาไท แต่ภายใน 10 วันนี้ ตู้แดงเวอร์ชั่นใหม่จะถูกนำไปติดตั้งแทนตู้แดงเก่าจนครบ 1,000 จุด


    ก่อนเข้าสู่พิธีการมอบนโยบายแก้ไขปัญหายาเสพติด...มีการนำผู้ต้องหาน้องใหม่ในคดียาเสพติดขึ้นมาพูดเป็นอุทาหรณ์บทเวที ซึ่งยอมรับว่าติดยาเสพติดมากว่า 8 ปี พอติดยาเสพติดแล้วก็ไปก่ออาชญากรรมหลายอย่าง เพื่อต้องการนำเงินมาซื้อยาเสพติด


    "สาเหตุหลายอย่างเกิดเพราะยาเสพติด ตอนนี้กรรมตามทันผมแล้ว หวังว่านโยบายปราบปรามยาเสพติดครั้งนี้จะได้ผล ขอให้จับกันให้เยอะๆ แล้วมันจะหมดไปเอง" พลันที่ผู้ต้องหายาเสพติดพูดจบ เสียงปรบมือก็ดังขึ้น


    "แหนะ...ยังมีคนปรบมือให้อีก (ฮา)" ผู้การแต้มแอบแซวลูกน้อง ก่อนมอบนโยบายแก้ไขปัญหายาเสพติด 4 ข้อ


    "ยาเสพติดที่เป็นนโยบายเร่งด่วน เป็นบ่อเกิดของอาชญากรรมทุกประเภท อันดับแรกต้องปราบปรามผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอย่างจริงจัง ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเสพจับขยายผล รายใหญ่ รายย่อย สารตั้งต้น 2.ยับยั้งการแพร่ระบาดลงไปในชุมชน สถานศึกษา ผู้กำกับการแต่ละสถานี ต้องไปคิดว่าจะทำอย่างไร ลงไปในชุมชน โดยส่วนตัวแล้วยังชื่นชม บก.น.3 ที่ลงไปในชุมชนแล้วได้ผล 3.ตำรวจต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และ 4.ให้ประชาชนและชุมชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ส่วน "ตู้แดง" ก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการให้ประชาชนมีส่วนร่วม" ผู้การแต้มมอบนโยบาย ก่อนให้รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 หมุนเวียนกันขึ้นไปมอบนโยบายในด้านต่างๆ ว่าจะทำอะไรกันบ้าง


    "วันนี้ตำรวจ บก.น.1 จำนวน 1,800 นาย และคนในชุมชน กำลังประกาศธงรบกับยาเสพติด ขอให้เรามาร่วมมือร่วมใจกัน แม้ว่าจะยังไม่เห็นผลทันที แต่เป็นการปลุกจิตสำนึก และไม่ให้การสนับสนุน...ไปปัดกวาดบ้านให้สะอาด ถ้าเมียเล่นไพ่ก็ช่วยเตือนด้วย เป็นตำรวจอย่าอยู่เฉยๆ เรียกศรัทธาของตำรวจกลับคืนมาให้ได้" พล.ต.ต.วิชัยกล่าวปิดท้าย



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    เกาหลีใต้ฝังหมูทั้งเป็น วิธีในการกำจัดหมูติดเชื้อ!? คลิป คลิปจากหมวด ข่าวและเหตุการณ์ โพ

    คลิปวีดีโอ : เกาหลีใต้ฝังหมูทั้งเป็น วิธีในการกำจัดหมูติดเชื้อ!?


    [​IMG]
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมค้าทองคำประกาศราคาซื้อขายทองคำแท่งและทองรูปพรรณวันนี้ 24 กันยายน ทองคำแท่งรับซื้อคืนที่บาทละ 24,300 บาท และขายที่บาทละ 24,400 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อคืนที่บาทละ 23,952.80 บาท และขายที่บาทละ 24,800บาท
    ทั้งนี้ราคาทองในประเทศวันนี้ ลง 1,000 บาทต่อบาททอง ราคาทองเมื่อ 23 กันยายนทองคำแท่งขายที่บาทละ 25,400บาท และทองรูปพรรณขายที่บาทละ 25,800 บาท
    ขณะที่ทองคำตลาดนิวยอร์คCOMEXร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ โดยราคาส่งมอบเดือนธันวาคมร่วง 101.9 ดอลลาร์ หรือ 5.9% ปิดตลาดที่ระดับ 1,639.8 ดอลลาร์/ออนซ์หลังตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งลงแรงจากความวิตกกังวลต่อเศรษฐกิจโลกและปัญหาวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป
    Mthai News

    [​IMG]
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางเจริญ มากมูลวัย 30 ปีพนักงานโรงงานแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสาครซึ่งประสบอุบัติเหตุถูกรถบรรทุกถ่านหินชนระหว่างนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เมื่อเดือนตุลาคม 2553 ที่ จ.สมุทรสาคร พร้อมด้วยสามี นายไพฑูรย์ มากมูล และนายสมศักดิ์ แซ่ลิ้ม ซึ่งเป็นญาติ
    ได้นำป้ายข้อความและภาพอาการบาดเจ็บมาร้องขอความเป็นธรรมต่อนายอนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเนื่องจากเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนในระบบประกันสังคมแล้วได้รับการให้บริการที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่ยอมส่งต่อผู้ป่วยไปรักษาโรงพยาบาลแห่งอื่นที่มีความพร้อมมากกว่า

    ทั้งนี้นางเจริญ ได้เล่าว่า ตนเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนใน จ.สมุทรสาคร ซึ่งโรงพยาบาลแห่งนี้รักษาไม่ได้มาตรฐาน ไม่ได้นำตนเข้ารับการรักษาในห้องปลอดเชื้อ และไม่ได้นำเศษหินกรวดที่ฝังอยู่ตามร่างกายออกทำให้แผลติดเชื้อและเมื่อตนขอให้ส่งต่อไปโรงพยาบาลแห่งอื่นก็ไม่ยอมส่งต่อกระทั่งญาติตัดสินใจย้ายตนไปโรงพยาบาลเอกชนอีกแห่งหนึ่งและถูกส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ทำให้ตนรอดชีวิตมาได้และไม่ต้องถูกตัดขา
    ขณะเดียวกัน ดิฉันต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลเอกชนกว่า 3 แสนบาท และต้องจ่ายค่ารักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์อีกกว่า 3 แสนบาท ขณะนี้จ่ายไปแล้ว 1.6 แสนบาท ยังค้างอีกกว่า 1 แสนบาทและขณะนี้แม้ตนจะหายเป็นปกติแล้วแต่ยังต้องผ่าตัดเปลี่ยนสะบ้าหัวเข่าซึ่งต้องใช้เงินอีกประมาณ 2 แสนบาทรวมแล้วมีค่ารักษาเกือบ 1 ล้านบาท จึงอยากให้สำนักงานประกันสังคมและโรงพยาบาลรับผิดชอบ ช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด
    Mthai News

    [​IMG]
    เมื่อวานนี้ (22 ก.ย.) พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบงานด้านการจราจรเปิดเผยว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมมือกับศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ดำเนินการทดลองโครงการทดลองติดตั้งกล้องวงจรปิดในตัวหุ่นตำรวจ “จ่าเฉย” เพื่อตรวจจับผู้กระทำผิดกฎหมายจราจร
    ทั้งนี้ การติดตั้งกล้องในตัวหุ่นจ่าเฉยนั้น จะสะดวกต่อการเคลื่อนย้าย ต่างจากการติดตั้งกล้องวงจรปิด โดยจะตั้งในจุดที่มีการกระทำความผิดมากที่สุด จากนั้นเจ้าหน้าที่จะนำมาตรวจสอบ ก่อนออกหมายเรียกผู้กระทำผิดมาชำระค่าปรับ
    นอกจากนี้ ยังจะเก็บข้อมูลและประเมินผลการทำงานจากการติดตั้งกล้องหุ่นจ่าเฉย ซึ่งถ้าผลเป็นที่น่าพอใจจะขยายโครงการติดตั้งเพิ่มเติม
    Mthai News
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เรื่องยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว(ฝ่ายดี)

    [​IMG]

    “ ยานอวกาศขนาดยักษ์สามลำ กำลังเดินทางตรงมาสู่โลก ลำที่ใหญ่ที่สุดกว้างถึง 300 ไมล์ อีกสองลำเล็กลงกว่าเล็กน้อย ปัจจุบันวัตถุทั้งสามดังกล่าว กำลังโคจรผ่านดาวพฤหัสบดีเข้ามา เมื่อดูจากความเร็วของยานทั้งสาม มันคงจะมาถึงโลกในฤดูใบไม้ร่วงของปี 2011 “

    ผู้รายงานข่าวนี้คือ John Malley ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุนอกโลกชั้นนำที่สถาบัน SETI

    *****************************************************************
    ผมคิดว่าน่าจะมาด้วยสาเหตุ 2 ประการ คือ

    1. มารับคนบนโลกที่นับถือศาสนาคริสต์ ที่รอคอยพระเจ้ามารับตัวขึ้นไปในอากาศ ตามคำทำนายในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติน้ำท่วมครั้งใหญ่

    2. มาทำให้โลกหยุดหมุน 1 วินาที เพื่อให้น้ำทะเลทะลักล้นท่วมทุกพื้นแผ่นดินโลก เพื่อยุติสงครามนิวเคลียร์ ไม่ให้ลุกลามบานปลายจนอาจจะเป็นอันตรายต่อระบบของดวงดาวในจักรวาล

    *****************************************************************

    ลิ้งค์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกัน

    เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในโลก
    "อาจารย์ สุมิตร" บอกว่า มนุษย์โลกสามารถติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวมานานแล้วโดยทาง "โทรจิต" ... NASA เพื่อช่วยในการสร้างยานอพยพผู้คนในครั้งนี้ เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องเหลวไหล .... ไต้หวัน และเกาหลีส่วนใหญ่จะหายไปในทะเล และด้วยเหตุที่แผ่นโลกเคลื่อนตัวนี้ ...

    แผนการอพยพช่วยเหลือผู้คนของมนุษย์ต่างดาว และข้อมูลอื่นๆ...
    แผนการอพยพช่วยเหลือผู้คนของมนุษย์ต่างดาว และข้อมูลอื่นๆ ... เรื่องภัยพิบัติใหญ่ในโลก ที่พวกเราหลายคนกำลังช่วยกันประโคมข่าวกันอยู่นี้ด้วย ...

    นิมิตรเกี่ยวกับการถูกรับไปกลางอากาศ
    14 ม.ค. 2011 ... หนูได้เห็นประชากรหลายๆ เชื้อชาติ ถูกรับขึ้นไปกลางอากาศแบบ ... ที่ซึ่งพระเยซูคริสต์ได้รอรับ ด้วยกันกับหนู คนทั้งหมดที่ถูกรับไปกลางอากาศ และทูตสวรรค์ ... นิมิตของวันแห่งความยากลำบากในโลก หลังจากเหตุการณ์การถูกรับไปกลางอากาศ ... วิ่งมาอีกแห่ง และถามตัวเองว่า ทำไมเขาถึงได้หลงอยู่บนโลก โปรดรับข้าพเจ้าไปด้วย ...

    เหตุการ์ณจะเป็นอย่างไรเมื่อ คนมากมายเกิดการถูกรับไปสวรรค์
    14 ม.ค. 2011 ... เมื่อข้าพเจ้าได้กลับมายังโลกแล้ว และได้ก่อนที่ขึ้นเทศนาบนธรรมมาส ...

    ผู้ที่ถูกรับไปกลางอากาศรอบแรก และคนที่หลงอยู๋บนโลก
    15 พ.ค. 2009... และจะได้รับเรบเจอร์ขึ้นไปกลางอากาศ พร้อมกับธรรมมิกชน(144,000 คน) The Devil (LUCIFER) ซาตานหรือลูซิเฟอร์ จะแสดงตัวเองเป็นพระเจ้า ... คนที่ไม่ถูกรับไป
    กลางอากาศที่หลงอยู่บนโลก จะปฎิเสธที่จะเชื่อว่าการถูกรับไปกลางอากาศ ...

    สิ่งที่เกิดคือโลกจะหยุดหมุน 1 กึ๊ก โดยลุงคนเชียงใหม่(ตอนนี้บวชเป็นพระอยู่ ...
    สิ่งที่เกิดคือโลกจะหยุดหมุน 1 กึ๊ก โดยลุงคนเชียงใหม่(ตอนนี้บวชเป็นพระอยู่ครับ)

    เมื่อโลกหยุดหมุนรอบตัวเอง จะมีผลต่อแรงโน้มถ่วงอย่างไร?
    เมื่อโลกหยุดหมุนรอบตัวเอง จะมีผลต่อแรงโน้มถ่วงอย่างไร?

    ข้อมูลพิเศษเกี่ยวกับยานอวกาศ ของดาวโลกุกะตาปากะดิกอง ...
    กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย (เขากะลา). ดาวโลกุกะตาปากะดิกอง มีโรงงานผลิตยานอวกาศ 400 โรงงาน ยานลำลูก ที่บินอยู่นี้ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10 เมตร....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ID4-Ever.jpg
      ID4-Ever.jpg
      ขนาดไฟล์:
      44.8 KB
      เปิดดู:
      2,824
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2011
  19. บัวรองพุทธบาท

    บัวรองพุทธบาท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +745
    พี่เกษมครับ ผมนึกถึง จักรแก้วครับ
    นี้หรือเปล่าครับ ตามความหมายทางพระพุทธศาสนา
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "จักรแก้ว"ของพระเจ้าจักรพรรดิ์

    [​IMG]

    ไม่ใช่ครับ ยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์เพียงอย่างเดียว แต่"จักรแก้ว"สร้างขึ้นด้วยพลังจิต+พลังบุญบารมีของพระเจ้าจักรพรรดิ์ครับ เมื่อภัยพิบัติครั้งใหญ่เกิดขึ้นแล้ว จะทำลายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี่ต่างๆ (ที่คิดค้นมาเพื่อทำลายล้างกัน) ให้หมดไปหรือที่เราเรียกกันว่า "วันพิพากษาโลก" หรือวัน "ชำระโลก" นั่นแหละครับ แต่จะเกิดวิทยาศาสตร์แขนงใหม่ขึ้นมาในโลกนี้คือ "วิชาอริยะศาสตร์" ที่รวมเอาวิชาจิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์เข้าไว้ด้วยกัน โดยใช้ความรู้ในทางพระพุทธศาสตร์ศาสนา มาประยุกต์ให้เกิดขึ้นครับ เราจึงเรียกยุคนี้ว่า "ยุคชาววิไล" ที่ผู้คนทั้งหลายให้ความสนใจในด้านจิตใจมากกว่าทางด้านวัตถุ

    ที่คุณบัวรองพุทธบาทถามมา คงเข้าใจผิดไปว่า ยานอวกาศที่มารับคนดีมีศีลธรรมขึ้นไปนั้น เป็นจักรแก้วของพระเจ้าจักรพรรดิ์ ซึ่งผมก็ขอตอบว่าเป็นยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาวจริงๆครับ เพราะพระเจ้าจักรพรรดิ์ที่จุติลงมาเกิดเป็นคนไทยในตอนนี้ ยังเป็นเพียงคนสามัญธรรมดา ยังไม่มีฤทธิ์เดชอะไร ยังไม่มีจักรแก้วครับ ต้องรอให้พระอินทร์ท่านมาทำพิธีราชาภิเษกให้ก่อน รัตนะทั้งเจ็ด คือ จักรแก้ว ดวงแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว นางแก้ว ขุนพลแก้ว ขุนคลังแก้ว จึงจะเกิดตามมาในภายหลัง คือต้องหลังจากภัยพิบัติครั้งใหญ่นี้ผ่านพ้นไปแล้วครับ

    จากคำทำนายของท่านผู้รู้หลายๆ ท่านได้กล่าวไว้ว่าประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางของโลก ทั่วโลกจะต้องมาศึกษาวิชาอริยะศาสตร์ของประเทศไทย ก็เพราะว่า "พระเจ้าจักรพรรดิ์" ได้จุติลงมาเกิดในประเทศไทยแล้วนั่นเอง พระเจ้าจักรพรรดิ์จะใช้วิชาอริยะศาสตร์นี้สร้าง "จักรแก้ว" ขึ้นมาซึ่งอำนาจของจักรแก้วนี้เปรียบเป็นดั่งแก้วสารพัดนึก ที่พระเจ้าจักรพรรดิ์จะนึกคิดใช้ให้เป็นอะไรก็ได้ดั่งใจปรารถนา สามารถเนรมิตข้าวปลาอาหารเลี้ยงคนได้ทั้งโลก สามารถเนรมิตบ้านเมืองขึ้นมาใหม่ก็ได้ ท่านจึงสามารถปกครองโลกนี้ได้ทั้งโลก และสามารถใช้อำนาจแห่งจักรแก้วนี้ เนรมิตเป็นยานอวกาศ พาคนทั้งโลกนี้ไปท่องจักรวาลได้ ท่านจึงมีอำนาจครอบคลุมได้ทั้งหมดในจักรวาลนี้ครับ<!-- google_ad_section_end -->

    คำพยากรณ์ของ อ.ปริญญา ตันสกุล

    ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางของโลก
    และเป็นประเทศแรกที่มีผู้สร้างยานอวกาศไปท่องจักรวาลได้
    เป็นแห่งเดียวของโลก โดยใช้พลังจิตในการขับเคลื่อน
    โดยที่ไม่ได้ใช้เชื้อเพลิงในการเผาไหม้
    ให้เกิดพลังงานที่ทำลายสิ่งแวดล้อม
    และทรัพยากรธรรมชาติของโลก
    ให้เสียหายอย่างเช่นในปัจจุบัน
    นอกจากนี้ต่อมไพนีล หรือตาที่ 3 ของมนุษย์
    จะถูกฟื้นฟูขึ้นมาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
    จนสามารถเข้าถึงสภาวะนิพพานได้ง่ายขึ้นกว่าในอดีต

    ตามความคิดของผม ยานอวกาศของคนไทยที่ อ.ปริญญา กล่าวถึงนี้น่าจะหมายถึง"จักรรัตนะ" ของพระเจ้าจักรพรรดิ์ ลองอ่านข้อความต่อไปนี้ดูนะครับ ที่สุดแห่งเทคโนโลยี (จักรแก้ว) ยุคชาววิไล ...

    ที่สุดแห่งเทคโนโลยี (จักรแก้ว) ยุคชาววิไล

    เมื่อนั้น พระราชาก็เริ่มคิดค้นถึงเทคโนโลยีขั้นสูงสุด ที่เป็นที่รวมของทุกสิ่งทุกอย่าง คือ เป็นเครื่องมือที่สามารถจะดึงอณูธาตุที่มีในอากาศมาขึ้นรูปเป็นวัตถุสิ่งของต่างๆได้ตามปรารถนา โดยไม่ต้องได้ตัดไม้เพื่อมาทำกระดาษ ไม่ต้องขุดดินระเบิดหินเพื่อมาทำซีเมนต์หรือก้อนอิฐ ไม่ต้องผลิตคอมพิวเตอร์เป็นจอๆ แบบมีแป้นควบคุมนี้มาใช้ ด้วยว่า ข้าวของเครื่องใช้เหล่านี้ มีความสิ้นอายุไป แล้วก็กลับกลายเป็นของเสียในภายหลัง มีความล้าหลัง มีคุณสมบัติหลายอย่างไม่ตรงตามปรารถนา ประกอบกับในเวลานั้น ปัญหาขยะในโลกก็ยังคงมีอยู่ แม้ว่าเทคโนโลยีที่พยายามพิจารณาดีแล้วนั้นจะก่อมลพิษน้อยก็ตาม แต่มันก็ยังมีอยู่ สืบต่อไปในระยะกาลประมาณหนึ่ง ก็มีอันต้องสะสมกันล้นพื้นที่ได้ง่าย ด้วยเหตุนี้ พระราชาจึงพิจารณาเพื่อสร้างวัตถุอันเป็นที่สุดแห่งเทคโนโลยีขึ้นมา คือจักรรัตนะ หรือจะเรียกว่า เครื่องควบคุมพลังงานหรือธาตุในจักรวาลให้เป็นไปตามใจปรารถนา ก็ได้

    ก็จักรรัตนะนี้นั้น เมื่อปรากฏสำเร็จขึ้นมาแล้ว จะมีคุณสมบัติในการควบคุมธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ในขอบเขตเท่าที่ใจนึกได้ โดย เครื่องมือชนิดนี้จะตอบสนองโดยตรงต่อความนึกของมนุษย์ ในการป้อนข้อมูลเข้าจักรรัตนะ จึงไม่จำเป็นต้องอาศัยแป้นพิมพ์ ไม่ต้องอาศัยหน่วยความจำภายนอก และขอบเขตในการควบคุมธาตุ กว้างใหญ่ไปเท่าที่ใจของผู้เป็นเจ้าของจะนึกถึงได้ จักรรัตนะนี้ รับข้อมูลเข้าไปในรูปของอารมณ์จิต จึงมีอานุภาพเป็นทิพย์ มีความสามารถในการเร่งพลังงานข้ามมิติแห่งกาลเวลาเข้าไปยังภพภูมิต่างๆในต่างมิติได้ สามารถจะไปนรกสวรรค์ได้ ไปพรหมโลกได้ คือไปได้ทุกที่ที่มีธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ เท่าที่ใจของเจ้าของจะนึกถึง ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ก็จะใช้งานแค่ในขอบเขตจักรวาลหนึ่งเท่านั้น ไม่ค่อยนำไปใช้งานข้ามแกแล็กซี่นัก แต่ในความจริง จักรรัตนะ สามารถเดินทางข้ามแกแล็กซี่ได้

    เมื่อต้องการจะเข้าไปศึกษาเรื่องราวของวัตถุธาตุในจักรวาล เช่น โครงสร้างดาวโลกชมพู โครงสร้างดวงอาทิตย์ หรือเนบิวลา หรือวัตถุอื่นใดในวงกว้างนั้น จักรรัตนะจะเร่งพลังงานเข้าไปไว้ในระดับทิพย์ที่ไม่แตะต้องกับธาตุ4แบบมนุษย์ แล้วแทรกซึมเข้าไปในเนื้อวัตถุธาตุเหล่านั้นได้ มีการนำเสนอโครงสร้างของดวงดาวเหล่านั้นได้คล้ายอย่างที่คอมพิวเตอร์นำเสนอข้อมูลในรูปกราฟฟิก จะต่างกันก็แค่ว่า จอมอนิเตอร์สำหรับจักรรัตนะแล้ว เป็นจอที่ไม่มีขอบเขตแน่นอน

    ไม่ใช่เพียงเท่านั้น จักรรัตนะนั้นเอง ยังมีกำลังอำนาจในการขยายอณูแห่งธาตุเข้าไปยังระดับโครงสร้างที่เล็กลงๆไปเรื่อยๆได้ตามปรารถนา เรียกจักรรัตนะว่า เป็นเครื่องมือสารพัดจะนึก สารพัดจะใช้ก็ได้ เพราะเหตุที่จักรรัตนะมีความพิเศษอย่างนี้ จึงมีอานุภาพครอบงำแม้กระทั่งอานุภาพของเหล่าเทวดา จึงมีอำนาจในการจัดอารักขาป้องกันภัยอันตรายให้พระราชาได้ตามที่พระราชาปรารถนา

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้รู้แจ่มแจ้งโลก เมื่อกล่าวถึงโลกในมุมอันเป็นทีสุดแห่งความเจริญในด้านความรู้เทคโนโลยี พระองค์จึงกล่าวถึง จักรรัตนะนี้ ว่า เป็นสิ่งพิเศษสูงสุด และตรัสเรียกพระเจ้าจักรพรรดิ์ ผู้สามารถก่อเหตุปัจจัยให้เหมาะสมในการปรากฏจักรรัตนะนั้นว่า เป็นอัจริยะมนุษย์ เกิดขึ้นมาเพื่อเป็นอัจริยะมนุษย์ คือสามารถคิดค้นสิ่งที่มนุษย์ทั่วไปไม่อาจจะคาดคิดถึง แม้กระทั่งจะจินตนาการว่ามันมี มนุษย์ทั้งหลายก็ไม่กล้าจะจินตนาการ แต่บุคคลพิเศษผู้นั้น กลับมีกำลังปัญญาข้ามกรอบมนุษย์ทั่วไปนั้นไป จึงกล่าว่า พระเจ้าจักรพรรดิ์เป็นบุคคลพิเศษ และเพราะความที่พระเจ้าจักรพรรดิ์ทำประโยชน์เกื้อกูลโลก เพื่อประโยชน์สุขแก่เทวดาและมนุษย์ จึงดำรงอยู่ในฐานะที่ควรเคารพสักการะ ควรแก่การระลึกถึง ผู้ที่ระลึกถึงพระเจ้าจักรพรรดิ์ มีผลให้เข้าสู่สุคติภูมิได้ หลังจากตายเพราะกายแตก

    พระเจ้าจักรพรรดิ์นั้นเอง คือพระธรรมราชา เป็นราชาโดยธรรม เป็นผู้ยิ่งใหญ่ในโลก ในคุณสมบัติต่างๆ แม้จะอย่างนั้นก็ตาม พระเจ้าจักรพรรดิ์ผู้พิเศษเยี่ยงนั้น ก็เปรียบไม่ได้แม้เสี้ยวหนึ่งในแสนโกฏิเสี้ยวแห่งองค์คุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลาย

    จากคุณ : มังคละ 21 พ.ย. 47

    ที่มา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะถูกทำลายหมดเลยหรือเปล่าครับ - PaLungJit
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...