ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** กรรมปรากฏชัดขึ้นเรื่อย ****

    ใครไม่เอาสัจจะ ก็ไม่มีการกระทำเที่ยง
    ชีวิตขาดแก่นสาร ไม่มีใครที่ไหนมาช่วยได้
    เพราะ ทำตัวขัดกับสัจจะธรรม
    โลก เขาไม่ปล่อยเอาไว้

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  2. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    =====================================


    24 ก.ย. 54


    นิมิต----------มีทริป--------ต้องเดินทาง
    ทำงาน--------ผาแบ่น------แดนอีสาน
    จัดการ--------รีบเร่ง--------สะสางงาน
    ให้ทันกาล-----รองรับ--------ผู้จะไป

    ไม่รู้-----------ผู้ใด---------จะไปด้วย?
    เข้าช่วย--------ผมทำ-------ยะการงาน
    ต้องรอ--------สักพัก--------ผมเฝ้าตาม
    เร่งงาน--------ให้ได้--------อย่างใจหวัง

    หรือว่า---------หลานจิ๊บ-------อติกานต์
    อยากตาม------ไปอยู่----------เหมือนเช่นเคย
    ตัวผม----------ต้อนรับ--------ไม่ละเลย
    ไม่เฉยเมย------ทำเพื่อ--------ปวงประชา





    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"
     
  3. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    ใกล้เวลาเข้ามาจริงๆแล้วหรือนี่ เตรียมใจไว้ก็ดีนะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "ภูฏาน"ตัวอย่างวิถีชีวิตของคนในยุค"ชาววิไล"?

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เมื่อความสุขในชีวิตของคนเรา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงินทองอีกต่อไป หมายถึง ความสุขของประชาชนสำคัญกว่าผลผลิตมวลรวมหรือรายได้รวมของประเทศนั่นเอง นับเป็นเงื่อนไขที่สำคัญที่สุด ในการนำประเทศภูฏานสู่ความสุขมวลรวมประชาชาติในทุกวันนี้ ...

    ประชาชนชาวภูฏานนับถือ ศาสนาพุทธนิกายมหายาน (ตันตรยาน หรือบ้างก็เรียกว่า วัชรยาน)75% ศาสนาฮินดู 24% ศาสนาอิสลาม 0.7% และ ศาสนาคริสต์ 0.3%

    ในสมัยศตวรรษที่ 17 นักบวช ซับดุง นาวัง นำเยล (Zhabdrung Ngawang Namgyal) ได้รวบรวมภูฏานให้เป็นปึกแผ่นและก่อตั้งเป็นประเทศขึ้น และในปีค.ศ.1651 นักบวชซับดุงได้ริเริ่มการบริหารประเทศแบบสองระบบ คือ แยกเป็น ฝ่ายฆราวาสและฝ่ายสงฆ์ ภูฏานใช้ระบบการปกครองดังกล่าวมาเป็นเวลากว่าสองศตวรรษ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 1907 พระคณะที่ปรึกษาแห่งรัฐ ผู้ปกครองจากมณฑลต่าง ๆ ตลอดจนตัวแทนประชาชนได้มารวมตัวกันที่เมืองพูนาคา และทำการเลือกอย่างเป็นเอกฉันท์ให้ อูเก็น วังชุก (Ugyen Wangchuck) ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้ปกครองเมืองตองซา (Trongsa) ขึ้นเป็นกษัตริย์องค์แรกของภูฏาน

    โดยดำรงตำแหน่งเป็นสมเด็จพระราชาธิบดีองค์แรกแห่งราชวงศ์วังชุก (Wangchuck) เนื่องจากคุณสมบัติที่โดดเด่นของพระองค์ตั้งแต่ครั้งยังทรงดำรงตำแหน่งเป็น ผู้ปกครองเมืองตองซา ทรงมีลักษณะความเป็นผู้นำและเคร่งศาสนาซึ่งมีความตั้งพระทัยแน่วแน่ที่จะยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น ราชวงศ์วังชุกปกครองประเทศภูฏานมาจนถึงปัจจุบัน สมเด็จพระราชาธิบดีองค์ ปัจจุบันคือ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก (Jigme Khesar Namgyal Wangchuck) ขึ้นครองราชสมบัติเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ค.ศ.2006 เป็นสมเด็จพระราชาธิบดีองค์ที่ 5 แห่งราชวงศ์วังชุกภูฏานจัดตั้งการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นครั้งแรกในวันที่ 24 มีนาคม ค.ศ.2008 มีพรรคการเมืองสองพรรค

    ที่มา http://www.globaltourplanner.com/bhutan/about-bhutan.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2011
  5. CopperOxide

    CopperOxide เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    321
    ค่าพลัง:
    +289
    ติดตามข่าว ปีนี้ภัยพิบัติทางน้ำสาหัสเหลือเกิน จากฟ้าลงดิน จากเหนือลงกลาง จากกลางลงเมืองหลวง เคยได้ยินคนโบราณว่า ต่อไปมีถนนก็ไม่มีคนเดิน นึกถึงสภาพถนน สภาพสะพาน สภาพทางรถไฟ มีแต่สายน้ำไหลเชี่ยวกราก จะเดินทางไปไหนก็ไม่ได้ น้ำค่อยๆจำกัดพื้นที่ของมนุษย์ บีบให้แคบลงเรื่อยๆ เทือกสวนไร่นาที่เคยเป็นแหล่งอาหารหลักเช่นข้าวพืชผลทางการเกษตรเกิดเสียหาย ค่อยๆเกิดภาวะขาดแคลนอาหาร สภาพแบบนี้ ผมนึกถึง สมัยปี พ.ศ 2310 ข้าศึกพม่าแยกเดินทัพออกมาเป็นสองสาย หนึ่งตีมาทางเหนือ เชียงใหม่ พิชัย พิษณุโลก ปล้นสดมภ์ ริบเสบียงมาเรื่อยๆ จนถึง อโยธยา อีกสายเดินทัพมาจากด่านเจดีย์สามองค์ ยึดเมือง ปล้มสดมภ์ ริบเสบียง มาเรื่อยๆ จนสองทัพมาสมทบกันที่ อโยธยา หลังจากนั้นไม่นาน กรุงศรอยุธยาก็แตกเป็นครั้งที่สอง ... น้ำท่วมครั้งนี้ ช่างคล้ายคลึงการเดินทัพของข้าศึกจากทางเหนือ ตัดทางหนี ยึดเสบียง จนมาถึงเมืองเหลวง อย่างไรก็ตาม ชาวกรุงเทพ อย่าชะล่าใจหรือประมาท ในการเตรียมพร้อมไว้บ้างนะครับ ขอให้ปลอดภัยในชีวิตทุกท่านครับ
     
  6. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    กราบองค์พนะมหาเจดีแห่งภูฏาน ข้าพเจ้าขออธิฐานขอให้ข้าพเจ้าและครอบครัวได้มีโอกาศได้ใช้ชีวิตที่ไหนก็ได้ในโลกแห่งนี้ ด้วยการเป็นอยู่และใกล้ชิดกับพุทธศาสนาเฉกเช่นพุทธศาสนิกชนชาวภูฏานได้พานพบอยู่ด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สา....ธุ
    ขอบคุณ คุณเกษมมากครับที่นำภาพและเรื่องราวชาวภูฏานมาให้ชม
     
  7. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>อุตุฯเตือนอีสานล่าง,ตอ.-กทม.ฝนตกหนัก </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพจาก INN</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>
    กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน อีสานตอนล่าง ตะวันออก กรุงเทพฯ มีฝนตกหนาแน่น ขณะที่ ศูนย์เตือนภัยพิบัติฯ เตือน ทั่วทุกภาค เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำที่ยังไม่บรรเทา เนื่องจากมีฝนตกหนัก


    ตามที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้ประเมินสภาวะอากาศ ลักษณะภูมิประเทศ และสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง
    ในวันนี้ พิจารณาแล้วพบว่า สถานการณ์ยังไม่บรรเทาลง เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในหลาย
    พื้นที่ยังคงประสบอุทกภัยและเป็นพื้นที่เฝ้าระวังต่อไป

    ภาคเหนือ ยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ จ.ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และ เพชรบูรณ์
    ส่วน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และ อ.เถิน จ.ลำปาง ยังคงเป็นพื้นที่เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และ มหาสารคาม
    ยังคงเฝ้าระวังน้ำท่วมและน้ำล้นตลิ่ง

    ภาคกลาง จ.ชัยนาท สิงห์บุรี นครนายก และ พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำได้ล้นตลิ่งในหลายพื้นที่ จะยังคงอยู่ใน
    สภาวะน้ำท่วมเช่นต่อไปอีก ต่อเนื่องจากอิทธิพลจากการระบายน้ำของเขื่อน และฝนที่ยังคงตกอยู่อย่างต่อเนื่อง
    ส่วน จ.อ่างทอง ปทุมธานี และกรุงเทพมหานคร ยังเป็นพื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมและน้ำล้นตลิ่ง

    ภาคตะวันออก จ.ปราจีนบุรี ระยอง จันทบบุรี และ ตราด ยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นพื้นที่เฝ้าระวังฝน
    ตกหนัก น้ำล้นตลิ่ง และดินถล่ม

    ภาคใต้ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา กระบี่ ภูเก็ต ตรัง และ สตูล อาจจะมีปปริมาณฝนเพิ่ม
    ขึ้น ให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มต่อไป


    ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง บริเวณทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย เริ่มมีกำลังแรงขึ้นอีก ลักษณะเช่นนี้ ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนาแน่นกับมีฝนตกหนักได้บางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณ จ.นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และ ตราด จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา ที่ราบลุ่ม และใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดขึ้นได้ในระยะนี้

    สำหรับ กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25 - 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 - 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 ก.ม./ช.ม.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว และรูปภาพ คุณภาพดี โดย: INN NEWS
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>สตูลฮือฮา! ปลาจระเข้ติดอวนหลังเขื่อนชลประทาน </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>สตูลฮือฮา! ปลาจระเข้ติดอวนหลังเขื่อนชลประทาน</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>
    วันที่ 23 ก.ย. ที่ จ.สตูล ชาวบ้านพบปลาประหลาดมีปากเหมือนจระเข้ที่บริเวณ ม.1 ต.บ้านควน อ.เมืองสตูล

    นายเดหนอน กาสา อายุ 45 ปี ได้นำปลารูปร่างประหลาดที่หลานไปพบมาปล่อยในสระเลี้ยงปลาหลังบ้านเพราะไม่สามารถใส่ในบ่อซิเมนต์ได้เนื่องจากมีขนาดความยาวประมาณ 1 เมตรเศษ น้ำหนัก 5 กก.

    นายเดหนอนกล่าวว่า หลานของตนได้ไปจับปลาที่บริเวณหลังเขื่อนชลประทานพบปลาจระเข้ มีหัวเป็นปากจระเข้ ลำตัวและหางเหมือนปลา ติดอวนอยู่ที่ท้ายเขื่อนชลประทาน เขาเจ๊โป้ ม.1 ต.บ้านควน ตนจึงนำมาใส่ในท่องบ่อซิเมตรขนาด 100 ซม.แต่ไม่สามารถใส่ได้จึงนำมาใส่ในสระบ่อเลี้ยงปลาของตนแทน และเอาปลาทูให้กิน ปลาดังกล่าวนั้นในสตูลไม่เคยพบ แต่เคยไปดูที่ต่างจังหวัดจึงทราบว่าปลาดังกล่าวเป็นปลาจระเข้ ชาวบ้านที่ทราบเรื่องต่างก็มามามุงดูเพราะไม่เคยเห็นวันหนึ่งจำนวนมาก ตนคาดว่าน่าจะเป็นปลาที่คนนำมาเลี้ยงแล้วพอโตนำมาปล่อยในน้ำธรรมชาติก็เป็นได้เพราะสตูลไม่เคยพบเห็นปลาชนิดนี้มาก่อน

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>


    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว)
    เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (24 ก.ย.) ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชาวบ้านพากันไปดู รอยประหลาดคล้ายรอยงูเลื้อยผ่านไปมา ซึ่งชาวบ้านเเชื่อว่าเป็นรอยพญานาค ขึ้นอยู่ที่ข้างรถยนต์ปิกอัพยี่ห้อโตโยต้าวีโก้สีดำ ทะเบียน บ.ม.ฉ 2126 อ่างทอง ของนายนภดล รอดสุด อายุ 40 ปี ที่จอดอยู่ข้างวิหารพระมงคลบพิตร อ.พระนครศรีอยุธยา
    ทั้งนี้ เจ้าของรถ เล่าว่า เดินทางไปกรุงเทพฯแล้วกลับมาจึงจอดรถทิ้งไว้ เมื่อตื่นเช้ามาก็พบรอยดังกล่าว ผู้คนพากันมา กราบไหว้เพราะเชื่อว่าเป็นร่องรอยของพญานาค ซึ่งนายนภดลก็เชื่อว่าเป็นรอยของพญานาคที่มาพร้อมกับน้ำท่วม จึงตั้งใจจะเก็บรอยไว้ก่อน เพื่อความเป็นสิริมงคล
    Mthai News
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ใครเป็นคนดีหรือคนเลว ดูได้จากแสงออร่า !!!
    (แสงออร่า ซ่อนหรือทำให้เพี้ยนไม่ได้ มันบอกนิสัยและสุขภาพของคนๆนั้น )

    [​IMG]

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->The Third Eyes<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_185006", true); </SCRIPT> สมาชิก

    เห็นคนถามกันมาแยะ ก็จะขอตอบรวมๆกันไป

    1. การจะรู้ว่า ตัวเองมีสีอะไร ทำได้ สองวิธี คือ ให้คนมีตาทิพย์ดู หรือ จะฝึกดูเองก็ได้ มีตำราแปลขายมากมาย ซึ่งก็มีหลักเหมือนๆกัน คือ เพ่งกสิณ ทำสมาธิ ขนาด กลาง

    2.แสงออร่า ปกติของคน จะออกห่างจากตัว ตั้งแต่ 1-5 เมตร โดยเฉลี่ย มันจะแสดง เงื่อนไข ของสุขภาพ กายหยาบ และกายใน ( กายทิพย์)

    3. กล้องถ่ายออร่า ในไทย มี สาม-สี่กล้อง อุปกรณ์ไม่แพง แพงที่ ซ๊อฟแวร์ เพราะในการสร้าง ต้องใช้ข้อมูลจากคนนับพันนับหมื่นคน เอาคนที่ รู้เงื่อนไข ชัดๆ เช่น เป็นบ้า เป็นโรคสารพัดชนิด คนใจดี คนเลว คนคุก ฯลฯ ครบสารพัด มนุษย์ เอามาวัดคลื่นความถี่ และความถี่ก็จะตรงกับสี ที่มีค่าเฉพาะตัว เอาข้อมูลทั้งหมด ประมวลไว้ในคอมฯ เวลาใช้ พอเอาคนมาวัด/ถ่าย จะได้สีออกมา มันจะแปลออกมาให้รู้ว่า คนๆนั้นเป็นอย่างไร ราคากล้อง ชุดละ 4-6 แสนบาท เวลาถ่าย ค่าถ่ายจึงแพง ระหว่าง 400-600 บาท (รวมค่าแปล)

    4. แสงออร่า ซ่อนหรือทำให้เพี้ยนไม่ได้ มันบอกนิสัยและสุขภาพของคน ในอเมริกาเขาเริ่มใช้ภาพออร่า เพื่อตรวจในการสมัครเข้าทำงาน ในทำนองเดียวที่เราเรียกว่า ดูโหวงเฮ้ง ทางอ้อมนั่นเอง คนที่ ขี้เกียจ ดนเลว และป่วยภายใน ต่อไปจะหางานยาก เมืองไทยอีกไม่ช้า คงจะมีการใช้กันคนที่ไม่ดี ต้องรีบเปลี่ยนนิสัย ก่อนที่จะสายไป

    5. สีออร่าของคน บอกอะไร?

    สีแดงสด เข้มแข็ง
    สีแดงคล้ำ โหด
    สีส้ม ขยัน สร้างสรรค์
    ชมภู สันติภาพ
    สีเขียว ใจดี
    สีฟ้า ผู้สอน
    สีขาว บริสุทธิ์ แม่ชี
    เหลือง อัจฉริยะ
    ทอง ใกล้ นิพพาน

    พบว่า ประมาณ 0.5-0.8 % ของคนที่มาถ่ายมีสีประหลาด จะเป็นพวก พญานาค เทวดา มนุษย์ต่างดาว แอบมาเกิด ตามวัฏฏะ ที่สลับโลกกันได้ และที่ชัด คือ พวกมีองค์ใน และคนทรง พระเครื่องเวลาถ่ายออร่า จะเห็นเป็นดวง ขนาดโต ขึ้นอยู่กับระดับพลัง ถ้ามาก ก็ยิ่งโต
    แดง คงกระพัน
    แสด แคล้วคลาด
    ม่วง พุทธบารมี
    คราม ป้องกันคุณไสย
    เขียว เมตตามหานิยม
    ฟ้า ค้าขาย/โชคลาภ
    โกโก้/เงิน พลังเทพ/เทวดา

    คนที่มีปัญหา เสื้อฟอร์มที่ขัดกับออร่าตัวเอง แก้ได้โดยใส่เคริ่องประดับ ที่เสริม แยะๆ และใส่ชุดชั้นนในสีที่เสริมเรามากที่สุด เอาที่เข้มที่สุด พวกคนสว่าง ก็เอาแดงไปเลย พวกคนมืด ก็เอาเขียว หรือ น้ำเงินเข้มไป

    มีปัญหาเฉพาะ คู่-สามีภรรยา ที่คนนึงมืด อีกคนสว่าง จะขัดกัน ต้องใช้ของที่ร่วมกันเช่น ที่นอน หมอน ผ้าห่ม สีขาวสีเดียวที่เป็นกลาง จึงจะไปกันได้นะครับ<!-- google_ad_section_end -->

    บทความโดยอาจารย์อาชวิน จีรจินดา (<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->The Third Eyes)
    26-01-2006, 06:33 PM

    ที่มา ออร่าแสงแห่งชีวิตและสิ่งแวดล้อม - PaLungJit.com

    หมายเหตุ

    ท่านที่ได้อ่านบทความของอาจารย์อาชวิน จีรจินดา ที่อธิบายความหมายของแสงออร่านี้แล้ว คงจะหายสงสัยแล้วนะครับว่า เวลาที่มนุษย์ต่างดาว(ฝ่ายดี) เทวดา หรือผู้ที่มีอภิญญาทั้งหลาย จะมาช่วยคนดีมีศีลธรรม ให้รอดพ้นจากภัยพิบัตินั้น เขารู้ได้อย่างไรว่าใครเป็นคนดีหรือใครเป็นคนเลว ที่แท้พวกเขาก็ดูจากรัศมีกาย หรือที่ฝรั่งเรียกกันว่าแสงออร่านี้นั่นเอง เพราะฉนั้นใครที่มีแสงออร่าเป็นสีแดงคล้ำ(โหด) ต้องรีบเปลี่ยนนิสัย ก่อนที่จะสายเกินไปนะครับ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • aura-chakra.jpg
      aura-chakra.jpg
      ขนาดไฟล์:
      25.7 KB
      เปิดดู:
      3,470
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กันยายน 2011
  9. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    เสียดาย อาจารย์ท่านไม่อยู่แล้ว ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    หมอนิดทำนาย ไทยกับเขมรจะรบกันอีก แม้เพื่อไทยจะได้เป็นรัฐบาล !!!

    [​IMG]

    'มาร์ค-เน'ดวงฝ่ายค้าน! พท.ตั้งรบ.แต่ถูก'ปฏิวัติ' หมอนิดฟันธงมีนองเลือด 'ฮุนเซน'ดวงตกเขมรเละ

    "หมดนิด" ฟันธง "มาร์ค" โอกาสริบหรี่คัมแบ็คนายกฯ ดวง "เน" ตกอุ้มไม่ไหว เตือน"ป๋าดัน"อย่าดันทุรัง พท.มาวินได้ตั้งรบ.แต่อาจโดนยึดอำนาจ หลังเลือกตั้งเละ ปี 54-55 บ้านเมืองยังวุ่น นองเลือด "แม้ว" ไม่ได้กลับปท. กลัว "บิ๊กตู่" ก้างขวางคอ "ฮุนเซน"ดวงตก รบกับไทยอีก ส่งผลเขมรเละ

    วันที่ 10 พ.ค.2554 นายกิจจา ทวีกุลกิจ (หมอนิด) หมอดูการเมือง กล่าวกับ "ไทยอินไซเดอร์" เกี่ยวกับการประกาศยุบสภา แล้วจัดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 3 ก.ค.นี้ว่า นายกฯอภิสิทธิ์ (เวชชาชีวะ) จะไม่สามารถกลับเข้ามาเป็นนายกฯรอบสองได้ เพราะต้องเจอศึกหนัก การเลือกตั้งในวันดังกล่าวเป็นอริกับดวงนายกฯอภิสิทธิ์ ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เสียงเกิน 200 อย่างที่หวัง แถมยังรักษาจำนวนที่นั่งเดิมไว้ได้ลำบาก

    "การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 ก.ค. ถ้าเป็นวันนี้ อภิสิทธิ์หงายเก๋งนะ เพราะวันที่ 3 เป็นธาตุดิน เป็นภาคีเป็นอริกับวันเดือนปีเกิดของอภิสิทธิ์โดยตรง สิ่งที่เขาวาดหวังว่าจะได้ 200 ที่นั่ง ผมว่าให้ได้เท่าเก่าก็ถือว่าเก่งแล้ว ผมยังมองว่าเขาจะไม่ได้เท่าเก่า ถ้าไม่เล่นกลไม่มีทางได้ 180 เสียง เพราะปีนี้เป็น "ปีกระต่ายเจ้าเล่ห์แสนโกง" เจอศึกหนักครับอภิสิทธิ์ เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะกลับมาอีกครั้งหนึ่งผมมองไม่เห็นว่าจะเป็นไปได้ นอกจากรวบหัวรวบหางคนมีสีช่วยกัน คือถ้าพรรคเพื่อไทยไม่ได้ 270 เสียงขึ้นไป...เหนื่อย ถ้าได้ 250 เสียง มันจะเหนื่อย ผมมองว่าพรรคเพื่อไทยได้มาอย่างน้อย 240 เสียง บวกลบ 10 เสียง"นายกิจจากล่าว

    เลือกตั้งนองเลือด ต้องเลือก"รบ.เสียหาย-รบ.หายนะ" ถ้าพท.เป็น รบ.มียึดอำนาจอีกแน่

    เมื่อถามว่า การเลือกตั้งมีแนวโน้มเป็นอย่างไร นายกิจจา กล่าวว่า "การเลือกตั้งครั้งนี้ผมเกรงว่าจะไม่ใช่การเลือกตั้งแล้วจบ มันจะจบไม่สวย จบด้วยการนองเลือด มีโอกาสเป็นไปได้สูง การเลือกตั้งเที่ยวนี้มีปัญหา พรรคเพื่อไทยก็จะโดนสอย จะโดนสกัดไม่ให้เป็น(รัฐบาล) ถ้าหากพรรคเพื่อไทยได้ ก็มีปัญหา ชนะคือชนะอยู่แล้ว ผมมองว่าเพื่อไทยชนะเด็ดขาด แต่ชนะแล้วมีปัญหาเกิดทีหลัง อาจจะมีการทอดผ้าป่าสามัคคี 4 เหล่าทัพ มันต้องมีเหตุใดเหตุหนึ่ง ไม่ช้าก็เร็วต้องเกิด และถ้าพรรคเพื่อไทยชนะแล้วไม่ได้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล ประชาธิปัตย์ไปรวมกับภูมิใจไทย รวมกับพรรคเล็กๆตามที่คนมีสีสั่ง บ้านเมืองก็เสียหายเละ หายนะเกิดขึ้น"

    "ถ้าอภิสิทธิ์เข้ามาเป็นนายก รัฐมนตรีอีกสมัยหนึ่งได้ บ้านเมืองเสียหายภาคสองจะเกิดเข้ามา พรรคเพื่อไทยเข้ามาก็หายนะเกิดเข้ามา เพราะฉะนั้นให้เลือกเอาระหว่างหายนะกับเสียหาย"หมอดูชื่อดังกล่าว

    ดวงเมืองปี '54-'55 น่ากลัว โอกาสเละเป็นโจ๊ก ใครมาเป็นนายกฯจะดวงซวย

    เมื่อถามว่า มีทางเลือกอื่นหรือไม่ นายกิจจา กล่าวว่า "มันไม่มีทาง เพราะว่าดวงเมือง ปี '54 ติดต่อ ปี '55 ดวงเมืองน่ากลัวมาก ผมว่าปี '54 ติดต่อ ปี '55 จะมีการนองเลือด บ้านเมืองปีหน้าเละยิ่งกว่าโจ๊ก ปีนี้กับปีหน้าติดต่อกันเลยนะ '54-'55 บ้านเมืองไม่มีวันสงบ ภัยธรรมชาติก็ยังมีอยู่ สารพัดที่จะเจอ ใครมาเป็นนายกฯก็จะเป็นนายกฯซวย ซวยที่ได้มาเป็นนายกฯ

    เมื่อถามว่า ไม่มีดวงใครที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาได้ นายกิจจา กล่าวว่า "ถ้าจะเกิดมันจะเกิดก่อนเลือกตั้ง แต่ทหารเขาบอกไม่มีการปฏิวัติ แต่ผมว่าสุดท้ายถ้าไม่ปฏิวัติเงียบ ก็ปฏิวัติจริงจังหลังจากพรรคเพื่อไทยขึ้นมาได้ไม่นาน ต้องมีเหตุ ถ้าไม่มีการเลือกตั้ง อาจจะเกิด (ปฏิวัติ) ก่อนถึงกำหนด ถ้าเลย (เลือกตั้ง) ไปแล้ว ตามที่ทหารสัญญาว่าจะไม่ปฏิวัติ ก็คือปล่อยให้เลือกตั้งไปเสร็จก่อน คือพรรคเพื่อไทยต้องเจอด่านสกัดรุนแรงเยอะมาก จุดนี้จะทำให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟ"

    "มาร์ค"โอกาสริบหรี่คัมแบ็ค ดวง"เน"ตกอุ้มไม่ได้ ส่อเป็นฝ่ายค้านทั้งคู่

    เมื่อถามย้ำว่า คุณอภิสิทธิ์มีโอกาสน้อยที่จะได้กลับเข้ามาอีก นายกิจจา กล่าวว่า "น้อยครับ ประชาธิปัตย์น่าจะได้ 150-170 เสียงเท่านั้นเอง ถ้าหากประชาธิปัตย์ได้ 180 ขึ้นไป ชักจะมีกลิ่น"

    อภิสิทธิ์-เนวิน-หมอนิด

    เมื่อถามถึงพรรค ภูมิใจไทย หมอนิด กล่าวว่า พรรคของคุณเนวิน (ชิดชอบ) ต้องบอกว่าดวงเนวินปีนี้ไม่ดี โอกาสที่จะได้มากอย่างที่บอกว่าจะได้ 70-100 เสียง มันคงยาก แต่ก็ประมาทเขาไม่ได้ เพราะว่าเขาสนิท ทั้งสุเทพก็สนิทกับบิ๊กๆคนมีสี เพราะกลุ่มนี้ต้องการที่จะแยกกันเดิน รุมกันกระทืบพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว รุมกันกระทืบยังไงพรรคเพื่อไทยก็ชนะ...ยืนยัน

    เมื่อถามว่า ดวงคุณเนวินไม่สามารถอุ้มชูประชาธิปัตย์ได้ นายกิจจา กล่าวว่า "ผมมองว่าจะเป็นฝ่ายค้านด้วย ถ้าพูดกันตามหลักประชาธิปไตยจริงๆ พรรคที่ได้เสียงข้างมากเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลนะ เนวินกับประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน"

    "แม้ว"โอกาสกลับไทยยาก "บิ๊กตู่"ก้างขวางคอชิ้นใหญ่

    เมื่อถามถึงโอกาสการได้กลับประเทศไทยของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายกิจจา กล่าวว่า โอกาสกลับมันยาก เขาพูดเพื่อ...โถใครฟังเขาก็บ้าแล้ว เขาต้องการปลุกระดม พรรคเพื่อไทยต้องยอมรับว่าพลังของคนเสื้อแดงมันเหนียวแน่นมาก ถ้าเอาหมาลงเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทยเขายังเลือกกันเลย แต่ประชาธิปัตย์คนเบื่อกันเยอะแล้ว

    "คือทหารจะแนบแน่นกับพรรคฝ่าย รัฐบาลปัจจุบันมากกว่า แล้วทหาร...ต้องบอกว่าทักษิณกลัวพล.อ.ประยุทธ์(จันทร์โอชา ผบ.ทบ.)มากที่สุด ถ้าประยุทธ์ไม่เปลี่ยนแปลง ทักษิณไม่มีทางได้กลับ" หมอนิด กล่าวย้ำ

    เตือน"ป๋าดันมาร์ค" ยังดันทุรังต่อ ปท.เสียหาย

    เมื่อถามย้ำว่า คนที่เบื่อมีทั้งคนที่เคยหนุนหลัง คนที่อุ้ม คนที่ชื่นชอบ นายกิจจา กล่าวว่า ไม่เอาแล้ว ถ้ายังป๋าดันนะ บ้านเมืองเสียหายภาคสอง

    เมื่อถามว่า เป็นเพราะดวงคุณอภิสิทธิ์ไม่ดี หรือเพราะการทำงานไม่เข้าตา หมอดูชื่อดัง กล่าวว่า คุณอภิสิทธิ์ก็ไม่ดีด้วย คุณดูสิว่าตั้งแต่เป็นนายกฯมา ถ้าไม่มีโครงการกู้บ้านหลังแรก ไม่มีผลงานอะไรเลย มีแต่ไข่ชั่งกิโลอย่างเดียว

    ไทย-เขมรมีโอกาสเปิดสงคราม ดวง"ฮุนเซน"กำลังตก เขมรเละ

    หมอดูรายนี้ยังกล่าวอีกว่า ประเทศไทยยังยุ่ง สงครามระหว่างไทยกับเขมรยังเกิดอยู่ รุนแรงด้วย ทีนี้เละกันไปข้างนึง..เขมรเละ

    เมื่อถามว่า แม้จะเปลี่ยนรัฐบาลเป็นพรรคเพื่อไทยแล้ว หมอนิด กล่าวว่า รบครับ ดวงฮุนเซน(นายกฯกัมพูชา)ไม่ดีแล้ว ไม่ดีอีก 2 ปีครึ่งนับจากนี้ไป ถ้าวันเดือนปีเกิดที่ผมได้มาไม่ผิด ฮุนเซนเกิดวันที่ 5 ส.ค. 2495 หรือ วันที่ 4 เม.ย.2494 แต่เทียบแล้วน่าจะเป็นวันที่ 5 ส.ค.มากกว่า

    ข่าวจากหนังสือพิมพ์ไทยอินไซเดอร์ วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2554 เวลา 10:39 น.

    ที่มา http://thaiinsider.info/news2011/column/specialscoops/12531-2011-05-10-03-41-18
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2011
  11. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ตอ.-อีสาน-ใต้ ฝน 60-70% เตือน 4 จ.ระยอง-จันทบุรี-ตราด-ระนอง ฝนตกหนัก </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.วันนี้ (26 ก.ย.)

    ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่พายุโซนร้อน “ไห่ถาง” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง หรือที่ละติจูด 17.0 องศาเหนือ และ ลองจิจูด 111.7 องศาตะวันออกโดยกำลังเคลื่อนนอกชายฝั่งประเทศเวียดนามอย่างช้าๆ ไปทางทิศตะวันตก

    ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ยังมีฝนตกหนักได้บางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี ตราดและระนอง จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา ที่ราบลุ่ม และใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่จะเกิดขึ้นได้ในระยะนี้

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.
    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีลมแรง ส่วนมากบริเวณบริเวณจังหวัดตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งกับมีลมแรงบริเวณจังหวัดหนองคาย นครพนม มุกดาหาร และอำนาจเจริญ อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งกับมีลมแรงบริเวณจังหวัดลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งกับมีลมแรง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 3 เมตร
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 2-3 เมตร
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 3 เมตร
    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจายร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ายกฯปู ลงพื้นที่ซับน้ำตาลพบุรี </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>นายกฯปูดูปัญหาน้ำท่วมลพบุรี รับปากชาวบ้าน เร่งช่วยเหลือชงครม.จ่ายชดเชย สั่งมท.ขนเรือท้องแบน ให้ก่อน500ลำ


    เมื่อวันที่ 25 ก.ย. คณะนายกรัฐมนตรี นำโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รมว.มหาดไทย พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม นายพระนาย สุวรรณรัฐ รักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ผวจ.ลพบุรีนำคณะลงเรือเข้าเยี่ยมชาวบ้านที่วัดเทพอำไพ ต.บางขาม ซึ่งอาศัยศาลาการเปรียญหลับนอน เนื่องจากในหมู่บ้านน้ำท่วมสูง 150 ซม.ก่อนไปเยี่ยมชาวบ้านต.บ้านชี แจกถุงยังชีพผู้เดือดร้อน

    น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวกับชาวบ้านว่า ได้มอบหมายรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงเข้าดูแลช่วยเหลือชาวบ้าน พร้อมให้ผวจ..ลพบุรีดูแลย้ายชาวบ้านไปอยู่ในที่ปลอดภัย และจัดหาบ้านพักชั่วคราว เครื่องอุปโภค บริโภค และยารักษาโรค ตนจะหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องงดเว้นระเบียบให้ผวจ.เบิกจ่ายงบป้องกันภัยในพื้นที่เสี่ยงภัยได้ทันเหตุการณ์ และวันที่ 26 ก.ย.นี้ จะให้กระทรวงมหาดไทยนำเรือท้องแบน 500 ลำมอบให้ชาวบ้านด้วย สำหรับพื้นที่เกษตรกรรมและบ้านเรือนเสียหายจะเร่งนำเรื่องเข้าครม.พิจารณาอนุมัติการจ่ายค่าชดเชยเร็วที่สุด


    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างลงพื้นที่ต.บ้านชี นายกฯได้กราบนมัสการหลวงพ่อเพี้ยน อัคค ธัมโม เจ้าอาวาสวัดเกริ่นกระถิน ที่นายกฯนับถือ

    และมอบวัตถุมงคลรูปหล่อหลวงพ่อเพี้ยน รูปปั้นเสือ พร้อมเหรียญและตะกรุดให้นายกฯ จากนั้นนายกฯและคณะลงพื้นที่วัดท่าโขลง ต.ท่าโขลง อ.ท่าวุ้ง มอบมอบถุงยังชีพให้ชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วม ก่อนไปเยี่ยมนางเบ้า สมงาม อายุกว่า 80 ปี ชาวบ้าน ต.บางงา อ.ท่าวุ้ง ที่เพิ่งถูกไฟไหม้ โดยนายกฯเข้าพูดคุยให้กำลังใจ ต่อจากนั้นนายกฯปรุงอาหาร ทอดไก่บนรถประกอบอาหารเคลื่อนที่ของกองทัพที่มาทำอาหารให้ชาวบ้านด้วย


    น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ขณะนี้กำลังดูระเบียบกติกาต่างๆ ที่เป็นปัญหาในการเบิกจ่ายงบประมาณในพื้นที่เสี่ยงภัย

    หากมีงบเพียงพอจะป้องกันภัยได้ จะเสนอที่ประชุมครม. พิจารณาให้เกิดความคล่องตัว ส่วนที่ชาวบ้านร้องเรียนค่าชดเชยพื้นที่เกษตรกร2,222 บาทต่อไร่ ไม่เพียงพอนั้น เบื้องต้นคงชดเชยร้อยละ 55 ของต้นทุกจริง แต่หากต้นทุนสูงขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงก็พร้อมทบทวนใหม่


    เมื่อถามว่าช่วงเช้าที่ไปร่วมงานเดินรณรงค์ รวมพลังต่อต้านคอร์รัปชั่นและพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านนั้น นายอภิสิทธิ์มอบจดหมายให้ตนพิจารณาก็รับเรื่องมาแล้ว

    จะส่งรองนายกฯที่ดูแลดำเนินการ กรณีให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบและเสียหายจากน้ำป่าไหลหลากที่ ต.โป่งน้ำร้อน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ได้สั่งการนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมช.คลัง ไปดูพื้นที่แล้ว รวมทั้งได้โฟนอินแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียรวมทั้งจะดูแลเรื่องเงินชดเชย บ้านเรือนที่เสียหายทั้งหลังให้นำเงินที่ได้รับบริจาคจากประชาชนไปช่วยเหลือ


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    เกาะติดสถานการณ์น้ำท่วม

    [​IMG]
    อัพเดตสถานการณ์น้ำท่วม 26 กันยายน 54
    08.25 น. พายุไห่ถางเข้าเวียดนาม เตือนอีสานฝนตกหนัก
    ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ประกาศเตือนพายุโซนร้อนไห่ถาง ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ห่างจาก จ.นครพนม ประมาณ 800 กม. จะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบนวันที่ 27 ก.ย.นี้ ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ได้แก่ จ.นครพนม มุกดาหาร สกลนคร หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี และหนองบัวลำภู
    ……………………………………………………………………………………………………………………………
    25 ก.ย. 54
    22.45น. กาฬสินธุ์ : น้ำท่วมหนัก 8 อำเภอ บ้านเรือนกว่า 1,500 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วมสูง 2 เมตร ถนนหลายสายถูกตัดขาดประชาชนเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ โดยเฉพาะในเขตรอยต่อตำบลหนองสรวง ตำบลหนองบัว ตำบลเสาเล้า อ.หนองกุงศรี และ ตำบลบึงนาเรียง อ.ห้วยเม็ก และตำบลโนนศิลา ต.โนนแหลมทอง อ.สหัสขันธ์
    18.24 น. ปราจีนบุรี : น้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้ไหลทะลักเข้าท่วมถนนเอเชียหมายเลข 1 หรือ 33 สุวรรณศร หลักกิโลเมตรที่ 174 -177 อยู่ในพื้นที่เทศบาลตำบลโพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี สูงราว 50-70 ซม. ส่งผลให้รถยนต์สัญจรผ่านได้อน่างลำบาก และทำให้การจราจรติดขัดเป็นระยะทางยาวกว่า 3 กม.
    17 .30 น. นครสวรรค์ : รางรถไฟสานเหนือระหว่างสถานีรถไฟปากน้ำโพ-สถานีรถไฟบึงบอระเพ็ด และระหว่างสถานีทับกฤษ-คลองปลากด ถูกน้ำจากบึงบอระเพ็ดไหลเข้าท่วมรางสูง 10 เซนติเมตรเป็นระยะทางยาว 300-500 เมตรทั้ง 2 จุด ส่งให้ขบวนรถไฟทั้งรถโดยสารและรถขนส่งสินค้าทุกขบวน ต้องใช้ความเร็วต่ำได้เพียง 5 กิโลเมตร/ชั่วโมงเท่านั้น ส่งผลให้การเดินทางล่าช้าไปกว่ากำหนดอย่างน้อย 1-3 ชั่วโมง ขณะที่สถานีรถไฟนครสวรรค์เผย หากน้ำท่วมสูงกว่า 15 เซนติเมตรก็จะปิดการเดินรถไฟทันที เนื่องจากคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นหลัก

    14.00 น. กรมชลฯ :
    กรมชลประทานออกประกาศประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำป่าสักให้ระวังภัยน้ำท่วมเชื่อมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นใน 1-2 วันนี้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีรุดดูน้ำท่วมที่ลพบุรีบอกเสียใจเห็นประชาชนเดือดร้อน เล็งขออนุมัติงบเพิ่ม วอนร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน
    11.31 น. ลพบุรี :ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ประกาศเตือนชาวบ้านเตรียมรับน้ำก้อนใหญ่ท่วมตัวอำเภอบ้านหมี่ หลังจากแนวคันดินมโนรมพัง และไม่สามารถหยุดหรือชะลอน้ำจากประตูบางโฉมศรีได้ คาดระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีก สั่งเพิ่มคันดินล้อมรอบ
    09.30 น. กรมอุตุฯ : เผยอีสานตอนล่าง-ตะวันออกฝนตกชุก
    กรมอุตุฯ เผยภาคอีสานตอนล่างและตะวันออกมีฝนตกชุกกับมีฝนตกหนักมากได้บางพื้นที่ 11จว.ระวังน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าหลาก กทม.ฝนคะนอง 70%
    ……………………………………………………………………………………………….
    24 ก.ย. 54
    18.40 น.ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.)
    เตือนอ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และ อ.เถิน จลำปาง เสี่ยงน้ำป่าดินถล่ม24-25ก.ย.นี้
    14.00 น. ลำปาง - ลำห้วยแม่มอญไหลหลากท่วมบ้านเรือนราษฎร บ้านศรีดอนมูล ม.2 และ บ้านหลวง ม.5 ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง หลังจากเมื่อกลางอึก เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง จนถึงช่วงเช้าวันนี้ ระดับน้ำ สูงประมาณ 50 เซนติเมตร และยังไหลท่วมโรงเรียนบ้านหลวง ด้วย
    12.15 น. : ประกาศจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.)
    - เตือนจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ นครนายก และปราจีนบุรี เสี่ยงอุทกภัย และระดับน้ำยังไม่ลด
    - จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด เสี่ยงต่อน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม
    - ในระยะ 1-2 วันนี้(24-25 ก.ย.) ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงไปอาจจะมีปริมาณฝนตกหนักให้ระวังน้ำท่วมฉับพลันหรือน้ำท่วมขัง
    10.15 น. เชียงใหม่ : น้ำป่าทะลัก ดินถล่ม เด็กตาย 1คน สูญหายอีก 3 คน
    09.40 น.ชัยนาท- 4 อำเภอติดเจ้าพระยา น้ำท่วมหนัก เพราะว่า จ.นครสวรรค์ และอุทัยธานี ยังคงระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง ในเขตเทศบาลตอนนี้ ต้องตั้งคันกั้นน้ำสูงถึง 2 เมตร เพื่อป้องกันน้ำทะลักเข้าท่วมตัวเมือง
    …………………………………………………………………………………………………………
    23 ก.ย. 54
    17.50 น. อุทัยธานี - น้ำท่วมหนักในตำบลเกาะเทโพ และ ตำบลท่าซุง ชาวบ้านต้องใส่ชูชีพ
    15.15 น. ศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.)
    รองผอ. ศอส. เตือนประชาชนว่า ในช่วงวันที่ 23-25 ก.ย. ให้รับมือฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ในบริเวณอาศัยใกล้พื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ราบลุ่ม ใน 47 จังหวัด ได้แก่
    แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน พิษณุโลก สุโขทัย เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี หนองบัวลำภู เลย หนองคาย อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร ชัยภูมิ นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง
    15.12 น. มหาสารคาม : ได้ประกาศเขตภัยพิบัติน้ำท่วมเพิ่มขึ้นอีก 3 อำเภอ คือ ที่ อ.ชื่นชม บรบือ และ อ.กุดรัง รวมประกาศเขตภัยพิบัติน้ำท่วมแล้ว 9 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง กันทรวิชัย โกสุมพิสัย เชียงยืน นาเชือก พยัคฆภูมิพิสัย ชื่นชม บรบือ และ อ.กุดรัง รวม 71 ตำบล 639 หมู่บ้าน 30 ชุมชน ราษฎรเดือดร้อน 145,145 คน 40,178 ครัวเรือน
    15.00 น.ปภ. : เตือน47จังหวัด เหนือ และอิสาน ระวัง ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในช่วงวันที่ 23-25 ก ก.ย.นี้ หลังมีฝนตกหนัก จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยหมั่นสังเกตสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ
    เช่น น้ำในลำธารเปลี่ยนสีเป็นสีเดียวกันกับดินบนภูเขา ฝนตกหนักนานเกินกว่า 6 ชั่วโมง ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว มีต้นไม้ขนาดเล็กไหลปนมากับน้ำ เป็นต้น ให้สันนิษฐานว่าอาจเกิดน้ำป่าไหลหลากและดินถล่มขึ้นได้ ให้รีบอพยพออกจากพื้นที่ในทันที
    14.55น. ลพบุรี :หลายพื้นที่ยังมีน้ำท่วมหนักอย่างต่อเนื่อง หลังประตูน้ำบางโฉมศรี อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี พัง ทำให้ประชาชนกว่า 4,000 ครอบครัวไม่มีที่อยู่อาศัยต้องหอบข้าวของขึ้นมาจับจองที่พักบนถนนสาย 3028 หรือถนนสายบางงา-บ้านหมี่ ด้านเจ้าหน้าที่สั่งเร่งช่วนเลือ และอพยพคนป่วย-คนชรา เป็นการด่วน
    09.55 น. พิษณุโลก - แม่น้ำน่านช่วงไหลผ่านเมืองพิษณุโลกจะทรงตัวสูงที่ระดับ 10.92 ม.ต่อไปอีก 2-3 วัน และได้ปรับลดอัตรการระบายน้ำแล้ว
    - ขณะที่ปริมาณน้ำในเขื่อนสิริกิติ์ จ. อุตรดิตถ์ ขณะนี้อยู่ที่ 98% แล้ว แต่จะไม่มีผลกระทบต่อ จ.พิษณุโลก เนื่องจากเป็นการระบายไล่หลังน้ำจากน้ำปาด และคลองตรอน และสภาพโดยรวมของแม่น้ำน่านเมืองพิษณุโลกจึงคงต้องทรงตัวสูงอย่างนี้อีกหลายวัน
    09.30น. พิจิตร – น้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ไหลสะสมในพื้นที่จังหวัดพิจิตร ทำให้ปริมาณน้ำท่วมสูง จนถึงเส้นทางการเดินทางรถไฟ ด้านทิศตะวันออก ในขณะที่ด้านทิศตะวันตกก็มีน้ำจากแม่น้ำน่าน ล้นตลิ่ง และมาบรรจบกับน้ำป่า
    -โดยมีรางรถไฟเป็นแนวกั้นน้ำระหว่างน้ำป่า และน้ำจากแม่น้ำ โดยบางจุด น้ำได้ล้นท่วมเส้นทาง ช่วงระยะทางระหว่าง สถานีตะพานหิน ถึง ห้วยเกตุ ระยะทาง 2 กิโลเมตร ระดับน้ำท่วมถึงหมอนรางรถไฟ และในช่วงระหว่างสถานีพิจิตร ถึงสถานีท่าฬ่อ เป็นระยะทาง 1 กิโลเมตร ส่งผลใหืการเดินรถไฟช้ากว่ากำหนดทราว 15 นาที ทุกขบวน
    09.25 น. อุบลราชธานี : น้ำป่าจากเทือกเขาพนมดงรัก ไหลทะลักท่วม 22 หมู่บ้าน ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักระดับน้ำมีความสูงกว่า 1 เมตร
    09.20 น. ชัยนาท : น้ำไหลเชี่ยวกัดเซาะถนนเลียบคันคลองมหาราช ต.หาดอาษาอ.สรรพยา ถ.ขาดเป็นระยะ ชาวบ้านต.ตลุกย้ายมาเพิงพักบนถ.บางส่วนย้ายไปบนถ.เอเชีย
    09.00น. กาฬสินธุ์ : สถานการณ์น้ำล้นเขื่อนลำปาว เข้าสู่จุดวิกฤติ เขื่อนรับน่ำเต็มความจุ 100% คือ 1,980 ล้านลูกบาศก์เมตร
    ส่งผลให้พื้นที่ท้ายน้ำ ฝั่ง อ.เมือง อ.สหัสขันธ์ บ้านเรือนประชาชน รวมถึง สถานที่ท่องเที่ยวถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร และยังขยายวงกว้างไปถึง อ.หนองกุงศรี ซึ่งมีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วม และ 108 หลังคาเรือน ใน 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน
    ……………………………………………………………………………………………….
    22 ก.ย. 54
    17.15 น. พิจิตร แม่น้ำแม่น้ำยม ในเขตเทศบาลตำบลโพทะเล ที่สถานีวัดน้ำ Y. 5 ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 3 เซนติเมตร ระดับน้ำอยู่ที่ 8.96 เมตร สูงกว่าจุดวิกฤติอยู่ 2.01 เมตร
    - แม่น้ำน่านระดับน้ำแม่น้ำน่าน ที่บ้านราชช้างขวัญในเขต อ.เมืองพิจิตร ที่สถานีวัดน้ำ N. 7A ระดับน้ำ เพิ่มขึ้น 1 เซนติเมตร ระดับน้ำอยู่ที่ 11.53 เมตร สูงกว่าจุดวิกฤติ 1.32 เมตร
    17.10 น. ศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและ การบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.)
    เตือน ช่วงวันที่ 22 – 23 ก.ย.จะมีฝนตกหนักใน 15 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ ลพบุรี สระบุรี เลย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด
    17.10 น. อ่างทอง เจ้าหน้าที่เร่งป้องเขตเศรษฐกิจ หลังน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นจนเกินจุดวิกฤติ
    17.00น. ลพบุรี ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติน้ำท่วมทั้งจังหวัดแล้ว
    15.22 น. ตาก : ระดับน้ำในเขื่อนภูมิพล ขณะนี้อยู่ที่ 89% การระบายน้ำยังทรงตัว
    - อุตรดิตถ์ : เขื่อนสิริกิติ์ ระดับน้ำมีมากถึง 97%
    - พิษณุโลก : ปริมาณน้ำในเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน อยู่ที่ระดับ 99% แล้ว จากการเร่งระบายน้ำ จึงอาจส่งผลต่ออำเภอวัดโบสถ์ ได้
    - ลพบุรี : เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ระดับอบุ่ที่ 116% แต่ฝนก็ยังตกอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การระบายในครั้งนี้ อาจก่อให้เกิดน้ำท่วมหนักขึ้นในบริเวณพื้นที่ท้ายเขื่อนทั้งในจังหวัดลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อำเภอท่าเรือ และนครหลวง ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    15.20 น. ชัยภูมิ : มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของอำเภอเมือง บ้านเขว้าและอำเภอจัตุรัส ยังคงไม่คลี่คลาย โดยน้ำมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ
    15.18 น. อุบลราชธานี : ระดับน้ำแม่น้ำมูล ที่จุดวัดระดับน้ำสะพานเสรีประชาธิปไตย สูงกว่าตลิ่งเพิ่มขึ้น ส่งผลให้น้ำที่ท่วมขังชุมชนราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำมูลรวม 22 ชุมชน
    - เขตเทศบาลนครอุบลราชธานีและเทศบาลเมืองวารินชำราบ บางชุมชน น้ำสูงกว่า 1.50 เมตร
    15.15 น. สิงห์บุรี : เร่งถมหินซ่อมประตูระบายน้ำพระงาม อ.พรหมบุรี แต่น้ำยังคงไหลท่วมบ้านเรือนประชาชนอยู่
    15.10 น. อ่างทอง : หลังเปิดประตูระบายน้ำยางมณี น้ำล้นข้ามถนนสายวัดสามประชุม ตำบลบางระกำ อำเภอโพธิ์ทอง เข้าท่วมพื้นที่อย่างรวดเร็ว เพียงไม่ถึงชั่วโมงระดับน้ำเพิ่มน้ำสูงกว่า 1 เมตร
    11.10 น. พิษณุโลก : น้ำจากแม่น้ำยมยังไหลผ่านอำเภอบางระกำ จนน้ำล้นตลิ่งสูงเกือบ 4 เมตร
    11.05 น. พิจิตร : อำเภอสามง่มน้ำล้นตลิ่ง สูง 76 ซ.ม.
    11.00 น. พระนครศรีอยุธยา : ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ในอำเภอบางบาล มีน้ำไหลผ่านเพิ่มขึ้น 1,258 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ล้นตลิ่ง 43 ซ.ม.
    10.00 น. นครราชสีมา : ปริมาณน้ำในลำน้ำมูลเอ่อล้น ท่วมบ้านเรือนใน ต.สัมฤทธิ์ อ.พิมาย สูงกว่า 60 ซ.ม.
    ………………………………………………………………………………………………….
    21 ก.ย. 54
    19.00 น. นครสวรรค์ : ถนนหลายสายไม่สามารถผ่านได้ อาทิ นครสวรรค์ ต่อเขตแขวงการทางฯพิจิตร , ทางเลี่ยงเมือง นครสวรรค์ด้านตะวันตก , สายนครสวรรค์ ชุมแสง ,สายลาดยาว – วังซ่าน , ทางหลวงหมายเลข 1 -บรรพตพิสัย , บรรพตพิสัย ต่อเขตแขวงกำแพงเพชร ,นครสวรรค์ – โกรกพระ , โกรกพระ – อุทัยธานีและช่วงทางแยกเข้าตลาดพยุหะคีรี
    - ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น 3 ซ.ม.
    - ที่สถานีวัดน้ำ C 2 ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง มีหลายแห่งที่น้ำเริ่มล้นคันกั้น
    14.20 น. พระนครศรีอยุธยา
    - น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ป่าสัก ลพบุรี และแม่น้ำน้อย เพิ่มสูงขึ้น 5-10 ซ.ม.
    - ชาวบ้านใน อ.บางปะอิน , อ.บางบาล ,อ.ผักไห่ และอำเภอเสนา ที่อศัยริมแม่น้ำ ระดับน้ำสูงขึ้น 2-4 ม. เจ้าหน้าที่เร่งนำประสอบทรายมากั้น
    - น้ำเหนือไหลมาถุงส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น กรมศิลปากรเตรียมรับมือ ป้องกันโบราณสถาน
    - หน้าวัดพนัญเชิง ระดับน้ำสูงกว่าด้านในวัน 1.50 ม.
    14.00 น.ประกาศจากกรมอุตุฯ ฉบับที่ 9
    - ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศไทย ในช่วงวันที่ 21-23 กันยายน นี้ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัด ปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย
    - ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก มีฝนหนาแน่น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากได้บางพื้นที่
    โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์ ลพบุรี สระบุรี เลย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด
    -สำหรับทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน จะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะ
    10.25 น.อุทัยธานี : ต.เกาะเทโพ อ.เมือง พื้นที่ 14,000 ไร่ ประสบภาวะน้ำท่วมหมด ผู้ว่าฯแจง อำเภอเมือง ทั้งหมด ถูกน้ำท่วมไปแล้วกว่า 80%
    10.10 น. ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.)
    แจ้งว่า ในวันที่ 21-22 กันยายนนี้ อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยรวม 14 อำเภอ ประกอบด้วย
    อ.หล่มสัก อ.หล่มเก่า อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์
    อ.ด่านซ้าย จ.เลย
    อ.ชาติตระการ อ.วังทอง อ.เนินมะปราง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก
    อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น
    อ.ขลุง อ.มะขาม อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี
    และอ.เขาสมิง อ.บ่อไร่ จ.ตราด

    10.00 น. ชัยนาท : พนังกั้นน้ำบ้านดักคะนนพังน้ำทะลักเข้าท่วม ต.ธรรมามูล-เขาท่าพระ-เสือโฮก อ.เมือง
    ………………………………………………………………………………………………..
    20 กันยายน 54
    18.00 น. ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)
    เตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ราบลุ่ม รวม 36 จังหวัด ได้แก่
    แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน พิษณุโลก สุโขทัย เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี หนองบัวลำภู เลย หนองคาย อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่นมหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร ชัยภูมิ นครราชสีมา สุรินทร์ และบุรีรัมย์
    เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในช่วงวันที่ 20-25 ก.ย.นี้
    - ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย และดินถล่มสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784
    16.39 ลพบุรี : รองผอ. ศอส. ได้สั่งเตือนประชาชนในพื้นที่ท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ฯ และชุมชนริมฝั่งแม่น้ำ ให้ระมัดระวังและเตรียมสิ่งของหนีน้ำ เหลังกรมชลฯ เตรียมปล่อยน้ำออกจากเขื่อนป่าสักฯ เนื่องจากขณะนี้ปริมาณน้ำได้มีมากเกินความจุของเขื่อนแล้ว โดยอยู่ที่ร้อยละ 111 ส่วนสถานการณ์น้ำจากเขื่อนต่างๆ ทั่วประเทศนั้น เขื่อนภูมิพล มีปริมาณน้ำร้อยละ 88 ของความจุอ่างฯ,เขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำร้อยละ 96 และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน มีปริมาณน้ำร้อยละ 99 เป็นต้น
    15.55 น. อยุธยา : ตำรวจตระเวนชายแดนกว่า 100 นาย ช่วยกันจัดนำกระสอบทราบจำนวนกว่า 100,000 ใบมาเสริมบนสันเขื่อนดินหน้าวัดพนัญเชิงวรวิหาร ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อป้องกันน้ำท่วม แม้ระดับน้ำสูงกว่าพื้นวัดเกือบ 1 เมตร แต่น้ำยังไม่เข้าท่วมพื้นที่วัด เพราะว่าเขื่อนดินหน้าวัดที่สูงกว่า 1 เมตร ยาวเกือบ 800 เมตร สามารถทำหน้าที่ป้องกันน้ำได้
    15.15 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เห็นชอบให้ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาอุทกภัย ดินโคลนถล่ม และภัยแล้ง เพื่อป้องกันและแก้ไขอย่างบูรณาการ
    15.05 น. อุบลราชธานี : น้ำในลำน้ำมูลเริ่มเอ่อเข้าท่วมในที่ราบลุ่ม ทำให้ราษฎรที่อาศัยอยู่ต่ำกว่าตลิ่งได้รับความเดือดร้อนเกี่ยวกับการสัญจรไปมา ที่อยู่อาศัย และเครื่องอุปโภค-บริโภค ขณะนี้ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งสูงกว่าระดับตลิ่งและระดับเตือนภัยอยู่ 2.27 เมตร
    ส่วนแม่น้ำโขงระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและระดับต่ำกว่าตลิ่งอยู่เพียง 0.26 เมตร ส่งผลกระทบให้การระบายน้ำจากแม่น้ำมูลลงสู่แม่น้ำโขงไม่สะดวก
    14.25 น. พิษณุโลก : ระดับน้ำแม่น้ำน่าน ได้มีระดับสูงถึง 10.89 เมตร และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง
    ล่าสุดระดับน้ำน่าน ได้ทะลักเข้าท่วมบ้านชาวบ้านหมู่ที่ 7 ต.วัดจันทร์ อ.เมือง บางจุดระดับน้ำสูงกว่า 70 ซม. ทำให้ชาวบ้านต้องใช้เรือพาย ออกมาบนที่สูง มีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 20 หลังคาเรือน
    13.50 น.ศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.)
    - สรุปสถานการณ์อุทกภัยใน 25 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี อุบลราชธานี ยโสธร เลย ขอนแก่น มหาสารคาม ศรีสะเกษ ฉะเชิงเทรา นครนายก ตาก และปราจีนบุรี
    - ผู้เสียชีวิต 132 ราย สูญหาย 2 ราย
    11.25 น. น่าน : ระดับน้ำหน้าที่ว่าการอำเภอเฉลิมพระเกียรติ สำนักงานพัฒนาชุมชน กศน. สำนักงานท้องถิ่น และ งานผ่านแดน เริ่มลดระดับลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังชั้นล่างของตัวอาคารและยังมีน้ำป่าจากเทือกเขาไหลเข้าสมทบอย่างช้าๆ ตลอดทั้งวัน ขณะนี้ต้องสั่งปิดสถานที่ดังกล่าว
    11.20 น. กาฬสินธุ์ : ขณะนี้ระดับน้ำในเขื่อยลำปาวอยู่ที่ 92% หรือ 1,820 ล้าน ลบ.ม. จึงต้องเร่งระบายน้ำออกถึงวันละ 7 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งได้ส่งผลให้เกิดน้ำเอ่อล้นทั้งจากแม่น้ำปาว ด้าน อ.ยางตลาด อ.เมือง อ.กมลาไสย และแม่น้ำชีด้าน อ.ฆ้องชัย อ.ร่องคำ มีพื้นที่นาข้าวเสียหายกว่า 5.5 หมื่นไร่ และน้ำบางส่วนได้เริ่มไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ราบลุ่ม
    09.55 น. ปภ.ชลบุรี : จะมีร่องมรสุมพัดผ่านประเทศไทย ขอให้ประชนระมัดระวังฝนตกหนักในระยะนี้ เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในช่วงนี้ โทร 038-278031-2หรือสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
    09.25 น. อุทัยธานี : ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำสะแกกรัง เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง 4 ตำบล ในเขตอำเภอเมืองอุทัยธานียังวิกฤต ผู้ว่าราชการจังหวัด เตรียมลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนใน ต.หาดทนง อ.เมือง
    07.30 น. อุตุฯ : ประกาศเตือนภัยฉบับที่ 5 ฝนตกหนักช่วง 20-23 ก.ย.
    ประกาศเตือนภัย “ฝนตกหนักบริเวณประเทศไทย ” ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 20 กันยายน 2554
    บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบนทำให้ร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดตอนกลางของประเทศไทยในช่วงวันที่ 20-23 กันยายน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีฝนเพิ่มมากขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากได้บางพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา ที่ราบลุ่ม และใกล้ทางน้ำไหล ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่เกิดขึ้นได้ สำหรับทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน จะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือขนาดเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะ2-4 วันนี้
    ……………………………………………………………………………………………..
    19 กันยายน 2554
    17.40 น. ตาก : เขื่อนภูมิพลรับน้ำได้อีกแค่ 11% ขณะนี้มีระดับน้ำ 11,870 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถจุน้ำได้อีก 1,586 ล้านลูกบาศก์เมตร
    17.35 น.ศูนย์สนับสนุนการอำนวยการ และการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.)
    - ขณะนี้ยังมีน้ำท่วม 26 จังหวัด ยอดเสียชีวิต 112 ศพ สูญหาย 2 ราย
    - สำหรับสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำต่างๆ ที่ยังต้องเฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด ได้แก่
    ลุ่มน้ำน่าน ที่อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์
    ลุ่มน้ำปราจีนบุรี ที่อ.กบินทร์ จ.ปราจีนบุรี
    ลุ่มน้ำมูล ที่อ.พิมาย จ.นครราชสีมา / อ.เมือง จ.อุบลราชธานี / อ.สตึก อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ และอ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด
    ลุ่มน้ำชี ที่อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร
    ลุ่มน้ำโขง ที่อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร
    ลุ่มน้ำสะแกกรัง ที่อ.เมือง จ.อุทัยธานี
    ลุ่มน้ำท่าจีน อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี และอ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
    - ลุ่มน้ำเจ้าพระยามีปริมาณน้ำไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ 3,935 ลบ.ม./วินาที เขื่อนเจ้าพระยาปริมาณน้ำไหลผ่าน 3,706 ลบ.ม./วินาที
    ส่งผลให้มีน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณ 8 จังหวัดได้รับผลกระทบ ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี
    16.00 น. นนทบุรี : แม่น้ำเจ้าพระยา เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชนเกาะเกร็ด จ.นนทบุรี สูง 50 ซ.ม. ส่งผลให้เด็กนักเรียนเดือดร้อน ผอ.โรงเรียน ขอรับบริจาคสิ่งของ
    15.30 น. น่าน : พบรอยดินแยก เตือนชาวบ้านพร้อมอพยพ
    เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบรอยดินแยก ที่บริเวณสันเขา ในพื้นที่ตำบลฝายแก้ว อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1.5 กิโลเมตร / เป็นรอยแยกกว้างเกือบ 1 เมตร เป็นแนวยาวติดต่อกันเกือบ 100 เมตร และขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ยังเกิดฝนตกหนักและมีการเคลื่อนตัวของดิน จึงต้องรีบออกจากพื้นที่ทันที พร้อมเตือนชาวบ้านเฝ้าระวังดินถล่ม และเตรียมพร้อมอพยพ
    14.30 น. สุโขทัย : ยังคงมีภาวะน้ำท่วมหนักอยู่ในหลายตำบลของเขต อ.เมืองและ อ.กงไกรลาสโดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำ บางหมู่บ้านระดับน้ำท่วมพื้นที่สูงกว่า 2 เมตรเช่นที่บ้านสามหมื่น , บ้านวังสะพาน ต.ปากพระ อ.เมือง และ หลายหมู่บ้านในตำบลบ้านใหม่สุขเกษม อ.กงไกรลาส
    โรงเรียนและสถานศึกษาต้องประกาศหยุดเรียนเป็นเวลา 3 วัน คือตั้งแต่วันนี้ (19 ก.ย.) ถึง วันพุธที่ 21 ก.ย.
    14.25 น. พิษณุโลก : แม่น้ำน่านเมืองพิษณุโลกอยู่ระดับ 10.88 เมตร สูงกว่าระดับตลิ่ง 10.54 เมตร
    ส่วนที่ ม.6 ต.หอกลอง อ.พรหมพิราม น้ำยังล้นตลิ่งอยู่ และซ่อมแนวตลิ่งได้ยาก ทำให้น้ำไหลล้นเข้าไปคลองสระโคล่ คลองโคกช้าง ต.อรัญญิก จนเกิดน้ำท่วมขังอยู่
    14.00 น. นนทบุรี : น้ำท่วมชุมชนเกาะเกร็ด ระดับน้ำอยู่สูงถึง 50 ซ.ม. โรงเรียนที่อยู่ใกล้เคียงเดือดร้อน นักเรียนเดินทางมาสอบไม่ได้
    11.30 น. : น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สั่ง ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เสริมแนวกั้นน้ำ
    11.00 น. อุตรดิตถ์ : ผอ.เขื่อนสิริกิตื์เผย น้ำในเขื่อนยังจุได้อีก 4% ขณะยี้มีระดับน้ำอยู่ที่ 9,100 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือเท่ากับ 95.75 %
    10.50 น. สิงห์บุรี : หลังประตูน้ำพระงาม และประตูน้ำกระทุ่มโทง อ.พรหมบุรี คอนกรีตข้างสันเขื่อนพังลงมา น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาได้ไหลลงสู่แม่น้ำน้อยอย่างรวดเร็ว ทำให้บ้านเรือนประชาชนที่อยู่สองฝั่ง ถูกน้ำท่วมเสียหาย ตั้งแต่ อ.โพธิ์ทอง ถึง อ.วิเศษไชยชาญ จ.อ่างทอง และบางตำบลใน อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา
    10.30 น. อุบลราชธานี :
    - แม่น้ำมูลบริเวณสะพานประชาธิปไตยสูงกว่าระดับเตือนภัย 2.19 เมตร
    - แม่น้ำโขงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและหนุนเข้ามายังบริเวณแม่ น้ำสองสี ซึ่งเป็นปากทางออกของแม่น้ำมูล ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมตัวเมือง ระดับน้ำสูงอย่างต่อเนื่องวันละ 10 เซนติเมตร ชาวบ้านต้องอพยพมาอยู่ริมฝั่งถนน จนเกิดปัญหาเดือดร้อนหนักเรื่องสุขา
    10.20 น. ชัยภูมิ : ระดับแม่น้ำชียังคงทรงตัว หลังเข้าท่วม 3 อำเภอที่อยู่ติดกับแม่น้ำชี ได้แก่ อ.เมือง อ.บ้านเขว้า และอ.จัตุรัส ล่าสุด มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย
    09.15 น. ชัยนาท : 4 อำเภอที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาน้ำทักลักท่วมหนัก น้ำเพิ่มสูงขึ้น 10 ซ.ม.ขณะนี้ได้มีการแจ้งให้อพยพประชาชนในพื้นที่ ต.มะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ ไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย
    09.10 น. อ่างทอง : ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยทั้งจังหวัดแล้ว น้ำได้ไหลเข้าท่วมทั้งสถานที่ราชการสำคัญ ตลาดสด รวมถึงพื้นที่การเกษตร ได้รับผลกระทบจำนวน 11 อำเภอ 100 ตำบล 799 หมู่บ้าน
    09.05 น. ลพบุรี : ยังมีน้ำท่วมทั้งจังหวัด ทั้งหมด11 อำเภอ เช้าวันนี้ระดับน้ำในแม่น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ยังทรงตัว แต่จากข้อมูลพบว่า จะมีน้ำระลอกใหม่ไหลมาสบทบ
    09.00 น. กรมอุตุฯ : ประกาศจากกรมอุตุฯ ฉบับที่ 2
    • ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศพม่าและประเทศลาวตอนบนเริ่มเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณภาคเหนือและ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนชุกหนาแน่นกับมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่
    • ร่องมรสุมนี้จะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างประมาณวันที่ 20-23 ก.ย.
    • มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนเพิ่มมากขึ้นขอให้ประชาชนระมัดระวังฝนตกหนักในระยะนี้
    …………………………………………………………………………………………………..………………………………..
    18 กันยายน 54
    13.15 น. ศอส. : ศอสย้ำ 8 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี เตรียมรับน้ำล้นตลิ่งที่เพิ่มสูงขึ้นในวันที่ 19-20 กันยายน 2554 นี้ พร้อมสั่งการให้จังหวัดเร่งเสริมคันกั้นน้ำให้สูงขึ้น และจัดเจ้าหน้าที่ชี้แจงทำความเข้าใจแก่ประชาชนที่อาศัยอยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ เพื่อลดความขัดแย้งและเหตุทะเลาะวิวาทด้วย
    12.28 น. : อุทัยธานี :กรมทางหลวง จ.อุทัยธานีประกาศปิดเส้นทางการเดินรถบนทางหลวงหมายเลข333 จากสายเอเชียหลังระดับน้ำท่วมสูงทั้ง4เลนยาวกว่า16กม.รถเล็กสัญจรไม่ได้
    11.30 น. นครสวรรค์ : ในวันที่18-20 ก.ย.นี้ คาดว่า ระดับน้ำที่จ.นครสวรรค์ จะขึ้นสูงสุดที่ 3,800 – 3,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่หากเป็นไปตามที่คาดก็จะทำให้น้ำที่ชัยนาทเพิ่มขึ้นถึง 30 เซนติเมตร เบื้องต้นทางกรมชลประทานได้เตือนให้ประชาชนอพยพเคลื่อนย้ายสิ่งของให้พ้นน้ำแล้ว
    09.31 น. นครราชสีมา : โคราชใกล้วิกฤต 4 เขื่อนน้ำใกล้เต็ม
    4 เขื่อนที่โคราชวิกฤตหลังมีปริมาณน้ำเกือบเต็มความจุแล้ว ด้านผู้ว่ายันต้องผันลงสู่ลำน้ำสาขาใต้เขื่อนเพื่อรองรับมรสุมลูกใหม่ที่เข้ามาในวันระหว่าง 18-20 ก.ย. ทำให้พื้นที่ลุ่มในหลายพื้นที่ใน จ.นครราชสีมาถูกน้ำท่วมขังแล้ว
    อย่างไรก็ดีได้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านเร่งเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตร พร้อมทั้งประกาศพื้นที่ของ อ.ปากช่อง สีคิ้ว สูงเนิน ขามทะเลสอ เมืองนครราชสีมา วังน้ำเขียว ปักธงชัย โชคชัย และอ.เฉลิมพระเกียรติ เป็นเขตภัยพิบัติในส่วนที่ถูกน้ำท่วมแล้ว
    …………………………………………………………………………………………………..………………………………..
    17 กันยายน 54

    19.40 น. สิงห์บุรี : หน้าโรงพยาบาลอินทร์บุรี หมู่ 1 ต.ทับยา อ.อินทร์บุรี น้ำไหลกัดเซาะคันดิน จนพังทลาย ส่งผลกระทบให้น้ำไหลเข้าท่วมทุ่งทับยา ทุ่งบางพระนอน ทุ่งปากแรด ซึ่งเป็นพื้นที่นาข้าวเนื้อที่กว่า 10,000 ไร่
    17.45 น. พิจิตร : น้ำจากภาคเหนือ และจาก จ.พิษณุโลก ที่ไหลลงสู่แม่น้ำน่าน ทำให้วันนี้ระดับน้ำมีปริมาณสูงขึ้น 5-10 ซ.ม. ทำให้ 664หมู่บ้าน ต้องถูกตัดขาดจากโลกภายนอก แต่ยังสามารถเข้าออกหมู่บ้านได้ ด้วยการเดินทางด้วยเรือท้องแบน
    17.40 น. เพชรบูรณ์ : ต.สะเดียง ต.นาป่า ต.ดงมูลเหล็ก และ ต.ระวิง ระดับน้ำท่วมสูงตั้งแต่ 50 ซ.ม. จนถึง 1 เมตร จนทำให้ถนนที่ใช้สัญจรผ่านไปมาถูกตัดขาด ซึ่ง ทางกองพลทหารม้าที่ 1 ได้จัดส่งรถบรรทุกยีเอ็มซี และกำลังพล ออกช่วยรับส่งชาวบ้านที่จำเป็น
    12.25 น. กาฬสินธุ์ ระดับน้ำในเขื่อนลำปาวสูงถึง 90% ปัจจุบันระดับน้ำอยู่ที่ 8.55 ม.
    ขณะที่พื้นที่น้ำล้นตลิ่งได้ขยายกว้างออกเป็น 5 อำเภอ ที่ประกอบด้วยอ.เมือง อ.ยางตลาด อ.ร่องคำ อ.ฆ้องชัย และอ.กมลาไสย
    12.20 น.กรุงเทพฯ ระดับน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นอีกครั้ง บางจุดอยู่ห่างจากแนวคันกั้นน้ำเพียง 60 เซนติเมตร
    ส่วนพื้นที่ที่อยู่นอกเหนือแนวคันกั้นน้ำของกรุงเทพ เจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทรายจำนวน 1 คันรถ มาเสริมแนวคันกั้นน้ำ
    10.40 น. อ่างทอง : ที่อ.วิเศษชัยชาญ ปริมาณน้ำในแม่น้ำน้อย เพิ่มสูงกว่าตลิ่ง 27 ซ.ม.แล้ว หลังประตูระบายน้ำพระงามพัง
    10.30 น. พิษณุโลก : แม่น้ำน่านไหลทะลักเข้าภายในตำบลหัวรอ อ.เมือง กัดเซาะด้านล่างของแนวกั้น บริเวณหน่วยพัฒนาทหารเคลื่อนที่ที่ 34 หรือ โรงทอเก่า ด้านใต้วัดตาปะชาวหาย
    …………………………………………………………………………………………………..
    16 กันยายน 54
    13.40 น. ชัยภูมิ : สะพานที่เชื่อมอำเภอบ้านเขว้าและอำเภอบัวระเหวถูกน้ำชีไหลเข้าท่วมอย่างรุนแรง ส่งผลให้สะพาน ถูกน้ำพัดพังเสียหายทั้งหมด น้ำท่วมสูงกวา 1 เมตร เจ้าหน้าที่ ได้สั่งปิดถนนทุกสาย โดยเฉพาะเส้นทางจากอำเภอบ้านเขว้า ไปยังจังหวัดนครสวรรค์ ระยะทางยาวกว่า 29 กิโลเมตร ซึ่งประชาชน จะต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางผ่านอำเภอจัตุรัส เพื่อความปลอดภัย
    11.40 น. เพชรบูรณ์ : เขตเทศบาลเมืองหล่มสัก อ.หล่มสัก ระดับน้ำที่ท่วมขังได้ลดระดับลงจนแทบเป็นปกติแล้ว แต่ในพื้นที่ในตำบลรอบนอกของ อ.หล่มสัก ยังตกอยู่ในสภาพถูกน้ำท่วมหนัก ชาวบ้านบ้านนครเดิด ต.บ้านกลาง เริ่มได้รับความเดือดร้อน เพราะขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม
    10.30 น. ปทุมธานี : ชุมชนหลังวัดบางหลวง ม.4 ต.บ้านฉาง อ.เมือง กลายสภาพเป็นเกาะกลางน้ำจมอยู่ในน้ำลึกกว่า 1เมตร หลังแม่น้ำเจ้าพระยาทะลัก ชาวบ้านในชุมชนเกือบ 200 หลังคาเรือนต้องช่วยเหลือตัวเองโดยขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง
    10.15 น. ปภ. นครราชสีมา: เตือนประชาชนในจังหวัด นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และจังหวัดสุรินทร์ ที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ราบลุ่ม ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากน้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่มที่จะเกิดขึ้น ในระหว่างวันที่ 18 -21 ก.ย. นี้
    09.25 น. พิษณุโลก : ระดับน้ำของแม่น้ำน่านที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้อยู่ที่ระดับ 10.88 เมตร คาดการณ์ว่าอาจจะเพิ่มระดับถึง 11 เมตร ชาวบ้านจึงต้องเร่งทำแนวกระสอบทรายหน้าวัดใหญ่ให้แข็งแรง
    09.20 น. ชัยภูมิ : พนังกั้นน้ำชีช่วงไหลผ่านเขตเทศบาลตำบลหนองบัวระเหว ขาดยาวกว่า 3 กิโลเมตร ท่วมบ้านเรือนราษฎรจมสูงกว่า 1.5 เมตร ใน 3 หมู่บ้านเดือดร้อนหนักกว่า 150 หลังคาเรือน ระดับน้ำยังคงสูงขึ้นต่อเนื่องเฉลี่ยชั่วโมงละกว่า 10 ซม.
    ชาวบ้านผวาฟาร์มจระเข้ 5 ตัวยาวกว่า 4 เมตร หลุดโผล่ใกล้บึง
    …………………………………………………………………………………………………………
    15 กันยายน 54
    17.45 น. พิษณุโลก : แนวกระสอบทรายใต้สะพานข้ามแม่น้ำน่าน ตำบลพลายชุมพล พังทลาย น้ำไหลทะลักเข้าท่วมเขตชุมชนฝั่งตะวันตกของตัวเมือง
    17.40 น.จ.อุตรดิตถ์ : สถานการณ์น้ำในเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก ล่าสุดมีปริมาณน้ำร้อยละ 85 ของความจุ ขณะที่เขื่อนสิริกิต์ จังหวัดอุตรดิตถ์ มีปริมาณร้อยละ 95
    17.30 น. นครสวรรค์ : น้ำจากแม่น้ำปิงที่ไหลมาจากจังหวัดกำแพงเพชร ล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจของอำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ ระดับน้ำสูง 50-150 เซนติเมตร ทำให้ร้านค้าต่างๆต้องเร่งเก็บของหนีน้ำขึ้นที่สูงเพื่อป้องกันความเสียหายในขณะที่บางส่วนต้องนำกระสอบทรายวางเป็นแนวกั้นน้ำกันเป็นจำนวนมาก
    16.30 น. ชัยภูมิ : น้ำป่าจากเทือกเขาพังเหย และเทือกเขาภูเขียวทะลักลงสู่แม่น้ำชีเข้าท่วมหมู่บ้านโนนเปลือย ต.ตลาดแร้ง และต.ภูแลนคา อ.บ้านเขว้า กระแสน้ำที่เชี่ยวกรากไหลผ่านถนน ทำให้รถโดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ทะเบียน 30-1835 นครสวรรค์ ซึ่งพาผู้โดยสารมาเต็มคันกว่า 40 คน มุ่งหน้าสู่ตัวเมืองชัยภูมิเกือบตกถนน จนท.ช่วยไว้ได้อย่างปลอดภัย
    16.10 น. อยุธยา : ระดับน้ำเจ้าพระยามีระดับน้ำสูงกว่าแผ่นดินของวัดไชยวัฒนารามกว่า 170 ซม. ต้องเพิ่มตัวล็อคคานเหล็กและเพิ่มเสริมเสาค้ำยันตลอดแนวป้องกันน้ำท่วม
    15.45 น. เพชรบูรณ์ : น้ำในแม่น้ำป่าสัก ไหลทะลักท่วมบ้านเรือนราษฎรในเขตพื้นที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ประชาชนกว่า 1,000 คนอพยพมาศัยอยู่บนถนน
    15.40 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) : เตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ราบลุ่มรวม 16 จังหวัดได้แก่ เลย ชัยภูมิ หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และยโสธร ให้พร้อมรับมือภาวะฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในวันที่ 15-16 ก.ย.นี้
    14.00 น. สุพรรณบุรี : เมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมา เขื่อนกั้นน้ำ แม่น้ำท่าจีนที่ จ.สุพรรณบุรี พัง น้ำทะลักท่วมตลาดเก้าห้อง และบ้านเรือนในตำบลบางปลาม้า อ.บางปลาม้า สูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านขนของไม่ทันวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น
    12.20 น. อยุธยา : ผู้ว่าฯ อยุธยาเตือน 17-18 ก.ย. น้ำมาอีกระลอก ส่งผลให้ระดับน้ำสูงขึ้นอีก 50 เซนติเมตร ให้ประชาชนเตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง
    12.00 น. ลำพูน : น้ำป่าไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 200 หลังคาเรือน ใน ต.ป่าสัก ต.เวียงยอง อ.เมืองลำพูนสูงกว่า 1 เมตร เนื่องจากฝนตกหนักตลอด 2 วันที่ผ่านมา
    11.30 น. น่าน : ระดับน้ำในแม่น้ำน่านได้ขึ้นไปถึง 10.80 เมตรแล้ว ปริมาณน้ำไหลผ่านยังแรงและเร็วที่ 1,673 ล้านลูกบาศก์เมตร ต่อ วินาที
    10.40 น. กรุงเทพ : กรมชลฯ เตือนกรุงเทพ เตรียมรับมือน้ำท่วมกรุง เผยน้ำก้อนใหญ่จากเหนือถึงแน่ 19-20 ก.ย.นี้ ชี้สถานการณ์รุนแรงสุดรอบ 5 ปี
    10.30 น. ขอนเเก่น : ประกาศให้พื้นที่ 15 อำเภอ จากทั้งหมด 26 อำเภอ เป็นที่ประสบภัยน้ำท่วม หลังปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง และแรงน้ำหนุนจากแม่น้ำเชิญ และน้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน
    10.00 น. พิษณุโลก : ระวังวิกฤติสูงสุด จัดเวรยามเฝ้าจุดเสี่ยงตลอด 24 ชั่วโมง แม่น้ำน่านได้เพิ่มระดับสูงมากทุกชั่วโมง จนทำระดับสูงสุด 10.78 เมตร
    09.40 น. พิจิตร : สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.พิจิตร ทวีความรุนแรง และขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง หลังจากในพื้นที่เกิดฝนตกสะสมกันอย่างหนักรวมถึงเขื่อนขนาดใหญ่ทางภาคเหนือพร่องถ่ายน้ำลงสู่แม่น้ำน่านในพื้นที่ท้ายเขื่อน อีกทั้งยังมีน้ำป่าจาก จ.พิษณุโลก ไหลหลากลงมาสมทบ ทำให้ทั้งน้ำฝน น้ำในแม่น้ำน่านและน้ำป่าไหลหลากลงผสมกันและทะลักเข้าท่วมพื้นที่ทั้ง 15 ตำบลเกือบ 100 หมู่บ้านในเขตอำเภอเมืองพิจิตร บ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมสูง 1-2 เมตร
    09. 35 น. ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.): ทุกจังหวัดลุ่มน้ำยังต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันอย่างใกล้ชิด เนื่องจากฝนตกต่อเนื่องหลายพื้นที่ ส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งใน 6 จังหวัด คือ สิงห์บุรี ชัยนาท อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานีที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
    09.40 น. สิงห์บุรี : สถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดใน จ.สิงห์บุรี หลังจากที่ประตูระบายน้ำบางโฉมศรีแตก ขณะนี้ระดับน้ำริมคลองเชียงรากท่วมสูงประมาณ 2.5 เมตร และยังคงสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านต้องอพยพมาอาศัยอยู่บนถนนสายเอเชีย ซึ่งชาวบ้านบางส่วนได้ตัดพ้อว่ายังไม่เห็นเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ โดยมีชาวบ้านกว่า 600หลังคาเรือนเดือดร้อนหนัก อย่างไรก็ดีเชื่อว่าน้ำก้อนดังกล่าวได้ส่งผลกระทบถึง อ.ท่าวุ้ง และ อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรีแล้ว
    09.14 น. กรมอุตุ : อุตุฯ เผยบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนยังมีฝนเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนทะเลทั้ง 2ฝั่งมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัย และติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง
    09.11 น. จันทบุรี : น้ำป่าจากเทือก เขาคิชฌกูฎ ได้เข้าท่วมพื้นที่นายายอาม ระดับน้ำสูง 1 – 2 เมตร ส่งผลให้ 2 ตำบล คือ ตำบลวังใหม่ และตำบลวังโตนด ของอำเภอนายายอาม รวม 10 หมู่บ้าน ถูกน้ำท่วม ชาวบ้านกว่า 100 หลังคาเรือน ได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถออกมาจากบ้านได้ ขณะนี้ทางหน่วยงานบรรเทาสาธารณภัย ได้รุดนำเรือท้องแบนเข้าช่วยเหลือแล้ว
    …………………………………………………………………………………………………………………………………………….
    14 กันยายน 2554

    17.30 น. ศอส.: เตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณจ.นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร เสริมแนวคันกั้นน้ำให้สูงขึ้น รวมทั้งให้ขนย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นที่สูง และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
    15.05 น. สิงห์บุรี : เขื่อนบางโฉมศรี อำเภออินทร์บุรี แตกทำให้น้ำเริ่มไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่จังหวัดลพบุรี
    15.00 น. สุรินทร์ : อ่างเก็บน้ำในสุรินทร์ยังรองรับได้ แต่แม่น้ำชีและแม่น้ำมูล มีปริมาณสูงขึ้น เหลือเพียง 50- 80 เซนติเมตร จะล้นตลิ่ง
    12.00น. อุตรดิตถ์ : ขณะนี้ ได้ระดมเจ้าหน้าที่ค้นหาเหยื่อดินโคลนถล่ม พร้อมเร่งให้เจ้าหน้าที่ อบจ.บรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคจำนวน 500 ชุด นำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยดินโคลนถล่มที่ ต.น้ำไผ่ , ต.บ้านด่านนาขาม และ ต.น้ำริด
    11.00 น. ลำพูน : ระดับน้ำลำน้ำกวงขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 5 เมตร และมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เริ่มเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนในพื้นที่ ต.บ้านแป้น ต.เวียงยอง และ ต.ต้นธง ของ อ.เมือง แล้ว
    10.55 น. อ่างทอง : น้ำล้นตลิ่งท่วมผิวการจราจรบนถนนหลักหลายสาย เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ บางจุดน้ำสูงกว่า 50 ซม. ต้องปิดการจราจรสองช่องทางทำให้การจราจรติดข้ด
    09.40 น. ปทุมธานี : น้ำท่วมตลาดสดศิริวัฒนา เขตเทศบาลเมืองปทุมธานี ต.บางปรอก อ.เมือง รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปทุมธานี ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เทศบาลนำกระสอบทราย มาช่วยกันกั้นน้ำแล้ว
    ลพบุรี : ประตูน้ำพัง น้ำทะลักท่วม อ.บ้านหมี่ อ.ท่าวุ้ง ผู้ว่าฯ สั่งอพยพคนและสัตว์เลี้ยงแล้ว
    09.35 น. เพชรบูรณ์ : ระดับน้ำในอ่างเก็บกักน้ำของกรมชลประทานทั้ง 4 แห่ง มีระดับสูงเกินกว่าปริมาณเก็บกัก ทำให้ล้นออกทางช่องระบายฉุกเฉิน
    นอกจากนี้ ในเขตเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ และพื้นที่โดยรอบ น้ำจากแม่น้ำป่าสัก และน้ำที่ถูกระบายออกจากอ่างป่าแดง ทำให้พื้นที่ชุมชนใกล้แม่น้ำตกอยู่ในภาวะน้ำท่วมเช่นกัน
    09.30 น. ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ : แจ้งเตือนว่า วันนี้ (14 ก.ย.) ถึงวันที่ 20 กันยายน อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง เนื่องจากมวลน้ำลูกใหญ่ ซึ่งมีปริมาณน้ำมากกว่าปีที่แล้ว ไหลผ่านลุ่มน้ำเจ้าพระยาบริเวณ จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี สิงห์บุรี ชัยนาท อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ
    …………………………………………………………………………………………………………………………………………….
    13 กันยายน 54
    18.00 น. ศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.)
    ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ราบลุ่มรวม 11 จังหวัด ได้แก่ ตาก กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ให้เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในวันที่ 13-14 กันยายน 2554
    17.40 น. แพร่ : ฝนตกหนักในพื้นที่ อ.เด่นชัย น้ำป่าไหลตามลำน้ำห้วยไร่ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนเสียหายกว่า 50 หลังคาเรือน
    17.30 น. นครสวรรค์ : ผู้ว่าฯ เตือน ประชาชนที่อาศัยอยู่ 2 ริมฝั่งแม่น้ำปิง บริเวณ อ.บรรพตพิสัย อ.เก้าเลี้ยว และ อ.เมืองนครสวรรค์ ให้เตรียมขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง เนื่องจากมวลน้ำขนาดใหญ่จากฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ จ.ตาก และกำแพงเพชร จะไหลถึงจังหวัดช่วงเที่ยงคืนวันนี้
    16.00 น. กรุงเทพ : กรมชลประทาน เตือน กรุงเทพ วันที่ 19- 20 ก.ย เจอน้ำเหนือก้อนใหญ่ ซึ่งมาจากแม่น้ำปิงในจังหวัดกำแพงเพชร และปริมาณน้ำจากลุ่มน้ำป่าสัก และในส่วนเจ้าพระยาตอนล่างคือ ปทุมธานีและนนทบุรี จะได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำที่มากขึ้น ดังนั้นให้แต่ละจังหวัดเร่งเสริมคันกั้นน้ำให้สูงในระดับที่ไม่ต่ำกว่า 2 เมตรขึ้นไป
    15.26 น. แนวเขื่อนกั้นแม่น้ำเจ้าพระยาที่นครสวรรค์พัง บ้านเรือนกว่า 800หลังจมน้ำิมิด
    แนวเขื่อนกั้นแม่น้ำเจ้าพระยาที่นครสวรรค์ ได้พังลง หลังน้ำได้กัดเซาะแนวด้านล่างของพนังเขื่อน จนเป็นเหตุให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาทะลักท่วมชุมนุนติดแม่น้ำ เช่นชุมชนสะพานเดชาติวงศ์ ชุมชนเทวดาสร้าง ชุมชนวัดเขาจอมคีรีนาคพรต อย่างรวดเร็ว จนบ้านเรือนประชาชนกว่า 800 หลังคาเรือนจมอยู่ใต้น้ำทันที ทำให้ประชาชนต่างเร่งขนของหนีน้ำเป็นการด่วน เบื้องต้นระดับน้ำได้สูงขึ้นกว่า 3เมตรแล้ว ด้าน กองพันทหารช่างที่ 4 ค่ายจิระประวัติ จังหวัดนครสวรรค์ ได้นำเรือท้องแบนกว่า 20 ลำ พร้อมทั้งระดมกำลังช่วยอพยพชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ และขนย้ายข้าวของกันอย่างเร่งด่วนแล้ว
    14.10 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย :เตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ราบลุ่มรวม 11 จังหวัด ได้แก่ ตาก กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ให้เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในวันที่ 13-14 ก.ย.นี้
    12.55 น. กาฬสินธุ์ : เตรียมอพยพประชาชน หลังปริมาณน้ำในเขื่อนลำปาวเพิ่มต่อเนื่อง หวั่นพื้นที่ราบลุ่มเกิดน้ำท่วมใหญ่
    12.25 น. เชียงใหม่-ตาก-แม่ฮ่องสอน : กรมทรัพย์เตือน 3 จังหวัดภาคเหนือ เชียงใหม่-ตาก-แม่ฮ่องสอน ระวังดินถล่ม-น้ำป่าไหลหลากในระยะ 1-2 วันนี้ โดยขอให้ประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยทางภาคเหนือ 3 จังหวัด ได้แก่ อ.แม่แจ่ม อมก๋อย ฮอด จ.เชียงใหม่, อ.แม่สะเรียง สบเมย ขุนยวม แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน และบางพื้นที่ของ จ.ตาก เตรียมการรับมือภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้นหลังพบปริมาณน้ำฝนสูง
    11.35 น. กรมชลประทาน : ปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพลรองรับน้ำไปแล้วกว่า 82% ขณะที่เขื่อนสิริกิติ์จุน้ำแล้ว 96%
    11.30 น. พิจิตร : บางจุดน้ำท่วมสูง 2-3 เมตร ล่าสุดน้ำท่วมแล้ว 664 หมู่บ้าน จากทั้งหมด 888 หมู่บ้าน ต้องปิดโรงเรียนแล้ว 84 แห่ง
    รางรถไฟสายเหนือช่วงสถานีพิจิตร-วังกลด ถูกน้ำท่วมรางรถไฟ เนื่องจากน้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ น้ำจากการระบายของเขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนภูมิพล รวมถึงเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก ส่งผลให้น้ำก้อนใหญ่ไหลมาท่วม จ.พิจิตร
    11.10 น. พระนครศรีอยุธยา : ประกาศให้ชาวบ้านท้ายเขื่อนพระราม 6 ขนของขึ้นที่สูง เนื่องจากจะมีการระบายน้ำท้ายเขื่อนมากขึ้น ทำให้ชาวบ้านในตลาด อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมขยายวงกว้าง
    10.50 น. นครสวรรค์ : น้ำล้นและขยายวงกว้าง เป็น 8 อำเภอn เขตเทศบาลเมืองชุมแสง/เมืองนครสวรรค์ หวั่นน้ำปิงมาเพิ่ม
    10.20 น. ตาก : เขตเทศบาลนครแม่สอดเริ่มถูกน้ำท่วมแล้วเช่นกัน บางจุดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้
    นครสวรรค์ : น้ำในบึงบอระเพ็ดไหลเข้าท่วมถนนสายนครสวรรค์-ชุมแสง รวมทั้งจุดที่ชาวบ้านบางกลุ่มอพยพมาตั้งเต็นท์
    10.15 น. สิงห์บุรี : น้ำที่ไหลผ่านเพิ่มสูง 30 ซ.ม.ปิดถนนเส้นสิงห์-อ่างทอง/แนวคันดินพังทำน้ำท่วมนาในอ.ท่าช้าง900 ว่าไร่
    10.10 น. กรมทรัพยากรธรณี : ประกาศเตือนว่า ให้ 6 จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย ซึ่งประกอบด้วย จ.เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก กาญจนบุรี ระยอง และจันทบุรี เฝ้าระวังดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในระยะ 1-2 วันนี้ เนื่องจากมีฝนตกหนักต่อเนื่อง
    10.00 น. พิษณุโลก : ระดับทรงตัว 10.50 เมตร แต่พื้นที่ทางเหนือ อ.เมืองพิษณุโลก ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม แม่น้ำน่านล้นตลิ่ง ท่วมเส้นทาง สายพิษณุโลก – พรหมพิราม บริเวณ ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม จำนวน 2 จุด
    09.50 น. จันทบุรี : ระดับน้ำเริ่มทรงตัว จุดวัดน้ำที่สะพานวัดจันทนาราม ระดับน้ำอยู่ที่ 4 เมตร 40 เซนติเมตร ส่วนในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรี ตลาดน้ำพุ ตลาดสวนมะม่วง น้ำยังท่วมสูงประมาณ 40 เซนติเมตร ขณะที่ถนนสายพระยาตรัง-เขาคิชฌกูฏ น้ำยังท่วมสูง รถไม่สามารถผ่านไปมาได้
    ……………………………………………………………………………..
    ช่องทางช่วยเหลือ ผู้ประสบอุกภัย น้ำท่วม

    - ครอบครัวข่าว3 : บัญชี “ครอบครัวข่าว 3 ช่วยผู้ประสบอุทกภัย 2554″
    เลขที่บัญชี 014-3004-448 ธนาคารกรุงเทพ บัญชีกระแสรายวัน สาขาอาคารมาลีนนท์
    - สำนักนายกรัฐมนตรี : บัญชี “กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี”
    ธ.กรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาล ออมทรัพย์ เลขที่ 067-0-06895-0 ลดหย่อนภาษีได้
    - ธนาคารไทยพาณิชย์
    บัญชี “มูลนิธิสยามกัมมาจล-ไทยพาณิชย์เพื่อผู้ประสบภัย”
    สาขา ATM & SCB Easy เลขที่ 111-3-90911-5
    - MCOT
    บัญชี “อสมท รวมใจ ช่วยภัยน้ำท่วม” ธ.กรุงไทย สาขาอโศก ออมทรัพย์ เลขที่ 015-015-999-4
    - มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก
    ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาเทเวศร์ ออมทรัพย์ เลขที่ 020-2-53333-8
    หรือ ธ.กสิกรไทย สาขาถนนหลังสวน เลขที่ 082-2-66600-0
    ……………………………………………………………………………..
    จุดรับบริจาคสิ่งของช่วยน้ำท่วม

    - กองปราบฯเปิดรับบริจาคสิ่งของช่วยผู้ประสบอุทกภัย
    บริจาคได้ที่กองปราบปราม ถ.พหลโยธิน สอบถามสายด่วน1195
    - กทม.ตั้งศูนย์รับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมทั้งสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต
    บัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาถนนข้าวสาร
    ชื่อบัญชีกองทุนกทม.ช่วยผู้ประสบภัย เลขที่บัญชี 027-0-17081-2
    - มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก บริจาคสิ่งของอุปโภคบริโภค สภากาชาดไทย ปทุมวัน กรุงเทพฯ
    โทร 0-2256-4583-4, 0-2256-4427-9, 0-2251-0385
     
  13. ธรรมสถิต

    ธรรมสถิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,261
    ค่าพลัง:
    +15,736
    อนุโมทนาสาธุครับ

    เท่าที่ผมได้รับทราบมา จะมีการคัดเลือกคน โดยวิธีนี้
    ยุคภัยพิบัติโลก จะมีการเปิดให้สัตว์นรกขึ้นมาทำหน้าที่
    เพื่อนำคนที่ไม่ดี ไม่มีศีลธรรม ไม่ปรับเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนดี

    ยังคงเอาเปรียบ คดโกง ทำร้ายผู้อื่น ทำลายสถาบันไปสู่นรก
    ทำความดี ชดเชยความผิด เป็นตัวตายตัวแทนของสัตว์นรกครับ
     
  14. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    26 ก.ย. 54

    ใคร่ขอเรียน ท่านที่ อยู่เชิงเขา
    จะไม่เบา เมื่อโคลนหิน กลิ้งลงมา
    ชีวิตท่าน อีกบ้าน จะถูกพา
    ตีลังกา หลายตลบ จบตัวเอง

    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 กันยายน 2011
  15. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    26 ก.ย. 54

    19 ศพ เครื่องบินตก ที่เนปาล
    ตามที่ขาน เอาไว้ ในเว็บฯนี้
    ถ้านับรวม ลำนี้ คือเลข 4
    อย่าได้มี เกิดซ้ำ จะช้ำใจ

    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน
     
  16. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    MThai News : สำนักข่าวต่างประเทศเผยภาพ เจ้าของใจยักษ์ โยนลูกหมาลงทะเล ที่ชายหาดในเมืองเซี๊ยเหมิน มณฑลฟู่เจียน
    โดย ภาพเหล่านั้นถูกบันทึกไว้โดยคนแถวนั้น เริ่มจาก ผู้ชายคนหนึ่งอายุประมาณ 20 ปี พร้อมด้วยเพื่อนๆ เดินมาตามชายหาดพร้อมกับลูกหมา ก่อนที่เขาจะโยนมันลงทะเล แล้วมันก็ว่ายกลับมาขึ้นฝั่งได้ แต่พอเจ้าของเห็นเข้าก็รีบไปอุ้มมันแล้วโยนมันลงทะเลอีกครั้ง
    จากนั้น คนอยู่แถวนั้นที่เห็นเหตุการณ์ จึงร้องตะโกนให้เขาหยุดการกระทำอันป่าเถื่อน แต่เขาก็ไม่สะทกสะท้านใดๆ ยังคงโยนมันลงทะเลอีกหลายครั้ง จนกระทั่งมันหมดแรงที่จะว่ายน้ำและลอยไปติดกับโขดหิน
    ทั้งนี้ นายหวัง หนึ่งในผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เขารู้สึกประหลาดใจมากที่ชายใจร้ายคนนั้นโยนลูกสุนัขลงทะเล เพราะมันตัวเล็กมาก ยาวเพียง 8 นิ้ว และมันก็ว่ายน้ำไปมาอยู่หลายรอบด้วย และเขายังทิ้งท้ายไว้ว่า เจ้าของใจร้ายคนนั้นน่าจะโดนลงโทษ
    อย่างไรก็ตาม เมื่อหมาน้อยลอยไปติดโขดหินแล้วเจ้าของใจยักษ์ก็เดินจากไป จนกระทั่งมีชายคนหนึ่งมาช่วยมันลงจากโขดหิน แล้วนำมันให้กับผู้หญิงใจบุญ ซึ่งสัญญาว่าจะดูแลมันอย่างดี
    Mthai News
    เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
    [​IMG]
    ติดต่อทีมข่าว MThai News : news@mthai.com

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    Photo : Quirky China News/Rex Feature
    แท็ก : จีน, ทะเล, โยนลูกหมา



    [​IMG] [​IMG]
    MThai News : สำนักข่าวต่างประเทศเผยภาพแม่สิงโตปืนหน้าผาชันลงไปช่วยลูกน้อยที่ร้องครวญครางหลังตกลงไป ซึ่งนายยีน ฟรานโคอิส ลากอต ช่างภาพสัตว์ป่า ถ่ายได้ที่เขตป่าสงวนมาไซมารา ประเทศเคนย่า
    ทั้งนี้ภาพเริ่มต้นตั้งแต่ ลูกสองโตตัวน้อยร้องเสียงลั่น แล้วแม่ของมันก็วิ่งมาเห็นลูกตัวเอง ก่อนที่สิงโตตัวเมีย 2 ตัว และตัวผู้ 1 ตัวจะวิ่งตามมาสมทบ เจ้าสิงโตตัวเมียทั้ง 3 ตัว พยายามจะปีนลงไปช่วยลูกสิงโตตัวน้อย แต่ด้วยความชันของหน้าผาทำให้พวกมันต้องถอยล่ากลับมา
    แต่แล้วด้วยสัญชาตญาณของความเป็นแม่ ทำให้แม่ของเจ้าสิงโตตัวน้อยพยายามใช้กรงเล็บอันแหลมคม ย่างก้าวลงไปจนถึงตัวลูกของมัน ก่อนจะใช้ฟันเขี้ยวคาบลูกน้อย และปีนขึ้นมาอย่างปลอดภัย
    Mthai News
    เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
    [​IMG]
    ติดต่อทีมข่าว MThai News : news@mthai.com
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    Photo:: Jean-Francois Largot


    [​IMG]
    อึ้ง! หนูน้อยวัย 3 ขวบ สุดประหลาด กินทุกอย่าง ทั้งก้อนหิน ก้อนอิฐ ยันหลอดไฟ
    Mthainews: เว็บไซต์ข่าวเดอะซันรายงาน พฤติกรรมการรับประทานของเด็กหญิงรายหนึ่ง วัยเพียง 3 ขวบ แต่ชอบทานสิ่งของเครื่องใช้ ก้อนหิน ก้อนอิฐ ราวกับเป็นขนมคุกกี้ ชอกโกแลตชิฟ จนได้ชื่อว่าเป็น “เด็กหญิงที่กินทุกอย่าง”
    เด็กหญิงนาตาลี เฮย์เฮิร์ส วัย 3 ขวบจากรัฐ อินเดียน่า สหรัฐ มีพฤติกรรมการกินที่แปลกพิศดารกว่าคนทั่วไป โดยเธอชอบทานสิ่งของเครื่องใช้ อาทิ ก้อนกิน ก้อนอิฐ หรือท่อนไม้ สร้างความปวดหัวให้กับ คอลลีน คุณแม่วัย 31 ปี ที่พยายามห้ามปราม และหยุดพฤติกรรมการกินที่สุดแสนพิศดาร มิเช่นนั้น อาจถึงขั้นเสียชีวิตขึ้นมาก็ได้
    [​IMG]
    แม่ของเธอเปิดเผยว่า ลูกสาวมักจะแอบไปที่สวนข้างนอกบ้านเพื่อกินก้อนอิฐ แต่อย่างไรก็ตามนาตาลีก็ยังคงทานอาหารทั่วไปด้วย ซึ่งเธอและสามีต้องคอยเฝ้าจับตาพฤติกรรมอยู่ตลอดเวลา เกรงว่าจะเกิดอันตราย
    เธอกล่าวว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ลูกสาวแอบกินหลอดไฟภายในห้องนอน เป็นเหตุให้หลอดไฟบาด เลือดเต็มปาก เมื่อพาไปพบแพทย์ก็พบว่า ภายในท้อง มีเศษหลอดไฟและสารเคมีตกค้างอยู่ และนั่นเป็นเหตุให้ทางครองครัวต้องเฝ้าดูนาตาลีอยู่ไม่ห่าง และหวังว่า ลูกสาวจะหายจากโรคกินทุกอย่าง ได้เสียที
    Mthainews
     
  17. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>เตือนภัยพายุโซนร้อน"ไห่ถาง-เนสาด"เข้าไทย 7 จ.อีสานฝนตกหนัก </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ประกาศเรื่อง เฝ้าระวังพายุหมุนเขตร้อนในวันที่ 27 กันยายนนี้

    ทั้งนี้พายุโซนร้อน “ไห่ถาง” ปัจจุบันมีศูนย์กลางอยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน อยู่ห่างจากจังหวัดนครพนมไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ 800 กิโลเมตร อาจจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ประมาณวันที่ 27 กันยายน 2554 และจะส่งผลต่อประเทศไทยทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับลมกระโชกแรงในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน บริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร สกลนคร หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี และหนองบัวลำภู

    อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “เนสาด” ในมหาสมุทรแปซิฟิกฯ มีศูนย์กลางอยู่ทางตะวันออกของเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ จะเคลื่อนตัวผ่านประเทศฟิลิปปินส์ลงสู๋ทะเลจีนใต้ อาจจะเคลื่อนตัวมาถึงประเทศไทยในอีก 3-4 วันข้างหน้า

    จึงขอให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมระมัดระวังและติดตามข้อมูลจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติต่อ




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>แค่ข่าวลือเขื่อนป่าสักฯแตก ยืนยันตัวเขื่อนแข็งแรง </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>กรมชลฯออกโรงแจงเป็นแค่ข่าวลือเขื่อนป่าสักฯแตก ยืนยันตัวเขื่อนแข็งแรง เตือนประชาชนสระบุรี อยุธยา รับมือระดับน้ำขึ้นสูง

    วันนี้(26 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 4,254 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท 3,697 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งมีระดับน้ำเหนือเขื่อน สูงกว่าระดับตลิ่ง 1 เมตร ส่วนที่อ.บางไทร มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 3,213 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากวานนี้ 43 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 90 เซนติเมตร

    ทั้งนี้ปริมาณที่สูงขึ้นเนื่องจากยังคงมีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นจำนวนมาก

    ส่งผลให้เขื่อนป่าสักฯมีปริมาณน้ำเต็มความจุของอ่างเก็บน้ำ โดยขณะนี้มีปริมาณในอ่างฯ จำนวน 1,035 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 130 ของความจุอ่างฯทั้งหมด ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำจำนวนมากไหลล้นเขื่อนลงไปเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ริมตลิ่งแม่น้ำป่าสักเป็นบริเวณกว้าง และเตรียมพร้อมที่จะรับปริมาณฝนที่จะตกหนักลงมาอีกตลอดในช่วงสัปดาห์นี้เพราะกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์จะมีพายุเข้ามามีอธิพลต่อประเทศไทยอีก 3ลูก ซึ่งมีความจำเป็นที่จะเร่งระบายน้ำออกจากเขื่อนป่าสักฯในช่วงน้ำทะเลไม่หนุนสูง จึงเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่จะทำการพร่องน้ำออกจากเขื่อน เพื่อให้มีพื้นที่รองรับปริมาณน้ำที่จะไหลหลากลงมาอีก

    ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำในแม่น้ำป่าสัก ตั้งแต่ด้านท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ลงมา ในเขตจังหวัดสระบุรีและจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบจากระดับน้ำจะยังคงเพิ่มสูงขึ้น จึงขอเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำป่าสักในเขตจังหวัดสระบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาด้วย

    ทั้งนี้ กรมชลประทาน ขอยืนยันว่าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ถึงแม้ว่าจะรับน้ำจนเกินความจุที่สามารถเก็บกักได้ก็ตาม

    แต่ตัวเขื่อนและอาคารประกอบ ยังมีความมั่นคงแข็งแรงดี และยังสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากกรมชลประทาน ได้มีการตรวจวัดพฤติกรรมและความปลอดภัยเขื่อนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความมั่นใจและเชื่อมั่นว่า เขื่อนจะไม่มีการพังทลายลงมาตามที่เป็นข่าวลือแต่อย่างใด


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>เผยชาวกทม. วิตกรับมือน้ำท่วมกรุง </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>นิด้าโพลเผยผลสำรวยพบ ชาว กทม.วิตกรับมือน้ำท่วม ทรัพย์สินเสียหาย ปัญหาการจราจร การช่วยเหลืออาจล่าช้าไม่ทั่วถึง

    วันนี้(26ก.ย.)นิด้าโพลสำรวจความคิดเห็นของชาวกทม.ซึ่งส่วนใหญ่ระบุว่าอยู่ในพื้นที่ไม่เสี่ยงภัยน้ำท่วม โดยร้อยละ 74.16 พบว่าเกือบครึ่งหนึ่ง พึงพอใจการรับมือน้ำท่วมของทางกรุงเทพมหานครเพียงระดับปานกลาง โดยผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมพึงพอใจเรื่องนี้มากกว่าผู้อยู่ในพื้นที่ไม่เสี่ยงภัยน้ำท่วม และกว่าร้อยละ 90 ของผู้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมได้เตรียมการรับมือไว้บ้างแล้ว โดยการฟังติดตามข่าวระดับน้ำอย่างใกล้ชิด เตรียมอุปกรณ์ป้องกัน ตลอดจนเตรียมย้ายที่อยู่ชั่วคราว

    อย่างไรก็ตามผู้ที่อยู่ในพื้นที่ไม่เสี่ยงภัยน้ำท่วมกว่าร้อยละ 50 ก็ได้มีการเตรียมการไว้เช่นเดียวกัน

    ส่วนปัญหาหลักที่คนกทม.วิตกกังวลคือปัญหาเดิมๆ ได้แก่ ปัญหาการจราจร และประเด็นที่ชาวกทม.คิดว่ายังเป็นปัญหาในการแก้ไขเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม 2 อันดับแรก คือ การช่วยเหลือล่าช้าไม่ทั่วถึง และขีดความสามารถในการระบายน้ำ


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>เริ่มแล้ววันนี้"กินเจ" เยาวราชคึกคัก </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ผู้สื่อข่าวรายงานจากถ.เยาวราช ว่าได้มีชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนมาก จับจ่ายซื้ออาหารเพื่อต้อนรับเทศกาลกินเจ ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย.-5 ต.ค. ตลอดเส้นทางถ.เยาวราช มีป้ายผ้าใบสีเหลืองแสดงสัญลักษณ์เทศกาลกินเจ ติดตั้งตลอดเส้นทางถ.เยาวราช

    ขณะเดียวกัน มีการตั้งแผงขายของบริเวณริมถนน เพื่อที่จะให้พ่อค้าแม่ค้า นำอาหารเจ มาจำหน่ายให้กับประชาชน ที่ ถือศีลกินเจ


    บริเวณตลาดเก่าเยาวราช คึกคักแน่นขนัดเต็มไปด้วยชาวบ้านที่เข้ามาจับจ่าย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารสำเร็จรูป หรืออาหารที่มีแป้งเป็นส่วนประกอบ อาหารจำพวกเส้นหมี่ชนิดต่างๆ เป็นส่วนหนึ่งของการประกอบอาหารเจ พบว่า ราคาเมื่อปีที่แล้วกับปีนี้ราคาก็ไม่แตกต่างกันมากนัก ขยับขึ้นประมาณ 1-2 บาทเท่านั้น

    ส่วนอาหารสำเร็จรูปที่มีผักเป็นส่วนประกอบเช่น ผักกาด หน่อไม้จีน ก็ราคาปกติ ผลไม้ต่างๆ จะเป็นผลไม้นำเข้าเสียเป็นส่วนใหญ่ไม่ ว่าจะเป็นลูกพลับ ลูกพรุน ลูกเชอรี่ ราคาปกติ และไม่มีผลกระทบกับชาวบ้านที่มาจับจ่ายเท่าไรนัก ที่จะมีแพงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เห็นจะเป็น แป๊ะก๋วย ที่นำเข้าจากเมืองจีน เพราะน้ำท่วมที่เมืองจีนทำให้ แป๊ะก๋วยขยับขึ้นราคา ก่อนหน้านี้ โลละ 100 บาท ตอนนี้ 120 บาท(ข่าวสดออนไลน์)




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เมื่อเศรษฐกิจโลกล่มสลาย คนจะใช้ทองคำเพื่อซื้อสิ่งของต่างๆ ?

    [​IMG]

    วิวัฒนาการของระบบการแลกเปลี่ยน

    วิวัฒนาการของการแลกเปลี่ยนแบ่งได้เป็น 3 ระยะคือ

    1 การแลกเปลี่ยนโดยใช้ของแลกของ

    ในสมัยโบราณการดำเนินชีวิตของมนุษย์ในยุคแรกๆ อาศัยการล่าสัตว์เก็บผลไม้และอาศัยอยู่ตามถ้ำแต่ละคนแต่ละครอบครัว ทำทุกอย่างด้วยตนเอง ต่อมาสังคมมนุษย์ขยายใหญ่ขึ้น มนุษย์เริ่มรู้จักทำการเพาะปลูก จับสัตว์มาเลี้ยง และสร้างที่อยู่อาศัย จึงเริ่มมีการแบ่งหน้าที่ทำตามความถนัดของแต่ละคน และนำของที่แต่ละคนแต่ละครอบครัวผลิตได้ มาแลกกันเพื่อสนองความต้องการเช่น นายดำปลูกข้าวแต่มีความต้องการเนื้อไก่ นายแดงเลี้ยงไก่ แต่มีความต้องการข้าว ดังนั้นจึงเกิดการแลกเปลี่ยนกันระหว่างนายดำกับ นายแดงที่มีความต้องการตรงกัน แต่ระบบการแลกเปลี่ยนของแลกของ ในการปฎิบัติ มีความยุ่งยากเกิดขึ้นหลายประการ ซึ่งจำแนกออกได้ดังนี้

    1.1 ความต้องการของแต่ละคนไม่ตรงกัน ในการแลกเปลี่ยนโดยใช้ของแลกของนั้น ความต้องการของทั้งสองฝ่ายจะต้องตรงกัน จึงจะสามารถแลกเปลี่ยนกันได้ เช่นนายขาวปลูกส้ม มีความต้องการเครื่องนุ่งห่ม นายเขียวทอผ้าทำเครื่องนุ่งห่มมีความต้องการข้าว ดังนั้น นายขาวต้องการเครื่องนุ่งห่มจากนายเขียว แต่นายเขียวไม่มีความต้องการส้มของนายขาว การแลกเปลี่ยนจึงเกิดขึ้นไม่ได้ จนกว่าทั้งนายขาวและนายเขียวจะพบคนที่มีความต้องการ และมีสิ่งของตรงตามที่ต้องการ จึงแลกเปลี่ยนกันได้

    1.2 เสียเวลาและไม่สะดวกในการขนส่ง เนื่องจากการแลกเปลี่ยนโดยใช้ของแลกของ จำเป็นต้องขนของที่ตนเองมีอยู่เพื่อนำไปแลกเปลี่ยนกับบุคคลอื่น ซึ่งบางครั้งอาจจะต้องเดินทางไกล จนกว่าจะพบผู้ที่ต้องการตรงกัน ทำให้เสียเวลาในการขนส่งและถ้าของที่จะนำไปแลกเปลี่ยนนั้นเป็นของใหญ่ มีน้ำหนักมากจะทำให้เกิดความไม่สะดวกในการขนส่งอีกด้วย

    1.3 ของบางอย่างไม่สามารถเก็บไว้ได้นาน ของแต่ละอย่างมีอายุไม่เท่ากัน ของบางอย่างอายุยาวสามารถเก็บได้นาน เช่น เครื่องนุ่งห่ม เสื้อ เครื่องมือเครื่องใช้แต่ของบางอย่างอายุสั้นไม่สามารถเก็บไว้ได้นาน เช่น อาหาร ผัก ผลไม้ จึงไม่เหมาะสมสำหรับเก็บไว้เพื่อแลกเปลี่ยนในอนาคต เพราะของจะแปลสภาพ ทำให้มูลค่าของสิ่งของนั้นหมดไป

    1.4 ของบางอย่างไม่สามารถแบ่งย่อยได้ การแลกเปลี่ยนโดยใช้ของแลกของ ไม่สะดวกในการแลกเปลี่ยนที่ไม่พอดีกันในปริมาณ เช่น นายแดงปลูกข้าวมีความต้องการเนื้อวัว 1 ขา นายขาวเลี้ยงวัวมีความต้องการข้าว 20 ถัง แลกกับวัว 1 ตัว แต่นายแดงต้องการวัวเพียง 1 ขา จึงต้องการแลกกับข้าว 5 ถัง ซึ่งนายขาวไม่สามารถแลกเปลี่ยนให้ได้ เพราะถ้าให้วัวนายแดง 1 ขา วัวส่วนที่เหลือจะเสียไป นายขาวจึงต้องหาคนที่มีความต้องการวัว และมีข้าวอีก 15 ถังมาแลกเปลี่ยน ดังนั้น การแลกเปลี่ยนระหว่างนายแดงและนายขาวจึงไม่เกิดขึ้น

    2 การแลกเปลี่ยนโดยใช้เงินเป็นสื่อกลาง

    เนื่องจากการแลกเปลี่ยน โดยใช้ของแลกของประสบปัญหาดังกล่าวข้างต้น มนุษย์จึงหาวิธีการแลกเปลี่ยนที่สะดวก และมีประสิทธิภาพมากขึ้นมาใช้ โดยการกำหนดสิ่งของบางอย่างขึ้นมาเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน โดยเรียกสิ่งนั้นว่า "เงิน" เงินคือสิ่งใดก็ตามที่สังคมนั้นยอมรับให้ใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน สินค้าและบริการในขณะใดขณะหนึ่งและสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง ซึ่งในแต่ละสังคมอาจจะใช้สิ่งใดแทนเป็นเงินก็ได้ โดยแต่ละสังคมอาจไม่เหมือนกัน สิ่งที่ใช้เป็นเงินตั้งแต่อดีต เช่น หนังสัตว์ เปลือกหอย อัญมณี ใบชา สัตว์ เกลือ เป็นต้น

    เงินตราที่มีค่าสมบูรณ์ตามที่ตราไว้ คือ เงินตราที่มีค่าเท่ากับราคาของสิ่งที่นำมาทำเป็นเงินนั้น เช่นประเทศสหรัฐอเมริกา ได้กำหนดให้ค่าของเงิน 1 ดอลลาร์เทากับทองคำบริสุทธิ์หนัก 23.22 เกรน และทองคำที่นำมาทำเหรียญดอลลาร์ของสหรัฐอเมริกาในยุคแรกๆ ก็ทำด้วยทองคำบริสุทธิ์หนัก 23.22 เกรน ดังนั้นไม่ว่าจะนำเงินตรา 1 ดอลลาร์ไปซื้อสินค้าหรือนำเหรียญมาหลอมนำออกขายก็จะได้มูลค่าเท่ากัน

    ที่มา http://lpn.nfe.go.th/e_learning/LESSON4/unit4_1.htm

    หมายเหตุ

    ถ้าเศรษฐกิจโลกเกิดการล่มสลาย เงินของแต่ละประเทศก็จะกลายเป็นเพียงเศษกระดาษไปในทันที เพราะแต่ละประเทศก็จะขาดความเชื่อมั่น ขาดความเชื่อถือในเงินตราสกุลต่างๆของต่างประเทศ มีแต่ทองคำเท่านั้นที่แต่ละประเทศยังให้ความเชื่อมั่น จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า ต่อไปใครจะซื้อขายอะไรก็ต้องใช้ทองคำแทนเงินตราไปจนกว่า เศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม ผมจึงอยากจะขอให้ทุกๆท่าน โปรดพิจารณาสาส์นของหลวงปู่เทพโลกอุดร ที่ท่านได้แนะนำเอาไว้ดังนี้ครับ

    สาส์นจากปู่ใหญ่ (หลวงปู่เทพโลกอุดร)

    สาส์นจากหลวงปู่เทพโลกอุดร ผ่านทางทิพย์นิมิต พระอาจารย์เพลิน นนทโก ให้แจ้งต่อผู้ศรัทธาในปู่ใหญ่ หลวงปุ่เทพโลกอุดร ว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ จักเกิดภัยพิบัติอันใหญ่หลวงต่อมวลมนุษยชาติทั่วโลก ขอให้ลูกหลานทุกคนจงพากันเตรียมตัว ร้บสถานการณ์ให้ดี โดยให้มีสติอันมั่นคงอย่าวิตกกังวล จงพา กันเร่งบำเพ็ญภาวนาทำสมาธิ ฝึกฝนพลังจิตให้เข้มแข็ง และ ให้พากันหาสถานที่อันสงบในป่าเขาแหล่งที่ห่างไกลความเจริญ ปลูกต้นไม้ให้มาก ๆ ล้อมรอบที่พักอาศัย แล้วบำเพ็ญภาวนา เก็บกักตุนเสบียงไว้ใช้ในยามขัดสนอันมีปัจจัยสี่ เช่น เครื่อง นุ่งห่ม อาหารแห้ง ยารักษาโรค

    หากผู้ใดมีเงินขอให้เปลี่ยน เป็นของมีค่าอย่างอื่น เช่น ทองคำเป็นต้น

    อย่าฝากธนาคาร อย่าซื้อหุ้น ให้ฝังดินไว้ทำแผนที่ลายแทงไว้ในพื้นที่ที่ห่างไกล กรุงเทพฯ เชื้อเพลิงให้พากันกักตุนแบตเตอรี่แห้งเป็นต้น อย่าห่วงทรัพย์ในเมืองหลวง จงพากันไปหาที่ปลูกสร้างที่พักไว้ ตามวัดป่า วัดเขาในชนบท ตามถ้ำต่าง ๆ จึงจะพากันรอด จากภัยพิบัติ จงเร่งบำเพ็ญภาวนา

    ผ่านกระแส เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2539
    ณ ธรรมสถานวงษ์จิต
    บ้านนาคำน้อย หมู่ 7
    ตำบลบ้านก้อง อาเภอนายูง
    จ้งหวัดอุดรธานี 41380
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 92332.jpg
      92332.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35 KB
      เปิดดู:
      4,843
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กันยายน 2011
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "จ้างผีโม่แป้ง" สำนวนจีนที่น่ารู้
    [​IMG]
    "จ้างผีโม่แป้ง" คำนี้มาจากสำนวนจีนอีกทอดหนึ่ง หมายถึง สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ กลับสามารถทำได้โดยง่ายโดยใช้อำนาจของเงิน เช่น เงินทองสามารถซื้อได้ทุกสิ่ง แม้กระทั่งจ้างผีโม่แป้งได้ เป็นต้น = เงินง้างได้ทุกอย่าง

    นัยว่า การโม่แป้งนั้นเป็นงานหนัก ต้องนำข้าวสาลีมาแช่น้ำค้างคืน แล้วนำมาหยอดในโม่หินแล้วหมุนเพื่อบดข้าวสาลีให้เป็นผงพร้อมกับหยอดน้ำ น้ำที่ได้นำมาใส่ถุงผ้า เอาหินกดทับไว้เพื่อไล่น้ำออก จะเหลือแป้งคาอยู่ในถุง ซึ่งเป็นแป้งสดมีความชื้น ดังนั้นการทำงานโม่แป้งจึงเหนื่อยยาก ดังนั้นแล้ว "จ้างผีโม่แป้ง" เขาจะเปรียบเทียบกันว่า ขนาดว่าผี เราเห็นตัวได้ยาก ยังสามารถเรียกออกมาใช้เงินเป็นค่าจ้างในการโม่แป้งที่ยากกว่าได้

    ที่มา http://www.reurnthai.com/index.php?topic=4506.5;wap2
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. ลิงเมืองละโว้

    ลิงเมืองละโว้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    709
    ค่าพลัง:
    +1,521
    [​IMG]

    ขอประชาสัมพันธ์นะครับ งานสัมมนาภัยพิบัติ ๕ ภูมิภาค
    ในครั้งต่อไปจะจัดขึ้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ ภาคอีสาน
    ขอเชิญชวนพี่น้องชาวอีสาน หรือ ภาคอื่นๆ มาร่วมฟังบรรยาย จากหน่วยงานราชการและองค์กรต่างๆ


    การจัดงานที่ผ่านมาในภาคกลางและภาคตะวันตก ท่านวิทยากรได้ให้ความรู้มากมาย ท่านให้ความสำคัญมากในเรื่องนี้
    และแน่นอนว่า ผู้ที่มาบรรยายเป็นทั้งผู้อำนวยการ อธิบดีกรม และผู้เชียวชาญพิเศษ มาบรรยายด้วยตัวเอง
    ข้อมูลต่างๆ น่าสนใจเป็น ที่ผ่านมานอกจากท่านจะมาให้ความรู้เรื่องภัย วิธีการเอาตัวรอดแล้ว ท่านยังมีเรื่อง
    แนะนำนอกจากนี้อีกด้วย และสามารถสอบถามในเรื่องต่างๆ ที่อยากจะทราบ หรืออยากรู้เพิ่มเติม ได้อีกด้วย

    อีกทั้งยังมีการบรรยาย การปฐมพยาบาลในการช่วยเหลือตนเองและคนอื่นๆ
    บรรยายเรื่องวิธีพอเพียง ตรงนี้น่าสนใจมากเพราะที่ผ่านมา ความรู้การจัดการ
    การใช้ชีวิตแบบพอเพียง เป็นที่น่าสนใจ เพราะนอกจากเรื่องวิธีพอเพียงแล้ว ยังมีความรู้เกี่ยวกับการทำปุ๋ย การจัดการ
    พื้นที่การทำเกษตรอินทรีย์ พีชผักที่มีประโยชน์มหาศาลที่คนมองข้ามอย่างมาก ถือเป็นความรู้ใหม่ เป็นที่สนใจ
    ของคนที่มารับฟังเป็นอย่างมาก ส่วนมีอะไรบ้างนั้น ต้องรอติดตามได้จากวีดีโอจากงานที่ผ่านมาครับ

    นอกจากนี้ยังได้รับความเมตตาจากพระเดชพระคุณพระครูธรรมธรเล็ก สุธัมมปัญโญ เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน
    ธรรมบรรยาย เรื่อง "อปต." วัดเป็นศูนย์กลางของชุมชน อีกด้วย



    งานสัมมนาที่ผ่านมาท่านใดพลาด น่าเสียดายเป็นอย่างมาก ถ้าไม่มีโอกาสสามารถรอรับชมวีดีโอได้ครับ
    อาจต้องรอสักหน่อย งานสัมมนาที่จะถึงนี้ ห้ามพลาดเด็ดขาด หรือรอติดตามในภูมิภาคของท่านครับ
    งานสัมมนาครั้งนี้คุ้มกับการเสียเวลาของท่านแน่นอนครับ และอาจจะได้อะไรดีๆ กลับไปก็ได้ครับ
    กล่าวได้คำเดียวครับ ห้ามพลาดเด็ดขาด
     

แชร์หน้านี้

Loading...