WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

ลำปางฝนตกหนักอีก-ตร.เตือนปชช.เฝ้าระวัง

ข่าวภูมิภาค วันอังคารที่ 4 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 21:10 น.


<!--
--><!--
--><?xml:namespace prefix = fb ns = "http://www.facebook.com/2008/fbml" /><fb:like class=" fb_edge_widget_with_comment fb_iframe_widget" action="like" href="http://www.innnews.co.th/ลำปางฝนตกหนักอีก-ตร-เตือนปชช-เฝ้าระวัง--312225_06.html" layout="button_count" send="true" colorscheme="light" show_faces="true" font="arial"></fb:like>




จังหวัดลำปาง ฝนตกหนักอีก ตำรวจ แจ้งเตือนประชาชน พร้อมรับมือ และย้ายสิ่งของ


พ.ต.อ.พิทักษ์ นาสมวาส ผู้กำกับการ สภ.เมืองลำปาง ได้สั่งการให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ให้เข้าไปในชุมชนของเทศบาลนครลำปาง และชุมชนของเทศบาลเมืองเขลางค์นคร อ.เมือง เคยประสบภัยน้ำป่าจากดอยพระบาท ได้ไหลหลากเข้าท่วมเมื่อวานนี้ ได้ให้เฝ้าระวัง และเตรียมพร้อมรับมืออีกครั้ง เนื่องจากบนยอดเขาสูงของดอยพระบาทเกิดฝนตกหนักกว่า 100 มิลลิเมตร และทางเจ้าหน้าที่ที่มีการเฝ้าระวัง ได้รายงานเข้าไปยัง จ.ลำปาง ว่า ขณะนี้ น้ำป่าจากฝนที่ตกหนักบนยอดเขา ได้ไหลหลากลงมาแล้ว ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง หลังได้รับการประสาน จึงได้กระจายกำลังออกประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม ได้ยกทรัพย์สินมีค่า ขึ้นสู่พื้นที่สูง

Link : http://www.innnews.co.th/ลำปางฝนตกหนักอีก-ตร-เตือนปชช-เฝ้าระวัง--312225_06.html

 

04/10

ตลิ่งริมโขงหนองคาย ทรุดยุบเล้าไก่-ยุ้งข้าว เสียหาย

ผลกระทบจากฝนตกตลอดทั้งคืนในจังหวัดหนองคายว่า ล่าสุดได้รับแจ้งจากนางเพชรศรี นันทะ อายุ 62 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 79 บ้านปากโสม หมู่ 2 ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงว่า ดินริมตลิ่งทรุดตัวลึกเกือบ 10 เมตร กว้าง 30 เมตร ยาวกว่า 20 เมตร รวมทั้งยุ้งข้าวขนาดเสา 9 ต้น ไก่ในเล้ากว่า 40 ตัว และต้นไม้หลายชนิดจมหายไปในแม่น้ำโขงทั้งหมด โดยช่วงกลางดึกที่ผ่านมาได้ยินเสียงดังครืนท่ามกลางฝนตกหนัก แต่ไม่ได้ออกมาดู กระทั่งรุ่งเช้าจึงพบว่าดินริมตลิ่งทรุด นอกจากนี้ ถนนสายหนองคาย-อำเภอสังคม ทางหลวงแผ่นดิน สาย 211 บริเวณภูผาเดือน ซึ่งเป็นพื้นที่ขึ้น-ลงเขาที่มีความคดเคี้ยวและติดอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง พบว่าผิวการจราจรเริ่มบวมและมีรอยแยกยาวกว่า 30 เมตร อีกทั้งมีดินบนเขาไหลลงมาบางส่วน ซึ่งทางอำเภอได้ให้การช่วยเหลือนางเพชรศรี ในเบื้องต้นแล้ว พร้อมประสานกับเจ้าหน้าที่ทางหลวงมาตรวจสอบเส้นทางดังกล่าว เพื่อหาสาเหตุและซ่อมแซมความเสียหาย

 

จีนพร้อมรับมือพายุ "นาลแก" หลังพัดขึ้นฝั่งเที่ยงนี้

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 ตุลาคม 2554 19:50 น.


       พายุโซนร้อนนาลแกพัดขึ้นเกาะไหหลำของจีนแล้ว เมื่อเวลา 12.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น ทางการเตรียมความพร้อมรับมือกับพายุ โดยสั่งให้รถไฟความเร็วสูงระงับการให้บริการตั้งแต่เวลา 11.00 น. แม้ว่าพายุนาลแกจะอ่อนกำลังเป็นพายุโซนร้อน แต่อิทธิพลของพายุได้ทำให้เกิดฝนตกหนัก สนามบินนานาชาติต้องยกเลิกเที่ยวบิน 64 เที่ยว ขณะที่สนามบินเม่ยหลัน เที่ยวบินล่าช้า 28 เที่ยว ส่วนเขื่อน"ซงเต่า" ซึ่งเป็นแหล่งกักเก็บน้ำที่ใหญ่ที่สุดของเกาะไหหลำ ได้เปิดประตูระบายน้ำตั้งแต่เมื่อวานนี้ ( 3 ต.ค.) เพื่อเตรียมรับมือกับพายุนาลแก ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 22 ปี ที่ต้องเปิดระบายน้ำจากเขื่อน

 

อยุธยาเร่งกู้วัดไชยวัฒนาฯคาด3วันเสร็จ

04 ตุลาคม 2554 เวลา 20:44 น.

<SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>
<!-- end tweetmeme_button -->ทหาร-คนงานกรมศิลป์ฯเร่งทำแนวกั้นน้ำรอบไชยวัฒนารามก่อนสูบน้ำออก ผู้ว่าฯคาดเสร็จภายใน3วัน


เมื่อเวลา 19.00 น. ทหารจากจังหวัดทหารบกสระบุรี และคนงานสำนักงานศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา จำนวนกว่า 50 นายได้เร่งนำกระสอบทรายมาวางตามแนวถนนด้านหน้าวัดไชยวัฒนาราม ที่ถูกน้ำท่วมโดยเจ้าหน้าที่ได้พยายามเร่งวางแนวกระสอบทรายให้มีความสูงจากพื้นถนนประมาณ 50-80 ซ.ม.ตลอดระยะทาง 3 ก.ม. ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำท่วมถนนสายวัดไชยวัฒนาราม ตั้งแต่ด้านหน้าวัดไชยวัฒนาราม ยาวไปทางด้านหลังโบราณสถาน

นายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา กล่าววา จะทำการกู้โบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม ด้วยการวางแนวกระสอบทรายบนถนนหน้าวัดไชยวัฒนารามให้เสร็จ จากนั้นก็จะนำดินลงไปทับเป็นคันกั้นน้ำ เมื่อวางแนวตามถนนนี้เสร็จก็จะเข้าไปนำกระสอบทรายไปทิ้งที่แนวป้องกันที่แตกด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งจะทำงานกันทั้งกลางวันกลางคืน เมื่อกั้นได้แล้วจึงจะทำการสูบน้ำออกทันที โดยคาดว่าจะใช้เวลาภายใน 3 วันสามารถกู้วัดไชยวัฒนารามได้

ด้าน นางสุกุมล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม (วธ.) พร้อมด้วยนางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร และเจ้าหน้าที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมโบราณสถานมรดกโลกในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสุกุมล กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า โบราณสถานในเขตเกาะเมืองได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมดแล้ว โดยเฉพาะที่วัดไชยวัฒนาราม กระแสน้ำที่แรงได้ไหลท่วมแนวกำแพงที่กั้นน้ำด้านข้างขาดยาวกว่า 60 เมตร เข้าท่วมโบราณสถานวัดไชยวัฒนารามทั้งหมด

นางโสมสุดา กล่าวว่า โบราณวัดไชยวัฒนารามได้รับผตลกระทบอย่างมาก เนื่องจากกระแสน้ำแรง และเป็นห่วงว่า ตัวเจดีย์รายรอบ รวมถึงซุ้มประตู ที่มีขนาดเล็ก อาจหลุดพังไปกับกระแสน้ำ อย่างไรก็ตาม หากน้ำแช่เพียง 2 - 3 วัน ตัวโครงสร้างอาจไม่ได้รับผลกระทบ แต่หากนานเกิน 7 วัน จะทำให้ตัวโครงสร้างเปื่อยยุ่ย ฐานรากจะทรุดลง ทำให้โบราณสถานพังทลาย

เกาะทุกประเด็นร้อนกับ โพสต์ทูเดย์ดอทคอม คลิก!

 

น้ำท่าจีนเพิ่มต่อเนื่อง ชาวสุพรรณเดือดร้อนทั่วหน้า ดับแล้ว5



ประตูระบายน้ำพลเทพ จ.ชัยนาท ระบายน้ำลงมาสู่แม่น้ำท่าจีนเพิ่ม ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนที่ไหลผ่านหลายอำเภอเพิ่มขึ้นอีก ชาวสุพรรณบุรีเดือดร้อนทั่วหน้า ขณะที่มีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมแล้ว 5 ราย...

ที่ จ.สุพรรณบุรี นางสมเจตน์ พรหมสุนทร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุพรรณบุรี เผยถึงสถานการณ์น้ำในแม่น้ำท่าจีน ที่ไหลผ่าน 6 อำเภอของ จ.สุพรรณบุรี ว่า หลังประตูระบายน้ำพลเทพ จ.ชัยนาท ระบายน้ำลงมาสู่แม่น้ำท่าจีน 340.60 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีน ที่ อ.เดิมบางนางบวช เพิ่มสูงเอ่อท่วมนาข้าวบางส่วนและบ้านเรือนราษฎรริมแม่น้ำท่าจีน โดยสูงจากตลิ่ง 32 ซม. สูงเพิ่มขึ้นจากวันก่อน 13 ซม.

ที่ อ.สามชุก ระดับน้ำอยู่ต่ำกว่าแนวเขื่อนกั้นน้ำหน้าอำเภอ 30 ซม. เพิ่มขึ้น 22 ซม. ที่ อ.ศรีประจันต์ ระดับน้ำอยู่เหนือระดับถนนหน้าอำเภอ 60 ซม. เพิ่มขึ้น 22 ซม.



ที่ อ.เมืองสุพรรณบุรี ระดับน้ำท้ายเขื่อนโพธิ์พระยา 6.23 เมตร สูงขึ้น 0.23 เมตร บริเวณหน้าโรงน้ำแข็งสุพรรณบุรี อยู่ต่ำกว่าสันเขื่อนป้องกันน้ำท่วม 14 ซม. เพิ่มขึ้น 23 ซม.

 

ที่ อ.บางปลาม้า ระดับน้ำอยู่เหนือถนนหน้าอำเภอ 54 ซม. เพิ่มขึ้น 23 ซม. ที่ อ.สองพี่น้อง ระดับน้ำอยู่เหนือถนนตลาดบางลี่ 72 ซม. เพิ่มขึ้น 6 ซม. อ.ดอนเจดีย์ น้ำในแม่น้ำท่าคอยเพิ่มระดับเอ่อท่วมบ้านเรือนราษฏรและพื้นที่ทางการเกษตร สูงประมาณ 17 ซม.

ที่ อ.อู่ทอง ในคลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง ระดับน้ำสูงขึ้นอีก 8 ซม. เอ่อท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตร สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากน้ำท่วม ปรากฏว่าบ้านเรือนราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน 9 อำเภอ 91 ตำบล 489 หมู่บ้าน 42,800 ครัวเรือน ถนน 235 สาย วัด 88 แห่ง โรงเรียน 46 โรง พื้นที่นาข้าว 45,640 ไร่ พืช/ผัก 980 ไร่ มีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมแล้ว 5 ราย.

 

ราง“รถไฟ”จมน้ำหยุดวิ่งไปปราจีนฯ

วันอังคาร ที่ 04 ตุลาคม 2554 เวลา 19:40 น




น้ำทะลักท่วมสูงย่านเศรษฐกิจหลายอำเภอในปราจีนบุรี ราง“รถไฟ”จมน้ำต้องหยุดเดินรถ

เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมจ.ปราจีนบุรี ในย่านเศรษฐกิจการค้าหลายอำเภอ ปรากฎว่าน้ำไหลเข้าท่วมอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะอ.กบินทร์บุรี บริเวณตลาดเทศบาลตำบลกบินทร์ ระดับน้ำท่วมสูง 20-30 ซม. ส่วนชุมชนตลาดเก่าน้ำยังท่วมสูง 2 เมตร  ที่อ.ศรีมหาโพธิ น้ำท่วมตลาดท่าประชุม ระดับน้ำสูง 50-70 ซม.  รถยนต์ขับผ่านไม่ได้ ส่วนที่ตลาดท่าตูม งดการใช้เส้นทางหน้าสถานีอนามัยโดยเด็ดขาด เพราะระดับน้ำสูง 1 เมตร

ส่วนเขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรี  น้ำไหลท่วมถนนทุกสาย โดยเฉพาะถนนปราจีนอนุสรณ์ และถนนเทศบาลดำริ เป็นถนนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำปราจีนบุรี ระดับน้ำ 50-60 ซม. รถขนาดเล็กขับผ่านไม่ได้ ส่งผลให้ผู้ที่มาจับจ่ายซื้อสินค้า และข้าราชการที่ไปทำงาน ต้องประสบปัญหาการจราจรติดขัดตลอดทั้งวัน

ทางด้าน อ.บ้านสร้าง บริเวณตลาดบ้านสร้าง ระดับน้ำเข้าท่วมสูง 30-50 ซม. บ้านเรือนที่อาศัยตามริมแม่น้ำปราจีนบุรี เดือดร้อนอย่างหนัก พระภิกษุต้องลุยน้ำออกบิณฑบาตอย่างลำบากยากเย็น

ขณะที่นายประเสริฐ สุขเกษตร  ผู้ช่วยสารวัตรเดินรถไฟ กล่าวว่าเส้นทางรถไฟ ระหว่างสถานีบ้านปากพลี และสถานีบ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ถูกน้ำท่วมสูง 10-15 ซม. ระยะทางยาวประมาณ 200 เมตร  ทำให้รถไฟขบวน  275 ต้องหยุดการเดินรถผ่านจุดดังกล่าว เนื่องจากหัวรถจักรเป็นระบบไฟฟ้าไม่สามารถวิ่งผ่านน้ำได้  ผู้โดยสารที่เดินทางจากกรุงเทพฯ เพื่อไปยังสถานีปราจีนบุรี  สถานีกบินทร์บุรี หรือปลายทางที่สถานีอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ต้องติดอยู่ที่สถานีรถไฟบ้านสร้าง ขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการแก้ไขของเจ้าหน้าที่  โดยจะตรวจสอบระดับน้ำที่ท่วม และความแข็งแรงของหมอนรางรถไฟ พร้อมทั้งจะนำรถไฟดีเซลรางมาขนถ่ายผู้โดยสาร ไปส่งยังปลายทางที่อรัญประเทศ  ทำให้เสียเวลาในการดำเนินการกว่า 2 ชม.

 

หวั่นปราสาทพิมายทรุดหลังเจอน้ำท่วม


04 ตุลาคม 2554 เวลา 21:23 น.

<SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>
<!-- end tweetmeme_button -->ชาวโคราชหวั่นปราสาทหินพิมายทรุดหลังเจอน้ำท่วมสูงกว่า 30 ซม. เจ้าหน้าที่ระดมสูบออก


หลังจากมีฝนตกหนักในพื้นที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา หลายวันติดต่อกัน ได้ส่งให้อุทยานประวัติศาสตร์ประสาทหินพิมายถูกน้ำท่วมสูงกว่า 30 ซม. โดยเจ้าหน้าที่ต้องเร่งระดมเครื่องสูบน้ำเพื่อสูบน้ำออกจากบริเวณอุทยาน ขณะที่ชาวบ้านต่างกลัวว่า ดินที่อุ้มน้ำจำนวนมากจะเกิดการอ่อนตัวและส่งผลให้ตัวปราสาททรุดลง

ขณะที่เขื่อนระบายน้ำพิมาย เป็นเขื่อนสุดท้ายที่จะทำหน้าที่ระบายน้ำออกจากตัวอ.พิมาย ต้องเปิดประตูระบายน้ำทั้ง 6 บาน เพื่อเร่งระบายน้ำอย่างเต็มพิกัดอยู่ที่ 159.32 ลบ.ม./วินาที เพื่อเตรียมพร้อมในการรับน้ำจากลำน้ำลำตะคองและลำน้ำจักราช ที่มีปริมาณน้ำไหลมาสมทบอย่างต่อเนื่อง

เกาะทุกประเด็นร้อนกับ โพสต์ทูเดย์ดอทคอม คลิก!

 

ด่วนน้ำทะลักท่วมนิคมอุตฯสหรัตนนครอยุธยา

 

ทางยูเทรินลอดใต้สะพาน หน้าปากทางถนนบ้านกล้วย - ไทรน้อย บางบัวทอง นนทบุรี มีน้ำล้นไหลขึ้นจากคลองสูงเท่าฟุตบาท (ไม่มีป้ายบอกน้ำสูงห้ามผ่าน) รถเล็กขอให้หลีกเลี่ยง ให้ไปยูเทริน ใต้สะพานต่างระดับที่แยกจะไปสุพรรณบุรี (เพราะถ้ารถไปน็อคในช่องยูเทรินใต้สะพานข้ามคลอง จะทำให้รถในซอยถนนบ้านกล้วย - ไทรน้อย ออกไม่ได้)

 

 น้ำเอ่อท่วมถนนเข้าเมืองปทุมฯ
  

5 ตค. 2554 00:47 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงดึกที่ผ่านมา ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ได้เอ่อสูงขึ้นทำให้มีกระแสน้ำไหลเอ่อเข้าท่วมถนนปทุมธานี-เสนา ในเขต อ.สามโคก จ.ปทุมธานี โดยระดับน้ำได้เอ่อเข้าท่วมพื้นถนนขาเข้าจังหวัดปทุมธานี จนเสียช่องการจราจรไป 2 ช่องทาง เจ้าหน้าที่ต้องนำสิ่งกีดขวางมาวางไว้เพื่อให้ผู้ที่ขับรถยนต์ผ่านบริเวณดังกล่าวได้ใช้ความระมัดระวัง ส่วนที่ถนนปทุมธานี สายใน ในเขตพื้นที่ ม.4 ต.บางหลวง อ.เมืองปทุมธานี ก็ถูกน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วม จนเสียช่องการจราจรไป 1 ช่องทางเช่นกัน
นายพิชัย ตาลอ่อน สจ.เขต อ.สามโคก กล่าวว่า ในวันนี้ช่วงเย็นระดับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาได้เพิ่มสูงขึ้นประมาณ 10-15 ซม. และยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำเข้าท่วมบนผิวการจราจรบนถนนปทุมธานี – เสนา ซึ่งในช่วงเช้าถ้าระดับน้ำยังคงขึ้นไม่หยุด คงต้องประสานงานกับทางกรมทางหลวงเพื่อปิดช่องการจราจรบางส่วนเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถให้ถนน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ ยังพบว่าถนนสายซ่อมสร้าง ต.บางพูน อ.เมือง ก็มีน้ำจากคลองรังสิตประยูรศักดิ์เอ่อขึ้นท่วมขังบริเวณฝั่งตรงข้ามศูนย์ซ่อมสร้าง โดยมีกำลังพลของศูนย์ซ่อมสร้าง จำนวนกว่า 50 นาย ได้ออกมาช่วยกันนำกระสอบทรายมาวางเป็นแนวกั้นน้ำป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วมถนนเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ถูกน้ำท่วมหลายจุดเป็นระยะทางกว่า 2 กม.



<< back  next >>

 

ประกาศเตือนภัย
"พายุ “นาลแก”"
ฉบับที่ 6 ลงวันที่ 05 ตุลาคม 2554

     เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (5 ต.ค.) พายุโซนร้อน “นาลแก” บริเวณอ่าวตังเกี๋ย ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 200 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกของเมืองวิญ ประเทศเวียดนาม หรือที่ ละติจูด 18.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 108.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในวันนี้ และจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำในระยะต่อไป
อนึ่ง ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยมีฝนตกชุกและมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักในระยะ 1-2 วันนี้ ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

ประกาศ ณ วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2554
ออกประกาศ เวลา 05.30 น.



สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
​

 

ชาวตลาดนครชัยศรี ริมแม่น้ำท่าจีนผวาหลังฝนตกน้ำทะลักเข้าชุมชน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 ตุลาคม 2554 19:32 น.



นครปฐม - ตลาดน้ำชัยศรี เมืองนครปฐม ตื่นน้ำท่าจีนทะลักเข้าบ้านหลังฝนตกหนัก เทศบาลฯ เตรียมกำลังพร้อมกระสอบทรายรับศึกน้ำเอ่อเข้าเมือง ชาวบ้านบอกไม่เคยท่วมปีนี้คาดหนักแน่เตรียมก่ออิฐยกของขึ้นที่สูงหนีน้ำที่คาดจะมา 1-2 วันนี้
       
       วันนี้ (4 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวติดตามสถานการณ์ น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม บริเวณตลาดเก่า ซึ่งเป็นสถานที่เก่าแก่และอยู่ติดกับแม่น้ำท่าจีน ซึ่งมีการแจ้งเตือนว่า จะมีสภาวะน้ำท่วมขึ้นสูงจากการปล่อยน้ำระบายผ่านแม่น้ำท่าจีน จากจังหวัดสุพรรณบุรี ผ่านจังหวัดนครปฐม เพื่อให้ไปออกสู่ทะเลที่จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งเมื่อช่วงเวลา 18.00 น.ของวันที่ 3 ตุลาคม ปรากฏว่า ฝนตกลงมาในพื้นที่จังหวัดนครปฐม อย่างหนัก และในช่วงเวลา 20.00 น.น้ำในแม่น้ำท่าจีนได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และได้เอ่อล้นเข้ามาในพื้นที่ตลาดเขตบาลตำบลนครชัยศรี ซึ่งมีร้านค้าและบ้านเรือนของผู้คนอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ของเทศบาลตำบลนครชัยศรีต้องระดมกำลังคนนำกระสอบทรายมาตั้งคันป้องกันระดับน้ำทันทีท่ามกลางความโกลาหลของชาวบ้าน
       
       โดยพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ตลาดนครชัยศรี ได้บอกว่า หลังจากฝนตกลงมาอย่างยาวนานตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงดึกในช่วงเวลา 20.00 น.น้ำได้เพิ่มขึ้นสูงอย่างรวดเร็วจากแม่น้ำท่าจีนและไหลทะลักเข้าสู่บ้านเรือน จนระดับน้ำสูงในพื้นที่กว่า 60 เซนติเมตร ซึ่ง นายบัญชา ปักษาทอง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนครชัยศรี ได้เร่งนำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัยและ อปพร.ออกช่วงกันนำกระสอบทรายตั้งกำแพงกั้นแนวเพื่อไม่ให้ระดับน้ำทะลักเข้าสู่ตัวเมืองนครชัยศรีอย่างเร่งด่วนและได้นำเครื่องสูบน้ำระบายออกตลอดทั้งคืนจนกระทั่งเวลาประมาณตี 2 จึงสามารถทำให้น้ำลดระดับได้
       
       จากนั้นในช่วงเช่าจนถึงเย็นวันนี้ (4 ต.ต.) ชาวบ้านหลายคนได้นำก้อนอิฐไปตั้งของให้อยู่บนที่สูง ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้เร่งระดมกรอกทรายใส่กระสอบเพื่อตั้งคันป้อนกันน้ำที่อาจจะขึ้นสูงในวันนี้ และหลายรายได้มีการก่ออิฐบริเวณหน้าบ้านิเพื่อรักษาทรัพย์สินของตนเองไว้ ซึ่งชาวบ้านบอกว่าน้ำที่บริเวณดังกล่าวนั้นเคยเพิ่มระดับมาครั้งหนึ่งตั้งแต่ปี 38 จากนั้นก็ไม่เคยมีเหตุการณ์กระทั่งคืนที่ผ่านมา จึงเชื่อว่า ในช่วงที่ฝนจะตกใน 2 วันนี้ประกอบกับการระบายน้ำมาจากทางจังหวัดสุพรรณบุรี เขตอำเภอนครชัยศรี น่าจะเจอปัญหาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
       
       ด้าน นายมรกต คงทน ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครปฐม ได้แจ้งสถานการณ์การป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยปัจจุบันจังหวัดนครปฐมว่า จังหวัดนครปฐมเริ่มมีน้ำเอ่อล้นตลิ่ง มาตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2554 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันทำให้จังหวัดนครปฐมมีพื้นที่ประสบอุทกภัยทั้งสิ้น จำนวน 6 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอบางเลน, นครชัยศรี, สามพราน, ดอนตูม อำเภอกำแพงแสน และพุทธมณฑล มีพื้นที่ได้รับความเสียหาย 59 ตำบล 447 หมู่บ้าน และราษฎรได้รับความเดือดร้อน รวม 64,764 คน 20,522 ครัวเรือน ซึ่งมีความเสียหายรวมมูลค่าในเบื้องต้นประมาณ 12, 665,547.00 บาท ประกอบด้วย ด้านทรัพย์สิน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 4,638 หลัง และด้านสิ่งสาธารณประโยชน์ ถนน 129 สาย สะพาน 10 แห่ง วัด 10 แห่ง โรงเรียน 8 แห่ง โรงงาน 2 แห่ง
       
       ส่วนด้านการเกษตร ความเสียหายเบื้องต้นของพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบจาก กรณีอุทกภัยในระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม - 26 กันยายน 2554 ในพื้นที่การเกษตรของอำเภอนครชัยศรี บางเลน พุทธมณฑล กำแพงแสน สามพรานและอำเภอดอนตูม ปรากฏว่า ขณะนี้ มีพื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหายสะสมจำนวน 29,668.50 ไร่ เป็นข้าว 25,780.50 ไร่, พืชสวน 2,512 ไร่, พืชไร่ 1,376 ไร่ เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 1,959 ราย
       
       สำหรับการคาดหมายสถานการณ์และการเฝ้าระวังนั้น สถานีอุตุนิยมวิทยานครปฐม รายงานพยากรณ์อากาศบริเวณจังหวัดนครปฐม ท้องฟ้ามีเมฆมาก (8-9 ส่วน/10 ส่วน) กับจะมีฝนและฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป 60% ของพื้นที่ โดยเฉพาะช่วงบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม.ต่อชม.
       
       ส่วนสถานการณ์น้ำ ในวันนี้ อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งตรวจสอบแนวป้องกัน โดยพิจารณาจากข้อมูลระดับน้ำ ที่สถานีวัดน้ำบ้านบางการ้อง ต.บางเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ระดับน้ำวัดได้ 2.94 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 0.06 เมตร (ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.03 ม.) และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากน้ำที่ท่วมขังพื้นที่เกษตร ในเขต อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี กำลังไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีน สำหรับปริมาณน้ำที่ไหลบ่ามาจากพื้นที่เกษตรด้านบน (ทุ่งผักไห่และทุ่งเจ้าเจ็ด) ทำให้ระดับน้ำในคลองพระยาบรรลือ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ขณะนี้ต่ำกว่าตลิ่งหรือแนวป้องกันอยู่ 0.33 ม. (ระดับตลิ่ง 3.00 ม.) ถ้าระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกใกล้เคียงกับระดับตลิ่ง จะมีการเปิดบานระบาย เพื่อรับน้ำเข้าพื้นที่เกษตรฝั่งซ้ายของแม่น้ำท่าจีน ตั้งแต่ตำบลบัวปากท่า อำเภอบางเลน เรื่อยลงมาจนถึงอำเภอนครชัยศรี และอำเภอพุทธมณฑล
       
       นายชูชาติ รักจิตร ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครปฐม รายงานว่าสถานการณ์น้ำ ณ วันที่ 3 ตุลาคม 2554 ดังนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีน ที่สถานีวัดน้ำบ้านบางการ้อง(T13) จังหวัดสุพรรณบุรีระดับน้ำท่าจีน 2.94 เมตร จากระดับตลิ่ง 3.00 เมตร เปรียบเทียบระดับน้ำต่ำกว่า 0.06 เมตร เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2554 ลดลง 0.03 เมตร สถานการณ์ก็ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด สถานีวัดน้ำบางไทรป่า (T15) ระดับน้ำท่าจีน 2.34 เมตรจากระดับตลิ่ง 2.20 เมตร เปรียบเทียบระดับน้ำสูงกว่า 0.14 เมตร เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2554 เพิ่มขึ้น 0.03 เมตร สถานการณ์มีปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำ
       
       สถานีวัดน้ำนครชัยศรี (T1) ระดับน้ำท่าจีน 1.96 เมตร จากระดับตลิ่ง 1.70 เมตร เปรียบเทียบระดับน้ำสูงกว่า 0.26 เมตร เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2554 เพิ่มขึ้น 0.01 เมตร สถานการณ์มีปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำ และสถานีวัดน้ำสามพราน (T14) ระดับน้ำท่าจีน 3.82 เมตรจากระดับตลิ่ง 4.00 เมตร เปรียบเทียบระดับน้ำต่ำกว่า 0.18 เมตร เมื่อเปรียบเทียบจากเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2554 เพิ่มขึ้น 0.11 เมตร สถานการณ์เฝ้าระวัง
       
       ส่วนสภาพน้ำท่าในคลองสายสำคัญ ได้แก่ คลองพระยาบันลือ ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 0.26 เมตร เปรียบเทียบเมื่อวานนี้ (2 ต.ค.) เพิ่มขึ้น 0.02 เมตร สูบน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงสู่แม่น้ำท่าจีน ปริมาณน้ำ 14.40 ลบ.ม.ต่อวินาที, คลองพระพิมล ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งที่เสริมใหม่ 0.04 เมตร ได้เสริมแนวป้องกันสูงขึ้นจากเดิม ซึ่งสูบน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงแม่น้ำท่าจีนปริมาณ 22.25 ลบ.ม.ต่อวินาที, คลองมหาสวัสดิ์ ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งที่เสริมใหม่ 0.01 เมตร ได้เสริมแนวป้องกันสูงขึ้นจากเดิม สูบน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงสู่แม่น้ำท่าจีนปริมาณ 13.75 ลบ.ม.ต่อวินาที,
       
       คลองบางภาษี ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.40 เมตร เปรียบเทียบเมื่อวานนี้ (3 ต.ค.) ลดลง 0.02 เมตร สูบน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงแม่น้ำท่าจีนปริมาณ 18.00 ลบ.ม.ต่อวินาที, คลองลำพญา ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่งที่เสริมใหม่ 0.10 เมตร ได้เสริมแนวป้องกันสูงขึ้นจากเดิม สูบน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงสู่แม่น้ำท่าจีนปริมาณ 2.00 ลบ.ม.ต่อวินาที และคลองประชาศรัย ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่งที่เสริมใหม่ 0.01 เมตร ได้เสริมแนวป้องกันสูงขึ้นจากเดิม สูบน้ำในพื้นที่เพาะปลูกลงสู่แม่น้ำท่าจีนปริมาณ 2.40 ลบ.ม.ต่อวินาที
       
       สำหรับการให้ความช่วยเหลือ หน่วยงานในจังหวัดนครปฐม อาทิ โครงการชลประทานนครปฐม, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด, องค์การบริหารส่วนจังหวัด, โรงเรียนการบินกำแพงแสง, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฯลฯ ได้เข้ามาดูแลและระดมให้ความช่วยเหลือหลายๆ ด้านในเบื้องต้นเป็นการเร่งด่วนแล้ว และโรงเรียนการบิน กำแพงแสน ได้ตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยโรงเรียนการบินและสนับสนุนกำลังพลช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย สามารถแจ้งเหตุได้ที่โทรศัพท์ 0-3499 6502 และ 0-2155 7206 สำหรับศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย จังหวัดนครปฐม แจ้งที่โทรศัพท์ 0-3434-0230, 0-3434-0241

 

'เขื่อนภูมิพล' เตรียมเปิดประตูระบายน้ำล้



"เขื่อนภูมิพล" เตรียมเปิดประตูระบายน้ำล้นคาดจะมีน้ำลงสูแม่น้ำปิงอีกประมาณ 100 ล้านลูกบาศก์เมตร หลังมีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำคาดว่าจะเกิน 300 ล้านลูกบาศก์เมตรสูงสุดเป็นประวัติการณ์...

เมื่อวันที่ 4 ต.ค. นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวถึงสถานการณ์อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล กำลังเข้าขั้นวิกฤติ โดยเมื่อช่วงเวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทางเขื่อนจะเปิดประตูระบายน้ำล้น ทั้งสองบาน ซึ่งจะมีน้ำลงสูแม่น้ำปิงอีกประมาณ 100 ล้านลูกบาศก์เมตร

ทั้งนี้ เนื่องจากตลอดทั้งวันที่ผ่านมา มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำคาดว่าจะเกิน 300 ล้านลูกบาศก์เมตรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเกินกว่าที่ทางเขื่อนภูมิพลจะรับไหว ปัจจุบันน้ำจากเขื่อนและจากแม่น้ำวังไหลผ่าน อ.เมืองตากมีระดับสูง 3.87 เมตร มีน้ำไหลวินาทีละ 1,765 ลูกบาศก์เมตร สูงกว่าปี 49 ที่ระดับ 1,735 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งหากเขื่อนภูมิพลเปิดประตูระบายน้ำหมดทั้งสองบานระดับน้ำในลำน้ำปิงจะสูง ขึ้นมาอีก 1 เมตร ซึ่งจะท่วมบ้านเรือนราษฎรที่อาศัยริมแม่น้ำปิงตั้งแต่ อ.สามเงา อ.บ้านตาก อ.เมืองตาก และ อ.วังเจ้า รวมทั้งพื้นที่ของจังหวัดกำแพงเพชรด้วย จึงขอเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำปิงทั้ง จ.ตาก และ จ.กำแพงเพชร เตรียมรับมือน้ำท่วมสูง.




ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวภูมิภาค
5 ตุลาคม 2554, 02:47 น.

 

 ชาวนครสวรรค์ รวมตัวเปิดเส้นทางระบายน้ำ
  


5 ตค. 2554 00:39 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านตำบลวัดไทร หมู่ 8 และหมู่ 9 อำเภอเมืองนครสวรรค์ นับร้อยคนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม มารวมตัวที่ถนนสายนครสวรรค์-บ้านแก่ง ช่วงเส้นทางเลี่ยงเมืองโตโยต้าโดยได้ร้องขอให้มีการเปิดเส้นทางระบายน้ำกับ นายจิตตเกษม นิโรจน์ธนรัฐ นายกเทศบาลนครนครสวรรค์ จนสามารถตกลงกันได้ว่าจะไปเปิดคันกั้นน้ำที่ทางเทศบาลกั้นไว้ตรงข้ามกับหมู่บ้านประเสริฐแลนด์ หลังจากนั้นนายกเทศมนตรี ได้เดินทางกลับไป ชาวบ้านจึงเดินไปพยายามเปิดคันกั้นน้ำออก ซึ่งขณะนั้นเอง ได้มี นายอำนาจ ไม่ทราบนามสกุลเป็นเจ้าของวินรถตู้นครสวรรค์-กรุงเทพ อำนาจการท่องเที่ยว ถืออาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า 1 นัดพร้อมห้ามชาวบ้านเปิดคันกั้นน้ำ ชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณนั้นหนีเอาตัวรอดกันจ้าละหวั่นก่อนที่นายอำนาจ จะหลบหนีเข้าไปในหมู่บ้านประเสริฐแลนด์ หลังจากนั้น ชาวบ้านได้มาเปิดคันกั้นน้ำบริเวณสามแยกเลี่ยงเมืองโตโยต้าซึ่งหากจากจุดแรก 50 เมตร โดยใช้รถไถไถหินคลุกออก ระยะกว้างประมาณ2เมตร
ต่อมา นายจิตตเกษม นิโรจน์ธนรัฐ นายกเทศมนตรีนครนครสวรรค์ ต้องรุดไปที่เกิดเหตุเพื่อเจรจรากับชาวบ้านอีกครั้งพร้อมทั้งเปิดเผยว่า เปิดเส้นทางระบายน้ำออกก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนักเพราะน้ำมีปริมาณมากและท่วมถนนระยะทางถึง 11 กิโลเมตรซึ่งในจุดดังกล่าวเป็นส่วนรับผิดชอบของทาง อบต.วัดไทร และจากการพูคคุยเป็นกลุ่มผู้มาประท้วงเข้าใจและยอมเสียสละให้ปิดทางน้ำดังเดิมเพราะหลังจากนี้อีก 2 วันมวลน้ำจากทางภาคเหนือจะมาอีกระลอกใหญ่ซึ่งจะทำให้น้ำสะสมที่จังหวัดนครสวรรค์อีกมาก ซึ่งนายกเทศมนตรีนครนครสวรรค์และนายก อบต.วัดไทรจะให้ความช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมอย่างเต็มที่ ส่วนช่วงเขตติดต่อบ้านแก่งไปยังหมู่บ้านเอื้ออาทรและการเคหะตอนนี้เทศบาลนครนครสวรรค์ได้สั่งการให้ทำแนวคันดินสูงกว่า1เมตรรองรับไว้แล้ว ส่วนในเขตเศรษฐกิจยังป้องกันได้และจะทำอย่างเต็มความสามารถ
ส่วนเรื่องของมีผู้ข่มขู่ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้านั้นทางด้านของเจ้าหน้าที่ตำรวจนครสวรรค์จะได้ทำการเรียกตัวผู้ก่อเหตุมาสอบสวนพร้อมกับพยานที่เห็นเหตุการณ์มาชี้แจงข้อเท็จจริงต่อไป


 next >>

 

เจ็บใจ น้ำมันตลาดโลกลด ปตท.ไม่ยอมลด ขนาดรัฐบาลเขาพยายามลดแต่ ปตท.พยายามขึ้น มันน่าจะเอาคืนมาให้รัฐบาลควบคุมเหมือนเดิม เป็นรัฐวิสาหกิจ ทุกวันนี้เลิกเติม ปตท.เพราะคุณภาพน้ำมันลดลง (ไม่ใช่คนใส่เสื้อสี แต่สนับสนุนความคิดของกลุ่มคนที่จะเอาปตท.คืนมา และกลุ่มคนที่ค้านการัฐประหาร เพราะทำทุกครั้งทำประเทศไทยเสียหายมาก ) ปตท. น้ำท่วมแล้วก็ควรเห็นใจ ปชช.หน่อย ปตท.ควรบริจาคชื้อเครื่องสูบน้ำขนาดใหม่ๆมาผลักน้ำออกทะเล ในอนาคตก็ควรเจียดกำไรมำทำอุโมงระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนเจ้าพระยาลงทะเลจะลดปัญหานำท่วมภาคกลางและ กทม.ได้

 

อยุธยา-น้ำป่าสัก ลพบุรี ถล่มนิคมอุตสาหกรรมจมในพริบตา ข่าวต่างประเทศ ข่าวอาชญากรรม ข่าวส�

อยุธยา-น้ำป่าสัก ลพบุรี ถล่มนิคมอุตสาหกรรมจมในพริบตา

สุดช้ำอีกอยุธยาแม่น้ำป่าสัก ลพบุรี ถล่มเข้าท่วมนิคมอุตสาหกรรมใหญ่ของอยุธยา จมน้ำในพริบตา น้ำลึกเกือบ 3 เมตร คนงานหนีไม่ทันติดอยู่ตามโรงงานบ้านเช่านับร้อบ เจ้าหน้าที่กู้ภัยอยุธยารวมใจระดมเรือ เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือตลอดทั้งคืน

โดยคราวนี้ถึงคิวนิคมอุตสาหกรรมสหรัฐนคร ตั้งอยู่ในอำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถูกแม่น้ำลพบุรี ไหลเข้า่ท่วมทางด้านืทิศเหนือ และแม่น้ำป่าสักไหลทะลักเ้ข้าทางทิศตะวันออก แม่น้ำทั้งสองสายไหลถล่มนิคมสหรัฐนครแตก ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 18.00 น.เพียงในเวลาไม่นานนัก คนงานพนักงานในนิคมนับร้อยแห่ขับรถหนีน้ำออกไปจากด้านนอกอย่างเร่งรีบ

ปรากฏว่ามีคนงานบางส่วนหนีไม่ทัน ติดอยู่ภายในโรงงานและบ้านพักภายในนิคมนับร้อย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอยุธยารวมใจ ได้ระดมเรือท้องแบน เรือยนต์ขนาดเล็ก และเจ้าหน้าที่ระดมออกค้นหาผู้ที่ติดตามโรงงานและบ้านเช่านับร้อยคนขึ้นมาได้โดยใช้เวลาค้นหาพามาขึ้นฝั่งกันตลอดทั้งคืน คนงานบางคนติดอยู่นานกว่า 5 ชั่วโมงถึงกับหิวน้ำ เจ้าหน้าทีต้องให้น้ำได้ดื่มกินแก้กระหาย

 

https://www.facebook.com/news1005



ราง“รถไฟ”จมน้ำหยุดวิ่งไปปราจีนฯ

สถานการณ์น้ำท่วม จ.ปราจีนบุรี ในย่านเศรษฐกิจการค้าหลายอำเภอ ปรากฎว่าน้ำไหลเข้าท่วมอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะอ.กบินทร์บุรี บริเวณตลาดเทศบาลตำบลกบินทร์ ระดับน้ำท่วมสูง 20-30 ซม. ส่วนชุมชนตลาดเก่าน้ำยังท่วมสูง 2 เมตร ที่อ.ศรีมหาโพธิ น้ำท่วมตลาดท่าประชุม ระดับน้ำสูง 50-70 ซม. รถยนต์ขับผ่านไม่ได้ ส่วนที่ตลาดท่าตูม งดการใช้เส้นทางหน้าสถานีอนามัยโดยเด็ดขาด เพราะระดับน้ำสูง 1 เมตร

ส่วนเขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรี น้ำไหลท่วมถนนทุกสาย โดยเฉพาะถนนปราจีนอนุสรณ์ และถนนเทศบาลดำริ เป็นถนนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำปราจีนบุรี ระดับน้ำ 50-60 ซม. รถขนาดเล็กขับผ่านไม่ได้ ส่งผลให้ผู้ที่มาจับจ่ายซื้อสินค้า และข้าราชการที่ไปทำงาน ต้องประสบปัญหาการจราจรติดขัดตลอดทั้งวัน

ทางด้าน อ.บ้านสร้าง บริเวณตลาดบ้านสร้าง ระดับน้ำเข้าท่วมสูง 30-50 ซม. บ้านเรือนที่อาศัยตามริมแม่น้ำปราจีนบุรี เดือดร้อนอย่างหนัก พระภิกษุต้องลุยน้ำออกบิณฑบาตอย่างลำบากยากเย็น

ขณะที่นายประเสริฐ สุขเกษตร ผู้ช่วยสารวัตรเดินรถไฟ กล่าวว่าเส้นทางรถไฟ ระหว่างสถานีบ้านปากพลี และสถานีบ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ถูกน้ำท่วมสูง 10-15 ซม. ระยะทางยาวประมาณ 200 เมตร ทำให้รถไฟขบวน 275 ต้องหยุดการเดินรถผ่านจุดดังกล่าว เนื่องจากหัวรถจักรเป็นระบบไฟฟ้าไม่สามารถวิ่งผ่านน้ำได้ ผู้โดยสารที่เดินทางจากกรุงเทพฯ เพื่อไปยังสถานีปราจีนบุรี สถานีกบินทร์บุรี หรือปลายทางที่สถานีอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ต้องติดอยู่ที่สถานีรถไฟบ้านสร้าง ขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการแก้ไขของเจ้าหน้าที่ โดยจะตรวจสอบระดับน้ำที่ท่วม และความแข็งแรงของหมอนรางรถไฟ พร้อมทั้งจะนำรถไฟดีเซลรางมาขนถ่ายผู้โดยสาร ไปส่งยังปลายทางที่อรัญประเทศ ทำให้เสียเวลาในการดำเนินการกว่า 2 ชม

 

https://www.facebook.com/news1005

ท่าเรือหลังจวนผู้ว่าฯพระนครศรีอยุธยา น้ำเริ่มล้นตลิ่งแล้ว //นครสวรรค์ตอนตี 1 แนวคันกั้นน้ำข้างโรงแรมเป็นหนึ่ง พังรอบที่ 5 ทำให้น้ำทะลัก ประชาชน เจ้าหน้าที่ เร่งช่วยกันขนกระสอบทราย /ชาวบ้านตำบลวัดไทร ไปรวมตัวกันร้องขอให้เปิดทางระบายน้ำบ้าง มีการพูดคุยกับทางนายกเทศมนตรี ช่วงแรกการเจรจาไม่มีปัญหา แต่อยู่ดีๆมี นายอำนาจ (ชื่อที่คนส่วนใหญ่เรียกกันเอาปืนมายิงขู่) แล้วก็หายไป แต่สุดท้ายช่วงเช้านายกเทศมนตรีกลับมาพูดคุยอีกครั้งก็ตกลงกันได้ หลังจากพยายามช่วยกันกั้นกระแสน้ำและสุดท้ายแม่น้ำปิงก็ทะลักเข้าไปที่ ตำบลวัดไทรในที่สุด

 

����صع����Է��--��ҡó��ҡ�Ȼ�Ш��ѹ



ประจำวันที่ 5 ตุลาคม 2554

ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (5 ต.ค.) พายุโซนร้อน “นาลแก” บริเวณอ่าวตังเกี๋ย ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 200 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกของเมืองวิญ ประเทศเวียดนาม หรือที่ ละติจูด 18.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 108.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในวันนี้ และจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำในระยะต่อไป
อนึ่ง ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยมีฝนตกชุกและมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักในระยะ 1-2 วันนี้ ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง แพร่ สุโขทัย พิษณุโลก ตาก และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา
อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดบึงกาฬ อุดรธานี หนองคาย สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศา
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.


ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท
พระนครศรีอยุธยา และสระบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศา
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.


ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศา
ลมตะวันตก ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองทั่วไป ร้อยละ 90 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศา
ลมตะวันตก ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32องศา
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

 

����͹���Ծ��к�¹���͡�������ӻԧ-�ѧ������٧

เขื่อนภูมิพลระบายน้ำออกทำแม่น้ำปิง-วังเพิ่มสูง


5 ตค. 2554 07:10 น.

วันนี้เป็นวันแรกที่มวลน้ำที่ถูกปล่อยออกจากเขื่อนภูมิพลสู่แม่น้ำปิง และทำให้จะกระทบผ่านพื้นที่อ.สามเงา 8.00 น. อ.บ้านตากจุดนี้น่าเป็นห่วงเพราะ มีลำน้ำ2สาย แม่น้ำปิง-แม่น้ำวัง