WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

คนแห่ฝากรถหนีน้ำท่วม

07 ตุลาคม 2554 เวลา 20:04 น

ทอท. เผย ประชาชนแห่ฝากรถสนามบินดอนเมือง คาดอีกไม่นานเต็มพื้นที่ ลั่นพร้อมพิจารณาพื้นที่เสริมรองรับ

นายสมชัย สวัสดีผล รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ภายในท่าอากาศยานดอนเมือง ที่เปิดให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล นั้น ในการให้บริการจอดรถฟรี ซึ่งสามารถรองรับได้ทั้งสิ้น 1,000 คัน แต่ขณะนี้พื้นที่บริเวณอาคารคลังสินค้า 4 รองรับได้ 400 คัน ได้มีประชาชนมาใช้บริการเต็มพื้นที่แล้ว เหลือเพียงบริเวณชั้น 5 รองรับได้ 450 คัน บริเวณที่ว่างด้านอาคารจอดรถ 5 ชั้น 100 คัน ซึ่งประชาชนจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนต่อเจ้าหน้าที่ และหากพื้นที่ดังกล่าวเต็ม ทาง ทอท. จะพิจารณาพื้นที่ส่วนอื่น เพื่อรองรับเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม นายสมชัย กล่าวว่า การเปิดให้จอดรถฟรี ภายในดอนเมือง จะไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยด้านการบินของท่าอากาศยานดอนเมือง เนื่องจากแยกส่วนกับที่ทำการบินอย่างชัดเจน

 

เมื่อเวลา 18.20....น้ำอยู่ที่ระดับต่ำกว่า... ผนังกั้นน้ำ 30-40 ซม.
เวลา 20.23........น้ำล้นผนังกั้นน้ำ

อัตราน้ำขึ้น....ประมาณ 15-20 ซม.ต่อชั่วโมง (ตรงกับข่าวไม่เป็นทางการที่ได้รับมา)

ดังนั้น...ขอให้ท่านที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา...ขนย้ายสิ่งของทันที...และท่านที่อยู่ในพื้นที่...ที่เคยมีประวัติน้ำท่วม...ขอจงเตรียมพร้อมโดยด่วน

 

ปทุมฯเตรียมแผนอพยพปชช.ชั้นในหนีน้ำ

07 ตุลาคม 2554 เวลา 19:55 น.

ผู้ว่าปทุมธานีเตรียมแผนอพยพประชาชนในพื้นที่เศรษฐกิจชั้นในหนีน้ำท่วม
นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.ปทุมธานี กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานงานขอกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร และกำลังเจ้าหน้าที่ อพปร.จากทุกๆอำเภอให้เตรียมความพร้อมไม่ต่ำกว่าอำเภอละ 50 นายรเตรียมพร้อมเรื่องกระสอบทรายอยู่ตลอด ถ้ามีจุดไหนรั่วหรือแตกออกก็ต้องพร้อมเข้าไปอุดเสริมอย่างทันท่วงที ตลอดทั้งอพยพประชาชนในเขตพื้นที่เศรษฐิกจชั้นไปอยู่ในที่ปลอดภัยหากเกิดน้ำเอ่อท่วมใหญ่

ผวจ.ปทุมธานี กล่าวอีกว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดปทุมธานียังถือว่ายังอยู่ในสถานการณ์ที่ยังรับมือไหว แม้ว่าปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะเพิ่มมากขึ้น และไหลแรงขึ้น แต่ก็มาจากการที่น้ำทะเลลดลง ซึ่งถือว่าเป็นผลดีที่จะได้เร่งระบายน้ำออกทะเล แต่น้ำทะเลจะหนุนอีกครั้งในวันที่ 12-18 ต.ค.นี้ โดยเฉพาะวันที่ 18 ต.ค.ซึ่งก็ได้เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่แล้ว

นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า ในเรื่องจุดเสี่ยงภัย คือบริเวณชุมชนโดยรอบประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จะมีการเข้าไปแนะนำกับประชาในเรื่องการอพยพ เรื่องการหนีภัย ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการไม่ประมาท ซึ่งที่จริงแล้วพื้นที่ของประตูน้ำจุฬาลงกรณ์นั้นสามารถออกประกาศให้เป็นพื้นที่ห้ามเข้า เป็นพื้นที่อพยพได้เลย แต่เห็นใจพี่น้องประชาชนที่อยากอยู่บ้าน และยังสามารถรักษาได้อยู่ อย่างไรก็ตามถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น ประชาชนต้องพร้อมอพยพได้ทันที โดยจะมีคู่มือแจกให้กับประชาชนว่าเมื่อเกิดเหตุแล้วจะต้องไปที่ ไหนอย่างไร โดยในแต่ละหลังคาเรือนจะมีการกำหนดไว้เลย

"อยากขอร้องให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เทศบาลนครรังสิต หรือประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ให้ท่านเก็บสิ่งของมีค่าทั้งหลาย หรือเครื่องใช้ที่ไม่ได้ใช้ ให้น้ำไปไว้ที่อื่นก่อน ให้เหลือแต่ที่นอนหรือสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น ไว้ให้สถานการณ์เข้าสู่ปกติแล้วค่อยขนกลับมา ทั้งนี้ก็เพื่อลดความเสียหาย หากเกิดอุบัติเหตุที่เราไม่คาดคิดขึ้นมา ทั้งนี้มีการประสานกับทางศูนย์การค้าฟิมเจอร์พาร์ครังสิต และศูนย์การค้าเซียร์รังสิต ในการจัดสถานที่ให้ประชาชนเข้าไปจอดรถได้ฟรี ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉิน"ผวจ.ปทุมธานี กล่าว

 

คนแห่ขับรถหนีน้ำฝากดอนเมืองแน่น

ข่าวสังคม วันศุกร์ที่ 7 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 19:54 น.



ประชาชน แห่ฝากรถ สนามบินดอนเมือง แน่น ยัน ไม่กระทบการบินของท่าอากาศยาน

นายสมชัย สวัสดีผล รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ภายในท่าอากาศยานดอนเมือง ที่เปิดให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล นั้น ในการให้บริการจอดรถฟรี ซึ่งสามารถรองรับได้ทั้งสิ้น 1,000 คัน แต่ขณะนี้พื้นที่บริเวณอาคารคลังสินค้า 4 รองรับได้ 400 คัน ได้มีประชาชนมาใช้บริการเต็มพื้นที่แล้ว เหลือเพียงบริเวณชั้น 5 รองรับได้ 450 คัน บริเวณที่ว่างด้านอาคารจอดรถ 5 ชั้น 100 คัน ซึ่งประชาชนจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนต่อเจ้าหน้าที่ และหากพื้นที่ดังกล่าวเต็ม ทาง ทอท. จะพิจารณาพื้นที่ส่วนอื่น เพื่อรองรับเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม นายสมชัย กล่าวว่า การเปิดให้จอดรถฟรี ภายในดอนเมือง จะไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยด้านการบินของท่าอากาศยานดอนเมือง เนื่องจากแยกส่วนกับที่ทำการบินอย่างชัดเจน

คมนาคมสั่งปิดถนนสายเอเชียกว่า10กิโลเมตร

พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะกำกับดูแลฝ่ายอำนวยการร่วมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) เปิดเผยว่า บริเวณถนนสายเอเชีย เส้นทางหลักที่จะมุ่งหน้าสู่ภาคเหนือ มีปริมาณน้ำท่วมสูงกว่า 70 เซนติเมตร ในระยะทาง 10 กิโลเมตร ทางกระทรวงคมนาคม จึงประกาศปิดการจราจร และให้ใช้เส้น ทางหลวงหมายเลข 1 พหลโยธิน และทางหลวงหมายเลข 340 บางบัวทอง - สุพรรรณบุรี เพื่อเดินทางแทน ซึ่งในขณะนี้ พบว่าถนนหมายเลข 340 เริ่มมีปริมาณน้ำไหลเข้าท่วมบริเวณริมถนนบ้างแล้ว ซึ่งได้สั่งการให้เฝ้าระวัง และเร่งทำคันดินกั้นน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมอย่างเร่งด่วน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการซ่อมแซมถนนสายเอเชียนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถทำได้ เพราะน้ำยังมีระดับสูงมาก และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอีก รวมทั้งวัตถุดิบที่จะนำมาซ่อมถนน โดยเฉพาะทรายและหินนั้นหาซื้อได้ยาก จึงจำเป็นต้องชะลอการซ่อมถนนในจุดดังกล่าว และยอมให้น้ำท่วมถนนต่อไปก่อน

มธ.เปิดพื้นที่ให้ปชช.เข้าพัก-รับฝากรถ

ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน รายงานระดับน้ำ เมื่อเวลา 18.00 น. ของวันนี้ที่สะพานพระพุทธยอดฟ้า (สะพานพุทธ) 2.13 เมตร ลดลงจากเมื่อ 1 ชั่วโมงก่อน 3 ซ.ม. ขณะที่ระดับคันกั้นน้ำของกรุงเทพมหานคร อยู่ที่ระดับ 2.50 ม. เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง

ขณะเดียวกัน มีรายงานผลการสำรวจว่า ไม่พบกลุ่มฝนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในช่วงเวลา 19.00 น. ด้วย ขณะที่ระดับน้ำตามคลองต่างๆ อาทิ แสนแสบเก่า ลดลง 0.52 ซ.ม. หลังเขตบางกะปิ เพิ่มขึ้น 0.03 ซ.ม. คลองทวี - ภาษี เพิ่มขึ้น 0.46 ซ.ม. ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงสุด ที่บางนาเวลา 1.15 ม. ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 0.82 ม.

ด้าน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จะเปิดรับลงทะเบียนประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ในวันพรุ่งนี้ และจะจัดที่พักพักใน ม.ธรรมศาสตร์ ที่พักบริเวณยิมเนเซียม 2 รวมทั้งเปิดพื้นที่ให้จอดรถได้ โดยเริ่มลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป



Link : http://www.innnews.co.th/คนแห่ขับรถหนีน้ำฝากดอนเมืองแน่น--312896_03.html

 

ผู้ว่าฯนนท์ปัดจุดพลุอพยพชาวบ้านหนีน้ำ
ข่าวสังคม วันศุกร์ที่ 7 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 20:23 น.




share




ผู้ว่าราชการ จ.นนทบุรี ปัด ไม่ได้มีการจุดพลุอพยพคน ขณะรองผู้ว่าฯ เผย น้ำทะลักท่วมถนนชัยพฤกษ์ - พระราม 4 ประมาณ 1 ก.ม. สูงกว่า 30 ซ.ม.

นายประดิษฐ์ สุคนธสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาได้เอ่อล้นคันกั้นน้ำ เข้าท่วมถนนสายชัยพฤกษ์ - พระราม 4 เป็นระยะทางประมาณ 1 ก.ม. สูง 30 ซ.ม. ทำให้การจรจาติดขัดอย่างหนัก เนื่องจากรถสัญจรได้อย่างยากลำบาก ซึ่งทางจังหวัดได้เตรียมกู้ โดยการเสริมกระสอบทรายกั้นน้ำอีก แต่ต้องรอให้น้ำลดก่อนจึงจะทำได้

ด้าน นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า กรณีที่มีข่าวว่า ทางจังหวัดได้จุดพลุเตือนภัย เพื่อให้ประชาชนอพยพหนีน้ำท่วม หลังถูกน้ำโจมตีนั้นไม่เป็นความจริง ไม่มีการจุดพลุที่บอกแต่อย่างใด และยืนยันว่า ทางจังหวัดยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และจังหวัดก็ไม่มีนโยบายการจุดพลุเตือนภัยที่ว่ามาก่อน จะมีก็คือในวันพรุ่งนี้ ที่จะมีการระดมนำเรือขอประชาชนมาเรียงกันเพื่อติดเครื่องเร่งผลักดันน้ำออก จากแม่น้ำ
Link : http://www.innnews.co.th/ผู้ว่าฯนนท์ปัดจุดพลุอพยพชาวบ้านหนีน้ำ--312908_03.html




.

 

คมนาคมปิดเส้นทางเอเชียแล้ว

07 ตุลาคม 2554 เวลา 17:38 น.

คมนาคม ปิดเส้นทางเอเชีย แนะนำใช้เส้นพหลโยธิน-บางบัวทอง

พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม ในฐานะกำกับดูแลฝ่ายอำนวยการร่วมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) เปิดเผยว่า ในการแก้ปัญหาน้ำท่วมขังถนนสายเอเชียบริเวณจ.อยุธยาซึ่งเป็นเส้นทางหลักที่จะเชื่อมต่อการเดินทางไปยังภาคเหนือนั้น ถนนในบริเวณดังกล่าวมีน้ำท่วมขังสูงมากถึง 70 เซนติเมตร รวมระยะทาง 10 กิโลเมตร ทำให้รถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านได้ กระทรวงคมนาคมจึงได้ประกาศปิดการจราจรตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ได้ประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนรวมถึงประชาชนหันมาใช้เส้นทาง หลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) และทางหลวงหมายเลข 340 (บางบัวทอง – สุพรรรณบุรี ) เพื่อเดินทางเชื่อมต่อไปยังเส้นทางสายเหนือแทน รวมทั้งสั่งการให้กรมทางหลวงชนบท(ทช.) และกรมทางหลวง(ทล.) เร่งดูแลรักษาทางหลวงทั้ง 2 เส้น ไม่ให้ถูกน้ำท่วมโดยเด็ดขาด เพื่อไม่ให้การเดินทางไปยังภาคเหนือเป็นอัมพาต
ส่วนการกู้และซ่อมแซมถนนสายเอเซีนั้นขณะนี้ยังไม่สามารถทำได้เพราะน้ำยังมีระดับสูงมาก และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอีกจากพายุลูกใหม่ที่กำลังจะเข้ามายังไทย หากซ่อมถนนอาจจะต้องใช้เวลานาน รวมทั้งขณะนี้ยังประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบที่จะนำมาซ่อมถนน โดยเฉพาะทราย และหินนั้นหาซื้อได้ยากมาก ดังนั้นจำเป็นต้องชะลอการซ่อมถนนในจุดดังกล่าวและยอมให้น้ำท่วมถนนต่อไปก่อน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้รับรายงานว่าถนนหมายเลข 340 เริ่มมีปริมาณน้ำไหลเข้าท่วมบริเวณริมถนนบ้างแล้ว ซึ่งได้สั่งการให้เฝ้าระวัง และเร่งทำคันดินกั้นน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมอย่างเร่งด่วน ส่วนที่ชาวบ้านร้องเรียนว่าเรือในแม่น้ำบางแห่งวิ่งด้วยความเร็ว จนส่งผลกระทบทำให้คลื่นน้ำจากท้องเรือกระแทกเข้าท่วมบ้านเรือประชาชนริมฝั่งนั้น ได้สั่งการให้กรมเจ้าท่าเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด หากจุดใดเกิดปัญหาให้ประกาศหยุดเดินเรือทันที หรือหากมีความจำเป็นต้องเดินเรือ กรมเจ้าท่าจะเป็นผู้นำการเดินเรือดังกล่าว เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบที่อยู่อาศัยของประชาชน

นายสมชัย สวัสดีผล รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) กล่าวว่า ได้จัดเตรียมพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสารภายในประเทศหลังเดิม ซึ่งมีพื้นที่รวมประมาณ 22,000 ตารางเมตร จัดทำเป็นศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.)และศูนย์รับเรื่องร้องเรียน นอกจากนี้ยังได้จัดเตรียมพื้นที่จอดรถฟรีไว้ให้บริการประชาชน บริเวณอาคารจอดรถ5ชั้น ซึ่งสามารถจอดได้ถึง 45 0คัน บริเวณที่ว่างด้านอาคารจอดรถ5ชั้นอีก 100 คัน รวมทั้งอยู่ระหว่างปรับปรุงพื้นที่บริเวณอาคารคลังสินค้า4 เพื่อรองรับการจอดรถอีกกว่า 400 คัน รวมเป็นทั้งสิ้น 1,000 คัน แต่หากยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนท่าอากาศยานดอนเมืองจะพิจารณาจัดหาพื้นที่ในส่วนอื่นต่อไป

สำหรับประชาชนที่สนใจนำรถเข้ามาจอด อาจจะต้องแสดงบัตรประชาชนต่อพนักงานรักษาความปลอดภัย เพื่ออำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัย ซึ่ง บริษัทเตรียมที่จะจัดจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยเข้ามาดูแลเพิ่มในพื้นที่บริเวณศปภ.และพื้นที่จอดรถ รวมทั้งจัดให้มีเวรยามเดินตรวจตราตลอดเวลา ส่วนระยะเวลาที่จอดนั้นขึ้นกับความต้องการของประชาชน ซึ่งล่าสุดบริษัทฮอนด้าได้นำรถยนต์ซึ่งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมที่ถูกน้ำท่วมในจ.อยุธยาเข้ามาจอดบ้างแล้ว รวมทั้งประชาชนจากจ.อยุธยาบางส่วน

นายสมชัย กล่าวว่า การเปิดให้จอดรถฟรีภายในดอนเมืองจะไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยด้านการบินของท่าอากาศยานดอนเมือง เนื่องจากท่าอากาศยานดอนเมืองมีข้อกำหนดที่ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยการบินขององค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือไอเคโออย่างเคร่งครัดอยู่แล้ว รวมทั้งพื้นที่ที่ใช้ในการบินและเปิดให้มีการจดอรถฟรีนั้น แยกส่วนออกจากกันอย่างชัดเจน

ว่าที่ร.ท.อนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกล่าวว่า ขณะนี้สนามบินสุวรรณภูมิได้ประสานขอรับทราบข้อมูลน้ำกับกรมชลประทานอย่างใกล้ชิด และยังไม่มีปัญหาปัญหาน้ำท่วมแท็กซี่รันเวย์ เนื่องจากมีระบบป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งปัจจุบันยังมีการจัดระบบพื้นที่รองรับน้ำไว้มากถึง 4 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งรองรับน้ำไว้เพียง 1 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น ยังมีพื้นที่ว่างจำนวนมาก และยังมีระบบคลองที่ระบายน้ำลงสู่ทะเลอีกด้วย อย่างไรก็ตาม หากในช่วงนี้มีปริมาณฝนตกในพื้นที่เกินกว่า 128 มิลลิเมตร อาจส่งผบกระทบต่อการจรจาบริเวณรอบนอกของท่าอากาศสุวรรณภูมิได้
พล.ต.ท. ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่จ.นครสวรรค์ เพื่อตรวจสภาพเส้นทางรถไฟสายเหนือที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งขณะนี้รฟท. จำเป็นต้องหยุดการเดินรถในเส้นทางสายเหนือหลายขบวน โดยจากการประเมินความเสียหายจากน้ำท่วมทางรถไฟในระหว่างวันที่ 1-3 ส.ค. และ วันที่ 26 ก.ย. – 6 ต.ค. จำนวน 14 วัน มีขบวนรถที่หยุดให้บริการ 339 ขบวน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวม 46 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการหยุดเดินรถสายตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ มูลค่าความเสียหายรวม 25 ล้านบาท และหยุดเดินรถสินค้า คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 21 ล้านบาท

“ ตอนนี้ได้ให้รฟท. เร่งประเมินสถานการณ์วันต่อวัน ซึ่งเส้นทางใดที่ถือเป็นจุดที่ต้องเฝ้าระวังจะจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง และต้องมีการติดตามและรายงานอย่างใกล้ชิด ทั้งเส้นทางสายเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคกลางตอนล่าง หากมีเส้นทางใดที่มีน้ำท่วมสูงจนไม่สามารถเดินรถได้จะมีการสั่งปิดการเดินรถในเส้นทางนั้นทันที เนื่องจากต้องคำถึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก และหากเส้นทางใดน้ำท่วมไม่มากนักและไหล่ทางได้รับความเสียหายบางส่วนก็จะให้รถวิ่งได้แต่จะกำจัดความเร็ว 20 กม.ต่อชม. และจะซ่อมไหล่ทางไปพร้อมด้วยเลย” พล.ต.ท. ชัจจ์ กล่าว
นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า ในส่วนของการเดินรถสายเหนือ ยังคงให้บริการได้แค่สถานีอยุธยาเช่นเดิม เนื่องจากน้ำยังไม่ลด ส่วนสายตะวันออกเฉียงเหนือ ยังเดินรถตามปกติทุกขบวน แต่เปลี่ยนเส้นทางการเดินขบวนรถ โดยใช้เส้นทางออกจากกรุงเทพไปเส้นทางฉะเชิงเทรา แยกคลอง 19 เข้าเส้นทางแก่งคอย แล้วเข้าสู่เส้นทางเดิมจนถึงปลายทาง เช่น หนองคาย และอุบลราชธานี โดยประชาชนสามารถสอบถามเส้นทางเดินรถได้ที่สายด่วน 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง (บขส.) กล่าวว่า รถบขส. ยังคงให้บริการทุกเส้นทางตามปกติทุกเส้นทาง โดยสายเหนือ ยังใช้วิธีเลี่ยงไปเดินรถในเส้นทางสายบางบัวทอง – สุพรรณบุรี – อ่างทองแทน จากเดิมที่ต้องวิ่งผ่านถนนเอเชีย แต่เนื่องจากขณะนี้ถนนสายเอเชีย น้ำท่วม จนไม่สามารถเข้าสู่พื้นที่ จึงต้องใช้วิธีการเลี่ยงแทน ส่วนความเสียหายของบขส. นั้น ขณะนี้ ยังไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากยังไม่มีผู้ดดยสารขอคืนตั๋วโดยสาร เพราะก่อนที่เจ้าหน้าที่จะขายตั๋ว ได้แจ้งผู้โดยสารก่อนแล้วว่า จะวิ่งในเส้นใด แต่หากเกิดเหตุการณ์สุดวิสัย ที่ไม่สามารถให้บริการได้กะทันหัน ทางบขส. ก็จะหาวิธีการแก้ปัญหา เช่น คืนเงินค่าตั๋วโดยสารต่อไป

นายวันชัย ภาคลักษณ์ รักษาการอธิบดี กรมทางหลวง(ทล.) กล่าวว่า ขณะนี้น้ำท่วมบริเวณสายเอเชีย ประมาณ 10 กม. ระหว่างกม. 25 - 35 ทำให้รถขนาดใหญ่ไม่สามารถผ่านเส้นทางได้ หากจะต้องกู้สถานการณ์น้ำดังกล่าวจำเป็นจะต้องใช้ แผงกั้นจราจร (แบริเออร์) 5,000 ชิ้น โดยขณะนี้ ทล. จะต้องเฝ้าระวังในเส้นทางหลักที่ได้รับมอบหมาย คือ ทางหลวงหมายเลข 1 พหลโยธิน และทางหลวงหมายเลข 340 บางบัวทอง – สุพรรณบุรี เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้เดินทางไปจังหวัดต่างๆ ทางภาคเหนือได้
“เส้นทางหมายเลข 309 อยุธยา-วังน้อย เป็นอีกเส้นทางที่ต้องเฝ้าระวัง ปริมาณน้ำที่จะมาจากบางปะอิน-นครสวรรค์ และอาจจะไหลไปทางนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ซึ่งเป็นแหล่งอุตสาหกรรมไฮเทคขนาดใหญ่ กรมทางหลวงจึงต้องดูแลเป็นพิเศษ ทั้งนี้จะต้องบล็อคน้ำบริเวณคลองสาคู ในทางหลวงหมายเลข 32 บางปะอิน-นครสวรรค์ ด้วย” นายวันชัย กล่าว

นายวันชัย กล่าวว่า สำหรับถนนของทล.ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมในวันที่ 7 ต.ค. พบว่า มีถนนที่ถูกน้ำท่วม 21 จังหวัด รวม 106 สายทาง การจราจรผ่านได้ 61 สายทาง คิดรวมมูลค่าความเสียหายตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.-7ต.ค. จำนวน 3,794 ล้านบาท โดยจังหวัดที่รับความเสียหายมากที่สุด 6 อันดับ คือ 1.จ.พระนครศรีอยุธยา 2.พิจิตร 3.นครสวรรค์ 4.สิงห์บุรี 5.ลพบุรี และ6. ชัยนาท

นายชาติชาย ทิพย์สุนารี รักษาการอธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.)กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.-7 ต.ค. พบว่าถนนในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบทได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมรวม 673 สายทาง ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 154 สายทาง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 4,936 ล้านบาท โดยถนนที่น้ำท่วมขังมากที่สุดได้แก่ พิจิตร นครสวรรค์ และอยุธยา

 

วิธีที่ช่วยทำให้น้ำหายท่วมด้วยพลังจิตของตัวคุณเอง

<iframe src="http://www.youtube.com/embed/H7_2IySkzD8" allowfullscreen="" frameborder="0" height="360" width="640"></iframe>






จากภาพยนตร์ The Rebirth Of Buddha กำเนิดใหม่พระพุทธเจ้า...ไม่น่าเชื่อว่าจะสนุกขนาดนี้!!!






ร่างกายที่เเท้จริงของมนุษย์ คือ จิตวิญญาณเดียวที่มีต้นกำเนิดจากพระเจ้า

ทุกอย่างในโลกมนุษย์ คือ ผลจากการสร้างความคิดของตัวเราเอง

ทั้งนรกเเละสวรรค์ อยู่บนโลกใบนี้ โลกที่เกิดจากความคิดของบุคคลผู้นั้นสร้างขึ้นให้ตัวเองเพียงเท่านั้น

ไม่มีโลกใบอื่นที่จะตอบสนองความต้องการทางจิตวิญญาณได้ดีเท่าที่นี้

โทรทัศน์ คือ อุปกรณ์ในการสร้างพลังจิตของมนุษย์ให้ไปในทิศทางเดียวกัน

ยิ่งคิดเรื่อง ภัยพิบัติมากเท่าไร ดูข่าวเรื่องน้ำท่วมมากเท่าไร

ยิ่งสร้างภาพลวงตาเหล่านั้นให้เกิดขึ้นจริงเร็วเท่านั้น

เพราะฉะนั้น จงทำจิตให้สงบ อย่ากลัว เเละเชื่อในพลังของตัวเองอีกครั้ง

ว่าทุกที่เป็นปกติสุขเเละสงบ เมื่อจิตสงบ กายก็จะได้อยู่ในที่ที่จิตสร้างให้เอง​

 

คาดน้ำทะลักท่วมเกาะเมืองอยุธยาคืนนี้

ข่าวภูมิภาค วันศุกร์ที่ 7 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 20:59 น.



สถานการณ์ล่าสุด น้ำจะทะลักท่วมเกาะเมืองอยุธยา สามทุ่มคืนนี้ ผู้ว่าฯ สั่งให้ ปชช.อพยพไปที่ศูนย์อพยพแล้ว ส่วน ร.พ.อยุธยาเร่งสร้างคันดินกั้นน้ำในคืนนี้

สถานการณ์น้ำท่วมที่บริเวณเกาะเมือง อ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ภายหลังจากที่ทางผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ประกาศว่า น้ำจะเอ่อเข้าท่วมในเวลา 21.00 น.ของคืนนี้ ประชาชนต่างเร่งอพยพไปยังศูนย์อพยพผู้ประสบอุทกภัย ที่ทางจังหวัดจัดหาให้ แต่ยังมีประชาชนบางส่วนยังอยู่ภายในบ้าน และเฝ้าจับตาระดับน้ำที่จะเพิ่มขึ้นอย่างใกล้ชิด โดยหลังจากการสำรวจโดยรอบของเกาะเมือง มีพื้นที่ที่น้ำได้เริ่มไหลเข้าท่วม อาทิ บริเวณประตูชัย ป้อมปราการและจุดบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ติดริมน้ำ ซึ่งด้าน ร.พ.พระนครศรีอยุธยา นั้น เจ้าหน้าที่ได้เร่งสร้างแนวกั้นน้ำเพิ่มสูงขึ้น พร้อมกับนำกระสอบทรายมาเตรียมไว้ เพื่อรับมือกับน้ำ ที่อาจจะไหลเข้าท่วมในคืนนี้

Link : http://www.innnews.co.th/คาดน้ำทะลักท่วมเกาะเมืองอยุธยาคืนนี้--312916_06.html

 

ศูนย์ควบคุมน้ำท่วมแจงสถานการณ์น้ำ กทม.ยังควบคุมได้

วันศุกร์ ที่ 07 ต.ค. 2554



กรุงเทพฯ 7 ต.ค.- ชาวกรุงโทรสอบถามสถานการณ์น้ำใน กทม. 5,000 สายต่อวัน ด้านศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม ยืนยันยังอยู่ในภาวะควบคุมได้ ขอประชาชนอย่าได้วิตกกังวล หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ 02 2485115 จำนวน 20 คู่สาย และสายด่วน 1555 ตลอด 24 ชั่วโมง

ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม โดยสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาวัดที่ปากคลองตลาดสูงสุดเมื่อช่วงวาน นี้ (6 ต.ค.) ที่ 1.81 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.ทรก.) ส่วนวันนี้น้ำจะขึ้นสูงสุดอีกครั้งในเวลา 16.00 น. ซึ่งปริมาณน้ำที่ไหลสู่แม่น้ำเจ้าพระยาวัดที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่ที่ 3,150 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที ลดลงจากวานนี้ 1,247 ลบ.ม.ต่อวินาที ขณะที่ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาบวกกับที่บริเวณเขื่อนพระราม 6 อยู่ที่ 4,921 ลบ.ม.ต่อวินาที เพิ่มขึ้น 9 ลบ.ม.ต่อวินาที และช่วงค่ำคืนที่ผ่านมามีฝนตกเล็กน้อยแต่ไม่ส่งผลกระทบในพื้นที่ กทม.

สำหรับบรรยากาศภายในศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมซึ่งตั้งอยู่ในศาลาว่าการ กทม. 2 ดินแดง เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง โดยได้ผลัดเวร 3 ผลัด ๆ ละประมาณ 10 คน เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำใน กทม. รวมถึงรับเรื่องร้องเรียนเรื่องน้ำจากประชาชนผ่านหมายเลข 02 2485115 จำนวน 20 คู่สาย และได้รับโอนเรื่องน้ำจากสายด่วน 1555 จาก กทม.ด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีประชาชนโทรมาสอบถามสถานการณ์จำนวนมากเฉลี่ยวันละ 4,000-5,000 สาย จากปกติอยู่ 1,000-2,000 สายเท่านั้น สาเหตุจากประชาชนเกิดความวิตกจากข่าวที่ออกมาตลอดเวลาว่าน้ำจะท่วม กทม.

ทั้งนี้ เรื่องที่ประชาชนสอบถามมากที่สุดคือ 13 เขตพื้นที่เสี่ยงที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ จะได้รับผลกระทบหรือไม่ รองลงมา คือ 13 เขตพื้นที่ภัยพิบัติ ที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทยได้ประกาศ ซึ่งเจ้าหน้าที่ชี้แจงว่าทางสำนักฯ ประกาศให้เฝ้าระวังในพื้นที่เกษตรกรรมเท่านั้น โดยพื้นที่ชั้นใน กทม.ได้ป้องกันเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ขอให้ประชาชนคลายความวิตกกังวลได้ และเรื่องที่สอบถามอีกคือข่าวลือ ว่าจะน้ำท่วมตามพื้นที่ต่าง ๆ โดยเจ้าหน้าที่ยืนยันขณะนี้สถานการณ์น้ำ กทม.ยังอยู่ในภาวะควบคุมได้ มีการเปิดประตูระบายน้ำในระดับที่สามารถควบคุมได้ และหากประชาชนมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสถานการณ์สามารถสอบถามได้ตามหมายเลขข้าง ต้นตลอด 24 ชั่วโมง. -สำนักข่าวไทย

 

ระหว่างทำอุบาย กับประกาศเขตภัยพิบัติเตรียมตัวรับมือน้ำท่วม

อันไหนทำให้ประชาชน เก็บของทันมากกว่ากันครับ! นี่หรอครับผู้นำเมืองหลวงของไทย เมืองหลวงของคนมีฐานะและการศึกษา ชาวบ้านนอกท่วมเละเทะยังไม่มีใครหน้าไหนทำพิธีอ้อนวอนเทวดา มีแต่ช่วยตัวเองทั้งนั้น เห็นแล้วอนาจใจครับเสียแรงที่ออกไปเลือกเมื่อคราวนั้น :'(

บ้านนอกเตรียมคันกั้นน้ำเตรียมรับมือ กรุงเทพ ดันทำพิธีอ้อนวอนพระแม่คงคาขอให้น้ำหายท่วมซะงั้น

 

จริง ๆ แล้ว อาจมีคนทำพิธี จุดธูป เทียน อ้อนวอนเทวดาอยู่ก็ได้นะ แต่แค่ไม่ได้ป่าวประกาศบอกใครเท่านั้น
แต่ก็เห็นด้วยอะ ว่า อืม น่าจะทำอย่างอื่นดีกว่ามั้ย
แต่ก็นะ อาจเป็นจิตวิทยาของเขาก็ได้นะ เพื่อให้คนรู้สึกดีขึ้นหรือมีความหวังมากขึ้นอะ

 

เขากำลังสื่อถึงยุคใหม่ ยุคที่เชื่อกันว่า มีพระพุทธองค์ต่อมาคือยุคพระศรีอาร์
จะสังเกตได้ว่ามีพระพุทธเจ้าในลักษณะของเทพมีปีก

แต่คุณสันโดษเองนั่นแหละที่สื่อผิดเพี้ยนไป ในทางพุทธศาสนาของเราจะไม่ใช้คำว่า"พระเจ้า" แทนคำว่า "พระพุทธเจ้า" นะโปรดระวังด้วย

 

 คันกั้นน้ำถ.วัดโพธิ์เลื่อนแตกหลายจุด

7 ตค. 2554 22:16 น.

คันกั้นน้ำที่กั้นด้วยหินคลุกห่างจากแม่น้ำเจ้าพระยาประมาณ 20 เมตร สูงกว่า 1.50 เมตรพัง ที่บริเวณซุ้มประตูวัดโพธิเลื่อน และสถานีอนามัย หมู่ 1 และ ที่หมู่ 2 ต.บ้านกระแชง อ.เมือง จ.ปทุมธานี รวม 3 จุด ความแรงของน้ำทะลักข้ามถนน เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน หมู่ 1- หมู่ 4 ต.บ้านกระแชง และ หมู่ 5 ต.บ้านกลาง ซึ่งเป็นทุ่งนาและบ้านเรือนประชาชน ขณะนี้ชาวบ้านกว่า 6-700หลังคาเรือน เร่งเก็บของหนีน้ำ และขนย้ายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ไปไว้บนถนน 347 เส้นปทุมธานี-ศูนย์ศิลปะชีพบางไทร กันเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างใช้รถแม๊คโคนำแผ่นปูนมาขวางช่องทางน้ำที่ทะลักอย่างแรง ทั้ง 3 จุด แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถปิดกั้นช่องหมดได้ คาดว่าหากน้ำทะลักเข้าในปริมาณมาก จะส่งผลทำให้เข้าท่วมพื้นที่ทั้งหมด และถ้าปริมาณน้ำมีมากจะส่งผลเข้าท่วมคลองประปา ที่คั่นอยู่ทางฝั่งทิศเหนือติดกับคลองน้ำอ้อม ความพยายามของเจ้าหน้าที่ในการป้องน้ำไม่ให้เข้าสู่เขตพื้นที่เมืองชั้นใน
นอกจากนี้ ที่ถนนปทุมธานีสายใน เขตพื้นที่ ต.บางปรอก ต.บางเดื่อ ต.บางหลวง และมัสยิดร่วมจิต อ.เมืองปทุมธานี ฝั่งตะวันตก น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาได้ล้นคันกั้นตลอดเส้นทางไม่สามารถเดินรถได้ และได้มีการปิดการจราจรไม่ให้รถสัญจรผ่านในเส้นทางดังกล่าวแล้ว ส่วนชาวบ้านเร่งเก็บข้าวของหนีน้ำเช่นกัน ส่วนพื้นที่ในตำบลอื่น ๆ ตลอดทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ระหว่างเฝ้าดูคันกั้นน้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมแจ้งเตือนประชาชนหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน

 

เหมือนกับว่า กทม. หมดทางสู้แล้ว น่าจะระดมวิศวกรเก่งๆของ กทม. มาช่วยกันแก้ไข มากกว่าระดมสิ่งศักดิ์สิทธิ์แบบเปิดเผยนะครับ (แอบทำ ทำเงียบๆ จะเหมาะสมกว่า) ... ทำอย่างนี้ คล้ายๆกับ การพับนกแก้ปัญหาภาคใต้ ...

 

 เขตปทุมธานีวิกฤต แนวคันดินถูกน้ำเซาะหลายจุด
  


7 ตค. 2554 22:08 น.

พล.ต.ต.วัฒนา เขตร์สมุทร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ได้สั่งการให้กำลังทุกสถานีออกช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี หลังจากเแนวคันดินถูกน้ำกัดเซาะพังทลายลงเป็นทางยาว 2 เมตร และแนวกั้นน้ำหน้าสถานีอนามัยบ้านกระแชงแนวคันกั้นน้ำพังทลายลงกว่า 4 เมตร และหน้าวัดโพธิ์เลื่อนแนวคันดินพังทลายลงกว่า 5 เมตร และหน้าโรงเรียนวัดมะขามเป็นทางยาวกว่า 10 เมตร ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำรถแบคโฮจำนวน 2 คันมาตักดินริมทางนำเสริมแนวกั้นน้ำที่พังลงแต่ยังไม่สามารถปิดกั้นแนวแตกได้ ส่วนที่ตำบลบ้านกลางเนินบ๊อกน้ำ ปากทางกลับรถใต้สะพานปทุมธานี แนวกั้น ได้พังออกมายาว 2 เมตร ทำให้น้ำไหลเข้าบ้านเรือนประชาชน


<< back  next >>

 

จีนมอบเงินช่วยเหยื่อน้ำท่วมไทย 30 ล้านบาท


 เวลา 17.15 น. วันที่ 7 ต.ค. นายกว่าน มู่ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน เข้าพบน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อมอบเงินและสิ่งของช่วยเหลืออุทกภัยในประเทศไทย  โดยเอกอัครราชทูตได้กล่าวแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์อุทกภัยและประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัย ในนามของรัฐบาลจีน และมอบเงินจำนวน 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 30 ล้านบาท) และสิ่งของมูลค่า 10 ล้านหยวน เพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ประชาชนผู้ด้รับผลกระทบ พร้อมทั้งกล่าวว่า ประชาชนจีนรู้สึกห่วงใยประเทศไทยและประชาชนไทยเป็นอย่างยิ่ง และมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขออวยพรให้รัฐบาลสามารถนำพาประเทศและประชาชนไทย ผ่านความยากลำบากในครั้งนี้

 น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณสำหรับความห่วงใยและความช่วยเหลือจากรัฐบาลและประชาชนจีน ซึ่งอุทกภัยในครั้งนี้ถือว่าหนักที่สุด และรัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้สารถผ่านพ้นความทุกข์ยากในครั้งนี้ ทั้งนี้ สิ่งของที่จำเป็นและเป็นที่ต้องการอย่างเร่งด่วน คือ เรือ สุขาชั่วคราว และเต็นท์ที่พัก ซึ่งจะได้ขอความร่วมมือจากจีนเรื่องเรือที่จีนมีเรือสะเทินน้ำสะเทินบก เพื่อนำมาช่วยเหลือประชาชนต่อไป

 

ถนนสายเอเซียขาด! คมนาคมแนะเลี่ยง เพราะต้องใช้เป็นทางระบายน้ำ



คมนาคมย้ำ ถนนสายเอเซียขาดแน่นอนเพื่อระบายน้ำจากนิคมอุตสาหกรรม ผู้ใช้ทางขึ้นภาคเหนือให้เลี่ยงไปใช้ถนนหลวงหมายเลข 1 และหมายเลข 340 สุพรรณบุรี พร้อมเปิดให้ประชาชนที่มีปัญหาน้ำท่วมสามารถนำรถมาจอดได้ฟรีที่สนามบินดอนเมือง

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้กรมทางหลวง (ทล.) นำรถเครนและรถยกจากแขวงการทางในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีและแขวงที่อยู่ในภาคตะวันตกที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมให้มาช่วยยกคันดิน รวมถึงนำรถมาช่วยขนส่งสิ่งของช่วยเหลือชาวบ้าน และช่วยชาวบ้านที่ออกจากพื้นที่ไม่ได้ และในส่วนของถนนสายเอเซีย ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่ประชาชนใช้เดินทางสัญจรไปยังภาคเหนือนั้น ยอมรับว่าขณะนี้น้ำได้เอ่อและท่วมถนนสายเอเซียระยะทางยาวกว่า 10 กิโลเมตร จนทำให้ประชาชนและรถที่จะเดินไปยังภาคเหนือไม่สามารถสัญจรผ่านได้ เพราะขณะนี้รัฐบาลและจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีความจำเป็นที่จะรักษานิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ในจังหวัดอยุธยาไว้ เนื่องจากเป็นเขตเศรษฐกิจ ดังนั้นหากประชาชนที่จะเดินทางไปยังภาคเหนือ ขอความร่วมมือให้เดินทางออกจาก กทม. ผ่านแครายออกบางบัวทอง และวิ่งรถไปตามถนนหมายเลข 340 ทางจังหวัดสุพรรณบุรี และถนนทางหลวงหมายเลข 1

รมว.คมนาคม กล่าวต่อว่า ส่วนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม หากประสงค์จะหาที่จอดรถ ทางสนามบินดอนเมืองได้เปิดให้ประชาชนเข้ามาจอดรถได้ฟรี บริเวณหน้าอาคารคลังสินค้า และ อาคารจอดรถอาคารคลังสินค้า นอกจากนั้น ขณะนี้รัฐบาลได้มีการตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ที่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศเดิม สนามบินดอนเมือง ซึ่งศูนย์ดังกล่าวจะเป็นที่รับเรื่องราวร้องทุกข์ และรับบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยหน่วยงานภาครัฐจะเป็นผู้จัดส่ง โดยประชาชนที่จะร้องทุกข์หรือขอความช่วยเหลือได้ที่คอลเซ็นเตอร์ 1111 กด 5

ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ
7 ตุลาคม 2554, 21:20 น.

 

ตรวจสอบแผนที่เส้นหลวงที่ใช้งานได้ ที่ http://maintenance.doh.go.th/test.html

ตรวจสอบแผนที่พื้นที่ที่น้ำท่วม ที่ http://www.thairath.co.th/page/floodInfo

 

"ปู" รับอุทกภัยวิกฤติสุดรอบหลายสิบปี สั่งเร่งระบายน้ำลงทะเล

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 ตุลาคม 2554 21:55 น.



"ยิ่งลักษณ์" ออกทีวีพูลรับสถานการณ์อุทกภัยกำลังก้าวสู่วิกฤติรุนแรงสุดในรอบหลายสิบปี  สั่งเร่งระบายน้ำจากเขื่อนลงสู่ทะเลโดยเร็ว พร้อมตั้งศูนย์ ศปภ. ให้ความช่วยเหลือ ที่ชั้น 2 สนามบินดอนเมือง เริ่มปฏิบัติการพรุ่งนี้

 

หนองจอกยังอ่วม “สุขุมพันธุ์” รับยังแก้ปัญหาไม่ได้

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 ตุลาคม 2554 18:30 น.



       ผู้ว่าฯ กทม.ระดมกำลังหน่วยงานในสังกัด เร่งช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่เขตหนองจอกและใกล้เคียง รับยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้แต่จะเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด
       
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริบัตร

       ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานการประชุมแก้ไขปัญหาอุทกภัยรวมถึงช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่หนองจอกและพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งจากสถานการณ์น้ำในพื้นที่ล่าสุด พบว่า ยังมีปริมาณน้ำในคลองสายหลักอาทิ คลอง 9, 10, 11, 14 และคลองแยกต่างๆ ยังคงมีปริมาณน้ำที่สูงขึ้น เนื่องจากยังมีปริมาณน้ำเหนือและปริมาณน้ำฝนที่ค่อนข้างมากทำให้ชุมชนต่างๆ จากการสำรวจพบว่ามีประชาชนได้รับความเดือดร้อนแล้ว 73 ชุมชนใน 89 ชุมชน ซึ่งมีประชาชนเดือดร้อนจำนวน 3,384 ครัวเรือน ขณะนี้ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นอาทิ การนำถุงยังชีพรวมถึงยาเวชภัณฑ์ไปมอบให้ รวมถึงการจัดกำลังเจ้าหน้าที่สำนักงานเขต สำนักการโยธา และนักเรียนอาชีวะที่เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องของการสร้างสะพานไม้เพื่อทำเป็นทางเดินชั่วคราว
       
       ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ การแก้ปัญหาไม่สามารถทำได้อย่างทั่วถึง และทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ได้ทั้งหมด เนื่องจากบางจุดการเข้าไปให้ความช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยขณะนี้ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ทำการสำรวจความเดือดร้อนและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ต่างๆ พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ของสำนักการแพทย์ สำนักอนามัยและศูนย์บริการสาธารณสุข เข้าไปดูแล แนะนำในเรื่องของสุขภาพและจัดเจ้าหน้าที่พยาบาลดูแลสุขภาพจิตเข้าไปพูดคุยกับชาวบ้าน อย่างไรก็ตาม กทม.ได้มีการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมที่จะมาซื้อไม้รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ต่างๆในการนำไปช่วยเหลือประชาชนในด้านต่างๆ อย่างเร่งด่วน
       
       จากนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ และคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำชุมชนรุ่งเรืองและชุมชนหมู่ 4 พัฒนา เขตหนองจอก ซึ่งขณะนี้มีประชาชนในพื้นที่รวมถึงพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบในเรื่องของปัญหาน้ำท่วมขัง เนื่องจากยังมีปริมาณน้ำที่มาจากพื้นที่ใกล้เคียงและมาจากจังหวัดปทุมธานีไหลผ่านเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งทำให้ปริมาณน้ำในคลองและชุมชนมีปริมาณที่สูงขึ้นและไม่มีทีท่าว่าจะลดลง
       
       โดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า จะต้องมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดในสัปดาห์หน้า เพราะยังมีในเรื่องของน้ำทะเลหนุนที่จะเข้ามาสมทบทำให้ปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งทางกทม.ยอมรับว่ายังไม่สามารถแก้ปัญหาได้แต่ก็จะพยายามเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด โดยจะเร่งระบายน้ำ ออกทางประตูระบายน้ำ 3 แห่งประกอบด้วย ประตูระบายน้ำทวีวัฒนา ประเวศ แสนแสบ ซึ่งในการช่วยเหลือเบื้องต้นได้ทำการสำรวจประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็ก โดยขณะนี้ได้มีการตรียมพื้นที่รองรับชั่วคราวแล้ว
       
       นอกจากนี้ ยังมีการจัดถุงยังชีพรวมถึงยาเวชภัณฑ์ไปมอบให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ทั้งนี้ ทางสำนักงานเขตได้เตรียมกระสอบทรายจำนวน 5 แสนใบ เพื่อมอบให้กับประชาชนไปใช้ในการทำคันกั้นน้ำชั่วคราว ส่วนสถานการณ์น้ำในพื้นที่ชั้นใน ยืนยันว่า ยังสามารถรับมือกับสถานการณ์น้ำได้ แต่ก็ต้องมีการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำจนกว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติ