WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

น้ำท่วมถนนหน้ารพ.บางบัวทองสูง 50 ซ.ม.

ข่าวภูมิภาค วันจันทร์ที่ 10 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 07:01 น.


น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมถนนหน้า ร.พ.บางบัวทอง สูง 1 เมตร ชาวบ้าน ซ.ดับเพลิงบัวทอง เร่งเก็บของขึ้นที่สูง สร้างทำนบกั้นน้ำชั่วคราว - พหลโยธินหน้าฟิวเจอร์-รังสิต น้ำสูง 20 ซ.ม.



สำหรับ สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.นนทบุรี ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณหน้า ร.พ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เกิดน้ำท่วมถนนสูง 50 ซ.ม. และยังคงมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ ชาวบ้าน ภายใน ซ.ดับเพลิงบัวทอง ที่ส่วนใหญ่บ้านเรือนเป็นตึกแถว บางส่วนได้ออกมาเก็บข้าวของขึ้นที่สูงแล้ว พร้อมกับ นำกระสอบทราย มาทำเป็นทำนบกั้นน้ำ ส่วนใหญ่ยังไม่ทราบว่า น้ำเอ่อล้น
มาจากที่ใดและยังไม่มีหน่วยงานใด เข้าไปดูแล

ขณะที่ บริเวณ ถ.พหลโยธิน จุดกลับรถ ห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมถนนสูง ประมาณ 20 ซ.ม. มิดช่องจราจรคู่ขนาน - ทางด่วน ขาเข้า กทม. แนะประชาชนสัญจรด้วยความระมัดระวัง และตรวจสอบเส้นทางก่อนออกจากบ้านพักด้วย

Link : น้ำท่วมถนนหน้ารพ บางบัวทองสูง 50 ซ ม

 

น้ำท่วมถนนหน้ารพ.บางบัวทองสูง 50 ซ.ม.

ข่าวภูมิภาค วันจันทร์ที่ 10 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 07:01 น.


น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมถนนหน้า ร.พ.บางบัวทอง สูง 1 เมตร ชาวบ้าน ซ.ดับเพลิงบัวทอง เร่งเก็บของขึ้นที่สูง สร้างทำนบกั้นน้ำชั่วคราว - พหลโยธินหน้าฟิวเจอร์-รังสิต น้ำสูง 20 ซ.ม.



สำหรับ สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.นนทบุรี ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณหน้า ร.พ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เกิดน้ำท่วมถนนสูง 50 ซ.ม. และยังคงมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ ชาวบ้าน ภายใน ซ.ดับเพลิงบัวทอง ที่ส่วนใหญ่บ้านเรือนเป็นตึกแถว บางส่วนได้ออกมาเก็บข้าวของขึ้นที่สูงแล้ว พร้อมกับ นำกระสอบทราย มาทำเป็นทำนบกั้นน้ำ ส่วนใหญ่ยังไม่ทราบว่า น้ำเอ่อล้น
มาจากที่ใดและยังไม่มีหน่วยงานใด เข้าไปดูแล

ขณะที่ บริเวณ ถ.พหลโยธิน จุดกลับรถ ห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมถนนสูง ประมาณ 20 ซ.ม. มิดช่องจราจรคู่ขนาน - ทางด่วน ขาเข้า กทม. แนะประชาชนสัญจรด้วยความระมัดระวัง และตรวจสอบเส้นทางก่อนออกจากบ้านพักด้วย

Link : น้ำท่วมถนนหน้ารพ บางบัวทองสูง 50 ซ ม

 

รถไฟฟ้าใต้ดินเตรียมพร้อมรับน้ำท่วม





รฟม และ BMCL เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วมในรถไฟฟ้า MRT หลังน้ำเหนือจ่อถล่มกรุง...

พล.ต.ชาติชาย ประดิษพงษ์ ผู้อำนวยการงานส่งเสริมและเผยแพร่กิจกรรม บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BMCL) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า MRT เปิดเผยว่า ขณะนี้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม,) และ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BMCL) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า MRT ได้เตรียมแผนรองรับสถานการณ์น้ำท่วมในกรณีที่อาจจะเกิดขึ้น

โดยจะมีการติดตั้งผนังกั้นน้ำ (Stop Lock) บริเวณทางเข้า-ออกของบางสถานี ซึ่งจะมีการทยอยติดตั้งในวันที่ 9 ต.ค 54 เวลา 10.00 น. ณ ทางเข้า-ออก 1 สถานีพระราม 9 (ฝั่งทางเข้า-ออกซึ่งเป็นบันไดธรรมดาตรงข้ามฟอร์จูน) และเวลา 14.00 น. ณ ทางเข้า-ออก 1 สถานีบางซื่อ การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้ไม่สามารถใช้ทางเข้า-ออกนั้นได้

อย่างไรก็ตาม ผู้โดยสารยังสามารถใช้บริการสถานีนั้นๆได้ตามปกติ โดยใช้ทางเข้า-ออกอื่นทดแทน และรถไฟฟ้า MRT ยังเปิดให้บริการปกติทุกสถานี ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว ถือเป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น


ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวการเมือง
10 ตุลาคม 2554, 04:00 น.

 

ชลบุรีเตือน พนัสนิคม พานทอง บางละมุงรับมือน้ำท่วม

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 ตุลาคม 2554 22:23 น.


       จังหวัดชลบุรีเตือนประชาชนให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วม พื้นที่ที่ควรระวังเป็นพิเศษ คือ อำเภอพนัสนิคม อำเภอพานทอง อำเภอบางละมุงและพื้นที่ราบลุ่มและชายฝั่งทะเล ส่วนพื้นที่ที่ควรหลีกเลี่ยงเส้นทางในการเดินทางขณะฝนตก ดังนี้ บริเวณถนนทางเข้าหน้านิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร, บริเวณถนนสุขุมวิทตั้งแต่แยกบ้านบึงไปจนถึงเส้นทางเข้าบางแสน บริเวณหน้าโรงพยาบาลชลบุรี โรงเรียนชลชาย ตึกน้ำ และเส้นทางแยกเข้าไปอำเภอบ้านบึง จึงขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนและชาวบ้านเฝ้าระวัง

 

ตัวเมืองอยุธยาน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ไฟฟ้าช็อตดับ 5

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 ตุลาคม 2554 21:38 น.



       อยุธยา - ระดับนำ้ตัวเมืองอยุธยาท่วมสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่วนพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะรถยนต์เล็กไม่สามารถผ่านได้ เผยเกิดเหตุกระแสไฟฟ้าช็อตชาวบ้านดับ 5 ก่อนประสานการไฟฟ้าตัดกระแสไฟ แนะใช้เส้นทางหมายเลข 340 ไป จ.ชัยนาท หากเข้ากรุงเทพฯ ให้ใช้เส้นทางถนนเลี่ยงเมืองตั้งแต่ จ.อ่างทอง ไปทาง อ.วิเศษไชยชาญ เข้าถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี
       
       วันที่ 9 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า บริเวณที่ว่าการอำเภอเมืองพระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำสูงประมาณ 2 เมตร และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประชาชนต่างเร่งขนข้าวของออกจากบ้านไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยอย่างอลหม่าน ส่วนระดับน้ำในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะนี้มีปริมาณสูงรถยนต์เล็กไม่สามารถผ่านได้
       
       สืบเนื่องจากน้ำท่วมได้เกิดเหตุกระแสไฟฟ้าช็อตคนขับขี่รถจักรยานยนต์ เข้าไปในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากกระแสไฟฟ้าช็อตทันที 4 ราย จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณ ประตูบี ซึ่งมีน้ำท่วมขัง และมีกระแสไฟฟ้ารั่ว เนื่องจากบริเวณภายในโรงงานนั้น กระแสไฟฟ้าถูกตัดแล้ว แต่บริเวณไฟส่องสว่างด้านนอก เจ้าหน้าที่การไฟฟ้ายังไม่เข้ามาตัดไฟ ล่าสุด เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือกู้ศพ โดยการนำรถออฟโรด แล้วใช้เชือกลากศพผู้เสียชีวิต นำศพออกจากพื้นที่ ขณะที่ในพื้นที่ตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา มีผู้ถูกกระแสไฟฟ้าช็อตเสียชีวิต อีก 1 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเข้าทำการตัดกระแสไฟฟ้า
       
       นายสนิท พรหมวงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารบำรุงทาง กรมทางหลวง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเส้นทางที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมแล้ว 106 เส้นทาง ถนนสายเอเชีย บริเวณ จ.พระนครศรีอยุธยา ท่วมสูงไม่สามารถสัญจรได้ ล่าสุดปิดถนนสายเอเชียมุ่งหน้า จ.ชัยนาท ขอให้ประชาชนที่จะเดินทางไป จ.ชัยนาท ใช้เส้นทางหมายเลข 340 สุพรรณบุรี-อ่างทอง ส่วนการเดินทางไปยังภาคเหนือ หรือเข้าสู่กรุงเทพมหานคร เลี่ยงใช้เส้นทางต่างระดับบางปะอิน ออกวงแหวนตะวันตก ตัดถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี และออก จ.ชัยนาท กลับเข้าสายเอเชีย ส่วนขาเข้ากรุงเทพมหานคร ใช้เส้นทางถนนเลี่ยงเมืองตั้งแต่ จ.อ่างทอง ไปทาง อ.วิเศษไชยชาญ เข้าถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี
       
       ทั้งนี้ จะมีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำท่วม และใช้รถใช้ถนนด้วยความระวัง สามารถติดตามสถานการณ์น้ำท่วมทางหลวงได้ที่เว็บไซต์กรมทางหลวง Department of Highways หรือสอบถามที่หมายเลข 0-2354-6530, 0-2354-6603

 

จ.อ่างทองอ่วม น้ำจากบางปะหันทะลักท่วม 3 ตำบล




น้ำจากอำเภอบางปะหันทะลักเข้าท่วมจังหวัดอ่างทองอย่างรวดเร็ว เข้าท่วมแล้ว 3 ตำบล หลายพันครอบครัวเดือดร้อนหนัก

สถานการณ์ น้ำท่วมในจังหวัดอ่างทอง ยังหนักถูกน้ำจากหลายจังหวัดกระหน่ำไหลโอบเข้าท่วมจนทำให้หลายพื้นที่วิกฤต ไม่ว่าจะเป็นฝั่งตะวันตกที่รับน้ำจากประตูน้ำพระงามที่พังทะลักเข้าท่วมใน พื้นที่อำเภอโพธิ์ทอง อำเภอเมือง และ อำเภอวิเศษชัยชาญ ฝั่งตะวันออกถูกน้ำจากจังหวัดลพบุรี ในอำเภอท่าวุ้ง และ อำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าท่วมใน ตำบลตรีณรงค์ ตำบลชัยฤทธิ์ อำเภอไชโย

ล่า สุด น้ำจากอำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ย้อนทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ 3 ตำบล คือ ตำบลหัวไผ่ ,สายทอง และโรงช้าง บ้านเรือนประชาชนหลายพันหลังคาเรือนจมน้ำทันที นอกจากนั้นวัด โรงเรียน สถานที่ราชการถูกน้ำท่วมจนหมด ประชาชนต้องเร่งเก็บข้าวของกันอย่างโกลาหล ออกมาอยู่บนถนน ไม่เว้นแม่แต่เด็กแรกเกิดต้องมาผูกเปลนอนบนถนน นอกจากนั้นถนนสายป่าโมก–บางปะหัน ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 30 ซม. บางช่วงถนนขาดต้องปิดเส้นทางดังกล่าว

ข่าวน้ำท่วมจากช่ิอง 3

 

จากกระทู้อื่นค่ะ

ด่วนมากครับเรื่องสำคัญ แนวคันกั้นน้ำ ที่ทางภาครัฐชอบพูดบ่อยๆ มันอยู่ตรงไหน?

เนื่องจากกระทูนี้ PANTIP.COM : NE11174961 Flooding Connect ..

ตอบ


เห็นยังไม่มีคนช่วยตอบ เลยขอช่วยตามความเข้าใจของตัวเองนะคะ
หากผิดพลาดต้องขออภัยจริงๆ ค่ะ -/\-

คันกั้นน้ำมันคือแนวสิ่งกีดขวางป้องกันที่สูงขึ้นมาจากระดับลำน้ำปกติ
เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำทะลักออกมาท่วมพื้นที่และบังคับให้ไหลไปตามลำน้ำ
เวลาที่ปริมาณน้ำเกินกว่าลำน้ำจะรับได้ ซึ่งมันจะสร้างไว้ตามลำน้ำทั่วไป
โดยเฉพาะแม่น้ำลำคลองที่มีปริมาณน้ำเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลมาก
(คันดินหรือกระสอบทรายก็จัดเป็นคันกั้นน้ำที่เราทำขึ้นชั่วคราวค่ะ ^^)

ทีนี้ มาช่วยแกะลายแทงจาก (คห#3) เท่าที่ทำได้นะคะ *-*
แนวคันกั้นน้ำป้องกันน้ำท่วมของ กทม.ก็จะอยู่ในแนวลำน้ำเช่นเดียวกับคันกั้นน้ำทั่วๆ ไป
คือไม่ได้วางอยู่รอบ กทม.แต่วางตามแนวลำน้ำรอบ กทม. แค่บางส่วน
ตามเส้นสีแดง (สร้างแล้ว) และเส้นสีเขียว (ตามแผนที่เค้าบอกว่าจะสร้างเสร็จในปี 2549 ซึ่งก็คือน่าจะสร้างแล้ว ^^)
ซึ่งมีความสูงและความแข็งแรงมากกว่าคันกั้นน้ำอีกด้านหนึ่ง
แปลว่าถ้ามีปริมาณน้ำมากๆ น้ำจะทะลักเข้าฝั่งที่คันกั้นน้ำต่ำกว่านะคะ - -'
ซึ่งคือพื้นที่ที่เค้าบอกว่าอยู่นอกคันกั้นน้ำ (ป้องกันน้ำท่วม) ของ กทม. นั่นเอง
เพราะฉะนั้น จากแผนที่...

พื้นนอกคันกั้นน้ำฝั่งตะวันออก คือ
ปทุมธานี รังสิต คลองหลวง ธัญบุรี ลำลูกกา สายไหม คลองสามวา หนองจอก มีนบุรี
ลาดกระบัง สนามบินสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ (ฝั่งขวาของคลองลาดกระบัง)

พื้นที่นอกคันกั้นน้ำฝั่งตะวันตก คือ
นนทบุรี (ด้านบนคลองมหาสวัสดิ์)
นครปฐม สมุทรสาคร (ด้านนี้ไม่มีคันกั้นน้ำ?)

-----------------------------------

ปล. คห#10 รามสอง บางนา (ตามแผนที่นี้) อยู่ในแนวคันกั้นน้ำค่ะ
สบายใจได้ในระดับหนึ่งแต่ควรระวังน้ำท่วมจากน้ำทะเลหนุนขึ้นมาด้วยนะคะ
ไม่ควรประมาทค่ะ

ปล2. ถ้าข้อมูลส่วนไหนผิดพลาดรบกวนแก้ไขทีนะคะ
เพราะว่าไม่ค่อยรู้เรื่องจริงๆ อ่านตามที่เห็นในแผนที่เท่านั้นค่ะ

แก้ไขพิมพ์ตกจ้า

แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 54 00:45:06

จากคุณ : group A Rh negative
เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 54 00:37:43

ข้อมูลถูกต้องหรือไม่ รบกวนผู้รู้ตามความจริงด้วยค่ะ

 

จากกระทู้อื่นค่ะ

ด่วนมากครับเรื่องสำคัญ แนวคันกั้นน้ำ ที่ทางภาครัฐชอบพูดบ่อยๆ มันอยู่ตรงไหน?

เนื่องจากกระทูนี้ http://pantip.com/cafe/wahkor/topic/X11175471/X11175471.html

 

ตลาดรังสิต-หมู่บ้านรัตนโกสินทร์ ถูกน้ำท่วมแล้ว

http://news.thaipbs.or.th/sites/def...icture/news10102011/38703-imagejpeg-59991.jpg

Mon, 10/10/2011 - 06:55

สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในขณะนี้ที่ต้องเฝ้าจับตาสถานการณ์เป็นพิเศษ คือพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ สำหรับลุ่มน้ำภาคกลางที่ไหลต่อเนื่องมายังกรุงเทพฯ ขณะนี้มีรายงานแล้วว่า ตลาดรังสิต และ หมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี เกิดฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา

    

เมื่อคืนที่ผ่านมาในย่านรังสิตเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องนานนับชั่วโมงทำให้ระดับน้ำในคลองรังสิต-ประยูรศักดิ์ สูงขึ้นประมาณ 50-80 เซนติเมตร และ ไหลเข้าท่วมตลาดรังสิต และ หมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี บ้านเรือนประชาชนหลายหลังที่ป้องกันน้ำด้วยการกั้นกระสอบทราย และ ก่อคันปูนกั้นไว้ก่อนหน้านี้ได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย ขณะที่บางบ้านไม่ได้ป้องกันน้ำไว้น้ำได้เข้าท่วมบ้าน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ทำให้ประชาชน นำรถออกมาจอดไว้บนถนนรังสิต-ปทุมธานี เป็นจำนวนมาก

ส่วนที่จังหวัดนนทบุรีระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาได้ท่วมสูงจนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเกาะเกร็ดต่างได้รับความเดือนร้อน รวมถึงสวนทุเรียนและสวนผลไม้ต่าง ๆ ที่ถูกน้ำท่วมขัง และ เพิ่มปริมาณขึ้นอย่างต่อเนื่องจนต้องยืนต้นตาย ขณะที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิของภาคเอกชนแห่งหนึ่งได้ลงพื้นที่แจกเสื้อชูชีพในพื้นที่จังหวัดลพบุรี โดยเจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือเด็กหญิงคนหนึ่งที่ถูกกระแสน้ำไหลเชี่ยวพัดเอาไว้ได้เหตุเกิดบนถนนสายลพบุรี-สิงห์บุรี ช่วงบริเวณถนนระหว่างวัดมณีชลขันธ์ และ วัดศรีสุธาวาส อำเภอเมืองลพบุรี เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา

ด้านกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และ ทีมอาสาสมัครชมรมสัตวแพทย์สัตว์ป่าแห่งประเทศไทยประสบความสำเร็จในการเคลื่อนย้ายเสือโคร่งขนาดใหญ่ทั้งหมด 5 ตัวออกจากฟาร์มจระเข้อุทัยธานี ซึ่งเป็นฟาร์มเลี้ยงจระเข้ และ เสือโคร่งของเอกชน ที่บ้านน้ำตก ตำบลสะแกกรัง อำเภอเมืองอุทัยธานี หลังจากที่ฟาร์มแห่งนี้ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตรมานานนับเดือน จนเสือโคร่งในฟาร์มติดเชื้อโรคที่มากับน้ำตายไปแล้วถึง 3 ตัว จากทั้งหมด 8 ตัว

 สำหรับเสือโคร่งทั้ง 5 ตัว เจ้าหน้าที่เร่งขนย้ายใส่กรง และ ลงเรือท้องแบนลำเลียงไปขึ้นรถบรรทุกที่จอดรอหน้าปั้มน้ำมัน ปตท. อย่างทุลักทุเล เพื่อเตรียมลำเลียงไปเลี้ยงที่ สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง จังหวัดราชบุรี โดยมีทีมสัตว์แพทย์สัตว์ป่าคอยดูแลตลอดทาง
ส่วนที่อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นอีกพื้นที่ต้องเฝ้าระวังน้ำท่วม ขณะนี้พบว่า ชาวบ้านเริ่มทำแนวป้องกันน้ำรอบบ้านเรือน โดย อบต.หนองไผ่ ได้ประกาศเตือนประชาชนเตรียมพร้อมรับสถานการณ์หลังน้ำจากฝายห้วยหินแดน 1 เริ่มล้นเข้าท่วมถนนหมู่บ้าน

ส่วนในภาคเหนือ ชาวตำบลบางระกำ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ยังต้องเร่งสร้างแนวป้องกันน้ำหลังน้ำที่หลากมาตามทุ่งจากจังหวัดกำแพงเพชร และ จังหวัดสุโขทัย ได้เข้าท่วมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ส่วนจังหวัดกำแพงเพชร หลังเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก เร่งระบายน้ำที่ใกล้เต็มความจุอ่าง ส่งผลทำให้แม่น้ำปิงยังคงเพิ่มสูงขึ้น และเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในอำเภอเมือง ทำให้ชาวบ้านบางส่วนเกิดการกระทบกระทั่งกัน จากปัญหาการวางแนวกั้นน้ำ

Thai PBS news

 

 บุรีรัมย์ระดมทำแนวกระสอบทราย ป้องกันน้ำท่วม
  


10 ตค. 2554 06:33 น.

เมื่อวันที่ 9 ต.ค.54 พลตรีวุฒิ แสงจักร ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้ พันเอกสนธยา ศรีเจริญ รองผู้บังคับการจังหวัดทหารบก นำกำลังพล ไปช่วยคณะครู อาจารย์ และนักเรียนทำแนวกระสอบทราย เพื่อป้องกันน้ำที่อาจจะทะลักเข้าท่วมโรงเรียนบ้านตะแบง ต.หัวฝาย อ.แคนดง หลังน้ำจากลำน้ำมูล และอ่างเก็บน้ำลำตะโคง ได้เอ่อทะลักเข้าท่วมบริเวณสนาน แปลงผัก และอาคารเรียนศูนย์คอมพิวเตอร์แล้ว พร้อมกันนี้ยังได้ช่วยกันขนย้ายสิ่งของ เอกสารสำคัญ เครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์การเรียนการสอนต่างๆ ขึ้นไว้บนชั้น 2 ของอาคารเรียน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นหากน้ำไหลทะลักเข้าท่วม
ขณะที่นายบุญเลิศ ตองติดรัมย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตะแบง กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา โรงเรียนได้ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร นานกว่า 1 เดือน จนทำให้อุปกรณ์การเรียน การสอน และเครื่องใช้สำนักงานจมน้ำเสียหาย เนื่องจากพื้นที่ตั้งของโรงเรียนอยู่ใกล้จากอ่างเก็บน้ำลำคะโคง เพียงประมาณ 200 เมตร และอยู่ห่างจากลำน้ำมูล เพียงประมาณ 1 กิโลเมตร เท่านั้น ซึ่งขณะนี้น้ำก็ได้เอ่อเข้ามาบางพื้นที่ของโรงเรียนแล้ว จึงได้ประสานขอความช่วยเหลือไปยังทางจังหวัดทหารบก เพื่อมาช่วยขนย้ายอุปกรณ์การเรียนต่างๆ ขึ้นสู่ที่สูง และทำแนวกระสอบทราย เพื่อป้องกันน้ำเข้าท่วมโรงเรียนในช่วงปิดภาคเรียน



<< back  next >>

 

แกนโลกสลับขั้ว ไขความจริง สมมติฐานนาซ่า เกิดน้ำท่วมโลก จริงหรือ ???



แกนโลกสลับขั้ว  ไขความจริง สมมติฐานนาซ่า เกิดน้ำท่วมโลก จริงหรือ ???

Mthainews: “น้ำท่วมโลก” ภัยพิบัติที่นำไปสู่  วันสิ้นโลก ปี2012 ยังคงเป็นประเด็นร้อน สำหรับชาวโลกที่เริ่มตื่นตัว หลังจากหลายพื้นที่ประสบกับเหตุอุทกภัย ที่บางพื้นที่ไม่เคยเกิดขึ้น หนึ่งในสมมติฐานของเหตุนี้ ก็คือ เรื่องแกนโลกที่มีการเปลี่ยนแปลง จนเกิดความแปรปรวน

สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตนักวิทยาศาสตร์ขององค์การนาซา กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า แกนโลกที่เคลื่อนตัวพลิกกลับขั้วจากเหนือไปใต้ ทำให้พลังสนามแม่เหล็กเปลี่ยนแปลง แกนโลกเอียงจาก 23.5 องศาเป็น 24.5 องศา นั่นเองเป็นที่มาของภาวะโลกร้อน เนื่องจากน้ำแข็งทั่วโลกละลายด้วยอัตราที่รวดเร็ว และมีการแจ้งเตือนมานานกว่า 10 ปี แล้ว ในปี 2012นี้ จึงอาจเกิดภาวะที่ แกนโลกพลิกขั้ว ขึ้น



ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์อ้างอิงไว้ว่า พื้นที่กว่า 2.2 ล้านตารางกิโลเมตร มีน้ำแข็งกว่า 19 ร้อยล้านตัน น้ำแข็งกำลังละลายเป็นน้ำวันละ 1 ล้านตัน โดยจะไหลลงมาสะสมจนทำให้เกิดน้ำท่วมหนักในปี 2012

หากเชื่อมโยงกับเหตุภัยพิบัติสึนามิครั้งใหญ่ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ความรุนแรง 8.9 ริคเตอร์ ทำให้เกาะฮอนชูของญี่ปุ่น ขยับไปทางตะวันออก 8 ฟุต และมีรายงานว่าแกนโลกมีการเปลี่ยนแปลง โดยสถาบันธรณีฟิสิคส์และภูเขาไฟในอิตาลี ประเมินว่า แผ่นดินไหวที่มีแรงสั่นสะเทือนถึง 8.9 ริคเตอร์ ได้ทำให้เแกนโลกขยับไปเกือบ 10 เซ็นติเมตร




ภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังเกิดสึนามิ ส่งผลให้เกาะฮอนชูเคลื่อนไปทางตะวันออก 8 ฟุต

แต่ปัจจุบัน มีการโต้แย้งจากนักวิทยาศาสตร์บางส่วนที่มองว่า เหตุการ์แผ่นดินไหว จนเกิดสึนามินั้น เมื่อนำอัตราการเคลื่อนของพื้นผิวโลก มาเทียบกับความใหญ่โตมโหฬารของโลกถือว่าน้อยมาก ฉะนั้นแกนโลกที่เคลื่อนเอียงเพียงแค่ไม่กี่เมตร แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงจริง แต่ไม่ส่งผลให้โลกเอียงถึง 1 องศา  จึงยังไม่ใช่ 24.5 องศา ตามที่เข้าใจ

อย่างไรก็ดีกระทบด้านอื่นๆ ก็ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน

นายริชาร์ด กรอสส์ จากศูนย์ปฏิบัติการวิจัยแรงขับเคลื่อนพลังงานแห่งองค์การนาซา ที่เมืองพาซาดีนา รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า เหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านการส่งผ่านมวลของโลก ซึ่งนั่นทำให้โลกหมุนเร็วขึ้น  และทำให้เวลาในหนึ่งวันลดลง 1.8 ไมโครวินาที

มีการตั้งข้อโต้แย้งจากนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่ม ที่ไม่ฟันธงเสียที่เดียวว่า ภาวะน้ำท่วมในปัจจุบัน จะเป็นเค้าลางของน้ำท่วมโลกในปี 2012 เพราะยังคงมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้ประเทศไทยเกิดน้ำท่วม เช่น
-ไม่มีการจัดการรองรับปริมาณน้ำที่ดีพอ
-ปริมาณฝนที่มาผิดปกติในแต่ละปี ซึ่งเกิดจากความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ
-อีกทั้งกรุงเทพฯเป็นพื้นที่ที่รองรับน้ำได้จำกัด หากปริมาณน้ำฝน ไหลผ่าน เกิน2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ก็เกิดภาวะน้ำท่วมอย่างหนัก



ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผอ.ศูนย์วิจัยภัยธรรมชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต ระบุว่า สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดน้ำท่วม ก็คือ พื้นที่ชายฝั่งทะเลไทย ซึ่งเป็นพื้นดินอ่อนมีการทรุดตัวลง และหายไปปีละประมาณ 10 เมตร  คาดว่าอีก 40 ปีข้างหน้า แผ่นดินก็จะทรุดลงอีกประมาณ 30 ซม.เป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้น้ำท่วมได้ง่าย

จังหวัดที่มีพื้นที่ใกล้กับทะเลจึงมีความเสี่ยงที่จะเป็นเมืองบาดาลในอนาคต ด้วยสมมติฐานที่ว่า ชายฝั่งทะเลทรุดตัว มีการสร้างสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ขวางทางน้ำไหล ไม่ใช่แกนโลกเอียง ภัยพิบัติน้ำท่วมโลกของนาซ่า ยังคงเป็นเพียงสมมติฐาน ที่ต้องค้นหาความจริง และพิสูจน์กันต่อไป

แต่สิ่งที่เราต้องรับมือในขณะนี้ คือ เร่งแก้ปัญหาน้ำท่วม บรรเทาภัยแก่ชาวบ้านที่ได้รับความเดือกร้อน  และเตรียมพร้อมหาวิธีป้องกันหากเกิดน้ำท่วมในครั้งต่อไป…ไม่ว่าสมมติฐานนาซ่าจะเป็นอย่างไร แต่อย่างน้อยก็เป็นการเตือนสติ ให้ชาวโลกตระหนักถึงผลกระทบ หากยังคงทำลายทรัพยากรธรรมชาติไปมากกว่านี้

Mthainews

 

ฝนโปรย กทม.ไม่หยุด หน้า’สมบัติบุรี’น้ำยังท่วม

http://news.kkuengplay.com/ฝนโปรย-กทม-ไม่หยุด-หน้าส.html


ต้อนรับเช้าวันจันทร์ฝนใน กทม.ยังโปรยปรายไม่ขาดสาย เรดาร์ตรวจอากาศพบกลุ่มฝนในหลายเขต ขณะที่ถนนสายหลักรถเริ่มหนาแน่น ส่วนหน้าหมู่บ้านสมบัติบุรีน้ำยังท่วมคู่ขนาน…

เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. วันที่ 10 ต.ค. มีรายงานว่า เรดาร์ตรวจอากาศของกรุงเทพมหานคร พบกลุ่มฝนบริเวณเขตดอนเมือง หลักสี่ สายไหม บางเขน จตุจักร ลาดพร้าว คันนายาว บึงกุ่ม สวนหลวง มีนบุรี ลาดกระบัง และริมแม่น้ำ ทำให้ขณะนี้ มีฝนโปรยปรายตามถนนสายหลักในหลายๆ จุด เช่น ถ.วิภาวดีฯ พหลโยธิน รามคำแหง ลาดพร้าว และแจ้งวัฒนะ จนพื้นผิวการจราจรเปียกลื่น และมีน้ำขังเป็นบางแห่ง ส่วนการจราจรเริ่มหนาแน่น ทั้งนี้ ตำรวจจราจรแนะนำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนขับขี่ด้วยความระมัดระวัง และเผื่อเวลาในการเดินทาง

นอกจากนั้น บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเซียร์รังสิต พบว่ามีน้ำท่วมขัง ส่วน ถ.กาญจนาภิเษก ช่วงจากแยกตัดถนนสาย 345 หน้าหมู่บ้านสมบัติบุรี ช่องทางคู่ขนานมีน้ำท่วมต้องปิดการจราจร แต่ช่องทางด่วนใช้ได้ ตำรวจจราจรแนะให้ใช้ ถ.ราชพฤกษ์แทน

 

ขอถามผู้รู้ เนื่องจากช่วงนี้เห็นข่าวไฟดูดบ่อยจริงๆ อยากถามว่าเราจะใช้ไขควงวัดไฟช่วยตรวจดูพื้นที่ว่ามีไฟรั่วได้หรือไม่ค่ะ

ไขควงวัดไฟทำงานอย่างไร ทำไมวัดแล้วไฟติดสว่าง แต่ไม่ดูดทำอันตรายคนที่ใช้

และ อยากทราบว่า ชิ้นส่วนภายในของไขควงวัดไฟ ทำหน้าที่อะไรบ้างครับ
ถ้าบางส่วนขาดหายไป เพราะ เด็กๆ ชอบนำไปแกะเล่น
การใช้ไขควงนั้นยังจะปลอดภัยอยู่หรือไม่ครับ
ช่วยบอกวิธีสังเกตุไขควงวัดไฟที่ดี และ วิธีใช้ที่ถูกต้องให้ด้วยนะครับ

 

แนวคันกั้นน้ำ...พื้นที่ขั้นใน กทม.

จากรูปแรกคือ...พื้นที่สีเหลือง

 

ไขควงวัดไฟ

การทำงาน

ใช้ปลายไขควงจิ้มไปที่ปลั๊ก (ไขควงต้องสมบูรณ์ไม่เสียหาย) ... แล้วใช้นิ้วมือแตะที่ปลายไขควงอีกด้านหนึ่ง

ไฟจากปลั๊ก (ปลั๊กมี 2 ขั้ว คือ L และ N)...จากขั้ว L จะไหลผ่านปลายโลหะของไขควง...มารอที่หลอดไฟ...เมื่อเราเอานิ้วแตะที่ปลายอีกด้านของไขควง...กระแสไฟฟ้าจำนวนน้อย (มาก) ... จะไหลมาครบวงจร ผ่านร่างกายเราและไหลลงดิน (์N)....ทำให้หลอดไฟติด

ดังนั้น

L ---- ไฟจากปลั๊ก ---- หลอดไฟในไขควง ---- ผ่านตัวเรา ---- ลงดินที่เท้าเรา ---- N

เมื่อน้ำท่วม...ไม่สามารถ...ใช้ไขควงวัดไฟ...วัดไฟที่รั่วในน้ำได้...ครับ

ให้ตัดไฟอย่างเดียว...จึงจะปลอดภัย...ครับ

 

<TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width=500 border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 1 : ​

</TD><TD> กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคเหนือโดยมีฝนฟ้าคะนองปกคลุมทางตะวันตกและทางตอนล่างของภาค </TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 2 : ​

</TD><TD> กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยมีฝนฟ้าคะนองปกคลุมทางตอนกลางของภาค </TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 3 : ​

</TD><TD> กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคกลางโดยมีฝนฟ้าคะนองปกคลุมทางตะวันตก ทางตอนกลางและทางตอนล่างของภาค</TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 4 : ​

</TD><TD> กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคตะวันออกโดยมีฝนฟ้าคะนองปกคลุมภาคตะวันออกและตามบริเวณชายฝั่ง </TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 5 : ​

</TD><TD> กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคใต้โดยมีฝนฟ้าคะนองปกคลุมทางตอนบนของภาค </TD></TR></TBODY></TABLE>

C5​

 

นิวซีแลนด์เร่งขจัดคราบน้ำมันรั่วจากเรือบรรทุกคอนเทนเนอร์

10 ตค. 2554 07:00 น.

หน่วยงานด้านพาณิชย์นาวีนิว ซีแลนด์ คาดว่า มีน้ำมันราว 20-30 ตันได้รั่วไหลออกจากเรือบรรทุกคอนเทนเนอร์ "เรน่า" ลงสู่ทะเล บริเวณอ่าวเพลนตี้ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะเหนือประเทศนิว ซีแลนด์แล้ว โดยเรือที่มีความยาว 236 เมตรลำดังกล่าว เป็นเรือสัญชาติไลบีเรียบรรทุกน้ำมัน 1,700 ตัน และได้เกยตื้นบริเวณแนวปะการัง ตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา
วันนี้นายกรัฐมนตรีนิว ซีแลนด์ จอห์น คีย์ เดินทางไปดูจุดเกิดเหตุ โดยบอกว่า ตนต้องการคำตอบ ว่าเรือลำดังกล่าวไปเกยตื้นแนวปะการัง "แอสโตรลาเบ" ได้อย่างไรทั้งๆ ที่แนวปะการังนี้ มีการระบุในแผนที่ทางน้ำอย่างชัดเจน และขณะเกิดเหตุ สภาพอากาศอยู่ในภาวะปกติ เขาบอกด้วยว่า ขณะนี้ มีความเป็นได้สูงที่คราบน้ำมันจะลอยไปถึงชายฝั่ง
ทางการได้นำเรืออีกลำ เพื่อสูบน้ำมันที่เหลือออกจากเรือ "เรน่า" และยังมีเรืออีก 2 ลำที่มีภารกิจสูบคราบน้ำมันออกจากผิวน้ำทะเล แต่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องบอกว่า ขณะนี้ สามารถขจัดคราบน้ำมันได้เพียงไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ของน้ำมันที่รั่วไหลออกมา
ส่วนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่งวิตกว่า การท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้หลักของพวกเขาจะได้รับผลกระทบ และสัตว์ทะเลมีความเสี่ยงได้รับอันตรายจากคราบน้ำมัน


เกิดจลาจลในอิยิปต์ เสียชีวิต 24 คน บาดเจ็บกว่า 200


10 ตค. 2554 09:18 น.

ได้เกิดเพลิงไหม้ในย่านใจกลางกรุงไคโร เมืองหลวงของอิยิปต์ ซึ่งมีการปะทะกันอย่างแรงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากความไม่พอใจของชาวคริสเตียน หลังเกิดเหตุโจมตีโบสถ์แห่งหนึ่งเมื่อไม่นานนี้ และเหตุการณ์ความไม่สงบล่าสุด ที่กลายเป็นการปะทะกันระหว่างชาวคริสต์ , มุสลิมและกองกำลังรักษาความมั่นคง ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 คน และอีกกว่า 200 คน ได้รับบาดเจ็บ นับเป็นความรุนแรงที่เกิดจากความขัดแย้งทางศาสนาที่ร้ายแรงที่สุด ตั้งแต่เกิดความรุนแรงจากการลุกฮือขึ้นต่อต้านประธานาธิบดีฮอสนีย์ มูบารัค เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
เหตุจลาจลได้ลุกลามจนถึงกลางคืน ทำให้กองกำลังรักษาความมั่นคงต้องส่งกำลังมากกว่า 1 พันนาย และรถหุ้มเกราะเข้าคุ้มกันอาคารสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งบริเวณริมฝั่งแม่น้ำไนล์ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาความขัดแย้ง พร้อมกับมีการประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่จลาจลจนถึง 07.00 น.
เหตุจลาจลได้ลุกลามไปยังจตุรัสทาฮีร์ ซึ่งประชาชนนับแสนคน เคยใช้เป็นศูนย์กลางในการประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีมูบารัค แต่เหตุการณ์เมื่อคืนวันอาทิตย์ ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นชาวคริสต์และมุสลิม ได้ขว้างปาก้อนหินและระเบิดเพลิงใส่กัน บางคนรื้อก้อนอิฐปูทางเดินเอามาทำเป็นอาวุธ และอีกหลายคนช่วยกันรวบรวมก้อนหินใส่กล่อง
มีบางช่วงที่รถหุ้มเกราะของทหาร ได้เร่งความเร็วเข้าใส่ฝูงชน และชนผู้ประท้วงราว 6 คน ทำให้บางคนลอยขึ้นไปในอากาศ ผู้ประท้วงได้ตอบโต้ด้วยการจุดไฟเผารถทหาร , รถประจำทางและรถยนต์ของเอกชน ส่งผลให้เกิดเปลวเพลิงพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าในเวลากลางคืน ในช่วงหลังเที่ยงคืน ฝูงชนได้กระจายกันไปตามท้องถนน โจมตีรถยนต์ที่ต้องสงสัยว่าผู้โดยสารเป็นชาวคริสต์ และปรากฎว่า ในหลายพื้นที่ไม่มีตำรวจหรือทหารออกไปขัดขวาง
ชาวคริสต์ ซึ่งมีประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรชาวอิยิปต์ 80 ล้านคน ได้ตำหนิกองทัพ ซึ่งรักษาการบริหารประเทศในปัจจุบันว่า โอนอ่อนให้กับพวกที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีชาวคริสต์มากเกินไป นับตั้งแต่ประธานาธิบดีมูบารัคถูกโค่นอำนาจ และปัจจุบัน ชาวอิยิปต์ยังคงต้องเผชิญความวุ่นวายในระหว่างการถ่ายโอนอำนาจและสุญญากาศด้านความมั่นคง ทำให้พวกชาวคริสต์ที่เป็นชนกลุ่มน้อย พากันวิตกต่ออนาคตของตัวเองท่ามกลางพวกมุสลิมสุดโต่ง


อังกฤษหวั่นนาฬิกาลยักษ์ล้ม

10 ตุลาคม 2554 เวลา 08:54 น



อังกฤษหวั่นนาฬิกา"บิ๊กเบน"ล้มหลังพบเริ่มเอียงไปมากถึง1.5 ฟุตจากตำแหน่งปกติจี้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหา

อังกฤษเริ่มวิตกกังวลมากขึ้น หลังหอนาฬิกาบิ๊กเบน สัญลักษณ์สำคัญของกรุงลอนดอนเริ่มตามรอยหอเอนเมืองปิซาในอิตาลี ที่เอียงไปมากถึง 1.5 ฟุต โดยมีแนวโน้มจะเอียงมากขึ้นทุกปี




หอนาฬิกาบิ๊กเบน
ทั้งนี้ หอนาฬิกาในเวสมินสเตอร์นี้กำลังทรุดลงไปทางชายฝั่งแม่น้ำเทมส์ทีละน้อย โดยส่วนหนึ่งของความเสียหายในครั้งนี้ เป็นผลมาจากทางใต้ดินนานนับสิบปีที่ขุดกันไว้ สำหรับสถานีรถไฟใต้ดินสายจูบิลี ที่จอดรถ และท่อน้ำทิ้ง

หนังสือพิมพ์เดลีเมล์ของอังกฤษรายงานว่า หอนาฬิกาบิ๊กเบนเอียงไปแล้วถึง 0.26 องศา และสามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป โดยไม่มีการป้องกันแก้ไข ก็อาจทำให้หอนาฬิกายักษ์ใหญ่พังถล่มลงมาในที่สุด

จอห์น เบอร์แลนด์ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ จากวิทยาลัยอิมพีเรียลในลอนดอน ระบุว่า อังกฤษจำต้องหามาตรการมาจัดการ เพราะถ้าปล่อยให้หอนาฬิกาล้ม เป้าหมายแรกสุดที่จะได้รับผลกระทบก็คืออาคารที่ทำการของรัฐสภา

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญอีกส่วนหนึ่งออกมาโต้ว่า หากคำนวนจากองศาการเอียงในแต่ละปี รัฐบาลอังกฤษยังมีเวลาเหลือเฟือที่จะหาทางแก้ไข เพราะหอบิ๊กเบนต้องใช้เวลาอย่างน้อยถึง 4,000 ปี กว่าจะเอียงได้เท่าหอเอนเมืองปิซา ในแต่ละประเทศ

แต่นักวิชาการส่วนหนึ่งก็มองว่า รัฐบาลอังกฤษควรเริ่มการศึกษาหาทางแก้ไขได้แล้ว เพราะด้านทิศเหนือของหอนาฬิกาเริ่มเอียงในอัตราที่เร็วขึ้น

 

ผอ.สำนักอุทกยัน กทม.รอด!

อยุธยาจมต่อถึงสิ้นเดือน

10 ตค. 2554 09:05 น.

นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ ผอ.สำนักอุทกวิทยาและบริหารน้ำ กรมชลประทาน ให้สัมภาษณ์ในรายการเก็บตกเนชั่น ว่า น้ำที่ถูกระบายออกมาจากเขื่อนภูมิพลก่อนนี้ผ่านมาทางทุ่ง จ.นครสวรรค์ และเป็นข่าวดีที่เขื่อนภูมิพลลดการระบายน้ำลงทุกวัน เช่นเดียวกับที่เขื่อนสิริกิตต์ เรื่องน้ำเหนือก็ไหลมาในปริมาณที่เพิ่มขึ้นแต่ว่าน้อยลงทุกวัน โดยน้ำก้อนนี้ไหลผ่านนครสวรรค์มาเรื่อยๆ บางส่วนเริ่มมาถึงเขื่อนเจ้าพระยาแล้ว แต่ปริมาณน้ำไม่เพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากแตกเข้าทุ่งไปที่ อ.บรรพตพิสัย
สำหรับสถานการณ์น้ำในจ.อยุธยา นายสุเทพ กล่าวว่า ยังมีน้ำเพิ่มขึ้นแต่เพิ่มไม่มาก เช่นที่ อ.บางบาล เพิ่มขึ้น 2 ซม.เท่านั้น ซึ่งอัตราการเพิ่มขึ้นจะเริ่มค่อยๆทรงตัว โดยน้ำจะทรงตัวอยู่ระยะหนึ่งและจะค่อยๆลดลงตอนปลายเดือน แนวโน้มฝนทางภาคเหนือก็จะไม่ค่อยมีแล้ว แต่ภาคกลางยังมีอยู่ก็ต้องติดตามอีกเป็นระยะๆ โดยจุดที่จะมีปัญหามากที่สุดคือ 1.อย่าพึ่งวางใจที่นครสวรรค์เพราะน้ำในทุ่งยังมีมาก 2.อยุธยา น้ำก็ยังมากอยู่ 3.ที่ลพบุรีน้ำก็จะยังทรงตัวอยู่นาน
"กทม.ยังไงในระดับคันกั้นน้ำ กทม.ซึ่งบวก2.5ม. น้ำก็จะไม่ล้นคันกั้นน้ำแน่นอน ส่วนเรื่องการท่วมเล็กน้อยในที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำคงท่วมแน่ แต่ในกทม.คันกั้นน้ำป้องกันอยู่แน่นอน น้ำก็ต้องอาศัยการถ่ายเทของภูมิประเทศ น้ำที่อยุธยาจะมากทม.ก็ไม่ทั้งหมด น้ำจะมาไม่ถึง 2.5 ม.ด้วยซ้ำ เพราะน้ำจะไหลออกทุ่ง และไหลออกไปทางบางไทรลงสู่เจ้าพระยา" นายสุเทพ กล่าว

 

ฝนถล่ม ถนนหลายสายในกทม.อัมพาต

10 ตค. 2554 08:00 น.

เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. เรดาร์ตรวจอากาศของกรุงเทพมหานคร พบกลุ่มฝนบริเวณเขตดอนเมือง หลักสี่ สายไหม บางเขน จตุจักร ลาดพร้าว คันนายาว บึงกุ่ม สวนหลวง มีนบุรีลาดกระบัง และริมแม่น้ำ ทำให้เช้าตรู่วันนี้ มีฝนตกในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ ทำให้เกิดน้ำท่วมขังหลายจุด และการจราจรติดขัดในถนนหลายสาย เช่น ถ.วิภาวดีรังสิต พหลโยธิน รามคำแหง ลาดพร้าว และแจ้งวัฒนะ


ฝนซ้ำ!น้ำเอ่อท่วมศูนย์พักพิงอยุธยา

10 ตค. 2554 07:21 น.

สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ล่าสุด เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมามีในตกหนักซ้ำในพื้นที่ ทำให้มีน้ำเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ศูนย์พักพิงที่ศาลากลางจังหวัดอยุธยา เข้าท่วมเต้นท์พักที่ทางการจัดไว้ให้ผู้อพยพ รวมถึงน้ำและอาหารที่จัดเป็นวัตถุดิบในการทำอาหารให้กับผู้อพยพบางส่วน ขณะที่นิคมอุตสาหกรรมบางหว้าหรือไฮเทค ได้มีการเสริมคันดินทางด้านหลังเพื่อป้องกันน้ำท่วม หรือน้ำทะลัเข้ามาเนื่องจากในขณะนี้นิคมไฮเทคเป็นเพียงนิคมอุตสาหกรรมเดียวที่ยังเหลือรดจากสถานการณฺน้ำท่วมในขณะนี้