พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nurse_2510 [​IMG]
    .......สืบเนื่องจากได้ปฏิบัติธรรมตามแนวทางหลวงพ่อจรัญมาระยะหนึ่ง ก็ได้อธิษฐานขอให้มีครูบาอาจารย์มาช่วยชี้แนะในการปฏิบัติ และได้เจอท่านในนิมิตร ท่านยิ้มให้ก็ยิ้มตอบตามมารยาทเพราะหน้าตาแปลกๆและไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่หลังจากยิ้มตอบก็มีองค์พระลอยมาซ้อนทับผู้ชายคนนั้นและบอกว่า ท่านคือหลวงปู่เทพโลกอุดร หลังจากนั้นได้ค้นหาข้อมูลจาก Internet จึงได้รู้ว่าผู้ชายที่ยิ้มให้หน้าตาเหมือนองค์พระโสณะเถระ...จึงได้สืบเสาะหาข้อมูลมาเรื่อยๆมาท่านต้องการสื่ออะไรจากนิมิตรนั้น ตอนนี้เข้าใจดีแล้วจึงขออธิษฐานจิตดังนี้...
    "ข้าพเจ้า บุคคลที่ใช้ชื่อในเว็บพลังจิตว่า...nurse_2510... ขอ ตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบาน ต่อคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะพระธรรมทูต คณะโสณะ-อุตระ) , องค์พยามัจจุราช และเทพเทวาทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน ว่าข้าพเจ้าขอรับรูปหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตระ) ไปเพื่อสักการะบูชา และจะอัญเชิญรูปหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตระ)ไว้ในที่ๆเหมาะสม หากข้าพเจ้าทำได้ตามที่ตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบาน ขอให้ข้าพเจ้าจงประสบแต่ความสุข ความเจริญ ความสำเร็จทุกๆประการ แต่หากข้าพเจ้าทำไม่ได้ตามที่ตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบาน ขอให้ข้าพเจ้าจงประสบแต่ความทุกข์ ความเสื่อม ความล้มเหลวทุกๆประการ และขอให้มีผลโดยเร็วฉับพลันและตลอดไป"
    </TD></TR></TBODY></TABLE>




    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ kantamatt [​IMG]
    ที่อยู่ของผมในขณะนี้ไปรษณีย์ยังปิดทำการอยู่ เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมขัง จึงขอให้ส่งมาที่บ้านญาติของภรรยาตามที่อยู่นี้ครับ


    แล้วเรื่องค่าจัดส่งผมต้องทำอย่างไรครับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    วันนี้ ผมฝากพนักงานส่งให้ทั้งสองท่านเรียบร้อยแล้วครับ

    ผมส่งแบบ EMS ครับ

    พระวังหน้าที่ผมส่งให้คุณ kantamatt [​IMG]
    1.พระกรุวังหน้าอยุธยา พิมพ์ซุ้มไทรย้อย
    องค์ผู้อธิษฐานจิต ได้มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมอีกมาก เดิมหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตระ) อธิษฐานจิต ผมขอสงวนสิทธิ์แจ้งองค์ผู้อธิษฐานจิตเดิม เนื่องจากจะมีผู้นำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ทางพุทธพาณิชย์ครับ

    2.พิมพ์พระปิดตาวังหน้า 2 หน้า เนื้อปูนเพชร (สีขาว)

    3.พิมพ์พระสมเด็จหลังเบี้ย


    ส่วนคุณ nurse_2510 [​IMG] ผมได้จัดส่งรูปคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะโสณะ-อุตระ) ไปให้ ซึ่งองค์หลวงปู่แต่ละองค์ท่านอธิษฐานจิตรูปของท่านเองครับ



    โมทนาสาธุครับ


    ----------------------------------

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ อนัตตัง [​IMG]
    การประสบอุทกภัยในครั้งนี้ ผมขอมอบพระวังหน้าให้ฟรี(ไม่ต้องร่วมทำบุญใดๆ)โดยมีเงื่อนไขให้กับบุคคลที่เชื่อในเรื่องของพระวังหน้า โดยผมจะเป็นผู้ที่เลือกพิมพ์ให้ท่านเอง และให้ท่านตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบาน ตามข้อความด้านล่าง เพียงท่านคัดลอกหรือพิมพ์ข้อความ แล้วโพสลงในกระทู้พระวังหน้าฯ ส่วนค่าจัดส่งไม่ต้อง ผมออกให้เองครับ

    ------------------------------------

    บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ ...........อนัตตัง........... ขอตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ ,พระมหาโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ , คณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร(คณะโสณะ-อุตระ) ,พระแม่ธรณี , พระแม่คงคา , พยามัจจุราชเจ้า , นายนิริยบาลทั้ง 8 ท่าน และเทพเทวาทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดินว่า
    <O:p</O:p
    ข้าพเจ้าตั้งจิต ตั้งสัจจะ สาบานว่าขอปฏิบัติดังนี้<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    1.ข้าพเจ้าขอดูแล , รักษา , ปกป้อง ประเทศไทยให้รอดปลอดภัยจากการประสงค์ร้ายต่างๆจากทั้งในประเทศไทยและนอกประเทศไทย.<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    2.ข้าพเจ้าขอดูแล , รักษา และปกป้อง ศาสนาพุทธ ตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    3.ข้าพเจ้าขอดูแล , รักษา และปกป้อง สถาบันพระมหากษัตริย์ของประเทศไทย.<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    4.ข้าพเจ้าขอปฏิบัติสมาธิภาวนาทุกวัน วันละไม่น้อยกว่า 5 นาที.<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    5.ข้าพเจ้าขอห้อยพระวังหน้าที่ข้าพเจ้าได้รับจากบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อ sithiphong ที่ได้มอบให้ข้าพเจ้าทุกวันตลอดชีวิต ยกเว้นในวันที่ข้าพเจ้าไม่สามารถที่จะห้อยพระวังหน้าที่ข้าพเจ้าได้รับจากบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อ Sithiphong ที่ได้มอบให้ข้าพเจ้าได้เช่น ข้าพเจ้าป่วยอยู่ในโรงพยาบาลที่หมอไม่อนุญาตให้ข้าพเจ้าห้อย หรือในเหตุอื่นๆที่มีความจำเป็น เป็นต้น.<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    6.ข้าพเจ้าขอดูแล , รักษา และปกป้อง พระพิมพ์และวัตถุมงคลที่วังหน้า สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวให้ดีที่สุดตามกำลังของข้าพเจ้า.<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ข้าพเจ้าขอรับพระวังหน้าจากบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อsithiphong จำนวน 1 องค์ โดยไม่ระบุว่าเป็นพิมพ์ไหน ให้เป็นความประสงค์ของบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อsithiphongที่จะมอบพระวังหน้าให้ข้าพเจ้า.<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เมื่อข้าพเจ้าได้รับพระวังหน้าที่ข้าพเจ้าได้รับจากบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อ sithiphong ที่ได้มอบให้ข้าพเจ้าแล้ว หากข้าพเจ้าปฏิบัติตามที่ข้าพเจ้าได้ตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบาน ขอให้ข้าพเจ้าจงประสบกับความสำเร็จในสิ่งที่ดีที่งาม ให้มีดวงตาที่เห็นธรรมโดยเร็ว ขอให้เกิดในยุคที่มีพระพุทธศาสนา ขอให้ได้พบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ฟังธรรมจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เข้าสู่พระนิพพาน จนกระทั่งข้าพเจ้าถึงซึ่งพระนิพพาน แต่หากข้าพเจ้าปฏิบัติตามที่ข้าพเจ้าได้ตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบานไม่ได้ในวันไหน นับตั้งแต่วันนั้น ขอให้ข้าพเจ้าจงประสบกับความล้มเหลว ขอให้เกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนา และ เกิดในกลียุคตลอดกาล.<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ข้าพเจ้าได้อ่านและหรือได้พิมพ์ข้อความนี้และหรือได้คัดลอกข้อความนี้ลงในกระทู้พระวังหน้าและพิมพ์ชื่อที่ใช้ในเว็บพลังจิตและหรือชื่อนามสกุลจริงของข้าพเจ้าและหรือเว็บพลังจิตในการที่ข้าพเจ้าขอรับพระวังหน้าจากบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อsithiphong ข้าพเจ้าได้เข้าใจในทุกกรณี หากแม้ว่าข้าพเจ้าไม่เข้าใจในส่วนหนึ่งส่วนใดหรือไม่เข้าใจทั้งหมด แต่หากว่าข้าพเจ้าได้พิมพ์ข้อความนี้และหรือได้คัดลอกข้อความนี้ลงในกระทู้พระวังหน้าและหรือเว็บพลังจิตในการที่ข้าพเจ้าขอรับพระวังหน้าจากบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อsithiphong ให้ถือว่าข้าพเจ้าได้เข้าใจในทุกกรณี และไม่มีการยกเลิกการตั้งจิตตั้งสัจจะและสาบานในครั้งนี้ตลอดกาล. <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ลงชื่อ ............................อนัตตัง...........................ผู้ตั้งจิตตั้งสัจจะและสาบาน.
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ***************

    อ้างอิง:

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ rung847 [​IMG]
    บุคคลใช้ชื่อในเว็บไซด์พลังจิตชื่อ ......rung847............. ขอตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ ,พระมหาโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ , คณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร(คณะโสณะ-อุตระ) ,พระแม่ธรณี , พระแม่คงคา , พยามัจจุราชเจ้า , นายนิริยบาลทั้ง 8 ท่าน และเทพเทวาทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดินว่า
    <O:p</O:p
    ข้าพเจ้าตั้งจิต ตั้งสัจจะ สาบานว่าขอปฏิบัติดังนี้<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    1.ข้าพเจ้าขอดูแล , รักษา , ปกป้อง ประเทศไทยให้รอดปลอดภัยจากการประสงค์ร้ายต่างๆจากทั้งในประเทศไทยและนอกประเทศไทย.<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    2.ข้าพเจ้าขอดูแล , รักษา และปกป้อง ศาสนาพุทธ ตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    3.ข้าพเจ้าขอดูแล , รักษา และปกป้อง สถาบันพระมหากษัตริย์ของประเทศไทย.<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    4.ข้าพเจ้าขอปฏิบัติสมาธิภาวนาทุกวัน วันละไม่น้อยกว่า 5 นาที.<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    5.ข้าพเจ้าขอห้อยพระวังหน้าที่ข้าพเจ้าได้รับจากบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อ sithiphong ที่ได้มอบให้ข้าพเจ้าทุกวันตลอดชีวิต ยกเว้นในวันที่ข้าพเจ้าไม่สามารถที่จะห้อยพระวังหน้าที่ข้าพเจ้าได้รับจากบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อ Sithiphong ที่ได้มอบให้ข้าพเจ้าได้เช่น ข้าพเจ้าป่วยอยู่ในโรงพยาบาลที่หมอไม่อนุญาตให้ข้าพเจ้าห้อย หรือในเหตุอื่นๆที่มีความจำเป็น เป็นต้น.<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    6.ข้าพเจ้าขอดูแล , รักษา และปกป้อง พระพิมพ์และวัตถุมงคลที่วังหน้า สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวให้ดีที่สุดตามกำลังของข้าพเจ้า.<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ข้าพเจ้าขอรับพระวังหน้าจากบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อsithiphong จำนวน 1 องค์ โดยไม่ระบุว่าเป็นพิมพ์ไหน ให้เป็นความประสงค์ของบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อsithiphongที่จะมอบพระวังหน้าให้ข้าพเจ้า.<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เมื่อข้าพเจ้าได้รับพระวังหน้าที่ข้าพเจ้าได้รับจากบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อ sithiphong ที่ได้มอบให้ข้าพเจ้าแล้ว หากข้าพเจ้าปฏิบัติตามที่ข้าพเจ้าได้ตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบาน ขอให้ข้าพเจ้าจงประสบกับความสำเร็จในสิ่งที่ดีที่งาม ให้มีดวงตาที่เห็นธรรมโดยเร็ว ขอให้เกิดในยุคที่มีพระพุทธศาสนา ขอให้ได้พบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ฟังธรรมจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เข้าสู่พระนิพพาน จนกระทั่งข้าพเจ้าถึงซึ่งพระนิพพาน แต่หากข้าพเจ้าปฏิบัติตามที่ข้าพเจ้าได้ตั้งจิต ตั้งสัจจะ และสาบานไม่ได้ในวันไหน นับตั้งแต่วันนั้น ขอให้ข้าพเจ้าจงประสบกับความล้มเหลว ขอให้เกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนา และ เกิดในกลียุคตลอดกาล.<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ข้าพเจ้าได้อ่านและหรือได้พิมพ์ข้อความนี้และหรือได้คัดลอกข้อความนี้ลงในกระทู้พระวังหน้าและพิมพ์ชื่อที่ใช้ในเว็บพลังจิตและหรือชื่อนามสกุลจริงของข้าพเจ้าและหรือเว็บพลังจิตในการที่ข้าพเจ้าขอรับพระวังหน้าจากบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อsithiphong ข้าพเจ้าได้เข้าใจในทุกกรณี หากแม้ว่าข้าพเจ้าไม่เข้าใจในส่วนหนึ่งส่วนใดหรือไม่เข้าใจทั้งหมด แต่หากว่าข้าพเจ้าได้พิมพ์ข้อความนี้และหรือได้คัดลอกข้อความนี้ลงในกระทู้พระวังหน้าและหรือเว็บพลังจิตในการที่ข้าพเจ้าขอรับพระวังหน้าจากบุคคลใช้ชื่อในเว็บพลังจิตชื่อsithiphong ให้ถือว่าข้าพเจ้าได้เข้าใจในทุกกรณี และไม่มีการยกเลิกการตั้งจิตตั้งสัจจะและสาบานในครั้งนี้ตลอดกาล. <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ลงชื่อ ........rung847...........................ผู้ตั้งจิตตั้งสัจจะและสาบาน.

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    -------------------------------------------------------

    ส่วนคุณ คุณ อนัตตัง [​IMG] และ คุณ rung847 [​IMG]

    รอนิดนึงครับ ผมพึ่งฝากซื้อกล่องพัศดุมาในวันนี้ครับ

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    <TABLE class=tborder id=post5391223 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 05:21 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #47823 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->nongnooo<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5391223", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Nov 2006
    ข้อความ: 3,750
    พลังการให้คะแนน: 1213 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_5391223 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->build sa too much na krub hu hu<!-- google_ad_section_end -->
    __________________

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    -----------------------------

    อุปส์ กูรูมาตอบเอง เหอๆๆๆ

    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    เตือนโลกรับมือวิกฤติอาหาร หากอากาศเลวร้ายกว่านี้



    [​IMG]


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุุกดอทคอม

    อ็อกซ์แฟมเตือนโลกเตรียมรับมือวิกฤติอาหาร ราคาอาหารพุ่ง หากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงหนักกว่าที่เป็นอยู่

    สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนว่า อ็อซ์แฟม(Oxfam) องค์กรการกุศลนานาชาติ ได้ออกแถลงการณ์เตือนว่า ราคาอาหารโลกอาจพุ่งขึ้นสูงจนน่าตกใจ หากสภาพอากาศเลวร้ายหนักกว่าที่เป็นอยู่

    โดยอ็อกซ์แฟมได้เปิดเผยว่า สภาพอากาศที่เลวร้าย เช่น ภัยแล้ง พายุ และน้ำท่วม เป็นภัยธรรมชาติที่นับวันยิ่งจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งหากยังคงเป็นเช่นนี้ก็จะส่งผลให้ราคาอาหารโลกเพิ่มสูงขึ้นได้ ทำให้ประชาชนที่มีฐานะยากจน มีรายได้น้อย เข้าสู่ภาวะยากลำบากที่สุด กลายเป็นผู้หิวโหยเนื่องจากไม่อาจสู้ราคาอาหารได้ไหว ยิ่งไปกว่านั้น สภาพอากาศที่เลวร้ายยังอาจส่งผลให้พืชผลทางการเกษตรและบ้านเรือนประชากรเสียหาย ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมประชากรกลุ่มที่มีรายได้น้อยมากขึ้นไปอีก

    ทั้งนี้ นายเคลลี่ เดนท์ ตัวแทนจากองค์กรอ็อกซ์แฟม ได้กล่าวว่า "วิกฤติอาหารจะเลวร้ายขึ้นแน่ ๆ เมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงหนัก ราคาอาหารจะพุ่งสูงขึ้นมาก ซึ่งคนที่ได้รับผลกระทบหนักก็คือคนยากจน เพราะนอกจากพวกเขาจะสู้ราคาอาหารไม่ไหวแล้ว ก็ยังต้องมาเจอกับสภาพอากาศเลวร้ายที่อาจทำลายบ้านเรือนและพืชผลทางการเกษตรของพวกเขาอีก เรียกว่าได้รับผลกระทบแบบดับเบิ้ลช็อก หรือผลกระทบซ้ำสองเลยทีเดียว"

    นอกจากนี้ อ็อกซ์แฟมยังเปิดเผยว่า จากปัญหาสภาพอากาศเลวร้ายทั่วโลกที่เกิดขึ้น ก็ทำให้ประชากรทั่วโลกหลายสิบล้านคนมีฐานะยากจนยิ่งกว่าเดิมตลอด 18 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่เมื่อปี 2553 ที่เกิดปรากฎการณ์คลื่นร้อนจัดโจมตีรัสเซียและยูเครน ก็ส่งผลให้ราคาข้าวสาลีพุ่งสูงมากถึง 60-80% เป็นเวลาถึง 3 เดือน และสูงขึ้นอีกเป็น 85% ในเดือนเมษายนปี 2554 ส่วนในเดือนกรกฎาคม ปี 2554 ราคาข้าวโพดก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยประเทศโซมาเลีย ราคาข้าวโพดเพิ่มสูงขึ้นไปถึง 393% ขณะที่ในเอธิโอเปียและเคนยา ราคาข้าวโพดเพิ่มสูงขึ้นไปมากถึง 191% และ 161% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับราคาเฉลี่ยเมื่อ 5 ปีก่อน ปรากฏการณ์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นผลพวงจากสภาพอากาศเลวร้ายที่โจมตีทวีปแอฟริกาได้อย่างชัดเจน



    [​IMG]



    ส่วนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากพายุฝนและพายุไต้ฝุ่นได้เข้าโจมตีในหลายพื้นที่ในปีนี้ ก็ทำให้ราคาข้าวในไทยและเวียดนามแพงขึ้น โดยในเดือนกันยายนและตุลาคมที่ผ่านมา ราคาข้าวปรับตัวเพิ่มขึ้นไป 25-30% เมื่อเทียบกับปีก่อน



    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก กรุงเทพธุรกิจ
    [​IMG]


    -http://hilight.kapook.com/view/65154-

    .
     
  5. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    ปวดบิดใต้ชายโครงขวา'นิ่วในถุงน้ำดี'

    วันจันทร์ ที่ 28 พฤศจิกายน 2554 เวลา 0:00 น
    <SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​


    <TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    อาการปวดท้อง มีหลายลักษณะและเกิดขึ้นในบริเวณที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับอวัยวะต้นตอของโรค กรณีของ 'นิ่วในถุงน้ำดี' ก็มีอาการเฉพาะตัวที่ผู้อ่านควรรู้ให้เท่าทัน

    ถุงน้ำดี เป็นอวัยวะที่อยู่ใต้ตับทางด้านขวา หรือบริเวณใต้ชายโครงขวา หน้าที่คือเก็บน้ำดีที่ผลิตมาจากตับ และบีบตัวขับน้ำดีลงไปในลำไส้เพื่อย่อยอาหารประเภทไขมัน

    เมื่อมีนิ่วเกิดขึ้นในถุงน้ำดีจะทำให้ถุงน้ำดีทำงานไม่ปกติไปโดยปริยาย ซึ่งมีสาเหตุมาจากการหลั่งคอเลสเตอรอลออกมาในน้ำดีมากเกินปกติ และเยื่อบุผิวภายในถุงน้ำดีมีความผิดปกติจากการติดเชื้อเรื้อรังแบบไม่รู้ตัวและไม่มีอาการผิดปกติมาก่อน ส่งผลให้สัดส่วนของสารต่างๆ ในน้ำดี ที่ประกอบด้วย น้ำ,คอเลสเตอรอล,ไขมัน และเกลือน้ำดี เสียสมดุล จนเกิดการตกผลึกคอเลสเตอรอลหรือเกลือ และมีหินปูนมาจับตัวร่วมด้วย กลายเป็นก้อนนิ่วในถุงน้ำดี บ้างครั้งเป็นก้อนเดี่ยว หรือเป็นก้อนเล็กๆ หลายก้อน

    สำหรับอาการสำคัญของนิ่วในถุงน้ำดี คือ อาการปวดบิดลึกๆ ในตำแหน่งใต้ชายโครงขวาและร้าวลามไปยังหลังกับลิ้นปี่ โดยอาการปวดมักเกิดขึ้นหลังผู้ป่วยเพิ่งรับประทานอาหารมื้อใหญ่และมีอาหารที่ค่อนข้างมันมาก อีกทั้งส่วนใหญ่มักปวดในเวลากลางคืน จะปวดอยู่นาน 15 นาที ถึง 3 ชั่วโมง เกิดเพราะการอุดตันของนิ่วบริเวณปากถุงน้ำดีจนอักเสบ จากนั้นอาการปวดจะเปลี่ยนเป็นอาการคงที่ หายใจลำบาก เนื่องจากเจ็บบริเวณถุงน้ำดี นอกจากนี้ยังอาจพบอาการท้องอืด ไข้ฉับพลัน ตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะเป็นสีส้มร่วมด้วย

    อย่างไรก็ตาม แพทย์มักแนะนำว่า หากอาการปวดท้อง ไม่ว่าจะมีลักษณะแบบใดก็ตาม เกิดขึ้นนานกว่า 1 ชั่วโมงไม่หาย ทั้งๆ ที่ตัวผู้ป่วยอาจกินยาเพื่อบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นไปแล้ว ควรเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่ชัดเจน ส่วนผู้ที่มีอาการเข้าข่ายนิ่วในถุงน้ำดี การตรวจที่แน่ชัดคือการตรวจอัลตราซาวนด์

    การรักษา มีทั้งการกินยาสลายนิ่ว ซึ่งต้องกินติดต่อกันเป็นเวลานาน ใช้ได้กับนิ่วบางชนิดเท่านั้น หากหยุดยาก็มีโอกาสเกิดนิ่วขึ้นอีก นอกจากนี้ยังมีการผ่าตัด 2 ชนิด คือ ผ่าตัดเปิดหน้าท้อง จัดเป็นวิธีผ่าตัดรักษาแบบดั้งเดิม มักใช้กับผู้ป่วยที่ถุงน้ำดีอักเสบมากหรือแตกทะลุในช่องท้อง อีกวิธีเป็นการผ่าตัดที่นิยมในปัจจุบัน เรียกว่า การผ่าตัดด้วยการส่องกล้อง เจาะรูเล็กๆ ที่หน้าท้อง 4 จุด เพื่อใส่กล้องและเครื่องมือผ่านรูที่เจาะไว้ เหมาะกับผู้ป่วยที่ไม่มีอาการถุงน้ำดีอักเสบฉับพลัน

    หนทางหลีกไกลจากนิ่วในถุงน้ำดี คือ รักษาระดับคอเลสเทอรอลในเลือดให้เป็นปกติ และควบคุมอาหารการกิน ไม่กินของมันๆ หรือของทอดมากเกินไป ขณะที่การกินอาหารจำพวกแป้งที่ไม่ขัดสี, ผักและผลไม้สด, ข้าวโอ๊ต และถั่ว สามารถช่วยป้องกันการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีได้.

    ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    <table class="mainmap" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="100%"><tbody><tr><td width="62%">คู่มือการทำความสะอาดบ้านหลังน้ำลด

    </td> <td width="32%"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" width="33%">
    </td> <td align="center" width="33%">
    </td> <td align="center" width="33%">
    </td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> </tbody></table>

    [​IMG]



    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช),

    ถึงตอนนี้ เชื่อว่าระดับน้ำในหลายพื้นที่คงเริ่มลดกันไปบ้างแล้ว หลายครอบครัวก็เริ่มทยอยกลับเข้าบ้านกันอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อทุกคนกลับเข้าบ้าน อาจจะต้องผงะกับสิ่งที่เห็น... เพราะบ้านบ้านหลังเดิมอาจจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป!!!

    เพราะไม่เพียงแต่น้องน้ำจะเคลื่อนย้ายทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านไปคนละทิศคนละ ทางแล้ว แต่ยังฝากขยะและคราบสกปรกทิ้งไว้ตามพื้น กำแพง รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลายที่อยู่ในบ้าน ซึ่งเป็นบ่อเกิดของเชื้อโรคอีกด้วย

    ดังนั้น ภารกิจการทำความสะอาดบ้านครั้งนี้ ดูท่าจะเป็นงานที่หนักเอาการน่าดู แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว ... แต่เพื่อน ๆ ไม่ต้องกังวลไป เพราะในวันนี้ เรามีวิธีในการทำความสะอาดบ้านอย่างครบครันทุกซอกทุกมุมมาฝากกันค่ะ

    [​IMG] เตรียมพร้อมก่อนเข้าบ้าน

    - เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม อาทิ แว่นตาช่าง, หน้ากากกรองฝุ่น, ผ้าปิดปากปิดจมูก, ถุงมือยาง, รองเท้าบูท, ไฟฉาย และหมวกนิรภัย

    - จากนั้นแต่งกายให้พร้อมก่อนเข้าไปในตัวบ้าน สิ่งสำคัญคือห้ามประมาทและอย่าเข้าไปคนเดียว ต้องมีคนไปเป็นเพื่อน และต้องมีคนรออยู่ด้านนอก เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินที่ไม่คาดคิดขึ้น



    [​IMG]



    [​IMG] ขั้นตอนก่อนเข้าไปยังตัวบ้านให้ปฏิบัติ ดังนี้

    1.ก่อนเข้าไปในตัวอาคารบ้านเรือน ให้เดินดูบริเวณรอบ ๆ บ้านก่อน โดยสำรวจพิจารณาดูโครงสร้างที่อาจจะเสียหายเป็นอันตรายก่อนตัดสินใจที่จะ เข้าไป

    2.ระวังเรื่องสัตว์มีพิษต่าง ๆ ที่อาจหนีน้ำเข้าไปอาศัยอยู่ในตัวบ้าน

    3.สังเกตดูรอยร้าว หรือการบิดตัวของโครงสร้างก่อนตัดสินใจเข้าไป

    4.ตรวจดูที่จัดเก็บถังแก๊ส มองหาสิ่งผิดปกติที่อาจจะมีการรั่วซึม

    5.ตรวจสอบการจ่ายไฟให้แน่ใจว่า ไฟฟ้ายังไม่ได้จ่ายกระแสเข้าไปในบ้าน โดยการดูที่คัตเอาท์ว่ายังมีการสับสวิตช์ลงอยู่หรือไม่

    6.เปิดประตูให้เกิดการถ่ายเทอากาศ อย่าเหยียบเข้าบ้านทันที ให้สังเกตพื้นบ้าน ลองค่อย ๆ ใช้เท้าทิ้งน้ำหนักเพื่อทดสอบก่อน

    7.สังเกตดูเพดานว่ามีการอมน้ำ แอ่นท้องช้าง หรือมีคราบน้ำอยู่หรือไม่ เพราะเพดานอาจพังทลายลงมาได้เมื่อมีการเคลื่อนไหวให้ระมัดระวัง

    [​IMG] ตรวจเช็คเชื้อโรค-ระบบไฟฟ้า

    1.การป้องกันตนเอง เช่น การใส่ถุงมือยาง และรองเท้าบูท ที่จะช่วยป้องกันการติดเชื้อโรคเชื้อรา, ป้องกันการสัมผัสสารเคมี รวมถึงป้องกันไฟดูด รวมทั้งคาดผ้าปิดจมูกและปากที่ช่วยป้องกันการหายใจเอาสปอร์ของเชื้อราและไอ ระเหยของสารเคมีเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ

    2.ในระหว่างการทำ ความสะอาดควรเปิดประตูหน้าต่างให้อากาศระบายได้มากที่สุด โดยอาจเปิดพัดลมเพดานช่วยระบายอากาศ

    3.ห้ามเปิดเครื่องปรับอากาศ เพราะเชื้อโรคต่าง ๆ จะถูกดูดเข้าไปอยู่ในระบบปรับอากาศ และจะกลายเป็นที่เพาะพันธุ์เชื้อราต่อไป ถือเป็นภัยเงียบที่เรามองไม่เห็น

    4.จากนั้นก็มาเริ่มที่ระบบไฟฟ้าของทั้งบ้าน ซึ่งจะต้องถูกปิดทันทีที่น้ำท่วมบ้าน ดังนั้น ระบบไฟฟ้าจึงเป็นสิ่งแรก ๆ ที่จะต้องจัดการทันทีที่น้ำลด โดยให้ช่างไฟฟ้ามืออาชีพมาตรวจสอบและซ่อมแซมให้หมดก่อนจึงจะสามารถกลับไปใช้ ไฟฟ้าได้

    5.บางครั้งจำเป็นอย่างมากที่จะต้องเดินสายไฟใหม่ทั้งหมด และสายไฟจะต้องแห้งสนิท รวมทั้งสวิตช์ไฟ, เต้าเสียบปลั๊กไฟต่าง ๆ ที่จมอยู่ใต้น้ำอาจจะมีโคลนตมและตะกอนที่มากับน้ำเข้าไปอยู่ จึงต้องมีการตรวจเช็กระบบอย่างละเอียด

    6.ระบบเครื่องปรับอากาศ หลังน้ำลดต้องเรียกช่างแอร์มืออาชีพมาตรวจเช็คระบบเครื่องปรับอากาศภายใน บ้านทั้งหมด พร้อมทั้งทำความสะอาดท่อต่าง ๆ, แผ่นกรองอากาศ เปลี่ยนฉนวนกันความร้อนที่จมน้ำ ฯลฯ เมื่อช่างแก้ไขให้เสร็จเรียบร้อยแล้วให้ซีลปิดไว้ก่อนจึงจะเริ่มการทำความ สะอาดบ้าน

    7.อย่าลืมว่าก่อนจะเปิดเครื่องปรับอากาศต้องทำความสะอาดบ้านจนเสร็จเรียบร้อยพร้อมกลับเข้าไปอยู่แล้วเท่านั้น

    [​IMG] จัดพื้นที่เก็บขยะ

    1.แน่นอนว่าจะมีขยะทั้งของบ้านเราเองและบ้านคนอื่น เลือกที่พักขยะหรือที่แขวนถุงขยะ เพราะสิ่งที่ลำบากที่สุดหลังน้ำลดก็คือปริมาณขยะมากกว่าคนจะมาเก็บขยะ ดังนั้นจึงต้องใช้เวลา

    2.เรียงลำดับ แยกประเภทขยะ เพราะกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ทิ้งขยะที่จะเน่าได้ก่อน เช่น เศษอาหาร ส่วนขยะบางประเภทเก็บไว้ในบริเวณบ้านก่อนได้แล้วค่อยทยอยทิ้งทีหลัง เช่น โฟม พลาสติก เฟอร์นิเจอร์ที่พังเสียหาย ส่วนขยะอันตราย จำพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า หลอดไฟ (ที่ยังไม่แตก) ควรคัดแยกไว้ต่างหาก แล้วหาวิธีจัดการอย่างเหมาะสมเป็นลำดับถัดไป

    [​IMG] วิธีเลาะซิลิโคน ที่เราอัดรูระหว่างประตู ตอนน้ำท่วม มีดังนี้...

    1. ใช้มีดปลายแหลมกรีดตามรอยซิลิโคนที่ยิง

    2. เมื่อเอากำแพงออกจะมีรอยเลอะและคราบของซิลิโคนติดอยู่

    3. ใช้มีดปลายแหลมลอกซิลิโคนออก (ถ้าไม่มีเครื่องมือข้างต้น อาจจะใช้คัตเตอร์ หรือมีดแทนได้)

    4. ใช้มีดปลายแหลมขูดเศษของซิลิโคนออกอีกรอบ

    5. ทำความสะอาดลอกซิลิโคนออกจากกำแพงกั้นน้ำสังกะสีหรือแผ่นโพลีคาร์บอเนตด้วยความปราณีตเผื่อได้ไว้ใช้งานต่อ

    6. เก็บกวาดอีกครั้งก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย



    [​IMG]


    [​IMG] การทำความสะอาด

    1. พื้น


    ด้านนอกอาคาร ทำ ความสะอาดโดยการฉีดน้ำล้าง การขัด และใช้น้ำยาทำความสะอาดต่างๆ สามารถ ล้างแบบเปียกได้แล้วทิ้งให้แห้ง สามารถใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรครวมด้วยเพื่อความสะอาด

    ด้านในอาคาร เช็ด ทำความสะอาด หากคราบฝังแน่น ขัดด้วยแปรงหรือแผ่นขัด และใช้น้ำยาทำความสะอาดต่าง ๆ สามารถใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรครวมด้วยเพื่อความสะอาดเพื่อทำความสะอาด

    *หมายเหตุ หากพื้นที่กว้างสามารถใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง หรือเครื่องขัดพื้น ช่วยทำความสะอาดจะลดเวลาทำงานได้มาก

    - พื้นไม้ สะสมความชื้นสูง ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดและน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทำความสะอาด ล้าง หรือเช็ดถู

    - พื้นพรม หากสะสมความชื้นสูง แนะนำให้เปลี่ยนใหม่จะดีกว่า เพื่อความสุขภาพของผู้อยู่อาศัย หากไม่ชื้นมากให้ใช้เครื่องซักพรมทำความสะอาด หรือซักล้างด้วยแปรงขัดล้างทำความสะอาด แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดน้ำเพื่อดูดน้ำกลับ ระวังพรมบางประเภทไม่ทนต่อน้ำ กาวหรือขนพรมอาจหลุดได้

    2. กำแพง

    ด้านนอกอาคาร ทำ ความสะอาดโดยการฉีดน้ำล้าง การขัด และใช้น้ำยาทำความสะอาดต่างๆ สามารถ ล้างแบบเปียกได้แล้วทิ้งให้แห้ง สามารถใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรครวมด้วยเพื่อความสะอาด

    ด้านในอาคาร เช็ด ทำความสะอาด หากคราบฝังแน่น ขัดด้วยแปรงหรือแผ่นขัด และใช้น้ำยาทำความสะอาดต่าง ๆ สามารถใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรครวมด้วยเพื่อความสะอาดเพื่อทำความสะอาด แต่สีผนังอาจหลุด จะต้องแต่งใหม่

    วอลเปเปอร์ เช็ดทำความสะอาด และฆ่าเชื้อโรค

    3. เฟอร์นิเจอร์

    ตู้บิลอิน เช็ดถูทำความสะอาด และฆ่าเชื้อโรค เปิดหน้าบานระบายความชื้น

    เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ฉีด ล้างทำความสะอาด นำตากแดด หากเป็น เฟอร์นิเจอร์ผ้าจะเปียกและสะสมความชื้นสูง แนะนำให้เปลี่ยนใหม่จะดีกว่า เพื่อความสุขภาพของผู้อยู่อาศัย หากไม่ชื้นมากให้ซักล้างด้วยแปรงขัดล้างทำความสะอาด แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดน้ำเพื่อดูดน้ำกลับ

    4. เครื่องใช้ต่าง ๆ

    เครื่องครัว แช่ทำความสะอาดในน้ำคลอรีนผสม หรือ แอลกอฮอล์ เพื่อฆ่าเชื้อโรค แล้วนำไปแช่ในน้ำเดือดต้มทำความสะอาดอีกครั้ง

    เครื่องเงินและโลหะ แช่ในน้ำเดือด เพื่อเป็นการต้มทำความสะอาด



    [​IMG]



    [​IMG] ถึงเวลาลงมือทำ

    หลังจากตรวจเช็กทุกอย่างจนแน่ใจแล้ว ก็มาถึงวิธีการทำความสะอาดขนานใหญ่ โดยเริ่มตามโปรแกรมดังนี้

    1. เริ่มด้วยการขนย้ายสิ่งของต่าง ๆ ภายในบ้านออกมาให้ได้มากที่สุด เพื่อสะดวกในการจัดการกับโคลนตมที่มากับน้ำ ให้ใช้พลั่วตักดินโคลนออกจากพื้นบ้านให้ได้มากที่สุด

    2. ใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง (ถ้ามี) หรือสายยางฉีดน้ำเพื่อชะล้างโคลนออกจากพื้นผิว อุปกรณ์อย่างหนึ่งที่จะช่วยผ่อนแรงได้มากคือ ไม้ปาดน้ำ หากไม่มีและพื้นที่ไม่ใหญ่มากนัก สามารถใช้ผ้าขนหนูทำเป็นผ้าลากน้ำได้ โดยเน้นการกำจัดดินโคลนออกไปให้หมด

    3. เรื่องของพื้น หากพื้นบ้านของท่านมีการใช้วัสดุต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ไวนิล, เสื่อน้ำมัน, พรม, ปาร์เกต์ ฯลฯ มีความจำเป็นที่จะต้องรื้อวัสดุปูพื้นเหล่านั้นออกเพื่อให้พื้นด้านล่างแห้ง ซึ่งกว่าจะแห้งสนิทอาจใช้ระยะเวลานานพอสมควร

    4. การทำความสะอาดพื้นทุกชนิด ต้องพิจารณาดูตามความเหมาะสมของพื้น โดยทั่วไป ๆ สามารถใช้น้ำผสมคลอรีนในอัตราส่วน 0.1% (1 CC ต่อน้ำ 1,000 CC) ฉีดพ่นให้ทั่วบริเวณก่อนแล้วจึงขัดถูพื้นด้วยน้ำยาล้างจานหรือผงซักฟอก ขัดถูให้ทั่วบริเวณแล้วจึงราดด้วยน้ำร้อนเดือด ๆ หรือใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาเคมีทำความสะอาดที่สามารถฆ่าเชื้อต่าง ๆ ได้ ซึ่งต้องอ่านฉลากวิธีใช้ให้ละเอียดและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

    5. หากเป็นไปได้ควรใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อกำจัดกลิ่นที่เป็นสารชีวภาพเอนไซม์ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อ กำจัดกลิ่น กำจัดคราบไขมันได้

    - ข้อดี คือ สารชีวภาพเอนไซม์นั้นจะยังคงมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อที่จะเกิดขึ้นใหม่ จากความชื้นต่อไปได้อีกนานประมาณ 3-6 เดือน ตราบที่พื้นยังมีความชื้นอยู่ และที่สำคัญสารชีวภาพเอนไซม์นั้นไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม

    6. สำหรับพื้นบ้านที่ปูพรม ถ้าพื้นบ้านที่ปูพรมจมอยู่ใต้น้ำท่วมหรือน้ำเสีย ควรจะตัดใจกำจัดทิ้งไปเพื่อความปลอดภัยของสุขภาพ เพราะพรมเป็นแหล่งเพาะเชื้อราอย่างดี

    - การทำความสะอาดพรมด้วยตัวเองเป็นเรื่องยาก ต้องใช้มืออาชีพที่เชื่อถือได้ว่าจะใช้น้ำยาซักพรมที่ฆ่าเชื้อกำจัดกลิ่น และใช้เครื่องมือซักพรมชนิดพิเศษที่สามารถทำความสะอาดได้ล้ำลึก แต่ค่าใช้จ่ายในการทำความสะอาดค่อนข้างสูง ควรพิจารณาให้ดี



    [​IMG] วิธีกำจัดเชื้อราในบ้าน



    [​IMG]



    [​IMG] ข้อแนะนำ 1. การป้องกันร่างกายให้ถูกต้อง เช่น สวมถุงมือยาง (เช่น ถุงมือล้างจานที่แม่บ้านใช้) สวมรองเท้าบูทยาง สวมหน้ากาก (mask) สวมเสื้อผ้ามิดชิด เพื่อป้องกันไม่ให้ความสกปรกมาถูกตัว ถูกผิวหนัง/แผล หรือน้ำกระเด็นเข้าปาก/น้ำเข้าตา ต้องล้างมือล้างเท้าด้วยน้ำสะอาดและสบู่บ่อย ๆ ต้องคำนึงว่ากำลังทำงานอยู่กับของสกปรก

    2. ใช้น้ำยาที่ใช้อยู่ตามปกติ ทำความสะอาดคราบต่าง ๆ (คราบดิน/โคลน คราบน้ำ) ก่อนในขั้นแรก เพื่อเอาความสกปรกออกให้ได้มากที่สุด เช่น น้ำยาล้างบ้าน ล้างพื้นห้องน้ำ ผงซักฟอก เป็นต้น แต่ต้องปฏิบัติตามฉลากของนำยาเหล่านั้นให้ถูกต้อง เช่น อะไรใช้กับไม้ กับกระเบื้อง กับ โลหะ (= ต้องอ่านฉลาก)

    3. ควรทำในที่ที่อากาศถ่ายเทดี (ห้ามเปิดพัดลม หรือเครื่องปรับอากาศ เพราะจะทำให้เชื้อราฟุ้งกระจายในอากาศ)

    [​IMG] ขั้นตอนการทำความสะอาดเชื้อราในแต่ละส่วน

    1. เมื่อเกิดเชื้อราขึ้นกับวัสดุที่เป็นพื้นแข็ง ให้ ใช้น้ำสบู่ แอลกอฮอล์ หรือน้ำยาขัดห้องน้ำล้าง และขัดให้ด้วยแปรงชนิดแข็งจนเชื้อราออกจนหมดจด จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหลาย ๆ รอบจนกว่าจะแน่ใจว่าสะอาด

    2. วัสดุที่เป็นเนื้ออ่อน เช่น หนังสือ กระดาษมัน พลาสติก กล่อง ให้ใช้สำลีชุบฟอร์มาลีนเช็ด แล้วตามด้วยผ้าชุบน้ำสะอาด จากนั้นนำไปวางไว้ในที่ที่อากาศถ่ายเท และมีแสงแดดส่องถึงเล็กน้อย แล้วปล่อยให้แห้ง


    [​IMG]


    3. พรม ฝ้า หรือที่นอน หากมีเชื้อราขึ้น ให้โยนทิ้งจะปลอดภัยที่สุด เพราะวัสดุที่มีรูอย่างพรม ฝ้า และที่นอนนี้ เป็นวัสดุที่ล้างเชื้อราออกได้ยากมาก และแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถล้างออกได้หมดจด 100% ซึ่งถ้าหากยังดันทุรังใช้ต่อไป ความชื้นในห้องก็อาจจะทำให้เชื้อราลุกลาม ฟักตัวได้กว้างขึ้น ทำให้เกิดโรคและเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจของผู้อยู่อาศัยไม่รู้ตัว ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่คุ้มกันเลยล่ะ


    [​IMG]


    4. อย่าทาสีหรือแลคเกอร์ทับในบริเวณที่เกิดเชื้อรา ให้ล้างออกให้สะอาดหมดจดก่อน จากนั้นค่อยเริ่มทาสีหรือแลคเกอร์

    5. กรณีที่เชื้อราผุดให้เห็นในข้าวของเครื่องใช้ประเภทเครื่องหนัง ให้ใช้น้ำส้มสายชูเช็ดหลาย ๆ ครั้ง จนแน่ใจว่าสะอาด จากนั้นเช็ดครั้งสุดท้ายด้วยน้ำสะอาด น้ำส้มสายชูจะช่วยกำจัดเชื้อราได้เป็นอย่างดี

    6. เฟอร์นิเจอร์ หรือของใช้ที่เป็นไม้เนื้ออ่อน โดย ปกติวัสดุเหล่านี้จะเสี่ยงต่อการขึ้นราเมื่อมีความชื้นอยู่แล้ว ซึ่งมันจะไม่เป็นอะไรมากนักหากนำมาล้างทำความสะอาดภายใน 24-48 ชั่วโมงที่พบเชื้อ หรือเริ่มสังเกตเป็นดอกเป็นดวงขึ้น แต่ในกรณีที่น้ำท่วมแล้วปล่อยบ้านไว้นานเป็นเดือน ๆ ขอแนะนำให้ทิ้งข้าวของเครื่องใช้ที่ทำด้วยไม้เนื้ออ่อนเหล่านั้นไปอย่างไม่ ต้องเสียดาย เพราะอาจจะฟักตัวเป็นเชื้อราที่อันตรายมากขึ้นได้

    7. ย้ายเฟอร์นิเจอร์ หรือเครื่องใช้ที่มีราขึ้น (และตอนนี้ได้ทำความสะอาดแล้ว) ไป อยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก หรือที่แสงแดดส่องถึงสักระยะหนึ่ง คือประมาณ 1-2 สัปดาห์ แล้วหมั่นคอยตรวจสอบว่า หลังจากทำความสะอาดแล้วยังมีเชื้อราขึ้นอยู่อีกหรือไม่ หากไม่มีก็แสดงว่าสามารถแน่ใจแล้วว่าเราได้ทำความสะอาดเชื้อราออกไปได้อย่าง หมดจดแล้วจริง ๆ แต่หากยังพบร่องรอยของเชื้อรา ขอให้นำมาทำความสะอาดใหม่ เพราะมันจะลามได้ง่ายมากถ้าหากวันหนึ่งอากาศชื้นอีกครั้ง

    8. วอลเปเปอร์ ใช้ กรดซาลิไซลิด ผสมกับแอลกอฮอล์ในอัตราส่วน 1:5 จากนั้นนำผ้ามาชุบไปเช็ดวอลเปเปอร์ซ้ำ ๆ ประมาณ 2 รอบ แต่ถ้าหากว่ามีเชื้อราอยู่มาก แนะนำให้รื้อทิ้งแล้วเปลี่ยนวอลเปเปอร์ใหม่จะดีกว่า

    9. เสื้อผ้า ผ้าม่าน และผ้าห่ม หากพบเชื้อรา สามารถฆ่าเชื้อเบื้องต้นได้โดยใช้น้ำร้อน จากนั้นขยี้แล้วซักให้สะอาดหลาย ๆ ครั้ง และตากในที่ที่มีแสงแดดเท่านั้น เพื่อเป็นการฆ่าเชื้ออีกที

    10. งดกิจกรรมที่จะก่อให้เกิดความชื้นภายในบ้าน หาก ตัวบ้านเพิ่งมีราขึ้นและได้รับการทำความสะอาดไปใหม่ ๆ ไม่ควรต้มน้ำ ซักผ้า ตากผ้า เปิดเครื่องปรับอากาศเย็นจัด แต่ควรเปิดให้อากาศภายนอกได้ระบายเข้ามาบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันแดดจัด แม้ว่าจะทำให้คุณร้อนอบอ้าวไปบ้าง แต่แสงแดดจะช่วยฆ่าเชื้อราได้ดีเลยทีเดียว


    [​IMG] เตรียมพร้อมรับมืออยู่กับน้ำ (ในคราวหน้า)

    1. หากเลือกได้ ปูพื้นบ้านด้วยกระเบื้องดูจะเป็นทางเลือกที่ง่ายต่อการทำความสะอาดที่สุด

    2. ถังส้วม อย่าฝังไว้ในดิน ลองประยุกต์พื้นที่จัดวาง เช่น ใต้บันได

    3. กล่องไฟแยกระบบชั้นบน-ชั้นล่างชัดเจน ถึงเวลาน้ำมาตัดไฟชั้นล่าง ใช้ชีวิตชั้นบนได้ตามปกติ

    4. ทุกชุมชนควรกำหนดพื้นที่พักขยะหรือซากปรักหักพังเมื่อเกิดเหตุภัยพิบัติไว้ อย่างชัดเจน ขยะจะได้ไม่ล้นทะลัก และช่วยให้ง่ายต่อการจัดการในภายหลัง



    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก ประชาชาติธุรกิจ
    [​IMG] , สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช), 108clean.com, มูลนิธิโลกสีเขียว



    -http://thaiflood.kapook.com/view34082.html-

    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    สื่อนอกเผย “ยุงร้าย” เป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ในวิกฤตอุทกภัยไทย <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">28 พฤศจิกายน 2554 21:09 น.</td></tr></tbody></table>


    วอลล์สตรีทเจอร์นัล/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ขณะระดับน้ำกำลังจะลดลงในหลายพื้นที่ ปัญหาใหม่ที่มาไล่ๆ กับวิกฤตอุทกภัยไทยในเวลานี้ คือ ฝูงยุงจำนวนมหาศาลที่เกิดในช่วงน้ำท่วม และกำลังเป็นภัยคุกคามสุขภาพของผู้ประสบภัย เว็บไซต์หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานสถานการณ์ภัยร้ายจากยุงหลัง น้ำท่วมในบทความเรื่อง “New Scourge for Flooded Thailand: Mosquitoes” วันนี้ (28)

    “ยุงบินว่อนเต็มบ้านไปหมด ทั้งบนเพดานและตามผนังห้อง” น.ส.ธัญญาทิพย์ เนติชัยเศรษฐ์ คุณแม่ลูกสองวัย 48 ปี บรรยายความทุกข์ร้อน บ้านของครอบครัวนี้เป็นทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น ซึ่งถูกน้ำท่วมขังในบางส่วนมานานกว่า 2 สัปดาห์

    ระดับน้ำค่อยๆ ลดลง หลังจากอุทกภัยครั้งเลวร้ายพรากชีวิตผู้คนไปแล้วเกินกว่า 600 ราย แต่พื้นที่อีกหลายส่วนรอบกรุงเทพฯ ยังจมอยู่ใต้บาดาล และอาจต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์ก่อนบ้านเรือนและร้านรวงต่างๆ จะกลับมาแห้งสนิททุกหลัง

    อย่างไรก็ตาม แม้ระดับน้ำกำลังจะแห้งหาย แต่ปัญหาก็ไม่หมดไป เนื่องจากฝูงแมลงต่างๆ ที่มาพร้อมน้ำท่วม ขณะเดียวกัน แอ่งน้ำขังอุณหภูมิอุ่นที่หลงเหลือหลังน้ำลดก็เป็นแหล่งเพาะพันธุ์แมลงชั้น ดี

    การรุกรานจากแมลงกำลังเป็นปัญหาที่อาจลุกลามเป็นการระบาดของความเจ็บ ไข้ได้ป่วย โดยเฉพาะโรคไข้เลือดออก ทั้งนี้ ไทยเป็นหนึ่งในชาติที่มีการพัฒนามากที่สุดในภูมิภาค แต่กลับปรากฏรายงานการเจ็บป่วยด้วยไข้เลือดออกมากที่สุดในเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยมีการระบาดครั้งสำคัญในปี 1987, 1998 และ 2001 การระบาดใหญ่แต่ละครั้งมีผู้ป่วยมากกว่า 125,000 ราย แม้จะสามารถรักษาได้ แต่โรคไข้เลือดออกก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่เป็นเด็ก

    องค์การบรรเทาทุกข์ต่างๆ เช่น ยูนิเซฟ พยายามแจกจ่ายมุ้งหลายหมื่นหลังช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในบางกรณีหน่วยงานของไทยก็เสนอให้ใช้ยาฆ่าแมลง ส่วนผู้เชี่ยวชาญต่างก็แนะนำให้ผู้ประสบภัยกางมุ้งนอน และใช้ผลิตภัณฑ์กันยุงในช่วงกลางวัน เนื่องจากยุงลาย พาหะนำโรคไข้เลือดออก มักออกหากินตอนกลางวัน

    แต่เมื่อทุกๆ พื้นที่ยังมีแอ่งน้ำท่วมขังหลงเหลืออยู่จำนวนมาก จึงไม่น่าแปลกใจที่การรับมือกับยุงและแมลงต่างๆ จะกลายเป็นปัญหาใหญ่

    อีกมุมหนึ่ง นางวรรณากร ขาวฉัตรชัย แม่ค้าดอกไม้และพวงมาลัยวัย 43 ปี กล่าวว่า เธอดีใจที่กลับมาขายของได้อีกครั้ง หลังตลาดถูกน้ำท่วมมานาน 2 สัปดาห์ แต่เมื่อน้ำลด วรรณากรกำลังประสบกับปัญหาใหม่จากฝูงยุงจำนวนในมากตลาด

    “ฉันไม่เคยเห็นยุงมากขนาดนี้มาก่อนเลย” นางวรรณากรเล่าว่า ต้องเริ่มตั้งแผงตั้งแต่ 4.00 น. โดยอาศัยยาจุดกันยุงที่จุดทิ้งไว้ทั้งคืน ส่วนตอนกลางวันก็จุดตลอดเวลา แต่ดูเหมือนจะไร้ผล วรรณากรจึงหันมาใช้ยาฉีดกันยุงและพัดลมช่วย ซึ่งก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น

    “ยุงเยอะมากกว่าปกติ พวกมันไม่กลัวคนเลย มันกัดเราทั้งตัว ... บางทีมันถึงกับบินเข้าปาก ฉันทำได้แค่หาทางกำจัดมัน จะได้ไม่เป็นไข้เลือดออก แต่ยุงก็ไม่เคยลดลงเลย”

    ส่วนบ้านทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น ของคุณแม่ลูกสองอย่างธัญญาทิพย์ก็ถูกยุงโจมตีหนักเช่นกัน เธอเล่าว่าฉีดยากันยุงไปแล้ว 4 กระป๋อง แต่มันก็ยังกลับมาอีก และดูเหมือนจะรุนแรงกว่าเดิม

    “เหมือนกับยุงมันโตเร็วมาก” น.ส.ธัญญาทิพย์ เนติชัยเศรษฐ์ กล่าว “ฉันฉีดยากันยุงในห้องชั้นล่าง ปิดประตู แล้วขึ้นไปอยู่ชั้นสาม รอจนครบชั่วโมงค่อยลงมาดู มียุงกองเกลื่อนพื้น น่าจะมีเป็นพันๆ ตัวทีเดียว”

    “ฉันคิดว่าคงจัดการพวกมันได้แล้ว แต่พอรุ่งเช้า ก็มียุงอีกมากมายเข้ามาอีก”

    คุณแม่ธัญญาทิพย์กังวลเรื่องสุขภาพของลูกทั้งสองคนเป็นพิเศษ ทั้งคู่ยังอายุไม่ถึง 5 ปี เธอเกรงว่า ลูกๆ อาจเป็นไข้เลือดออก ธัญญาทิพย์ลองเทสารเคมีลงท่อระบายน้ำตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำ เธอตัดพ้อว่า มันช่วยได้เพียงช่วงหนึ่งเท่านั้น อีกไม่นานยุงมหาศาลก็จะกลับมารังควานบ้านหลังนี้อีกครั้ง


    -http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000151755-


    .
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    รู้ไหมว่า...ยุงรำคาญเป็นพาหะของโรคใดบ้าง? <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">28 พฤศจิกายน 2554 14:18 น.</td> </tr></tbody></table>

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">ภาพวิวาดทางวิทยาศาสตร์ของยุงรำคาญสกุล คูเลกซ์ ควินคิวแฟสเวียตัส เพศผู้ (ซ้าย) และ เพศเมีย (ขวา)</td> </tr> </tbody></table>

    ภาวะหลังน้ำท่วมใหญ่ในหลายภาคของประเทศไทย ทำให้เกิดมีน้ำท่วมขังตามแหล่งต่าง ๆ ในวงกว้างที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของยุงหลายชนิด ที่กำลังเป็นปัญหาหนักในขณะนี้คือการมีกลุ่มยุงรำคาญจำนวนมากในทุกพื้นที่ ที่มีน้ำท่วมขัง ยุงรำคาญมีหลายสกุล แต่ที่พบมากในขณะนี้คือ คูเลกซ์ ควินคิวแฟสเวียตัส (Culex quinquefasciatus) ที่พบในแหล่งน้ำขังที่เป็นน้ำเน่าเสีย ยุงรำคาญอีก 2 สกุล ที่พบได้มากในประเทศไทย ได้แก่ เจลิดัส (Cx. Gelidus) และ ไตรเตนิโอรินคัส (Cx. Tritaeniorhynchus) ซึ่งเป็นยุงรำคาญที่พบลูกน้ำอยู่ในหนองน้ำ น้ำขังตามไร่นา น้ำตามรอยเท้าสัตว์ กลุ่มยุงรำคาญเหล่านี้เป็นพาหะนำโรคไข้สมองอักเสบ โรคเท้าช้างในคน และโรคพยาธิหนอนหัวใจในสุนัข ยุง ที่นำโรคที่สำคัญอีก 3 กลุ่มคือ กลุ่มยุงลาย สองสกุลที่สำคัญคือ Aedes aegypti (ยุงลายบ้าน) และ Ae. albopictus (ยุงลายสวน) ที่นำเชื้อไข้เลือดออกที่ลูกน้ำอาศัยอยู่ในน้ำสะอาด เช่น ตามลุ่มน้ำ ภาชนะใส่น้ำ อื่น ๆ กลุ่มยุงก้นปล่อง (Anopheles) ที่นำเชื้อไข้มาลาเรีย และกลุ่มยุงเสือ (Mansonia) ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่ายุงทั้ง 3 กลุ่มข้างต้น ที่นำเชื้อโรคเท้าช้าง ยุงเหล่านี้อาจสามารถนำโรคอื่น ๆ เช่น ยุงลายแม้จะเป็นพาหะนำโรคไข้เลือดออก แต่ก็มีรายงานว่าสามารถนำโรคเท้าช้างได้ เป็นต้น

    โดยทั่วไปยุงจะมีการเจริญเติบโตเป็น 4 ระยะ คือ ระยะเป็นไข่ ลูกน้ำ ตัวโม่ง และตัวเต็มวัย โดยที่ในระยะลูกน้ำจะแบ่งการเจริญเติบโตออกเป็น 4 วัย คือ วัย 1-4 ลูกน้ำจะมีการลอกคราบเมื่อเข้าสู่ระยะต่าง ๆ โดยมีระยะการเจริญเติบโตในระยะลูกน้ำประมาณ 7-10 วัน อาจช้าหรือเร็วกว่านี้ขึ้นกับชนิดของลูกน้ำ อุณหภูมิและอาหาร ขณะที่ระยะตัวโม่งจะใช้เวลา 2-3 วัน ซึ่งในระยะตัวโม่งนี้จะไม่กินอาหารใดๆ และจากตัวโม่งจะลอกคราบออกมาเป็นยุง ในระยะตัวเต็มวัยที่เป็นยุงนี้ ตัวผู้จะมีชีวิตอยู่ได้ราว ๆ 7 วัน ขณะที่ยุงตัวเมียจะมีชีวิตอยู่ได้นานนับเดือน โดยยุงทั้ง 2 เพศ จะใช้น้ำหวานจากดอกไม้ดำรงชีวิต ขณะที่ยุงตัวเมียจะต้องการโปรตีนจากเลือดมนุษย์และสัตว์เพื่อการสร้างไข่ที่ จะกลายเป็นลูกน้ำยุงต่อไป

    ยุงมีถิ่นอาศัยที่ต้องเพาะพันธุ์ตามแหล่งน้ำหลายชนิด โดยยุงก้นปล่องวางไข่ใบเดี่ยว ๆ บนผิวน้ำ ยุงลายวางไข่ใบเดี่ยวๆ ตามขอบเหนือระดับน้ำ ยุงรำคาญวางไข่เป็นแพบนผิวน้ำและยุงเสือวางไข่ติดกันเป็นกลุ่มติดกับใบของ พืชน้ำ เมื่อไข่ฟักออกมาเป็นตัวจะได้ลูกน้ำวัย 1 และลอกคราบตามระยะ ลูกน้ำจะลอยขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำ ส่วนลูกน้ำยุงเสือจะหายใจโดยเจาะเอาออกซิเจนจากรากพืชน้ำ ลูกน้ำยุงจะกินอาหารพวกแบคทีเรีย ยีสต์ สาหร่ายเล็ก ๆ เป็นต้น ในการควบคุมประชากรยุง มักจะควบคุมในระยะที่เป็นลูกน้ำ โดยใช้แบคทีเรียฆ่าลูกน้ำยุง หรือควบคุมระยะที่เป็นตัวยุงโดยใช้สารเคมีฆ่ายุงหรือหมอกควันที่ใช้ไล่ยุง (แต่อาจกำจัดยุงไม่ได้มากนัก เพราะยุงอาจบินหนีไปอยู่ที่อื่น)

    ข้อมูล - คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

    -http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9540000151523-

    .
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ดันผลิตเชื้อจุลินทรีย์กำจัด “ยุงรำคาญ” ระดับอุตสาหกรรม <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">28 พฤศจิกายน 2554 14:17 น.</td></tr></tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">ยุงรำคาญพบได้มากช่วงหลังน้ำลดและในน้ำเน่าขัง</td> </tr> </tbody></table>


    คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัย - สวทช.-มหิดล-กรม วิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมผลิตแบคทีเรียผลิตสารพิษกำจัดยุ่งก้นปล่องและยุงลายที่แพร่พันธุ์มากใน ช่วงน้ำลดหลังน้ำท่วม โดยจ้างภาคเอกชนผลิตเชื้อในระดับอุตสาหกรรมและจะนำไปทดสอบภาคสนาม แต่เชื้อดังกล่าวไม่ผลิตสารที่เป็นอันตรายต่อคนและสัตว์เลี้ยง

    ทั้งนี้ จากสภาวะน้ำท่วมใหญ่ ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง และน้ำเน่าเสียปริมาณมากทำให้มีการแพร่ระบาดของประชากรยุงรำคาญหลายสกุล เช่น เจลิดัส(Cx. Gelidas), ควินคิวแฟสเวียตัส (Cx. Quinquefasciatus), ไตรเตนิโอนิโอรินคัส (Cx. Tritaeniorhynchus), วิชนูอิ (Cx. Vishnui), วิทมอริไอ (Cx. Whitmorei) รวมทั้งยุงเสือ แมนโซเนีย ยูนิฟอร์มิส (Mansonia uniformis) ส่วนยุงลายและยุงก้นปล่องที่ต้องการน้ำสะอาดในการ วางไข่อาจมีการแพร่ระบาดได้น้อยกว่ามาก ดังนั้นยุงที่ชุมอยู่มาก ๆ ตามแหล่งน้ำท่วมขณะนี้ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มยุงรำคาญมากที่สุด

    สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยมหิดล กรมควบคุมโรค และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ผลิตเชื้อแบคทีเรีย บาซิลลัส สเฟียริคัส (Bacillus sphaericus) ควบคุมลูกน้ำยุงรำคาญ โดย สวทช. ให้เงินสนับสนุนในการจ้างบริษัทเอกชนผลิตเชื้อ บาซิลลัส สเฟียริคัส ซึ่งจะเรียกชื่อย่อว่า บีเอส (BS.) และคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลจะเป็นผู้ให้เชื้อและช่วยในการดูแลการผลิต ส่วนกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จะตรวจคุณภาพของผลิตภัณฑ์บีเอส คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล และกรมควบคุมโรคจะช่วยในการทดสอบฤทธิ์การฆ่าลูกน้ำยุงรำคาญของเชื้อที่ผลิต และการใช้ในภาคสนามพร้อมทั้งติดตามประสิทธิภาพของการฆ่าลูกน้ำยุงในการใช้ใน ภาคสนาม

    สำหรับเชื้อสเฟียริคัส (B. sphaericus) เป็นแบคทีเรียที่สร้างสารพิษที่ไม่เป็นอันตรายต่อคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม แต่สารพิษดังกล่าวสามารถฆ่าลูกน้ำยุงรำคาญและลูกน้ำยุงก้นปล่องได้ และเป็นเชื้อที่ได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลกในการใช้ควบคุมลูกน้ำยุง ทั้งสองสกุลนี้ โดยที่ลูกน้ำยุงรำคาญจะแพร่ระบาดในแหล่งน้ำท่วมขังที่เป็นน้ำเสีย น้ำครำ ซึ่งคาดกันว่าในช่วงนี้และช่วงหลังน้ำลด ยุงรำคาญจะแพร่ระบาดมาก ขณะที่ยุงก้นปล่องจะแพร่ระบาดในแหล่งน้ำสะอาดโดยเฉพาะในป่าเขา ลำธาร สารพิษของเชื้อสเฟียริคัส (B.sphaericus)จะเป็นพิษต่อลูกน้ำยุงลายค่อนข้างต่ำมาก หากต้องการควบคุมยุงลายจะต้องใช้แบคทีเรียชนิดอื่น

    เนื่องจากธรรมชาติของลูกน้ำจะกินอาหารโดยใช้ลักษณะดูดน้ำ เข้าไปและกินแบคทีเรีย ยีสต์ และ สาหร่ายเล็ก ๆ ที่ดูดเข้ามาพร้อมกับน้ำเป็นอาหาร โดยหากินและขึ้นมาหายใจอยู่ในระดับผิวน้ำ ดังนั้นการควบคุมลูกน้ำยุงจึงควรฉีดพ่นบนผิวน้ำหรือใช้ของแขวนลอยชุบเชื้อ วางลงไปบนผิวน้ำที่เห็นมีลูกน้ำยุงว่ายอยู่ หลังจากลูกน้ำยุงกินเชื้อเข้าไปจะทำให้ลูกน้ำตายซึ่งจะตายช้าหรือเร็วขึ้น กับปริมาณเชื้อที่ลูกน้ำยุงกินเข้าไป หากกินเชื้อเข้าไปมากลูกน้ำยุงจะตายภายในไม่กี่ชั่วโมง หากกินเชื้อบีเอสเข้าไปน้อย ลูกน้ำยุงจะตายภายใน 1-2 วัน เป็นต้น

    เชื้อบีเอสจะทนแสงแดดได้ดี ทนอยู่ในธรรมชาติและสามารถเพิ่มจำนวนของเชื้อในธรรมชาติได้ดี หากน้ำท่วมขังไม่ลึกมาก (10-20 ซม.) อาจใส่เชื้อประมาณเดือนละ 1 ครั้ง หรือใส่เชื้อเมื่อเห็นว่ามีลูกน้ำยุงรำคาญเพิ่มขึ้นมาในบริเวณน้ำท่วมขังแต่ หากน้ำท่วมขังเป็นน้ำลึกอาจใส่เชื้อบ่อยขึ้น เช่น ใส่เชื้อทุก 2 อาทิตย์ เชื้อบีเอสที่ผลิตได้มีความเข้มข้นสูงจึงควรเจือจางโดยใช้ผลิตภัณฑ์ 1 ส่วนผสมกับน้ำ 9 ส่วน โดยน้ำที่ใช้อาจเป็นน้ำประปาหรือน้ำฝน แต่ไม่ควรใช้น้ำแกว่งสารส้ม เพราะสารส้มจะทำให้เชื้อตกตะกอนและจะลดประสิทธิภาพในการกำจัดลูกน้ำยุง เนื่องจากการแพร่ระบาดของยุงรำคาญเกิดในวงกว้าง ดังนั้นต้องมีการผลิตเชื้อแบคทีเรียจำนวนนับแสนลิตรในอนาคต

    -http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9540000151526-

    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เพื่อความรวดเร็ว
    มาเฉลยหน้าบอร์ดดีกว่า


    ครั้งแรกที่ออกจากโรงงาน

    [​IMG]
    109.3 KB, ดาวน์โหลด 13 ครั้ง


    มีการ Modify เพิ่มเติม

    [​IMG]
    141.4 KB, ดาวน์โหลด 11 ครั้ง


    การ Modify เพิ่มเติมอีก

    [​IMG]
    124.6 KB, ดาวน์โหลด 11 ครั้ง



    คำตอบตามกูรูครับ

    เก๊สนิท และไม่ได้มีการนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกด้วยครับ

    แต่ในการสร้างมีการผสมเศษพระวังหน้าที่แตกหักครับ


    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤศจิกายน 2011
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อีกสักคำถามนะครับ

    [​IMG]

    [​IMG]


    ปะคำตามรูปที่เห็น แท้หรือไม่แท้ หากไม่แท้ มีการนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกเพิ่มเติมหรือไม่


    สิ้นสุดรับคำตอบ วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน 2554 เวลา 18.00 น.

    คำตอบผมจะส่งให้ทาง pm ครับ


    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • PB290063.JPG
      PB290063.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.7 MB
      เปิดดู:
      95
    • PB290065.JPG
      PB290065.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.8 MB
      เปิดดู:
      89
  12. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    อีกสักคำถามนะครับ

    [​IMG]

    [​IMG]


    ปะคำตามรูปที่เห็น แท้หรือไม่แท้ หากไม่แท้ มีการนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกเพิ่มเติมหรือไม่


    สิ้นสุดรับคำตอบ วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน 2554 เวลา 18.00 น.

    คำตอบผมจะส่งให้ทาง pm ครับ


    .
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo [​IMG]
    อ่ัะ องค์เสกเยอะเลยนะครับ หุ หุ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อุปส์ กูรูมาตอบอีกแล้ว

    งั้นก็เฉลยเลยก็แล้วกัน

    เดิม เก๊สนิท จริงๆจะเป็นแม่เหล็ก มีการนำผงแม่เหล็กไปอัดกับโลหะประเภทอื่น ตอนที่ได้มาใหม่ๆ จะดูดกัน แต่ตอนนี้ แม่เหล็กหมดสภาพไปแล้วก็เลยไม่ดูดกัน ผมได้มาหลายปีแล้วครับ

    ผมนำเข้าพิธีพุทธาภิเษก(ถ้าจำไม่ผิด จะอยู่ในชุดพิเศษ 3 ครับ)

    อีกเส้นผมนำไปทำเป็นสร้อยคอครับ

    [​IMG]

    .<!-- google_ad_section_end -->
     
  14. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    โอ๊วฝีมือผี อีกแล้วรึครับท่านพี่ ต้องตาดีจริงๆนะครับถึงจะมองออก
     
  15. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    จะมายังไงไม่รอดพ้นสายตาคุณพี่หนุ่ม กับพี่กูรูเลยจริงๆ ข้าน้อยขอคารวะ:cool:
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    3.ครั้งที่สามในเดือน เมษายน (วันเสาร์ที่ 7 เมษายน 2550)
    ผมนำเข้าพิธีพุทธาภิเษก รับพระเมตตา,พระกรุณา และขอพระบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกุกกุสันโธ ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์ และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี อธิษฐานจิตพระพิมพ์ให้
    ซึ่งผมเรียกพระพิมพ์ที่นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกในครั้งที่สาม นี้ว่า พระพิมพ์ชุดพิเศษ 3 รุ่นฟ้าลิขิต
    ได้รับพระเมตตา,พระกรุณา และขอพระบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกุกุธสันโธ ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์ และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี อธิษฐานจิตพระพิมพ์ให้ (ส่วนองค์ผู้อธิษฐานจิตพระพิมพ์เดิม ผมขอสงวนสิทธิ์ไม่แจ้งให้ทราบครับ เนื่องจากองค์ผู้อธิษฐานจิตใหม่ พลังองค์ผู้อธิษฐานจิตใหม่คลุมพลังองค์ผู้อธิษฐานจิตเดิมครับ) พลังอิทธิคุณครอบจักรวาล<O:p</O:p
    <O:p</O:pท่านใดที่บูชาไปแล้ว ขอให้แยกเก็บจากพระพิมพ์ทั่วๆไป และเก็บไว้ในที่สูง อีกเรื่องคือให้ระวังการปรามาสให้จงหนัก กรรมเร็วและแรงมากครับ

    -http://palungjit.org/threads/ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง-ณ-สำนักสงฆ์ผาผึ้ง-อ-บ้านเขว้า-จ-ชัยภูมิ.68899/-

    http://palungjit.org/threads/ขอเชิญ...-สำนักสงฆ์ผาผึ้ง-อ-บ้านเขว้า-จ-ชัยภูมิ.68899/


    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับท่านใดที่โหลดไป อย่านำไปหาเชียวครับ

    เพราะว่า หากไปหา จะบอกว่า โดนครับ โดนยกครูแน่นอน

    หลายๆสิ่ง หลายๆอย่าง มีการปลอมกันมานานแล้วครับ

    อีกเรื่องที่จะเตือนก็คือ "บาตรน้ำมนต์ ที่ทำด้วยปูน ,ปิดทอง และ ติดพลอย"

    เท่าที่เคยเห็นผ่านๆมา ไม่เคยมีการสร้างครับ ที่ท่านเห็นในแต่ละที่นั้น ผมบอกได้ว่า "เก๊" ทั้งนั้นครับ

    ทำไมถึงได้ดูถูกดูหมิ่นฝีมือช่างสิบหมู่กันมากขนาดนั้น

    ผมเองก็เคยบอกไว้ในกระทู้พระวังหน้าฯหลายๆครั้งมากแล้ว ลองไปหาอ่านกันดู หากยังต้องการทำให้ตาและหูของท่านสว่างขึ้น

    [​IMG]
    109.3 KB, ดาวน์โหลด 16 ครั้ง

    [​IMG]
    141.4 KB, ดาวน์โหลด 14 ครั้ง

    [​IMG]
    124.6 KB, ดาวน์โหลด 14 ครั้ง


    [​IMG]
    1.71 MB, ดาวน์โหลด 1 ครั้ง

    [​IMG]
    2.85 MB, ดาวน์โหลด 1 ครั้ง

    [​IMG]
    1.16 MB, ดาวน์โหลด 1 ครั้ง




    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จากห้องรับแขกผม

    วันนี้ 01:34 PM
    พิศดู

    คุณsithiphongครับไม่ทราบพระพิมพ์เป็นที่รักสามโลกมีให้บูชาหรือไม่ ต้องทำอย่างไรผมคนที่เจอกันที่บ้านปู่ปฐมนะครับ
    ----------------------------------

    ผมไปตอบในกระทู้พระวังหน้าฯครับ

    -------------------------------------------------------

    เดี๋ยวผมมาตอบครับ ไปประชุมก่อน

    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จากห้องรับแขกผม

    วันนี้ 01:34 PM
    พิศดู

    คุณsithiphongครับไม่ทราบพระพิมพ์เป็นที่รักสามโลกมีให้บูชาหรือไม่ ต้องทำอย่างไรผมคนที่เจอกันที่บ้านปู่ปฐมนะครับ
    ----------------------------------

    ผมไปตอบในกระทู้พระวังหน้าฯครับ

    -------------------------------------------------------

    สำหรับพิมพ์นี้ เป็นพิมพ์ที่หาได้ยาก

    ปัจจุบันผมมอบให้เฉพาะสมาชิกชมรมพระวังหน้าที่ได้ร่วมทำบุญกับผมอย่างสม่ำเสมอเท่านั้น เพราะว่า สมาชิกชมรมพระวังหน้า ต้องได้รับสิทธิพิเศษกว่าบุคคลทั่วไป

    ขอบคุณครับ
    sithiphong
    29/11/2554

    .
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    11-12-2010 09:55 AM
    sithiphong
    ผมขอแ้จ้งให้พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทราบว่า ผมได้เปิดชมรม พระวังหน้า ให้กับทุกๆท่าน ทราบทาง Email เรียบร้อยแล้ว

    "ข้าพเจ้าขอเปิดชมรมพระวังหน้าอย่างเป็นทางการในวันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม พุทธศักราช 2553
    เพื่อประโยชน์ต่อ ประเทศไทย ศาสนาพุทธ สถาบันพระมหากษัตริย์ และเรื่องราวที่เกี่ยวกับพระวังหน้า และงานบุญต่างๆ"


    sithiphong ข้อบังคับ(บางส่วน)ของชมรมพระวังหน้า

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    กระทู้พระวังหน้าฯ หน้าที่ 2212 ลว.22 กพ.54

    แจ้งสำหรับผู้ที่สนใจ สมัครสมาชิกชมรมพระวังหน้า
    ชมรมพระวังหน้า จะมีคณะกรรมการที่มีอำนาจในการรับสมัครสมาชิกใหม่ 3 ท่าน คือ ท่านประธานฯ , ท่านรองประธานฯ และ เลขานุการฯ ซึ่งปัจจุบันผมอยู่ในตำแหน่งเลขานุการชมรมฯ หลักเกณฑ์ของผมก็คือ ให้ผู้ที่สนใจสมัครสมาชิกฯ เข้ามาพูดคุยกันในกระทู้พระวังหน้าฯ เป็นระยะเวลาประมาณ 1 ปี หรือมากกว่านั้น และจะดูเรื่องของความตั้งใจที่จะสมัครสมาชิก ดูความอดทน , ความเพียร ฯลฯ ส่วนหลักเกณฑ์ของท่านประธานฯหรือท่านรองประธานฯ อยู่ในดุลยพินิจของแต่ละท่าน

    เบื้องต้น ผมจะขอรายละเอียดส่วนตัวต่างๆ เพื่อส่งข้อมูลให้กับ ท่านประธานฯ , ท่านรองประธานฯ และ ท่านสมาชิกชมรมฯทุกๆท่าน ให้ได้ทราบกันก่อน และให้ปฎิบัติตามหลักเกณฑ์ของผม(ข้างต้น)

    ขอแสดงความนับถือ
    sithiphong
    25-2-2554
     

แชร์หน้านี้

Loading...