พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

.

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=jzBCdcgDb-E&feature=related]เพลงสดุดีมหาราชา - YouTube[/ame]




-http://www.youtube.com/watch?v=jzBCdcgDb-E&feature=related-

.

 

.

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=39z-z3sCMbI&feature=related]เพลงสรรเสริญพระบารมี (ร้อง) - YouTube[/ame]



-http://www.youtube.com/watch?v=39z-z3sCMbI&feature=related-

.

 

ประชาชนชาวไทย อยู่ดีกินดีมากขึ้น เนื่องด้วยพระอัจฉริยะของพระองค์ท่าน ที่สอนให้ประชาชนชาวไทยรู้จักการตกปลา ไม่ใช่สอนให้แบมือขอปลา

เพราะโครงการในพระราชดำริมากกว่า 4,000 โครงการ

ยังไม่มีใครในโลกนี้ ทำเพื่อคนส่วนใหญ่ได้มากขนาดนี้

ต้องรู้จักพระคุณของพระองค์ท่าน ที่ช่วยเหลือประเทศไทยอย่างมหาศาล

ขอกราบใต้เบื้องพระยุคลบาทของพระองค์ท่าน ที่มีพระเมตตากับประชาชนคนไทยทุกๆคน

.

ตัวอย่างโครงการพระราชดำริ

ที่มา -http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=19d80f548f195945-

โครงการพระราชดำริเกี่ยวกับป่า
โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน จ.ฉะเชิงเทรา
โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง จ.นราธิวาส
โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน จ.สกลนคร
โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทราย จ.เพชรบุรี เน้นเรื่องป่าเปียก,ป่าชายเลน
โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน จ.จันทบุรี เน้นเรื่องสภาพแวดล้อม การฟื้นฟูป่าชายเลนและโครงการอนุรักษ์หญ้าทะเล
โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ จ.เชียงใหม่ เน้นเรื่องทฤษฏีการปลูกป่า 3 อย่าง
โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำแม่อาว จ.ลำพูน เน้นเรื่องการพัฒนาและฟื้นฟู
โครงการห้วยองคต จ.กาญจนบุรี เน้นเรื่องการฟื้นฟูสภาพสิ่งแวดล้อม (rehabilitation)
โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย จ.เพชรบุรี เน้นการรักษาสภาพป่าชายเลนโดยวิธีทางธรรมชาติ
โครงการพัฒนาปากน้ำปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
โครงการพัฒนาเบ็ดเสร็จลุ่มน้ำสาขาแม่ปิง จ.เชียงใหม่และลำพูน เน้นการปลูกป่า การทำแนวกันไฟ
โครงการพัฒนาพื้นที่ป่าขุนแม่กวง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร
โครงการศูนย์ศึกษาวิจัยธรรมชาติและป่าพรุสิรินทร
[แก้] โครงการพระราชดำริเกี่ยวกับดิน
โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ฉะเชิงเทรา
โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.นราธิวาส
โครงการศูนย์ ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เพชรบุรี
โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เชียงใหม่
โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มแม่อาว จ.ลำพูน
โครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม จ.ราชบุรี
โครงการทดลองแก้ปัญหาดินเปรี้ยว จ.นครนายก
แนวพระราชดำริ "แกล้งดิน"
แนวพระราชดำริเกี่ยวกับการนำ "หญ้าแฝก" มาใช้ป้องกันการพังทะลายของดิน
แนวพระราชดำริ "ห่มดิน" เพื่อการฟื้นฟูดินที่เสื่อมสภาพ
[แก้] โครงการพระราชดำริเกี่ยวกับน้ำ
โครงการพัฒนาลุ่มน้ำป่าสัก จ.ลพบุรี,จ.สระบุรี
โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำแม่อาว จ.ลำพูน
โครงการห้วยองคต จ.กาญจนบุรี
โครงการเขื่อนคลองท่าด่าน จ.นครนายก
โครงการพัฒนาเบ็ดเสร็จลุ่มน้ำสาขาแม่ปิง จ.เชียงใหม่,จ.ลำพูน
โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย จ.เพชรบุรี
โครงการน้ำดีไล่น้ำเสียตามคลองต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร
โครงการบำบัดน้ำเสียโดยใช้พืช บึงมักกะสัน จ.กรุงเทพมหานคร
แนวพระราชดำริ "แก้มลิง"
"ฝนหลวง"
โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย จ.เพชรบุรี เน้นการบำบัดน้ำเสียชุมชน โดยวิธีทางธรรมชาติ
โครงการผันน้ำเข้าที่ส่วนพระองค์ บริเวณพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย ทุ่งมะขามหย่อง จ.พระนครศรีอยุธยา
โครงการป้องกันน้ำท่วมด้วยการเบี่ยงน้ำ คลองลัดโพธิ์ กรุงเทพมหานคร
โครงการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยทอน จังหวัดหนองคาย
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน จังหวัดจันทบุรี
[แก้] โครงการทางด้านวิศวกรรม
โครงการทางยกระดับลอยฟ้าบรมราชชนนี
โครงการสะพานพระราม 8
โครงการด้านการจราจร เกี่ยวกับการขยายถนนคอขวดจุดต่างๆ
ไบโอดีเซลและแก๊สโซฮอล์จากพืชของไทย
กังหันชัยพัฒนา
ฝายแม้ว หรือการจัดทำฝายชะลอน้ำ เพื่อฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรม
[แก้] แนวพระราชดำริอื่นๆ
แนวพระราชดำริทฤษฎีใหม่
แนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง
โรงเรียนกาสรกสิวิทย์


.------------------------------------------------------.


ส่วนไอ้พวกที่ดูหมิ่นพระองค์ท่าน มันทำอะไรให้ประเทศไทยบ้าง

ตอบได้ตรงนี้ว่า มีแต่ทำลายประเทศไทย ที่เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของพวกมัน

พวกนี้ หนักแผ่นดินมาก อยู่ไปก็หนักแผ่นดิน ไปตายก็ยังไม่เพียงพอต่อโทษที่พวกมันทำเลย

.

 

.

เปิดตัวนามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย 54 พระองค์






เล่มแรกของไทย เฉลิมพระเกียรติในหลวง 84 พรรษา 5 ธันวามหาราชสมเด็จพระเทพฯ พระราชนิพนธ์ คำนำ ด้วยพระองค์เอง





วันนี้ (1 ธ.ค.) ที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ศ.เกียรติคุณคุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ เลขานุการมูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตน ราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี พร้อมด้วยพล.ต.ม.ร.ว.ศุภวัฒย์ เกษมศรี บรรณาธิการวิชาการ และผศ.ดร.ปรีดี พิศภูมิวิถี บรรณาธิการวิชาแถลงข่าวเปิดตัว หนังสือ นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 โดยศ.เกียรติคุณคุณหญิงไขศรี กล่าวว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทรงเห็นชอบให้มูลนิธิฯจัดทำนามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย เป็นฉบับแรกของประเทศไทย เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีใครรวบรวมและเรียบเรียงพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ได้ครบพระองค์ ดังนั้น ทางมูลนิธิฯจึงได้จัดทำหนังสือดังกล่าว โดยรวบรวมพระนามพระมหากษัตริย์ไทย ตั้งแต่รัชกาลสมัยสุโขทัย สมัยกรุงศรีอยุธยา สมัยกรุงธนบุรี และสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ รวมทั้งสิ้น 54 พระองค์

ศ.เกียรติคุณคุณหญิงไขศรี กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ยังมีอีก 2 พระองค์ถึงแม้ไม่ได้จัดลำดับเป็นรัชกาล ได้แก่ ขุนวรวงศาธิราช และพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ทางมูลนิธิฯพบว่า มีเอกสารไทยและต่างชาติ บันทึกพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจที่สำคัญไว้ เช่น การศึกสงคราม การต่างประเทศ ซึ่งล้วนเป็นข้อมูลที่สำคัญแสดงให้เห็นถึงพระเกียรติคุณ ก็ได้นำมาบันทึกในหนังสือนามานุกรมฉบับดังกล่าวด้วย อย่างไรก็ตาม นามานุกรมฉบับนี้ จัดทำขึ้นเพื่อรวบรวมเนื้อหาด้านประวัติศาสตร์ที่ถูกต้องตามหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ เนื่องจากปัจจุบันพบว่า ข้อมูลพระมหากษัตริย์ไทย เกิดความคลาดเคลื่อน ดังนั้น นามานุกรมฉบับนี้ จะเป็นข้อมูลอ้างอิงและค้นคว้าสำหรับเรื่องของพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์

“สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชนิพนธ์คำนำด้วยพระองค์เอง และทรงมอบหมายให้มูลนิธิฯจัดพิมพ์นามานุกรมฉบับดังกล่าว จำนวน 50,000 เล่ม เพื่อแจกให้แก่สถานศึกษา ห้องสมุดทั่วประเทศ 30,000 เล่ม ส่วนที่เหลือจะแจกให้แก่หน่วยงานราชการ เอกชน รัฐวิสาหกิจ นอกจากนี้ยังมีแนวคิดว่า จะนำข้อมูลทั้งหมดจัดทำเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์หรืออีบุ๊ค เพื่อสามารถค้นคว้าผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้”เลขานุการมูลนิธิฯกล่าว

ผศ.ดร.ปรีดี พิศภูมิวิถี บรรณาธิการวิชาการ นามานุกรม พระมหากษัตริย์ไทย กล่าวว่า เนื้อหานามานุกรมมีลักษณะพิเศษ กว่าเล่มอื่นๆ ดังนี้

1. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชนิพนธ์คำนำ ทรงระบุไว้อย่างชัดเจนว่านามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย ไม่เคยมีผู้ใดรวบรวมมาก่อน โดยมีการตรวจสอบข้อมูลอย่างถูกต้องจากนักประวัติศาสตร์ ทั้งยังมีการวิพากษ์หลักฐานทางประวัติศาสตร์ของพระมหากษัตริย์ไทย

2. คณะบรรณาธิการมีการจัดแบ่งเนื้อหา นามานุกรมโดยเรียบเรียงตามช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์ ตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา ธนบุรี และรัตนโกสินทร์

3. นามานุกรมฯเล่มนี้ ไม่ได้เรียงตามลำดับตัวอักษร ก-ฮ เพราะอาจจะไม่เห็นความต่อเนื่องทางประวัติศาสตร์

4. มีเนื้อหาจะสั้น กระขับ และไม่ยาวจนเกินไป มีรายพระนามของพระมหากษัตริย์ของบางพระองค์ที่ไม่ประชาชนอาจจะไม่รู้จักมา ก่อน

5. การเรียบเรืยงข้อมูลของแต่ละรัชกาล เรียบเรืยงตามเนื้อหา พระราชประวัติ ประกอบด้วย สถานที่ประสูติ ทรงเป็นพระราชโอรสของพระมหากษัตริย์ หรือพระบรมวงศานุวงษ์ ขึ้นอยู่กับหลักฐานที่ปรากฏ พระราชกรณียกิจ ที่ได้มีการรวบรวมจากเอกสารทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ ได้มีการระบุปีที่สวรรคตด้วย

6. มีรูปภาพประกอบของพระมหากษัตริย์แต่ละรัชกาล ส่วนบางพระองค์ที่ไม่มีรูปจะใช้ภาพพระพุทธรูปประจำพระองค์ หรือ พระราชานุสาวรีย์แทน

7. จุดเด่นอีกประการคือมีการระบุถึงพระราชกรณียกิจ ที่ทรงมีพระประสงค์ สิ่งเดียว คือ เพื่อประชาชน ทั้งยังทรงปฏิบัติพระองค์อย่างมีจรรยานุวัตร หรือข้อพึ่งปฏิบัติที่กษัตริย์ควรปฏิบัติ ตลอดมา



-http://www.dailynews.co.th/education/1151-

.

 

.

เรียนรู้ชีวิตทรงงาน'ในหลวง'ผ่านหนังสือ 'คิง ภูมิพลอดุลยเดช : อะไลฟ์'ส เวิร์ก'





























เรื่องราวพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจและเหตุการณ์ในรัชกาลของพระองค์ครอบคลุมช่วงเวลาที่ประเทศไทย มีการพัฒนายิ่งกว่ายุคสมัยใดในประวัติศาสตร์










พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นองค์ประมุขที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก และทรงเป็นผู้นำที่มีความน่าสนใจ เรื่องราวพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจและเหตุการณ์ในรัชกาลของพระองค์ครอบคลุมช่วงเวลาที่ประเทศไทย มีการพัฒนายิ่งกว่ายุคสมัยใดในประวัติศาสตร์ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธ.ค.2554 ทางคณะผู้จัดทำหนังสือ “คิง ภูมิพลอดุลยเดช: อะไลฟ์’ส เวิร์ก” นำโดย นายอานันท์ ปันยารชุน ประธานคณะที่ปรึกษากองบรรณาธิการ ร่วมกับ สนพ.นานาชาติ เอดิซิยองส์ ดิดิเยร์ มิลเยต์ จัดพิมพ์เป็นหนังสือภาคภาษาอังกฤษจำนวน 384 หน้า เผยแพร่เรื่องราวพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจเชิงลึกและน่าสนใจในประเด็นที่ไม่ค่อยมีการกล่าวถึง ประกอบภาพพระบรมฉายาลักษณ์หายากกว่า 400 ภาพ ราคา 1,200 บาท ซึ่งจัดทำขึ้นจำนวน 10,000 เล่ม และเมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดตัวหนังสือดังกล่าว ที่ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ พร้อมวางจำหน่ายที่ร้านหนังสือชั้นนำของประเทศ อาทิ เอเชียบุ๊คส์และคิโนะคุนิยะ
นายอานันท์ เผยว่า คณะผู้จัดทำได้รวบรวมเรื่องราวที่เป็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพระราชประวัติและ พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเน้นให้ความสำคัญอย่างมากกับความถูกต้องและความสมดุลของข้อมูล เพื่อให้คงไว้ซึ่งความน่าสนใจในระยะยาว นอกจากนี้ยังนำเสนอมุมมองใหม่ ๆ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ไม่มีผู้ใดศึกษามากนักและ ยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน เช่น เรื่องกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ การสืบราชสันตติวงศ์ คณะองคมนตรี และสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นต้น ซึ่งแบ่งเนื้อหาออกเป็น 3 ส่วนคือ พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และภาพรวมเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งกฎหมาย แบบแผนจารีต ประเพณีที่เชิดชูและเกี่ยวข้องกับสถาบัน “มีการร่วมมือระหว่างนักเขียน บรรณาธิการ และที่ปรึกษาทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทำงานแข็งขันกว่า 1 ปี ทุกตอนในหนังสือเป็นผลมาจากการพูดคุยถกเถียงกันอย่างออกรสชาติของทีม บรรณาธิการที่มีมุมมองแตกต่างหลากหลาย มีการแลกเปลี่ยนความเห็นกันอย่างกว้างขวาง ตรงไปตรงมา ซึ่งในที่สุดผลลัพธ์ออกมาเป็นหนังสือที่หวังว่า จะเติมเต็ม “สติ” ลงในช่องว่างของสังคมไทย เป็นการยกระดับการถกเถียงว่าไม่ใช่เรื่องแปลกหรือน่าอาย แต่ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง ไม่ได้อยู่กับอคติหรืออารมณ์” ประธานคณะที่ปรึกษาฯ กล่าว
นายดิดิเยร์ มิลเยต์ ผู้บริหาร สนพ.นานาชาติ เอดิซิยองส์ ดิดิเยร์ มิลเยต์ ผู้จัดพิมพ์หนังสือ กล่าวว่า หนังสือเล่มนี้เข้ากับสถานการณ์ในขณะนี้มาก เพราะมีเนื้อหาว่าด้วยพระราชดำริเกี่ยวกับการป้องกันน้ำท่วม และการบริหารจัดการน้ำ ความท้าทายทางเศรษฐกิจและการพัฒนาชนบท จะช่วยให้ผู้อ่านทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้าใจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัว และพระราชกรณียกิจของพระองค์ได้ดียิ่งขึ้น เพราะเป็นหนังสือที่อ่านง่ายและไม่น่าเบื่อ.



-http://www.dailynews.co.th/society/869-

.

 

.

ชาวไทยปลื้ม"พระทันตธาตุ"แห่ชมเพียบ

วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม 2554 เวลา 13:55 น.




คนแห่ชม"พระทันตธาตุ"หลังทราบข่าวรัฐบาลภูฏานอันเชิญมาประดิษฐานในประเทศไทย ณ ท้องสนามหลวง เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


.





วันนี้ (3 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.00น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ผู้แทนจากรัฐบาลภูฏาน อัญเชิญพระทันตธาตุมาประดิษฐานในประเทศไทยเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติและถวาย เป็นพระราชกุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไว้ที่มณฑลท้องพิธีสนามหลวงเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น
ความคืบหน้าล่าสุดทางกองอำนวยการจัดงาน ได้กำลังเร่งเตรียมความพร้อมดำเนินงานพิธีสมโภชพระบรมสารีริกธาตุอย่างยิ่ง ใหญ่สมพระเกียรติ โดยมีกำหนด ในเวลา 16.00 น. ของวันนี้ (3 ธ.ค.) ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ต้องกั้นบริเวณให้ประชาชนได้สักการะพระทันตธาตุได้แต่ เพียงภายนอก ไม่อนุญาตให้เข้าไปในบริเวณที่ประดิษฐาน ก่อนที่เสร็จพิธีสมโภชพระบรมสารีริกธาตุ
อย่างไรก็ตาม ได้มีพุทธศาสนิกชนที่ทราบข่าวการอัญเชิญพระทันตธาตุมาประดิษฐานในประเทศไทย เป็นการชั่วคราว จึงเดินทางมาสักการะกันอย่างต่อเนื่อง แต่พอถูกกันให้ห่างออกจากที่ประดิษฐานแล้ว ต่างแสดงความรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ขึ้นไปสักการะอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ดีเมื่อสอบถามแล้ว ทุกคนต่างยืนยันว่า จะเดินทางกลับมาสักการะอีกครั้ง ภายหลังพิธีสมโภชเสร็จสิ้นแล้ว
ทางด้านกิจกรรมถวายพระพรชัยมงคล ได้มีการเร่งเตียมพร้อมสำหรับงานในวันที่ 5 ธ.ค. โดยมีประชาชนที่สนใจเดินทางมาเที่ยวชมพร้อมทั้งเก็บภาพบรรยากาศการซักซ้อม พิธีการอย่างไม่เป็นทางการ ทั้งนี้ที่ประชาชนทั่วไปสนใจต้นโพธิ์เงิน ต้นโพธิ์ทองพร้อมทั้งถ่ายภาพเก็บเป็นไว้ที่ระลึกจำนวนมาก



-http://www.dailynews.co.th/thailand/1482-

.

 

.

ย้ายไปที่ไม่มีเงินประจำตำแหน่ง

วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2554 เวลา 04:10 น.
สมัยก่อนคำสั่งย้ายข้าราชการจะไม่ค่อยเป็นข่าว ยกเว้นส่วนราชการที่ดัง ๆ หน่อย เช่น ทหาร ตำรวจ ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ เป็นต้น

สมัยนี้เป็นข่าวลงกันทุกกระทรวงทบวงกรม และแทบทุกระดับ

ยังหลวงพ่อ หลวงพี่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นข่าวกันครึกโครมอีกเล่า ต้องแสดงมุทิตาจิตฉลองตำแหน่งกันเป็นงานใหญ่
จะว่ายศช้างขุนนางพระชักพูดไม่ได้เต็มปาก

ตำแหน่งหน้าที่ราชการบ้านเรานี่มันแปลกขอรับ อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายดูไม่แตกต่างกัน แต่ไอ้ที่กฎหมายไม่ได้เขียนก็เรื่องวาสนาบารมีของตำแหน่ง

เป็นความรู้เฉพาะตนภายในวงการ ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ

ดูตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยที่มีอำนาจตามกฎหมายตรวจงานข้าราชการทุกระดับในเขตรับผิดชอบซึ่งรวมถึง
ผู้ว่าราชการจังหวัดด้วย

แต่ไปถามชาวมหาดไทยก็จะได้คำตอบทุกคนว่าถ้าเลือกได้เขาเลือกตำแหน่งผู้ว่า ราชการจังหวัดกันทั้งนั้น ไม่มีใครเลือกตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง

วาสนาบารมีมันต่างกัน ยิ่งสื่อลงข่าวว่าไปเข้ากรุเป็นผู้ตรวจ ยิ่งหนักเข้าไปอีก แหมพูดมากไปเดี๋ยวจะโดนท่านผู้ตรวจราชการหมั่นไส้เอา

เป็นผู้กำกับการตำรวจเหมือนกัน แต่ท้องที่ไม่เหมือนกันวาสนาบารมีย่อมต่างกัน

แล้วสมัยนี้ บางตำแหน่งมีสิทธิประโยชน์เป็นพิเศษแบบเงินประจำตำแหน่ง ค่าวิชาชีพ เพราะเป็นตำแหน่งที่มีวิชาชีพเฉพาะ ส่วนบางตำแหน่งฟาดแต่เงินเดือนเพียว ๆ

อย่างคุณหมอทั้งหลาย ปกติหน่วยงานไหนก็อยากได้ตัว ไปทำเอกชนหรือทำส่วนตัวก็สบายมาก แต่เงินเดือนของทางราชการมันน้อย จะให้คุณหมอมาอยู่ด้วยต้องมีเงินเพิ่มพิเศษล่อใจ แถมสิทธิประโยชน์นอกเวลาทำงานไปทำงานข้างนอกได้

ถึงคราวย้ายไปอีกที่ ตำแหน่งเท่าเดิมแต่ไม่มีของล่อใจเหมือนเดิมอย่างนี้ก็น่ามีปัญหา ต้องเห็นใจคุณหมอเหมือนกันทำงานโรงพยาบาลเอกชนเงินเดือนแพงลิบ เข้ามาทำงานในส่วนราชการก็เพื่อเกียรติยศการเป็นข้าราชการและได้เงินเพิ่ม พิเศษพอได้ปลอบใจ

วันดีคืนดีถูกย้ายไปดำรงตำแหน่งอื่นของหน่วยงาน ไม่ได้ทำงานทางการแพทย์ต่อไป เงินเพิ่มพิเศษ สิทธิประโยชน์หายเกลี้ยง

มันไม่เป็นธรรมต่อคุณหมอข้าราชการผู้นั้นเหมือนกันขอรับ ถามว่าคำสั่งย้ายอย่างนี้จะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ต้องดูคำตอบจากศาลปกครอง

มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องให้นายทหารรับราชการ ให้แพทย์ทหารระดับพลตรีท่านหนึ่งซึ่งมีหน้าที่ประกอบวิชาชีพเวชกรรมตรวจ รักษาผู้ป่วยในสถานพยาบาลสังกัดกระทรวงกลาโหมไปดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิกอง ทัพบก

ตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งไม่มีลักษณะเกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพเวชกรรม และทำให้ขาดสิทธิรับเงินเพิ่มพิเศษตาม พระราชกฤษฎีกาการได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการและผู้ดำรงตำแหน่งผู้ บริหารซึ่งไม่เป็นข้าราชการ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๘

แพทย์ทหารท่านนั้นจึงฟ้องกระทรวงกลาโหมผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ กองทัพบกที่ ๒ นายกรัฐมนตรี ที่ ๓ ออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายทำให้ผู้ฟ้องคดีขาดสิทธิที่จะประกอบวิชาชีพ เวชกรรมในสถานพยาบาลตามความรู้ความสามารถ ละเมิดต่อสิทธิและหน้าที่ของผู้ฟ้องคดีภายใต้การกำกับดูแลของแพทยสภาและขาด สิทธิได้รับเงินเพิ่มพิเศษตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว

ผู้ถูกฟ้องคดีให้การว่าการประกอบวิชาชีพเวชกรรมมิได้มีความผูกพันกับตำแหน่ง ในทางกฎหมายเหมือนกับการทำนิติกรรมซึ่งทางราชการต้องมีการระบุผู้มีอำนาจลง นามตามตำแหน่ง กรณีมิใช่เป็นการจำกัดสิทธิในวิชาชีพและตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นตำแหน่งที่ กำหนดไว้เพื่อบริหารจัดการกำลังพลให้มีความคล่องตัว

ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษา ยกฟ้อง ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์

ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการทหาร พ.ศ.๒๕๒๑ ประกอบข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยการบรรจุ ปลด ย้าย เลื่อนและลดตำแหน่งข้าราชการกลาโหม พ.ศ.๒๕๐๒ ได้กำหนดผู้มีอำนาจสั่งดังกล่าวไว้ และการกระทำของกระทรวงกลาโหมและกองทัพบกในการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารใน สังกัดได้ดำเนินการโดยมีคณะกรรมการตามแนวทางที่กองทัพบกกำหนด

ตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกและตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานแพทย์ทหาร (ตำแหน่งเดิมผู้ฟ้องคดี) เป็นตำแหน่งในอัตราพลตรีเช่นกันทั้งสองตำแหน่งจึง ไม่กระทบกระเทือนต่อชั้นยศหรืออัตราเงินเดือนให้ลดต่ำกว่าเดิม รวมทั้งยังทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะได้รับการเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งและปรับเงิน เดือนขึ้นดังเดิม

ส่วนประเด็นที่อ้างว่าสิทธิในเงินประจำตำแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะสำหรับผู้ ดำรงตำแหน่งในสายงานแพทย์ซึ่งไม่อาจมอบให้ผู้มีคุณวุฒิอย่างอื่นปฏิบัติแทน ได้ต้องปฏิบัติโดยข้าราชการภายใต้การควบคุมดูแลของแพทยสภา

เห็นว่าไม่มีบทบัญญัติมาตราใดห้ามผู้บังคับบัญชามิให้โยกย้ายผู้ดำรงตำแหน่ง สายงานแพทย์ให้ไปดำรงตำแหน่งสายงานอื่นในเมื่อตำแหน่งที่ได้รับแต่งตั้งไม่ กระทบกระเทือนต่อชั้นยศหรืออัตราเงินเดือนให้ลดต่ำลง

การพิจารณาโยกย้ายเป็นดุลพินิจของผู้บังคับบัญชาที่จะพิจารณาตามความเหมาะสม

การได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมและทำงานในสายงานแพทย์ซึ่งเป็นสายงานวิชาชีพมิใช่ข้อจำกัดอำนาจตามกฎหมายของผู้บังคับบัญชา

การกระทำของผู้ถูกฟ้องคดีจึง ชอบด้วยกฎหมาย พิพากษายืน (คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.๓๗๘/๒๕๕๒).
พิสิษฐ์ พลรักษ์เขตต์




-http://www.dailynews.co.th/article/345/1048-

.

 

.

กรมธนารักษ์พร้อมจ่ายเหรียญ 84 พรรษา















วันนี้(3ธ.ค.)นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมธนารักษ์จ่ายเหรียญที่ระลึก และเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 84 พรรษาทุกประเภท ที่ประชาชนสั่งจองไว้ ทั้งจากหน่วยงานในสังกัดกรมธนารักษ์ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารออมสิน ทุกสาขา พร้อมกันทั่วประเทศ 19 ธ.ค.นี้ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธ.ค.นี้ การจัดทำเหรียญที่ระลึกและเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธ.ค.ของกรมธนารักษ์ ซึ่งได้เปิดจองไปเมื่อวันที่ 20 ก.ค.-19 ส.ค.ที่ผ่านมาแล้ว โดย กรมธนารักษ์ได้จัดทำเหรียญในโอกาสเดียวกันถึง 3 ประเภท คือ เหรียญที่ระลึก เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก เหรียญที่ระลึกประดับแพรแถบ



-http://www.dailynews.co.th/businesss/1487-

.

 

.


แสตมป์เฉลิมพระเกียรติ7รอบในหลวง
















วันนี้ (1 ธ.ค.) ที่ ศูนย์การค้าสยามพารากอน นางสาวอานุสรา จิตต์มิตรภาพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยว่า ปณท ได้เปิดตัวแสตมป์ชุดประวัติศาสตร์ “สัตตมหามงคล ภูมิพลมหาราชา” ที่ระลึกพระราชพิธี มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ มีทั้งหมดสามชุด โดยเป็น แสตมป์ 7 เหลี่ยมครั้งแรกของโลก และทั้งสามชุดยังใช้เทคนิคพิเศษพิมพ์บนแผ่นฟอยล์ปั๊มดุนนุน ทำให้มีมิติเสมือนจริง ไม่ว่าจะเป็นชุด “พระชนมพรรษายิ่งยืงนาน” ภาพจำลองเหรียญกษาปน์ที่ระลึก ที่จัดสร้างขึ้นในโอกาสต่าง ๆ ตั้งแต่ต้นรัชกาลจนถึงปัจจุบัน หรือชุด “พระเกียรติคุณแผ่นไพศาลทั่วสากล” เป็นภาพรางวัลที่ทรงได้รับการทูลเกล้าฯถวายจากองค์กรระหว่างประเทศในด้าน ต่าง ๆ และชุด “น้อมเกล้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล ทรงพระเจริญ” ภาพพระบรมฉายาลักษณ์ในฉลองพระองค์บรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ พิมพ์ด้วยแผ่นฟอยล์ทองคำ 22 กะรัต

ทั้งนี้แสตมป์ชุดประวัติศาสตร์ “สัตตมหามงคล ภูมิพลมหาราชา” ชุดที่ 1“พระชนมพรรษายิ่งยืงนาน” ราคาชุดละ 35 บาท ใน 1 ชุดมีแสตมป์ราคาดวงละ 5 บาท จำนวน 7 แบบ จัดพิมพ์ทั้งหมด 1 ล้านชุด ส่วนชุดที่ 2 “พระเกียรติคุณแผ่นไพศาลทั่วสากล” ราคาชุดละ 35 บาท ใน 1 ชุดมีแสตมป์ราคาดวงละ 5 บาท จำนวน 7 แบบเช่นกัน แต่จัดพิมพ์เพียง 7 แสนชุด และชุดที่ 3 “น้อมเกล้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล ทรงพระเจริญ” มีแสตมป์ 1 ดวง ราคาดวงละ 100 บาท จัดพิมพ์ทั้งหมด 1.2 ล้านดวง สำหรับผู้สนใจเป็นเจ้าของแสตมป์ทั้งสามชุด สามารถซื้อได้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ ตั้งแต่ วันที่ 5 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป

ด้านนายสุชัย กอประเสริฐศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยบริติชซีเคียวริตี้ พริ้นติ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าบริษัทมีความยินดีที่ได้รับความไว้วางใจจาก ปณท ให้เป็นผู้จัดพิมพ์แสตมป์ชุดประวัติศาสตร์ครั้งนี้ ซึ่งบริษัทได้ระดมทรัพยากรในการผลิตทั้งหมด เพื่อให้ได้ผลงานชิ้นเอกที่สมบูรณ์แบบ และสมพระเกียรติ นับเป็นความภาคภูมิภาคภูมิใจอย่างสูงสุดที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติ ศาสตร์ครั้งสำคัญของชาติ.



-http://www.dailynews.co.th/technology/1196-


.

 

.


สมัครใจแยกกันอยู่แล้วยังต้องจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูอีกหรือไม่/มังกรซ่อนกาย <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">2 ธันวาคม 2554 06:17 น.</td></tr></tbody></table>


วัตถุประสงค์ของการ สมรสโดยหลักแล้วเพื่อให้ชายหญิงที่สมรสกันได้อยู่กินกันฉันสามีภริยาและช่วย เหลือ อุปการะเลี้ยงดูซึ่งกันและกัน แต่ถ้าในกรณีที่อยู่ด้วยกันไม่ได้เพราะเหตุใดเหตุหนึ่ง จนต้องแยกกันอยู่แล้ว ปัญหาที่ตามมาก็คือ หน้าที่ที่จะต้องช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูกันนั้นจะแยกไปด้วยหรือไม่ มีข้อเท็จจริงที่นำมาให้ท่านทั้งหลายได้ศึกษากัน คือ

<table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="460"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="460"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> นางกุหลาบเดิมเป็นลูกแม่ค้าขายอาหารอยู่ในค่ายทหาร พบรักกับนายร้อยจำปา ในปี 2520 ต่อมาในปี 2522 ทั้งสองได้แต่งงาน และจดทะเบียนสมรสกัน หลังจากสมรสกันแล้ว 2 ปี นายร้อยจำปาให้นางกุหลาบเป็นแม่บ้านดูแลความเรียบร้อยภายในบ้าน และเลี้ยงดูบุตร ส่วนนายร้อยจำปาได้ไปปฏิบัติราชการอยู่ตามหน่วยราชการของกองทัพตามต่าง จังหวัด รายได้ที่อุปการะเลี้ยงดู ครอบครัวมาจากรายได้ของ นายร้อยจำปาแต่เพียงฝ่ายเดียว ทั้งคู่มีบุตรด้วยกัน 2 คนที่เกิดในปี 2521 และ 2522 เดิมนายร้อยจำปาจะนำเงินเดือนทั้งหมดส่งให้นางกุหลาบเป็นผู้เก็บไว้ใช้จ่าย ในครอบครัว โดยตนเองจะใช้เงินเบี้ยเลี้ยงเป็นค่าใช้จ่าย ส่วนตัว และจะกลับมาดูแลครอบครัวเป็นประจำทุกสัปดาห์

จนถึงปี 2544 นายร้อยจำปาได้เลื่อนยศเป็นพันโทจำปา ซึ่งในระหว่างนั้นพันโทจำปาได้รู้จักกับนางหงษ์ นักธุรกิจที่ดินทำให้พันโทจำปาแอบอยู่กินกับนางหงษ์อีกบ้านหนึ่ง ในต่างจังหวัด และเริ่มที่จะส่งเงินไปให้นางกุหลาบน้อยลง ในที่สุดนางกุหลาบทราบเรื่อง ทั้งสองจึงมีปากเสียงกัน และพันโทจำปาได้ทำร้ายร่างกายนางกุหลาบ หลังจากนั้นในปี 2545 ทั้งสองฝ่ายก็แยกกันอยู่คนละบ้าน โดยพันโทจำปา ส่งเงินเป็นค่าเลี้ยงดูให้นางกุหลาบถึงปี 2550 ซึ่งเป็นปีที่พันโทจำปาเกษียณอายุราชการ และหลังจากนั้นก็ไม่ส่งค่าอุปการะเลี้ยงดูนางกุหลาบอีกเลย

ในปี 2551 นางกุหลาบจึงได้ฟ้องพันโทจำปาว่าทิ้งร้างนางกุหลาบไป ไม่ได้กลับมาอยู่กินกันฉันสามีภริยากันอีก และไม่ให้ความช่วยเหลือส่งเสียอุปการะเลี้ยงดูนางกุหลาบเช่นที่เคยปฏิบัติ ทำให้นางกุหลาบได้รับความลำบาก และเดือดร้อนต่อการดำรงชีวิต เพราะไม่มีรายได้ ไม่มีโอกาสหางานทำ เนื่องจากอายุมากและไม่มีวิชาความรู้ใด ๆ ทั้งยังไม่มีเงินทุนที่จะไปประกอบอาชีพส่วนตัว พันโทจำปามีเงินบำนาญไม่ต่ำกว่าเดือนละ 20,000 บาท สามารถที่จะให้การอุปการะเลี้ยงดูนางกุหลาบได้ ขอให้พันโทจำปาส่งเงินเป็นค่าเลี้ยงดูเดือนละ 10,000 บาท

พันโทจำปาให้การว่า ตนกับนางกุหลาบยังไม่ได้จดทะเบียนหย่าขาดจากกันตามกฎหมาย แต่บุตรทั้งสองบรรลุนิติภาวะ ทำงาน มีรายได้สามารถเลี้ยงดูนางกุหลาบที่เป็นมารดาได้อย่างดี ตนเองกับนางกุหลาบสมัครใจแยกกันอยู่ตั้งแต่ปี 2545 จนถึงปัจจุบัน ตนเองไม่มีหน้าที่จะต้องให้ความอุปการะเลี้ยงดูนางกุหลาบอีก ตนเองมีภาระหนี้เป็นค่าผ่อนส่งรถยนต์ หนี้ค่าบ้านที่กู้มาเพื่อนำไปซื้อบ้านอยู่อาศัยหลังจากแยกกันอยู่ นางกุหลาบไม่เดือดร้อนเพราะมีบุตรทั้งสองอุปการะเลี้ยงดูอยู่ นางกุหลายไม่มีสิทธิที่จะได้รับค่าอุปการะเลี้ยงดูจากตนอีก

ตามข้อเท็จจริงที่กล่าวมานี้ศาลจะพิจารณาคดีนี้อย่างไรนั้น มีประเด็นที่ต้องวินิฉัยประการแรกว่า นางกุหลาบ มีสิทธิเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูจากพันโทจำปาหรือไม่ ซึ่งกรณีนี้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ป.พ.พ.) มาตรา 1461 วรรคสอง ซึ่งบัญญัติว่า สามีภริยาต้องช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูกันตามความสามารถ และฐานะของตน และตามมาตรา 1598/38 ที่บัญญัติว่า ค่า อุปการะเลี้ยงดูระหว่างสามีภริยา หรือระหว่างบิดามารดากับบุตรนั้นย่อมเรียกจากกันได้ เมื่อฝ่ายที่ควรได้รับอุปการะเลี้ยงดูไม่ได้รับการอุปการะเลี้ยงดู หรือได้รับการเลี้ยงดูไม่เพียงพอแก่อัตภาพ ค่าอุปการะเลี้ยงดูนี้ศาลอาจให้ได้เพียงใดก็ได้ โดยคำนึงถึงความสามารถของผู้มีหน้าที่ต้องให้ ฐานะของผู้รับ และพฤติการณ์แห่งกรณี จึงเป็นบทบัญญัติเพื่อให้ความคุ้มครองแก่สามีหรือภริยาให้ฝ่ายที่มีฐานะดี ช่วยเหลือ อุปการะเลี้ยงดูตามฐานะและความสามารถ ถ้า ฝ่ายหนึ่งมีความสามารถที่จะอุปการะเลี้ยงดูแล้วไม่อุปการะเลี้ยงดู อีกฝ่ายหนึ่งมีสิทธิฟ้องหย่าได้ตามป.พ.พ. มาตรา 1516 (6) แต่ถ้าไม่ประสงค์จะฟ้องหย่า ก็ฟ้องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูได้ ตามป.พ.พ. มาตรา 1598/38 ในเมื่ออีกฝ่ายที่ควรได้รับไม่ได้รับการเลี้ยงดูตามอัตภาพ หาใช่เป็นสิทธิเรียกร้องที่เกิดขึ้นเมื่อฟ้องหย่าตามที่พันโทจำปาโต้แย้ง

ส่วนที่อ้างว่าได้แยกกันอยู่กับนางกุหลาบตั้งแต่ปี 2545 จึงไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องให้การอุปการะเลี้ยงดูซึ่งกันและกันนั้น เห็นว่า หลังจากจดทะเบียนสมรสทั้งสองอยู่กินด้วยกันที่บ้านพันโทจำปา แม้พันโทจำปาไปรับราชการต่างจังหวัดก็กลับมาบ้านดังกล่าวที่นางกุหลาบอยู่ กับบุตร นางกุหลาบเป็นแม่บ้านไม่มีรายได้เหตุที่สมัครใจแยกกันอยู่ตั้งแต่ปี 2545 ก็เนื่องจากพันโทจำปาทำร้ายร่างกายนางกุหลาบ ที่ สำคัญไปอุปการะเลี้ยงดูหญิงอื่นฉันภริยาตลอดมา การสมัครใจแยกกันอยู่จึงมิใช่ความผิดของนางกุหลาบ และนางกุหลาบไม่มีอาชีพหรือรายได้พันโทจำปาอุปการะเลี้ยงดูนางกุหลาบตลอดมา และอยู่ในฐานะที่สามารถอุปการะเลี้ยงดูได้จึงมีหน้าที่ต้องอุปการะเลี้ยงดู นางกุหลาบ นางกุหลาบเป็นฝ่ายที่มีความสามารถและฐานะด้อยกว่าและแยกไปอยู่โดยสุจริตจึง ชอบที่จะได้รับการช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูจากพันโทจำปา นางกุหลาบจึงย่อมมีสิทธิเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูได้

ปัญหาว่าพันโทจำปาต้องชำระค่าอุปการะ เลี้ยงดูเพียงใด เห็นว่าพันโทจำปามีรายได้จากบำนาญในอัตราเดือนละ 23,000 บาท และมีหนี้หลายจำนวนที่จะต้องผ่อนชำระแม้จะแยกไปอยู่กับหญิงอื่น พันโทจำปาก็ยังมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องอุปการะเลี้ยงดูนางกุหลาบซึ่ง เป็นภริยาชอบด้วยกฎหมาย

เมื่อคำนึงถึงความสามารถของพันโทจำปาและพฤติการณ์ที่มีภาระหนี้ตลอด จนฐานะของนางกุหลาบผู้รับซึ่งไม่มีรายได้และอาชีพกำหนดให้พันโทจำปาจ่ายค่า อุปการะเลี้ยงดูนางกุหลาบในอัตราเดือนละ 3,500 บาทนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป โดยไม่กำหนดระยะเวลาสิ้นสุดจนกว่านางกุหลาบหรือพันโทจำปาจะถึงแก่ความตาย หรือความเป็นสามีภริยาได้สิ้นสุดลง (เทียบเคียงคำพิพากษาฎีกาที่ 4959/2552)

-hiddendragon2552@gmail.com-


-http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9540000152857-

.

 

.


แสงสีบนกำแพงรอบวัดพระศรีรัตนศาสดารามฯ หรือวัดพระแก้ว





ซึ่งจะเป็นหนึ่งในสถานที่จัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา

-http://www.thaipost.net/node/49095-

.

 

ขอบคุณล่วงครับ ขอผมด้วย

ขอบคุณครับ

 

กราบ กราบ กราบ กราบ กราบ

เช้าวันนี้ผมไปเรียนได้เดินทางผ่านสนามหลวง เลยตั้งใจว่าจะไปกราบนมัสการพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้า..

ผมก็ได้นำพระสมเด็จทันโต เสฏโฐของพระโพธิสัตว์พระนามว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาสวมใส่เป็นมงคลในวันมหามงคลปีนี้ โดยมีส่วนผสมพระบรมทนต์ และมวลสารอื่นๆ ด้านหน้าเป็นพระพุทธชินสีห์ ฐานด้านหน้ามีพระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. ด้านหลังมีลายพระหัตย์พระนามย่อ ญ.ส.ส. มีอักษรบาลี อ่านว่า ทันโต เสฏโฐ มีพลอยแดงฝังอยู่พิมพ์ใหญ่ จัดสร้าง ๖๓,๐๐๐ องค์ ทั้งนี้เป็นการจัดสร้างเพื่อเฉลิมฉลองในศุภวาระครบรอบ ๕๐ ปีแห่งการสถาปนาคณะทันตแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ดังคำสอนของท่าน ท่านป.อ.ปยุตโต ในเรื่อง..มนุษย์ประเสริฐได้ด้วยการฝึก...

มนุษย์เป็นสัตว์ที่ประเสริฐด้วยการฝึก ถ้าไม่ฝึกหาประเสริฐไม่ มนุษย์ที่ไม่มีการฝึกเป็นสัตว์ที่แย่ที่สุดกว่าสัตว์ใด ๆ ทั้งสิ้น อันนี้เป็นหลักพระศาสนา เพราะฉะนั้น จึงมีพุทธพจน์ว่า ทันโต เสฏโฐ มนุสเสสุ แปลว่า ในหมู่มนุษย์ผู้ที่ฝึกแล้วประเสริฐ

Download...

 

อ่า อ่านข่าวดีรับเช้าวันอาทิตย์หรรษาครับ





-----------------------------------------------------------------



ผีเฉือนวิลลาหวิว 1-0 "โจนส์" ซัดชัย <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">4 ธันวาคม 2554 02:32 น.</td></tr></tbody></table>

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="middle"></td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">แอชลีย์ ยัง แย่งบอลกับ แบนนัน</td> </tr> </tbody></table>
<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">วิดิช ดวลลูกโหม่งกับ เบนท์</td> </tr> </tbody></table>
<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">วาเลนเซีย แตะบอลหนี เฮิร์ด</td> </tr> </tbody></table>


<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table> </td> <td align="center" background="/images/linedot_vert.gif" valign="middle" width="1"></td> </tr> <tr> <td align="right" height="1" valign="top" width="1"></td> <td align="center" background="/images/linedot_hori.gif" height="1" valign="top"></td> <td align="left" height="1" valign="top" width="1"></td> </tr> </tbody></table> จังหวะ โจนส์ ซัดประตูชัยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด




"ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้ฟอร์มการเล่นยังฝืด แต่ก็สามารถบุกเฉือนชนะ แอสตัน วิลลา ได้แบบหวุดหวิด 1-0 จากประตูชัยของ ฟิล โจนส์ ดาวเตะสารพัดประโยชน์ ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่สุดท้าย คืนวันเสาร์ที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แอสตัน วิลลา 0 - 1 แมนฯ ยูไนเต็ด

แมนฯ ยูไนเต็ด บุกเยือนสนามวิลลา ปาร์ก ของ แอสตัน วิลลา เป็นคู่สุดท้ายของเกมพรีเมียร์ลีกคืนวันเสาร์นี้ (3 ธ.ค.) เพื่อกลับขึ้นไปเป็นรองจ่าฝูงอีกครั้งและรักษาส่วนต่างของคะแนนกับจ่าฝูง แมนฯ ซิตี ไว้ที่ 5 แต้มต่อไป โดย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตัดสินใจพัก ดาบิด เด เคอา พร้อมให้ อันเดอร์ส ลินเดการ์ด ยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงในเกมนี้และยังขยับ ฟิล โจนส์ ลงเล่นเป็นมิดฟิลด์ ส่วนคู่หน้าเป็น เวย์น รูนีย์ และ ฮาเวียร์ เฮร์นานเดซ ขณะที่เจ้าถิ่นของ อเล็กซ์ แม็คลีช วางสามประสานแดนหน้า มาร์ก อัลไบรจ์ตัน และ กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ ลากเลื้อยทางริมเส้น โดยมี ดาร์เรน เบนท์ ยืนหน้าเป้า

เปิดฉากครึ่งแรกเพียง 7 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด เจอปัญหาเมื่อ ชิชาริโต ล้มลงเองจนเกิดข้อเท้าพลิกเล่นต่อไม่ไหวต้องเปลี่ยนตัวออกให้ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ลงสนามมาแทนตั้งแต่ต้นเกม สำหรับรูปเกมทั้งสองทีมกันอยู่บริเวณกลางสนามเป็นส่วนใหญ่จนไม่มีจังหวะลุ้น ประตูมากนัก แต่ทีมเยือนก็ต่อบอลกันได้ดีกว่า

กระทั่งเกมผ่านมาถึงนาที 20 "ผีแดง" ก็เป็นฝ่ายทำประตูออกนำ 1-0 ได้ สำเร็จ จากจังหวะการต่อบอลขึ้นมาทางริมเส้นด้านซ้าย ก่อนที่บอลจะมาถึง นานี วางบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ฟิล โจนส์ ตามมาแปแบบไม่ต้องจับ บอลพุ่งแสกหน้า เชย์ กิฟเวน นายด่านเจ้าถิ่นตุงตาข่าย

แมนฯ ยูไนเต็ด ทำเกมบุกกดดันต่อ ในนาที 25 รูนีย์ ตัดบอลมาได้จากกองหลัง วิลลา ก่อนจ่ายให้ วาเลนเซีย ซึ่งเปิดบอลไปเข้าหัว นานี โหม่งในกรอบเขตโทษ แต่ติดเซฟของ กิฟเวน ถัดมานาที 32 วาเลนเซีย ส่องไกลนอกเขตโทษจากระยะประมาณ 25 หลาเหินข้ามคาน

ขณะที่ วิลลา ไม่สามารถต่อบอลกันขึ้นไปลุ้นทำประตูแบบชัดเจนได้เลย และเกมผ่านมาถึงนาที 38 ก็ต้องเจอปัญหาบาดเจ็บของผู้เล่นเช่นกันเป็น กิฟเวน ที่ต้องเปลี่ยนตัวออกให้ แบรด กูซาน นายทวารชาวอเมริกันลงมาเฝ้าเสาแทน แต่หลังจากนั้นไม่มีจังหวะหวาดเสียวอีกจบเกม 45 นาทีแรกไป

เกมครึ่งหลัง วิลลา มีการปรับเปลี่ยนทีมส่ง สติลิยัน เปตรอฟ ลงสำรองแทน คริส เฮิร์ด ในนาที 59 ต่อมาอีก 5 นาทีก็เสีย เจอร์แมน เจนาส จากอาการเจ็บอีกโดย เอมิล เฮสกีย์ ถูกเปลี่ยนมาแทน ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เปลี่ยนแปลงผู้เล่นเช่นกัน ไรอัน กิ๊กส์ ลงแทน ริโอ เฟอร์ดินานด์ ในนาที 64 ของเกม

จังหวะลุ้นทำประตูแบบชัดเจนของทั้งสองทีมกว่าจะเกิดขึ้นต้องรอกระ ทั่งนาที 69 เป็นของเจ้าถิ่นจากลูกเตะมุม มาร์ก อัลไบรจ์ตัน วางบอลมาเข้าหัว ริชาร์ด ดันน์ โหม่งจังหวะแรกไม่เต็ม บอลเลยไปเสาสอง เฮสกีย์ พยายามโหม่งซ้ำ แต่ก็ข้ามคาน

วิลลา ทำเกมบุกดีกว่าในช่วงนี้ ผ่านมาถึงนาที 75 ก็เกือบตามตีเสมอจากลูกโหม่งในกรอบเขตโทษของ เจมส์ คอลลินส์ แต่ อันเดอร์ส ลินเดการ์ด โชว์ซูเปอร์เซฟเหินปัดออกหลังไป อีก 3 นาทีถัดมาทีมตอบโต้กลับ แอชลีย์ ยัง ลองปั่นด้วยขวาในกรอบเขตโทษ แต่เข้าซอง กูซาน

ด้าน แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสดีที่จะบวกสกอร์เพิ่มอีกครั้งในนาที 87 จากการทำชิ่งกันของ รูนีย์ และ คาร์ริก ก่อนที่กองหน้าทีมชาติอังกฤษหลุดเข้าไปซัดในเขตโทษ แต่ก็เหินข้ามคานออกไป อย่างไรก็ตาม สุดท้ายทีมเยือนก็รักษาสกอร์ได้จบ 90 นาทีเอาชนะไป 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 33 แต้มแซง ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ กลับขึ้นมาเป็นรองจ่าฝูงของตารางและตามหลัง แมนฯ ซิตี อยู่ 5 แต้มเท่าเดิม

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แอสตัน วิลลา : เช ย์ กิฟเวน, ริชาร์ด ดันน์, เจมส์ คอลลินส์, สตีเฟน วอร์น็อก, อลัน ฮัตตัน, คริส เฮิร์ด, เจอร์แมน เจนาส, แบร์รี แบนนัน, มาร์ก อัลไบรจ์ตัน, กาเบรียล อักบอนลาฮอร์, ดาร์เรน เบนท์
แมนฯ ยูไนเต็ด : อันเดอร์ส ลินเดการ์ด, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานยา วิดิช, ปาทริซ เอฟรา, คริส สมอลลิง, ไมเคิล คาร์ริก, ฟิล โจนส์, แอชลีย์ ยัง, นานี, ฮาเวียร์ เฮร์นานเดซ, เวย์น รูนีย์

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 3 ธ.ค.
นิวคาสเซิล แพ้ เชลซี 0-3
[0-1 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา น.37], [0-2 : ซาโลมง กาลู น.89], [0-3 : ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ น.90+2]

แบล็คเบิร์น ชนะ สวอนซี 4-2
[1-0 : ยากูบู น.19], [1-1 : เลรอย ลิตา น.35], [2-1 : ยากูบู น.45+2], [3-1 : ยากูบู น.56], [3-2 : ลุก มัวร์ น.65], [4-2 : ยากูบู ลูกจุดโทษ น.81]

แมนฯ ซิตี ชนะ นอริช ซิตี 5-1
[1-0 : เซร์คิโอ อกูเอโร น.32], [2-0 : ซาเมียร์ นาสรี น.51], [3-0 : ยายา ตูเร น.68], [3-1 : สตีฟ มอริสัน น.81], [4-1 : มาริโอ บาโลเตลลี น.88], [5-1 : อดัม จอห์นสัน น.90+1]

ควีนส์ปาร์ก เรนเจอร์ เสมอ เวสต์บรอมวิช 1-1
[1-0 : ไฮดาร์ เฮลกูสัน น.20], [1-1 : เชน ลอง น.81]

สเปอร์ส ชนะ โบลตัน 3-0
[1-0 : แกเร็ธ เบล น.7], [2-0 : อารอน เลนนอน น.49], [3-0 : เจอร์แมน เดโฟ น.59]

วีแกน แพ้ อาร์เซนอล 0-4
[0-1 : มิเกล อาร์เตตา น.28], [0-2 : โธมัส แฟร์มาเลน น.29], [0-3 : แชร์วินโญ น.60], [0-4 : โรบิน ฟาน เพอร์ซี น.77]

แอสตัน วิลลา แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-1
[0-1 : ฟิล โจนส์ น.20]


-http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9540000154332-

.

ลิงค์วีดีโอครับ

http://football.kapook.com/news_inside.php?id=14583&key=news


-http://football.kapook.com/news_inside.php?id=14583&key=news-
.

 

.


ผู้เชี่ยวชาญแนะวิธี “3 ไม่” เมื่อ “ฮาร์ดดิสก์” จมน้ำ <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">3 ธันวาคม 2554 23:25 น.</td> </tr></tbody></table>




<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="baseline"> แม้ ข้าวของหลายอย่างจะเสียหายไปพร้อมกับการมาเยือนของน้ำ แต่เราก็อาจกู้ “ข้อมูล” ที่มีค่าต่อธุรกิจหลายพันล้าน หรืออาจเป็นข้อมูลที่มีค่าต่อจิตใจจนประเมินค่าไม่ได้ เพียงแค่เราปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ 3 อย่าง นั่นคือ ไม่ลองเปิดใช้งาน ไม่เปิดฝาดูเองและไม่เป่าลมให้แห้ง

“ส่วนอื่นแห้งได้หมด ยกเว้นฮาร์ดดิสก์” คือคำแนะนำจาก ฉัตรณรงค์ ทรงสกุล นักวิจัยจากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ซึ่งกล่าวขึ้นภายในกิจกรรมให้ความรู้ด้านข้อปฏิบัติเบื้องต้นในการกู้ข้อมูล ฮาร์ดดิสก์สำหรับผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-3 ธ.ค.54 ณ ลานกิจกรรมศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ โดยทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ได้เข้าร่วมในกิจกรรมดังกล่าวด้วย

เหตุผลที่ฉัตรณรงค์ไม่แนะนำให้เป่าแห้งฮาร์ดดิสก์ที่จมนั้น เนื่องจากจะทำให้คราบสกปรกที่มาพร้อมกับน้ำติดแน่นอยู่กับแผ่นจานบันทึก ข้อมูล ทำความสะอาดได้ลำบากขึ้นและบางครั้งอาจจะทำให้ไม่สามารถกู้ข้อมูลสำคัญกลับ มาได้ ซึ่งทางด้าน ไพโรจน์ เตียมังกรพันธุ์ จากบริษัท อินเตอร์ ดาต้า รีคัฟเวอรี จำกัด ตัวแทนจากภาคธุรกิจด้านการกู้ข้อมูลจากสื่อบันทึกข้อมูลดิจิทัล ได้แนะวิธีสั้นๆ ในการป้องกันข้อมูลเสียหายจากกรณีฮาร์ดดิสก์จมน้ำ คือ 1.ไม่เปิดเครื่องจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ฮาร์ดดิสก์ 2.ไม่เปิดฝาฮารดดิสก์เอง และ 3.ไม่ทำให้ฮาร์ดดิสก์แห้ง

“ห้ามเปิดเครื่องเพราะน้ำและฝุ่นที่เข้าไปจะทำลายจานจนเสีย ทุกชิ้นส่วนเปลี่ยนได้ ยกเว้น จานบันทึกข้อมูล อย่าพยายามทำให้แห้ง หากน้ำแห้งข้างในจะทำให้ตะกอนติดอยู่และการทำความสะอาดจะยากกว่าเดิม และอย่าเปิดฝาเอง ซึ่งการเปิดฝาฮาร์ดดิสก์นั้นต้องอยู่ภายในห้องปลอดฝุ่น (Clean Room) ระดับคลาส 100 เท่านั้น ฮาร์ดดิสก์ที่จมน้ำนั้นยังอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ก่อนจมน้ำ จึงยังกู้ได้อยู่ เมื่อเทียบกับกรณีฮาร์ดดิสก์ตกแล้ว ฮาร์ดดิสก์ที่ตกจะเกิดรอยขึ้นบนแผ่นทำให้โอกาสในการกู้คืนแทบเป็นไปไม่ได้ เลย” ไพโรจน์กล่าว

ไพโรจน์กล่าวว่าน้ำที่เข้าในฮาร์ดดิสก์นั้นจะไม่ทำอันตรายจานบันทึก ข้อมูลซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่เก็บข้อมูลอันมีค่าไว้ เมื่อส่งถึงผู้เชี่ยวชาญแล้ว ผู้เชี่ยวชาญจะล้างเอาน้ำออกก่อนที่จะบันทึกข้อมูล แต่กรณีที่น้ำเป็นกรดหรือด่างเข้าไปในฮาร์ดดิสก์หรือแผ่นจานทำปฏิกิริยากับ อากาศแล้วจะเป็นปัญหาต่อการกู้ข้อมูล หรือในกรณีเลวร้ายอาจไม่สามารถกู้ข้อมูลคืนได้ โดยโอกาสที่จะกู้ข้อมูลคืนนั้นขึ้นอยู่กับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับจาน บันทึกข้อมูล หากจานถูกทำลายแล้วมีโอกาสที่จะกู้คืนได้น้อย ทั้งนี้ การกู้คืนข้อมูลต้องเป็นหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญ มีสถานที่และอุปกรณ์พร้อม

ส่วนฉัตรณรงค์นั้นเสริมว่า การแจ้งเหตุที่ถูกต้องแก่เจ้าหน้าที่จะช่วยได้มาก เพราะเจ้าหน้าที่จะได้แก้ไขตามขั้นตอนที่ถูกต้อง เช่น กรณีตกน้ำเจ้าหน้าที่จะได้ไม่เสียบไฟจ่ายกระแสไฟฟ้า พร้อมทั้งบอกด้วยว่าฮาร์ดดิสก์ที่เหมือนใช้งานไม่ได้แล้ว เช่น ตกน้ำ หรือฟอร์แมตหลายๆ ครั้งนั้น ยังสามารถกู้ข้อมูลกลับมาได้อยู่ โดยการฟอร์แมตก็เหมือนการลบดัชนีรายชื่อหนังสือในห้องสมุด แต่หนังสือยังคงอยู่

พร้อมกันนี้ ดร.ศิริเดช บุญแสง รองคณบดี วิทยาลัยนวัตกรรมการจัดการข้อมูล สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง อธิบายว่าชั้นเก็บข้อมูลนั้นมีความหนาในระดับอังสตรอม หรือ 10^-10 เมตร ซึ่งเล็กกว่าระดับนาโนเมตร โดยการเก็บข้อมูลบิต 0 และ 1 นั้นจะอยู่ในรูปสนามแม่เหล็กไฟฟ้า แต่ในการเขียนอ่านข้อมูลนั้นหัวอ่านจะไม่สัมผัสกับจานบันทึกข้อมูลแต่จะลอย อยู่เหนือแผ่นเหมือนเครื่องบินรอนไปมาในระยะห่างที่น้อยกว่าความกว้างของ เส้นผม ซึ่งหากมีสิ่งสกปรกเข้าไปอยู่ตรงส่วนดังกล่าวจะทำให้ฮาร์ดดิสก์พังได้ อย่างไรก็ดี โอกาสที่ฝุ่นหรือสิ่งสกปรกจะเข้าไปในฮาร์ดดิสก์นั้นน้อยมาก แต่อากาศยังคงเข้าไปได้

“เมื่ออากาศเข้าไปได้ น้ำก็เข้าไปได้เช่นกัน ก็ภาวนาว่าน้ำเน่าดำๆ ในภาคกลางนั้นไม่เป็นกรดมาก ถ้าเป็นกรดแล้วแย่เลย” ดร.ศิริเดชกล่าว

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="500"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ไม่เปิดเครื่อง ไม่เป่าแห้ง และไม่เปิดฝาฮาร์ดดิสก์เอง </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table>

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="330"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="330"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ควรนำฮาร์ดดิสก์จมน้ำใส่ซอง ผนึกแล้วส่งให้ผู้เชี่ยวชาญ </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table>

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="437"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="437"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table>

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="375"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="375"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">กรณีแผ่นจานบันทึกข้อมูลมีรอยขีดข่วนจะไม่สามารถกู้ข้อมูลคืนได้ </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table>

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="500"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ฮาร์ดดิสก์ที่โดนไฟไหม้ยังกู้ข้อมูลคืนได้ หากจานบันทึกข้อมูลยังไม่เสียหาย</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table>

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="600"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="600"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">วิทยากร (ซ้ายไปขวา) ณรงค์เดช, ไพโรจน์ และ ดร.ศิริเดช</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>

-http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9540000154312-

.

 

.



ศูนย์ข้อมูลข่าวสารเพื่อการประชาสัมพันธ์
การจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔

-http://www.king84.th/th/-

.




.

 

.


194.8 KB, ดาวน์โหลด 4 ครั้ง







217.4 KB, ดาวน์โหลด 1 ครั้ง






.

 

ขอพ่อหลวงของปวงชนชาวไทย ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

 

ตาลุงนำ 1 ใน 1000 มาฝาก พี่ไฟดูดเห็นแล้วก็อดไม่ได้..ซักหน่อย..

ว่ากันว่า เหรียญอัลปาก้าอีกรุ่นก็มีประสบการณ์จากทหารที่ปฏิบัติงานภาคใต้ คนขับรอด เพราะเหรียญอัลปาก้ามหายันต์ ด้านหลังมียันต์+พระนารายณ์ ส่วนอีก 4 นั้นไม่รอด ..

ผมก็มีพระกรุเก่านารายณ์ทรงปืน ปี ๒๕๑๙ วัดภูตะแบงสร้างด้วยดินหินปราสาทขอม ของที่หลวงปู่สรวงท่านเสกให้...

 

ตาลุงข้างบ้านมี 1 ใน 1,000 แบบนี้สร้างมากกว่าในราว 3,999 แต่มี ๓ พิเศษตรงที่ว่า ..
พิเศษ ๑ รุ่นนี้เป็นมวลสารแตกหักของพระกรุนาดูน และดินมหามงคลจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศมาจัดสร้างแบบย้อนรอยพระปางปฐมเทศนา หรือที่ชาวบ้านเรียกพิมพ์นั่งเมือง จัดสร้างเป็นพิมพ์ใหญ่ และพิมพ์เล็ก

พิเศษ ๒ คือด้านหลังองค์พระได้บรรจุเส้นเกศา และจีวรของหลวงปู่สรวง

พิเศษ ๓ คือ รายได้จากการบูชาพระรุ่นนี้ นำไปร่วมจัดสร้างวัดกันทอมที่ ประเทศเขมร ประเทศบ้านเกิดของหลวงปู่ท่าน สังเกตว่า ด้านหลังมีตอกโค๊ตตราวัดกันทอม..

แบบนี้พอเทียบ 1 ใน 1,000 ได้ไม๊ครับ..

ถือว่า นำมายั่วพี่ไฟดูดเล่น...