พบปะ พูดคุย ประสาเพื่อนพ้องน้องพี่ แบบกันเอง

อนุโมทนาบุญด้วยครับ

 

ค่ะ
Myuppic.com เว็บฝากรูป ไม่มีวันหมดอายุ

ระวังไวรัส หุหุ...

 

ชุด นี้ กระผมชอบมากกกกกกกกกกกกกก
กรุนี้ จะแตกอีกเมื่อไร
ส่งข่าวบอกด้วยนะครับ
โดยเฉพาะ องค์อกครุฑ เศียรบาตร
เห็นแล้ว หัวใจหวิวๆไปเลยครับคุณ ปี้ด
(deejai):z3:z3:z3(deejai)

 

ใจเย็น จ้า คุณ นอร์
เดียวสักครู่ก็น่าจะ โอเค ครับ แหะ:''(

 

สวัสดีครับ น้าหมู พี่เสือ
ปีใหม่ ไปเที่ยวใหนกันคร้าบบบบบบบบบบ

 

จัดเพลงโฆษณา "แป้งน้ำมองเล่ยะ" ที่สุรพล สมบัติเจริญ ขับร้อง รื้อฟื้นความหลังในวันเสาร์สบายๆแบบนี้ครับ อิอิ

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=n-0jFdXvcp0"]???????????????? -????? ??????????? - YouTube[/ame]

 

กรุนี้เป็นกรุเก่าแก่ พี่คนนี้ตระกูลแกเป็นศิลปินแห่งชาติด้านการแสดงศิลปะไทยครับ พี่รุ่งชมบารมีแล้วคิดเห็นอย่างไรบ้างครับผม...

 

กระผม ชอบมากครับ(ของเขาดีจริงๆ) ถ้ามีอีก
กระผมขอลงทะเบียนรับแจก คนที่ 1 ครับ เอิ้กกก

 

สิริมงคล 7 อย่าง
ที่ผ่านมาเราทราบเพียงแต่ว่า การกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อย่างพระทั้ง 9 แล้วรำลึกถึงบุญคุณของท่านและขอพรให้ท่านช่วยปกปักรักษาเกื้อหนุนเราก็น่าจะเพียงพอ แต่หลายคนที่ทำอย่างนั้นแล้ว กลับพบว่าสิ่งดีๆ หรือความเป็นสิริมงคล ไม่เห็นจะเกิดขึ้นได้อย่างชัดเจนเลย นั่นเป็นเพราะเราขาดสิ่งสำคัญ ไป ในการกระทำตนให้ความเป็นสิริมงคลนั้น เข้ามาช่วยเหลือสนับสนุนเราได้อย่างเต็มที่ซึ่งอธิบายทราบดังนี้

1.กฏแห่งกรรม
จะต้องเคารพกฎแห่งกรรม ให้เกียรติการกระทำทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้น ล้วนเป็นอำนาจของการกระทำทั้งสิ้น ซึ่งเราอาจไม่เคยเห็นมันมาก่อน ก็เรียกกันว่า "กรรมเก่า"
หรือ เห็นกันอยู่ ณ ปัจจุบัน ก็ เรียกว่า "กรรมใหม่" ซึ่งไม่มีอะไรเหนือกฎนี้ไปได้

เปรียบเทียบตัวอย่างนิทานสั้นๆ เรื่องหนึ่ง

มีชายคนหนึ่งสอบถามหลวงพี่ที่นิมนต์มาที่บริษัทเพื่อทำบุญเปิดบริษัทของตัวเอง โดยมีการนำน้ำพระพุทธมนต์ไปประพรมที่ชั้นดาดฟ้า
ด้วยชายคนนี้ เขาไม่เคยเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมเลย แล้วจะได้รับผลแห่งกรรมได้อย่างไร จึงได้ถามหลวงพี่เพื่อแก้ข้อสงสัยที่มีอยู่ในใจมานาน

"หลวงพี่ครับ ในเมื่อผมไม่เชื่อในกฎแห่งกรรมแสดงว่าผมก็จะไม่ได้รับผลแห่งกรรมใช่หรือเปล่าครับ ในเมื่อผมไม่เชื่อมันแล้วมันจะเกิดขึ้นกับผมได้อย่างไร"

หลวงพี่จึงอธิบายสั้นๆ ว่า "กฎแห่งกรรมนี้ ก็เหมือนกฎของแรงดึงดูดของโลกนั่นแหละ ถ้าเรากระโดดลงไปจากตึกนี้ โดยไม่เชื่อว่าเราจะตกลงไป แต่ผลของมันจะยังดำเนินต่อไปใช่หรือไม่" ชายหนุ่มได้ฟังดังนั้น จึงหมดข้อสงสัยในกฎข้อนี้ทันที คือเมื่อเราทำสิ่งใดไปแล้วย่อมจะได้รับผลสิ่งนั้น ตามกฎที่ว่าไว้

หากเราไม่เคารพกรรมนั้น กรรมก็จะไม่เคารพเรา เมื่อกรรมไม่เคารพ เราก็ต้องทนทุกข์ทรมานจากการลงโทษของกรรมนั้นๆ ไม่ว่ากรรมใดๆ เราก็เป็นคนสร้างเป็นผู้ใหกำเนิดมัน
กรรมที่เกิดขึ้นแบ่งได้ 3 แบบคือ
1 กรรมทางกาย
กรรมอันเกิดจากการตัดชีวิตคนอื่น การลักขโมยผู้อื่น การผิดลูกผิดเมีย หรือปัจจุบันมีกระทั่งการผิดสามีของคนอื่น เบียดเบียนให้คนอื่นต้องทุกข์ร้อนทางกายใดๆ ก็เรียกเป็นการก่อกรรมทางกายทั้งสิ้น

2.กรรมทางคำพูดอันเกิดจากการพูดเท็จ ส่อเสียด หยาบคาย เพ้อเจ้อให้คนอื่นเขารำคาญหรือทุกข์ หรือแม้กระทั่งการยุยงส่งเสริมให้คนอื่นแตกแยกกัน เห็นคนอื่นเกลียดแล้วตัวเองมีความสุข ก็เรียกเป็นกรรมทางวาจาคำพูดทั้งสิ้น

3.กรรมทางใจ หรือความคิด คือ มีความโลภอยากได้ของคนอื่นๆ มาอย่างง่ายๆ ไม่เลือกวิธีการ ไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ปองร้ายพยาบาทและเห็นผิดเป็นชอบ เห็นความชั่วเป็นความสวยงามอย่างนี้คือ กรรมทางความคิด และจิตใจ

กรรมทั้ง 3 อย่าง ต้องแก้ด้วยการสร้างคุณงามความดี จึงจะเรียกได้ว่าเป็นการปฏิบัติตนให้เกิดความเป็นสิริมงคล ชำระล้างปรับจิตให้สะอาดในการเสริมดวงชะตาเสริมบารมีอย่างแท้จริง ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ตามหลักกฎแห่งกรรม

 

มีเพลงโฆษณาคั่นด้วย.....แป้งน้ำม่องเลยะ แป้งนี้ตอนนี้ยังมีอีกหรือเปล่าค่ะ
สมัยนั้นอยู่ ป.2 ค่ะ :d

ใช้แป้งนี้ทาเสร็จ ฟังเพลงนอนหลับเลย...
*ขอบคุณค่ะ แก้ฝ้าด้วยหรือคะ

 

ถ้ามีโอกาสไปพักที่โรงแรมพี่ จะนำองค์จริงไปให้ชมครับผม

 

สวัสดีน้อง ภณ เข้าใจหาเพลงมาลงให้ฟังนะ สุดยอดมาก เอิ้ก เอิ้ก

 

สาธุ ด้วยครับ คุณ นวล
ถ้าเรานับถือศาสนาพุทธ .....ต้องเชื่อเรื่องกฎของกรรม ครับ

 

2.ให้ทานอยู่เสมอ

การบำเพ็ญทานนั้นมีอยู่หลายรูปแบบ เป็นการสละทรัพย์สินส่วนตัวที่มีอยู่ให้ผู้บุคคลอื่น โดยหวังจะให้คนอื่นได้รับประโยชน์และความสุขด้วยความมีเมตตาจิตของตน ซึ่งมีหลายรูปแบบในการให้ทาน เช่น บริจาคเป็นเงิน เป็นสิ่งของ ฯลฯ

การให้ทานที่เราทุกคนปฏิบัติได้ง่าย ก็คือ การทำบุญตักบาตร นอกจากทำได้ง่ายแล้วยังเป็นการส่งเสริมในพระพุทธศาสนาอีกทางหนึ่ง ช่วงที่ใส่บาตรตอนเช้าจะส่งผลให้คนใส่บาตรรู้สึกดี นำความเป็นสิริมงคลมาให้แก่ผู้ทำ
การบำเพ็ญทานด้วยการตักบาตรพระนั้น ขอให้ทำตามกำลังที่มี โดยที่เราไม่เดือดร้อนและเกิดความทุกข์ ของที่ถวายก็ต้องเป็นขอที่ได้มาสุจริต จึงจะถือเป็นสิริมงคลที่แท้ ในที่นี้ขอแนะนำให้ทำบุญตักบาตรตามลำดับ วันเกิด โดยมีลำดับและเคล็ดดังต่อไปนี้

วันอาทิตย์
ให้ทำบุญด้วยอาหารคาว ประเภทไข่แบบต่างๆ อะไรก็ได้ส่วนอาหารหวาน ก็เป็นขนมที่มีไข่และกระทิเป็นส่วนประกอบ เช่น ไข่หวาน มะพร้าวอ่อน น้ำมะพร้าว ขนมใส่กระทิ ลอดช่องส่วนของถวายพระ ให้เป็นธูปเทียน อุปกรณ์ให้แสงสว่าง อย่างหลอดไฟ ไฟฉาย เป็นต้น
เสร็จแล้วให้ไปเติมน้ำมันตะเกียงตามวัด ทำทานกับคนตาบอด ที่โรงเรียนสอนคนตาบอด หรือมูลนิธิคตาบอด โรงพยาบาลโรคหัวใจ หรือกิจกรรมใดๆ ที่ช่วยให้แสงสว่าง อำนวยความสว่างให้คนอื่นจะบังเกิดสิริมงคลกับตัวอย่างมากมาย

*พิมพ์ไปพิมพ์มา เคยลงแล้วยังค่ะ เริ่มงงตัวเองค่ะ..:d

 

วันจันทร์
ให้ทำบุญด้วย
อาหารคาว ประเภทเนื้อสัตว์ปีกอย่าง ไก่ เป็ด หรือสัตว์น้ำก็ได้เป็นส่วนประกอบ เช่น ต้มข่าไก่ ปลานึ่ง ปลาทอด (คุณนอร์ทอดเก่ง) ข้าวผัดกุ้ง ปลาหมึกผัดผงกระหรี่ ฯลฯ ส่วน
อาหารหวาน เลือกขนมหวานที่ทำจากธัญพืช อย่างน้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง น้ำอ้อย เป็นต้น สิ่งของที่ถวายพระควรเป็นแก้วน้ำ หรือแจกันที่ทำจากแก้วใส ให้ความรู้สึกใสเย็นแบบพระจันทร์
เสร็จแล้วให้ดำเนินกิจกรรมที่เป็นทานและเกี่ยวกัน สตรี เช่น บริจาคเงินกับมูลนิธิที่ช่วยเหลือสตรี ทำจิตใจให้สดชื่นแจ่มใสหลังจากการทำทานแล้ว (ห้ามบ่น)หรือหงุดหงิด อย่าวิตกกังวลเรื่องใด อันจะนำโรคร้ายมาถึงตัวได้ โดยเฉพาะสตรีที่ต้องระวังเรื่องเรื่องโรคของผู้หญิงเป็นพิเศษ ก็จะบังเกิดสิริมงคลกับผู้บำเพ็ญทานในข้อนี้อย่างมาก

 

สมเด็จแช่น้ำมนต์ หลวงปู่โต๊ะ ชำรุด
ญาติธรรมให้มายุบเป็นมวลสารสร้างพระครับ

 

วันอังคาร
ให้ทำบุญด้วยอาหารคาว ประเภทเส้น อย่าง ขนมจีน แกงจืด วุ้นเส้น บะหมี่ ก๋วยเตี๋ยว
ของหวาน แนะนำให้ทำบุญด้วยของหวานที่มีชื่อ หรือลักษณะมีสีเหลืองหรือสีแดง อย่างขนมฝอยทอง ซ่าหริ่ม ทุเรียน ระกำ ขนุน น้ำหวานสีแดง
สิ่งของถวายพระให้ทำบุญด้วยของใช้ประจำวัน ที่พระกิกษุต้องใช้อย่างแปรงสีฟัน ยาสีฟัน พัดลม กรรไกรตัดเล็บเป็นต้น

เสร็จแล้วให้ดำเนินกิจกรรมที่เป็นทานกับคนพิการทางปาก เช่น (อย่าไปด่าเขานะคะ):d
เช่น บริจาคทานให้กับคนพิการทางปาก เช่น ปากแหว่ง เพดานโหว่ หรือคนที่เป็นลมชัก หรือแม้แต่คนใบ้ คนวันอังคารนั้น เป็นคนธาตุไฟส่วนใหญ่จะมีอุปนิสัยใจร้อน ต้องหมั่นเจริญสมาธิเพื่อลดอารมณ์ร้อน ลดการแย่งชิงดีทุกรูปแบบ แต่ก็ต้องกระฉับกระเฉงตื่นตัวอยู่เสมอ (ไม่นอนตื่นสาย) จึงจะเป็นการบำเพ็ญทานให้เกิดความเป็นสิริมงคลอย่างสมบูรณ์

 

กระผม วันอาทิตย์ จะทำตาม คุณ นวลบอกครับ แหะ

 

วันพุธ (กลางวัน)
ให้ทำบุญด้วยอาหารที่มีสีเขียว อย่างเช่น แกงเขียวหวานและอาหารประเภท ปิ้ง ทอด หรือย่างทั้งหลาย
อาหารหวาน ก็เช่นกัน เน้นที่มีสีเขียว อย่างน้ำฝรั่ง ชมพู่สีเขียว มะม่วงเขียวเสวย สิ่งของที่ถวายพระ ก็ควรเป็นอุปกรณ์ที่ส่งเสริมด้านการศึกษาอย่าง สมุด ปากกา ดินสอ ที่พระท่านต้องใช้ศึกษาในพระธรรมวินัย
เสร็จแล้วให้ดำเนินกิจกรรมที่เป็นทานกับคนที่พิการทางหู โรงเรียนสอนคนหูหนวก อ่านหนังสือธรรมะ ร้องเพลง ฝึกเสริมสร้างความมั่นใจให้ตนอเองให้เกิดขึ้นทางการพูดและการได้ยิน ก็จะเป็นสิริมงคลแก่ผู้ทำทานอย่างสมบูรณ์

 

สภาพพระ ยังถือว่า ดีอยู่ครับ ซ่อมนิดหน่อย น่าจะ ดีนะ