คนบ้ากามครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย wechza, 4 มกราคม 2012.

  1. boatsa2538

    boatsa2538 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +90
    ลองวิธีนี้ดูครับ
    ไม่ต้องเลิก แต่ให้ดูซ้ำๆไม่ต้องเปลี่ยนเรื่อง..ให้มันเบื่อ เหมือนมีภรรยาคนเดียว 55+


    อันนี้ก็ขำนิดๆ สมมติเราชอบกินส้มตำมาก ลองกินทุกวันทุกมื้อดู แปปเดียวก็เบื่อ เบื่อแล้วก็พัก ก็กินใหม่อีก แต่เรื่องกามมันกว่าจะเบื่อ เจ้าตัวก็ไปปรโลกซะแล้ว 555+ ถ้าจะละก็ให้ตั้งใจจริงๆ อย่าเหลาะแหละ ไม่งั้นแพ้มันทุกทาง .<!-- google_ad_section_end -->
     
  2. umpawan

    umpawan สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +0
    การจะละจากสิ่งใดต้องเพ่งโทษในสิ่งนั้น

    ขออนุโมทนาสาธุกับคุณที่มีความพยามจะละเครื่องดองของใจออก

    การจะละจากสิ่งใดต้องเพ่งโทษในสิ่งนั้นให้มากๆ เพราะมันเป็นความสุขที่จอมปลอม ราคะความกำหนัดที่เกิดขึ้นนั้นมัน อยากแล้วก็หายอยาก แล้วมันก็อยากอีก เหมือนการขีดเส้นซ้ำๆที่เดิม เวลาจะลบก็ยากเป็นธรรมดา ต้องมีขันติธรรม ฟืนใจ เตือนตนด้วยตนเอง อย่าเอาความอยากไปดับความอยาก มันก็มีเกิดและดับเป็นธรรมดา พยายาหาเครื่องอยู่ของจิต ด้วยคำบริกรรมให้มากๆ กำลังญาณช่วยได้มากๆ ขอเป็นกำลังใจให้ครับ
     
  3. umpawan

    umpawan สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +0
    การบำเพ็ญต้องหลีกเว้นออกจา<WBR>กสิ่งที่เคยยึดถือยึดมั่นทุ<WBR>กอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อ หนัง เอ็น กระดูก เป็นตัวเริ่มต้นเลยในการถอน<WBR> เมื่อเราไม่ได้ยึดมั่นถือมั<WBR>่น เป็นเนื้อ หนัง เอ็น กระดูกแล้ว อย่างอื่นมันไม่ยึดถือกันอั<WBR>ตโนมัติ

    ยิ่งรู้แจ้งในกายมากเท่าไหร<WBR>่ สติปัญญายิ่งมีกำลังมากขึ้น<WBR>เท่านั้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • _1_~1.PNG
      _1_~1.PNG
      ขนาดไฟล์:
      145.1 KB
      เปิดดู:
      92
  4. undersun

    undersun สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +0
    หาพระมาแขวนครับ เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เวลามันเกิดอารมขึ้นมา ดับยากครับ ผมได้พระนี้ละ พอมีอะไรไม่ดี ก็นึกว่า เออ ละอายชั่วกลัวบาปมั่ง พระก็อยู่ที่คอ มันก็เลยไม่ทำครับ(สำหรับจับอารมไม่ทัน เข้าใจครับ เพราะ ถ้าจะทันก็คงหยุดไปนานแล้ว แค่เสนอวิธีครับ ผิดถุกประการใด ชี้แนะด้วย) .
     
  5. ้ีhusapol

    ้ีhusapol สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +0
    เห็นด้วยนะกับคำตอบนี้ มันเป็นกรรมของเพศชายโดยเฉพาะครับเพราะผู้ชายส่วนใหญ่จะมีอารมณ์ทางเพศ(ความต้องการทางเพศ)ค่อนข้างแรงมากกว่าผู้หญิงถ้าในอดีตชาติไม่ได้ฝึกการละราคะมาเลยก็ยากมากครับที่จะทำ แต่ก็ไม่ยากเกินไปนักถ้าเราคิดจะละมัน ขออย่างเดียวว่าเราจะละให้ได้มากที่สุด ถึงไม่หมดราคะแต่ก็ถือว่าได้ละราคะออกในจิตใจได้บ้างแล้วครับ ยังไงก็ขอเอาใจช่วยเพราะผมเองก็กำลังจะละอยู่เหมือนกัน เพราะผมคิดว่าคิดจะละดีกว่าที่ไม่คิดเลย เพราะถ้าคิดแบบนี้ไปเรื่อย ๆสักวันนึงมันก็อาจจะทำให้ใจเราเข้มแข็งขึ้นมาก็เป็นได้ครับ
     
  6. aumpornphat

    aumpornphat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +22
    ผู้ชายสมควรเข้ามาอ่านโพสนี้มากๆ.....ขอบคุณที่มีคนตั้งกระทู้เปิดใจแบบนี้..เพราะมันเป็นชีวิตจริงที่ต้องเจอ....อารมณ์ตัวนี้กับผู้ชายทุกคนจริงๆ

    หรือแม้แต่ผู้หญิงก็เถอะ..ผมว่าก็ไม่ต่างอะไรกับผู้ชายมาก..เพราะก็เป็นปุทุชน คนธรรมดาเหมือนกัน
     
  7. somkun62

    somkun62 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    275
    ค่าพลัง:
    +765
    บริกรรมไว้คุณน้อง บทใหนก็ได้มัันตัดอารมณ์อยากช่วงนั้นได้จริงๆ เข้าใจว่าเรายังเป็นปุถุชนอยู่เรื่องอย่างนี้มันก็ต้องมีบ้าง

    แต่ทำบ่อยๆมันก็ไม่ดีจิตมันหมกมุ่นอยู่กับเรื่องอย่างว่า มันทำให้จิตใจของเราเศร้าหมองรู้สึกผิดทุกครั้งเมื่อเสร็จกิจ เป็นอย่างนี้อยู่ร่ำไป
    มันต้องสู้ ต้องสู้ถึงจะชนะ

    ผมเข้าใจคุณนะ เพราะผมก็ไม่ต่างจากคุณเท่าใหร่หรอก ดูทุกวันเหมือนกัน พยายามสู้กันมาหลายครั้งแล้ว แพ้ตลอด
    หนังโป้วันนี้ลบ อีกสองวันก็โหลดใหม่ เป็นอยู่อย่างนี้มานาน ขนาดตัดสินใจไปบูชาพระแก้วมรกตมาไว้ในห้องนอน(ทำห้องนอนเป็นห้องพระ)แล้วย้ายคอมฯไปไปไว้นอกห้อง มันยังตามไปดูหนังโป้ถึงนอกห้อง คิดดูแล้วกัน :'(

    และแล้ววันนั้นก็มาถึง วันที่ตัดสินใจบริกรรมพุทโธ 5 ธันวา 54 จนถึงวันนี้ เฮ้ย!...มันได้ผลจริงๆด้วย (smile)
    ไม่สงสัยเลยว่าทำไมครูบาอาจารย์ถึงให้ลูกศิษย์บริกรรม มันเป็นเช่นนี้นี่เอง

    นี่คือเรื่องราวเล็กๆน้อยๆจากผม ตัวผมเองก็ไม่ได้ดีเด่นอะไร ไม่ได้หวังว่าจะอดทนในเรื่องใต้สะดือไปทั้งปีทั้งชาติ เพราะเรายังเป็นปุถุชนคนหนาด้วยกิเลสอยู่ เพียงแค่ขอให้มันทุเลาเบาบางลงไปได้บ้างก็เท่านั้น ไม่ใช่วันๆดูแต่หนังโป้ จบพอกันที อิอิ
     
  8. Homealond

    Homealond เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +476
    อสุภะกรรมฐาน หามาดูจน เลิกขยะแขยง ดูจนจิตมันนิ่ง จนเข้าใจว่ากายมันเป็นยังไง ก็ผ่านได้
     
  9. kiddsi

    kiddsi สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2012
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +0
    ถามต่อยอดครับ

    การที่เรามีจิตไปหลงในกามอารมณ์ และทำการช่วยตัวเอง เป็นบาปไหมครับ
    หรือการที่เราคบกับแฟนของเรา (ยังไม่ได้แต่งงาน) แล้วมีความสัมพันธ์กัน
    เป็นบาปหรือไม่ครับ
     
  10. somkun62

    somkun62 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    275
    ค่าพลัง:
    +765
  11. tonnuch

    tonnuch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +114
    อสุภะกรรมฐาน

    ถ้าว่ากันเรื่องกามราคะแล้ว มีกันทุกคน (ถ้ายังใม้สินกิเลศ)เคยถามในหมู่เพื่อนๆๆที่เป็นแบบคุณนั้น ก็มีมากมาย แต่จะกล้าบอกกล่าวกันหรือใม่นั้น ก็อีกเรื่องหนึ่ง บางคนอาจจะอายใม่กล้าพูดก็มี บางคนทำตัวเงียบๆๆแต่จริงๆๆแล้วกลับเร่าร้อนรุนแรงในเรื่องกาม มีเพื่อนเคยโทรมาคุย และเคยแนะนำเขาไปก็ใด้ผลดี หลายต่อหลายคน ก็คือการเพ่งมองอสุภะกรรมฐาน ดูความใม่งามของร่างกายของเขาและเรา เช่นภาพ ซากศพ ที่กำลังเน่า กำลังขึ้นอืด กำลังบวม น้ำหนองกำลังใหล หนอนกำลังใช หรืออีกหลายๆๆภาพ มานั่งพิจริณา หรือภาพที่เขากำลังผ่าศพ ถ้าใจยังใม่ถึง ก็เอารูปคนแก่ ฟันหัก หลังค่อม ผิวหนังเหี่ยวย่นมาดูแทนไปก่อน แล้วน้อมเอามาพิจะรณา ว่าคนที่เราหลงใหล หรือตัวเราเอง นั้นสุดท้ายก้ใม่ต่างกับรูปพวกนี้ มองกายเราหรือกายคนอื่น เป้นของใม่งาม ถ้าทำใด้บ่อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆกามมันจะเริ่มดับ แต่ต้องพิจริณาบ่อยๆๆนะคับ ใม่ใช่ทำแค่5นาที10นาทีก็หยุด แล้วมาบอกว่าใม่ใด้ผล พระพุทธองค์บอกว่าให้มีความเพียร คือทำบ่อยๆๆทำเรื่อยๆๆทำสมำเสมอ แล้วก้จะใด้ผลกับสิ่งที่ท่ำนั้น ทำดูเลยครับ แต่ถ้าคุณรู้แล้วใม่ทำหรือตั้งเก่งแต่คำถามก้จะใม่ใด้ผลอะไรเลย เหมือนบุคคลผู้อยากใด้ข้าว ใด้แต่นั่งพูดพล่าม ว่าอยากใด้ข้าว แต่ใม่ลงมือเพาะปลูก ก้คงใม่ใด้อะไรเลย แต่ถ้าคุณทำใด้คุณจะใด้ที่พึ่งอันเกษม ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน ใครอื่นเล่าจักเป้นที่พึ่งให้เราใด้ (ใด้ผลยังใงก้มาเล่าสู่กันฟังบ้าง) ขอให้สรรพสัตว์ทั้งหลายเข้าถึงพระโพธิญาญทุกตัวตนเทอญ
     
  12. tonnuch

    tonnuch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +114
    นอนกับแฟนยังใม่แต่งงาน

    เคยเข้าไปถามครูบาอาจารย์ ท่านบอกว่าถ้าพ่อแม่ทั้งฝ่ายหญิง และฝ่ายชาย รู้ว่ารักกันคบกันอยูด้วยกันแล้ว ท่านใม่ว่าอะไรก้ใม่ถือว่าผิด ถือว่าท่านใด้รับรู้แล้ว แต่ถ้าท่านใม่รู้คือแอบรักชอบกันเองมีอะไรกันเองผิดแน่นอนครับ ถ้ายิ่งทำบ่อยๆๆก้ยิ่งผิดบ่อย ๆๆ ถ้าใม่อยากผิด ก้ไปทำให้ถูกทำนองคลองธรรมก่อน ถ้าใม่ทำให้ถูกบาปๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆแน่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
     
  13. กสิน9

    กสิน9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    322
    ค่าพลัง:
    +270
    เรื่องธรรมดา

    ผมก็เป็นครับอาการเหมือนคุณเลยแถมยังชอบชักโชวสาว ๆอีก ละไม่ได้สักที พอเสร็จก็จะบ่นทำไปทำไมวะ ไม่น่าเลย 5555555555:cool:
     
  14. กสิน9

    กสิน9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    322
    ค่าพลัง:
    +270
    ขอแย้งหน่อย แต่พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายไม่ได้รับรู้ว่าได้เสียกันนี่สิครับที่ผิด รู้แค่คบกันเฉย ๆขืนไปมีอะไรกันก็ยังถือว่าผิดแน่นอน
     
  15. กสิน9

    กสิน9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    322
    ค่าพลัง:
    +270
    ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ต่อให้เพ่งอสุภะก็ปลงได้แค่ตอนที่เพ่ง เพราะอะไรหรือก็เพราะผมลองมาหมดแล้วครับขนาดเพ่งทั้งรูปทั้งของจริงก็หยุดตรง ณ ขณะนั้น ชั่วคราว สรุปคือมันอยู่ที่ใจ ถ้าตัดได้เมื่อไหร่ก็จบเหมือนการสูบบุหรี่ที่เลิกยากนัก ถ้าเคยสูบจะรู้ครับว่ามันเลิกยากต้องอาศัยใจตัวเดียวแบบหักดิบ จะละกามได้ก็โน้นเลย พระอนาคามีขึ้นไปแล้ว ฉนั้นไม่ต้องกังวล แม้นแต่พระโสดาบันหรือพระสกิคายังละไม่ได้ นับประสาอะไรกับพวกเรา ๆท่าน ๆ ปฏิบัติต่อไปครับ สักวันหนึ่งก็สำเร็จได้ด้วยใจ
     
  16. อ่านยาก

    อ่านยาก สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +3
    ว่างมากไปมันก็ออกแนวหมกมุ่นนะครับ ถ้าจะเอาแนวธรรมะมาข่ม ผมได้ฟังท่าน ว. พูดกะวูดดี้ว่า พระพุทธเจ้าท่านบอกพระสาวกก่อนที่ท่านจะปรินิพานว่า "กามรมณ์ก็คือความคิด" เอาชนะความคิดได้ก็เอาชนะมันได้ครับ มันอยู่ที่เราดูแล้วเราไปต่อยอดกะมันรึเปล่า
     
  17. wechza

    wechza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +246
    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำทุกกระทู้นะครับ
    มีเรื่องแปลกนิดๆมาเล่าให้ฟังครับอาจจะบังเอิญแต่ก็อยากเล่า
    เมื่อคืนเล่นเน็ตไปมาด้วยความเคยชินเลยคิดว่าจะเปิดดูพอเปิดไปเท่านั้นเน็ตหลุดพอคิดในใจว่าเออถ้าหลุดก็จะไม่ดูละดูอย่างอื่นแทนเน็ตมา5555พอตอนเช้าตื่นมาอารมณ์อยากดูอีกเข้าห้องน้ำเดินออกมาคิดในใจทนไม่ไหวละจะดูอีกเสื้อไปเกี่ยวกับตะปูนิ่งเลยยืนนิ่งสักพักแกะตะปูออกจากเสื้อแล้วนั่งหน้าห้องน้ามเออไม่ดูกะได้วะที่จำได้คือไม่เคยโดนตะปูในห้องน้ำเกี่ยวเลยนี่ก็แปลกดี
    ปล.ตอนไม่ชักว่าวรู้สึกดีมากจะรู้สึกแย่ก็ตอนอยากนี่ละเปิดดูคลิปอสุภะฟังเทศหลวงตาพอทุเลาตื่นมาไหม่อยากอิกละเซงทำลายสถิติ6วันละไม่ชักว่าว555 ขำๆตามประสาชาวโลกที่ไม่อยากหมกมุ่นนะครับมาเล่าสู่กันฟัง
     
  18. thaijin

    thaijin สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +16
    ถามหน่อยใครไม่เคยไปสนามหลวง(||)(cry)
     
  19. thongchai394

    thongchai394 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2011
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +136
    ดูจิต...ด้วยความรู้สึกตัว
    <DD> การดูจิต ก็คือการรู้สึกว่าจิตเป็นอย่างไร เพื่อให้จิตเกิดสติ-สัมปชัญญะ เมื่อรู้สึกว่าจิตมีกิเลส สติจะเกิด และถ้ามีสัมปชัญญะ จิตที่มีกิเลสก็จะดับไป เหลือแต่ความรู้ ตื่น เบิกบาน ไม่รู้สึกว่าพอใจ-ไม่พอใจต่อจิตที่มีกิเลส (ที่เพิ่งดับไป)

    </DD><DD> เมื่อไม่รู้สึกว่าพอใจ ก็ไม่พยายามสร้างจิตที่มีกิเลสขึ้นใหม่ เมื่อไม่รู้สึกว่าไม่พอใจ ก็ไม่พยายามทำให้จิตที่มีกิเลสไม่สามารถเกิดขึ้นอีก สติสัมปชัญญะที่เกิดขึ้นมีผลให้จิตเหลือแต่ รู้ เท่านั้น

    </DD><DD> จิตที่มีสติสัมปชัญญะ เรียกอีกอย่างว่า รู้สึกตัว หรือ รู้ตัว เมื่อเกิดสติสัมปชัญญะ (รู้สึกตัว) ได้บ่อย ๆ จิตเองจะค่อย ๆ เกิดความเข้าใจต่อกายต่อจิตเอง จนกระทั่งเกิดความเข้าใจได้ว่า กายไม่ใช่ตัวเรา จิตเองก็ไม่ใช่ตัวเรา กายนี้เกิดขึ้นแล้วก็เสื่อมสลายดับไป จิตนี้เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป เมื่อเข้าใจถึงระดับหนึ่ง ความเข้าใจผิด ความเห็นผิดไปว่ากายนี้จิตนี้เป็นตัวเรา ก็จะถูกละออกไปอย่างชนิดไม่กลับไปเข้าใจผิด ไม่กลับไปเห็นผิดอีกเลย

    </DD><DD> เมื่อละความเข้าใจผิด ความเห็นผิดไปแล้ว สติสัมปชัญญะที่เกิดจากการรู้สึกว่าจิตเป็นอย่างไร ก็จะพัฒนาไปตามลำดับจนในที่สุด การปล่อยวางกายปล่อยวางจิตก็จะเกิดขึ้น สภาวะที่เรียกกันว่า นิพพาน ก็จะปรากฏขึ้น
    สุรวัฒน์ เสรีวิวัฒนา
    ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๔๙ ๑๐:๔๓ น. ​
    </DD>
    หลักของการเจริญวิปัสนา คือให้มีสติ
    รู้รูปธรรม นามธรรม
    ตามความเป็นจริง
    ด้วยจิตที่ตั้งมั่น และเป็นกลาง

    จิตตสิกขา และ อริยสัจ
    ความจริงที่ต้องเรียน
    กิจที่ต้องทำ

    จิตหลงไปคิดแล้วก็รู้
    ขณะที่รู้นี่แหละจิตจะตั้งมั่น
    ที่นี่หลวงพ่อจะเน้นสอนเรื่องการปฏิบัติให้ หลักของ
    การปฏิบัติเราก็ต้องรู้ว่า เราจะปฏิบัติอะไร ปฏิบัติเพื่อ
    ปฏิบัติอย่างไร ปฏิบัติแล้วได้ผลเป็นอย่างไร ต้อง
    ตอบได้ชัดเจน

    พวกเราต้องเรียนหลักของการปฏิบัติให้แม่นๆ นะ
    และเราต้องทำด้วยตนเอง ชาวพุทธเราไม่มีของฟรีหรอก
    ทุกอย่างอยู่ในเรื่องของกฏแห่งกรรม ใครทำคนนั้นก็ได้
    ไม่ทำก็ไม่ได้ ทำแบบไหนก็ได้แบนั้น ทำชั่วก็ได้รับผล
    ของความชั่ว ทำดีก็ได้รับผลของความดี รักษาศีลก็ได้รับ
    ผลของศีล ทำทานก็ได้รับผลของทาน ทำสมถะได้ความสุข
    ได้ความสงบ ได้ความดี ทำวิปัสสนาได้ปัญญาเห็นความ
    จริง เพราะฉะนั้นต้องทำให้ตรง

    ธรรมะจะเกิดประโยชน์สูงสุดได้ ก็เมื่อน้อมนำไปประพฤติปฏิบัติ
    จนสามารถถอดถอนความทุกข์ออกจากจิตใจได้จริงๆ

    เป้าหมายของเราก็คือ เราจะต้องรู้กายรู้ใจ
    จนเห็นความจริงของกายของใจว่าเป็นไตรลักษณ์
    จนหมดความยึดถือกายยึดถือใจ
    แล้วจิตก็จะเข้าถึงวิมุตติความหลุดพ้น...
    ส่วนวิธีการก็คือการเจริญสติปัฏฐาน
    สติปัฏฐานมี 2 ส่วน
    คือส่วนที่เป็นสมถะ กับส่วนที่เป็นวิปัสสนา
    อย่านึกนะว่าทำสติปัฏฐานแล้วจะเป็นวิปัสสนาเสมอไป
    ถ้ารู้กาย ถ้ารู้ใจ แต่ไม่เห็นไตรลักษณ์
    ไม่เรียกว่าวิปัสสนา ยังเป็นสมถะอยู่
    แต่ถ้าเห็นกายเห็นใจเป็นไตรลักษณ์จึงจะเป็นวิปัสสนา

    ผู้ใดเข้าใจอริยสัจอย่่างแจ่มแจ้ง
    ผู้นั้นจะพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้อย่างน่าอัศจรรย์
    ยิ่งกว่าความน่าอัศจรรย์ใดๆ ในโลก...
    เรื่องการดูจิตนั้นสำคัญมาก
    ถ้าอ่านจิตตนเองแล้วจะเห็นอริยสัจแห่งจิต
    เพราะทุกข์ก็เกิดที่จิต ถ้าจิตไม่ทุกข์
    แล้วใครจะทุกข์ ตัณหาคือตัวสมุทัยก็เกิดที่จิต
    นิโรธคือนิพพานก็ประจักษ์ด้วยจิต
    อริยมรรคก็ดำเนินอยู่ที่ิจิต ท่านสอนรวบรัด
    ถ้าเห็นเข้ามาให้เห็นถึงจิตถึงใจตัวเอง
    การปฏิบัติก็ลัดสั้นนิดเดียว


     
  20. agga

    agga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2010
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +148
    ลองพยายามคิดถึงเรื่องเหล่านี้ให้น้อยลง ลองหาเรื่องอื่นคิดแทน หรือหาอะไรอย่างอื่นทำแทน จะได้ไม่ต้องมาคิดเรื่องเหล่านี้ เช่น ออกกำลังกายให้เหนื่อย ทำงานบ้าน เป็นต้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...