พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

รูปอะไรแว็บๆ ครับพี่หนุ่ม

 

ต้องลองถามลุงกูรูnongnooo และลุงเพชรดูครับว่า ดีป่าวครับ แรงป่าวครับ



.

 

ลุงหนุ่ม ลุงเพชรครับ ตาลุงก็มีพระแบบนี้มาโชว์ตามคนอื่นเหมือนกันนะครับ หุ หุ

 

อ่าผมช่วยเชียร์ด้วย ลุง อ.เพชร ยอดเยี่ยมครับ หุ หุ

 

.


9 ข้อห้าม ที่ไม่ควรทำในวันตรุษจีน

​

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ซินเจียยู่อี่ ซินนี่ฮวดไช้ ใกล้เทศกาลวันตรุษจีน หรือวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนแล้ว เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่เป็นคนไทยเชื้อสายจีน คงจะตื่นเต้นกันไม่น้อย เพราะช่วงเวลานี้ เป็นช่วงที่จะได้พบกับญาติมิตรที่ไม่เจอหน้ากันมานาน และบางคนก็อาจได้รับอั่งเปาของขวัญจากผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือ แต่ในเมื่อนี่คือวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนทั้งที หลาย ๆ บ้านก็คงจะมีธรรมเนียมปฏิบัติและข้อห้ามที่สืบทอดต่อกันมา ซึ่งในวันนี้จะพาไปดูกันว่ามีข้อห้ามอะไรบ้างไม่ควรปฏิบัติในวันตรุษจีน

1. ห้ามทำความสะอาดบ้านในวันตรุษจีน

ชาวจีนมีความเชื่อว่า การทำความสะอาดบ้าน และทิ้งขยะ ในวันตรุษจีนนั้น จะเป็นการการกวาดเอาโชคลาภ เงินทอง ออกไปจากบ้าน แม้ว่าบ้านในช่วงวันตรุษจีนจะสกปรกก็ตาม บางคนที่จำเป็นจะต้องทำความสะอาดบ้าน ก็จะเพียงกวาดเศษฝุ่นไปไว้ที่มุมบ้าน แล้วค่อยเอาเศษฝุ่นนั้นไปทิ้งในวันต่อไป ดังนั้น วันตรุษจีน จึงไม่ค่อยมีคนทำความสะอาดบ้าน แต่จะไปทำความสะอาดกันหนึ่งก่อนวันตรุษจีน เพื่อที่จะให้บ้านสะอาดรับปีใหม่ และใช้บ้านในการต้อนรับแขกที่จะมาเยี่ยมเยียนอีกทางหนึ่ง

2. ห้ามสระผมหรือตัดผม

ชาวจีนจะไม่นิยมสระผมหรือตัดผมกันในวันตรุษจีน หรือบางคนก็จะไม่สระผม 3 วันหลังจากวันตรุษจีน เนื่องจากคำว่า ผม เป็นคำพ้องเสียงและพ้องรูปกับคำว่า มั่งคั่ง ดังนั้น การสระหรือตัดผมในวันตรุษจีน จึงเหมือนกับการนำความมั่งคั่งออกไป

3. ห้ามพูดคำหยาบและทะเลาะเบาะแว้ง

ในวันตรุษจีน คนจีนจะงดพูดคำหยาบและสิ่งที่ไม่ดี รวมไปถึงการพูดถึงความตายหรือผี เนื่องจากเชื่อว่า การพูดสิ่งที่ไม่ดีในวันนี้ จะนำความโชคร้ายมาให้ตลอดทั้งปี รวมไปถึงการที่ไม่พูดถึงเลข 4 เนื่องจากเลข 4 ในภาษาจีน ออกเสียงคล้ายกับคำว่า ตาย ดังนั้น หลาย ๆ คนจึงพยายามไม่ใช้หรือไม่พูดอะไรที่เกี่้ยวข้องกับเลข 4

4. ห้ามกินโจ๊กและเนื้อสัตว์

คนจีนมักจะไม่กินโจ๊กในตอนเช้าของวันตรุษจีน เนื่องจากเชื่อว่า คนจนคือคนที่มักจะกินโจ๊กในตอนเช้า ดังนั้น การกินโจ๊กในตอนเช้าของวันตรุษจีนจึงเหมือนกับการขัดขวางไม่ให้ตัวเองร่ำรวย และทำตัวเหมือนคนจน ทั้งนี้ ยังรวมไปถึงการไม่กินเนื้อสัตว์ด้วย เนื่องจากเชื่อว่า เทพเจ้าที่ลงมาในตอนเช้าของวันตรุษจีนนั้นเป็นมังสวิรัติ

5. ห้ามซักผ้าในวันตรุษจีน

คนจีนเชื่อว่า เทพเจ้าแห่งน้ำเกิดในวันตรุษจีน ดังนั้น การซักผ้าในวันตรุษจีนจึงเปรียบเสมือนการลบหลู่ท่าน

6. ห้ามใส่ชุดขาวดำ

เสื้อผ้าที่เป็นสีขาวดำ เป็นสัญลักษณ์ของความตาย ดังนั้น การสวมเสื้อผ้าสีขาวดำในวันนี้จึงหมายถึงลางร้าย คนจีนจึงมักสวมเสื้อผ้าสีแดงกันเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเชื่อว่า สีแดงคือสีที่จะนำความโชคดีมาให้

7. ห้ามให้ยืมเงิน

คนจีนบางคนอาจจะหมายรวมการที่ไม่ให้ยืมสิ่งของต่าง ๆ นอกเหนือไปจากเงินแล้ว ซึ่งมีความเชื่อที่ว่า การให้ยืมเงินในวันนี้จะทำให้ทั้งปีมีคนเข้ามาขอยืมเงินตลอด รวมไปถึง หากใครที่ติดเงินใครไว้ ก็ควรที่จะคืนเงินก่อนวันตรุษจีน เพราะเชื่อกันว่า หากติดเงินใครในวันตรุษจีนแล้ว คน ๆ นั้นก็จะมีหนี้สินตลอดปีไม่จบไม่สิ้น

8. ห้ามทำของแตก

คนจีนเชื่อกันว่า การทำสิ่งของแตก เช่น ทำแก้วแตก ทำจานแตก หรือทำกระจกแตก ในวันตรุษจีนนั้น จะหมายถึงลางร้ายที่บอกว่าครอบครัวจะแตกแยก หรือมีคนเสียชีวิตในครอบครัว ดังนั้นในวันนี้ จึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษไม่ให้สิ่งของในบ้านแตกหรือชำรุดเสียหาย แต่หากทำของแตกโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็มีวิธีการแก้เคล็ดโดยการพูดว่า "luo di ka hua" ที่แปลว่า ดอกไม้จะเบ่งบานเมื่อตกลงสู่พื้น

9. ห้ามซื้อรองเท้าใหม่

คนจีนจะถือคติที่ว่า จะไม่ซื้อรองเท้าใหม่ในเดือนแรกของวันตรุษจีน เนื่องจากคำว่า รองเท้า ในภาษาจีนออกเสียงว่า Hai ซึ่งคำว่า Hai นี้ มีเสียงคล้ายกับการถอนหายใจ ซึ่งชาวจีนเชื่อว่า นั่นเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นปีที่ไม่ดี

อ่านแล้วอย่าลืมนำไปปฏิบัตินะคะ เพื่อจะได้รับเอาโชคลาภ เงินทอง เข้ามาตั้งแต่วันตรุษจีนตลอดจนทั้งปีนี้เลยนะคะ



-http://hilight.kapook.com/view/66365-

.

 

นานมาแล้ว ผมก็นำไปแจกที่บ้านอ.จ.ปู่ ส่วนหนึ่งก็นำไปมอบให้เจ้าหน้าที่ศาลวังหน้า เพื่อทำบุญซ่อมแซม ต่อเติมศาลวังหน้า ที่ถนนเศรษฐศิริด้วย ได้ปัจจัยประมาณ ๖-๗๐,๐๐๐ กว่าบาท..

 

เข้ามานั่งดูท่านพี่ทั้งหลายนำของดีมาให้ลูกหลานชมครับ สวยๆทั้งนั้นเลยครับ
ว่าแต่คุณเพชร พอมีความรู้เกี่ยวกับฤๅษีตาไฟไหมครับ ผมอยากศึกษามากๆครับ
พอดีมีความเกี่ยวเนื่องนิดหน่อย จากที่ได้ทราบจากพี่ใหญ่ครับ
เผื่อว่าจะฟื้นของเก่าบางอย่างได้ จะได้เสริมในการปฏิบัติครับ

 

อ่า มาล่อ หนึ่งเจอแยกเงาพันร่างของ นารุโต๊ะเลยนะครับ ลุงเพชร ต้องเรียกว่าเข้าทาง ลุงแกพอดี หุ หุ

 

.

พาหุงมหากา นำสวดโดยหลวงพ่อจรัญ


-http://palungjit.org/threads/พาหุงมหากา-นำสวดโดยหลวงพ่อจรัญ.7520/-

.


http://palungjit.org/threads/พาหุงมหากา-นำสวดโดยหลวงพ่อจรัญ.7520/

.

 

ตามหาอดีตอยู่หรือ..หุ..หุ..

เอาทางโลกหรือทางธรรมละครับ...

เอาทางโลก ก็เล่าให้ฟังย่อๆ รายละเอียดลองไป search หาอ่านเอา หรือหนังสือที่คุณทิพยจักรได้เขียนเอาไว้ หรือจะลอง PM สอบถามจากพี่เม้าตาอิน(Mountain) ก็ได้

พระฤาษีท่านมีลูกศิษย์เป็นเจ้าเมืองศรีเทพ(เคยคิดว่า อยากไปตลุยอาณาจักรนี้ในกาลข้างหน้า หลังเสร็จการเรียนแล้ว มีรุ่นพี่ที่เรียนด้วยกันอยู่ทางใต้ ว่าจะไปกับพี่เขา) วันหนึ่งพระฤาษีพบเจอบ่อ ๒ บ่อ บ่อแรกหากลงไปจะเหลือแต่โครงกระดูก อีกบ่อจะเป็นบ่อชุบชีวิต พระฤาษีทดลอง แต่ให้ลูกศิษย์คอยช่วย หากลงผิดบ่อก็ให้เอาโครงกระดูกชุบอีกบ่อ ปรากฎว่าลุกศิษย์ทรยศอาจารย์ครับ ไม่ทำตามคำสั่งอาจารย์ เพราะอยากเป็นใหญ่ จนวันหนึ่งพระฤาษีตาวัวคิดถึงพระฤาษีตาไฟก็มาหาที่ถ้ำ พบโครงกระดูกก็เลยช่วยชุบชีวิตจากบ่อชุบชีวิต พระฤาษีก็กลับไปจัดการผู้คนในเมืองให้ต้องพิษตายทั้งเมืองศรีเทพ...

ตรงนี้เอง ฟังจากที่น้องหมอเอกเล่าให้ฟังนี้ หากจะทำตามที่พี่ใหญ่แนะนำ ก็คงไม่ทราบจะเริ่มตามหายังไงใช่ไม๊ครับ ก็คงต้องเริ่มเข้าใจประวัติความเป็นมาโดยต้องค้นหาเองจากทุกแหล่ง สื่อความสนใจจะได้เริ่มก่อตัวเพื่อเชื่อมกระแส ได้ ไม่จุดไฟจะหุงต้มอาหารให้กินอิ่มได้ยังไงครับ....

หากจะนำอุบายทางธรรมเพื่อ"รู้" บางสิ่งบางอย่าง ด้วยกำลังสมาธิที่เหมาะสมจึงน่าจะได้ฝึกกสิณไฟก่อน ทั้งนี้เพื่อเปิดตาที่สาม ทำไมพระฤาษีตาไฟถึงได้ชื่อว่า ตาไฟ ลองคิดดู หุ..หุ...

ตรงนี้ต่างหากที่พี่ใหญ่เขาแนะนำทางอ้อม...พี่เขาบอกได้ครับ แต่ทำเอง เห็นเองย่อมกระจ่างกว่าผู้ใดบอกเล่า

ไฟเป็นของร้อน แต่กสิณไฟกลับเป็นของเย็น ของสงบ...


ลองอ่านพิจารณาธรรมะของสมเด็จองค์ปฐมบรมศาสดาเอาละกัน ขอให้จดจำว่า ธรรมะเป็นเรื่องใหญ่ การตามหาอดีตเป็นเรื่องรองเป็นผลพลอยได้มากกว่าครับ...
ธรรม
ที่นำไปสู่ความหลุดพ้น
เล่มที่ ๖
พระราชพรหมยานมหาเถระ หลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง
รวบรวมโดย : พล.ต.ท. นพ. สมศักดิ์ สืบสงวน














อีกหนทางหนึ่ง สมัยหนึ่งนานมาแล้ว เคยไปให้ผู้รู้ attune คลื่นพลังกุณฑาลินี หรือพลังงูไฟ จากสายนี้ครับ ..ราชาโยคะ

 

ขอบพระคุณครับ ^_^

 

ตาลุงบอกงานนี้ ต้องสุดๆไปเลยครับ จาต่อกรกับ ลุง อ.เพชร ต้อง แบบนี้ครับ พระฤาษีที่น่าจะเก่าแก่ที่สุด 2องค์และ ผู้เสกก็เป็นองค์ที่ ลุงหมอเอกถามถึง กับ1องค์พิมพ์พระคเณศ ที่เก่าที่สุดเช่นกันครับ ลองมาโชว์สิ ลุง อ.เพชร จาว่าไงครับ ดีปล่าวแรง ปล่าวครับ หุ หุ

 

ให้ผมดูชัดๆแบบนี้ ผมรู้สึกว่า จะเชื่อมกระแสพระฤาษีทั้ง ๓ แล้วนะครับ หุ..หุ..ที่นำมาให้ชมนี่ไม่ธรรมดาครับ เหมือน พระฤาษี ๓ ตนนี้ไม๊

 

ตาลุงฝากถาม ลุง อ.เพชรว่า มีเก่ากว่านี้มั้ยครับ อายุแค่1300-1500 ปีเองครับ หุ หุ

 

เมื่อต้นเดือน ธ.ค. ผมรู้สึกอยากเชื่อมกระแสพระฤาษีเพชรฉลูกรรณ ได้พบของๆท่านแล้ว แต่ก็ละวางเอาไว้ก่อน รอให้สะสมพลังงานมากกว่านี้ก่อน ตอนนี้ยังเป็นตะกอนในจิตอยู่ หุ..หุ..

 

องค์นี้พอเทียบได้ไม๊ครับ...

 

เก่ากว่านั้น เดี๋ยวผบ.ที่บ้านมีสะดุ้งอยู่ไม่ได้ครับ บ้านนะครับ ไม่ใช่อาศรม....

 

องค์ ลุง อ.เพชร พอไหวครับ แต่ก็ใหม่กว่า ของตาลุง 100-200ปี ครับ หุ หุ

 

อ้าว กับลุง อ.เพชร ตาลุงฝากมาต้องให้ร้อง อุ๊ ให้ได้ครับ หุ หุ

 

หุ..หุ..นั่นละเหตุผล เดี๋ยวผบ.สะดุ้งตกใจอยู่ไม่ได้ อายุน้อยกว่า ๑๐๐-๒๐๐ ปี แต่ข้างในไม่ธรรมดาครับ 55555