ผมมีบางอย่างอยากจะรู้ครับช่วยตอบให้ผมหายโง่ทีครับ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย เอ คอร์, 30 มกราคม 2012.

  1. เอ คอร์

    เอ คอร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +30
    คือพักนี้เริ่มคุมตัวเองไม่ได้แล้วครับนึกถึงแต่เรื่องอดีตมันแวบเข้ามาเอง ผมไม่อยากแก้แค้นทำร้ายใครครับผมอยากจะลืมให้ได้ อ้อที่ผมเป็นแบบนี้ก็เพราะคนข้างบ้างชอบเปิดเพลงก่อกวนยามเขาหลับนอนช่วงตีหนึ่งน่ะครับ ผมหงุดหงิดมากแจ้งตำรวจตำรวจก็เฉย มีอยู่วันนึงคุมตัวเองไม่ได้หยิบมีดจะไปฆ่าเขาคิดว่าเอาวะถึงจะสู้ไม่ได้ก็ยอมตายสถานเดียวไหนๆก็ขี้แพ้ โคตรโง่ตลอดชีวิต และชั่วสุดๆก็กะว่าขอให้ได้ออกกำลังไปด้วย แต่แม่ออกมาห้ามแม่บอกว่าเขาทำงานที่เดียวกัน ผมก็เลยได้คิดว่าผมคงไม่มีสิทธิ์ทำอะไรใครได้และสู้ใครไม่ได้ ไม่มีสิทธิ์ปากเสียงพูดกับใครไม่ได้ ผมมันตำ่ขนาดนั้นหรือครับ ทั้งๆที่ฐานะทางบ้านเขาก็ไม่ได้ดีกว่าผม
    มีแต่เหล้าดองน่ะรวยรวยกันถ้วนหน้า ร้านเหล้าดองอีกร้านบางวันเครียดมาก ทั้งร้านทั้งบ้านก็กระหนำ่อีกโต้รุ่งก็มี ผมคิดว่ามันคงเป็นอาชีพพิเศษ คนพิเศษ ผมไม่มีสิทธิเท่ากับคนอื่นเหรอครับถึงบอกใครเตือนใครไม่ได้ บางวันผมเอาขลุ่ยไปเป่าบ้าง กีต้าร์ไปเล่นบ้าง เขาก็ด่าว่าผมเสียงดำ ผมพูดไม่ออกเลย ผมไม่เคยไปด่าเลยตอนที่เปิดดัง จึงทำให้ผมจิตตกจนเอามีดไปฟันเหมือนที่เล่าไปเบื้องต้น พอแม่ห้ามผมก็มาคิดว่าผมจะเลิกนั่งกรรมฐานเพราะพวกนี้ทำให้ผมเลิกไปนานมาสองเดือนแล้ว ผมปรึกษาใครก็ไม่ได้ เพราะไม่มีใครเขาอยากจะรับรู้ ผมเคยปรึกษากับบอร์ดนี้เรื่องกรรมฐานและบางเรื่อง มีคนตอบผม ผมก็เลยมาระบายสักหน่อย ผมไม่มีกำลังใจแล้วแต่นึกถึงบอร์ดนี้ก็เลยลองมาถามดูว่าผมควรจะทำยังไง อย่างแรกผมควร
    อดทนหรือครับอดทนแล้วมีอานิสงค์อะไรครับ ผมแค้นจนปวดตรงหัวใจไปแล้วบางครั้งหายใจแทบไม่ออก อย่างที่สองให้อภัยเขาแล้วอานิสงค์ของการอภัยทานละครับเป็นยังไง แล้วสุดท้ายผมขาดเมตตาใช่ไหมและถ้าผมเมตตาผมจะได้เป็นในสิ่งที่ผมต้องการหรือเปล่า น่าเสียดายที่ผมไม่ได้เกิดในสมัยหลวงพ่อฤาษี และไม่รู้จักคนมีอภิญญาผมจะได้ถามให้หายข้องใจ ผมใช้สัมมาอะระหังไม่ติดแล้ว ตอนนี้ผมมีแต่ความโกรธ ผมสับสนว่าผมควรจะทำร้ายใครดีหรือไม่ และถ้าเริ่มใหม่ผมจะใช้แผ่เมตตาเป็นกรรมฐานได้ไหม พุทธคุณไว้เวลาจะนอนกับตื่นนอนครับ ผมสนใจตอนที่หลวงพ่อฤาษีท่านว่าก่อนจะตื่นก่อนจะนอนให้พุทธโธ ผมจะได้มีวาสนาจะได้ปฏิบัติไหมอันนี้ผมไม่แน่ใจครับ ผมอยู่กรุงเทพผมคิดจะไปบวช ที่วัดท่าซุงได้ไหมครับ ที่วัดท่าซุงมีกฎอะไรก่อนบวชรึเปล่าครับ ผมแค่คิดนะแล้วมีวัดอะไรเงียบกว่านี้ไหมครับ แล้วถ้าเราอยู่วัดนี้แล้วไม่สบายใจเราย้ายได้ไหมครับ
     
  2. lionking2512

    lionking2512 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,525
    ค่าพลัง:
    +7,632
    .................................... หาใจตนเองให้เจอครับ
     
  3. noawarat

    noawarat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +38
    น่าเห็นใจค่ะ ก็เคยเจอปัญหาเหมือนกัน ปัญหาที่ว่าก็คือ โกรธ เกลียดมากๆ หงุดหงิดไม่อยากเจอกับคนๆนั้นเอามากๆ ยิ่งเจอ ยิ่งเกลียด มันเหมือนไฟ ไฟจริงๆนะ มันร้อนรุ่มอยู่ข้างในอยากจะทำลายคนๆนั้นให้หายไปจากชีวิตเรา ก็ได้เว็ปบอร์ดนี้แหล่ะค่ะ หลายๆท่านบอกวิธีมาขั้นแรกให้เรามี "สติ" ให้เราคิดทบทวนให้ใจอยู่กับเรา เตือนเราให้ได้ และหาตัวเราให้เจอ ความโกรธนั้น เป็นที่เขาทำให้เราโกรธ หรือเราเข้าไปหาความโกรธเอง ถ้าเราปล่อยวาง ชั่งเขา เวรกรรมมีจริง คนเราไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า กวนเราได้ตลอดหรอก สักวันเขาเองจะต้องพบกับความเจ็บช้ำใจ เหมือนทำกับคนอื่น เราจะขอรอดู ถ้าอย่างคุณ ควรหาเวลาสงบสติอารมณ์ ให้พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ซึบซับในจิตใจ ให้ใจสงบ ให้ปลงแห่งความไม่แน่นอน ควรบวชค่ะ ขืนนั่งสมาธิด้วยใจที่ไม่ปกติมากๆ อาจจะไม่ได้ผลแถมจะทำให้คุณฟุ้งซ่านมากกว่าเดิม ที่วัดอัมพวัน สิงห์บุรีก็บวชได้สงบดี วัดท่าซุ้งก็บวชได้ แต่ไกลหน่อย บวชที่ไหนก็ได้ เพราะคุณบวชใจ ไม่ได้บวชแค่กาย สาธุ
     
  4. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    คุณจะไม่มีทางหายทุกข์ได้เลยถ้าคุณยืนกราณที่จะเปลี่ยนแปลงคนอื่น หรือสิ่ง
    แวดล้อม เพราะเขาไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะต้องทำในสิ่งที่คุณต้องการ หรือ
    คุณอาจจะโชคดีเขายอมทำในสิ่งที่คุณต้องการแต่สุดท้ายมันก็จะต้องเปลี่ยนไป
    อยู่ดี เพราะมันไม่เที่ยง ไม่มีอะไรจะคงสภาพเดิมได้ตลอด ถึงแม้คุณจะหนีไปอยู่
    ในที่สงบ คุณอาจจะไม่ทุกข์เพราะเรื่องเสียงรบกวนอีกแต่ถ้าวันหนึ่งเกิดมีการก่อ
    สร้าง เกิดเสียงรบกวนขึ้นมาคุณก็ทุกข์เหมือนเดิม มันเหมือนกับระเบิดเวลาที่รอ
    การระเบิด มันไม่ได้หายไปไหนเลย อย่างเวลาคุณนั่งสมาธิก็เหมือนกันจะมีบาง
    วันที่คุณสงบและบางวันที่มันไม่สงบเพราะมันไม่เที่ยง มันเป็นของมันเช่นนั้นเอง
    ไม่สามารถจะบังคับให้เป็นดังใจของเราได้ การเห็นธรรมะก็คือเห็นความไม่เที่ยง
    เห็นความที่สิ่งต่างๆ ไม่ใช่ของเราที่จะบังคับ บัญชาให้เป็นตามใจเราได้
     
  5. Red Leaf

    Red Leaf เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,397
    ค่าพลัง:
    +4,547
    ถ้าคุณยังเชื่อกฎแห่งกรรมอยู่ และสิ่งนี้ คือสิ่งที่คุณเคยทำกับผู้อื่นไว้ในอดีตที่คุณจำมันไม่ได้แล้ว คุณจะยินดีชดใช้หนี้ของคุณ ซึ่งวันหนึ่งมันต้องมีโอกาสหมดไปไหม? อยากให้ลองอ่านเรื่องของหลวงปู่โตข้างล่างนี้ ครั้งหนึ่งมีพระตีกันไปฟ้องท่าน ท่านกลับว่า พระที่ถูกตีนั่นแหละไปตีเขาก่อน....

    ๐ ตีกันเพราะกรรมเก่า

    ต่อมาครั้งหนึ่ง พระวัดระฆังเกิดทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นลงไม้ลงมือตีกันหัวแตก องค์ที่ถูกตีมาฟ้องเจ้าประคุณสมเด็จฯ ให้ช่วยชำระคดีให้ที แต่ท่านบอกกับพระองค์นั้นว่า

    "คุณตีเขาก่อนนี่จ๊ะ"

    "กระผมไม่ได้ตี มีคนเป็นพยานได้" พระรูปนั้นเถียง

    ท่านก็ยังยืนยันว่า คุณตีเขาก่อน อยู่นั่นเอง

    พระรูปนั้นไม่พอใจ จึงไปฟ้องสมเด็จพระวันรัต (เซ่ง) วัดอรุณ ว่าเจ้าประคุณสมเด็จฯ โต ไม่ยอมให้ความเป็นธรรม เราถูกตีก็บอกว่าเราตีเขาก่อน ทั้งทีไม่ได้ตีเลย

    สมเด็จพระวันรัตจึงถามเจ้าประคุณสมเด็จฯ ท่านก็ยังยืนยันคำพูดเดิม สมเด็จพระวันรัตจึงถามว่า รู้ได้อย่างไรว่าพระองค์นี้ตีเขาก่อน

    ท่านก็ตอบว่า รู้ได้ตามพระพุทธภาษิตว่า "เวรไม่ระงับเพราะการจองเวร นี่เป็นเวรต่อเวรมันตอบแทนกัน" (หมายถึงองค์ที่ถูกตีนั้น เมื่อก่อน-ชาติก่อนเคยตีเขามาก่อนแล้ว)

    "ถ้าอย่างนั้น ท่านจงรับภาระช่วยระงับอธิกรณ์นี้ อย่าให้เป็นเวรกันเถอะ"

    ท่านจึงให้โอวาทว่า ให้ตั้งอยู่ในสมณสัญญา มีหิริโอตตัปปะ และไม่พึงจองเวรอาฆาตมาดร้ายกันต่อไป แล้วท่านก็เอาเงินทำขวัญให้แก่พระที่ถูกตี 12 บาท บอกว่า ท่านทั้งสองไม่มีความผิด ฉันเป็นผู้ผิด เพราะฉันปกครองไม่ดี


    **********************************

    เพราะฉะนั้น อย่าได้ไปจองเวรใครเลยค่ะ และเวลาที่คุณโกรธนั้น คนที่คุณทำร้ายคนแรกคือตัวคุณเอง ไม่ใช่คนอื่น..ถ้าจะหยุดอารมณ์ของคุณ เมื่อตื่นนอนขึ้นมาตอนเช้า ให้ตั้งใจว่า วันนี้จะให้อภัยทาน แม้ใครมาทำให้คุณขัดเคืองใจ ก็จะไม่โกรธตอบเขา ยามใดที่อารมณ์โกรธมาถึงจริงๆ ให้ระลึกถึงและเตือนตนด้วยความตั้งใจอันนี้ และเมื่อถึงยามนอน ก็ให้พิจารณาอีกว่า วันนี้คุณทำได้ดังความตั้งมั่นตอนเช้ามากน้อยแค่ไหน....

    ทุกสิ่งต้องใช้ความพยายามค่ะ ปล่อยเลยตามเลยไม่ได้ ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ
     
  6. ใฝ่รู้

    ใฝ่รู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +240
    ขอแนะนำให้ไปที่วัดอัมพวัน ไปรู้จักตัวเองที่นั่น เมื่อรู้จักว่ากรรมนั้นมาอย่างไรแล้ว คุณจะ รู้จัก ใช้ สติ ที่มีอยู่กับตัว ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ การเดินทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งหากเลือกเดินในทางธรรมเสมอ ย่อมไม่ใช่การหนี
    ด้วยความปรารถนาดีอย่างจริงใจ
     
  7. NEO3197

    NEO3197 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2007
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +24
    ลองสวดมนต์ บทบูชาพุทธคุณดีไหมคะ เป็นบทสรรเสริญองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า สวดแล้วจะทำให้มีสติ ดีขึ้นค่ะ และเกิดเมตตาทั้งตัวเราเองและผู้อื่น แถมช่วยสะเดาะห์เคราะห์ดวงชะตาตัวเองด้วย...การเกิดอารมณ์โมโหจนควบคุมตัวเองไม่ได้นั้น เป็นอาการของการขาด "สติ" สวดมนต์ตามแบบของพระคุณเจ้าหลวงพ่อจรัญ จะเหมาะกับคุณ เอ คอร์ ในขณะนี้นะคะ

    ตามนี้ค่ะ

    บทบูชาพระรัตนตรัย

    อิมินาสักกาเรนะ พุทธัง อภิปูชะยามิ

    อิมินาสักกาเรนะ ธัมมัง อภิปูชะยามิ

    อิมินาสักกาเรนะ สังฆัง อภิปูชะยามิ


    บทกราบพระรัตนตรัย

    อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิ (กราบ)

    สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม ธัมมังนะมัสสามิ (กราบ)

    สุปะฏิปัณโณ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆังนะมามิ (กราบ)


    บทนมัสการพระพุทธเจ้า

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ


    บทไตรสรณคมน์

    พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ

    ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ

    สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ


    ทุติยัมปิ พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ

    ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ

    ทุติยัมปิ สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ


    ตะติยัมปิ พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ

    ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ

    ตะติยัมปิ สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ


    บทถวายพรพระ (บูชาพระพุทธคุณฯ)

    ๑. พุทธคุณ
    อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะ สัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู
    อนุตตะโร ปุริสะธัมมะสาระถิ สัตถาเทวมนุสสานัง พุทโธภะคะวาติ

    ๒. ธรรมคุณ
    สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตังเวทิตัพโพ วิญญูหิติ

    ๓. สังฆคุณ
    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
    สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทังจัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
    อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ



    บทพุทธชัยมงคลคาถา (ถวายพรพระ)

    ๑. พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง
    ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ

    ๒. มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง
    ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ

    ๓. นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง
    เมตตัมพุเสกะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ

    ๔. อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง ธาวันติโย ชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง
    อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ

    ๕. กัตตวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ
    สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ

    ๖. สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง
    ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ

    ๗. นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต
    อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ

    ๘. ทุคคาหะ ทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรัหมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง
    ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ
    เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถาโย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที
    หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ

    * ถ้าสวดให้คนอื่นใช้คำว่า เต สวดให้ตัวเองใช้คำว่า เม (เต แปลว่าท่าน - เม แปลว่าข้าพเจ้า)


    บทมหาการุณิโก

    มหาการุณิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง ปูเรตวา
    ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
    โหตุ เต ชะยะมังคะลังฯ
    ชะยันโต โพธิยา มูเล สักยานัง
    นันทิวัฑฒะโน เอวัง ตะวัง วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล
    อะปะราชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อะภิเสเก สัพพะ
    พุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติฯ สุนักขัตตัง สุมังคะลัง
    สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง สุขะโณ สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมะ
    จารีสุ ปะทักขิณัง กายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง ปะทักขิณัง
    มโนกัมมัง ปะณิธี เต ปะทักขิณา ปะทักขิณานิ กัตวานะ ละภันตัดเถ ปะทักขิเณฯ

    ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
    สัพพะพุทธา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต*

    ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
    สัพพะธัมมา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต*

    ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
    สัพพะสังฆา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต*

    * ถ้าสวดให้คนอื่นใช้คำว่า เต สวดให้ตัวเองใช้คำว่า เม (เต แปลว่าท่าน - เม แปลว่าข้าพเจ้า)

    กราบ ๓ ครั้ง เสร็จแล้วสวดเฉพาะพุทธคุณ ดังต่อไปนี้

    อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชา จาระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู
    อะนุตตะโร ปุริสะทัม มะสาระถิ สัตถาเทวะ มะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ

    ให้สวดพุทธคุณเกินอายุ ๑ จบ เช่น อายุ ๒๘ ปี ให้สวด ๒๙ จบ

    เมื่อสวดพุทธคุณครบตามจำนวนจบที่ต้องการแล้ว จึงตั้งจิตแผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศลดังนี้

    คาถาแผ่เมตตาตนเอง

    อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข

    อะหัง นิททุกโข โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากความทุกข์

    อะหัง อะเวโร โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากเวร

    อะหัง อัพยาปัชโฌ โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง

    สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ
    ขอให้ข้าพเจ้าจงมีความสุขกายสุขใจ รักษากายวาจาใจให้พันจากความทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด



    แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์

    สัพเพสัตตา สัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น

    อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย

    อัพยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้พยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย

    อนีฆา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย

    สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิดฯ



    บทกรวดน้ำ (อุทิศส่วนกุศล)

    อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร
    - ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่มารดาบิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดาบิดาของข้าพเจ้า จงมีความสุข

    อิทัง เม ญาตินัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
    - ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า จงมีความสุข

    อิทัง เม คุรูปัชฌายาจริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจริยา
    - ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แด่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ จงมีความสุข

    อิทัง สัพพะ เทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เทวา
    - ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลาย ขอให้เทวดาทั้งหลายจงมีความสุข

    อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา
    - ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เปรตทั้งหลาย ขอให้เปรตทั้งหลาย จงมีความสุข

    อิทัง สัพพะ เวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเวรี
    - ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงมีความสุข

    อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพสัตตา
    - ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข
    <<จบบทสวด>>


    ขอให้คุณ เอ คอร์ มีสติ มากๆนะคะ โดยจะเน้นเฉพาะ บทพุทธคุณเท่าอายุ + 1 ก่อนก็ได้ค่ะ (ถ้าเห็นว่าสวดทั้งหมดจะยาวไป แต่จริงๆถ้าสวดมนต์บ่อยๆจะรู้สึกว่าไม่ยาวค่ะ แป๊บเดียวก็เสร็จแล้วค่ะ ^ ^ ) จากประสบการณ์ตรงที่ได้จากการสวดมนต์ทั้งหมดนี้ ก่อนจะนั่งกรรมฐาน จะช่วยทำให้จิตนิ่งได้เร็วดีค่ะ แต่ถ้าจะสวดก่อนนั่งกรรมฐาน ให้เว้นตั้งแต่บทแผ่เมตตาลงมาไว้ก่อน นั่งกรรมฐานเสร็จแล้ว ค่อยเริ่มสวดแผ่เมตตา+อุทิศกุศลค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 มกราคม 2012
  8. tanaong2011

    tanaong2011 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    6,232
    ค่าพลัง:
    +7,421
    ขอเป็นกำลังใจให้คุณเอคอร์
    อารมณ์โกรธขนาดนี้จะตัดให้ขาดเลยทันทียากนะครับ
    ต้องใช้เวลา และที่สำคัญ ต้องไม่เอามาเติมอีกในทุกๆวัน

    ผมว่านะ ต่อจากนี้ไปเราควรห่างเขา
    หมายถึงพยายามไม่เห็นหน้ากัน
    ไม่คิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา

    และถ้าพอมีทุนก็ ติดตั้งทำบ้านเราให้มิดชิด
    กันเสียงจากภายนอกแบบห้องอัดเสียง
    อาจต้องใช่เงินมากสักหน่อย
    แต่ก็ดีกว่าย้ายหนีน่ะครับ

    นอกจากนี้เรายังได้ห้องปฏิบัติธรรมที่เงียบสงบอีกต่างหาก
    เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสครับ
    คนที่จะได้ของดี ส่วนมากจะเป็นแบบคุณนี่ละ
    จะมีมารมาก่อกวนให้จวนจะลงนรกก่อน
    แต่ถ้าพลิกกลับมาได้คุณก็อาจได้ของดีแบบสุดๆไปเลย

    ขอเป็นกำลังใจให้ครับ......
     
  9. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ...............ผมก็เป็น ใครใครก็เป็น ฝรั่ง จีน แขก ไทย เป็นหมด...ไม่มีใครหนีสภาพแวดล้อมที่มันเป็นแบบนี้ไปได้.....แต่ สิ่งที่ เอาชนะมันได้ คือ เห็นว่า เดี๋ยวมันก็ดับ เดี๋ยวมันก็ไปนอน เดี๋ยวมันก็สงบ.....เราอยู่เฉยเฉย มันก็ไป....เพราะมัน คืออายตนะของเราเอง รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ธัมมารมณ์...ไม่ใช่อย่างอื่น หรอก.....สงบ ที่แท้จริง คือการเห็นความไม่เที่ยง....ถ้ามีปัญหาอีกนึกถึงผมบอกนะครับ......ไปวัดก็ดี ศึกษาธรรมมะ ก็ดี คุยกับพระก็ดี.........ลูกผู้ชายใจต้องนิ่ง เดี๋ยวมันก็ชิ่งไปเอง:cool:....อ้อ ไอ้ที่นั่งคิดแล้วแค้น แค้นแล้วคิด นี่ สติเห็นมันมาก็รู้ว่า มันมาจากเราเอง ตัวเองทำตัวเองแท้ แท้ อย่าลืม!!!!
     
  10. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ให้พิจารณา ทบทวนนะ ว่านั่นเป็นความโมโหที่เกิดขึ้น ใครทำอะไรให้เราไม่ถูกใจหน่อยเดียว เรามีจิตคิดจะฆ่าจะฟันเขา เราต้องคิดไกลๆว่า บางที ถ้าเราได้คุยกันกับเขาดีๆ เราอาจจะเห็นความดีในตัวเขาก็ได้
    ถ้าเขาทำอะไรให้เราไม่พอใจ เราก็ฝึกอดทนอดกลั้น เพราะว่า อดทนอดกลั้นนี้มีประโยชน์มาก รู้จักอภัยให้คน เพราะคนเรามันทำอะไรตามใจนึกของมัน ทเราก็เคยทำอะไรไม่แตกต่างจากเขาหรอก เช่นเราอาจจะไปสร้างความรำคาญให้คนอื่นโดยไม่รู้ตัวก็ได้ ถ้าหากว่าเราทำไปโดยไม่รู้ตัวแล้วมีคนไม่พอใจถึงกับอยากจะฆ่าเรา เราจะรู้สึกอย่างไร

    เราต้องรู้จักอภัย อดกลั้น และปล่อยวาง จะทำให้ชีวิตเราก้าวหน้า แต่หากเราไม่อดทนอดกลั้น เราไปทะเลาะกับเขา เขาก็อาจจะทำร้ายเรา ทำร้ายครอบครัวของเราได้ ไม่เกิดประโยชน์ที่เราจะต้องไปเสี่ยงทำอะไรไม่ดี ข่มใจชนะตัวเองคือการชนะที่ยิ่งใหญ่กว่าการไปตีต่อยทำร้ายคนอื่น เพราะนั่นคือ การแพ้อย่างแท้จริง

    เมือ่เราสงบใจได้ เราจะค่อยๆเห็นทางออกเอง
     
  11. guaregod

    guaregod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    962
    ค่าพลัง:
    +1,009
    การหาสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับตัวเองชีวิตก็จะดีขึ้น ก็ออกไปเช่าหออยู่ครับ หาหอเงียบๆ จะได้พักผ่อนได้เต็มที่ ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องทำใจ
     
  12. lg786ls

    lg786ls สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +9
    ไม่แน่ใจว่าช่วยได้ไหมครับ ผมเองก็มีปัญหาคล้ายๆกัน ช่วงเวลาเย็นๆ
    บ้านข้างๆจะกลับจากการขับรถตู้ แล้วจะต้องล้างรถอยู่เป็นประจำทุกเย็น
    ปัญหาอยู่ที่ว่าจะต้องเปิดเพลงเสียงดังๆแล้วเปิดท้ายรถให้คนอื่นได้ยินซึ่งเสียง
    ถือว่าดังใช้ได้คนอยู่ในบ้านถัดไปอีก 2 หลังคุยกันในบ้านไม่ค่อยจะรู้เรื่อง
    ผมเองก็เป็นคนที่จะพยายามหาทางออกด้วยธรรมมะที่ตัวเองพยายามทำอยู่
    จากการอ่านและฟังตามสื่อต่างๆซึ่งหาได้ง่ายใน internet พอเจอเสียง
    ที่มันหนวกหูน่าก็จะพาให้หงุดหงิดเป็นอันมาก ขนาดว่าคนในในบ้านพูดด้วย
    จะพาลโมโหใส่คนในบ้านได้ง่ายๆ วันนี้ลองแผ่เมตาให้กับเจ้าของรถตู้
    ตามที่ได้อ่านคำแนะนำจากหลายๆที่ทีได้อ่านได้ฟังมา แผ่ไปหลายรอบ
    สรุปว่าไม่หายโมโหไปได้ครับ ยังคงหงุดหงิดต่อไป เลยตัดสินใจหยุดเลยครับ
    เลิกแผ่เมตาทันที หักดิบมาพิรจณาเข้ามาที่ตัวเองเลย เห็นความอึดอัด
    และร้อนที่กลางอก เลยดูมันอย่างนั้นสักพัก ก็เริ่มเห็นว่าความร้อนนี้ ไม่มี
    ชื่อเรียกว่าอะไรทั้งสิ้น ไม่เรียกว่าโกรธ สิ่งที่เรียกว่าโกรธคือการคิดต่อเนื่อง
    ไม่หยุดต่างหาก เมื่อไม่มีความต่อเนื่องของความตั้งใจที่จะแผ่เมตาเพื่อหวัง
    จะให้เกิดปาฏิหารให้เสียงหยุดดัง(เท่ากับเป็นการสืบเชื้อความโกรธโดยไม่รู้ตัว)
    โกรธนี้ก็ไม่อาจจะหายได้ พอถึงตอนนี้เมื่อขาดการเพิ่มเชื้อความโกรธ
    ความร้อนที่อยู่กลางอกจะค่อยๆลดลงไปเรื่อยๆ จนมันดับไป ทั้งที่
    เสียงเพลงไม่ได้ดังลดน้อยลงไปเลย พิรณาจึงเห็นได้ว่า ถึงไม่มีตัวเราอยู่ตรง
    นั้นเขาก็เปิดเพลงเสียงดังอยู่ดี สรุปอย่างนั้นใจจึงเบาครับ ทุกครั้งที่เจอ
    เหตุการณ์คล้ายๆอย่านี้ จะต้องหักดิบกลับมารู้ที่ความรู้สึกตลอดครับ
    พึงเว้นเสียจากการเพิ่มเติมความคิด ไม่ว่าจะคิดดี หรือร้าย จงนิ่งเสีย
    กลับมารู้สึกถึงสิ่งที่อยู่กลางอก มันจะวางไปเอง และถึงแม้ไม่มีตัวเราตั้งอยู่ตรงนั้นสิ่งต่างๆ ก็จะต้องเป็นของมันอยู่อย่างนั้น มีแต่เรานั่นแหละที่วิ่งเข้าไป
    รับสิ่งเหล่านั้นเอง
    หวังว่าคงจะได้ข้อคิดอะไรบ้างไม่มากก็น้อยครับ ขอให้เจอหนทางออกไวๆครับ
     
  13. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ...........................:cool:
     
  14. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    ทําไมเราถึงจะต้องอยากไปเเก้ใจของเขา ให้มันได้ดั่งประสงค์ ของใจเรา ด้วยล่ะ

    เเล้วถ้ามีวันนึงคนอื่น เขา อยากเเก้ ใจ ของเราให้ไปเข้าใจ ในเเบบของเขา
    อยากให้เราเป็นอย่างเขา อยากให้เราทํา นี่ นู้น นั่น ให้ตามใจเขา เเล้วเราจะทําไหม ชอบไหม เวลามีคนอยากจะให้เราเป็น เหมือนที่เขาต้องการ ก็ เรามันไม่อยากนี่หว่า

    ใจ กรู ตัวกรู ของ ของกรู เเล้วมึงเป็นใคร มาสั่ง มาเเก้ให้กรูต้องเป็นเเบบนั้น เเบบนู้น

    เเล้วเราล่ะ อยากจะให้คนอื่นเขาเป็นดั่งใจเราไหม

    ถ้าอยาก เรื่องมันก็ไม่มีวันจบ ไม่มีวันหมด เเก้เรื่องนี้ผ่าน เเก้เรื่องนั้นได้ เดี๋ยวเรื่อง นู้นนนนนนนน
    มันก็เข้ามาอีก

    เพราะอะไร

    เพราะ ใจของเขามันไม่ใช้ของเรา เเล้วใจของเรามันก็ไม่ใช้ใจของเขางัย

    ใจของใคร ก็ ของมัน
    ยิ่งอยากมาก ปัญหามันก็มาก ถ้าไม่อยากเลย ดู ซิ ปัญหามันจะมีไหม ปัญหามันจะเอาเหตุตรงใหนไปเกิด ก็ ในเมื่อเราไม่อยากซะอย่าง


    เเก้ตรงใจตัวเองก่อน เป็นอันดับเเรก
    มองให้เห็น ตามจริงให้ได้ว่า ในโลกนี้ มันมีอะไรดั่งใจเราไปทุกเรื่องไหม

    เอาเเค่เรื่องอยากให้ หมา มันไปขี้ที่อื่น เรายังไปบังคับอะไรมันไม่ได้เลย
    เเล้วนับประสาอะไรกับใจ ของมนุษ เรา

    เเก้ตรงนี้เป็นอย่างเเรก ถ้าตรงนี้มันได้ เข้าใจมันได้ เดี๋ยวเรื่องอื่น มันก็จะค่อยๆดับลงไปเอง ตามกําลัง


    สู้ สู้ น่ะจ๊ะคนดี เราเป็นกําลังใจให้ เราเชื่อว่าเธอต้องทําได้จ๊าาาาาาาาาาาาาาาา
     
  15. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,653
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,019
    ผมอยากฝากหนังสือ ชีวิตเป็นอย่างนี้ ที่อยู่ใต้ comment ของผมให้คุณเอ คอร์ download ไปอ่านดูครับ อ่านเเล้วจะได้ความรู้ใหม่ๆ เเละคิดอะไรได้อีกหลายอย่างเเน่นอนครับ ยังไงคุณเอ คอร์ ก็หมั่นรักษาศีลห้า สวดมนต์ นั่งสมาธิ เเผ่เมตตา เเละตั้งใจปฎิบัติต่อไปก็เเล้วกันครับ ทุกคนมีปัญหากันหมดทุกคนครับ ไม่ใช่มีเเต่คุณเอ คอร์ เพียงผู้เดียว ผมก็มี คนอื่นก็มี เเต่ละคนก็ต่างปัญหากันไป ยังไงก็ให้อภัย เเล้วปล่อยวางลงไปครับ มันอาจจะดูเหมือนว่าทํายาก เเต่คุณเอ คอร์ ทําได้เเน่นอนครับ ตอนนี้ผมก็โดนบททดสอบเรื่องของการให้อภัยอยู่ ผมโดนมาหลายปีเเล้ว ตอนเเรกที่ผมพยายามให้อภัย มันก็ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้ เเต่พอผมเริ่มทําครั้งเเรกเเล้ว ครั้งต่อๆมาก็ง่ายขึ้นเรื่อยๆ เรื่องพวกนี้ขึ้นอยู่ที่ใจของเราเป็นหลักครับ เราต้องชนะใจตัวเอง ถ้าเราชนะได้ครั้งเเรก ให้อภัยเค้าได้ครั้งเเรก ครั้งต่อๆมา เราก็จะทําได้อย่างง่ายขึ้นเรื่อยๆ อันนี้เรื่องจริงครับ ขอเ้ป็นกําลังใจให้ครับ ยังไงก็เข้าไป download มาอ่านดูนะครับ ใน link มีหนังสือ 2 เล่ม คือ หนังสือชีวิตเป็นอย่างนี้ เเละหนังสือทําบ้านให้เป็นสุข หนังสือ 2 เล่มนี้ดีหมดทั้ง 2 เล่มเลยครับ ลองอ่านให้จบดูเเล้วกันครับ ขอให้โชคดีครับ อนุโมทนาครับ
    __________________
     
  16. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515
    แจ้งความแล้วตำรวจไม่มาหรือคะ ว้า

    แล้วหลังบ้านเค้ามีสวนไหม
    ที่มีพื้นดินน่ะค่ะ
    ช่วงนี้ฝนตก
    เอาเมล็ดกัญชาไปโปรยนะ
    แล้วอีก ๒๐ วันไปแจ้งความใหม่ ว่าเค้ามีกัญชาหลังบ้าน
    ตำรวจจะมาเลยล่ะหนนี้


    ล้อเล่นน่ะค่ะ ๕๕๕
    ๑ วิธีจัดการกะพวก ขี้เหล้าคือ พาเพื่อนขี้เหล้าไปเยอะๆ (จ้างให้เราก็ไม่ไปเรามันพระเอก) ให้เมาหนักกว่ามัน แล้วอาละวาดหนักกว่ามัน
    ๒ พาตำรวจมิดีมิร้ายส่งซิ๊ก ให้มาเก็บส่วยให้เข็ดหลาบ

    ฯลฯ
    เดี๊ยวนึกออกแล้วจะมาช่วยใหม่นะคะ
    ถ้าลองทำแล้วไม่ได้ผล โปรดทำตามคำแนะนำ ตามความเห็นก่อนหน้านี้

    ส่งกำลังใจไปช่วยค่า
     
  17. รสา

    รสา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +0
    อ่านแล้วน่าเห็นใจมากค่ะ เคยมีประสบการณ์ไปพักโรงแรมใกล้ที่แถวสถานีขนส่งจังหวัด จังหวัดหนึ่ง รถบัสวิ่งเข้าออกนาทีละหลายคัน นอนแค่คืนเดียว (ไม่ได้หลับเลยทั้งคืน) รอให้เช้ารีบเผ่นเลยค่ะ ปวดหัวเวียนหัว แทบจะประสาทรับประทาน พอได้ยินเสียงรถ วืด วืด เครียดมาก ว่าจะพักสักสองคืน ไม่ไหวจริง ๆ บางทีขันติมันก็มีนะคะ แต่ขันธ์ 5 เราทนการไม่ได้หลับไม่ได้นอนไม่ไหวหรอกค่ะ พักผ่อนไม่เต็มที่ร่างกายจะแย่ จะเอากำลังกาย กำลังใจที่ไหนมาปฏิบัติธรรม ใจไม่สงบ ง่วงเหงาหาวนอน โกรธแค้นอีกต่างหาก จิตใจมันไม่ผ่องแผ้วค่ะ

    ทางที่ดีหาทางขยับขยายดีกว่า ลองคิดดูว่าจะย้ายดี หรือจะทำอย่างไรไม่ให้ต้องได้ยินเสียง หรือไปบวชที่วัดท่าซุงก็ดีนะคะ มารไม่มีบารมีไม่เกิดค่ะ บางทีอาจจะเป็นเพราะเราจะต้องมาทางธรรมในช่วงนี้ก็ได้ มีพระหลาย ๆ องค์ที่ตอนแรกว่าจะบวชสักพัก ไป ๆ มา ๆ บวชไม่สึก เพราะได้พบทางของตัวเอง ขอให้เจริญในธรรมค่ะ
     
  18. MK2508

    MK2508 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2012
    โพสต์:
    2,919
    ค่าพลัง:
    +4,267
    ไม่ผลักไส ไม่ใฝ่หา

    เรียนคุณเอเคอร์ เสียงกระทบหูแต่อย่าให้กระเทือนใจ คุณลองพิจารณาดูดีๆ ถ้าไม่ใช่เสียงที่คุณรำคาญหรือไม่พอใจ แต่เปลี่ยนเป็นเสียงที่คูณชอบหรือพอใจ เอามาเปิดตอนตี๑ สภาพจิตใจคูณจะเป็นอย่างนี้ไหม คิดดูดีๆ เสียงก็คือเสียง แต่สิ่งที่ทำให้จิตใจคุณย่ำแย่ ก็คือความคิดของคูณเอง มันตอกย้ำว่าไม่ชอบใจไม่พอใจ แล้วมันก็ย้ำซ้ำๆอยู่อย่างนั้น ยิ่งต้องมาเจอซ้ำแล้วซ้ำอีก จัดการอะไรเขาก็ไม่ได้เลย อาการจึงกำเริบถึงขั้นขาดสติ จะเอาปืนไปยิงเขาซะแล้ว ยิงไปแล้วเป็นไง ติดคุกหัวโต ทีนี้ยิ่งถูกบีบคั้นหนัก สภาพในคุกคุณกำหนดอะไรตามความพอใจไม่ได้เลย คุณเป็นอย่างนี้ เพราะคุณเอาความพอใจไม่พอใจมาเป็นตัวขับเคลื่อนชีวิตคุณ เจอสิ่งพอใจก็เป็นสุขหลงยึดติดไปกับมัน เจอสิ่งไม่พอใจก็ดิ้นรนผลักไสกำจัดมัน คุณเชื่อมั้ย เสียงดังไม่ใช่อุปสรรคของการนอน คนที่เขาทำงานหามรุ่งหามค่ำเช่นกรรมกร ที่พักก็อยู่ในเขตก่อสร้าง เขาตอกเสาเข็มกันโครมๆ ก็นอนหลับได้ เพราะเขาไม่ได้หงุดหงิดกับเสียงไง คุณพยายามเอาชนะใจตัวเองดูสิ ถ้าเสียงเพลงตอนตี๑คือหนามตำใจคุณ แล้วทำไมคุณไม่ปล่อยมัน ปล่อยมันไปซะ ใจมันจะเบาขึ้น ถือไว้ใจก็หนักปล่อยวางมันก็เบา หูยังคงได้ยินเสียง แต่ใจจะไม่ร้อนรุ่มเหมือนเดิม ที่กล่าวมานี้ ไม่ได้ส่งเสริมให้คุณไม่สู้คน แต่ต้องสู้ให้ถูกต้อง พูดกับเขาเราก็ทำแล้ว แจ้งตำรวจเราก็ทำแล้ว เห็นไหม อะไรที่เกี่ยวกับภายนอก เราก็ได้ทำหมดแล้ว แต่เรายังไม่ได้จัดการภายในคือใจเราเอง คิดให้เป็นคิดให้ถูกเรื่องถูกต้อง ใจก็สงบระงับเอง ถ้าไม่ปรับความคิดเห็นปรับใจเอาแต่นั่งแผ่เมตตา คุณแน่ใจหรือว่ามีเมตตามากพอที่จะแผ่ไปเรื่อยๆได้ วันไหนเมตตาหมดก็คว้าปืนมายิงเขานั่นแล เมตตาอย่างเดียวไม่พอต้องสร้างเสริมปัญญา(สัมมาทิฏฐิ)ไว้เป็นหลักกำกับด้วย จะได้เอาตัวรอดได้ในทุกสถานการณ์
     
  19. unta

    unta สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +6
    ทุกข์ขอคน

    น่าเห็นใจกับทุกข์ที่ได้รับนะ
    การบวช เป็นเรื่องดี (อนุโมทนา บุญ)
    หลังจากบวชกลับมา คุณจะไม่อยู่ที่บ้านหลังนี้แล้วใช้ไหม
    ***ทุกข์ที่ได้อยู่ที่ไหน ****
    ****ก็จงแก้ที่นั้น****(ไม่ได้แนะนำให้ไปฆ่าใครนะ)
    *****จิตเป็นของคุณ***แล้วคุณส่งจิตออกไปข้างนอกทำไหม***
    ***แล้วจะให้ทำไอย่างไร***เมื่อสิ่งที่ทำให้เกิดทุกข์มันเข้ามาหา***
    **แล้วคุณเปิดรับมันทำไม***
    *แล้วจะปิดประตูอย่างไร* นี้และโจทย์(ยากมาก)ที่คุณต้องแก้......
    ****.....****
    เป็นกำลังใจ
     
  20. MK2508

    MK2508 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2012
    โพสต์:
    2,919
    ค่าพลัง:
    +4,267
    ไม่ผลักไส ไม่ใฝ่หา

    เลยลองมาถามดูว่าผมควรจะทำยังไง อย่างแรกผมควร
    อดทนหรือครับอดทนแล้วมีอานิสงค์อะไรครับ ผมแค้นจนปวดตรงหัวใจไปแล้วบางครั้งหายใจแทบไม่ออก อย่างที่สองให้อภัยเขาแล้วอานิสงค์ของการอภัยทานละครับเป็นยังไง แล้วสุดท้ายผมขาดเมตตาใช่ไหมและถ้าผมเมตตาผมจะได้เป็นในสิ่งที่ผมต้องการหรือเปล่า
     

แชร์หน้านี้

Loading...