การเข้าถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย วิษณุ12, 21 มีนาคม 2012.

  1. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    <CENTER></CENTER><CENTER><CENTER>.</CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๖</CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER>มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์</CENTER><CENTER> </CENTER>
    </CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER>๑๒. ทักขิณาวิภังคสูตร (๑๔๒)</CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER>
    [๗๐๖] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้-

    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่พระวิหารนิโครธาราม
    เขตพระ-*นครกบิลพัสดุ์ ในสักกชนบท
    สมัยนั้นแล
    พระนางมหาปชาบดีโคตมีทรงถือผ้าห่มคู่หนึ่ง
    เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคยังที่ประทับ
    แล้วถวายอภิวาทพระผู้มี-*พระภาค
    ประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง พอประทับนั่งเรียบร้อยแล้ว ​

    ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า
    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ผ้าใหม่คู่นี้
    หม่อมฉัน
    กรอด้าย ทอเอง ตั้งใจอุทิศพระผู้มีพระภาค
    ขอพระผู้มีพระภาคทรงอาศัยความ
    อนุเคราะห์ โปรดรับผ้าใหม่ทั้งคู่ของหม่อมฉันเถิด ฯ​

    [๗๐๗] เมื่อพระนางกราบทูลแล้วอย่างนี้ พระผู้มีพระภาคได้ตรัสดังนี้ว่า
    ดูกรโคตมี
    พระนางจงถวายสงฆ์เถิด เมื่อถวายสงฆ์แล้ว
    จักเป็นอันพระนางได้บูชาทั้งอาตมภาพและสงฆ์
    พระนางมหาปชาบดีโคตมี ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาค
    ดังนี้ว่า
    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
    ผ้าใหม่คู่นี้ หม่อมฉันกรอด้าย ทอเอง ตั้งใจ
    อุทิศพระผู้มีพระภาค ขอพระผู้มีพระภาคทรงอาศัยความอนุเคราะห์
    โปรดรับผ้าใหม่ทั้งคู่นี้ของหม่อมฉันเถิด
    แม้ในครั้งที่ ๒ แม้ในครั้งที่ ๓ ​

    แล พระผู้มี-*พระภาคก็ตรัสกะพระนาง
    แม้ในครั้งที่ ๒ แม้ในครั้งที่ ๓ ดังนี้ว่า
    ดูกรโคตมี
    พระนางถวายสงฆ์เถิด เมื่อถวายสงฆ์แล้ว
    จักเป็นอันพระนางได้บูชาทั้งอาตม-*ภาพและสงฆ์ ฯ​

    [๗๐๘] เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้
    ท่านพระอานนท์ ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า ​

    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
    ขอพระผู้มีพระภาค
    โปรดรับ
    ผ้าใหม่ทั้งคู่ ของพระนางมหาปชาบดีโคตมีเถิด
    พระนางมหาปชาบดีโคตมี
    มีอุปการะมาก เป็นพระมาตุจฉาผู้ทรงบำรุงเลี้ยง
    ประทานพระขีรรสแด่พระผู้มีพระภาค​

    เมื่อพระชนนีสวรรคตแล้ว ได้โปรดให้พระผู้มีพระภาคทรงดื่มเต้าพระถัน
    แม้
    พระผู้มีพระภาคก็ทรงมีอุปการะมากแก่พระนางมหาปชาบดีโคตมี
    พระนางทรงอาศัยพระผู้มีพระภาค
    จึงทรงถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะได้​

    ทรงอาศัยพระผู้มีพระภาค
    จึงทรงงดเว้นจากปาณาติบาต
    จากอทินนาทาน
    จากกาเมสุมิจฉาจาร
    จากมุสาวาท
    จากฐานะเป็นที่ตั้งแห่งความประมาทเพราะดื่ม
    น้ำเมาคือสุราและเมรัยได้ ​

    ทรงอาศัยพระผู้มีพระภาค
    จึงทรงประกอบด้วยความ
    เลื่อมใสอย่างไม่หวั่นไหวในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    ทรงประกอบด้วยศีล
    ที่พระอริยะมุ่งหมายได้ ทรงอาศัยพระผู้มีพระภาค
    จึงเป็นผู้หมดความสงสัย
    ในทุกข์ ในทุกขสมุทัย ในทุกขนิโรธ ในทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาได้ ​

    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
    แม้พระผู้มีพระภาค
    ก็ทรงมีพระอุปการะมากแก่พระนางมหาปชา-*บดีโคตมี ฯ​


    [๗๐๙] พ. ถูกแล้วๆ อานนท์
    จริงอยู่ บุคคลอาศัยบุคคลใดแล้ว
    เป็นผู้ถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะได้
    เราไม่กล่าว การที่บุคคลนี้ตอบแทนต่อบุคคลนี้ด้วยดี
    เพียงกราบไหว้ ลุกรับ ทำอัญชลี ทำสามีจิกรรม
    ด้วยเพิ่มให้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจยเภสัชบริขาร ​

    บุคคลใด อาศัยบุคคลใดแล้ว
    งดเว้นจากปาณาติบาต
    จากอทินนาทาน
    จากกาเมสุมิจฉา-*จาร
    จากมุสาวาท
    จากฐานะเป็นที่ตั้งแห่งความประมาทเพราะดื่มน้ำเมา
    คือสุราและเมรัยได้ ​

    เราไม่กล่าวการที่บุคคลนี้ตอบแทนต่อบุคคลนี้ด้วยดี
    เพียงกราบไหว้
    ลุกรับ ทำอัญชลี ทำสามีจิกรรม
    ด้วยเพิ่มให้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ
    และคิลาน-*ปัจจยเภสัชบริขาร ​


    บุคคลอาศัยบุคคลใดแล้ว
    เป็นผู้ประกอบด้วยความเลื่อมใส
    อย่างไม่หวั่นไหวในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    ประกอบด้วยศีลที่พระอริยะมุ่งหมายได้
    เราไม่กล่าวการที่บุคคลนี้ตอบแทนบุคคลนี้ด้วยดี
    เพียงกราบไหว้
    ลุกรับ ทำอัญชลี ทำสามีจิกรรม ด้วยเพิ่มให้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และ
    คิลานปัจจยเภสัชบริขาร ​


    บุคคลอาศัยบุคคลใดแล้ว
    เป็นผู้หมดความสงสัยในทุกข์
    ในทุกขสมุทัย
    ในทุกขนิโรธ
    ในทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาได้ ​

    เราไม่กล่าวการที่
    บุคคลนี้ตอบแทนบุคคลนี้ด้วยดี
    เพียงกราบไหว้ ลุกรับ ทำอัญชลี ทำสามีจิกรรม
    ด้วยเพิ่มให้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจยเภสัชบริขาร ฯ​


    [๗๑๐] ดูกรอานนท์ ก็ทักษิณาเป็นปาฏิปุคคลิกมี ๑๔ อย่าง คือ
    ให้ทานในตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธ
    นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิกประการที่ ๑ ​

    ให้ทานในพระปัจเจกสัมพุทธ นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิกประการที่ ๒ ​


    ให้ทานในสาวกของตถาคตผู้เป็นพระอรหันต์
    นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิกประการที่ ๓ ​

    ให้ทานในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำอรหัตผลให้แจ้ง
    นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิกประการที่ ๔​


    ให้ทานแก่พระอนาคามี นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิกประการที่ ๕ ​

    ให้ทานในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำอนาคามิผลให้แจ้ง
    นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิกประการที่ ๖ ​

    ให้ทานแก่พระสกทาคามี นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิกประการที่ ๗
    ให้ทานในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำสกทาคามิผลให้แจ้ง
    นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิกประการที่ ๘ ​

    ให้ทานในพระโสดาบัน นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิกประการที่ ๙ ​


    ให้ทานในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำโสดาปัตติผลให้แจ้ง
    นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิกประการที่ ๑๐ ​

    ให้ทานในบุคคลภายนอกผู้ปราศจากความกำหนัดในกาม
    นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิกประการที่ ๑๑ ​


    ให้ทานในบุคคลผู้มีศีล นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิกประการที่ ๑๒​

    ให้ทานในปุถุชนผู้ทุศีล นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิกประการที่ ๑๓ ​

    ให้ทานในสัตว์-*เดียรัจฉาน นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิกประการที่ ๑๔ ฯ​


    [๗๑๑] ดูกรอานนท์ ใน ๑๔ ประการนั้น
    บุคคลให้ทานในสัตว์เดีย-*รัจฉาน พึงหวังผลทักษิณาได้ร้อยเท่า ​

    ให้ทานในปุถุชนผู้ทุศีล พึงหวังผลทักษิณาได้พันเท่า ​

    ให้ทานในปุถุชนผู้มีศีล พึงหวังผลทักษิณาได้แสนเท่า​

    ให้ทานในบุคคลภายนอกผู้ปราศจากความกำหนัดในกาม
    พึงหวังผลทักษิณาได้แสนโกฏิเท่า ​

    ให้ทานในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำโสดาปัตติผลให้แจ้ง
    พึงหวังผลทักษิณาจนนับไม่ได้​

    จนประมาณไม่ได้ จะป่วยกล่าวไปไยในพระโสดาบัน
    ในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำสกทาคามิผลให้แจ้ง
    ในพระสกทาคามี ในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำอนาคามิผลให้แจ้ง
    ในพระอนาคามี ในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำอรหัตผลให้แจ้ง ​

    ในสาวกของตถาคตผู้เป็นพระอรหันต์
    ในพระปัจเจกสัมพุทธ และในตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธ ฯ​


    [๗๑๒] ดูกรอานนท์ ก็ทักษิณาที่ถึงแล้วในสงฆ์มี ๗ อย่าง คือ ​

    ให้ทานในสงฆ์ ๒ ฝ่าย มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข
    นี้เป็นทักษิณาที่ถึงแล้วในสงฆ์ประการที่ ๑ ​


    ให้ทานในสงฆ์ ๒ ฝ่าย ในเมื่อตถาคตปรินิพพานแล้ว นี้เป็น
    ทักษิณาที่ถึงแล้วในสงฆ์ทั้ง ๒ ฝ่าย
    ในเมื่อตถาคตปรินิพพานแล้ว นี้เป็นทักษิณา
    ที่ถึงแล้วในสงฆ์ประการที่ ๒ ​


    ให้ทานในภิกษุสงฆ์ นี้เป็นทักษิณาที่ถึงแล้วในสงฆ์
    ประการที่ ๓ ​


    ให้ทานในภิกษุณีสงฆ์ นี้เป็นทักษิณาที่ถึงแล้วในสงฆ์ประการที่ ๔​

    เผดียงสงฆ์ว่า ขอได้โปรดจัดภิกษุและภิกษุณีจำนวนเท่านี้
    ขึ้นเป็นสงฆ์แก่ข้าพเจ้า
    แล้วให้ทาน นี้เป็นทักษิณาที่ถึงแล้วในสงฆ์ประการที่ ๕ ​


    เผดียงสงฆ์ว่า ขอได้โปรดจัดภิกษุจำนวนเท่านี้ขึ้นเป็นสงฆ์แก่ข้าพเจ้า
    แล้วให้ทาน นี้เป็นทักษิณา-*ที่ถึงแล้วในสงฆ์ประการที่ ๖ ​

    เผดียงสงฆ์ว่า ขอได้โปรดจัดภิกษุณีจำนวนเท่านี้
    ขึ้นเป็นสงฆ์แก่ข้าพเจ้า แล้วให้ทาน
    นี้เป็นทักษิณาที่ถึงแล้วในสงฆ์ประการที่ ๗ ฯ​


    [๗๑๓] ดูกรอานนท์ ก็ในอนาคตกาล จักมีแต่เหล่าภิกษุโคตรภู
    มีผ้ากาสาวะพันคอ เป็นคนทุศีล มีธรรมลามก
    คนทั้งหลายจักถวายทานเฉพาะ
    สงฆ์ได้ในเหล่าภิกษุทุศีลนั้น ดูกรอานนท์
    ทักษิณาที่ถึงแล้วในสงฆ์แม้ในเวลานั้น
    เราก็กล่าวว่า มีผลนับไม่ได้ ประมาณไม่ได้
    แต่ว่าเราไม่กล่าวปาฏิปุคคลิกทานว่า
    มีผลมากกว่าทักษิณาที่ถึงแล้วในสงฆ์โดยปริยายไรๆ เลย ฯ​


    [๗๑๔] ดูกรอานนท์ ก็ความบริสุทธิ์แห่งทักษิณานี้มี ๔ อย่าง
    ๔ อย่างเป็นไฉน ​

    ดูกรอานนท์
    ทักษิณาบางอย่างบริสุทธิ์ฝ่ายทายก
    ไม่บริสุทธิ์ฝ่ายปฏิคาหก
    บางอย่างบริสุทธิ์ฝ่ายปฏิคาหก
    ไม่บริสุทธิ์ฝ่ายทายก บางอย่างฝ่ายทายกก็ไม่
    บริสุทธิ์ฝ่ายปฏิคาหกก็ไม่บริสุทธิ์
    บางอย่างบริสุทธิ์ทั้งฝ่ายทายกและฝ่ายปฏิคาหก ฯ​


    [๗๑๕] ดูกรอานนท์ ก็ทักษิณาชื่อว่าบริสุทธิ์ฝ่ายทายก
    ไม่บริสุทธิ์ฝ่ายปฏิคาหกอย่างไร
    ดูกรอานนท์ ในข้อนี้ ​

    ทายกมีศีล มีธรรมงาม
    ปฏิคาหกเป็นผู้ทุศีล มีธรรมลามก อย่างนี้แล
    ทักษิณาชื่อว่า
    บริสุทธิ์ฝ่ายทายก ไม่บริสุทธิ์ฝ่ายปฏิคาหก ฯ​


    [๗๑๖] ดูกรอานนท์
    ก็ทักษิณาชื่อว่า
    บริสุทธิ์ฝ่ายปฏิคาหก ไม่บริสุทธิ์ฝ่ายทายกอย่างไร
    ดูกรอานนท์ ในข้อนี้
    ทายกเป็นผู้ทุศีล มีธรรมลามก
    ปฏิคาหกเป็นผู้มีศีล มีธรรมงาม อย่างนี้แล
    ทักษิณาชื่อว่าบริสุทธิ์ฝ่ายปฏิคาหกไม่บริสุทธิ์ฝ่ายทายก ฯ​


    [๗๑๗] ดูกรอานนท์
    ก็ทักษิณาชื่อว่า
    ฝ่ายทายกก็ไม่บริสุทธิ์ ฝ่ายปฏิคาหก
    ก็ไม่บริสุทธิ์อย่างไร ดูกรอานนท์ในข้อนี้
    ทายกก็เป็นผู้ทุศีล มีธรรมลามก
    ปฏิคาหกก็เป็นผู้ทุศีล มีธรรมลามก อย่างนี้แล
    ทักษิณาชื่อว่าฝ่ายทายกก็ไม่บริสุทธิ์ ฝ่ายปฏิคาหกก็ไม่บริสุทธิ์ ฯ​


    [๗๑๘] ดูกรอานนท์
    ก็ทักษิณาชื่อว่า
    บริสุทธิ์ทั้งฝ่ายทายก และฝ่ายปฏิคาหกอย่างไร
    ดูกรอานนท์ ในข้อนี้
    ทายกก็เป็นผู้มีศีล มีธรรมงาม
    ปฏิคา-*หกก็เป็นผู้มีศีล มีธรรมงาม อย่างนี้แล
    ทักษิณาชื่อว่าบริสุทธิ์ทั้งฝ่ายทายกและฝ่ายปฏิคาหก ฯ
    ดูกรอานนท์ นี้แล ความบริสุทธิ์แห่งทักษิณา ๔ อย่าง ฯ​


    [๗๑๙] พระผู้มีพระภาคผู้สุคตศาสดา ได้ตรัสไวยากรณภาษิตนี้แล้ว
    ได้ตรัสคาถาประพันธ์ดังนี้ต่อไปอีกว่า​

    (๑) ผู้ใดมีศีล ได้ของมาโดยธรรม มีจิตเลื่อมใสดี
    เชื่อกรรมและผลแห่งกรรมอย่างยิ่ง ให้ทานในคนทุศีล
    ทักษิณาของผู้นั้น ชื่อว่าบริสุทธิ์ฝ่ายทายก ฯ​

    (๒) ผู้ใดทุศีล ได้ของมาโดยไม่เป็นธรรม มีจิตไม่เลื่อมใส
    ไม่เชื่อกรรมและผลของกรรมอย่างยิ่ง ให้ทานในคนมีศีล
    ทักษิณาของผู้นั้นชื่อว่า บริสุทธิ์ฝ่ายปฏิคาหก ฯ​

    (๓) ผู้ใดทุศีล ได้ของมาโดยไม่เป็นธรรม มีจิตไม่เลื่อมใส
    ไม่เชื่อกรรมและผลของกรรมอย่างยิ่ง ให้ทานในคนทุศีล
    เราไม่กล่าวทานของผู้นั้นว่า มีผลไพบูลย์ ฯ​

    (๔) ผู้ใดมีศีล ได้ของมาโดยธรรม มีจิตเลื่อมใสดี เชื่อกรรม
    และผลของกรรมอย่างยิ่ง ให้ทานในคนมีศีล เรากล่าวทาน
    ของผู้นั้นแลว่า มีผลไพบูลย์ ฯ​

    (๕) ผู้ใดปราศจากราคะแล้ว ได้ของมาโดยธรรม
    มีจิตเลื่อมใสดี เชื่อกรรมและผลของกรรมอย่างยิ่ง
    ให้ทานในผู้ปราศจากราคะ
    ทานของผู้นั้นนั่นแล เลิศกว่าอามิสทานทั้งหลาย ฯ​



    <CENTER>จบ ทักขิณาวิภังคสูตร ที่ ๑๒</CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER>จบ วิภังควรรค ที่ ๔</CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER>ที่มา
    </CENTER>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 มีนาคม 2012
  2. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    "การสั่งสมบุญ นำสุขมาให้"

    พุทธภาษิต
     
  3. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    มอนิ่งจ๊ะ น้าหม้อ

    การสะสมปัจจัยแห่งการสร้างเหตุเพื่อมรรคผล
    นำสุขมาให้​
     
  4. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    ขอบคุณที่สรรหานำ "ธรรมทาน" มาโพสให้อ่าน

    เป็นเหตุให้ผู้มีนำ ไปพิจารณาต่อยอดทางปัญญาได้

    สิ่งนั้น จะย้อนกลับ เข้ามาหาตน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2012
  5. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ใช่แล้วครับน้าหม้อ

    เมื่อมีกรรม(การกระทำ)
    ย่อมมีผลตอบแทนเสมอ
    อยู่ที่ว่า จะเลือกยืนในสิ่งใดเป็นที่ตั้ง
    ผู้มีปัญญา ย่อมเห็นทางสองแพร่ง
    ย่อมเลือกตั้งตนในที่สมควร
     
  6. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    บุญ ชื่อ ว่าความสุข เป็นกุศล ไม่เร่าร้อน

    เป็นกริยาลักษณะของบุญกุศล เป็นบุญกิริยา :cool:

    จิตตัง ทันตัง สุขาวหัง
    จิตที่ฝึกที่ดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้

    นิพพานนัง ปรมัง สุขขัง
    นิพพานเป็นสุึขอย่างยิ่ง

    พุทธภาษิต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2012
  7. นาอินจัง

    นาอินจัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2009
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +36
    ใช่ บุญแปลว่า นำสุขมาให้ ผู้มีบุญแปลว่า ผู้ใจเป็นสุข
    และผู้ที่ขึ้นว่า มีบุญถามอะไร จะต้องตอบตามความเป็นจริง ทุกกาล
    ไม่โกหก

    ไม่ใช่โกหก แล้วออกมายอมรับทีหลัง นี่พวกคบไม่ได้
     
  8. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    อีกความหมายนึง ของคำว่าบุญ

    หรือ บุญกิริยาวัตถุ 10

    จากพระไตรปิฎก ฉบับ ส.ธรรมภักดี

    บุญ คือ เหตุที่เล็งให้เกิดความสุข

    พูดง่ายๆว่า สามารถทำเหตุที่ให้มีความสุขเป็นผล
    เหตุนั้น มีกิริยา นับได้ 10 อย่าง

    ความสุขเป็นผลจากการให้ทาน
    ความสุขเป็นผลจากการรักษาศีล
    ความสุขเป็นผลเกิดจากการเริญภาวนา(ผลใหญ่)
    ความสุขเป็นผลเกิดจากการอนุโมทนา
    ความสุจเป็นผลเกิดจากการอุทิศอานิสงส์
    ความสุขเป็นผลเกิดจากการฟังธรรม
    ความสุเป็นผลเกิดจากการสาธยายธรรม
    ความสุขเป็นผลเกิดจากการนอบน้อม
    ความสุขเป็นผลเกิดจากการตั้งตนในทางที่ถูกต้อง
    ความสุขเป็นผลเกิดจากการช่วยเหลือผู้อื่นในสิ่งที่ควร
     
  9. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    ใครโกซิกใคร นานา ไม่ใช่คับแค้นเหลือทน ทำตนให้เร่าร้อน

    ส่วนเรื่องคบไม่คบ นั่นเป็นเรื่องของการเลือกเฟ้น

    ใครจะคบไม่คบ ก็คบตัวเองซิ จะไปยากอะไร

    พี่ปราบ..! จะบอกอะไรให้ ตอนแมวไม่อยู่ ผีแตงโม ออกอาละวาด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2012
  10. นาอินจัง

    นาอินจัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2009
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +36
    ผีหม้อ นั้นแระ โกหกเอง
     
  11. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    ใครโกหกใครเล่า

    ส่วนเรื่องการจะคบไม่คบ คุยไม่คุย หรือไม่เสวนาด้วยอะไรยังไง

    ไม่ใช่สาระสำคัญสำหรับเรา

    ส่วนเรื่องสัปบุรุษ หรือสัตบุรุษ
    ธรรมของท่าน มีให้เลือกเฟ้นพิจารณาอยู่แล้ว สำหรับเรา

    คงจะไม่งง เกี่ยวกับ สัปบุรุษภายนอก สู่ สัปบุรุษภายใน
     
  12. นาอินจัง

    นาอินจัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2009
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +36
    แหว่ะ คุยดูดี แต่เวลาโดนจี้ มันออกอาการ และแตกตื่นกับข่าวลือ
     
  13. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    อ๋อๆ เพิ่งรู้ัตัว ว่า นานา เค้าทดสอบอารมณ์เรานี่เอง

    ผีตัวนี้ร้าย เดี๋ยวเจอลูกประคำ
     
  14. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    ทางที่ดี คุณเลิกคุย กับเราซะ

    จบ

    ไปโดยธาตุ
     
  15. นาอินจัง

    นาอินจัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2009
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +36
    ไม่ได้ทดสอบอารมณ์หร๊อก เพราะสงสัยมานานแล้ว ว่า ทำไมต้องโกหก
    และ เชื่อข่าวอีก เป็นกันเยอะ นะ มีพยานเห็นนายโกหกเราด้วย
    แต่ชอบพูดธรรมดีดีจัง
     
  16. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    ก็ถึงได้ถามว่าโกหกเรื่องอะไรยังไง
     
  17. นาอินจัง

    นาอินจัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2009
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +36
    แล้ว ตัวเอง ชอบอ้างสัจจะ ด้วยนะ
     
  18. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    ก็บอกมาเรื่องอะไร
     

แชร์หน้านี้

Loading...