กมธ.ศาสนาฯ ขวาง “ธรรมกาย” จัดกิจสงฆ์ธุดงค์กลางเมือง มีนัย

เด๊๋ยวนี้ การทำอกุศล เกิดขึ้นได้ง่ายถ้าไปเกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธเรา อยากขอให้ทุกท่านระวังที่จะก่อบาปให้กับตัวเอง ใครทำอะไรไม่ดีกับศาสนาของพระพุทธเจ้าหรือเอาศาสนาของพระองค์ไปสร้างประโยชน์ในทางที่ผิดเขาเหล่านั้นย่อมได้รับผลกรรมแน่นอน ไม่ว่าพระหรือฆราวาส ฉะนั้นอยากเตือนผู้มีบุญทั้งหลายจงอย่าประมาทและระวังในการวิพากษ์วิจารณ์อย่าให้อกุศลกรรมมาตกอยู่ในตัวเรา เจริญธรรม

 

ผมเห็นว่าเน้นการทำบุญวัตถุมาก ไม่ค่อยเห็นสอนเจริญภาวนาสักเท่าไร

ส่วนตัวมีความเห็นว่าถ้าหากหลวงพ่อสดมีชีวิตอยู่ ท่านก็คงไม่เน้นให้ทำแบบนี้

น่าจะเน้นนักไปในด้านเจริญภาวนาให้มากๆ เมื่อจิตมันสูง สติดี

คิดเงินก็ไหลนองคิดทองก็ไหลมา เงินทองไม่อยู่กับคนไม่มีวาสนาเป็นแน่แท้

จุดมุ่งหมายสำคัญก็คือ พอเรามีความทุกข์ขึ้นมาอะไรที่ช่วยเรา ก็เป็นธรรมะที่ภาวนามานี้

ที่จะมาสอนเราเตือนเราในขณะนั้น ว่าควรวางใจอย่างไร เมื่ออยู่ในสภาวะนั้นๆ

 

ดูคล้าย แต่ไม่ใช่ ของแท้
กลบเกลื่อนเชือนแช แก้เก้อ
ดำเป็นขาว ขาวเป็นดำ นะเออ
ความเลิศเลอ เจอได้ จากภายใน.
------------------------------------------
นำคำสอนพระศาสดา มาใช้
แต่ใจไม่ เคารพท่าน ตามประสงค์
ลบหลู่ ดูหมิ่น พระพุทธองค์
ว่ารีบลง มาเกิด เป็นจอมไตรฯ
----------------------------------------------
ตั้งปณิธาน แปลกใหม่ ใจหาญกล้า
ให้ศรัทธาเจ้าสำนัก อย่าสงสัย
ให้อยู่ในวัฎฎะ ยาวนานไกล
ให้ไปไกล กว่าพระ ศาสดาฯ
------------------------------------------------
กล้าหาญเทียบ เปรียบกับ พุทธกาล
อีกวงศ์วาน ของพระพุทธ ชินสีห์
ทำกิจกรรม ให้ใหญ่โต กว่าเคยมี
แล้วภูมิใจ ในศักดิ์ศรี ที่ตนทำ
------------------------------------------------
โอ้ อนิจจา ฟ้าดิน สิ้นแล้วหรือ
ให้พราหมณ์ถือ ปณิธาน รุกราน ศาสนา
นำปวงชน ปนมลทิน สิ้นราคา
หวังเพียงว่า ต้องล้ำหน้า กว่าจอมไตรฯ
----------------------------------------------------------

 

ในสมัยพุทธกาล พระพุทธองค์ทรงในพระภิกษุอยู่จำพรรษา3เดือนเพราะ เมื่อพระเดินธุดงค์ผ่านนาข้าวของชาวบ้านแล้วไปเหยียบย่ำนาข้าวทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน

ฉะนั้น เรื่องเดินธุดงค์กลางเมืองนี่ก็เช่นกัน ทำแล้วคนเดือดร้อน เมื่อคนเขาเดือดร้อนเขาก็วิพากษ์วิจารณ์ เกิดการถกเถียง การด่าทอ แตกแยกกันอีก แล้วเมืองไทยเรายังแตกแยกไม่พออีกหรือ?

ขอฝากถึงคนที่เกี่ยวข้อง เราศรัทธาได้แต่อย่าเอาศรัทธาของเราไปยัดเยียดให้คนอื่น แล้วคิดถึงตนเองน้อยๆ คิดถึงคนอื่นเยอะๆ คิดถึงผลที่จะตามมาด้วย ถ้าทำด้วยความศรัทธา ความพยายามอย่างเดียวแต่กลับไม่มีปัญญามาควบคู่ มันจะเป็นผลเสียนะครับ

 

แม่ชีบอกว่า เพราะท่านได้ไปปรามาสวัดธรรมกายไว้ ข้อความอย่างนี้แม่ชีไม่ควรพูด ไม่เหมาะแก่ผู้ถือเพศสมณะ แสดงตนเป็นผู้หยั่งรู้หยั่งเห็น ควรที่จะแสดงธรรมะให้มาก ช่วยนำทางให้เห็นว่า เหตุปัจจุบันอะไรที่เขาประมาท จึงยังผลให้เขาประสบเรื่องอย่างนี้ ไม่ใช่ว่า อะไรๆๆ ก็ปรามาส แค่ไหนเรียกว่าปรามาส ใช้อะไรตัดสินว่าปรามาส ...

ทำไมต้องไปถามหาเหตุกับผู้อื่น ทำไมตัวเราเองไม่พิจารณาหาเหตุด้วยตนเอง ใช้สมาธิ ใช้สติ ใช้ปัญญา ของตนเองคิดพิจารณากรรม (การกระทำ) ของตนเองในปัจจุบันสิ เช่น เสียเงินด้วยเรื่องอะไร เรื่องนั้นเกิดอย่างไร เหตุอะไรทำให้เกิด เราประมาทที่จุดไหน หนทางแก้ไขควรทำอย่างไร

ชาวพุทธ (ผู้ตื่น) พยายามปฏิบัติตนให้เป็นพุทธะกันหน่อย

 

กด Like ให้ล้านครั้งครับ
ผมเคยสัมผัสแนวคิดของสายนี้มาตั้งแต่ตอนเรียนมัธยม
เพราะมีอาจารย์สองคนคลั่งลัทธินี้มากๆ จนต้องบังคับให้ทุกคนไปวัดนี้
มิฉะนั้นจะให้สอบตก ผมจึงได้มีโอกาสสัมผัส แนวคิดที่บอกว่าต้องทำบุญที่นี่ได้บุญเยอะที่สุด
วันนั้นมีสอนนั่งสมาธิด้วย ผมเป็นคนนั่งสมาธิอยู่แล้วเป็นประจำ
จำได้ว่าวันนั้นนั่งแล้วไม่มีสมาธิ ไม่ได้เกี่ยวกับวัดหรือใครๆนะครับ
บังเอิญผมไม่มีสมาธิเอง แต่หลวงพี่ที่คุมอยู่บอกว่าผมดูมีสมาธิและสงบมาก
ให้ออกมาอธิบายความรู้สึก อาจารย์ก็อยู่ด้วยทั้งสองคนเลย
ก็เลยต้องมุสาในวัดเลยครับ ว่าสงบนิ่งและเย็น โดยเอาความรู้สึกตอนที่จิตเป็นสมาธิจริงๆ
ในครั้งอื่นมาเล่าให้ฟัง จะได้ไม่ทำให้หลวงพ่อท่านเสียหน้า และอาจารย์ผมจะเคืองเอา
คำสอนต่างๆ เป็นเปลือกของศาสนา แต่ใช้สื่อที่ดีและความอยากความโลภในบุญของคนเป็นตัวดึงคนให้เชื่อ

ผมไม่ได้มีประสบการณ์นี้เพียงครั้งเดียวนะครับ
ไปเรียนต่อต่างประเทศก็เจอพระที่วัดนี้ส่งไปเรียน ป โท
ยังไม่พอส่ง้ด็กวัดไปเรียน ป โท ด้วย มีโทรศัพท์มือถือและoptionครบ
พยายามจะชวนผมไปวัดที่ต่างประเทศในสังกัดที่เขาพักอยู่ให้ได้
ผมว่าผมบ่ายเบี่ยงด้วยเหตุผลต่างๆ หลายครั้งจนเขาน่าจะเข้าใจเองว่าทำไม
แต่เขามีวิธีเข้่ถึงชาวต่างชาติที่ไม่รู้จักพุทธศาสนาได้ดีมากครับ
มี cd. สอนนั่งสมาธิ แบบมีเพลงคลอกับคำบรรยาย
เสียงนกร้องและน้ำไหล ไม่รู้ว่าจะชวนนั่งสมาธิหรือชวนทำสปา

เรื่องตักบาตรปิดถนนก็อีกนั่นแหละ
ชอบทำอะไรเพื่อสร้างภาพให้ยิ่งใหญ่ ไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้อื่น
ตักบาตรพระเป็นหมื่นรูปจะได้บุญมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆหรือครับ
คำถามที่ท่านต้องถามตัวเองก่อนคือ มีพระมารวมตัวกันปิดถนนเป็นหมื่นรูป
ท่านไปร่วมงานแล้วมีปัญญาจะใส่บาตรได้สักกี่รูป
ท่านมีอาหารหนึ่งหมื่นชุดหรือก็เปล่า เตรียมขอไปใส่บาตรแค่เก้าองค์
ทำที่หน้่าปากซอย หรือที่วัดข้างบ้านที่เงียบสงบน่าจะดีกว่า
การใส่บาตรพระเพียงรูปเดียว หากจิตเป็นกุศล
ละกิเลส รู้จักการให้ก็จะได้บุญมหาศาล
การใส่บาตรเพื่อสนองกิเลส เพราะความอยากได้สิ่งที่เรียกว่าบุญ
อยากมากก็บาปมาก ก็ไม่ได้ก่อให้เกิดทานบารมี ยิ่งใส่ก็จะยิ่งบาปครับ

ต่อไปน่าจะธุดงเข้าไปในงานนับถอยหลังตอนปีใหม่เลยดีไหมครับ คิดนอกกรอบมันเลย
เพราะเดิมเขาสอนให้สงบ ธุดงค์ในป่า เรายังอยากสร้างความวุ่นวาน
อยากก่อปัญหาให้ทางโลกอีก เรียกร้องความสนใจ
ผมว่าตำรวจน่าจะจับข้อหากีดขวางการจราจรนะครับ

หลวงพ่อสดท่านเป็นพระดี พระบริสุทธิ์
ค้นคิดวิชาธรรมกายได้สำเร็จ แต่กลับมีคนนำอ้่างชื่อท่านทำให้มัวหมอง
เพราะคนกลุ่มนี้ ที่ทำให้หลายคนสองจิตสองใจที่จะแขวนพระหลวงพ่อสด
เพราะเดี๋ยวจะถูกหาว่าเป็นพวกเดียวกับกลุ่มดังกล่าว
พระของขวัญของท่านที่มีพุทธคุณอันวิเศษ
จึงไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควรจะเป็น

ผมไม่ได้ต้องการลบหลู่ท่านที่เคารพศรัทธาในองค์หลวงพ่อสด
และวิชาธรรมกายของท่าน เพราะผมก็ศรัทธาท่านมากเหมือนกัน
แค่อยากเล่าข้อเท็จจริงบางอย่างที่ได้สัมผัสมา
และอยากให้คนไทยเข้าถึงแก่นของศาสนา
แม้ผมรักที่จะสะสมพระ แต่ก็ระลึกถึงคำสอนทางศาสนาอยู่ตลอดเวลา
ว่าพระเป็นแค่สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ แก่นของศาสนาคือธรรมะ
และการทำบุญด้วยเงิน ดอกไม้ธูปเทียน ไม่อาจเทียบได้กับการปฏิบัติบูชา
ถือศีล ละเว้นความชั่ว และทำกรรมดีครับ

 

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ

 

วัดไชยบูลย์ ทำอะไรต้องให้ฮือฮาได้ตลอด นั้นแหละ ทางของเขาละ

 

ข้อมูลยอดเยี่ยมครับ
ส่วนตัว ผมไม่ชอบการแบ่งข้างครับ
แต่ผมเลือกจะเชื่อสมเด็จพระสังฆราชครับ
เพราะท่านมีจริยาวัตรที่บริสุทธิ์เป็นอริยะสงฆ์อย่างแท้จริง

 

​

ผมจะโดนแบนไหมเนี่ย 555+

 

อันนี้ขอยกประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังนะครับ... ตอนนั้นผมยังเรียนอยู่ระดับ ปวช.3 (นานมากๆแล้ว) กำลังขี่รถจะไปเรียนในช่วงเช้า ก็เห็นพระธุดงค์กำลังเดินอยู่ไหล่ทาง ท่านผิวดำกร้านมาก คงจะตากแดดกรำฝนมาไม่น้อย เหงื่อก็ท่วมตัวจนเปียกชุ่มจีวรไปหมด แต่ท่านยังดูหนุ่มอยู่เลย ผมอยากช่วยเหลือท่าน เลยจอดรถเทียบ แล้วยกมือไหว้ ท่านก็หันมายิ้มแล้วพูดว่า "เจริญพรโยม" ผมก็บอกท่านว่า "ท่านจะไปไหนครับ นั่งรถผมไปไหม" แต่ท่านร้องโอยเลย บอกว่า "ไม่ได้หรอกโยม ฉันออกธุดงค์ฉันต้องเดินอย่างสันโดษ นี่โยมกะจะไปส่งฉันถึงสุโขทัยโน่นเลยเหรอ (ตอนที่ผมคุยกับท่าน เราอยู่ที่พิจิตร) ไม่เป็นไรหรอกโยม เอาเป็นว่าฉันอนุโมทนาในบุญ ที่โยมเมตตาจะไปส่งฉันแล้วกันนะ แต่ฉันไปไม่ได้จริงๆหรอกโยม มันผิดวินัย ไม่อย่างงั้นฉันจะออกมาธุดงค์ทำไมล่ะ เนาะๆ" แล้วท่านก็ให้พรผมหลายอย่างเลย จากนั้นผมก็รับพรแล้วขี่รถไปเรียน จำได้ว่า... วันนั้นทั้งวันผมรู้สึกอบอุ่นใจมาก ไม่รู้เป็นเพราะจิตใจที่อยากช่วยเหลือได้บังเกิดขึ้น (แม้ว่าจะไม่สำเร็จก็ตาม) หรือจะเป็นเพราะพรที่พระให้มา แต่ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม นั่นทำให้ผมรู้สึกดีมาจนทุกวันนี้ ท่านไม่ได้เดินบนพรมที่ทอดยาว ไม่มีกลีบกุหลาบที่โรยตามทาง แต่ท่านเปี่ยมล้นไปด้วยความมุ่งมั่น ที่จะค้นหาสัจธรรมด้วยตัวของท่านเอง แต่อย่างว่าแหละครับ คนเราศรัทธาไม่เหมือนกัน บังคับกันไม่ได้หรอก และผมเองก็ไม่อยากปรามาสพระสักเท่าไหร่ ถึงพระรูปไหนจะไม่ดีอย่างไร ยังไงซะท่านก็ยังห่มผ้าเหลือง ก็ควรแล้วที่เราจะเกรงใจในผ้าเหลืองนั้น ปรามาสไป รังแต่จะเป็นผลร้ายกับตัวเราเปล่าๆ พระที่ธุดงค์ป่าปูนวันนั้น หลายรูปก็อาจมาด้วยใจศรัทธาจริงๆก็ได้ ใครจะรู้

 

ผมว่าพระที่มาเดินบนหนทางที่โปรยด้วยกลีบกุหลาบ
หากท่านเชื่อว่ามาทำในสิ่งที่ถูกต้องตามหลักศาสนา
ก็น่าจะไปศึกษาพระธรรมคำสอนของพุทธองค์ให้ถ่องแท้ก่อนนะครับ
เวลาที่ชาวพุทธเรากราบพระก็เพราะท่านเป็นผู้ทรงศีล
ท่านได้ศึกษาพระธรรมอย่าถ่องแท้ และเผยแพร่พระธรรมให้เรา
ที่เป็นผู้อ่อนด้อยในสัจธรรม ยึดติดในทางโลกมากกว่า
เราไม่ได้กราบผ้าเหลืองนะครับ แต่เรากราบผู้มีศีลสูง
แต่หากผู้นุ่งห่มเหลืองในพุทธศาสนา มิได้มุ่งปฏิบัติให้เป็นไป
ตามคำสอนขององค์พระสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า
ผมว่าบุคคลผู้นั้นจะบาปเสียยิ่งกว่าบาปครับ
เพราะเป็นการทำลายพุทธศาสนาทางอ้อม
ก็อย่างที่เป็นข่าวอยู่บ่อยๆ พวกที่อาศัยผ้าเหลืองหากิน
วันนี้ชาวพุทธที่มีศีลต้องฉลาดในการศึกษาพระธรรมคำสอน
และเลือกกราบไหว้บูชาพระที่เป็นอริยะสงฆ์ซึ่งดำเนินตาม
พระธรรมคำสอนอย่างเคร่งครัด สอนเราในธรรมที่เป็นแก่นของศาสนา
ผมเคยได้ยินคนบอกว่าศาสนาเริ่มเสื่อม
ผมอยากบอกเขาว่าศาสนา คือ พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้่าไม่เคยเสื่อม
คนต่างหากที่เสื่อม พุทธวัจนะยังเป็นจริงและเป็นอมตะเสมอ

ขออภัยหากใช้ถ้อยคำที่ตรงไปตรงมาเกินไป
แต่อยากบอกว่าผมศรัทธาในพุทธศาสนา
และอยากให้คำสอนของพุทธองค์อยู่คู่กับโลกใบนี้ตลอดไปครับ

 

แล้วแต่คนศรัทธานะครับ ใครศรัทธาสายไหนเขาก็ว่าสายนั้นดีเราทำบุญ ทำดีไปเถิด ใครเขาจะทำอะไรช่างเขา ใครด่า ใครว่า ทนเอา ใจเราเป็นสุขก็พอ ถ้าเขาทำผิดบัญญัติของพระไตรปิฎก กรรมก็ไม่ละเว้นเหมือนกันครับ

 

อนุโมทนา สาธุ อันนี้คือปีติเข้า ครับ
บุญ เกิดที่ใจ สร้างที่ใจ วันนั้นใจของท่านสร้างบุญต่อเนื่องทั้งวันแล้วครับ ขอแนะนำให้ จำเรื่องนี้ให้แม่นๆ แล้วระลึกถึงเรื่องนี้ทุกวัน ทุกครั้ง ที่ทำบุญอื่นๆ ครับ

 

เอางี้ครับผมสงสัยมาหลายทีละ เห็นพวกโจมตีวัดเอามาโจมตีว่อนเน็ตเลย เอกสารฉบับนี้รู้ได้ไงครับว่าของจริง หากเป็นของจริงเถระสมาคมทำไมถึงปล่อยไว้ครับ ไม่จับ สึกไปซะละครับ แล้วหาก จะมาอ้างบอกวัดใช้อำนาจเงิน แสดงว่าเถระสมาคมก็ ไม่ดีซิครับรับสินบน เอาจริงๆนะครับเอกสารนี้จริงหรือปลอม

 

วัดนี้มีอะไรหลาย ๆ อย่างที่ผมไม่(ค่อย)ชอบ แต่ก็มีหลาย ๆ อย่างที่น่าอนุโมทนา
อะไรที่ไม่ชอบก็ปล่อยไป สิ่งใดที่น่าชื่นชมก็ ยินดี..
โดยส่วนตัวผมชอบแนวทางวัด ๆ หนึ่งที่อุทัยธานี ต.น้ำซึม ครับ
ศรัทธาวัดนี้แต่ก็ไม่ได้ไปทับถมอีกวัดหนึ่ง อนุโมทนาทุกแนวความคิดครับผม

 

ว่างๆ ฝากไปบอกกับเจ้าอาวาสของคุรด้วยนะครับ ว่าไปโปรดวิญญาณแถวชายแดนภาคใต้บ้างนะครับ ถ้าให้ดี เจ้าอาวาสของคุณ ไปจำวัดแถวนันสัก พรรษา สิครับ หรือจะจำตลอดเพื่อโปรดสัตว์ หรือ วิญญาณแถวนั้นตลอดไป คงจะดีมากนะครับเพราะดูแล้ว ท่าทางเจ้าอาวาส น่าจะมีบุญบารมีพอที่จะอยู่แถวนั้นได้ ยิ่งธุดงส์ ไปตามชายแดนได้ด้วยตัวเอง ยิ่งดี(นาน นาน ) ผมว่า นั่นจะทำให้ คนเลื่อมใสนะครับ อย่าลืมฝากบอกด้วยนะครับ

 

ใช่เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันไหมครับ
แล้วองค์ที่ออกช่อง DMC ใส่แว่นเป็นใครครับ

 

องค์ปัจจุบัน นี่หละ ลิขิตสังฆราชอะของปลอมครับ ลิขิตท่านอออกมาเป็นอย่างใดอย่างนึง ในเวลานั้นจริงแต่ไม่ใช่ลิขิตนี้แน่นอนครับครับ หากลิขิตนี้ของจริง คงไม่มานั่งอยุู่อย่างนี้หรอกครับ

 

พายุถล่มวันที่ 31 มีนา คงจะบอกอะไรๆได้ดีนะครับ สาธุชนผู้มีปัญญาคงจะมองออกนะครับ