WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

ทาลิมก็ดูเหมือนจะมีตาอยู่เหมือนกันนะ เห็นแว๊บๆแต่ไม่เท่าเพื่อนมัน

 

__________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->C5-WarRoom Falkman

 

ไขปริศนาวัตถุลึกลับใต้บอลติก

18 มิถุนายน 2555 เวลา 12:33 น.

นักสำรวจเผยภาพวัตถุลึกลับอยู่ใต้ทะเลบอลติกเส้นผ่านศูนย์กลาง 60 ม. แถมพบรอยไถลบนพื้นเป็นทางยาว



เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา นักสำรวจใต้สมุทรได้เปิดเผยภาพของวัตถุลึกลับนอนนิ่งอยู่ที่ใต้ท้องทะเลบอลติก ระหว่างประเทศสวีเดนและฟินแลนด์ วัตถุประหลาดชิ้นนี้มีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 60 ม. มีความสูงราว 3-4 ม. เป็นรูปทรงกลมและโค้งมนคล้ายกับดอกเห็ด

นอกจากนี้ นักสำรวจยังพบทางเรียบใต้ทะเลที่มีลักษณะคล้ายรันเวย์สนามบินความยาว 300 ม. และไปสิ้นสุดตรงจุดที่วัตถุประหลาดนอนนิ่งอยู่ ราวกับว่าเป็นจุดลงจอดหรือเป็นร่องรอยจากการไถลไปตามพื้น

แม้จะยังไม่ทราบแน่ชัดว่า คืออะไร นักสำรวจชาวสวีเดนและผู้สนใจจากทั่วโลกตั้งข้อสังเกตว่า วัตถุลึกลับมีลักษณะคล้ายกับยาน “มิลเลนเนียม ฟอลคอน” ที่ปรากฏในภาพยนตร์เรื่องสตาร์วอร์ส ทำให้เกิดทฤษฎีไปต่างๆ นานาว่า วัตถุดังกล่าวอาจเป็นยานอวกาศจากนอกโลกที่ตกลงสู่พื้นทะเลอย่างลึกลับ ไปจนทฤษฎีที่ว่าสถานที่พบวัตถุนี้อาจเป็นปากทางเข้าสู่ใจกลางของโลกที่ถูกปิดไว้โดยบุคคลหรือสิ่งมีชีวิตลึกลับ

ขณะนี้ นักสำรวจใต้น้ำจากประเทศสวีเดนกำลังเป็นที่จับตาจากทั่วโลกว่า จะสามารถไขปริศนาที่ห้อมล้อมวัตถุลึกลับนี้ได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ยิ่งทำการสำรวจมากเท่าไรยิ่งพบกับปริศนาดำมืดมากขึ้นเท่านั้น



ล่าสุด นักสำรวจยังค้นพบการก่อตัวของกองหินที่ไม่น่าจะเกิดจากการกระทำของพลังงานธรรมชาติ แต่คล้ายกับทำขึ้นโดยฝีมือของมนุษย์ โดยกองหินดังกล่าวตั้งอยู่บนปากหลุมของวัตถุประหลาด มีลักษณะคล้ายกับเตาไฟแคมปิ้ง ทั้งยังพบด้วยว่าบนหินแต่ละก้อนมีร่องรอยของเขม่าควันไฟ

ปีเตอร์ ลินเบอร์ก หนึ่งในทีมสำรวจ เปิดเผยว่า พื้นที่ทะเลบอลติกไม่ปรากฏความเคลื่อนไหวของภูเขาไฟ อีกทั้งก้อนหินยังไม่สามารถเกิดไฟเผาผลาญตัวเองได้ ทำให้ปริศนาเกี่ยวกับวัตถุประหลาดใต้ทะเลยิ่งยากที่จะสรรหาคำอธิบายที่สมเหตุผลได้

ส่วน สเตฟาน ฮอจบอร์น สมาชิกของทีมสำรวจ เปิดเผยว่า ส่วนตัวแล้วในฐานะที่เคยดำน้ำมากว่า 60 ปี ด้วยประสบการณ์ดำน้ำกว่า 6,000 ครั้ง ยังไม่เคยพบเจอสิ่งประหลาดยิ่งกว่านี้มาก่อน ซึ่งก่อนหน้าที่จะดำลงไปสำรวจเจ้าตัวคิดว่าคงจะสามารถค้นพบหลักฐานที่บ่งชี้ที่มาของวัตถุลึกลับได้ แต่กลายเป็นว่าเมื่อขึ้นสู่ผิวน้ำกลับต้องพบกับปริศนามากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ น่านน้ำทะเลบอลติกเต็มไปด้วยซากเรือที่จมลงจากยุคต่างๆ และคาดว่าจะมีวัตถุมีค่านับแสนชิ้นนอนรอผู้มากู้คืนสู่ผิวโลกอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม การสำรวจน่านน้ำแถบนี้เป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะกระแสน้ำเย็นยะเยือกและทัศนวิสัยใต้น้ำที่ไม่ดีนัก

ทีมงานสำรวจของ Ocean Explorer พบกับวัตถุลึกลับเมื่อเดือน มิ.ย.ปีที่แล้ว จากการอาศัยภาพโซนาร์ใต้น้ำ แต่เพราะขาดเงินทุนและขนาดทีมงานที่ครบครัน จึงทำให้การสำรวจต้องล่าช้าไปถึง 1 ปี อีกทั้งยังไม่มั่นใจว่าสิ่งที่พบคือเรือรบที่ถูกจมระหว่างสงครามโลกหรือเป็นสิ่งใดกันแน่

สำหรับภาพการสำรวจใต้น้ำเพิ่งได้รับการเผยแพร่โดยหนังสือพิมพ์ Expressen ของสวีเดน และสามารถชมคลิปวิดีโอได้ที่เว็บไซต์ Gizmodo

 

พิจิตร-อาคารเรียนทรุดทั้งหลังขณะดีดหนีน้ำท่วม

วันจันทร์ ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555



อาคารโรงเรียนบ้านรังนกประชาพิทักษ์ขนาด 5 ห้องเรียนเกิดเหตุทรุดพังลงมาทั้งหลัง ขณะปรับปรุงยกให้สูงขึ้นเพื่อหนีน้ำท่วม

เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรสามง่ามเข้าตรวจสอบอาคารเรียนโรงเรียนบ้านรังนก ประชาพิทักษ์ หมู่ที่ 4 ตำบลรังนก อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ที่ทรุดตัวลงมาจนพังทั้งหลัง

จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า เป็นอาคารเรียนขนาด 5 ห้องเรียน มีนักเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 ก่อสร้างมาแล้วกว่า 40 ปี ได้รับงบประมาณในการปรับปรุงจำนวน 820,000 บาท เพื่อยกอาคารเรียนให้สูงขึ้นเป็นการป้องกันน้ำท่วม ขณะที่ปรับปรุงใกล้แล้วเสร็จอาคารเกิดพังลงมาทั้งหลัง ทรัพย์สินทั้งอุปกรณ์การเรียน เครื่องกีฬาเสียหายจำนวนมาก โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนื่องจากเป็นช่วงที่คนงานเลิกงาน และโรงเรียนเลิกเรียนแล้ว

นายพิษณุ สุรรัตน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนกล่าวว่า โรงเรียนได้รับงบประมาณในการแก้ปัญหาอุทกภัยเพื่อยกพื้นอาคารเรียนให้สูงขึ้นจากพื้นดิน 3 เมตร เพื่อหนีน้ำที่ท่วมทุกปี จึงได้ดำเนินการว่าจ้างผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการ มีกำหนดแล้วเสร็จในสัปดาห์หน้า ซึ่งการดำเนินการราบรื่นมาโดยตลอดไม่มีทีท่าว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น แต่เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (17 มิ.ย.)อาคารเกิดพังลงทั้งที่ไม่มีฝนหรือลม สาเหตุเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากดินที่อ่อนตัวจากน้ำที่ท่วมเป็นเวลานาน ประกอบกับฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 วันก่อน

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้รับการประสานจากผู้รับเหมาว่าพร้อมที่จะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งอาคารและอุปกรณ์การเรียนการสอน ส่วนทางโรงเรียนได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาสาเหตุโดยได้เชิญช่างโยธา จากองค์การบริหารส่วนตำบลรังนก ซึ่งมีความชำนาญมาร่วมในการตรวจสอบหาสาเหตุ เพื่อเป็นข้อมูลเนื่องจากโรงเรียนมีโครงการที่จะยกสูงอาคารเรียนขนาด 6 ห้องเรียนอีกหนึ่งหลัง ส่วนอาคารเรียนที่พังลงมาครั้งนี้ไม่มีผลกระทบต่อการเรียนของเด็ก เนื่องจากโรงเรียนจัดห้องเรียนให้เพียงพอในช่วงก่อนปรับปรุงยกพื้นอาคารเรียนอยู่แล้ว

 

ปัญหาหมอกควันเริ่มปกคลุม 3 จชต.

วันจันทร์ ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555




หมอกควันไฟป่าจากเกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย เริ่มลอยเข้ามาปกคลุมใน 3 จังหวัดชายแดนใต้มากขึ้น ประชาชนในพื้นที่เริ่มรู้สึกระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ

สถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นในเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ขณะนี้เริ่มส่งผลกระทบต่อพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ของประเทศไทย เนื่องจากกระแสลมได้พัดพาเอาหมอกควันไฟป่าจากเกาะสุมาตราข้ามช่องแคบมะละกามายังประเทศมาเลเซีย และภาคใต้ของประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง

โดยที่จังหวัดปัตตานี สถานการณ์หมอกควันไฟป่าจากเกาะสุมาตราเริ่มเข้าปกคลุมท้องฟ้าจนเป็นสีเทาและบดบังแสงอาทิตย์จนไม่สามารถสอดส่องลงมาได้ นอกจากนี้ยังปกคลุมป่าเขา ตลอดจนบ้านเรือนประชาชนตามชุมชนต่างๆ เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 และแนวโน้มยังคงมีหมอกควันเพิ่มหนาแน่นขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนรู้สึกถึงกลิ่นควัน และหลายคนเริ่มมีอาการจามจากการรับเอาหมอกควันเข้าทางการหายใจ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นภูมิแพ้ ตลอดจนรู้สึกระคายเคืองและแสบตาแล้ว

ขณะที่ตามถนนที่มีรถสัญจรไปมานั้นก็เกิดหมอกควัน เริ่มส่งผลให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ไกลนัก ซึ่งหากสถานการณ์ไฟป่าที่เกาะสุมาตรายังคงรุนแรง คาด ใน 2-3 วัน จะส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่เพิ่มมากขึ้นแน่นอน

เช่นเดียวกับที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา มีสภาพฟ้าหลัวและถูกปกคลุมด้วยหมอกควันสีขาวไปทั่วทั้งเมือง โดยเฉพาะบริเวณตามท้องถนน โดยเฉพาะในช่วง 1-2 วันนี้ สภาพหมอกควันหนามากเป็นพิเศษ เนื่องจากในตัวเมืองเบตงเป็นแอ่งกะทะมีภูเขาล้อมรอบ หมอกควันได้รวมตัวกันอย่างหนาแน่น ภูเขา ตึกสูง ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันมองเห็นเลือนลาง และยังส่งผลกระทบต่อผู้ขับขี่ยานพาหนะเป็นอย่างมาก เนื่องจากทัศนวิสัยการมองเห็นไม่ชัดเจน โดยเฉพาะถนนสายวังใหม่-บ้านคอกช้าง ซึ่งเป็นเส้นทางเข้า- ออกอำเภอเบตง ที่เป็นภูเขาสูงชันและคดเคี้ยว

ส่วนที่จังหวัดนราธิวาส กลุ่มหมอกควันสีขาวแพร่ปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอเป็นหย่อมๆ ส่งผลให้ทัศนวิสัยการจราจรบนท้องถนนมีสภาพหลัว และเป็นอุปสรรคต่อการขับขี่ยานพาหนะทุกชนิดของประชาชน ที่ต้องเดินทางไปทำงานและส่งบุตรหลานไปเรียนหนังสือ

ด้านนายวงศ์วิทย์ อัครวโรทัย สาธารณสุขอำเภอเบตง แจ้งข้อควรปฏิบัติ คือ ใช้ผ้าชุบน้ำพอหมาด ๆ ปิดจมูกและปาก ในกรณีที่อยู่ในบริเวณที่มีหมอกควัน ปิดหน้าต่าง ประตูเพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นควันเข้าบ้าน หลีกเลี่ยงไม่อยู่ในที่ที่มีหมอกควันปกคลุม โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก คนชรา หรือผู้ป่วยภูมิแพ้ หอบหืด งดการรองน้ำฝนไว้อุปโภคบริโภคชั่วคราว หรือควรปล่อยให้ฝนตกลงมาอย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนรองน้ำไว้ใช้ ทั้งนี้ขอความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งเหตุการเผาในที่โล่งและหมอกควันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรืออำเภอทราบ เพื่อจะได้ดำเนินการแก้ไขให้ได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งความร่วมมือในการควบคุม ลด และงดการเผาในที่โล่งทุกประเภท เพื่อลดฝุ่นละอองจากแหล่งกำเนิดในพื้นที่

 

เขื่อนสิริกิติ์ ลดการพร่องน้ำ หวังลดน้ำท่วม

ข่าวภูมิภาค วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ.2555 14:32น.


เขื่อนสิริกิติ์ ลดการพร่องน้ำ หวัง บรรเทาปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย ขณะที่ ปริมาณน้ำในเขื่อน มีเพียงร้อย 47.53
นายธนะรัตน์ ภูมะกสิกร ผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ เปิดเผยว่า ในปัจจุบันเกิดอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำยม ทำให้จังหวัดสุโขทัยมีผลกระทบในด้านอุทกภัยหลายพื้นที่ และมีการผันน้ำจากลำน้ำยมลงแม่น้ำน่านเพื่อลดปริมาณน้ำในน้ำยม ตามปกติเขื่อนสิริกิติ์พร่องน้ำ เพื่อเตรียมรอรับน้ำฝนในฤดูที่จะถึงนี้ วันละกว่า 32 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ปัจจุบันได้ปรับลดลงเหลือเพียง วันละ 17 ล้านลูกบาศก์เมตร
ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ ยังคงมีน้ำร้อยละ 47.53 ทั้งนี้ หากอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุโขทัยลดลง และมีการหยุดผันน้ำยมลงแม่น้ำน่านแล้ว คงจะต้องมีการปล่อยน้ำจากอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ วันละ 32 ล้านลูกบาศก์เมตร ตามปกติ เพื่อเตรียมรองรับน้ำในฤดูฝนใหม่ ไม่ให้เอ่อล้นสมทบภาคกลาง ส่งผลให้เกิดอุทกภัยดังปลายปี 54 ที่ผ่านมา และขอรับรองว่า ยังมั่นคงแข็งแรงตามมาตรฐานสากล

 

หลายพื้นที่ในประเทสจีนยังคงเผชิญกับน้ำท่วมหนัก

ฝนเริ่มตกกระหน่ำในมณฑลเฮยหลงเจียงตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ ทำให้เกิดน้ำท่วม บางพื้นที่น้ำท่วมสูงถึง 1 เมตร คนเดินเท้าต้องเดินลุยน้ำ ขณะเดียวกันมีรายงานว่า รถยนต์ราว 40 คน ที่อยู่บริเวณทางแยกจุดตัดถนน 2 สาย ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำถูกน้ำท่วมจนไม่สามารถเคลื่อนไปได้ ส่งผลให้การจราจรติดขัดเกือบ 100 เมตรขณะที่สำนักงานการประปาและระบายน้ำเมืองฮาร์บิน เปิดเผยว่า ทุกเมืองที่เมืองฮาร์บินมีจุดเกิดน้ำท่วมขัง 21 จุด ในจำนวนนี้มีพื้นที่ 4 แห่งที่น้ำท่วมสูง 60 เซนติเมตร

 

ค่า KP แดง-เหลือง กินเวลายาวจริงๆงวดนี้

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เมฆประหลาดทะมึนเหนือกรุงปักกิ่ง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>17 มิถุนายน 2555 18:05 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT><IFRAME style="WIDTH: 113px; HEIGHT: 20px" class="twitter-share-button twitter-count-horizontal" title="Twitter Tweet Button" src="http://platform.twitter.com/widgets/tweet_button.1338995330.html#_=1340040267031&count=horizontal&id=twitter-widget-0&lang=en&original_referer=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FChina%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9550000073455&size=m&text=%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%86%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%B6%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87&url=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FChina%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9550000073455&via=ASTVManager" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME>

Share195
<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js" gapi_processed="true"> {lang: 'th'}</SCRIPT><IFRAME style="POSITION: static; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; BORDER-RIGHT-STYLE: none; MARGIN: 0px; WIDTH: 90px; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 20px; VISIBILITY: visible; BORDER-LEFT-STYLE: none; TOP: 0px; LEFT: 0px" id=I1_1340040269421 title=+1 tabIndex=0 marginHeight=0 src="https://plusone.google.com/_/+1/fastbutton?bsv=pr&url=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FChina%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9550000073455&size=medium&count=true&origin=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th&hl=th&jsh=m%3B%2F_%2Fapps-static%2F_%2Fjs%2Fgapi%2F__features__%2Frt%3Dj%2Fver%3DYPShmSajykA.th.%2Fsv%3D1%2Fam%3D!rFmBCPi40VqIDfp2cA%2Fd%3D1%2Frs%3DAItRSTMOuY_c6Ak0-PBx-NpS8Va6-2r9CA#id=I1_1340040269421&parent=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th&rpctoken=254213409&_methods=onPlusOne%2C_ready%2C_close%2C_open%2C_resizeMe%2C_renderstart" frameBorder=0 width="100%" allowTransparency name=I1_1340040269421 marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME>

<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9550000073455&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ไชน่าเดลี - กรุงปักกิ่งเป็นเมืองหลวงอันเจริญรุ่งโรจน์ของจีน แต่เต็มไปด้วยมลพิษสาหัส การจราจรติดขัด สภาพอากาศย่ำแย่ หมอกมลพิษลงหนา

พลบค่ำของวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวจับภาพสายฟ้าที่แลบแปลบปลาบอยู่ในก้อนเมฆรูปทรงประหลาดที่เคลื่อนตัวกวาดกินพื้นที่บนท้องฟ้า นับเป็นภาพที่หาดูได้ยาก

(ภาพเอเชียนิวส์)

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600><TBODY><TR><TD vAlign=top width=600 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600><TBODY><TR><TD vAlign=top width=600 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ปภ.นครศรีธรรมราชคาดควบคุมไฟป่าพรุได้วันนี้</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>19 มิถุนายน 2555 11:58 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>


<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js" gapi_processed="true"> {lang: 'th'}</SCRIPT><IFRAME style="POSITION: static; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; BORDER-RIGHT-STYLE: none; MARGIN: 0px; WIDTH: 90px; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 20px; VISIBILITY: visible; BORDER-LEFT-STYLE: none; TOP: 0px; LEFT: 0px" id=I1_1340084028577 title=+1 tabIndex=0 marginHeight=0 src="https://plusone.google.com/_/+1/fastbutton?bsv=pr&url=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FHome%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9550000074996&size=medium&count=true&origin=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th&hl=th&jsh=m%3B%2F_%2Fapps-static%2F_%2Fjs%2Fgapi%2F__features__%2Frt%3Dj%2Fver%3DYPShmSajykA.th.%2Fsv%3D1%2Fam%3D!rFmBCPi40VqIDfp2cA%2Fd%3D1%2Frs%3DAItRSTMOuY_c6Ak0-PBx-NpS8Va6-2r9CA#id=I1_1340084028577&parent=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th&rpctoken=19519335&_methods=onPlusOne%2C_ready%2C_close%2C_open%2C_resizeMe%2C_renderstart" frameBorder=0 width="100%" allowTransparency name=I1_1340084028577 marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME>

<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> นายเจษฎา วัฒนานุรักษ์ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวถึงสถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุ ท่ามะขาม ที่มีพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ ในอำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า เจ้าหน้าที่ระดมกำลังและอุปกรณ์สูบน้ำจากชลประทานขนาดใหญ่กว่า 10 เครื่อง เข้าควบคุมสถานการณ์ไฟไหม้ตั้งแต่วันที่ 17 ที่ผ่านมา โดยไฟไหม้กินพื้นที่ไปกว่า 1,200 ไร่ ซึ่งเป็นส่วนที่มีสวนยางพาราประมาณ 100 ไร่ และปาล์มน้ำมันประมาณ 800 ไร่ จนถึงขณะนี้ยังคงมีไฟในส่วนที่ยังไม่มอดสูงกว่าระดับน้ำประมาณ 30 เซนติเมตร เพียงบางส่วนที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ โดยคาดว่าภายในวันนี้จะสามารถควบคุมได้ เนื่องจากปริมาณน้ำกระจายเต็มพื้นที่
ทั้งนี้ สาเหตุการเกิดไฟไหม้ป่าพรุท่ามะขาม คาดว่าเกิดจากภาคอุตสาหกรรมลักลอบเผาเพื่อบุกรุกพื้นที่ ประกอบกับสภาพอากาศที่มีลมแรงในตอนกลางวัน ทำให้ไฟลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังระดมกำลังเฝ้าควบคุมสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เหยื่อน้ำท่วมสุโขทัยรื้อบ้านหนี-หวั่นคันดินพังน้ำทะลักซ้ำ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>19 มิถุนายน 2555 10:41 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>


<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js" gapi_processed="true"> {lang: 'th'}</SCRIPT><?XML:NAMESPACE PREFIX = G /><GLUSONE size="medium"></GLUSONE>
<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>สุโขทัย - เหยื่อน้ำท่วมเมืองสุโขทัยรื้อบ้านหนี ขณะที่ชาวบ้านที่เคยถูกน้ำท่วมบางส่วนยังไม่กล้าขนทรัพย์สินกลับเข้าบ้าน แม้ทหาร-อปท.จะซ่อมคันดินริมน้ำยมเสร็จ บอกกลัวคันดินพังท่วมซ้ำอีก

สถานการณ์น้ำท่วม จ.สุโขทัย วันนี้ (19 มิ.ย.) แม้ว่ากำลังทหารกองทัพภาคที่ 3 และหน่วยงานท้องถิ่นจะได้เร่งทำการซ่อมแซมคันดินที่พังตรงบริเวณหมู่ 5 ต.ยางซ้าย และหมู่ 2 ต.ปากพระ อ.เมืองสุโขทัย จนแล้วเสร็จแข็งแรงสามารถรับมือกับมวลน้ำปริมาณมากได้ แต่ทว่าก็ยังคงมีชาวบ้านบางส่วนยังไม่กล้าย้ายทรัพย์สินกลับเข้าไปไว้ในบ้านเหมือนเดิม

เนื่องจากหวั่นเกรงว่าแนวคันดินอีกจุดที่อยู่ติดกับจุดที่พังตรงหมู่ 5 ซึ่งมีสภาพถูกน้ำกัดเซาะเสียหายแล้วบางส่วนจะพังตามมาอีก เพราะอยู่ตรงช่วงโค้งแม่น้ำมีกระแสน้ำไหลปะทะแรง ถ้ามวลน้ำมาอีกระลอกคันดินถนนอาจจะพัง และสร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินอีกได้

ขณะที่บ้านของนางส้มแป้น ปรีชา อายุ 61 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.ปากพระ อ.เมืองสุโขทัย ที่ถูกกระแสน้ำซัดพังเสียหายบางส่วน ญาติๆ ของนางส้มแป้นต่างได้มาช่วยกันเร่งรื้อถอนตัวบ้านเพื่อย้ายไปปลูกอยู่ในที่แห่งใหม่แล้ว เนื่องจากกลัวน้ำจะมาท่วมซ้ำอีก

</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=25 vAlign=bottom width=102 align=right></TD><TD height=25 vAlign=bottom background=/images/TabGalleryUBG.gif align=middle></TD><TD height=25 vAlign=bottom width=11 align=left></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=7 vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ede9e8><TABLE border=0 cellSpacing=8 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width="33%" align=middle> </TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=middle></TD><TD vAlign=top width="33%" align=middle> </TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=middle></TD><TD vAlign=top align=middle> </TD></TR><TR><TD vAlign=center width="33%" align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=bottom background=/images/a_up.gif align=middle></TD><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=center background=/images/a_L.gif width=2 align=right></TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/a_R.gif width=2 align=right></TD></TR><TR><TD height=2 vAlign=top width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=top background=/images/a_Dn.gif align=middle></TD><TD height=2 vAlign=top width=2 align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=middle></TD><TD vAlign=center width="33%" align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=bottom background=/images/a_up.gif align=middle></TD><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=center background=/images/a_L.gif width=2 align=right></TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/a_R.gif width=2 align=right></TD></TR><TR><TD height=2 vAlign=top width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=top background=/images/a_Dn.gif align=middle></TD><TD height=2 vAlign=top width=2 align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=middle></TD><TD vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=bottom background=/images/a_up.gif align=middle></TD><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=center background=/images/a_L.gif width=2 align=right></TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/a_R.gif width=2 align=right></TD></TR><TR><TD height=2 vAlign=top width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=top background=/images/a_Dn.gif align=middle></TD><TD height=2 vAlign=top width=2 align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline width="33%" align=middle>บ้านของนางส้มแป้น ปรีชา อายุ 61 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.ปากพระ อ.เมืองสุโขทัย ที่ถูกกระแสน้ำพัดพัง ขณะนี้เหลือแต่เสา หลังญาติๆพากันมาช่วยรื้อถอนบ้าน เพื่อย้านไปสร้างในที่ใหม่</TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=middle></TD><TD vAlign=baseline width="33%" align=middle></TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=middle></TD><TD vAlign=baseline align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=top width="33%" align=middle> </TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=middle></TD><TD vAlign=top width="33%" align=middle> </TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=middle></TD><TD vAlign=top align=middle> </TD></TR><TR><TD vAlign=center width="33%" align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=bottom background=/images/a_up.gif align=middle></TD><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=center background=/images/a_L.gif width=2 align=right></TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/a_R.gif width=2 align=right></TD></TR><TR><TD height=2 vAlign=top width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=top background=/images/a_Dn.gif align=middle></TD><TD height=2 vAlign=top width=2 align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=middle></TD><TD vAlign=center width="33%" align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=bottom background=/images/a_up.gif align=middle></TD><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=center background=/images/a_L.gif width=2 align=right></TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/a_R.gif width=2 align=right></TD></TR><TR><TD height=2 vAlign=top width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=top background=/images/a_Dn.gif align=middle></TD><TD height=2 vAlign=top width=2 align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=middle></TD><TD vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=bottom background=/images/a_up.gif align=middle></TD><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=center background=/images/a_L.gif width=2 align=right></TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/a_R.gif width=2 align=right></TD></TR><TR><TD height=2 vAlign=top width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=top background=/images/a_Dn.gif align=middle></TD><TD height=2 vAlign=top width=2 align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline width="33%" align=middle></TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=middle></TD><TD vAlign=baseline width="33%" align=middle></TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=middle></TD><TD vAlign=baseline align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=top width="33%" align=middle> </TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=middle></TD><TD vAlign=top width="33%" align=middle> </TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=middle></TD><TD vAlign=top align=middle> </TD></TR><TR><TD vAlign=center width="33%" align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=bottom background=/images/a_up.gif align=middle></TD><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=center background=/images/a_L.gif width=2 align=right></TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/a_R.gif width=2 align=right></TD></TR><TR><TD height=2 vAlign=top width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=top background=/images/a_Dn.gif align=middle></TD><TD height=2 vAlign=top width=2 align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=middle></TD><TD vAlign=center width="33%" align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=bottom background=/images/a_up.gif align=middle></TD><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=center background=/images/a_L.gif width=2 align=right></TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/a_R.gif width=2 align=right></TD></TR><TR><TD height=2 vAlign=top width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=top background=/images/a_Dn.gif align=middle></TD><TD height=2 vAlign=top width=2 align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สุนัขหนีฝนเบียดกันนอนบนแคร่ทยอยล้มป่วยไข้หวัด</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>19 มิถุนายน 2555 10:01 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>


<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js" gapi_processed="true"> {lang: 'th'}</SCRIPT><?XML:NAMESPACE PREFIX = G /><GLUSONE size="medium"></GLUSONE>
<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>สุนัขที่ด่านกักกันสัตว์นครพนมหนีฝนขึ้นเบียดบนแคร่บางส่วนทยอยล้มป่วย</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=center width=165 align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>นครพนม - นครพนมฝนตกหนัก อนาถน้ำท่วมขังคอกสุนัขกว่า 200 ตัวหนีฝนเบียดกันบนแคร่ เจ้าหน้าที่เสริมเต็นท์กันฝน ขณะที่สุนัขถูกละอองฝนล้มป่วยเป็นไข้หวัด

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดนครพนมว่า ผลกระทบจากฝนตกหนักหลายวันติดต่อกัน จนทำให้เกิดน้ำท่วมขังบริเวณคอกสุนัขที่ด่านกักกันสัตว์นครพนม ทำพื้นดินชื้นแฉะสุนัขกว่า 200 ตัวต้องเบียดกันหลบฝนบนแคร่ไม้ไผ่เวลาฝนตกหนัก โดยเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลต้องเสริมเต็นท์กันฝนให้สุนัขได้มีที่หลบฝนและนำดินทรายเข้าไปถมคอกให้สูงขึ้น

เจ้าหน้าที่ดูแลสุนัขกล่าวว่า มีปัญหาหนักที่สุดคือสุนัขกว่า 200 ตัวที่อาศัยอยู่ในคอกเปิดที่ทำตาข่ายล้อมรอบรองรับสุนัขที่ล้นมาจากคอกใหญ่ โดยสุนัขถูกละอองฝนเปียกจนล้มป่วยเป็นไข้หวัดและกัดกันเป็นบาดแผลเพราะแย่งที่นอนหลบฝนเฉลี่ยวันละ 2-3 ตัว/วัน เจ้าหน้าที่ต้องแยกมาดูแลรักษาซึ่งในช่วงฝนตกหนักสุนัขจะป่วยมากขึ้น

ณ วานนี้ (18 มิ.ย.) ที่ด่านกักกันสัตว์มีสุนัขจำนวน 874 ตัว ยอดตายสะสม 1,608 ตัว มีประชาชนขอไปเลี้ยงจำนวน 1,316 ตัว เงินบริจาคกองทุนเลี้ยงสุนัขจาก 22 กว่าล้านบาท ปัจจุบันเหลือยอดเงิน 9,775,853 บาท ลดลงทุกวันและจะมีปัญหาตามมาในอนาคตเมื่อเงินกองทุนนี้หมดลง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ยังไม่เป็นตัว! ความจริงมีแค่ “ถุงอสุจิหมึก” ในปากหญิงเกาหลี </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>18 มิถุนายน 2555 04:28 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>


<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js" gapi_processed="true"> {lang: 'th'}</SCRIPT>
<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=bottom width=1 align=right></TD><TD height=1 vAlign=bottom background=/images/linedot_hori.gif align=middle></TD><TD height=1 vAlign=bottom width=1 align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert.gif width=1 align=middle></TD><TD><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert.gif width=1 align=middle></TD></TR><TR><TD height=1 vAlign=top width=1 align=right></TD><TD height=1 vAlign=top background=/images/linedot_hori.gif align=middle></TD><TD height=1 vAlign=top width=1 align=left></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>ความจริงแล้วสิ่งที่พบในปากหญิงเกาหลีคือ "ถุงน้ำเชื้อ" มิใช่ ลูกหมึกที่ผสมจนเป็นตัวแล้ว (ภาพประกอบจากเดลีเมล)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>หญิงเกาหลีพบสิ่งแปลกปลอมในปากหลังกินอวัยวะภายในของหมึกที่ปรุงกึ่งสุกกึ่งดิบ </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=center width=165 align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ข่าวลูกหมึกในปากหญิงเกาหลีได้รับความสนใจจากสื่อไทยพอสมควร แม้เหตุจะเกิดขึ้นหลายวันแล้ว แต่ยังมีรายงานข่าวอย่างต่อเนื่อง แต่ข่าวทีวีบางช่องนำภาพลูกหมึกมานำเสนอชวนให้เชื่อว่ามีลูกหมึกฟักเป็นตัวแล้วจริง แต่จากการตรวจสอบต้นตอของข่าวพบว่ามีเพียง “ถุงอสุจิ” ของสิ่งมีชีวิตที่คาดว่าจะเป็นหมึกเท่านั้นติดอยู่ตามส่วนต่างๆ ของช่องปาก

ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดออนไลน์ได้รับการร้องเรียนจากผู้อ่านว่ามีการนำเสนอข่าวคลาดเคลื่อนจากหลายสำนักข่าวเกี่ยวกับกรณีพบ “ลูกหมึก” ในปากหญิงเกาหลีหลังกินอาหาร “เมนูหมึก” เข้าไป ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นจากแหล่งข่าวต่างประเทศพบว่าในความจริงแล้วสิ่งที่พบนั้นเป็นเพียง “ถุงน้ำเชื้อ” ไม่ใช่หมึกเป็นตัวแต่อย่างใด

ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลเทคโนโลยีชีวภาพ (National Center for Biotechnology Information) ของห้องสมุดการแพทย์สหรัฐ (U.S. National Library of Medicine) ระบุว่าได้รับรายงานการฝังตัวของถุงน้ำเชื้อหมึกสายพันธุ์ โทดาโรเดส แปซิฟิคัส (Todarodes pacificus) ในปากคน โดยเป็นกรณีของหญิงเกาหลีวัย 63 ปีที่มีอาการเจ็บในช่องปากหลังรับประทานอวัยวะภายในของหมึกที่ปรุงกึ่งสุกกึ่งดิบ

“เธอไม่ได้กลืนชิ้นส่วนดังกลาว แต่บ้วนทิ้งในทันที เธอเล่าว่ามีอาการเหมือนถูกบางอย่างแทงและรู้สึกมีสิ่งแปลกปลอมในช่องปากของเธอ อวัยวะเล็กๆ คล้ายแมลงรูปร่างเหมือนเดือยขาวขนาดเล็ก 12 ชิ้นติดอยู่ในเยื่อเมือกของลิ้น กระพุ้งแก้ม และเหงือกถูกนำออกมาจนหมดพร้อมกับเยื่อเมือก ด้วยพื้นฐานเกี่ยวกับสันฐานวิทยาและการปรากฏของถุงอสุจินั้น ระบุได้ว่าสิ่งแปลกปลอมดังกล่าวคือ “ถุงน้ำเชื้อ” (spermatophore) ของหมึก” บทคัดย่อของศูนย์ข้อมูลเทคโนโลยีชีวภาพระบุ

อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบสื่อต่างประเทศหลายฉบับพบว่ามีการนำเสนอข่าวที่คลาดเคลื่อนและพาดหัวข่าวชวนให้เข้าใจได้ว่ามี “ลูกหมึก” ในปากหญิงเกาหลีจริงๆ อย่างกรณี “เดลีเมล” พาดหัวว่าหญิงวัย 63 ปี “ท้องเทียม” เป็นลูกหมึกหลังกินอาหารปรุงสุกที่ทำจากหมึก โดยเนื้อข่าวให้รายละเอียดว่าหญิงเกาหลีกลายเป็น “แม่หมึก” เมื่อพบ “ลูกหมึก” 12 ตัวในปาก แต่ขณะเดียวกันเนื้อข่าวก็ยังอ้างรายงานวิทยาศาสตร์ที่ระบุชัดเจนว่าสิ่งที่อยู่ปากนั้นคือ “ถุงน้ำเชื้อ” (spermatophores) ซึ่งเป็นสิ่งที่แตกต่างกัน

ส่วนนิวยอร์กเดลีนิวส์ (NY Daily News) พาดหัวทำนองว่ามีการผสมเทียมในปากของผู้หญิง พร้อมให้รายละเอียดว่าหญิงชาวเกาหลีมีอาการเจ็บที่ปากหลังกินหมึกที่ปรุงกึ่งสุกกึ่งดิบ พร้อมอ้างรายงานการศึกษาที่ตีพิมพ์ลงวารสารด้านปรสิตวิทยาที่ชื่อ “เจอร์นัลออฟพาราสิโทโลจี” (Journal of Parasitology) ฉบับเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ธรรมชาติของหมึกนั้นตัวผู้จะมีถุงน้ำเชื้อสำหรับฉีดเชื้อผสมไข่ของตัวเมีย ดังนั้น การพบถุงน้ำเชื้อในปากหญิงเกาหลีจึงไม่น่าจะกลายเป็นตัวหมึกได้ แต่จากตัวอย่างรายงานข่าวข้างต้นทำให้เห็นต้นตอความคลาดเคลื่อนในการเสนอข่าวของสื่อไทย ซึ่งนอกจากต้องปีน “กำแพงภาษา” แล้ว ยังต้องข้ามให้พ้น “กำแพงวิทยาศาสตร์” ที่มีความยากลำบากไม่ต่างกันด้วย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อ้อ! อย่างนี้นี่เอง