แม่หมูร้องขอชีวิตลูก

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย จันทโค, 21 มิถุนายน 2012.

แท็ก: แก้ไข
  1. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512
    [​IMG]
    ความเชื่อที่ว่า คนเราต้องกินอาหารวันละมากๆ ท่านลามะท่านทำให้ดูเป็นตัวอย่างแล้วว่า
    มันไม่จริง
     
  2. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ไม่มีมนุษย์คนไหนกินผักแล้วจะเกิด protein deficiency ... อาการขั้นรุนแรงของมันคือ สมองเสื่อม เนื้อเยื่อต่างๆ เสื่อม และ ปัญญาอ่อน เลยนะครับ สำหรับเด็กวัยเจริญเติบโตช่วงต้นๆ หรอกครับ
    ผมไม่กินเนื้อสัตว์ตั้งแต่เรียน ปวช. สมองผมไม่มีด้อยเลย อีกทั้งสมองในส่วนด้านตรรกะ ใช้งานได้ดีมาก ด้านคำนวณทางคณิตฯทุกสาขา เช่น แคลฯ แมท เป็นต้น ไม่มีปัญหาไรเลยครับ
    ถ้าสมองเสื่อมหรืออื่นๆๆ น่าจะเกิดจากการหมกหมุ่นในบางเรื่องของวัยรุ่นนะครับ(วัยรุ่นชายน่าจะรู้ดีนะครับ)
    ผมมีโรคประจำตัวชนิดหนึ่งที่เกิดจากเศษกรรมจากศีลข้อที่ ๕ ตั้งแต่ไม่กินเนื้อสัตว์มา ช่วยให้อาการไม่รุนแรงมาก ถึงเป็น(ปวด)ก็ไม่เป็นมาก
    แหล่งโปรตีน,แคลเซียม ที่มีคุณภาพมากจะมาจากพืชตระกูลถั่ว นะครับ
     
  3. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    “หลังจากนั้น คุณหมอได้เริ่มบรรยาย ถึงวิวัฒนาการของมนุษย์เมื่อ ๔,๖๐๐ ล้านปี และเราได้หลงทาง ในเรื่องอาหารมานาน จริงๆแล้ว สรีระของมนุษย์นั้น เป็นสัตว์กินพืช ผักผลไม้เท่านั้น สาเหตุของการเกิดโรคมากมาย เพราะวิถีชีวิตของเรา ผิดจากธรรมชาติ หันไปกินเนื้อสัตว์ เพราะก่อนที่สัตว์จะตาย ได้หลั่งสารอะดีนารีน ซึ่งเป็นสาร ที่สัตว์ทุกตัว จะหลั่ง เมื่อเกิดความเครียด เมื่อเรารับประทานเนื้อสัตว์เข้าไป จึงเป็นส่วนหนึ่ง ที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ โดยเฉพาะ โรคมะเร็ง นอกจากนี้ น้ำย่อยของมนุษย์ เหมาะสำหรับย่อย พืชผักผลไม้ ไม่ใช่เนื้อสัตว์”
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 กรกฎาคม 2012
  4. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    “... ด้วยความที่เป็นสัตว์ประเสริฐ มีสติปัญญาล้ำเลิศกว่าสัตว์ประเภทอื่น ...
    ... ทำให้มนุษย์วิวัฒนาการเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วยสมอง ...
    ... ไม่ใช่สัญชาติญาณ ...
    ... โดยลืมคิดไปว่า ...
    ... เกิดมาอยู่บนธรรมชาติ ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎของธรรมชาติ ...

    ... มีแต่มนุษย์เท่านั้น ...
    ... ที่ทำทุกอย่างตามใจปรารถนา โดยไม่สนใจว่าธรรมชาติให้มาอย่างไร ...


    ...

    ... โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องของอาหารการกิน ...
    ... สัตว์กินเนื้อ ...
    ... นอกจากจะมีกรงเล็บ หรือ ฟันที่แหลมคม เพื่อการล่าแล้ว ...
    ... ลักษณะทางกายภาพของระบบทางเดินอาหาร ยังถูกธรรมชาติออกแบบมาให้เหมาะสม ...
    ... โดยมีลำไส้ที่สั้น ...
    ... เพราะเนื้อสัตว์ กินเข้าไปไม่กี่ชั่วโมง ก็จะเริ่มเน่า ...
    ... หากอยู่ในลำไส้นานก็จะกลายเป็นว่า ร่างกายจะดูดแร่ธาตุจากของเสียแทน ...
    ... สัตว์ลำไส้ยาวทุกชนิดในโลกจึงเป็นสัตว์กินพืช ...
    ...
    ... ยกเว้นมนุษย์ ...
    ...
    ... เราไม่มีกรงเล็บ ...
    ... เราไม่มีฟันที่แหลมคม ...
    ... เราไม่มีขากรรไกรขนาดใหญ่ ...
    ... เรามีลำไส้ที่ยาวกว่า 30 เมตร ...
    ...
    ... แต่เรายังคงเป็นผู้ล่า ...
    ... และเป็นสัตว์กินเนื้อเสมอมา ...”
     
  5. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    ขั้นการเจริญเติบโตช่วงต้นๆ ที่ว่า คือช่วงวัยเด็ก ตั้งแต่อายุ 1 ขวบ ครับ ลองให้กินแต่ผักอย่างเดียวสิครับ เห็นผลทันตาเลย
    อีกอย่างหนึ่ง ผมไม่ค่อยอยากจะแย้งอะไรมากนะครับ เพราะผมเองก็กินมังสวิรัตินะ...
    แต่กระเพาะคนเรา ย่อย cellulose ไม่ได้นะครับ สัตว์กินพืชทุกชนิดย่อย cellulose ได้ครับ

    cellulose คือ โครงสร้างผนังเซลล์ ของพืช ครับ
     
  6. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512
    เอาจริงๆนะ ตามหลักของวิทยาศาตร์ก็ไม่ผิดหรอก
    แต่บางอย่างในศาสนาพุทธก็เกินกว่าที่จะตอบตามหลักวิทย์ได้
     
  7. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512
    N. cellulose
    def:[สารประกอบคาร์โบไฮเดรตประเภทโพลีแซ็กคาไรด์ชนิดที่ซับซ้อน เป็นองค์ประกอบสำคัญของเนื้อไม้

    โพลีแซคคาไรด์ สารที่มีฤทธิ์ ซ่อมแซมกระตุ้นเซลล์ ให้แข็งแรง
    Fungus Polysaccharide The motive power to activate and repair the cells

    สารกระตุ้นภูมิคุ้มกันจะใช้กับผู้ที่ภูมิคุ้มกันต่ำ
    1. ชราภาพ เมื่ออายุมากขึ้น เซลล์ก็เริ่มเสื่อม เซลล์ภูมิคุ้มกันก็ไม่มีพลังและเสื่อมลง ควรใช้สารกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ทำให้เซลล์ภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ ฟื้นตัวกลับมีพลังอีกครั้ง จะชะลอความชรา
    2. อ่อนเพลีย จากการแข่งขันของสังคม การงานที่หนักและความเครียดที่เกิดขึ้น กรณีเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับพนักงานออฟฟิส ค่าราชการ เจ้าของธุรกิจ ค่อนข้างมาก อาการเหน็ดเหนื่อย อ่อนเพลีย จะทำให้เซลล์ภูมิคุ้มกันอ่อนแออย่างเห็นได้ชัด ถ้าไม่รีบกระตุ้นเซลล์เหล่านี้ ก็จะเกิดผลเสียอย่างไม่คาดคิด การตายอย่างกะทันหัน แบบนักกีฬาที่แข็งแรง ก็คือบทเรียนอย่างที่นักวิทยาศาสตร์เตือนไว้ว่า ถ้าไม่มีภูมิคุ้มกันชีวิตก็จะจบสิ้น
    3. ติดเชื้อ ไวรัส (ไวรัสหวัด, ตับอักเสบ B, HIV) จะกระทบกระเทือน เซลล์ภูมิคุ้มกันอย่างมาก ก็ต้องรีบใช้สารกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ให้เซลล์ภูมิคุ้มกันแข็งแรง ลดความสูญเสียจากการทำงานของไวรัสต่างๆ
    4. เนื้องอก เซลล์ในร่างกายกลายพันธ์เป็นมะเร็ง เนื้องอก เซลล์เหล่านี้ขยายได้เร็วมาก เข้าทำลายอวัยวะต่างๆ ภูมิคุ้มกันก็ถูกทำลาย ร่างกายอ่อนแอ อย่างเห็นได้ชัด ก็ต้องรีบใช้สารกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
    การคีโม ทำให้เซลล์ปกติเสีย เซลล์ภูมิคุ้มกันก็ถูกทำลาย พลังก็จะลดลง ควรใช้สารกระตุ้นภูมิคุ้มกัน

    5. อื่นๆ เช่นโรคเบาหวาน เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกันเป็นอย่างมาก ความสมดุล ของระบบประสาท ระบบฮอร์โมนต่างๆ และระบบภูมิคุ้มกัน คือส่วนสำคัญในการรักษาโรคเบาหวาน โดยเฉพาะผู้ที่เกิดโรคแทรกซ้อน ของโรคเบาหวานแล้ว การทำงานของภูมิคุ้มกันตกต่ำอย่างเห็นได้ชัด ต้องรีบใช้สารกระตุ้นภูมิคุ้มกัน


    อ้างอิง
     
  8. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134



    ถูกต้องครับ cellulose ผนังเซลล์ของพืช เป็น polysacharide ที่ประกอบด้วยโครงสร้างย่อยๆ คือ น้ำตาล glucose ซึ่งเป็นน้ำตาลที่สิ่งมีชีวิตเอาไปใช้ได้

    สัตว์กินพืช ย่อย cellulose โดยการสร้าง enzyme ชื่อ cellulase เพื่อแยกโมเลกุลของ cellulose ให้กลายเป็นสายสั้นๆ ของ glucose และนำไปใช้ได้เลย แต่มนุษย์ไม่สามารถสร้าง cellulase ได้ ทำให้ cellulose ที่เรากินเข้าไปนั้น ไม่สามารถถูกแปลงเป็นน้ำตาล และเอาไปใช้ประโยชน์อะไรได้เลย ดังนั้นจึงเป็นที่มาของสาเหตุว่า ทำไมกินผักแล้วจึงดีต่อระบบลำไส้ เพราะว่า กากของอาหารมีเยอะมาก เพราะมันย่อยไม่ได้ ส่วนวิตามินในผักก็ถูกดูดซึมออกไป เหลือแค่โครงสร้างที่เป็นกากใยเยอะไงครับ
     
  9. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512
    ตกลงเราจะเป็นนักวิทยาศาสตร์กันเหรอครับ55 ล้อเล่นนะครับ

    สวัสดีตอนกลางคืนครับ ผมขอนอนก่อนนะครับ
     
  10. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ลองดูไหมล่ะครับ
    ว่า ..ระหว่างเด็กตั้งแต่ ๑ ขวบ เด็กที่รับโปรตีนจากเนื้อ และเด็กที่รับโปรตีนจากพืช เด็กคนไหนจะเจริญเติบโตดีกว่ากันนะครับ
     
  11. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    ธรรมชาติตอบคำถามข้อนี้ให้แล้วนะครับ ลองดูประเทศในแถบแอฟริกาครับ
    ดูเหมือนว่า ต่อให้มีเหตุผลมาอธิบายขนาดไหน หรือพระพุทธเจ้าท่านพูด คุณก็คงไม่ฟัง ผมก็คงไม่มีอะไรจะต้องอธิบายต่อครับ
    เอาเป็นว่าลองหาอ่าน เรื่องที่ พระพุทธเจ้า ไม่ยอมบัญญัติวินัยสงฆ์ ให้พระฉันมังสวิรัติ ตามที่พระเทวทัตขอดูครับ
     
  12. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ครับ ผมจะอธิบายให้อ่านทีละข้อนะครับ ตั้งใจอ่านนะ
    ธรรมชาติให้คำตอบมาแล้ว(เกิดมาอยู่บนธรรมชาติ ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎของธรรมชาติ) เรื่องกินเนื้อสัตว์กินมากให้โทษมากกว่าให้ประโยชน์ ส่วนแถบแอฟริกานั้นเขากินเนื้อมาก(ลองดูสาระคดีนะ) และแถบนั้นเขาขาดแคลนอย่างอื่นมากเช่น น้ำ ฯลฯ

    เรื่องเหตุผลนั้น พระพุทธเจ้าบัญญัติศีลข้อที่ ๑ ไว้แล้ว เกี่ยวกับเรื่องเบียดเบียนสัตว์ ซึ่งผมเองก็ได้ยกตัวยกเรื่อง ลักษณะมหาบุรุษ ๔ ประการของพระพุทธเจ้าให้อ่านแล้วว่าเกิดจากรักษาศีลข้อที่ ๑ ผมเองคิดว่าคนที่ไม่ยอมรับฟังไม่น่าจะเป็นผมนะ เพราะผมเองยกตัวอย่างไว้เยอะมาก

    ส่วนเรื่องพระเทวทัตนั้น เหตุเกิดจากพระเทวทัตต้องการจะเอาชนะพระพุทธเจ้านะครับ พระเทวทัตเลยทูลของพร ๕ ประการ คือ
    ๑. ภิกษุพึงอยู่ป่าตลอดชีวิต เข้าละแวกบ้าน ต้องมีโทษ
    ๒. ภิกษุพึงถือบิณฑบาตเป็นวัตรตลอดชีวิต ผู้ใดรับนิมนต์ (ไปฉันตามบ้าน) ต้องมีโทษ
    ๓. ภิกษุพึงใช้ผ้าบังสุกุล (ผ้าเปื้อนฝุ่น คือผ้าหรือเศษผ้าที่เขาทิ้งตามกองขยะบ้าง ตามที่ต่าง ๆ บ้าง นำมาซักและปะติดปะต่อเป็นจีวร) จนตลอดชีวิต ผู้ใดรับคฤหบดีจีวร (ผ้าที่เขาถวาย) ต้องมีโทษ
    ๔. ภิกษุพึงอยู่โคนไม้จนตลอดชีวิต ผู้ใดเข้าสู่ที่มุง (ที่มีหลังคา) ต้องมีโทษ
    ๕. ภิกษุไม่พึงฉันเนื้อสัตว์ ผู้ใดฉัน ต้องมีโทษ


    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า "ดูก่อนเทวทัต ผู้ใดปรารถนาจะอยู่ป่าก็จงอยู่ป่า, ผู้ใดปรารถนาจะอยู่ละแวกบ้าน ก็จงอยู่ในละแวกบ้าน. ผู้ใดปรารถนาจะเที่ยวบิณฑบาตก็จงเที่ยวบิณฑบาต, ผู้ใดปรารถนาจะรับนิมนต์ ก็จงรับนิมนต์, ผู้ใดปรารถนาจะใช้ผ้าบังสุกกุล ก็จงใช้ผ้าบังสุกุล, ผู้ใดปรารถนาจะรับคฤหบดีจีวร (ผ้าที่เขาถวาย) ก็จงรับคฤหบดีจีวร, เราอนุญาตที่นอนที่นั่ง ณ โคนไม้ ตลอด ๘ เดือน (ที่มิใช่ฤดูฝน), เราอนุญาตเนื้อสัตว์ที่บริสุทธิ์โดยส่วน ๓ คือ ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน ไม่ได้รังเกียจ (ว่าเขาฆ่าเพื่อเจาะจงจะให้ภิกษุบริโภค).
    พระเทวทัตดีใจ จึงเที่ยวประกาศให้เห็นว่า พระผู้มีพระภาคไม่ทรงอนุญาตข้อเสนอที่ดีของตน ทำให้คนที่มีปัญญาทรามบางคนเห็นว่า พระสมณโคดมเป็นผู้มักมาก. แต่คนที่เข้าใจเรื่องดี กลับติเตียนพระเทวทัต ความทราบถึงพระผู้มีพระภาค จึงทรงเรียกประชุมสงฆ์ ทรงไต่สวนพระเทวทัต รับเป็นสัตย์แล้ว จึงทรงติเตียน และบัญญัติสิกขาบท ห้ามภิกษุพากเพียรทำสงฆ์ให้แตกกัน เมื่อภิกษุอื่นห้ามปราม ไม่เชื่อฟัง ภิกษุทั้งหลายพึงสวดประกาศ (เป็นการสงฆ์) เพื่อให้เธอเลิกเรื่องนั้นเสีย ถ้าสวดประกาศครบ ๓ ครั้ง ยังไม่ละเลิก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส.


    แต่.(ตรงนี้สำคัญมาก) พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติเรื่องการฉันอาหารของของพระภิกษุว่า ก่อนฉันอาหารไม่ว่าจะเป็น เนื้อ น้ำ ผัก ผลไม้ต่างๆๆ ต้องพิจารณาให้เป็นธาตุทั้ง ๔ ก่อนฉัน ถ้าไม่พิจารณาอาหารก่อนฉัน อาบัติทุกกฏ อีกอย่างพระภิกษุต้องอาศัยอาหารจากชาวบ้าน(โปรดเวนัย)จะเลือกที่จะรับบิณฑบาตไม่ได้นะครับ พระท่านเลือกไม่ได้นะครับ



    ส่วนฆราวาสพระพุทธเจ้าให้รักษาศีล ๕ เรื่องการกินนั้นเราสามารถเลือกที่จะกินได้ กินแบบมีประโยชน์ กับกินแบบให้โทษ แต่มนุษย์ชอบคิดเข้าข้างตัวเองเสมอ



    พระพุทธเจ้าบัญญัติเนื่อบรัสุทธิ์ ๓ อย่างคือ ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่รังเกียจ สามารถกินได้ ถ้าใช้สติปัญญา(ของสัตว์ที่เรียกว่ามี เหตุผล) เมตตาด้วย ข้อนี้พระพุทธเจ้าก็ทรงตรัสเป็นนัยๆๆไว้แล้ว

    - ไม่รู้ ปัจจุบันมีโรงฆ่าสัตว์อยู่ จะบอกว่าไม่รู้ได้ไหม..?
    - ไม่เห็น เราๆๆทั้งหลายไปตลาด เราก็เห็นว่าเขาฆ่ามาเพื่อขาย เพื่อต้องการเงิน
    - ไม่รังเกียจ เราๆๆทั้งหลายกินเนื้อสัตว์มาตั้งเกิดเลยไม่รังเกียจ แต่เนื้อหมานี้สิรังเกียจเลยไม่มีใครกินกัน








     
  13. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    1. ใน africa คนไม่ได้มีปัญหากิน protein เยอะเกินไป แต่มีปัญหาขาด protein ลองหาคำว่า "kwashiorkor" ใน google ดูสิว่า มีคนนอกทวีป africa เป็นกี่คน... แล้วไม่ต้องบอกนะครับ ว่าเป็นเพราะขาดพืช เพราะ africa ก็มีต้นไม้เยอะพอจะเอามากินได้นะครับ

    2. พระพุทธเจ้า ท่านเป็น สัพพัญญู ท่านรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง อย่าว่าแต่ เมื่อ 1 หมื่นปีที่แล้ว มนุษย์กินอะไร ใช้ชีวิตยังไงเลย โลกธาตุอื่นๆ จักรวาลอื่นๆ เมื่อ 1 ล้านปีก่อน ท่านก็รู้... ท่านจึงบัญญัติวินัยสงฆ์ มาเพื่อเอื้อต่อการอำนวยธาตุขันธุ์ ให้ปฏิบัติธรรม ให้ดำรงธาตุขันธุ์ได้ยืนยาวจนถึงอายุขัยธรรมชาติ ในเมื่อท่านรู้เห็นทุกอย่าง และ หากท่านรู้ว่า มนุษย์นั้นต้องกินพืชโดยธรรมชาติ ทำไมท่านจึงบัญญัติวินัยสงฆ์ไว้อีกแนวทางนึงครับ?

    3. ทางวิทยาศาสตร์
    มนุษย์
    - กระเพาะมี 1 ห้อง สร้างกรด hydrochloric
    - ไม่สามารถย่อย cellulose ทำให้มนุษย์ ไม่สามารถรับสารอาหารประเภทพลังงาน จากพืชที่ไม่มีแป้งได้
    - ไม่สามารถกินพืชชนิดเป็นอาหารเดียวตลอดชีวิตได้ (จริงๆ ทำได้ ถ้าอยากเป็นมีอายุสั้น เป็นคนพิการ สมองเสื่อม ไขข้อเสื่อม ผิวหนังลอก กระดูกพรุน ฯลฯ)

    สัตว์กินเนื้อ
    - กระเพาะอาหารมี 1 ห้อง สร้างกรด hydrochloric
    - ไม่สามารถย่อย cellulose

    สัตว์กินพืช
    - กระเพาะอาหารมี 4 ห้อง ไม่สร้างกรด hydrochloric
    - ย่อย cellulose เป็นน้ำตาล เอาไปใช้ได้โดยตรง ทำให้ผักที่กินเข้าไป ได้ทั้งสารอาหาร และ พลังงาน
    - กินพืชชนิดเดียวเป็นอาหารได้ตลอดชีวิต

    และ มนุษย์วิวัฒนาการมาจากตัวอะไรครับ? ตัวที่ว่านั่น ก็เป็น omnivore กินทั้งพืชและสัตว์ แล้วในช่วงรอยต่อวิวัฒนาการ ยุคน้ำแข็ง ยุคนั้น ไม่กินสัตว์ แล้วจะกินอะไรเป็นอาหารกันตาย กันหนาวครับ? ถ้ามนุษย์เป็นสัตว์กินพืชแท้ๆ มนุษย์ต้องผ่านช่วงยุคน้ำแข็งมาโดยการกินพืชอย่างเดียว แล้วเอา cellulose แปลงเป็นน้ำตาล เก็บเป็นไขมันเพื่อสู้กับความหนาวได้ครับ แต่ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กรกฎาคม 2012
  14. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    - แอฟฯ ต้นไม้เยอะจริง แต่เขาก็ล่าสัตว์นิ
    - พระพุทธเจ้าเป็นพระสัพพัญญู(รู้ทุกอย่าง)ครับ พระพุทธเจ้าให้ศีลข้อที่ ๑ ทั้งฆราวาสและพระสงฆ์(ยิ่งพระสงฆ์ศีลข้อที่ ๑ ยิ่งหนักเลย)รักษาครับ แล้วพระองค์บัญญัติในแนวเหรอครับบอกหน่อยสิ
    - เรื่องย่อย Cellฯ นั้นก็ไม่จำเป็นนิครับ ทุกวันนี้ก็สามารถเอาพลังงานจากตรงนั้นมาใช้ได้นิ จะพิมพ์มาทำไม งง. ครับ
    อีกอย่างก็ไม่มีใครจะกินพืชชนิดเดียวทั้งชีวิตนิ พืชมีตั้งเยอะ แล้วไม่มีใครกินแต่ผักแล้วสมองเสื่อมหรอกครับ
    เรื่องโครงสร้างทางกายภาพของมนุษย์เริ่มตั้งแต่ฟัน ฯลฯ ธรรมชาติสร้างมาให้กินพืชครับ ลองหาอ่านดูนะครับ ไม่เกินความสามารถของท่านหรอก
    มนุษย์ไม่ได้วิวัฒฯ มาจากอะไรครับ มนุษย์เกิดมาจากบุญกรรมที่ทำมาในอดีต
    ยุคน้ำแข็ง...!! ก็ส่วนยุคน้ำแข็งสิครับ(มันไม่เกี่ยวกับยุคนี้เลย) มันมีมนุษย์กี่คนละ เข้าใจพิมพ์เนอะ แล้วก่อนหน้าที่จะมียุคน้ำแข็งล่ะ ไม่พิมพ์มาล่ะครับ

    ในเนื้อสัตว์ที่ อุดมไปด้วยโปรตีนซึ่งให้พลังงานแก่ร่างกาย ทว่ากินเกินความจำเป็น โปรตีนส่วนเกินจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมัน พอกพูนตามร่างกายจนกลายเป็นคนอ้วน ที่สำคัญการที่ร่างกายมีโปรตีนมากไป ตับและไตต้องทำงานหนักจนอวัยวะดังกล่าวเกิดความเครียด ส่งสัญญาณที่สังเกตได้ คือ เหนื่อยล้า ขาดความสดชื่น เนื่องจากตับจะสร้างเกลือแอมโมเนียก่อนจะเปลี่ยนเป็นยูเรีย ส่งให้ไตขับออกมาเป็นปัสสาวะ บ่อยครั้งเข้าร่างกายอาจขาดน้ำ

    การกำจัดโปรตีนส่วนเกินในขั้นตอนของไต หากยิ่งทำงานหนัก การขับปัสสาวะนั้นจะทำให้แคลเซียมซึมออกมาเจือปนกับปัสสาวะและเป็นสาเหตุ หนึ่งของโรคกระดูกพรุน

    นอกจากนี้ ในเนื้อสัตว์ยังมีฟอสฟอรัส มีผลกระตุ้นต่อมพาราธัยรอยด์ ให้หลั่งฮอร์โมนละลายแคลเซียมให้ล่องลอยในกระแสเลือด ก่อนไปจับตัวตามข้อเท้า ข้อสะโพก ข้อสันหลัง อันเป็นที่มาของโรคข้อกระดูกเสื่อม

    อาหารการกิน หากเน้นแต่เนื้อสัตว์ WHO หรือองค์การอนามัยโลก บอกว่าเป็นการเพิ่มความเสี่ยงป่วยด้วยโรคหัวใจและมะเร็ง ทั้งทำให้อายุสั้น สอดคล้องกับลักษณะการกินของชาวเอสกิโม ที่เน้นกินเนื้อกับไขมัน ร่างกายเสื่อมโทรม แก่เร็ว อายุไขเฉลี่ยอยู่ที่ 27 ปี
    ขณะที่ผู้คนที่อายุในแถบเขา ไม่ได้กินเนื้อสัตว์บ่อย ๆ เน้นกินพืชผัก กลับมีอายุยืน อยู่ได้นานถึง 110 ปี


    สิ่งที่หลายคนควรรู้ คือ คนเราเกิดมามีเซลล์อยู่ทั่วร่างกาย 50 ล้านล้านเซลล์ แต่ละเซลล์สามารถแบ่งตัวได้ 50 ครั้ง ครั้งหนึ่งมีอายุ 2 ปี เพราะฉะนั้นอายุขัยของคนเราสามารถอยู่ได้ถึง 100 ปี แต่ทุกวันนี้ พฤติกรรมการกิน การอยู่ที่ไม่เหมาะสม ทำลายเซลล์นั่นล่ะ เป็นการทำให้อายุสั้นลงเรื่อย ๆ.
     
  15. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    คุณอยากจะเชื่ออย่างไรก็เชื่อไปเถอะ
    แต่คำถามที่สำคัญที่สุด เรื่องชาวแอฟริกา คุณไม่มีทางตอบได้ ด้วยคำตอบว่ามนุษย์กินพืช ครับ เด็กที่นั่น ขาดโปรตีน ตายทุกปี ปีละมากๆ พิการอีกเยอะ ครับ ถ้าธรรมชาติแท้จริงของมนุษย์อยู่รอดได้โดยกินพืชอย่างเดียว ชาวแอฟริกา ก็ไม่ต้องมาทนทุกข์ทรมานแบบปัจจุบันหรอกครับ ที่เขาทนทุกข์ทรมานกัน เพราะหาของแทนโปรตีนเอามากินกันแบบเราไม่ได้ครับ สิ่งที่คุณเห็นเขาล่าสัตว์กัน คุณคิดว่าเขาล่ากันได้เยอะพอกินเหรอครับ? หรือว่ามองโลกสวยหรูแค่ผ่านเลนส์ที่เขาถ่ายมาให้ดู?

    [​IMG]

    เอาไว้ผมจะ post ข้อมูลเพิ่มเติมให้นะครับ ว่าทำไมเด็กแอฟริกา จึงขาดโปรตีน แต่ทำไม วัวควาย กินหญ้าถึงไม่ขาดโปรตีน มันมีกระบวนการบางอย่างในการย่อย ที่ทำให้วัว ควาย สร้างโปรตีนจากพืชได้ แต่มนุษย์ไม่มีครับ
     
  16. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512
    ก็จริงนะครับ ผมเคยได้ยินน้าคนหนึ่งเขาพูดว่าลูกเขากินเจตั้งแต่เด็กจนโต
    พอโตดันเป็นโรค แล้วไปหาหมอ หมอบอกว่าให้กินปลาแทนด้วยเรพาะร่างกายขาดแร่ธาตุ อันนี้ก็ต้องเปิดใจคนละครึ่งทาง

    ตอนนี้ก็สามารถทำวิตามิน หรือโปรตีนสังเคราะได้แล้ว แต่ก็ต้องลองดูกันไปนะครับ
     
  17. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    กระบวนการย่อยพืชของสัตว์กินพืช
    1. กินพืชเข้าไปหมักในกระเพาะ
    2. ในกระเพาะนี้จะมี bacteria และ protozoa ที่มาช่วยย่อยสลายพืช
    3. ดูดซึม glucose จากการย่อย cellulose ไปเป็นพลังงาน
    4. อาหารที่หมักแล้วและถูกดูดซึมน้ำตาลออกไปแล้ว ส่งต่อไปยังลำไส้
    5. ในลำไส้ สารอาหารที่เหลือ และ bacteria ทั้งหลาย ที่เจริญเติบโต เพราะได้อาหารจากการหมัก จะถูกย่อยสลายและดูดซึมที่นี่

    สรุป : สัตว์กินพืช กินพืชแล้วได้ทั้ง พลังงาน, แร่ธาตุ และ โปรตีน (โปรตีน เกิดมาจากแบคทีเรียในกระเพาะสัตว์กินพืช ย่อยสลายพืช แล้วกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า biomass และตัวสัตว์กินพืช ก็ย่อยสลาย bacteria พวกนี้อีกทีนึง นึกภาพเหมือนว่า ในตัวของสัตว์กินพืช มีฟาร์มแบคทีเรีย เลี้ยงแบคทีเรียไว้ในกระเพาะ เอาไว้เชือดกินในลำไส้)

    กระบวนการย่อยพืช ของมนุษย์
    1. ผ่านกระเพาะอาหาร โดยแทบไม่เปลี่ยนรูปร่าง เพราะไม่มีน้ำย่อยเอาไว้ย่อย
    2. ผ่านลำไส้ โดยถูกดูดซึมแร่ธาตุสารอาหารออกไป
    3. ผ่านออกมาเป็นอุจจาระ โดยถูกดูดซึมแค่แร่ธาตุออกไป cellulose ยังเหมือนเดิม

    สรุป : มนุษย์กินพืชใบเขียว (ที่ไม่ใช่ตระกูลเห็ด และ ไม่ใช่ตระกูลที่มีแป้ง) แล้วจะได้แค่แร่ธาตุอย่างเดียว ไม่ได้โปรตีน ไม่ได้พลังงาน

    กระบวนการย่อยสลายพืช ของมนุษย์ นั้นไม่สมบูรณ์ เรากินพืชเข้าไป จากมวลของพืช 100% เราดูดซึมเอามาใช้ประโยชน์ได้แค่ไม่เกิน 5% ในส่วนของแร่ธาตุ วิตามิน ส่วนของ cellulose ที่เป็นมวลหลักของพืช เราเอามาใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลย ทำได้แค่เอาไว้เป็นใยอาหารเพื่อทำความสะอาดลำไส้

    แต่สัตว์กินพืช กินพืชเข้าไป จากมวล 100% ของพืช สัตว์กินพืชแปลงมวลส่วนนี้เป็นสารอาหารที่ตัวเองใช้ได้ มากกว่า 50% กระบวนการย่อยพืช ของสัตว์กินพืช มีประสิทธิภาพมากกว่ามนุษย์ มากกว่า 10 เท่า...

    ที่ผมบอกว่า เรามีชีวิตอยู่ได้โดยกินแต่พืชอย่างเดียวได้ มันก็เป็นเรื่องจริง แต่เราไม่สามารถอยู่แบบนั้นตามธรรมชาติแบบดิบๆ ได้ เราอยู่ได้ เพราะสภาพสังคม ที่มีการเพาะปลูกพืชพันธุ์เน้นเฉพาะบางสายพันธุ์ ที่มนุษย์นำมาเป็นอาหารเสริมแทนเนื้อสัตว์ได้ต่างหาก ซึ่งหากเป็นการดำรงชีวิตตามสภาพธรรมชาติโดยไม่มีการเพาะปลูกแล้ว เราไม่มีวันหาพืชพวกนี้มาได้พอกับความต้องการบริโภคของร่างกายได้เลย

    นี่คือสาเหตุว่า ทำไม africa มีใบไม้เขียวๆ เยอะ แต่คนยังขาดสารอาหารกันเยอะ...

    หากคุณยังจะบอกว่ามนุษย์เป็นสัตว์กินพืชต่อ ก็เชิญครับ ผมคงขอสรุปว่า มนุษย์โดยสรีระเป็น omnivore และขอจบแค่นี้
     
  18. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ครับ โพสตามสบายครับ
    ก็ต้องบอกว่าเมืองนี้ เขาขาดแคลนนะ เกือบทุกๆๆด้าน
    (กรรมเก่าด้วย ไม่มีใครจะหนีได้นะ)
    แต่มันก็ไม่เกี่ยวกับบ้านเรานิ หรือท่าน จขกท. จะเอาโปรตีนไปให้น้องๆๆๆ เขาก็ได้นะ ผมจะได้อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
     
  19. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ครับ แต่ก็มีน้อยไม่ใช่เหรอครับที่ป่วยแบบนั้น ถ้าเทียบกับคนป่วยที่ป่วยทุกวันนี้ที่กินเนื้อมากๆ
    ต้องกลับไปมองดูแม่ของน้องคนนั้นแล้วล่ะครับ ว่าให้กินยังงัย ให้กินครบ ๕ หมู่หรือป่าว อีกอย่างการไม่กินเนื้อจะขาดแค่โปรตีนที่มาจากเนื้อและสารอาหารบางตัวเท่านั้น ซึ่งโปรตีนที่มีคุณภาพมากๆๆ จะอยู่ในพืชตระกูลและไม่มีผลเสียต่อร่างกายด้วย
    อีกอย่างอาหารทุกวันนี้มีครบครับ หากินไม่อยากหรอก แต่จะกินไหมเท่านั้นนะครับ
    ตอนสมัยผมเป็นเด็ก ก็ไม่ค่อยจะมีโอกาสได้กินเนื้อสัตว์แต่ละอย่างเท่าไรหรอก เพราะที่บ้านค่อนค้างจะลูกเยอะ รายได้น้อย อาทิตย์หนึ่งอย่างมากก้อแค่เนื้อไก่ เนื้อปลา นอกนั้นจะเป็นน้ำพริกกับต้มผักนะ ไข่ก็ไม่ค่อยชอบกินเพราะคิดว่ามันไม่อร่อย เลยนานๆๆกินที
     
  20. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    เซลลูโลสจากพืชที่กินเข้าไปนั้นจะมีประโยชน์ เป็นกากอาหาร เพราะจะสามารถดูดซับน้ำเอาไว้ทำให้อุจจาระอ่อนนุ่ม และทำให้ระบบการขับถ่ายเป็นปกติเพื่อจะเป็นการป้องกันโรคท้องผูก และโรคริดสีดวงทวาร ครับ

    " เซลลูโลส เป็นใยอาหารที่ละลายน้ำยากหรือไม่ละลายน้ำเลย เซลลูโลส เป็นส่วนประกอบสำคัญของผนังเซลล์พืช ประกอบด้วยโมเลกุลของกลูโคสเป็นจำนวน 1,000 โมเลกุล คล้ายกับแป้ง (starch) แต่ ไม่ถูกย่อยโดยเอ็นไซม์ในระบบทางเดินอาหารของสัตว์กระเพาะเดี่ยว แต่ร่างกายของมนุษย์ก็มีความต้องการเซลลูโลสเพื่อมาทำหน้าที่ดังกล่าวเป็นความโชคดีของคนไทย ที่ประเทศไทยมีผัก และผลไม้สดตลอดปี ไม่มีความจำเป็นต้องซื้อใยอาหาร อัดเม็ด หรือแคปซูลมาบริโภคให้เสียเงิน เพราะนอกจากจะมีราคาสูงแล้ว ยังได้แต่ใยอาหารอย่างเดียว ในขณะที่ผัก ผลไม้สด นอกจากมีราคาต่ำกว่า ยังให้ทั้งวิตามิน และเกลือแร่ด้วย แทนที่จะได้ใยอาหารแต่เพียงอย่างเดียว." เรื่องนี้โอเคนะครับ

    ครับ ผมเองก็ต้องบอกว่า พระพุทธเจ้าให้เรารักษาศีลข้อที่ ๑ เหมือนเดิม(ก็ต้องแสดงว่าไม่จำเป็นต้องกิน จะมีใครรู้เกินพระพุทธเจ้าไม่ได้เลย) และผมก็ต้องบอกเหมือนเดิมว่า โครงสร้างทางกายภาพของมนุษย์ตั้งแต่ฟัน ฯลฯ เป็นสัตว์กินพืชผักผลไม้ และผมก็ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับด้านการโภชนาการไปพอสมควรครับ ถ้าไม่เข้าใจก็ไม่ว่ากันครับ ผมเองก็จะมาตอบเหมือนเดิม อย่างเดิมครับ
    และสมัยนี้ และก่อนหน้านี้ 2,555 ปี ก็ไม่มีใครอยู่แบบดิบๆๆ หรอก นอกจากจะอยู่นอกๆๆจริงๆๆนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...