ไม่ควรมีการเททองหล่อพระอีกต่อไป

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย manforlove, 6 สิงหาคม 2012.

  1. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    หนูเคยเข้าร่วมพิธีเททองหล่อพระที่ธรรมกายค่ะ หนูอดคิดในใจไม่ได้ว่า ศรัทธาของคนเราเนี่ย น่ากลัวจริงๆหนอ คนเป็นแสนๆแห่กันไปเอาบุญ น่าจะตั้งคำถาม แล้วหาคำตอบกันเองนะคะว่า ธรรมะของพระตถาคตสอนอะไร? เราปฎิบัติตรงทางกันหรือปล่าว? หนูมาดีนะคะ.อิอิ
     
  2. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
    มันเยอะแล้วจริงๆ
     
  3. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
    http://www.phrayaichaiyaphum.net/
    การเดททองหฟล่อพระองค์นี้ใช้เงินไม่ต่ำกว่า 10000 ล้าน ทองเหลืองเป็นพันเป็นหมื่นตันมันคืออนุสาวรีย์สีทองขนาดใหญ่ที่เราเล่นในเกมส์ในเฟชบุ๊คจะเป็นสถานที่ที่คนมาเที่ยวทั่วประเทศ ดี ใหม แต่หากนี่คือตัวแทนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใช่หรือไม่ นี่เป็นพุทธานุสติ นี่คือสิ่งมหัสจรรย์ของโลก ผมก็ทำบุญด้วยไปแล้ว แล้วเป็นทานมัย เป็นทานอันให้เพื่อสงเคราะห์โลก กว่ารูปปั้นนี้จะสลายคงยาวนาน แต่ข้อดีคือ เขาประดิษฐานพระธาติบนมวยปมหรือบนยอดปราสาทรูปปั้นสีทอง เราควร ดูแลอย่างไร หรือผมจะเอาพระธาตุที่เสด็จมาที่บ้านไปฝากด้วยท่านใดกรุณนาติดสินใจช่วยที
     
  4. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ตั้งใจทำ ให้มีความนอบน้อมเข้าไว้ ทุกสิ่งของเธอจะดีเอง
    รู้จักการอ่อนโยน การให้อภัย ตนเอง ผู้อื่น และทุกสิ่ง แค่นี้เอง.
     
  5. mikycar offroad

    mikycar offroad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    264
    ค่าพลัง:
    +255
    ไม่เห็นต้องอโหสิกรรมอะไรเลย แค่ต่างเป็นกระจกสะท้อนซึ่งกันและกัน
    ก็เท่านั้น เมือท่านมีคำถาม...ย่อมต้องมีคำตอบ...เพียงแต่อาจมีจากหลายๆท่านก็เพียงแค่นั้น (ที่ทดสอบจิตใจท่านกลับบ้าง)
     
  6. mikycar offroad

    mikycar offroad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    264
    ค่าพลัง:
    +255
    สวัสดีครับท่าน bade วันนี้...ข่าวในพระราชสำนัก สมเด็จพระบรมฯ ท่านเสด็จไปทรงเททองหล่อพระรูปเหมือนหลวงปู่ศุข และพระบรมรูปกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่าครับ เพื่อน้อมรำลึกถึงคุณงามความดี และสำนักข่าวยังกล่าวถึงเสด็จกรมหลวงชุมพรว่าท่านได้ถวายปัจจัยสร้างมณฑปจตุรมุข แลัวเสด็จในกรมท่านยังเขียนภาพจิตรกรรมฝีพระหัตถวายเพื่อเป็นพระราชกุศล เราท่านทั้งหลายก็ปฏิบัติต่อกันมา
    แม้กระทั่งสมเด็จพระพุทธฒาจารย์โตที่ท่านกล่าวถึงท่านก็สร้างพระพุทธรูปนั่ง
    องค์ใหญ่ พระพุทธรูปยืนก็องค์ใหญ่ แลัวยังสร้างพระเครื่องสมเด็จที่เล่าขานกันไม่รู้จบ ผมก็เลยงงกับหัวข้อกระทู้ที่ท่านตั้งเฉพาะหัวข้อกระทู้นะครับ ไม่เฉไฉออกนอกเรื่องนะ มา
    ตอบธรรมกันให้เข้าใจหน่อย
    ผมยังมีปัญหาเรื่องธรรมะอีกหลายเรื่องที่ไม่รู้จริงๆ ครับ
     
  7. mikycar offroad

    mikycar offroad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    264
    ค่าพลัง:
    +255
    สวัสดีครับท่าน หนูมาดี วันนี้...ข่าวในพระราชสำนัก สมเด็จพระบรมฯ ท่านเสด็จไปทรงเททองหล่อพระรูปเหมือนหลวงปู่ศุข และพระบรมรูปกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่าครับ เพื่อน้อมรำลึกถึงคุณงามความดี และสำนักข่าวยังกล่าวถึงเสด็จกรมหลวงชุมพรว่าท่านได้ถวายปัจจัยสร้างมณฑปจตุรมุข แลัวเสด็จในกรมท่านยังเขียนภาพจิตรกรรมฝีพระหัตถวายเพื่อเป็นพระราชกุศล จากหัวข้อข่าวเพิ่งเททองหล่อปัจจุบันวันนี้ครับ
     
  8. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
    เรื่องของเบื้องสูงเอาไว้เบื้องสูง เราคุยกันฉันมิตรฉันกัลยานธรรม อย่าดึง ขอร้อง
     
  9. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ระหว่างห้ามไม่ได้กับห้ามยาก มันก็ไม่ต่างกัน เพราะเป็นเรื่องของเค้า
    แต่เรื่องของเรา..มันคือการเลือก..เลือกที่จะทำหรือไม่..ซึ่งอาจดูที่ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นมา
    ซึ่งสิ่งที่แน่นอน..มันก็ไม่น่าจะใช่ประโยชน์ส่วนตน..แต่เพื่อประโยชน์โดยรวม

    หากจะถามว่าสร้างพระพุทธรูปเพื่ออะไร..หากจะตอบว่าเพื่อการแสดงออกถึงการนอบน้อม น้อมจิตน้อมใจ..
    การนอบน้อมมันเกิดขึ้นที่ใจ..สร้างที่ใจ ไม่ใช่วัตถุที่สร้าง แม้มีวัตถุ สร้างวัตถุแต่ใจไม่น้อมจริง เจอปนไปด้วยอกุศลจิตจึงเป็นเพียงการสร้างและได้สร้างเท่านั้น..
    เมื่อกระทำโดย ขาดสติ ขาดปัญญา ในการกระทำ การกระทำนั้นย่อมไม่ยังประโยชน์ให้ถึงพร้อม มันก็แค่ได้ทำหาใช่ประโยชน์อย่างแท้จริงไม่

    ทุกสิ่งอย่างที่เป็นประโยชน์ได้อย่างแท้จริงจึงต้องนำพาด้วยใจ ที่ใสสะอาด มีสติและปัญญาถึงพร้อม...
    คือ ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง..ไม่ประกอบไปด้วยอัตตา ตัวตน เงื่อนไข
    และมองที่ประโยชน์อย่างแท้จริง คือมิได้กระทำเพื่อประโยชน์แห่งตน มิได้มองถึงลาภสักการะ ที่เป็นทรัพย์ในโลก
    และเจือปนด้วยความอยากให้ได้ ให้เป็นอย่างนั้น อย่างนี้เป็นเหตุ (ทรัพย์ที่เป็นนาม หมายถึงต้องการกุศลซึ่งเป็นอกุศลจิตเพราะความอยาก) ในการกระทำนั้นๆ

    ดังนั้น..การเลือก ทางเลือก ที่จะทำทุกอย่างด้วยตนเอง ด้วยสติ ด้วยปัญญา จึงต้องเอามาใช้พิจารณาถึงประโยชน์ที่เกิดได้จริงและประโยชน์ที่ยิ่งกว่า

    เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้นะคะว่าพระพุทธรูปเยอะแล้ว..แม้มีหรือไม่มี..แต่ใจที่เคารพและศรัทธาย่อมมีอยู่แล้วที่ใจ
     
  10. mikycar offroad

    mikycar offroad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    264
    ค่าพลัง:
    +255
    ขอบคุณครับที่เตือน แต่หามิได้และไม่มีเจตนาครับ เพียงแต่ขณะที่จะพิมพ์ข้อความถาม-ตอบ เป็นขณะที่ข่าวออกอากาศพอดีเลย เช็คเวลาดูได้ครับ
    ก็เลยจดไว้แล้วก็พิมพ์ถามแบบปัจจุบันทันด่วน และพระธรรมที่ท่านหยิบยกมาก็เป็นของสูงครับ ก็หัวข้อธรรมเขียนว่า ไม่ควรมีการเททองหล่อพระอีกต่อไป อันนี้กระผมเห็นว่ามันเหมือนดาบสองคม (คิดเองส่วนตัวครับ)
    ส่วนธรรมะที่ผมขอรู้เพิ่มเติมจากท่าน : (นอกเหนือจากหัวข้อกระทู้)
    1.พระไตรปิฏกที่ท่านศึกษา ใครเป็นผู้แปลครับ (ธรรมยุติ) หรือ (มหานิกาย)
    2.ฉบับที่ท่านศึกษาเคยถูกแก้ไขหรือไม่ครับ
    3.ผู้แปล...แปลได้ครบถ้วนตามถ้อยคำของพระสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า 100%ไม่ขาด..ไม่เกิน หรือไม่ครับ

    (ตอบเท่าที่ท่านทราบ เป็นทานไม่ต้องเป็นบุญก็ได้เพราะท่านไม่ยึดในผลบุญ)
    แล้วขอโทษเรื่องหัวข้อข่าว วันนี้ อีกสิบครั้ง มิได้คิดลบหลู่ดึงเบื้องสูงครับ ข่าวครับเป็นภาคค่ำ
    (จากใจ) ดูจากกระทู้อื่นที่ผมเคยเข้าก็ได้ครับ (อย่าคิดแทนผม
    ขอเตือน)
    ผมคิดเห็นว่าท่านเป็นผู้ปฏิบัติธรรมถึงชั้นใน (แก่นแท้) ย่อมมีธรรมะที่ทะลุแจ้งแทงตลอดอยู่ทุกขณะจิต ไม่ว่าจะนั่ง เดิน ยืน นอน กำหนดรู้จิตตัวเอง คงพอจะมีคำตอบให้ผมที่สงสัยมานานฉันมิตรฉันกัลยาณธรรม ขอบคุณล่วงหน้าครับ
    (จากใจอีกครั้ง)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2012
  11. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    การกระทำทุกอย่างจึงควรกระทำด้วยการนำออก เอาออกจากตน ไม่ใช่เอาเข้า แม้แต่บุญ..
    หากทำเพียงเพราะอยากจะได้บุญ เพื่อให้ตนได้รับบุญกุศล ก็นับเป็นอกุศลจิต เพราะมีความอยากเป็นเหตุ มีความอยากเป็นตัวนำพา
    ใช้อกุศลจิตนำทาง ผลย่อมนำไปทางเสื่อม จึงมีผลให้คนยึดติดในบุญกุศล ทำทุกอย่างได้เพื่อบุญ นับเป็นความหลงอย่างหนึ่ง
    อันที่จริงแล้ว เมื่อทำดี สร้างกุศล มันก็เกิดแล้วที่ใจตั้งแต่คิดคือเจตนา(นาม) เมื่อได้กระทำ(รูป) จึงถึงพร้อมทั้งรูปและนาม
    แต่หากวางใจไว้ไม่ถูก คือตั้งด้วยความอยาก ความต้องการ ผลจึงเป็นไปในทางเสื่อม จึงทุ่มทุนสร้างบุญกันใหญ่เลย
    เชื้อความอยากจึงรุนแรงและแพร่กระจายไปเรื่อยๆ กลายเป็นค่านิยม เรียกว่า ส่งต่อความหลงกันเป็นทอดๆ เพราะขาดสติปัญญา ในการสร้างกุศล

    นี่คือการเริ่มต้นที่ไม่ถูก..ผลจึงไม่ถูก ..

    คนมากราบไหว้บูชา ต่างก็พากันนิยมชมชอบที่จะขอให้ได้นั่น ได้นี่ คือใช้กิเลสนำพาให้กับตนเอง เพราะเหตุมันเริ่มต้นด้วยอกุศลเป็นตัวชักนำ
    เริ่มต้นผิด..จึงขยายสิ่งผิดกันอย่างต่อเนื่อง..จนเป็นประเพณี เป็นวัฒนธรรม..
    ไม่ใช่แค่เรื่องการสร้างพระ พระพุทธรูป เหรียญ ของขลังต่างๆ การทอดกฐิน ผ้าป่า แม้ภายนอกเห็นว่าทำเพื่อประโยชน์

    แต่แท้ที่จริงแล้วใจเราเท่านั้นที่จะรู้ ..และยอมรับในความจริงของตนเองได้หรือไม่ ว่าเจือปน ความอยาก ความต้องการของตนเองลงไป
    และมีเจตนาที่แอบแฝงเพราะถูกความหลงเข้าครอบงำ ..สิ่งที่เราพูดไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะเป็นเช่นนี้..
    คนที่เข้าใจแล้วคือเข้าใจแล้ว คนที่ยังไม่เข้าใจก็ยังไม่เข้าใจ ..มันก็เป็นเช่นนี้เอง..

    สิ่งสำคัญคือการมีสติ รู้ เห็น ที่ตนเอง ทุกความคิด(เจตนา) ที่ส่งผลกับคำพูด การกระทำ ว่าเจือปนอกุศลหรือไม่..
    โดยการสังเกตุที่ตนเอง ทุกเจตนาว่า..

    หากทำเพื่อเอาออก(ประโยชน์ที่แท้จริง) จะไม่มีตนเองเข้าไปเจือปนการกระทำ และจิตก็ไม่หมองเศร้า และมันเป็นเพียงสิ่งที่ได้ทำในประโยชน์นั้น ไม่ต้องการการตอบแทนใดๆ ไม่ต้องการประโยชน์ใดๆ เพื่อตนเอง แม้เพียงจะมีใคร จะรู้ จะเข้าใจหรือไม่ก็ตาม แต่ตัวเราเองย่อมรู้และเข้าใจตนเองอยู่แล้ว
    แต่หากกระทำเพื่อการเอาเข้า(เคลือบแฝง ที่เรียกว่าเอาดีเข้าตัว) คือภายนอกสิ่งที่แสดงให้ผู้อื่นเห็นคือ มีบุญ มีกุศลเกิด ประโยชน์เกิดขึ้นจริงด้านรูปธรรม แต่นามธรรม ให้ผลได้ไม่จริงเพราะ รูปนามไม่บริบูรณ์ เจือปนด้วยอกุศลจิต

    เพราะยังอยากที่จะให้คนอื่นยอมรับ ให้คนอื่นเห็นว่าตนเป็นคนดี และดีแล้วในสายตาคนอื่นๆ (ยึดดี)
    แท้จริงแล้วหากเราดีแล้วมันก็ดีแล้วที่เราเอง ใครจะเห็นหรือไม่ ใครจะยอมรับหรือไม่ ก็ไม่ใช่สิ่งที่เป็นมาตรฐานในความดี
    นอกจากบุคคลผู้นั้นเป็นผู้บริสุทธิ์จริง และเข้ามายอมรับในความจริงนั้น ซึ่งนั่นหมายถึงว่ามันเป็นการสัมผัสกันได้ด้วยใจ
    ไม่ต้องบอก ไม่ต้องกล่าว ใดๆ แต่รู้และสัมผัสได้เอง ในที่สุด

    หรือแม้ไม่มีใครยอมรับแต่ คนดี และความดี มันคือความจริงและจริงแท้ของเราเอง ความหวั่นไหวใดๆ ย่อมไม่มีกับการกระทำทั้งปวง
    เพราะไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ตน แต่ทำเพื่อประโยชน์ท่าน (บุคคลอื่นๆ) จึงดีก็ได้ไม่ดีก็ได้ในสายตาคนอื่น (ไม่ยึดดี) แต่เจตนาที่ทำดีแน่นอน
    คือตั้งไว้ด้วยกุศลจิต อย่างมีสติ-ปัญญา ถึงพร้อมบริบูรณ์ และมั่นคงในเจตนานั้น..
     
  12. อิ๋วจ้า

    อิ๋วจ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2009
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +215
    เข้าใจว่าเยอะ...แต่คนส่วนใหญ่เขามองกันภายนอก..เข้้าใจว่าเจตนาดีอยากให้หลุดพ้นไม่อยากให้ติด..ขอให้เสมอต้นเสมอปลายแบบนี้ตลอดนะค่ะเอาใจช่วยค่ะ
     
  13. PShinex

    PShinex เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +382
    ผมว่าน่าจะเอาไปรวมกันไว้นะครับ เพราะผมก็ไปทำบุญและเปิดบุญมาแล้วด้วย
    เห็นว่ามีของวิเศษที่เก็บสะสมไว้หลายอย่างแล้วด้วย วันที่ผมไปก็มีคนนนำแผ่น
    รอยพระบาทไปให้ด้วย คงจะเป็นที่รวมของสิ่งวิเศษในหลาย ๆ ที่ด้วย น่าจะ
    เป็น land mark ที่ดี และแหล่งรวมผู้ปฏิบัติธรรมที่ยิ่งใหญ่ในอนาคน ถ้าทำ
    สำเร็จ
     
  14. ผีอีแพง

    ผีอีแพง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +117
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1>id444 (วันนี้), iivv (10-08-2012), patchara2 (10-08-2012), คนเหาะ (10-08-2012), ปราบจราจล (10-08-2012), พรานป่า (10-08-2012), หมอกฤช comfirm (10-08-2012), หมูดิน1 (10-08-2012)
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    คนเดียวกันทั้งนั้นแหละเจ้าค่ะ คนเหล่านี้ นี่แหละมนุษย์ล่ะเจ้าค่ะ ไม่มีอะไรก็ใช้ยูสนั้นนี่เข้ามาอวยมา ทำนั้นนี่กับคนอื่น เห็นแค่นี้ก็รู้แล้วนะค่ะว่าใจคนมันเสื่อมจากศีลธรรมแค่ไหน?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2012
  15. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    บุคคลทั่วไปยังติดคำพูด ติดถูก ติดผิด ติดดี- ติดเลว อันเป็นอุปทานตัวยึดมั่นถือมั่นของจิต เพราะยึดติดสมมติ สมมติแปลว่า ไม่จริง ตัวเราคือจิต เป็นอมตะ ไม่เคยตาย

    หากไม่เข้าใจธรรมจุดนี้ จิตก็ตกอยู่ภายใต้อำนาจกิเลส ตัณหา อุปาทาน
    แล้วสร้างอกุศลกรรมมาทำร้ายจิตตนเองอยู่เสมอ

    ชีวิตนี้ไม่ใช่เรื่องถูกผิด มันเป็นเรื่องทุกข์ กับพ้นทุกข์ เท่านั้นเอง.
     
  16. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
    แค่บอกแค่เตือน ไม่ได้คาดหวังกับใครจะมายินดียินร้าย แต่อยากให้เห็นหัวจายที่รักจริง เท่านั้น
     
  17. mikycar offroad

    mikycar offroad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    264
    ค่าพลัง:
    +255
    อ๋อ......*......เข้าใจล่ะ (สวัสดีครับ):cool:
     
  18. Numtrn

    Numtrn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +1,571
    คนกราบเหล็ก ...


    พระพุทธรูป เป็นเพียง วัตถุที่ทำให้คน นึกถึง พระพุทธเจ้า ว่าท่านเคยมีตัวตนอยู่
    ก็เท่านั้น


    เหมื่อน สร้างอนุเสาวรีย์ ทหารกล้า เพื่อให้คนรุ่นหลังเห็นแล้ว นึกถึงความดีของทหารที่ต่อสู้ปกป้องบ้านเมือง



    ทำนองเดียวกัน เห็นพระพุทธรูปแล้ว นึกถึง พระธรรมของท่าน



    ส่วนการไปหลงไหล มวลสารปาฎิหาร อะไรนั่น เป็นคนละเรื่องกัน

    ต้องใช้ปัญยาแยกให้ออก ว่าอะไรเป็นอะไร ไม่เช่นนั้น เห็นคนกราบไหว้พระพุทธรูป
    ก็ ตีความว่า เขากราบเหล็ก ไปซะหมด


    ซึ่ง คนกราบ เขาคิดถึงพระพุทธเจ้า คนมองคงกราบ ดันไปคิดถึงเหล็ก


    อย่านี้ใครหลงทาง ???





    การที่ใครสักคน หรือ วัดไหนจะเททอง หรือสร้างพระพุทธรูป


    จุดประสงค์ก็เพื่อ ให้ผู้คนที่มองเห็น องค์พระ ได้นึกถึง พระพุทธเจ้า

    มิใช่นึกถึงโลหะทองเหลือง หรือ หินแกรนิต ที่แกะสลักเป็นองค์พระ


    ซึ่งเป็นการ ชี้ทางให้ผู้คนได้ทราบว่า พระพุทธเจ้า นั้น เคยมีตัวตนอยู่ และ พระธรรมของท่าน ยังคงอยู่ พระสงฆ์สาวกก็มีอยู่ ........ก็แค่นั้น




    เคยเห็นคนเลือกกราบ องค์พระ ที่เป็น ทองเหลือง มากกว่า หินแกรนิตไหม
    เคนเห็นเลือกกราบ องค์พระ ที่แปะทองหนาๆ มากกว่า องค์พระ ที่ไม่ได้แปะทอง ไหม


    คนบูชาพระพุทธเจ้า เขารู้ดีว่า เขาทำอะไร

    คนที่เอาศาสนามาหากิน เขาก็รู้ดีว่า เขาทำอะไร




    ใช้ปัญญา พิจารณาให้ถี่ถ้วน แล้วท่านจะเข้าใจได้เอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2012
  19. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ใช่ครับ การไม่สร้างพระพุทธรูป เสี่ยงต่อการสูญสลายของพุทธศาสนา การสร้าง คนก็ยึดติด
    --แต่ท่านลองมองใกล้ๆ บางศาสนาลงทุนจัดกฐิน ผ้าป่า ให้พระของเขาออกบณฑบาติ บางศาสนา ทุ่มเงินไม่อั้น เพื่อให้คนพุทธ เปลี่ยนศาสนาไปเป็นพะวกเขา หว่านไปหลายร้อยล้าน ได้มาไม่กี่คน แต่จะได้เยอะจากพวกชาวเขา(เราเข้าโบสถ์ เขาก็ให้เอาเงินเดือน 10 เปอร์เซนต์ถวายพระเจ้า เพื่อเป็นทุนเผยแพร่ศาสนา-ชาวพุทธไม่มีการเผยแพร่ศาสนาของคน-เพราะไม่มีสตังค์)
    --ตัวอย่างง่ายๆ เชช่นผม ถ้าตัดสินใจแต่เด็กรุ่นๆ ป่านนี้ผมอาจได้เป็นผอ.รพ. หรือโรงเรียน มีบ้าน รถ อยู่อย่างราชา มีทั้งเงินและเกียรติ บางที่เขาก็ส่งคนมาประกบ เซ้าซี้ ว่าจะหางานให้ อะไรต่างๆ แค่เปลี่ยนศาสนาเท่านั้นเอง ง่ายๆ
    --นั่นแหละครับ จุดใดที่เราอ่อนแอ ไม่ชัดเจน ควรอุดรอยรั่วก่อน ควรมีแผนป้องกันซะก่อน ก่อนที่ลูกหลานเราจะร้องว่า"โอ ขอบคุณพระเจ้า อาเมน"(ปกติถ้าไปเรียนโรงเรียนทางศาสนานั้น ลูกหลานเราก็มีแนวโน้มเปลี่ยนไปเกิน90เปอร์เซ็นต์ไปล้ว)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2012
  20. ผีอีแพง

    ผีอีแพง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +117
    "หากท่านทั้งหลายไม่ตัดทำลายมายาภาพทางความคิดที่ท่านยังคงยึดมั่นถือมั่นอยู่ ภูเขาหิมาลัยที่บดบังหนทางทางแห่งการเข้าถึงพุทธธรรม ก็จะยังคงตั้งตระหง่านขวางหน้าท่านบดบังพุทธธรรมอยู่ตลอดไป”
    พุทธทาสภิกขุ


    ต่อให้มีมันก็เสื่อมค่ะ เพราะความเป็นพุทธเราวัดที่คุณภาพไม่ใช่ปริมาณ เห็นอย่างง่ายๆ ก็คือต่อให้เรามีพระพุทธรูปหลายร้อยล้าน หรือมีคนมีบัตรประชาชนเขียนว่าเป็นชาวพุทธอีกห้าสิบล้าน ก็ไม่ได้หมายความว่าศาสนาพุทธจะดำรงอยู่ ถ้าคนเรายังจับแก่นจับสาระ กันไม่ได้ว่าอะไรคือสาระ

    ของคำสอน ถูกไหม?ค่ะ คือถ้ายังถือพุทธกันแต่ปาก(ถ้าส่วนใหญ่ไม่ใช่ทุกคนนะค่ะ) ความจริงมันก็ทุกศาสนานั้นแหละค่ะถ้าคนจับสาระไม่ได้มันก็เสื่อม ศาสนาคริสต์ก็ไม่ใช่ไม่ดีนะค่ะ แกก็สอนเมื่อศาสนาเรานั้นแหละ แต่คนจับสาระไม่ถูกเอง เราคนนอกก็ไม่รู้สาระเขาเหมือนกันก็ไปพูดไม่ได้ค่ะ มีใครอ่านไบเบิ้ลบ้างละ มีใครอ่านแล้วกล้าพุดว่าตัวเองเข้าใจบ้างล่ะ ก็เหมือนพระไตรนั้นแหละค่ะมีใครอ่านแล้วยอมรับว่าตัวเองเข้าใจมันหมดทุกประเด็นบ้างมันก็ต้องแล้วแต่ภูมิธรรมใช่ไหม?ค่ะ
    เราก็มองว่าพระเจ้าเป็นเรื่องไร้สาระ ก็เหมือนเขามองว่านิพพานไร้สาระเหมือนกัน ประเด็นคือทุกศาสนาสอนให้คนเรามีชีวิตที่ดีมีความสุขจริงๆๆไม่ทุกข์รักกันไม่เห็นแก่ตัวทั้งนั้น แต่คนนี่แหละที่มันจับสาระกันไม่ถูกก็เห็นว่าสอนขัดกันบ้าง ศาสนากูดีที่สุดบ้าง อะไรบ้างมันก็วุ่นวาย คนมันก็ฆ่ากันในนามศาสนา มันก็ไม่สันติ ถูกไหม?ค่ะ

    อย่างทำไม?ฝรั่งถึงได้ทุ่มทนดึงคนก็เพราะเขาเชื่อว่าบุญจะได้เต็มพระเจ้าจะได้ชอบเอาเขาไปสวรรค์เมื่อตาย ก็เหมือนคนไทยส่วนใหญ่ที่สร้างพระบุญจะได้เต็มจะได้ไปสวรรค์ ไปภพที่มันดีขึ้นหรือไม่ต่ำลง มันก็ตรรกะแบบเดียวกันนั้นแหละค่ะ ลงทุนน้อยผลกำไรงาม นี่แหละธุรกิจค้าบุญค้าบาป คนเราถึงได้ไม่เป็นคนของศาสนาอย่างแท้จริงไงค่ะ

    ปล.ดิฉันไม่ได้อยู่ฝ่ายห้ามสร้างนะค่ะ ดิฉันบอกวัดไหนขาดแคลน(ถ้ามี) ก็สร้างไปเถอะค่ะ วัดไหนมีเยอะแลัวแต่ยังเรี่ยไร ก่อนจะให้หรือหลงไปกับคำของเขาของพระของทายก ก็ให้คิดถึงคนด้อยโอกาสอีกมากในสังคมจะดีกว่านะค่ะ ถ้าพูดอย่างคนยึดติดเรื่องบุญก็ต้องพูดว่าทำอย่างนี้ยังได้บุญมากกว่า ไม่มีบุญอะไรจะดีไปกว่าต่อลมหายใจของมนุษย์ด้วยกันหรอกค่ะ อีกอย่างยิ่งเราทำแบบนี้ ก็เท่ากับเราได้สืบต่อลมหายใจของพระพุทธศาสนาไปด้วย เพราะเราทำตามคำสอนอย่างแทบจะครบอย่างแรกคือทาน สองปัญญา สาม สติ สี่เมตตากรุณา

    เห็นไหม?ค่ะว่าทางไหน?ประเสริฐกว่ากัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...