WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

patratyon · 4 กันยายน 2012

อิทธิฤทธิ์ไต้ฝุ่นโบลาเวน คร่า 48 ศพในเกาหลีเหนือ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 กันยายน 2555 00:01 น.

ภาพถ่ายจากดาวเทียมครั้งที่พายุโบลาเวนเข้าถล่มคาบสมุทรเกาหลี

เอเอฟพี - พายุไต้ฝุ่นรุนแรงลูกหนึ่งซึ่งพัดถล่มเกาหลีเหนือเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คร่าชีวิตประชาชนไป 48 คน มีผู้สูญหายและได้รับบาดเจ็บมากกว่า 50 คน สำนักงานข่าวแห่งรัฐรายงานวันจันทร์ (3)

ไต้ฝุ่นโบลาเวน ที่ซัดกระหน่ำคาบสมุทรเกาหลีเหนือเมื่อวันอังคารที่แล้ว (28 ส.ค.) สร้างความเสียหายและคร่าชีวิตพลเรือนไปจำนวนมากในทั้งสองเกาหลี

นอกเหนือจากยอดผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บข้างต้นแล้ว สำนักข่าวเกาหลีเหนือรายงานเพิ่มเติมว่า ในชาติคอมมิวนิสต์แห่งนี้ยังมีประชาชนอีก 21,180 คนต้องไร้ที่อยู่อาศัย หลังอิทธิพลของพายุได้ทำลาย หรือไม่ก็นำพาน้ำไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือน 6,700 หลัง ต้นไม่มากกว่า 16,730 หักโค่น และก่อความเสียหายแก่โรงงานและอาคารราชการ 880 แห่ง

สำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือรายงานต่อว่า โบลาเวนยังทำลายพื้นที่การเพาะปลูกอย่างต่ำ 8,000 ไร่ ก่อความเสียหายแก่นาข้าวและอื่นๆ กว่า 7,250 ไร่ อย่างไรก็ตาม ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายเหล่านี้ยังเป็นเพียงตัวเลขของทางการที่ไม่ได้ผ่านการยืนยันจากผู้ตรวจสอบอิสระ

พายุโบลาเวนซัดถล่มชาติผู้ขัดสนแห่งนี้ ขณะที่เกาหลีเหนือยังคงอ่วมอรทัยในผลกระทบจากวิกฤตอุทกภัยในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม ซึ่งมีผู้เสียชีวิตถึง 169 รายและสูญหายกว่า 400 คน

9อมตะ9 · 4 กันยายน 2012

อมตะชลบุรีฝนกำลังตกปอยๆๆ

patratyon · 4 กันยายน 2012

น้ำป่าเทือกเขาเพชรบูรณ์ หลากท่วมบ้านปชช.พิจิตร

เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 4 ก.ย.2555 ฝนที่ตกเนื่องบนเทือกเขาเพชรบูรณ์ฝั่ง ในเขตพื้นที่ตำบลวังโป่ง ไหลเข้าพื้นที่ จ.พิจิตร ซึ่งเป็นเขตติดต่อและเป็นพื้นที่รับน้ำ โดยน้ำได้ไหลผ่านทางคลองสาขา จนล้นคลองเข้าท่วมท่วมบ้านเรือนประชาชนซึ่งอยู่ริมคลองในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.วังทรายพูน อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร โดยน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 10 หลังคาเรือน ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 40 เซนติเมตร และท่วมพืชสวนทั้ง มะม่วง ส้มโอ และกล้วย ของประชาชนซึ่งมีพื้นที่ติดกับคลอง โดยน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นจากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ น้ำป่า ได้ไหลผ่านทางคลองสาขา จากที่สูงลงในที่ต่ำ ซึ่งมีพื้นที่บ้านเรือนประชาชน ที่ติดกับคลองสาขา ที่ผ่านการขุดลอก โครงการป้องกันน้ำท่วม พร้อมทั้งได้แผ่ขยายการไหลไปยังพื้นที่ ต.หนองปลาไหล อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร และลงไปยังพื้นที่ทำการเกษตรนาข้าวที่เริ่มทำการเกษตร อีกหลายพันไร่ ซึ่งในขณะนี้ทาง จ.พิจิตร ยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง

สำหรับพื้นที่ฝั่งตะวันออกของจังหวัดพิจิตร ซึ่งประกอบด้วย อ.สากเหล็ก วังทรายพูน ทับคล้อ และดงเจริญ เป็นพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำป่าของจังหวัดพิจิตร เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่รับน้ำจากเทือกเขา จ.พิษณุโลก และเทือกเขา จ.เพชรบูรณ์ โดยน้ำจะเป็นลักษณะน้ำป่า ไหลเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว ทำให้เมื่อเกิดน้ำป่าไหลหลากจะส่งผลกระทบสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน และสร้างความเสียหายให้กับพืชผลทางการเกษตรของประชาชนเป็นจำนวนมาก

patratyon · 4 กันยายน 2012

น้ำป่าเทือกเขาเพชรบูรณ์ หลากท่วมบ้านปชช.พิจิตร

เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 4 ก.ย.2555 ฝนที่ตกเนื่องบนเทือกเขาเพชรบูรณ์ฝั่ง ในเขตพื้นที่ตำบลวังโป่ง ไหลเข้าพื้นที่ จ.พิจิตร ซึ่งเป็นเขตติดต่อและเป็นพื้นที่รับน้ำ โดยน้ำได้ไหลผ่านทางคลองสาขา จนล้นคลองเข้าท่วมท่วมบ้านเรือนประชาชนซึ่งอยู่ริมคลองในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.วังทรายพูน อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร โดยน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 10 หลังคาเรือน ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 40 เซนติเมตร และท่วมพืชสวนทั้ง มะม่วง ส้มโอ และกล้วย ของประชาชนซึ่งมีพื้นที่ติดกับคลอง โดยน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นจากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ น้ำป่า ได้ไหลผ่านทางคลองสาขา จากที่สูงลงในที่ต่ำ ซึ่งมีพื้นที่บ้านเรือนประชาชน ที่ติดกับคลองสาขา ที่ผ่านการขุดลอก โครงการป้องกันน้ำท่วม พร้อมทั้งได้แผ่ขยายการไหลไปยังพื้นที่ ต.หนองปลาไหล อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร และลงไปยังพื้นที่ทำการเกษตรนาข้าวที่เริ่มทำการเกษตร อีกหลายพันไร่ ซึ่งในขณะนี้ทาง จ.พิจิตร ยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง

สำหรับพื้นที่ฝั่งตะวันออกของจังหวัดพิจิตร ซึ่งประกอบด้วย อ.สากเหล็ก วังทรายพูน ทับคล้อ และดงเจริญ เป็นพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำป่าของจังหวัดพิจิตร เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่รับน้ำจากเทือกเขา จ.พิษณุโลก และเทือกเขา จ.เพชรบูรณ์ โดยน้ำจะเป็นลักษณะน้ำป่า ไหลเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว ทำให้เมื่อเกิดน้ำป่าไหลหลากจะส่งผลกระทบสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน และสร้างความเสียหายให้กับพืชผลทางการเกษตรของประชาชนเป็นจำนวนมาก

patratyon · 4 กันยายน 2012

9อมตะ9 said: ↑

อมตะชลบุรีฝนกำลังตกปอยๆๆ
Click to expand...

13.35 น @ สุพรรณบุรี ฝนตกหนัก ลมแรง มากๆ

ฺB1

J_man · 4 กันยายน 2012

กรุงเทพย่านอ่อนนุช ฝนตกปอยๆ อากาศเย็นๆ ครับ

Ajintai · 4 กันยายน 2012

หุ หุ เล่นเขย่ากันสามครั้งในสิบห้านาทีจนรายงานไม่ทันเลยที่ฟิลิปปินส์.....ทั่นฟอร์คฯหายไปไหนเนี่ยะขอรายละเอียดด้วยครับ
2012-09-04 06:58:12 UTC
2012-09-04 13:58:12 THA
ศูนย์กลาง: Philippine Islands Region
Lat: 10.51 , Long: 126.65
ขนาด : 5.4 , ลึก: 115 กม.
*(source:GEOFON)
------------------------------------------------------------------
2012-09-04 06:54:58 UTC
2012-09-04 13:54:58 THA
ศูนย์กลาง: Philippine Islands Region
Lat: 10.77 , Long: 126.92
ขนาด : 5.3 , ลึก: 10 กม.
*(source:GEOFON)
-----------------------------------------------------------
2012-09-04 06:43:03 UTC
2012-09-04 13:43:03 THA
ศูนย์กลาง: Philippine Islands Region
Lat: 10.78 , Long: 126.95
ขนาด : 5.5 , ลึก: 41 กม.
*(source:GEOFON)
------------------------------------------------------------------------
<table cellpadding="0" cellspacing="0" border="0"><tbody><tr><td class="point">Magnitude</td><td class="point2">mb 5.3</td></tr><tr><td class="point">Region</td><td class="point2">PHILIPPINE ISLANDS REGION</td></tr><tr><td class="point">Date time</td><td class="point2">2012-09-04 06:58:10.0 UTC</td></tr><tr><td class="point">Location</td><td class="point2">10.65 N ; 126.50 E</td></tr><tr><td class="point">Depth</td><td class="point2">90 km</td></tr></tbody></table>------------------------------------------------------------------------
<table cellpadding="0" cellspacing="0" border="0"><tbody><tr><td class="point">Magnitude</td><td class="point2">mb 5.1</td></tr><tr><td class="point">Region</td><td class="point2">PHILIPPINE ISLANDS REGION</td></tr><tr><td class="point">Date time</td><td class="point2">2012-09-04 06:55:00.0 UTC</td></tr><tr><td class="point">Location</td><td class="point2">10.67 N ; 126.98 E</td></tr><tr><td class="point">Depth</td><td class="point2">40 km</td></tr></tbody></table>-------------------------------------------------------------------------
<table cellpadding="0" cellspacing="0" border="0"><tbody><tr><td class="point">Magnitude</td><td class="point2">mb 5.4</td></tr><tr><td class="point">Region</td><td class="point2">PHILIPPINE ISLANDS REGION</td></tr><tr><td class="point">Date time</td><td class="point2">2012-09-04 06:43:02.0 UTC</td></tr><tr><td class="point">Location</td><td class="point2">10.68 N ; 126.89 E</td></tr><tr><td class="point">Depth</td><td class="point2">40 km</td></tr></tbody></table>--------------------------------------------------------------------------
Update time = Tue Sep 4 7:18:07 UTC 2012
<table cellpadding="1" cellspacing="1" border="0"><tbody><tr> <th>
</th> <th align="center">MAG </th> <th align="center">UTC DATE-TIME
y/m/d h:m:s </th> <th align="center">LAT
deg </th> <th align="center">LON
deg </th> <th align="center">DEPTH
km </th> <th> Region</th> </tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 5.5 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2012/09/04 06:58:03 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 10.555 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 126.716 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 35.4 </td><td valign="top"> PHILIPPINE ISLANDS REGION</td></tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 5.1 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2012/09/04 06:55:00 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 10.678 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 126.946 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 34.7 </td><td valign="top"> PHILIPPINE ISLANDS REGION</td></tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 2.7 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2012/09/04 06:45:20 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 62.580 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> -149.764 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 70.1 </td><td valign="top"> CENTRAL ALASKA</td></tr> <tr><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">MAP</td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top"> 5.3 </td><td align="center" nowrap="nowrap" valign="top">2012/09/04 06:43:02 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 10.662 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 126.809 </td><td align="right" nowrap="nowrap" valign="top"> 35.3 </td><td valign="top"> PHILIPPINE ISLANDS REGION</td></tr></tbody></table>

Falkman · 4 กันยายน 2012

update ภูเขาไฟกรากาตั้ว อินโด ปะทุ

Event: Volcano Eruption
Location: Indonesia Sunda Strait Anak Krakatoa Volcano

Number of Deads: 0 person(s)
Number of Injured: 0 person(s)
Number of Evacuated: 0 person(s)
Number of Infected: 0 person(s)

Situation:The volcanic discharge of Mount Anak Krakatau, which usually affects Cilegon in Banten and Kalianda in southern Lampung, has now reached the city center of Bandar Lampung, the capital of Lampung province, located around 75 kilometers from the mountain itself. Based on observations by The Jakarta Post, the whole area of Bandar Lampung was covered in volcanic ash. Despite a thin layer, the ash was evenly distributed across the city. The volcanic ash also reached parts of Pesawaran and Pringsewu regencies. The head of the Information and Observation division at Lampung Meteorology, Climatology and Geophysical Agency (BMKG), Nurhuda, said the volcanic ash was carried by winds from the southeast. “High wind velocity has likely carried the ash from the southeast to reach as far as Bandar Lampung. We urge residents in the area to wear masks when they go outdoors, especially when they are riding motorcycles,” said Nurhuda. However, as of midday on Monday, many residents in Bandar Lampung were not heeding the BMKG’s warning.

The Volcanology and Geological Disaster Mitigation Agency (PVMBG) has yet to upgrade Mt. Anak Krakatau’s alert status to a higher level despite the increase in seismic and molten lava levels in the Sunda Strait, as of Sunday. Agency head Surono said that Mt. Anak Krakatau had been emitting molten lava and strombolian eruptions as of midday on Sunday. The lava spewed at a height of between 200 and 300 meters from its peak at midday on Monday. Head of the Anak Krakatau Observation Post in Rajabasa, South Lampung, Andi Suardi, said that Anak Krakatau’s magmatic activities were unpredictable. “However, its status has not been upgraded to that of alert. Despite that, we are still not allowing tourists and fishermen to approach the volcano within 2 kilometers of its radius,” he said. According to Andi, Mt. Anak Krakatau emits 10 toxic gases during its eruption process, such as carbon doixide, which is fatal for humans. “Anyone who inhales the gas may experience breathing difficulties and lose consciousness. It may even lead to death,” he said. In West Java, Mount Tangkuban Parahu nature tourism park was closed on Monday due to a rise in volcanic activity.

“We’re not allowing vendors and visitors to go up to the crater at present,” said West Java Disaster Mitigation Agency head Sigit Udjwalaprana in Bandung on Monday. Earlier, the Volcanology and Geological Disaster Mitigation Agency raised the status of Mt. Tangkuban Parahu from normal-active, or level 1, to alert, or level 2, on Aug. 23. “The people should be aware of a 1.5-km radius from the crater,” said Surono. The 2,048-meter volcano was last closed in April, 2005, on the grounds of increasing volcanic activities.

Event: Volcano Eruption
Location: Indonesia Sunda Strait Anak Krakatoa Volcano

Number of Deads: 0 person(s)
Number of Injured: 0 person(s)
Number of Evacuated: 0 person(s)
Number of Infected: 0 person(s)

Situation:The activities of volcanoes in western part of Indonesia territory are escalating, with one of them, Mt. Anak Krakatau, located in Sunda strait spewing volcanic ash affecting area of downtown Bandar Lampung, local media reported on Tuesday. Bandar Lampung, the capital of Lampung province, is 75 km away from the volcano, further than the one in previous times that affected Cilegon in West Java and Kalianda in Lampung province, according to the media report. The whole area of Bandar Lampung was covered in volcanic ash. Despite a thin layer, the ash was evenly distributed across the city. The volcanic ash also reached parts of Pesawaran and Pringsewu regencies. The head of the Information and Observation division at Lampung Meteorology, Climatology and Geophysical Agency (BMKG), Nurhuda, said the volcanic ash was carried by winds from the southeast.

"High wind velocity has likely carried the ash from the southeast to reach as far as Bandar Lampung. We urge residents in the area to wear masks when they go outdoors, especially when they are riding motorcycles," Nurhuda said on Monday. The Volcanology and Geological Disaster Mitigation Agency ( PVMBG) has yet to upgrade Mt. Anak Krakatau's alert status to a higher level despite the increase in seismic and molten lava levels in the Sunda Strait, as of Sunday. Agency head Surono said that Mt. Anak Krakatau had been emitting molten lava and strombolian eruptions as of midday on Sunday. The lava spewed at a height of between 200 and 300 meters from its peak at midday on Monday. Head of the Anak Krakatau Observation Post in Rajabasa, South Lampung, Andi Suardi, said that Anak Krakatau's magmatic activities were unpredictable. According to Andi, Mt. Anak Krakatau emits 10 toxic gases during its eruption process, such as carbon doixide, which is fatal for humans. "Anyone who inhales the gas may experience breathing difficulties and lose consciousness. It may even lead to death," he was quoted by the Jakarta Post as saying.

Besides the Anaka Krakatau volcano, an apparent volcanic activity also occurs in Tangkuban Parahu volcano located in West Java. It made the authority close down the Mount Tangkuban Parahu nature tourism park. "We're not allowing vendors and visitors to go up to the crater at present," said West Java Disaster Mitigation Agency head Sigit Udjwalaprana in Bandung on Monday. Earlier, the Volcanology and Geological Disaster Mitigation Agency raised the status of Mt. Tangkuban Parahu from normal- active, or level 1, to alert, or level 2, on Aug. 23.

Kingkong1 · 4 กันยายน 2012

วันนี้แสนสุขใจ ฝนตกห่าใหญ่ น้ำไหลรุนแรง แข่งกันลงบ่อ ล่อซะชั่วโมง โล่งอกโล่งใจ ไม่แล้งแล้วครับ

ที่ปากช่องครับ ขุดลอกบ่อรอมาเกือบเดือนแล้วครับ แต่ก็ได้น้ำเท่าที่เห็นนะครับ

nattanan39 · 4 กันยายน 2012

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>แผ่นดินไหว 3.3 ริกเตอร์ที่ลอสแองเจลิส ไม่มีรายงานความเสียหาย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>4 กันยายน 2555 18:08 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ รายงานว่าเกิดแผ่นดินไหวเมื่อเช้าวานนี้ในพื้นที่นครลอสแอนเจลิส ซึ่งวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 3.3 ริกเตอร์ มีศูนย์กลางอยู่ที่เบเวอร์ลีฮิลส์ นครลอสแองเจลิส ซึ่งเป็นเขตพักอาศัยของผู้มีฐานะร่ำรวยเกิดขึ้นเมื่อเวลา 03.26 น. ตามเวลาท้องถิ่น แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
ผู้บัญชาการตำรวจเบเวอร์ลีฮิลส์ กล่าวว่า สถานีตำรวจได้รับโทรศัพท์แจ้งความเป็นจำนวนมาก จากประชาชนที่ตื่นตระหนก และว่าสัญญาณเตือนภัยทุกแห่งที่อยู่ในเมืองดังขึ้นพร้อมกัน แต่จากการออกตรวจพื้นที่ของตำรวจสายตรวจไม่พบความเสียหายของอาคารบ้านเรือน เช่นเดียวกับหน่วยดับเพลิงนครลอสแองเจลิส กล่าวว่า จากการออกสำรวจยังไม่พบความเสียหายร้ายแรง หรือมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากแผ่นดินไหว

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

nattanan39 · 4 กันยายน 2012

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ถนนทรุด!! แยกวงศ์สว่าง ลึก 1 เมตร-เร่งซ่อมเสร็จวันนี้ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>4 กันยายน 2555 16:48 น</TD></TR></TBODY></TABLE>เกิดเหตุถนนทรุดตัวบริเวณถนนติวานนท์ขาออก เลยแยกวงศ์สว่าง 15 เมตร แขวงและเขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ช่วงที่เกิดเหตุบริษัท อิตัลไทย บริเวณที่กำลังขุดอุโมงค์วางร้อยท่อไฟฟ้าใต้ดิน เป็นลักษณะหลุดลึก ปากหลุม 70 เซนติเมตร ความลึกประมาณ 1 เมตร เลนขวาสุด ทำให้ต้องกันพื้นที่ดังกล่าว รถสามารถวิ่งได้เพียง 1 ช่องทาง
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ธานินทร์ อินทรพรต สารวัตรจราจร สน.ประชาชื่น ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเปิดเผยว่า ช่วงดังกล่าวเป็นการก่อสร้างที่เสร็จแล้ว แต่คาดว่า เนื่องจากมีฝนตกและอัดทรายไม่แน่น จึงทำให้เกิดการทรุดตัว ส่งผลการจราจรต้องปิดซ่อมถนนจุดดังกล่าว ทำให้เสียหาย 1 ช่องทางการจราจร อยู่ระหว่างดำเนินการซ่อมแซมให้แล้วเสร็จวันนี้ เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วน

</TD></TR></TBODY></TABLE>

nattanan39 · 4 กันยายน 2012

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>หวาดเสียว! คนขับรถอึ้งเจอ “ซูคอย” เร็วเหนือเสียงบินเฉียดหน้ารถ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>4 กันยายน 2555 10:22 น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> <IFRAME height=360 src="http://www.youtube.com/embed/h3Q7j5JGp5Q?feature=player_embedded" frameBorder=0 width=640 allowfullscreen></IFRAME>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> เอเจนซี - ผู้ขับขี่ยวดยานบนถนนมอเตอร์เวย์สายหนึ่งในรัสเซียถึงกับตะลึงพรึงเพริด เมื่อจู่ๆเครื่องบินทิ้งระเบิดเร็วเหนือเสียงก็บินสวนหน้ารถไปด้วยความสูงจากพื้นดินเพียงไม่กี่เมตร

คลิปวีดีโอซึ่งบันทึกจากกล้องติดหน้ารถยนต์บนถนนสายชนบทแห่งหนึ่ง เผยเหตุการณ์ขณะที่เครื่องบินปริศนาพุ่งทะยานสวนหน้ารถไปเพียงชั่วพริบตา ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดสมัยสงครามเย็นรุ่น Su-24 ของกองทัพอากาศรัสเซีย

คลิปวีดีโอนี้ถูกโพสลงเว็บไซต์ยูทิวบ์เมื่อเดือนที่แล้ว และกำลังสร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าเป็นเรื่องจริงหรือภาพตัดต่อกันแน่

ผู้ที่ไม่เชื่อถือตั้งคำถามว่า เสียงกระหึ่ม (sonic boom) ซึ่งเกิดจากเครื่องบินที่เดินทางด้วยความเร็วเหนือเสียงนั้น เหตุใดจึงเกิดขึ้นก่อนที่เครื่องบินจะพุ่งเฉียดหน้ารถไป

อย่างไรก็ดี คำถามนี้อาจอธิบายได้ว่า เสียงกับภาพในคลิปวีดีโออาจจะไม่สอดคล้องกัน ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยจากกล้องบันทึกภาพหน้ารถ

เครื่องบินในคลิปน่าจะเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิด ซูคอย SU-24 ชนิดปีกลู่ (swept-wing) ที่มีโค้ดเนมว่า “เฟ็นเซอร์” (Fencer) ซึ่งเป็นอากาศยานที่พัฒนาขึ้นในยุคสงครามเย็น ช่วงทศวรรษ 1950

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=634><TBODY><TR><TD vAlign=top width=634 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=634><TBODY><TR><TD vAlign=top width=634 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=634><TBODY><TR><TD vAlign=top width=634 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

nattanan39 · 4 กันยายน 2012

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>จับตาย “ปลากระเบนปีศาจ” ยักษ์ กว้าง 8 เมตร</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>4 กันยายน 2555 17:31 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจเช็คสภาพของปลากระเบนราหูแปซิฟิก หรือปลากระเบนปีศาจ ที่ชาวประมงจับได้วานนี้ (ภาพ-เอเยนซี่)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> ไชน่าเดลี่--ชาวประมงจากไถโจว เมืองทางชายฝั่งตะวันออก ในมณฑลเจ้อเจียงจับปลากระเบนราหูแปซิฟิก (manta ray) น้ำหนัก 1,000 กิโลกรัม ครีบอกกว้าง 8 เมตร ได้เมื่อวาน (3 ก.ย.) ซึ่งต่อมาเจ้าสัตว์น้ำยักษ์นี้ก็ไม่พ้นชะตากรรมถูกชำแหละเป็นชิ้นๆเพื่อทำการจำหน่ายในตลาดสดต่อไป

ปลากระเบนราหูแปซิฟิก หรือ ปลากระเบนแมนตา (Manta ray) หรือ ปลากระเบนปีศาจ (Devil ray) เป็นปลากระดูกอ่อนเช่นเดียวกับปลาฉลาม จัดเป็นปลากระเบนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปลากระเบนสายพันธุ์นี้ โดยทั่วไปมีครีบอกกว้าง ถึง 6.7 เมตร หรือ 22 ฟุต มีน้ำหนักได้ถึง 1,350 กิโลกรัม หรือ 3,000 ปอนด์ อาศัยอยู่ในน่านน้ำเขตร้อนทั่วโลก โดยเฉพาะรอบ ๆ แนวปะการัง ชอบกินแพลงตอนหรือปลาตัวเล็กเป็นอาหาร

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400><TBODY><TR><TD vAlign=top width=400 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350><TBODY><TR><TD vAlign=top width=350 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350><TBODY><TR><TD vAlign=top width=350 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

nattanan39 · 4 กันยายน 2012

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ก้าวล้ำเกินคาด...ขีปนาวุธนิวเคลียร์กองทัพมังกร เคลื่อนไหวได้เสรีเต็มสูบ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>31 สิงหาคม 2555 13:56 น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพขีปนาวุธข้ามทวีปที่หน่วยทหารปืนใหญ่ที่ 2 กองทัพปลดแอกแห่งประชาชนจีน ได้ทดลองยิงเมื่อเดือนก.ค. และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาก้าวหน้าด้านอาวุธของจีน (ภาพซินหวา)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเยนซี/เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสท์--กองกำลังขีปนาวุธนิวเคลียร์ของจีนสามารถปล่อยหัวรบจรวดมหาภัยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำจากทุกแห่งในประเทศจีน นับเป็นพัฒนาการทีก้าวล้ำจินตนาการความคิดอย่างมากทีเดียว แต่สหรัฐฯ ชี้ ระบบขีปนาวุธฯใหม่ของกองทัพมังกรนี้ อาจเผชิญปัญหาด้านการควบคุมและบัญชาการ

วันจันทร์ที่ผ่านมา (27 ส.ค.) หน่วยทหารปืนใหญ่ที่ 2 กองกำลังขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ประจำกองทัพปลดแอกแห่งประชาชนจีน หรือพีแอลเอ รายงานว่า ทางหน่วยฯ ได้บรรลุการ “เปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์” ในด้านความสามารถของกองกำลังสรรพาวุธ และเรียกได้ว่าเป็นการก้าวกระโดดครั้งประวัติศาสตร์

ตามที่สื่อต่างชาติรายงานเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า กองทัพจีนได้ทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) รุ่นที่ 3 หรือที่รู้จักกันในนาม ตงเฟิง-41 (DF-41) เมื่อเดือนที่แล้ว (ก.ค.) ขีปนาวุธนี้มีพิสัยการยิงได้ไกลถึง 14,000 กิโลเมตร สามารถลำเลียงแบบยิงได้หลายหัวรบ และมีศักยภาพโจมตีเป้าหมายได้ไกลถึงทุกเมืองของสหรัฐอเมริกา

พีเพิล เดลี่ กระบอกเสียงพรรคคอมมิวนิสต์จีน เปิดเผยว่า ระหว่างฤดูร้อนหน่วยทหารปืนใหญ่ที่สอง ประสบความสำเร็จในการทดสอบยิงขีปนาวุธทั้งในเขตทะเลทรายทางตะวันตกเฉียงเหนือ บริเวณหุบเขาและแม่น้ำ ทางตะวันออกเฉียงเหนือ และในพื้นที่ป่าทางตอนใต้ของจีน

แอนโทนี หว่อง ตง ประธานสมาคมการทหารระหว่างประเทศ (International Military Association) ในมาเก๊า เผยว่า “หนึ่งในสารสำคัญของรายงานข่าว ‘พีเพิล เดลี’... คือกำลังจะบอกอเมริกันว่า ขีปนาวุธของกองทัพปลดแอกแห่งประชาชนจีนนั้น มีพิสัยการยิงได้ไกลเกินกว่าที่พวกเขาเคยคิดไว้ได้”

เขายังกล่าวอีกว่า สำหรับกลุ่มนักเฝ้ามองความเคลื่อนไหวด้านการทหารแล้ว รายงานข่าวชิ้นนี้มีความสำคัญ รายงานข่าวถูกเผยแพร่ออกมาไล่หลังจากที่สหรัฐฯ และญี่ปุนขยายความร่วมมือด้านการป้องกัน รวมทั้ง มีการซ้อมรบในเกาะกวม และความร่วมมือที่เหนียวแน่นในการพัฒนาโล่ป้องกันขีปนาวุธนำโดยสหรัฐฯ

นอกจากนี้ อาจมองได้ว่า รายงานของพีเพิล เดลี่ เป็นการตอบโต้ต่อสื่อต่างชาติที่เสนอข่าวการทดลองขีปนาวุธรุ่นที่ 3 ของจีน

อังเดร ชัง หัวหน้ากองบรรณาธิการ Kanwa Asian Defence Monthly ในแคนาดา เผยว่า “หากมีการยกระดับประสิทธิภาพด้านการเคลื่อนที่ของขีปนาวุธ กองทัพจีนสามารถแอบซ่อนขีปนาวุธเหล่านี้ได้เกือบทุกที่ ก่อนที่จะยิงออกไป ความสามารถในการโต้ตอบการโจมตีก้าวหน้าล้ำหน้าอย่าวสำคัญทีเดียว”

อย่างไรก็ดี รายงานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ชี้ว่า พัฒนาการการทหารและความมั่นคงล่าสุดของกองทัพปลดแอกแห่งประชาชนจีน ได้แก่ ระบบขีปนาวุธที่เคลื่อนที่ได้มากขึ้น ได้สร้างปัญหาท้าทายใหม่ต่อการควบคุมและการบัญชาการ ขีปนาวุธเคลื่อนที่นี้ มีฐานบนพื้นดิน อาจเกิดปัญหาหลายอย่าง เช่น ความสามารถการสื่อสารที่จำกัด และยังขาดประสบการณ์ในการควบคุมระบบยิงในยามสงคราม

จีนตอกย้ำประสิทธิภาพขีปนาวุธข้ามทวีป

สื่อจีนรายงาน (29 ส.ค.) ประสิทธิภาพของขีปนาวุธข้ามทวีปแห่งกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ล้ำหน้ามาก สามารถหลบหลีกสัญญาณตรวจจับและการจู่โจมได้

ในช่วง 10 ปีมานี้ กองทัพจีนได้พัฒนาขีปนาวุธทั้งรุ่นพิสัยใกล้จนถึงพิสัยข้ามทวีป โดยขีปนาวุธที่มีระยะยิงไกลข้ามทวีป ในขณะนี้แม้ระบบภายในจะเป็นนิวเคลียร์ แต่ภายนอกสามารถใช้เชื้อเพลิง หรือฐานปล่อยจรวดในการยิงได้ นอกจากนี้ มันยังมีสามารถหลบหลีกการตรวจจับจากดาวเทียมได้ นับเป็นการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ของจีน

เมื่อเดือนที่ผ่านมา (ก.ค.) หน่วยทหารปืนใหญ่ที่สอง ได้ทดลองยิงขีปนาวุธในเขตที่ห่างไกล ทั้งในป่าทึบ หุบเขา ทะเลทราย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยังได้ทดสอบในพื้นที่ที่มีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ารบกวนด้วย แต่ขีปนาวุธดังกล่าวสามารถพุ่งไปยังเป้าหมายที่กำหนดไว้ได้ทั้งหมด

หลาน จี๋อิ๋น ผู้บัญชาการหน่วยฝึกทหาร กองบังคับการหน่วยทหารปืนใหญ่ที่สอง เผยว่า “เราฝึกซ้อมการยิงขีปนาวุธในทุกที่ ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพอากาศเลวร้าย พื้นที่ที่ไม่คุ้นเคย กระทั่งที่ๆ มีคลื่นแม่เหล็กรบกวน และเราบรรลุเป้าหมายในการปรับเปลี่ยน สามารถยิงได้ทุกที่ทุกเวลา เคลื่อนที่โยกย้ายตำแหน่งได้ ควบคุมการยิงได้แม่นยำ และสามารถยิงได้หลายเป้าหมาย ความสามารถในการรบของมันก้าวล้ำมาก”

หน่วยทหารปืนใหญ่ที่สอง ก่อตั้งเมื่อวันที่ 1 ก.ค. พ.ศ. 2509 โดยการรวมตัวกันของหน่วยขีปนาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์ หน่วยขีปนาวุธและยุทธวิธีการรบทางทหาร และหน่วยป้องกัน

ชมภาพการฝึกซ้อมยิงขีปนาวุธข้ามทวีปโดยหน่วยทหารปืนใหญ่ที่สอง กองกำลังขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ประจำกองทัพปลดแอกแห่งประชาชนจีน เมื่อเดือนก.ค. ที่ผ่านมา (ภาพซินหวา)

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>(1)</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>(2)</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>(3)</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>(4)</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>(5)</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>(6)</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>(7)</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>(8)</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

nattanan39 · 4 กันยายน 2012

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ภัยร้ายขนมหน้าโรงเรียนที่พ่อแม่หยิบยื่นให้ลูก..!!!/สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>4 กันยายน 2555 17:04 น</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250><TBODY><TR><TD vAlign=top width=250 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> จำได้ว่าสมัยเด็กๆ หลังโรงเรียนเลิก ขณะรอพ่อแม่มารับที่โรงเรียน จะต้องหาซื้อขนมหน้าโรงเรียนกินทุกวัน อาหารยอดฮิตหน้าโรงเรียนที่พบเจอ ก็มีตั้งแต่ลูกชิ้นปิ้น ของทอด หมูปิ้ง น้ำหวานฯลฯ ขนมสารพัดอย่างที่แม่ค้าทำให้เห็นและส่งกลิ่นยั่วยวนเด็กๆ ที่มองแล้วก็อยากกิน สุดท้ายก็ต้องควักเงินซื้อ

ปัจจุบันนี้ก็ไม่แตกต่างเท่าไร จะมีก็คือร้านค้าเพิ่มมากขึ้น และมีแทบจะทุกหน้าโรงเรียน ยิ่งถ้าโรงเรียนไหนไม่มีมาตรการควบคุม ก็จะเรียงรายไปด้วยร้านค้าจำนวนมากที่ตั้งวางรถเข็นอยู่บนฟุตบาธหรือทางเท้า จนแทบไม่มีที่เดินกันเลยทีเดียว

ที่จริงก็พอเข้าใจได้ เพราะหลังเลิกเรียนเป็นเวลาที่เด็กๆ มักจะหิวกันมาก เพราะตั้งแต่เช้าจรดเย็น เด็กๆต้องใช้ทั้งสมอง พลังงานในการเรียน และทำกิจกรรมระหว่างวันมากมาย พอเลิกเรียนก็ต้องเดินทางกลับบ้าน ซึ่งต้องใช้เวลานานในการฝ่าจราจรกว่าจะถึงบ้าน ทำให้อาหารหน้าโรงเรียนกลายเป็นส่วนหนึ่งของการไปรับลูกกลับจากโรงเรียนของพ่อแม่ซะแล้ว

ทั้งที่ในความเป็นจริงเป็นเรื่องที่ไม่ควรสนับสนุนอย่างยิ่ง และไม่อยากให้คนเป็นพ่อแม่เป็นผู้ซื้อให้ลูกด้วยซ้ำ เพราะเท่ากับเป็นผู้ส่งภัยร้ายให้ลูกซะเอง

ก่อนหน้านี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก็เคยรายงานว่า อาหารหน้าโรงเรียนส่วนใหญ่ที่ขายกันเกลื่อนเมือง ยังไม่มีมาตรฐานตรงตามที่ อย. กำหนด เช่น ลูกชิ้นทอด และอาหารทอด ที่นำน้ำมันเก่ามาใช้ หรืออาหารประเภทหมูปิ้ง และอาหารแต่งสีอันตรายทั้งหลายก็มีจำนวนมาก มีสารพิษเจือปนอยู่ ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพของเด็กนักเรียนอย่างมาก และได้ออกเตือนพ่อแม่ ผู้ปกครองให้หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารหน้าโรงเรียน

อาหารหน้าโรงเรียนที่ขายกันเกลื่อนมีภัยอะไรบ้าง ?

ประเภทแรก ของทอดทั้งหลาย บรรดาลูกชิ้นทอด ลูกชิ้นเด้ง กุ้งทอด กล้วยทอด ที่มักจะมีผงกรอบหรือผงบอแรกช์เป็นส่วนผสมอยู่ด้วย รวมทั้งผลไม้ดองบางชนิด ซึ่งทำให้อาหารกรอบอยู่ได้นาน ยังไม่นับรวมน้ำมันที่ใช้ทอดมานานโดยไม่ได้เปลี่ยนน้ำมันเลย
สารเหล่านี้ถ้าสะสมอยู่ในร่างกายจำนวนมากจะทำให้เกิดอาการระคายเคืยง เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินอาหารอย่างรุนแรง เพราะเป็นพิษต่อเซลล์ของร่างกาย และสามารถดูดซึมสะสมอยู่ในร่างกายโดยเฉพาะอวัยวะบริเวณไต ทำให้ไตอักเสบหรือไตพิการได้

ประเภทที่สอง อาหารหรือขนมหวานสีสวยทั้งหลาย เช่น ลูกชุบ ลูกกวาด ไอศครีมแท่ง หรือแม้แต่ผลไม้ดอง มักจะมีการใส่สีเพื่อให้อาหารดูน่ากิน แม่ค้าบางคนที่เห็นแก่ได้มักจะลดต้นทุนด้วยการใช้สีย้อมผ้าแทน เพราะมีราคาถูกและหาซื้อได้ง่าย ซึ่งสีย้อมผ้าเหล่านี้มีโลหะนำประเภทตะกั่ว แคดเมียม ปรอท ปนอยู่ด้วยเพื่อให้สีที่ย้อมติดทนนาน เมื่อนำมาผสมอาหาร โลหะหนักเหล่านี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง

รวมไปถึง วัสดุที่ใช้ใส่อาหารด้วย เช่น ถุงกระดาษที่มีตัวหนังสือพิมพ์อยู่หรือถุงพลาสติก เมื่อนำมาใส่อาหารที่ร้อนๆ หรือมันๆ โลหะหนักก็จะละลายปนเปื้อนลงในอาหารชนิดนั้นๆ ได้ ผลที่ตามมาทำให้มีอาการซีด เลือดจาง อาจทำลายปลายประสาท และเกิดอาการเฉียบพลันได้ เช่น อาเจียน ซึม เพ้อ หรือถึงขั้นชัก หมดสติ และอาจเสียชีวิตได้

ประเภทที่สาม อาหารพวกปิ้งย่าง เป็นอีกชนิดหนึ่งที่เด็กๆ ชอบกิน ยิ่งจำพวกปิ้งจนเกรียมไหม้ยิ่งเป็นอันตรายมาก และเป็นสาเหตุทำให้เกิดสารก่อมะเร็งต่อร่างกาย

ประเภทที่สี่ จำพวกเครื่องดื่ม พวกน้ำหวานที่ผสมในขวดโหลต่างๆ มักมีปัญหาเรื่องความไม่สะอาด มีการปนเปื้อนของเชื้อโรค นอกจากจะเป็นต้นเหตุของอาการฟันผุแล้ว ยังอาจทำให้เด็กท้องเสียหรืออาหารเป็นพิษได้

ประเภทที่ห้า มลพิษจากสิ่งแวดล้อม ทั้งจากรถยนต์และสารพัดฝุ่นควันอันตรายจากสภาวะอากาศสังคมเมืองก็เป็นสาเหตุใหญ่ ที่ทำให้เด็กกินอาหารหน้าโรงเรียนแล้วเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ตามมามากมาย

ทั้งห้าประเภทเป็นอาหารหน้าโรงเรียนที่พบเห็นทุกวี่วัน และเด็กๆ ก็จะเรียกร้องขอกินทุกวี่วันเช่นกัน ในขณะที่พ่อแม่ ผู้ปกครองเองก็มักตามใจ เพราะกลัวลูกหิว ยอมตามใจลูก ทั้งที่รู้ว่าอาหารบางชนิดเป็นอันตราย แต่ก็ยังประมาทและยอมซื้อให้ลูกกิน

จริงอยู่วัยเด็กเป็นวัยสำคัญอย่างยิ่งที่ควรได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ และเป็นวัยที่กำลังเจริญเติบโต คนเป็นพ่อแม่ก็ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก ขณะเดียวกันหลังเลิกเรียนเด็กๆ ก็หิว ฉะนั้นถ้าพ่อแม่ตระหนักในเรื่องนี้ ก็ควรที่จะเตรียมอาหารให้ลูกน่าจะดีกว่า ถ้าเป็นแม่บ้านที่มารับลูกก็จัดเตรียมอาหารว่างติดมาให้ลูกเอง แต่ถ้าไม่มีเวลาเตรียม ก็อาจจะซื้อเป็นผลไม้ หรืออาหารว่างที่มีประโยชน์ให้กับลูก เป็นการฝึกให้ลูกกินอาหารที่มีประโยชน์ด้วย

ขณะเดียวกันโรงเรียนก็ควรมีมาตรการต่างๆ ในการช่วยเหลือนักเรียนและพ่อแม่ด้วย ควรมีมาตรการไม่ให้มีร้านค้าขายอาหารหน้าโรงเรียน เพราะเท่ากับเป็นการส่งเสริมเรื่องที่ไม่ถูก ไม่เหมาะสม และไม่เป็นประโยชน์ให้กับลูกศิษย์อีกต่างหาก

อย่าลืมว่าถ้าเด็กๆ เห็นร้านค้าหน้าโรงเรียนทุกวันจนเป็นเรื่องปกติ เขาก็จะเรียนรู้ว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ เป็นเรื่องที่เหมาะสม และเห็นว่าการส่งเสริมให้ร้านค้าเหล่านี้ขายของบนฟุตบาธหรือทางเท้าที่ผู้ปกครองต้องรับเด็กกลับบ้าน ยิ่งช่วงเวลาไหนคนเยอะๆ ก็ต้องถึงขนาดลงไปเดินบนถนนก็มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้งกลายเป็นเรื่องทำได้ซะงั้น

ฉะนั้น…รูปแบบชีวิตที่พ่อแม่ผู้ปกครอง ผู้ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินอยู่นั้น ได้ก่อร่างสร้างลูกให้เด็กเรียนรู้ รับรู้และเติบโตขึ้นไปแบบไหน อยู่ที่การออกแบบชีวิตด้วยค่ะ

แล้วเราคนเป็นพ่อแม่จะเป็นผู้หยิบยื่นภัยร้ายให้ลูกเองหรือ..!!!

nattanan39 · 4 กันยายน 2012

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ยูเอ็นจี้ประเทศผู้นำโลกหาทางป้องกันวิกฤตอาหารไม่ให้ซ้ำรอยปี 2007-2008</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>4 กันยายน 2555 20:00 น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=512><TBODY><TR><TD vAlign=top width=512 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สถานการณ์ความแห้งแล้งในสหรัฐฯ ส่งผลให้ราคาข้าวโพด และถั่วเหลืองพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี - สหประชาชาติเตือนถึงความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดวิกฤตการณ์ด้านอาหารซ้ำรอยเมื่อปี 2007-2008 พร้อมกับเรียกร้องให้ประเทศผู้นำของโลกดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันหายนะซึ่งจะส่งผลกระทบต่อคนหลายสิบล้าน

“สถานการณ์ในปัจจุบันในตลาดอาหารโลก ซึ่งราคาข้าวโพด ข้าวสาลี และถั่วเหลืองสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เพิ่มความกังวลว่าจะเกิดวิกฤตอาหารโลกเช่นเมื่อปี 2007-2008 อีกครั้ง” หน่วยงานด้านอาหารต่างๆ ของยูเอ็นระบุในถ้อยแถลง

“ทว่า มาตรการความร่วมมือระหว่างประเทศที่ฉับไวอาจหยุดยั้งไม่ให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นได้ เราจำเป็นต้องลงมืออย่างเร่งด่วนเพื่อให้แน่ใจว่าภาวะช็อกด้านราคาเหล่านี้จะไม่กลับมาเป็นหายนะทำร้ายผู้คนหลายสิบล้านคนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า” ถ้อยแถลงดังกล่าวเสริม

ทั้งนี้ มีความกังวลว่าสถานการณ์ความแห้งแล้งในสหรัฐฯ ซึ่งดันราคาเมล็ดพืชพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ อาจก่อให้เกิดวิกฤตอาหารขึ้นอีกครั้ง เช่นเดียวกับเมื่อปี 2007-2008 ที่ส่งผลให้จำนวนผู้อดอยากทั่วโลกสูงกว่าพันล้านคน

ในคำแถลงดังกล่าว ซึ่งออกโดยองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) หน่วยงานต่างๆ ของยูเอ็นแนะว่า ผู้นำโลกจะต้องร่วมกันแก้ปัญหาราคาอาหารพุ่งสูง ตลอดจนคำถามเรื่องการผลิต และบริโภคอาหารด้วย

อย่างไรก็ตาม รายงานดังกล่าวยังเตือนว่า ประเทศต่างๆ ไม่ควรตื่นตระหนกซื้ออาหารกักตุน หรือสั่งห้ามการส่งออก เนื่องจากนั่นสามารถช่วยเหลือผู้บริโภคภายในประเทศได้เพียงชั่วคราว แต่ไม่ประสิทธิภาพ และยังสร้างความลำบากให้แก่ผู้อื่นอีก

เอฟเอโอ ร่วมกับกองทุนระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาเกษตรกรรม (ไอเอฟเอดี) และโครงการอาหารโลก (ดับเบิลยูเอฟเอ) ยังแนะนำให้รัฐบาลต่างๆ พัฒนาทรัพยากรที่มีอยู่แล้วเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะช็อก และวิกฤตด้านอาหาร เช่น ความช่วยเหลือชาวนาชาวไร่รายย่อย ส่งเสริมโภชนาการแม่และเด็ก รวมถึงอาหารโรงเรียน

</TD></TR></TBODY></TABLE>

nattanan39 · 4 กันยายน 2012

วันที่ 04 กันยายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 22 ฉบับที่ 7950 ข่าวสดรายวัน

เตือนภัยโลกขาดน้ำ แนะกินผักแทนเนื้อ

<TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left><TBODY><TR><TD bgColor=#e0e0e0 vAlign=top align=middle>
</TD></TR></TBODY></TABLE>ภาวะขาดแคลนอาหารจะไม่ได้จำกัดวงอยู่แต่ในแถบประเทศยากจนอย่างแอฟริกา หรือประเทศคอมมิวนิสต์อย่างเกาหลีเหนืออีกต่อไป นักวิทยาศาสตร์ด้านน้ำชั้นนำของโลกเตือนว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะเลวร้ายและขยายวงกว้างไปทั่วโลกภายใน 40 ปีนี้ ถึงขั้นที่ประชากรโลกต้องหันมากินผักแทนเนื้อ

รายงานของมาลิก ฟอลเคนมาร์ก และคณะจากสถาบันน้ำนานาชาติสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ระบุว่า ประชากรโลกจะต้องเปลี่ยนวิถีการบริโภคมาเป็นมังสวิรัติภายในปี 2593 เนื่องจากภาวะขาดแคลนน้ำจะส่งผลกระทบต่อการผลิตอาหารป้อนประชากรโลกที่ขณะนั้นจะเพิ่มเป็น 9,000 ล้านคน

'มนุษย์ดำรงชีวิตอยู่โดยอาศัยโปรตีนจากเนื้อสัตว์ร้อยละ 20 แต่เมื่อประชากรโลกเพิ่มขึ้นอีก 2,000 ล้านคน อาจต้องบริโภคเนื้อสัตว์เหลือเพียงร้อยละ 5 จะมีน้ำไม่พอต่อการเพาะปลูกอาหารสำหรับคน 9,000 ล้านคน หากอัตราการเพาะปลูกและบริโภคยังเป็นอย่างในปัจจุบัน แต่จะเพียงพอถ้ามนุษย์ลดการบริโภคเนื้อสัตว์ลงเหลือร้อยละ 5 และพึ่งระบบการค้าอาหารเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ' รายงานจากสตอกโฮล์มระบุ <TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=right><TBODY><TR><TD bgColor=#e0e0e0 vAlign=top align=middle>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ขณะเดียวกันองค์การอ็อกซ์แฟมซึ่งเป็นองค์กรการกุศลด้านสิ่งแวดแล้มของอังกฤษและสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ต่างก็เตือนว่าโลกจะเกิดวิกฤตด้านอาหารภายใน 5 ปีข้างหน้า ซึ่งถือเป็นวิกฤตระลอกที่ 2 ต่อจากรอบแรกเมื่อปี 2551 ที่มีประเทศได้รับผลกระทบ 28 ประเทศ โดยขณะนี้ราคาข้าวโพดและข้าวสาลีในตลาดโลกเพิ่มขึ้นแล้วเกือบร้อยละ 50 จากเดือนมิ.ย. อันเป็นผลมาจากภาวะความแห้งแล้งอย่างรุนแรงในสหรัฐและรัสเซีย รวมถึงฤดูมรสุมที่พัดถล่มเอเชีย มีประชากรกว่า 18 ล้านคนกำลังเผชิญภาวะขาด แคลนอาหารขั้นรุนแรง

อ็อกซ์แฟมคาดการณ์ว่า ราคาอาหารแพงจะรุนแรงในประเทศกำลังพัฒนารวมถึงกลุ่มประเทศอเมริกาใต้ แอฟริกาเหนือและตะวันออกกลางที่ต้องหันไปพึ่งการนำเข้าอาหารปริมาณมาก

การหันมากินผักเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยลดปริมาณการใช้น้ำลงในสถานการณ์ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก เนื่องจากสัตว์ที่อุดมด้วยแหล่งโปรตีนใช้น้ำมากกว่าการปลูกผัก 5-10 เท่า นอกจากนี้ พื้นที่เพาะปลูก 1 ใน 3 ของโลกยังมีไว้เพื่อเลี้ยงสัตว์ หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือการกำจัดสิ่งปฏิกูลของเสียและเพิ่มการค้าด้านอาหารระหว่างประเทศที่มีอาหารล้นเหลือกับประเทศที่ขาดแคลน รายงานจากสตอก โฮล์มระบุอีกว่า ปัจจุบันมีประชากรหิวโหย 900 ล้านคนและอีก 2,000 ล้านคนขาดสารอาหาร

ด้านยูเอ็นแนะว่าโลกจะต้องเพิ่มการผลิตอาหารอีกร้อยละ 70 ซึ่งคงจะเพิ่มความตึงเครียดให้กับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำ นอกจากนี้ ยังจำเป็นต้องโอนถ่ายน้ำให้มากขึ้นเพื่อรองรับความต้องการพลังงานที่จะเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 60 ใน 30 ปีนี้ รวมทั้งการแบ่งจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับประชากร 1,300 ล้านคนที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้

ขณะที่รายงานจากสถาบันบริหารจัดการน้ำสากล (IWMI) ระบุว่า หนทางที่ดีที่สุดจากการช่วยเหลือเกษตรกรจากภาวะขาดแคลนอาหารที่เกิดขึ้นในกลุ่มประเทศแถบทะเลทรายซับซาฮาราและเอเชียใต้คือช่วยลงทุนเรื่องปั๊มน้ำและเทคโนโลยีพื้นฐาน ซึ่งดีกว่าลงทุนโครงการใหญ่ๆ ที่มีต้นทุนมหา ศาล

ดร.โคลิน ชาร์เทรส ผู้อำนวยการ IWMI กล่าวว่า 'เราสังเกตพบครั้งแล้วครั้งเล่าว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศยากจนของโลกคือประชากรส่วนใหญ่พึ่งเกษตรกรรมในการดำรงชีวิตและเผชิญปัญหาขาดแคลนน้ำ แต่เมื่อหันมาพึ่งพาเทคโนโลยีขนาดเล็กๆ พบว่าช่วยเพิ่มผลผลิตได้มากถึงร้อยละ 300 และภาพรวมพบว่าช่วยให้มีรายได้มากขึ้นเป็นหมื่นล้านดอลลาร์'

ทั้งนี้ รายงานสถาบันน้ำนานาชาติสตอกโฮล์มมีออกมาขณะเริ่มมีการประชุมประจำปีว่าด้วยเรื่องน้ำที่กรุงสตอกโฮล์ม ที่มีนักการเมือง เจ้าหน้าที่ยูเอ็นและนักวิจัย 2,500 คนจาก 120 ประเทศจะหารือกันถึงปัญหาเรื่องน้ำที่ประเทศสวีเดน

Falkman · 5 กันยายน 2012

<table style="FILTER: progidXImageTransform.Microsoft.Gradient(startColorStr=#C0FFFFCC, endColorStr=#10FFFFFF, gradientType=0)" cellpadding="0" cellspacing="0" width="98%"> <tbody><tr> <td class="c1" height="4" width="4">
</td> <td style="BORDER-TOP:gray 1px solid;" width="97%"> <table width="100%"><tbody><tr><td height="1">
</td></tr></tbody></table> </td> <td class="c2" width="4">
</td> </tr> <tr> <td colspan="3" style="BORDER-LEFT:gray 1px solid;BORDER-RIGHT:gray 1px solid;" align="center" width="100%"> [SIZE=+1]ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"ฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก" [/SIZE]
ฉบับที่ 20 ลงวันที่ 05 กันยายน 2555
</td> </tr> <tr> <td colspan="3" style="PADDING: 10px; BORDER-LEFT:gray 1px solid;BORDER-RIGHT:gray 1px solid;" align="left" width="100%"> ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนาม ซึ่งหย่อมความกดอากาศต่ำนี้มีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียง เหนือตอนล่าง และภาคกลาง ในระยะต่อไป ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมาก บางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและ พื้นที่ราบลุ่มของจังหวัดแพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี บุรีรัมย์ นครราชสีมา อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี นครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหล หลากต่อไปอีกจนถึงวันที่ 7 กันยายน 2555 นี้
ประกาศ ณ วันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 05.30 น.

</td> </tr> <tr> <td class="c3" height="4" width="4">
</td> <td style="BORDER-BOTTOM:gray 1px solid;" width="97%"> <table width="100%"><tbody><tr><td height="1">
</td></tr></tbody></table> </td> <td class="c4" width="4">
</td> </tr> </tbody></table>

Falkman · 5 กันยายน 2012

Falkman · 5 กันยายน 2012

<table style="color: rgb(34, 34, 34); font-family: arial, sans-serif; font-size: 13px; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: normal; letter-spacing: normal; line-height: normal; orphans: 2; text-indent: 0px; text-transform: none; white-space: normal; widows: 2; word-spacing: 0px; -webkit-text-size-adjust: auto; -webkit-text-stroke-width: 0px; background-color: rgb(245, 246, 244); " border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="100%"><tbody><tr><td colspan="2" style="margin: 0px; font-family: arial, sans-serif; " valign="top" width="100%">2012-09-05 03:00:18 - Volcano Eruption - Guatemala

</td></tr><tr><td colspan="2" style="margin: 0px; font-family: arial, sans-serif; " width="100%">
</td></tr><tr><td style="margin: 0px; font-family: arial, sans-serif; " valign="top"><table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td style="margin: 0px; font-family: arial, sans-serif; " width="25%">EDIS Code:</td><td style="margin: 0px; font-family: arial, sans-serif; ">VE-20120905-36451-GTM</td></tr><tr><td style="margin: 0px; font-family: arial, sans-serif; ">Date&Time:</td><td style="margin: 0px; font-family: arial, sans-serif; ">2012-09-05 03:00:18 [UTC]</td></tr><tr><td style="margin: 0px; font-family: arial, sans-serif; ">Continent:</td><td style="margin: 0px; font-family: arial, sans-serif; ">Central-America</td></tr><tr><td style="margin: 0px; font-family: arial, sans-serif; ">Country:</td><td style="margin: 0px; font-family: arial, sans-serif; ">Guatemala</td></tr><tr><td style="margin: 0px; font-family: arial, sans-serif; ">State/Prov.:</td><td style="margin: 0px; font-family: arial, sans-serif; ">Departmento de Sacatepéquez,</td></tr><tr><td style="margin: 0px; font-family: arial, sans-serif; ">Location:</td><td style="margin: 0px; font-family: arial, sans-serif; ">Volcan of Fuego,</td></tr><tr><td style="margin: 0px; font-family: arial, sans-serif; ">City:</td><td style="margin: 0px; font-family: arial, sans-serif; ">
</td></tr><tr><td colspan="2" style="margin: 0px; font-family: arial, sans-serif; ">Not confirmed information!
</td></tr></tbody></table></td><td style="margin: 0px; font-family: arial, sans-serif; " align="right" width="440"></td></tr><tr><td colspan="2" style="margin: 0px; font-family: arial, sans-serif; " valign="top">Description:</td></tr><tr><td colspan="2" style="margin: 0px; font-family: arial, sans-serif; " valign="top">The Fuego volcano in central Guatemala is continuing to erupt, shooting lava and columns of ash into the air, and causing concerns of a possible ash cloud that could halt flights in the area. The volcano overlooks the tourist city of Antigua and is one of central America's most active volcanoes. Lava flows of around 1000m are being spewed out down the west and east sides of the volcano. No evacuations have been ordered, but aviation authorities have been alerted about a potential ash cloud, and air traffic is expected to be hindered.
</td></tr></tbody></table>
ภูเขาไฟในกัวเตมาลาปะทุ พุ่งลาวาไปบนอากาศสูงประมาณ 1,000 เมตร และอาจส่งผลต่อการบิน

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

9อมตะ9 อมตะ

patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

J_man สมาชิก

Ajintai เป็นที่รู้จักกันดี

Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

Kingkong1 เป็นที่รู้จักกันดี

ไฟล์ที่แนบมา:

RIMG0190.JPG

nattanan39 เป็นที่รู้จักกันดี

nattanan39 เป็นที่รู้จักกันดี

nattanan39 เป็นที่รู้จักกันดี

nattanan39 เป็นที่รู้จักกันดี

nattanan39 เป็นที่รู้จักกันดี

nattanan39 เป็นที่รู้จักกันดี

nattanan39 เป็นที่รู้จักกันดี

nattanan39 เป็นที่รู้จักกันดี

Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

แชร์หน้านี้

แชร์หน้านี้

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

ไฟล์ที่แนบมา:

RIMG0190.JPG

แชร์หน้านี้

การค้นหาที่มีประโยชน์

ติดต่อเรา