จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. ลุงไชย

    ลุงไชย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +2,436
    ขอสอบถามพี่ภูว่า อาการที่จิตทรงฌานหูอื้อ(แต่ไม่ถึงกับดับ)อยู่ในฌานใด และต่อมาเมื่อจิตทรงฌาจนกายเบาสบาย โปร่งโล่งเบาไปหมด ลมหายใจก็เบาสบาย และอาการหูอื้อมาก(โน้มจิตพิจารณาธรรม หรือคิดเรื่องอื่นๆได้ง่าย) อยู่ในฌานใด (สามารถโน้มจิตให้เข้าฌานได้ง่าย เพียงแค่นึกถึงอาการเบาสบาย ก็สามารถเข้าฌานจนมีอาการดังกล่าวได้ทันที)...หลังจากต่อไปนี้ จิตเขาจะพัฒนาไปอย่างไรต่อครับ

    ขอบพระคุณมากครับ
     
  2. อภิญญา_Gna

    อภิญญา_Gna Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +34
    สวัสดีคุณครูทุกๆท่าน

    ฝึกจิตเกาะพระอยู่ค่ะ ไม่เห็นพระค่ะแต่มีความรู้สึกว่าพระอยู่กับเราตลอด
    ตัวปัญหาคือตัดสังโยชน์ไม่ได้หลายข้อมาก รัก โลภ โกรธ หลง ไม่ท้อที่จะฝึกค่ะ แต่ปัญหาตัวนี้จะวางอย่างไรดีค่ะ

    พยายามพิจารณา เวลาจิตไปคิดถึงอดีต พยายามดึงกลับมาปัจจุบัน บางครั้งทำได้ แต่บางครั้งหลงไปรับรู้อารมณ์ความรู้สึก เสียใจ น้อยใจ คับแค้นใจ (รวมแล้วคือตัวทุกข์) เรารู้ว่าทุกข์แต่ทำไมตัดไม่ได้วางไม่ได้ ต้องทำอย่างไรค่ะ จิตวนเวียนหาแต่คำตอบแห่งกองทุกข์นี้ ซ้ำแล้วซ้ำอีก หาคำตอบแห่งทุกข์ได้คือปล่อยวางแต่ทำไมเรายังยึดติดกับสิ่งเหล่านี้ปล่อยวางไม่ได้ค่ะ
     
  3. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    ลองอ่านของพี่หน่อยดูอีกรอบนะครับ แต่ถ้าจะลงรายละเอียดต้องมีครูนะครับ ถามหาครูเลยครับ ครูป้าเกดจ๋า ว่างไหม ประมาณนี้น่ะครับ อิๆๆๆๆๆๆๆ

    จิตเหนืออารมณ์ เป็นจิตโลกกุตตระ
    จิตโลกุตตระ เป็นจิตอนัตตา
    จิตอนัตตา เป็นจิตที่ว่างเปล่า
    เพราะฉะนั้นแล้ว กิเลส ทุกข์ สุข อารมณ์ต่างๆก็มีอยู่ที่ขันธ์๕ ทุกอย่าง
    เพียงแต่เฉยนิ่งรู้มีปัญญา หรือเป็นจิตที่ตื่น รู้ และเบิกบาน เท่านั้น
    เพราะจิตที่ฝึกฝนมาดีแล้ว ย่อมเป็นจิตที่ผ่านวิปัสสนามาแล้ว
    จนจิตเป็นวิปัสสนาญาณ หรือ ปัญษญาณ หรือ ญาณ
    สรุปรวมความว่า จิตมันรู้แล้ว รู้อะไร จิตเขาไปรับรู้ตามความเป็นจริงทั้งหมดแล้ว ในขณะที่สติยังตามไม่ทันจิต หรือผู้ที่ปฎิบัติงงๆและก็งงๆอยู่กันน่ะ
    จิตวิปัสสนาอัตโนมัดไปเรียบร้อย

    เราหรือสติเราไม่สามารถจะไปบังคับจิตให้เขารู้หรือไม่ให้รู้ หรือไม่มีอะไรไปบังคับจิตของตนเองได้ (จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว)
    สรุปแล้วจิตที่อยู่กับตนเองก็บังคับไม่ได้ หรือจิตผู้อื่นก็บังคับไม่ได้ เช่นเดียวกัน
    บางท่านบอกว่าเอาธรรมะเข้าข่มอันนี้ยิ่งเสียหายไปกันใหญ่ เพราะทำแบบนั้น
    จิตเขาก็ยิ่งแอนตี้หรือเกลียดเข้าไปใหญ่
    การปฎิบัติธรรม หรือ การเจริญสติภาวนานั้น เราเองก็จะต้องมองหาจุดความพอดีให้ดี
    แต่ถ้าเป็นรถก็ต้องศูนย์ถ่วงล้อ นั่นเอง
    ทำไปๆ เดี๋ยวก็รู้ เหมือนถามว่า เมื่อไหร่เราจึงจะมีปัญญษ หรือภูมิธรรม ภูมิปัญญามากแบบเขา หรือเห็นโน้นนี่เหมือนเขา หรือเมื่อไหร่จะได้อภิญญากับเขาบ้าง
    ไม่มีทางถ้าตราบเรายังคิด ยังอยากอยู่ เพราะนั่นกิเลสกำลังไปรบกวนจิตตนเองมิให้นิ่ง หรือเสมือนนิสวรณ์๕กำลังขวางกั้นการกระทำดี ผลก็คือ จิตจะไม่มีทางสงบ
    เมื่อจิตไม่สงบ จิตก็จะไม่นิ่ง ถ้าจิตไม่นิ่ง จิตก็ไม่ทรงฌานอย่างแน่นอน
    สำหรับปัญญษก็ไม่ต้องพูดถึง เพราะปัญญา(ทางธรรม)
    ที่แท้ก็อยู่หลัง คำว่า สมาธิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤศจิกายน 2012
  4. NOKMAM

    NOKMAM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +6,157
    [​IMG]

    ส้วมเคลื่อนที่

    ภายใต้หนังกำพร้าของคนเรามีแต่ความโสโครก น่าเกลียดน่าสะอิดสะเอียน
    มีอวัยวะภายใน เช่น ตับ ไต ไส้น้อย ไส้ใหญ่ กระเพาะ น้ำเลือด น้ำเหลือง
    น้ำหนอง น้ำดี อุจจาระ ปัสสาวะ เหงื่อไคล ขังอยู่ภายในร่างกายโดยมีหนังกำพร่าห่อหุ้มอยู่
    ถ้าลอกหนังออกจะเห็นร่างมีเลือดไหลโซมกาย เนื้อที่ปราศจากผิวหนังห่อหุ้มจะมองไม่เห็น
    ความสวยสดงดงามเลย มองแล้วอยากจะอาเจียนมากกว่าน่ารัก ที่พอจะมองเห็นว่าสวยงามก็ตรงผิวห
    นังห่อหุ้มเท่านั้น ผิวหนังนี้ก็ใช่ว่าจะเกลี้ยงเกลาเสมอไปไม่ คนเราต้องคอยอาบน้ำชำระล้างทุกวัน
    เพราะสิ่งโสโครกเหงื่อไคลภายในหลั่งไหลออกมาลบเลือนความผุดผ่องของผิวกายอยู่ตลอดวัน
    ถ้าไม่คอยชำระล้างก็จะสกปรกเหม็นสาบน่ารังเกียจ ทางช่องทวารขับถ่ายอุจจาระปัสสาวะ
    ก็หลั่งไหลออกมาตามกำหนดเวลาของมันทุกวัน น่ารังเกียจ เลอะเทอะโสมม
    ซึ่งเจ้าของไม่ปรารถนาจะแตะต้องทั้งๆ ที่เป็นของในกายของตัวเอง
    ยิ่งพิจารณาไปคนเราก็คือส้วมเคลื่อนที่ หรือป่าช้าที่บรรจุซากศพเคลื่อนที่ และเป็นผีเน่าที่เดินได้ดีๆ นี่เอง

    หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
     
  5. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    สวัสดีครับพระเอก
    แหม๊เล่นพี่ภูเกือบจะจำไม่ได้
    ฌาน๓ละเอียดกับฌาน๔หยาบ เป็นไง๊พี่ภูตอบถูกใจไหม
    แต่เมื่อไหร่อาการหูดับ ลมหายใจหาย(แต่จริงๆแล้วยังหายใจอยู่ปกติ) กาลเวลาไม่เข้ามาเกี่ยวข้อง(เวลาหาย) เวทนาสัญญาหาย
    ตังค์ไม่หาย ฮ่าๆอันนี้โม้
    พอทรงฌานปั๊บ คอยหมั่นวิปัสสนาหรือพิจารณาธรรมไปด้วย
    เพราะจิตในขณะทรงฌานอยู่นั้น เป็นจิตปราศจากกิเลสหรือกิเลสน้อยมากๆ
    จิตใกล้เข้าความว่าง ความละเอียด ขอใหหัดวิปัสสนาให้ชิน เหมือนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เวลาอายตนะเราไปรับอะไรมา หรือเมื่อมีสิ่งใดๆมากระทบจิต ขอให้ดูจิต(ตนเอง)ทันที อย่าได้หลงไปพิจารณาจิตผู้อื่น ผู้ที่เข้าถึงความละัเอียด ศีลก็จะละเอียดตามไปด้วย อคอยสังเกตให้ดี
    เวลาจิตทรงฌานไปแล้ว อย่าขี้เกียจ ให้นำจิตไปวิปัสสนาลงไตรลักษณ์ให้หมด มองเห็นความเกิดดับของจิตตนเองให้มาก ดับทุกข์ ดับกิเลส ก็ดับกันที่ตรงนี้ ที่จิต
    แต่ก่อนจะวิปัสสนาธรรมอันใด ขอให้เน้นใจเราสบายที่สุดก่อน ระวังอย่าพยายามไปขัดขืน หรือไปบังคับจิต มีผู้ปฎิบัติใหม่ๆไม่ค่อยจะเข้าใจจิตตนเอง จะคอยบังคับให้ได้เหมือนสามี(สำหรับผู้หญิง) อันนี้ผิดมหันต์ อันนี้จะต้องระวัง จิตใครจิตมัน

    ถ้าคุณคือรหัส ร้อยเอ็ด คอยหมั่นทรงฌานเป็นปกติ(ใครตาย ใครทุกข์ตรูไม่รุ๊ ข้าสุขลูกเดียว) ทรงพรหมวิหาร(ให้อภัยลูกเดียว) ทรงอิทธิบาท(ครูสอน) ทรงอารมณ์พระนิพพาน(ตายเมื่อไหร่เสร็จเรา นิพพานเอ๋ย) ระลึกถึงมรณานุสสติจนวันตาย
    อภิญญาไม่ต้องไปฝึก ขอให้จิตทรงฌาน นำจิตเข้าสู่ความส่าง เข้าให้ถึงความละเอียดแห่งจิตให้ได้ เดี๋ยวอภิญญาจะมาเอง โดยไม่ต้องไปฝึก สำหรับคำว่า จิตเกาะพระ บบ.ประกาศไปให้แล้ว ผู้ที่พยายามฝึกธาตุอินทรีย์ให้แก่กล้าเท่านั้น จึงจะมีจิตสัมผัสดั่งคนอื่นๆ

    (ใครสนใจขอให้ไปขอความแนะนำเพิ่มเติมจากคุณวิทย์ ท่านชำนาญการจิตเกาะพระ)

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 พฤศจิกายน 2012
  6. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    สวัสดีและยินดีต้อนรับ
    อันนี้ทำถูก แต่อาการจิตจะเห็นภาพพระหรือไม่เห็นภาพพระ ตรงนี้ผมเคยพูดไปแล้ว แต่จะพูดสั้น ก็คือ
    จิตมองไม่เห็นพระ มีอยู่ ๒ กรณี ได้แก่...
    ๑.สติยังมีไม่มาก จิตก็เลยไม่นิ่ง แสดงว่า ทำความเพียรอีก ทำไปๆ ทำลูกเดียว ไม่ใช่ให้นึกกันแค่ไม่กี่ครั้งแล้วจิตจะจำภาพพระกันได้นะ อันนั้นมันง่ายไป
    ๒.จิตทรงฌานสูง(ฌาน๓ละเอียดหรือบางท่านฌาน๔ละเอียด) อันนี้ผู้ปฎิบัติไม่ต้องไปตามหาภาพพระให้เสียเวลา เพราะสติ+จิต=๑ หรือจิตทรงฌานสูงไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องไปตามหาภาพพระให้เสียเวลา อันนี้แสดงว่า เลยปิติไปแล้ว จิตเกาะพระแนบแน่นไปแล้ว เราไม่ต้องไปนึกถึงพระกันแล้วนะ ขอให้รู้ว่าตนเองยังทรงฌานอยู่ไม่ จะรู้ได้อย่างไรว่า จิตไม่ได้ทรงแล้ว ดูลมหายใจก็ได้ หรือดูอารมณ์จิตไม่มีเบื่อ คำว่าทุกข์ไม่ปรากฎให้เห็นอันนี้ทรงฌษนต่ำ(ฌาน๑-๒) แต่ถ้าอาการหูอื้อ เกิดเสียงบริเวณหู ก็ปล่อยเขา อย่าสงสัย อยู่เฉย แค่สติตามดูจิตเขาไปเท่านั้นเอง ไม่ต้องไปทำอะไรกับ แต่ถ้าวันใดจิตมันเบื่อจับภาพพระ เราก็ตามใจเขานะ ไปดูหนัง ฟังเพลงก่อน พออารมณ์จิตดีแล้ว ก็ให้นึกถึงพระใหม่

    สังโยชน์เราจะมาตัดทันทีทันใด ให้ได้ดั่งใจไม่ได้หลอก แต่ถ้าตัดกันได้นะ วันนี้จะมีพระอรหันต์ขึ้นเป็นดอกเห็ด ทำไปนะะะะ
    ให้เธอปฎิบัตินำความสงสัย ไม่ใช่สงสัยนำการปฎิบัติ ทำไปๆลูกเดียวเป็นไหม๊ ยิ่งสงสัยก็ยิ่งจบช้า เวลาปฎิบัติธรรม พยายามทำตัวให้โง่ที่สุด แต่ไม่ถึวควายนะ ขอโทษนะพี่ภูจะตอบธรรมถึงกึ๊นถึงใจ
    เธอจะวางหรือละสังโยชน์กันได้ เธอต้องทำจิตทรงฌานและ จนกว่าจิตจะสอบผ่านการวิปัสสนา การปฎิบัตินั้นเราต้องนำจิตไปเรียน มิใช่เธอไปแทนจิตของเธอ เข้าใจนะ
    จเธอจะละสังโยชน์ได้ทุกข้อนั้น เธอจะต้องฝึกจิต โดยการนึกถึงพระแค่นี้เอง อย่างอื่นไม่ได้บอก ก็อย่าไปทำ
    อย่าดื้อ อย่าไปสงสัย อย่าไปรู้มาก วางให้หมด ถ้าจะทำจิตเกาะพระ ถามได้ สงสัยได้ แต่ขอให้ปฎิบัติไปก่อนแล้วมีอะไรค่อยถาม

    อ๊าว ไม่ทราบว่าเธอมีเทวดา เอ๊ย ครูประจำตัวหรือยัง? จิตเกาะพระนี้ปฎิบัติโดยไม่มีครูไม่ได้นะ ไม่มีทางทำได้ ผมรับประกัน ยกเว้น คุณคือ สัพพัญญู (พระพุทธเจ้า) เรียนรู้เองได้


    เธออย่าไปรำคาญจิตตนเองนะะะะ อย่าไปว่าจิตเขานะ มันเป็นนายเธอเลยนะเนี๊ย
    การปฎิบัติธรรม เราจะต้องสนใจจิตเราให้มากๆ อย่าไปดูจิตคนอื่น หรืออย่างอื่น มันจะเสียมรรคผล นิพพานก็อด
    ไม่เป็นไรนะ จิตฝึกยาก แต่ก็ต้องฝึกนะ นึกถึงพระลูกเดียว นึกไปจนกว่าภาพพระจะปรากฎขึ้นภายในจิตเขาเอง เราถึงจะเริ่มต้นนับหนึ่งทันที ถ้าจิตเกิดปิติ
    ไม่เป็นไร อย่าไปว่าตนเอง อย่าไปรำคาญจิตของตน จิตอยู่ที่เรา เราก็ต้องเข้าใจจิตตนเอง แล้วใครจะไปดูแลจิตดีเท่าเราไม่มีหรอก อย่าไปหวัง
    เหมือนอย่าไปฝากความสุขตนเองกับผู้อื่นเป็ฯต้น เพราะที่แท้สุขนิรันดร์นั้น มันก็อยู่ภายใน(จิต)ตนเอง
    วันนี้สติตามทันบ้างไม่ทันบ้าง
    แต่จะตามทันก็เมื่อจิตเธอนิ่งเมื่อนั้น

    เดี๋ยวจิตเกาะพระ กำลังสอนใให้ผู้ปฎิบัติสร้างสติตนเองเยอะๆก่อน จิตนิ่งเมื่อไหร่ เธอก็จะเริ่มเห็นจิตตนเองเมื่อนั้น
    จิตเป็นนาม เราไม่สามารถมองจิตด้วยตาเปล่า เพราะฉะนั้นเราจำเป็นจะต้องเอานามไปดูนาม นั่นก็คือ สติ
    ที่พวกเธอกำลังฝึกสติกันอยู่นี่ไง ที่เธอกำลังนึกถึงพระ นั่นหมายถึงเธอกำลังสร้างสติให้เกิดบ่อย ถี่ๆ นานๆ จิตถึงจะนิ่ง จิตคนเรานิ่งได้เมื่อไหร่
    อานิสงส์แรกที่เธอจะได้รีบก็คือ ความสุขเกิดขึ้นแล้ว

    ไปถามครูประจำตัวใหม่นะ ทำไมมาถามที่กระทู้ ไม่ทราบ ครูเธอไปไหนหมด?

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 พฤศจิกายน 2012
  7. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    พี่ภู ทราบแล้วเปลี่ยน
    ขอตัวหนังสือเดิม ตัวเล็กต้องพึ่งแว่นตา งิงิ
    สาธุค่ะ
     
  8. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    สวัสดีจ้าาาา พี่แนทคนจ๋วย ยินดีด้วยค่าที่ถึงเมืองไทยโดยปลอดภัยแล้ว ขอให้เที่ยวให้สนุกนะค่ะ ({)({)({)({)({)
     
  9. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    คู่รักคู่รส
    ผู้ชายคู่กับผู้หญิง
    คอฟฟี่เมทคู่กับกาแฟ

    เพราะฉะนั้นแล้ว "จิตเกาะพระ"
    โดยเฉพาะผู้ที่มาใหม่ หรือ ผู้ปฎิบัติใหม่นั้น จะต้องคอยหมั่นนึกถึงพระบ่อยๆ ถี่ๆ
    แต่ไม่ใช่นานๆ
    ผู้ปฎิบัติจะต้องคู่กับพระ(ระลึก/นึกถึง)
    สติคู่กับจิต(ตามดู ตามรู้จิต และด้วยใจเป็นกลาง)

    เพราะการนึกถึงพระ=การสร้างสติให้เกิดบ่อยๆถี่ๆเนืองๆ
    พอสติเกิดมากๆ=จิตก็จะนิ่ง
    พอจิตนิ่งนานๆ=สมาธิ หรือ จิตมีสมาธิมากๆ=ฌาน
    ฌานสูง(ฌาน๓ละเอียดเป็นอย่างต่ำ แต่ฌาน๔ละเอียดจะดีที่สุด)นานๆ อย่างต่อเนื่อง=จิตจะเข้าโหมดวิปัสสนาอัตโนมัติของจิตเขาเอง แค่สติตามดูห่างๆเท่านั้น ไว้คอยรายงานให้กับเรา(สติจะเป็นผู้รายงานความเคลื่อนไหวอาการหรืออารมณ์ของจิตให้กับเราภายนอก)
    จิตเจริญวิปัสสนาโดยอัตโนมัติ=จิตวิปัสสนาญาณ/ปัญญาญาณ หรือญาณ
    ครูจะรายงานผลอารมณ์จิตของผู้ปฎิบัติ=จิตยก (จิตบุญ)

    ปล.พวกเธออย่าไปสงสัยกันอีกนะ ว่าจิตบุญ=จิต(อรห)...
    ที่นี่ไม่สรรเสริญที่จะเรียกว่าตนเองคือ จิตอรหันต์ ไม่ต้องเรียก ไม่ต้องชื่อนามอันสมมุติ
    ผู็ปฎิบัติถึงจริงๆเท่านั้น จะต้องเป็นคนตอบให้กับตนเอง เมื่อตอบตนเองยังไม่ได้ แล้วก็ไม่ต้องไปตอบกับผู้อื่น เมื่อจบกิจแล้ว ก็อย่าไปฟังกับผู้ที่ยังไม่ปฎิบัติ ถึงพูดไปก็เปลื้องน้ำลายไปเปล่าๆ อและอย่าได้ไปเปรียบเทียบกับจิตผู้อื่นด้วย ว่าจิตเราละเอียดกว่าเขา แต่ถ้าใครไปเปรียบ นั่นก็แสดงว่าเรายังเลวอยู่
    แต่ถ้าจิตบุญไม่มีคนคบก็ให้คบกับจิตบุญด้วยกัน
    ส่วนจิตอรหันต์หรือไม่ ขอให้ดูที่อินทรีย์แก่กล้า?(สติปัญญา) จิตเข้าถึงความว่าง จิตความละเอียดมากน้อยเพียงใด ผู้ปฎิบัติเท่านั้นที่จะรู้ด้วยตนเอง
    (จบ)


     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 พฤศจิกายน 2012
  10. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745

    ย้อนไปกลับมาก็คงจะมาเขียนเรื่องเดิม
    ทำไมต้องเป็น จิตพร้อมหรือยัง เพื่อจะรับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น
    ทำไมต้องเป็น จิต ทำไมไม่เป็น กาย พร้อมหรือยัง
    อันนี้ให้ไปถามคนพิการขาหักประมาณนั้น กายเขาไม่พร้อม
    แต่เมื่อถึงเวลากิน หิว ไม่มีใครอยู่ช่วยพยูงพาไปโต๊ะอาหาร
    ที่มีอาหารวางรออยู่เลย นี่เขาจะนั่งมองอาหารที่อยู่บนโต๊ะ
    เหมือนหมามองเครื่องบินมั้ย คำตอบคือ ไม่มีทาง
    เขาจะต้องพยายามพาร่างที่ขาดซึ่งขาไปยังโต๊ะนั้นให้ได้
    นี่ไง กายไม่พร้อม แต่ใจมันถึงซะอย่าง จิตมันพร้อมที่
    จะไปให้ได้ อะไรก็ไม่สามารถขวางกั้นได้ ฉะนั้น จิตที่มี
    กำลังใจเต็มเปี่ยม คือจิตที่พร้อมแล้ว ที่จะรับ จะรอง
    จะพร้อมฝ่าฟัน จิตที่พร้อมจะต้องมี สติ เป็นตัวคอยตามอยู่เสมอ
    หากไม่มีสติเป็นนาวิเกเต้อร์คอยบอกทาง ก็ถือว่า จิตดวงนั้นๆ
    ยังไม่มีความพร้อมแม้แต่ จะลุกขึ้นมา ลืมตา อ้าปากได้
    ฉะนั้น จึงต้องมีการเตรียมจิตของเราให้พร้อมก่อน แล้วค่อย
    มาเตรียมกายทีหลัง(คือเตรียมสิ่งนอกตัว อาหารเสื้อผ้าฯลฯ)
    ไปฝึกซ่อมตัวถังให้รถแล่นได้ก่อนที่จะไปเสริมหลังคาเหล็กกัน
    ลูกเห็บยักษ์ดีกว่ามั้ย
    นี่ไง ถึงเป็นที่ไปที่มาของ จิตพร้อม?รับภัยพิบัติ[/SIZE]
     
  11. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    ??????????????????????????????????????????????????????
     
  12. ลุงไชย

    ลุงไชย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +2,436
    ขอบพระคุณมากครับ..สาธุ
     
  13. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=18nwYmb0WNA]บัวแล้งน้ำ - เรนโบว์ - YouTube[/ame]​
    ผันตนเองมาเป็นนักจัดดอกบัว เอ๊ย จัดเพลงดีกว่า
    เปลี่ยนบรรยากาศ
    เอาแต่ธรรมะะะะ เดี๋ยวตลาดวาย

    ปล.ขอชมครูดัชหน่อย ท่านตอบตรงประเด็นป๊ะเลย ท่านชอบทานก๊วยเตี๋ยวแห้ง ส่วนพี่ภูชอบก๊วยเตี๋ยวน้ำ ฮ่าๆ
     
  14. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=mcf6nvfMb7Q&feature=endscreen&NR=1]กำแพงบุญ - ไก่ พรรณนิภา - YouTube[/ame]
    เพลงนี้ขอมอบให้แก่คุณแม่เพ็ญ..อิอิ
     
  15. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    มิน่าหล่ะ ถึงว่าขนลุกอยู่ทั้งวัน ที่แท้ ท่านพี่ภู มา(แอบ)กล่าวขวัญถึงอยู่นี้เอง.5555:boo::boo::boo:
     
  16. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    5555+ ครูพี่เพ็ญแอบมีแซว หนูร้อนตัวเลยอะ ว่าจะไม่แสดงตนแล้วน่ะ แต่มันทนไม่ด้ายยยยย...555 ในที่นี้ใครจะเรียนนานเหมือนหนูเนี่ย จนครูวิทย์ยังแซวว่าเป็นเต่าเลย อิๆๆๆ:cool:
     
  17. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
     
  18. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    ครูวิทย์ค่ะ พี่เกษขอจองเพิ่มอีก 1 ที่นะค่ะ คือ คุณอ๊อด วีรพันธ์ เดิมหลิ่ม

    คนนี้เป็นสามีของลูกศิษย์ที่กำลังเรียนอยู่ที่แคนาดาค่ะ พี่เกษเลยเชื้อเชิญผ่านทางภรรยาให้ไปอบรมแทน...ไม่งงนะค่ะ 555
     
  19. เดือนห้า

    เดือนห้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +450
    เอ้า ใจเบาๆ ยกมือเบาๆ ขอไปสัมมนาด้วยค่ะ
    แต่เพิ่งตามอ่านกระทู้ไม่เท่าไหร่ ต้องเลือกครูฝึกเองด้วยใช่ไหมคะ
     
  20. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    พี่วิทย์ครับ จิตบุญน้องฟ้าก็confirmมานะครับ เหลือน้องหว้าคนเดียวครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...