พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    น่ากลัวนะ สมัยนี้ ทุกอย่างเลย
     
  2. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    เรียนคุณ sithiphong,คุณเพชร
    เมื่อวานนี้เวลา 13.41น.ผมได้ฝากเงินผ่านadm ktb bangna บัญชี 1890131288 จำนวนเงิน 2000บาท ทำบุญสร้างเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ตามที่ได้บูชาพระพิมพ์ไว้ส่วนนี้ ผมขออนุญาตชำระส่วนที่จองพระพิมพ์ใหม่กับคุณเพชรก่อน จะได้ไม่งงครับ ปัจจุบัน ณ.วันที่ 16กย50ผมมียอดเหลือคงค้างทั้งหมด จำนวน 12933บาทครับ
    ขอบคุณและโมทนาสาธุครับ
    nongnooo...
     
  3. ixy

    ixy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +486
    ระวังจะตกเป็นเหยื่อเขา นะครับ เป็นคนดีไม่มีใครว่า แต่ก็ต้องระวังอย่าให้โดนหลอก มีคนโดนหลอกให้โอนเงินไปต่างประเทศหลากหลายรูปแบบ บ้างก็ว่าัตัวเองรวยมาก ต้องการหย่ากับเมีย แต่โดนเมียยึดทรัพย์ ไม่มีเงินจ้างทนายทำเรื่องหย่า ถ้าใครช่วยได้จะแต่งงานด้วย หรือแบ่งสมบัติที่หย่ากับเมียให้คิดดูแล้วก็เป็นสิบๆล้าน ได้มีคนโอนไปให้อยู่2-3ราย มากที่สุดโอนไปให้ ถึง 6ล้านกว่าบาท อีกคนโดนไปล้านกว่าบาท เขาไม่ได้ขอให้โอนรวดเดียวครับ แต่ของวดแรกแค่ไม่กี่หมื่น แล้วก็จะทยอยขอเป็นระยะโดยบอกว่าใกล้เสร็จแล้ว สุดท้ายก็ติดต่อเขาไม่ได้ ตกเป็นข่าว titv รายการร่วมมือร่วมใจมาแล้ว เอาเงินคืนก็ไม่ได้ มันอยู่ต่างประเทศจะทำอะไรมันได้ ถ้าเจอประเภทที่ต้องโอนเงินไปให้ก่อนแบบนี้ระวังให้มากนะครับ อันนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องบูชาพระหรือทำบุญภายในเวปนะครับ อันหลังถ้ามาเพื่อการกุศลจริงๆขออนุโมทนากับทุกท่านด้วยครับ ถ้าไม่ใช่ก็คงอยู่เวปนี้ไม่ได้นาน เวปนี้ใครเชื่อว่าปกปิดความลับ(เรื่องโกหก)ได้มั่ง
     
  4. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    โมทนาบุญด้วยครับ ในที่สุด ๑ ใน ๒ องค์ของพระปัญจสิริ พิมพ์เก๋งจีนไตรโลกอุดร ก็อยู่ที่คุณ nongnooo นี่เอง อีกทั้งเป็นการสมทบทุนสร้างพระธาตุเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งด้วย...

    คุณ nongnooo ยังไม่ได้เลือกองค์พระที่ถูกจริตกับคุณเลยนะครับ จะจัดส่งให้ในวันพรุ่งนี้ และอย่าได้ขาดการ"ชำระหนี้สงฆ์"ที่เคยได้ post บอกไปบ้างแล้วนะครับ
     
  5. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ขอบคุณครับคุณ เพชร ขอความกรุณาช่วยเลือกให้ผมแทนด้วยครับ ปกติพระพิมพ์ที่ผมเลือกมักจะมีประจุไฟเข้ามาในมือผมมากกว่าอีกองค์ครับ ผมเชื่อว่าคุณเพชรเลือกให้นั่นคือ องค์ที่ท่านรับนิมนต์มาอยู่กับผมครับ
    nongnooo...
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo [​IMG]
    ว่าแต่ไม่มีใครจองพระพิมพ์คุณเพชรหรือครับ งั้น ผมขอจองนะครับ 1องค์
    nongnooo...
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    โมทนาสาธุครับ
    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat colSpan=2>ข้อความส่วนตัว: จริงหรือหลอก</TD></TR></TBODY></TABLE><!-- post # --><TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-RIGHT-WIDTH: 0px"><!-- status icon and date -->[​IMG] วันนี้, 11:45 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT-WIDTH: 0px; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right></TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid" width=175>thanyaka<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 11:45 AM
    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 239 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 560 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 989 ครั้ง ใน 208 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 136 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->จริงหรือหลอก

    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->From Khalid Mahmoud‏

    From: Mr.khalid mahmoud. (astoncontact@eircom.net)
    Sent: Thursday, August 30, 2007 5:10:20 PM
    Reply-to: khalidmahmoudk@yahoo.com.hk
    To: info@khalid.co.uk


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=dMessageBodyLeftPlaceHolder>

    </TD><TD class=dPlainTextMessageBody id=tdMessageBody><TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD class=ExternalClass>

    I am khalid mahmoud, A Bahrain national I have been diagnosed with Oesophageal cancer .It has defiled all
    forms of medical treatment, and right now I have only about a few months to live.I am very rich,but was never generous, I have given most of my assets to my immediate family members. I have decided to give alms to charity organizations.I cannot do this myself anymore because of my health.I once asked members of my family to give some money to charity organizations,they refused and kept the
    money.I have a huge cash deposit of Eighteen Million
    dollars with a finance House abroad. I will want you to help me collect this deposit and dispatch it to charity organizations.You will take out 20% of this funds for your assistance.DO REPLY ME VIA MY PRIVATE EMAIL(khalidmahmoudk@yahoo.com.hk) TO ASSIST ME.


    -----------------------------------------------------------------
    ดิฉันได้รับe-mail หลายวันก่อนแต่ก็ไม่ได้ติดต่อไปเพราะ ตอนนี้เค้าน่าสงสารแต่ถ้าเราเชื่อและโลภเราก็จะน่าสงสารยิ่งกว่า ก็เลยอยากแจ้งเตือนอาจจะมีผู้ที่ได้รับเหมือนดิฉัน เพราะเคยเห็นคุณช่วยเตือนภัยต่างๆดิฉันก็ได้ความรู้ตรงนี้หลายอย่าง



    </PRE>
    แล้วแต่ว่าคุณจะช่วยเตือนวิธีไหนก็ตามสะดวกนะคะ


    </PRE>
    อนุโมทนาค่ะ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></P>
    ผมลืมไปแล้วครับ ว่าจะเตือนอยู่เหมือนกัน

    เหตุที่คนเรามักจะหลงลืมกันไปว่า ความโลภเป็นสิ่งที่น่ากลัว อันตรายอย่างยิ่ง พวกมิจฉาชีพจึงมักจะนำสิ่งนี้มาเป็นเครื่องมือ ให้เราโอนเงินไปให้พวกมันก่อน อย่าว่าแต่ในต่างประเทศเลยครับ ในประเทศไทยเราก็มีพวกนี้เยอะ ดังนั้น ต้องช่วยๆกันเป็นหูเป็นตา ช่วยกันเตือน อย่าลืมตนเองก็เตือนตนด้วยเรื่องของความโลภ

    ส่วนพวก Fwd Mail ก็เหมือนกัน เมื่อก่อนผมชอบ Fwd Mail มาก แต่เดี๋ยวนี้ไม่เคยเลย ผมเคยได้รับเรื่องมา แล้วลองตรวจสอบดู ปรากฎว่าก็ไม่ใช่เรื่องที่Fwd Mail มาเหมือนกัน จึงต้องดูกันดีๆ ดูกันให้ถี่ถ้วน

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo [​IMG]
    ขอบคุณครับคุณ เพชร ขอความกรุณาช่วยเลือกให้ผมแทนด้วยครับ ปกติพระพิมพ์ที่ผมเลือกมักจะมีประจุไฟเข้ามาในมือผมมากกว่าอีกองค์ครับ ผมเชื่อว่าคุณเพชรเลือกให้นั่นคือ องค์ที่ท่านรับนิมนต์มาอยู่กับผมครับ
    nongnooo...
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ผมเคยพูดไว้ว่า คณะของเรานี้จะบอกว่า ไม่ธรรมดา มีผู้ที่เก่งหลายๆเรื่อง เช่น การดูดวง (ดูหมอ) ก็มีคนเก่งอยู่ในคณะเราถึง 2 คน มาแอบบอกกันเท่านี้ก่อนครับ

    (verygood) (verygood)

    (bb-flower (bb-flower
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.thairath.co.th/news.php?section=specialsunday07&content=61206

    <TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">แบ่งเพื่อนกับแฟน ออกจากกันได้ไง? [16 ก.ย. 50 - 21:03]
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]เวลาคุณมีแฟน ถามจริงว่า เคยปวดหัวเรื่องแบ่งเวลาไปสุงสิงกับเพื่อนมะ? เพราะมีหลายคนตอนยังไม่มีแฟนล่ะก็ สนิทกับเพื่อนเหลือเกิน แต่พอมีแฟนสิ ทีนี้ล่ะ แทบไม่มีเพื่อนอยู่ในหัว วันๆเอาแต่ คิดถึงแฟน แถมมีเวลาว่างเมื่อไหร่ เป็นต้องปรี่ไปหาแฟนก่อนเพื่อนทู้กที
    ซึ่งเรื่องนี้ จะติกัน (ว่า บัดซบ อู้ย แรงไปเนอะ) คงพูดไม่ได้เต็มปาก เพราะใครก็ตามพอมีแฟนแล้ว แถมเป็นช่วงที่เพิ่งมีด้วยละก็ มักให้ความสำคัญกับแฟนเป็นอันดับแรกแซงหน้าเพื่อนทั้งนั้น ก็โห รสสัมผัสจากแฟนน่ะ ดื่มด่ำแตกต่างไปจากรสสัมผัสของเพื่อนนี่หว่า เชอะ อยู่กับเพื่อนแล้วจะเสียวสยิวและเสียวสะท้านได้ไงยะ ไฟรักจะสปาร์กเพราะอยู่กะแฟนนี่แหละ
    จึงชวนคุยเรื่อง เพื่อนกับแฟน คงมันพิลึกว่า คนเรามีทรรศนะเกี่ยวกับแฟนและเพื่อนยังไง? ถึงไงมนุษย์ย่อมมีทั้งแฟนและเพื่อนผ่านเข้ามาในชีวิตกันอยู่แล้ว แม้ผู้ที่บอกอยากอยู่เป็นโสด ยังไม่แคล้วมีแฟนเก่าเป็นโหลแหงแก๋ แต่อาจมีผู้ยกมือแย้งก็ได้ว่า หนูไม่เคยมีแฟนหรอกค่ะ เพราะมีแต่กิ๊กและก๊อกตลอด โถ...น้องจ๋า ไม่ว่าแฟนหรือกิ๊ก จะเรียกไงก็ช่าง ความหมายก็อย่างเดียวกันล่ะวะ
    เมื่อทั้งเพื่อนและแฟนต่างมีความสำคัญจริงมะ งั้นคุณจะแบ่งภาคไปคบทั้งเพื่อนและแฟนพร้อมๆกันได้เรอะ? เอางี้ดิ่ มาเป็นแฟนที่ดีของแฟน และเป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อน ด้วยการ...
    1. ในเมื่อต้องมีทั้งเพื่อนและแฟน เพราะไม่อยากทิ้งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไว้ข้างหลัง แถมคุณไม่อยากให้เพื่อนตั้งแง่เกิดอาการอยากหาเรื่อง เอ้ย....แค่ สงสัยปนน้อยใจว่า แหม พอมีแฟนแล้วก็หายไปเลยนะละก็ ทางออกที่เหมาะสมก็คือ คุณควรแนะนำแฟนให้เพื่อนในกลุ่มรู้จักซะดีๆ
    ไม่ใช่แบ่งแฟนไปทาง เพื่อนไปอีกทาง โดยไม่ให้พวกเขาได้ข้องเกี่ยวกันเลย ก็ทะแม่งๆอยู่นะ ยกเว้นคุณยังทำเป็นโยกโย้อยู่นั่นแหละว่า ยังไม่มีแฟ้น ยังไม่มีแฟน แต่ไปเดินควงกันตามงานต่างๆจนเพื่อนแอบเห็นมาแล้ว ปัดโธ่ ทำเป็นเล่นตัวแบบดารานักร้องที่ไม่ยอมรับความจริงไปได้ งั้น ถ้าพร้อมอยากชวนแฟนมาให้เพื่อนรู้จักเมื่อไหร่ค่อยทำละกัน ของอย่างนี้ไม่อยากบีบคั้นในเรื่องเวลากันร้อก หากไม่มั่นใจ จะชะลอไว้ก่อนก็ได้ เพราะเพื่อนน่ะ พร้อมที่จะทับถม, เยาะเย้ย และถากถางยามเพื่อนอกหักอยู่แร้น....แต่นี่พูดเล่นนะ เพราะไม่มีเพื่อนแท้ที่ไหนเค้าทำหยั่งงี้กันหรอก แต่อาจแซว กันมั่งมีแน่ๆ หนีไม่พ้นหรอกน้อง ดันมีเพื่อนดี๊ ดีก็เงียะ
    2. แล้วถ้ามีแฟนเป็นคนที่อยู่ในก๊วนเพื่อนกลุ่มเดียวกันเองละ
    อิ อิ ทอดสะพานให้คนอื่นมาเป็นแฟนไม่ได้แล้วเรอะ ถึงได้จับคู่อยู่ในกลุ่มเดียวกันเองหยั่งงี้...อุ้ย นี่แค่แซวเล่นๆนะตัว เพราะไม่สำคัญหรอกว่า แฟนของคุณจะเป็นใครมาจากไหน? ลองพรหมลิขิตเสกให้เป็นแฟนกันแล้ว ถึงไงก็ไม่แคล้วต้องจับคู่จู๋จี๋กันจนได้ แต่เพื่อนคนอื่นๆในกลุ่มสิ ถ้าไม่แปลกใจก็คงนินทากันแหงๆ แต่บางทีอาจแค่ขำๆ ด้วยความเอ็นดูก็ได้นะ ว่าในที่สุดก็มาลงเอยกันจนได้ แล้วพูดก็พูด สังเกตไหมว่า ใครที่มีแฟนมักอยากให้แฟนเป็น “เพื่อน” หรือเข้าขั้น “เพื่อนสนิท” แฮะ เอ้าไม่ดีเหรอ ถ้าเราสามารถคุยกับแฟนได้ทุกเรื่อง, ถามได้ทุกอย่าง ส่วนจะได้คำตอบที่น่ารักหรือน่าตื้บก็แล้วแต่นิสัยของผู้เป็นแฟนอ่ะ ว่ากวนทีนแค่ไหน นอกจากนี้ ถ้าแฟนที่เป็นเพื่อนยังพึ่งพาอาศัยกันได้ซะด้วย แล้วไม่จ๊าบตรงไหนฮ้า จึงขออวยพรให้สมปรารถนาทุกคนเลย เพี้ยง
    3. อย่าไปสนคนที่เพื่อนของคุณก็อยากฉกเค้ามาเป็นแฟนเหมือนกันเลย
    เพราะเรื่องนี้สร้างความแตกแยกให้กับเพื่อนทั้งหลายมานักต่อนักแล้วอ่ะดิ่ ไอ้ใจตรงกันน่ะ ไม่มีใครเถียงหรอก ว่าเกิดขึ้นไม่ได้ ของพรรค์นี้เป็นเรื่องธรรมชาติจะตาย แต่ถ้าไม่อยากผิดใจกับเพื่อนซี้ เพราะต้องตบตีแย่งชิงคนคนเดียวกันมาเป็นแฟนละก็ หากเป็นไปได้ ขอให้ถอยฉากออกมาซะเถอะ เพื่อเห็นแก่มิตรภาพที่เคยมีต่อกัน ก็อย่าเสียดงเสียดายใครคนนั้นอยู่เลย ไปมองหา “ใครที่น่ารักกว่า” เอาดาบหน้าเหอะ นี่ไม่ได้ เชียร์ให้เป็นแม่พระอะไรหรอกนะ เพราะรู้ว่าไม่ได้เป็นกันอยู่แล้ว อ้าวเฮ้ย...หลุดปากไปได้ไงเนี่ย แค่อยากบอกว่า ถ้าเกิดไปชอบคนคนเดียวกับที่เพื่อนเราเองก็สนด้วย หากเสียสละกันได้ ก็ยกให้เพื่อนไปเหอะ แม้ในใจอาจรู้สึกว่า เค้าไม่ใช่สิ่งของที่จะยกให้เพื่อนกันง่ายๆซะหน่อย แต่เมอร์ลินเชื่อมือคุณนะ ว่าไม่สิ้นไร้ไม้ตอกถ้าจะหาแฟนที่ดีกว่า หรือแฟนที่ดีเท่ากับคนคนนั้นได้อีกแล้ว ในเมื่อโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน แล้วจะรู้ได้ไงว่า คนที่คุณหวังไม่มีอยู่จริง ต้องเข้าข้างตัวเองไว้ก่อนเด๊ะ เดี๋ยวเจอเองแหละ
    4. โยงมาจากข้อที่ 3 นั่นแหละ จำไว้ว่าอย่าไปตอแยกับแฟนของเพื่อนเชียว
    เพราะแฟนของใครของใครก็หวงน่ะซี ดังนั้น อย่าสะดิ้งไปแตะต้องคนมีเจ้าของเข้าล่ะ นี่คนละเรื่องกับกรณีไปหลงชอบคนคนเดียวกันแล้วนะ แต่เป็นแฟนตัวจริงเสียงแท้ที่เพื่อนมีอยู่แล้วต่างหาก ถ้าคุณรู้ว่าสองคนนี้เป็นแฟนกันแล้ว แค่เพียงรู้จักแฟนของเพื่อนไว้น่ะได้ แต่ไม่ควรไปคลุกคลีหรือทำเป็นซี้กันสุดขีดกับแฟนของเพื่อนเชียว ถึงแม้เค้าจะเสนอหน้า (ด้านๆ) มากระแซะคุณก่อนเองก็เถอะ เพราะไม่รู้นี่ว่า เค้าต้องการอะไรกันแน่ อยากเป็นเพื่อนหรืออยากแหกคอกมาจีบเราว้า ดังนั้น เพื่อความชัวร์ คุณบอกปัดเค้าไปซะเลย โดยไม่ต้องรั้งรอ และไม่เกรงใจดีกว่า อย่าลืมนะโว้ย แฟนเพื่อนน่ะ ใครห้ามแตะ อยู่ ให้ห่างเข้าไว้ปลอดภัยกว่า ชิ้ว ชิ้ว
    5. อย่าฉอเลาะกับแฟน ต่อหน้าเพื่อนจนเกินงาม ไม่ใช่ไม่อยากดูนะ แต่ขณะเดียวกันก็น่าหมั่นไส้ เอ้ย น่าอิจฉาด้วย จะไปลูบไล้ หรือแสดงความหวานแหวว ก็ไปทำกันในที่มิดชิดซะเถอะ อย่ามาทำสวีท หรือหยอกเอินกันในที่สาธารณะบ่อยๆเลย แค่มีแฟนตัดหน้าไปก่อน เพื่อนๆก็ตาร้อนฉ่ากันเป็นแถวแล้วนะฮ้า.
    @@@.​
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ฉลาดทำใจในยามรับรู้ข่าวสาร

    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->http://matichon.co.th/matichon/matic...sectionid=0121

    วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10781​

    ฉลาดทำใจในยามรับรู้ข่าวสาร

    คอลัมน์ มองอย่างพุทธ

    โดย พระไพศาล วิสาโล



    ทุกวันนี้ข่าวสารจากสื่อต่างๆ ได้กลายเป็นสิ่งแวดล้อมที่มีอิทธิพลต่อความรู้สึกนึกคิดของเรามาก เราจะสุขหรือทุกข์ แจ่มใสหรือหดหู่ ขึ้นอยู่กับข่าวสารที่ได้รับมิใช่น้อย โดยเฉพาะข่าวสารที่ถูกต่อเติมเสริมแต่งให้คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ในการรับรู้ข่าวสาร การรู้จักกลั่นกรองแยกแยะความจริงกับความเท็จจึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก คำสอนของพระพุทธเจ้าในกาลามสูตร เป็นข้อเตือนใจได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะข้อที่ว่า อย่าปลงใจเชื่อด้วยการฟังตามกันมาหรือเพราะการอนุมาน หรือเพราะเข้าได้กับความคิดของเรา

    อย่างไรก็ตาม แม้แน่ใจว่าข้อมูลข่าวสารที่ได้รับเป็นความจริง เราก็ควรวางใจให้ถูกต้อง โดยเฉพาะเมื่อรับรู้ข่าวคราวที่ไม่สู้ดี นอกจากเพื่อป้องกันมิให้สร้างอกุศลจิตหรือความทุกข์แก่เราแล้ว ยังเพื่อน้อมใจให้เป็นกุศล อีกทั้งเพื่อเสริมสร้างสติปัญญาในการดำเนินชีวิตและการเกื้อกูลส่วนรวม

    1.อุบัติเหตุร้ายแรง

    อุบัติเหตุมิใช่เรื่องน่ายินดีหรือน่ามุงดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น แม้จะเกิดกับคนที่เราไม่รู้จัก ก็ควรที่จะเห็นอกเห็นใจเขาและครอบครัวของเขา ลองเอาใจเขามาใส่ใจเราว่า หากเกิดกับคนที่เรารักหรือญาติพี่น้องของเรา เราจะรู้สึกอย่างไร

    หากเขาประสบเหตุถึงแก่ชีวิต ควรแผ่เมตตาให้เขาได้ไปสู่สุคติ ในฐานะเพื่อนมนุษย์อย่างน้อยนี้คือสิ่งหนึ่งที่เราสามารถทำได้

    ขณะเดียวกันควรเอาเหตุการณ์ดังกล่าวมาเป็นเครื่องเตือนใจมิให้ประมาท รวมทั้งเป็นกรณีศึกษาว่า มีความผิดพลาดหรือข้อบกพร่องอะไรบ้างที่เราสามารถเรียนรู้จากเหตุดังกล่าวเพื่อป้องกันมิให้เกิดขึ้นกับตัวเองและครอบครัวของเรา

    ลองโยงให้ใกล้ตัวอีกนิดว่า หากเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นกับญาติพี่น้องของเราในวันข้างหน้า เราจะทำอย่างไร เตรียมตัวเตรียมใจรับมือเหตุการณ์ดังกล่าวบ้างหรือยัง และหากเขาต้องจากไปอย่างกะทันหันเช่นนั้น เราคิดว่าเราได้ทำดีที่สุดกับเขาในขณะที่เขายังมีชีวิตแล้วหรือไม่ คนเป็นจำนวนไม่น้อยปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปโดยเปล่าประโยชน์ จนเมื่อคนรักจากไปอย่างกะทันหันเพราะอุบัติเหตุ ถึงมาได้คิดและนึกเสียใจที่ไม่ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ให้กับเขาเมื่อเขายังมีชีวิตอยู่

    ทีนี้ลองพิจารณาต่อไปว่า หากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับเราเอง เราจะทำอย่างไร เตรียมตัวเตรียมใจแค่ไหนแล้ว หากมีอันถึงกับชีวิต เราพร้อมจะไปหรือไม่ หรือยังเป็นห่วงอะไรอีกมากมายที่ยังคั่งค้างอยู่ ควรใช้ข่าวคราวเหล่านี้เป็นเครื่องเตือนใจให้เร่งทำสิ่งสำคัญสำหรับตัวเองและผู้อื่นขณะที่ยังมีเวลา จนไม่มีอะไรค้างคาอีก จะได้พร้อมจากไปทุกเมื่อ

    อย่านึกว่าอุบัติเหตุเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นกับเรา การคิดเช่นนั้นนับว่าเป็นความประมาทอย่างหนึ่ง

    2.ฆาตกรรม

    เช่นเดียวกับกรณีอุบัติเหตุ เมื่อมีคนถูกฆาตกรรม ควรนึกถึงความทุกข์ของเขาและครอบครัวของเขา ไม่ควรเอาความตายของเขามาเป็นเครื่องตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นของเรา การตายในลักษณะนั้นเป็นความทุกข์อย่างยิ่ง ควรที่เราจะแผ่เมตตาให้เขาได้ไปสู่สุคติ

    อย่าให้ข่าวคราวดังกล่าวเพิ่มความโกรธแค้นให้เรา โดยเฉพาะเมื่อผู้ตายเป็นคนบริสุทธิ์ การด่วนตัดสินผู้ที่เป็นฆาตกร มีแต่จะทำให้เราเกิดความโกรธแค้นชิงชัง ควรถามก่อนว่า ทำไมเขาจึงทำเช่นนั้น เขามีภูมิหลังหรือถูกบีบคั้นอย่างไรจึงทำกรรมอันร้ายแรงเช่นนั้น บางทีเรา

    อาจจะพบว่าเขาเองก็เป็นเหยื่อของความรุนแรงมาก่อน คำถามเช่นนี้จะช่วยให้เราเห็นความจริงในมุมมองที่กว้างขึ้น

    หากผู้ตายได้ชื่อว่า เป็นโจร หรือผู้ก่อการร้าย ควรตั้งคำถามก่อนว่า เขาเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา หากไม่แน่ใจหรือมีข้อมูลไม่พอ ก็ไม่ควรด่วนสรุป เพราะบางครั้งคนบริสุทธิ์ก็ถูกป้ายสีเพื่อทำให้การฆาตกรรมมีความชอบธรรมมากขึ้น หาไม่ก็เป็นการปรุงแต่งของสื่อเพื่อให้มีสีสันน่าสนใจมากขึ้น

    แต่ถึงแม้ผู้ตายเป็นโจรหรือผู้ก่อการร้าย ก็มิใช่เป็นเรื่องน่ายินดี เพราะทุกชีวิตมีคุณค่าและสามารถหวนกลับสู่หนทางแห่งความดีได้เสมอ การที่เขาต้องจบชีวิตลงอย่างกะทันหัน ทำให้หมดโอกาสที่จะทำคุณงามความดีเพื่อทดแทนความผิดพลาด แต่หากทำใจสงสารเขาได้ยาก อย่างน้อยก็ควรนึกถึงหัวอกของญาติพี่น้องหรือครอบครัวของเขา ความทุกข์ยากเดือดร้อนของคนเหล่านั้นเป็นสิ่งที่เราสมควรให้ความเห็นใจ เพราะบางคนอาจยังมีลูกน้อยหรือมีพ่อแม่ที่กำลังเจ็บป่วยซึ่งต้องการการดูแล

    หากยังเห็นใจได้ยาก ก็อย่าถึงกับยินดีปรีดาที่เขาตาย เพราะจะทำให้จิตใจเราแข็งกระด้างมากขึ้น ถ้าวันนี้เรายินดีที่ผู้ร้ายตาย วันหน้าอาจรู้สึกเฉยชาที่คนธรรมดาถูกฆ่า เมตตากรุณานั้นเป็นเครื่องชี้วัดความเป็นมนุษย์ หากเมตตากรุณาลดน้อยถอยลง ความเป็นมนุษย์ของเราก็เสื่อมถอยตามไปด้วย อย่าบั่นทอนความเป็นมนุษย์ของเราด้วยการยินดีในความตายของใคร หรือด้วยการเคียดแค้นพยาบาทใครเลย

    3.ภัยพิบัติ

    ชีวิตทุกชีวิตเป็นสิ่งมีค่า เพราะสามารถทำความดีและสร้างสรรค์ประโยชน์ได้มากมาย เมื่อมีใครต้องตายก่อนวัยอันควร จึงเป็นสิ่งที่น่าเสียดายและน่าเสียใจแทนเขาและครอบครัวของเขา ควรแผ่เมตตาให้เขาได้ไปสู่สุคติ โดยไม่เลือกว่าเป็นใคร แม้จะต่างเชื้อชาติ ภาษา ศาสนา กับเราก็ตาม

    โลกาภิวัตน์ทางด้านข่าวสารทำให้เรารับรู้ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทั่วทั้งโลกได้อย่างรวดเร็วและถี่กว่าแต่ก่อน เรียกได้ว่ารับรู้แทบทุกวัน ไม่ว่าน้ำท่วม ดินถล่ม ลมพายุ แผ่นดินไหว ตลอดจนความอดอยากแห้งแล้ง และภัยก่อการร้าย ซึ่งแต่ละครั้งคร่าชีวิตผู้คนนับร้อย ขณะเดียวกันภัยบางอย่างที่ดูเหมือนไกลก็กลับกลายเป็นเรื่องใกล้ตัว เช่น สึนามิ

    ข่าวสารดังกล่าวทำให้ผู้คนจำนวนมากเกิดความตื่นตระหนก เต็มไปด้วยความวิตกกังวล จนอยู่ไม่เป็นสุข โดยเฉพาะเมื่อมีหลักฐานยืนยันหนักแน่นขึ้นเรื่อยๆ ว่า ปรากฏการณ์เรือนกระจกเป็นเรื่องจริง และกำลังก่อผลทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ หาใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปไม่ อย่างไรก็ตาม ถ้าพิจารณาให้ดีจะพบว่า ผู้คนส่วนใหญ่ทุกข์เพราะไปกังวลกับอนาคตมากเกินไป มัววิตกกับเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น จะเป็นการดีกว่าหากเราหันมาใส่ใจอยู่กับปัจจุบัน และทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ด้วยการเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมรับมือกับเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างดีที่สุด ขณะเดียวกันก็ควรร่วมกันหาทางป้องกันมิให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหากอยู่ในวิสัยที่จะทำได้ หรือช่วยกันบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดกับส่วนรวมให้มากที่สุด

    อ่านข่าวแล้วอย่าลืมกลับมาเทียบเคียงกับตัวเอง ใช่หรือไม่ว่าความทุกข์ยากของผู้ประสบภัยเหล่านั้น กำลังบอกเราว่า เรายังโชคดีกว่าเขามาก ถึงแม้คุณจะประสบปัญหาหลายอย่างในชีวิต เช่น อกหัก ถูกต่อว่า รูปร่างไม่สวย เงินเดือนน้อย ฯลฯ แต่คุณก็ยังกินอิ่ม นอนอุ่น ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า ไม่ต้องพลัดที่นาคาที่อยู่ มิใช่หรือ จึงน่าจะพอใจและเห็นคุณค่าของชีวิตที่เป็นอยู่ อย่างน้อยคุณก็ยังสบายกว่าคนอีกมากมายในเวลานี้

    เมื่อตระหนักแล้วว่าคุณสบายกว่าผู้ประสบภัยเพียงใด ควรคิดหาหนทางที่จะช่วยบรรเทาทุกข์ของเขาเหล่านั้น เช่น บริจาคเงินส่งไปให้แก่เขาผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือรณรงค์ให้ผู้คนร่วมกันช่วยเหลือเขา

    4.เศรษฐกิจถดถอย

    เศรษฐกิจถดถอย เป็นธรรมดาของวัฏจักรที่มีขึ้นมีลง บางครั้งเศรษฐกิจไม่ได้เลวร้ายมาก แต่เป็นเพราะเราไปคาดหวังให้มันเพิ่มขึ้นๆ ตลอดเวลา จึงเป็นทุกข์เมื่อมันไม่เป็นไปตามความคิดนึกของเรา การยอมรับว่าเศรษฐกิจย่อมมีขึ้นมีลง จะช่วยให้เราเป็นทุกข์น้อยลง

    เศรษฐกิจถดถอยก็เหมือนกับความเจ็บป่วย คือเป็นสัญญาณเตือนให้เราตระหนักถึงความผิดพลาดบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้น แทนที่จะทุกข์ไปกับมัน ควรตรวจสอบว่ามีความผิดพลาดขึ้นที่ตรงไหน และจะแก้ไขอย่างไร การแก้ไขนั้นบางครั้งอาจต้องเจ็บปวดบ้าง ต้องสละบางอย่างเพื่อรักษาส่วนรวมไว้ หรือต้องมีการปรับตัวเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่คุ้นเคย เราควรยอมรับความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว มิพึงติดยึดกับความเคยชินเดิมๆ

    ในระดับบุคคล เราควรรับมือกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ ด้วยการมีชีวิตอย่างพอเพียง กล่าวคือรู้จักประมาณในการหาทรัพย์และการบริโภค ไม่หวังรวยทางลัดหรือหาเงินให้ได้ไวๆ ครั้งละมากๆ ยิ่งโลภในการหาทรัพย์มากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นทุกข์กับความผันผวนของเศรษฐกิจมากเท่านั้น การรู้จักพอเพียงในการดำเนินชีวิตหรือเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย เป็นภูมิคุ้มกันเศรษฐกิจถดถอยที่ดีที่สุด

    พร้อมกันนั้นก็ควรหันมาชื่นชมกับสิ่งดีๆ ที่ยังมีอยู่กับคุณในขณะนี้ ถึงแม้รายได้จะลดน้อยถอยลง แต่หากคุณยังมีกินมีใช้ไม่ขัดสน มีเวลาพักผ่อนและแสวงหาความรื่นรมย์ในชีวิต อีกทั้งยังมีสุขภาพดีและครอบครัวที่ผาสุก ก็แสดงว่าความสุขอยู่ใกล้ตัวคุณนี้เอง ควรเปิดใจรับความสุขที่มีอยู่กับตัวหรืออยู่รอบตัวบ้าง อย่าไปจดจ่อกับเรื่องร้ายๆ ทั้งวันทั้งคืนจนจิตใจหดหู่ เพราะสิ่งดีๆ ที่น่าชื่นชมก็ยังมีอยู่มากมาย เพียงแต่ว่าจะรู้จักมองหรือไม่

    มองในแง่ดีอีกอย่างก็คือ แม้สถานการณ์จะแย่เพียงใด ก็ยังดีที่ไม่เลวร้ายไปกว่านี้ อย่างน้อยเศรษฐกิจวันนี้ก็ไม่ถึงขั้นวิกฤตอย่างครั้งปี 2540 คุณเคยผ่านเหตุการณ์ครั้งนั้นมาได้แล้ว ครั้งนี้หรือครั้งหน้าคุณก็จะผ่านไปได้เช่นกัน

    7.การเมืองขัดแย้ง แบ่งเป็นฝักฝ่าย

    เมื่อมีความขัดแย้งทางการเมืองโดยเฉพาะในระดับประเทศ ประชาชนทั่วไปรวมทั้งเราด้วยมักถูกดึงเข้าไปเป็นฝักฝ่าย ทำให้ความขัดแย้งขยายตัว และลุกลามไปถึงที่ทำงานและในบ้าน ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆ มาเกี่ยวข้อง หากเป็นเพราะความคิดเห็นต่างกัน หรือสนับสนุนคนละฝ่ายกันเท่านั้น

    ในสภาพเช่นนี้พึงระลึกไว้ว่า คนเรานั้นเห็นต่างกันได้ อาจเป็นเพราะได้ข้อมูลต่างกัน หรือมีเกณฑ์วัดความดีและความสำเร็จต่างกันก็ได้ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ข้อสำคัญก็คือคนที่เห็นต่างจากเราไม่ใช่คนเลว คนดีก็มีสิทธิเห็นต่างจากเราได้ ดังนั้นจึงไม่ควรเห็นเขาเป็นศัตรู

    ควรมองคนให้กว้างขึ้น แล้วเราจะพบว่า แม้เขาจะคิดต่างจากเราในเรื่องนี้ แต่ก็มีหลายเรื่องที่คิดเหมือนกับเรา จึงไม่ควรมองเห็นเขาเป็นศัตรูเพียงเพราะว่าคิดต่างจากเราในเรื่องนี้หรือเรื่องนั้น จะว่าไปแล้วคนเราทุกคนมีความเหมือนมากกว่าความต่าง ถ้าเราไปติดอยู่กับความต่าง เราจะมองกันเป็นศัตรูได้ง่าย แล้วความโกรธเกลียดจะเผาลนจิตใจเรา แต่ถ้าเรามองไปที่ความเหมือนให้มากๆ จะพบว่าเราเป็นเพื่อนกัน รักชาติบ้านเมืองเหมือนกัน

    นอกจากมองกว้างแล้ว ควรมองให้ไกลด้วย วันนี้เรากับเขาอาจอยู่คนละมุม แต่พรุ่งนี้เรากับเขาอาจร่วมมือร่วมใจกันในเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็ได้ ดังคนไทยทั้งประเทศได้แสดงให้เห็นเมื่อครั้งร่วมใจกู้ภัยสึนามิมาแล้ว เพราะฉะนั้นแม้จะขัดแย้งกัน แต่อย่าทะเลาะกันจนมองหน้าไม่ติด เพราะวันพรุ่งนี้เราอาจจำเป็นต้องมาจับมือกันก็ได้

    ประการสุดท้ายคือ แผ่เมตตาให้คู่กรณีที่อยู่คนละฝ่ายกับเราบ้าง พึงตระหนักว่า ความโกรธเกลียดไม่เป็นผลดีแก่จิตใจของเรา ทุกครั้งที่เรารู้สึกโกรธเกลียด มีจิตปรารถนาร้ายต่อใคร คนแรกที่ถูกทำร้ายคือเรา ความโกรธเกลียดนั้นทำร้ายเราก่อนที่จะไปทำร้ายคนอื่นเสียอีก เพียงแค่คิดถึงเขาก่อนนอน ก็อาจทำให้เรานอนไม่หลับ เกิดความเครียด ความดันโลหิตขึ้น อย่าปล่อยให้ความโกรธเกลียดบั่นทอนจิตใจของเรา ขับไล่ความโกรธเกลียดไปด้วยการแผ่เมตตา
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.dailynews.co.th/web/html/...e=2&Template=1

    ประโยชน์และโทษของกาแฟ
    <TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top>ใครที่ชอบดื่มกาแฟเป็นประจำ วันนี้เกร็ดความรู้มีประโยชน์และโทษมาบอกกัน...
    คุณประโยชน์ของกาแฟ
    - มีฤทธิ์ เป็นยาระบายและยาขับปัสสาวะอย่างอ่อน ๆ
    - กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า
    - ทำให้ตื่นตัวและแก้ง่วงได้
    โทษที่ต้องระวัง
    - กาแฟต้มหรือที่ชงแบบให้น้ำเดือดซึมผ่านผงกาแฟ หรือกาแฟที่ใช้ถุงผ้าชงนั่นเองจะเพิ่มอัตราเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
    - กาแฟต้มอาจทำให้ระดับคอลเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้น
    - อาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะแบบไมเกรน
    - ผู้หญิงที่ดื่มกาแฟจัดอาจมีอัตราเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ
    รู้อย่างนี้แล้ว ดื่มกาแฟในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อสุขภาพที่ดี.
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="VERTICAL-ALIGN: top; TEXT-ALIGN: left"><TABLE id=Table1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=message-bold>คอลัมน์ย้อนหลัง</TD></TR><TR><TD><TABLE id=ctl00_ContentPlaceHolder1_ctl00_Popup_news_15_oldcolumn1_dlsOColumn style="WIDTH: 100%; BORDER-COLLAPSE: collapse" cellSpacing=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ประโยชน์และโทษของกาแฟ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">แก้ปัญหาส้นเท้าแตก
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ใช้โน้ตบุ๊คเสี่ยงเป็นโรคปวดหลัง
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ขจัดกลิ่นคาวติดมีด
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">วิธีกำจัดกลิ่นถุงเท้า
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">วิธีลดรอยดำที่ขาหนีบ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ตะไคร้ลดอาการคันบนหนังศรีษะ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">แปรงฟัน หายปวดหลัง
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ร่มไม่ได้มีไว้แค่กันฝน
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top>[​IMG]</TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">วิธีปฏิบัติเมื่อมือถือตกน้ำ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.thaihealth.or.th/cms/detail.php?id=8365

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%" align=center bgColor=#990000 border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff>คุณภาพชีวิต >> บทความ</TD></TR></TBODY></TABLE>

    วิธีเอาตัวรอดจากภัยพิบัติ ฉบับคนกรุง


    ยึดหลักรอบคอบ มีสติ ไม่ประมาทและ อย่ารอโชคช่วย ! <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย สร้างความระส่ำระส่ายในบ้านเราได้ไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะหลายฝ่ายเริ่มออกมาตั้งข้อสังเกตถึงเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินหากเกิดเหตุไม่คาดฝันเช่นนี้กันมากขึ้น ประเด็นนี้หน่ายงานภาครัฐสามารถออกมาตรการต่างๆ มารองรับได้ก็จริง แต่สิ่งสำคัญสุดอยู่ที่ความปลอดภัยทั้งหลาย ต้องเริ่มจากการรู้จักป้องกันตัวเองก่อนเสมอ
    <O:p</O:p
    <O:p[​IMG]
    </O:p
    เชื่อว่าผู้ที่อาศัยอยู่ตามตึกระฟ้า อาคารสูงแสนในกรุงเทพมหานคร หลายคนคงได้รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นจากเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้ และสาเหตุที่คนกรุงรู้สึกถึงการสั่นมากกว่าจังหวัดอื่นๆ ก็เป็นเพราะกรุงเทพมหานคร เป็นดินโคลนที่มีส่วนผสมของน้ำมาก เมื่อเกิดแผ่นดินไหวก็จะส่งผ่านมาทางคลื่นน้ำ และเมื่อกระทบกับดินโคลนที่มีความหนาแน่นมากกว่า น้ำก็จะเพิ่มแรงสั่นไหวขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง ทำให้รู้สึกราวกับมีเหตุการณ์เกิดขึ้นใกล้ตัวอยู่ร่ำไป<O:p</O:p
    <O:p
    </O:p
    เหตุการณ์นี้เป็นปัจจัยหนึ่งที่จุดประกายให้กรมทรัพยากรธรณีต้องเร่งศึกษารอยเลื่อนต่างๆ ที่มีอยู่ในกรุงเทพมหานครและพื้นที่รอบข้างทันที ซึ่งไม่ว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ การที่เรารู้จักป้องกันไว้ก่อน ย่อมเป็นทางรอดที่ดีและคุ้มค่าเสมอ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    หากถามว่าจะทำอย่างไรเมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหว ผู้ที่จะตอบคำถามนี้ได้ดีที่สุดคงต้องเป็นหน่วยงานในสังกัดกรมทรัพยากรธรณีอีกตามเคย อย่างเช่นที่บัญญัติไว้ “ข้อควรปฏิบัติเวลาเกิดแผ่นดินไหว” ของทางโครงการศึกษาแผ่นดินไหวในประเทศไทย ก็พอจะเป็นแนวทางปฏิบัติได้ในยามฉุกเฉิน<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    บัญญัตินี้ระบุว่าทันใดที่ทราบข่าวการเกิดแผ่นดินไหว ก็ให้จัดเตรียมเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นเอาไว้ให้ครบครัน เช่นของใช้จำพวก ไฟฉาย อุปกรณ์ดับเพลิง น้ำดื่มและอาหารแห้ง เพราะยังไม่แน่ว่าจะเกิดไฟฟ้าดับด้วยหรือเปล่า ทางที่ดีจึงควรมีไม้ขีดไว้สักหน่อยก็จะเป็นการดี ที่กล่าวเช่นนี้เพราะเคยมีกรณีตัวอย่างเมื่อครั้งเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่จังหวัดสงขลา เมื่อราวๆ ปี 2543 ที่ทางการส่งความช่วยเหลือเป็นข้าวสารและอาหารแห้งพร้อมปรุงอื่นๆ ไปให้ แต่ผู้ประสบภัยกลับไม่ได้กินข้าวหรือแม้กระทั่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เนื่องจากไม่มีฟืนไฟจะหุงต้มอาหาร เช่นนี้ก็พอจะเป็นอุทาหรณ์ได้ว่าสิ่งของแม้เพียงเล็กน้อยก็อย่ามองข้าม วันหนึ่งมันอาจจะมีคุณค่ามหาศาลขึ้นมาก็เป็นได้
    <O:p</O:p
    <O:p[​IMG]</O:p
    การเตือนภัยเป็นสิ่งที่สำคัญเสมอ ดังนั้นจึงต้องเตรียมเครื่องรับวิทยุเอาไว้ให้พร้อม ถ้าเป็นประเภทใช้ถ่านหรือแบตเตอรี่ได้ก็ยิ่งดี เพราะในยามนี้อุปกรณ์ไฟฟ้าอาจใช้การไม่ได้ อุปกรณ์นิรภัยต่างๆ ก็จำเป็นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะมันสามารถช่วยชีวิตเราได้ในยามฉุกเฉิน ก็อย่างว่าขนาดลงเรือยังต้องสวมชูชีพ ขับรถยังต้องพึ่งหมวกกันน็อค แผ่นดินไหวทั้งทีก็ต้องมองดูว่าอะไรที่พอจะปกป้องเราได้บ้าง เพื่อความปลอดภัยเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดี<O:p</O:p
    <O:p
    </O:p
    ยารักษาโรคและเวชภัณฑ์ด้านสุขภาพก็ไม่ควรมองข้าม เพราะอาการเจ็บป่วยย่อมไม่เข้าใครออกใคร ยิ่งในยามฉุกเฉินเช่นนี้อุบัติภัยเลือดตกยางออกเกิดขึ้นได้ง่ายมาก การมีอุปกรณ์พวกนี้ไว้สามารถทำการพยาบาลเบื้องต้นได้ในระดับหนึ่ง <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ตามอาคารบ้านเรือนก็ควรตรวจสอบตำแหน่งของวาล์วเปิด-ปิดน้ำ ตำแหน่งของสะพานไฟฟ้าเพื่อตัดตอนการส่งน้ำและไฟฟ้าไว้ล่วงหน้า เครื่องเรือน เครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ ก็ควรตอกยึดไว้ให้มั่นคงแน่นหนา ป้องกันไม่ให้โยกโคลงจนเกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน ในขณะเดียวกันก็อย่าวางสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก ๆ ไว้ในที่สูง เพราะอาจหล่นลงมาทำความเสียหายหรือเป็นอันตรายได้
    <O:p</O:p
    <O:p[​IMG]</O:p
    ควรมีการเตรียมการอพยพเคลื่อนย้ายไว้ล่วงหน้า หากถึงเวลาที่จะต้องอพยพจะได้ดำเนินการในทันที การวางแผนป้องกันภัยสำหรับครอบครัว ที่ทำงานและสถานที่ศึกษามีความสำคัญ ที่ต้องมีการชี้แจงบทบาทที่สมาชิกแต่ละบุคคลจะต้องปฏิบัติ มีการฝึกซ้อมแผนที่จัดทำไว้ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นจริงๆ <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    อย่างที่เข้าใจกันว่าภัยพิบัติเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างเหนือความคาดหมาย ดังนั้นผู้ประสบภัยจึงต้องตั้งสติให้มั่น แล้วหลบอยู่ในที่ซึ่งแข็งแรงปลอดภัยจากสิ่งปรักหักพังที่อาจร่วงหล่นลงมา อยู่ให้ห่างจากประตู หน้าต่าง สายไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้า รวมทั้งสิ่งห้อยแขวนทั้งหลายให้มากที่สุด แต่หากขณะนั้นกำลังอยู่ในรถก็ให้หยุดรถจนกว่าแผ่นดินจะหยุดไหวหรือเลิกสั่นสะเทือนเสียก่อน<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    หลายคนที่ต้องออกไปทำงานในที่ต่างๆ ก็ต้องระมัดระวังให้มากด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะตามสำนักงานสูงๆ ที่ต้องสัญจรโดยลิฟต์ก็ให้งดเสียในยามนี้ เพราะหากเกิดไฟฟ้าดับขึ้นมา อาจมีอันตรายจากการติดอยู่ภายใต้ลิฟต์ก็เป็นได้ ก็อย่างว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ...แต่หากเรารอบคอบ มีสติและไม่ประมาทเสียอย่าง อันตรายต่างๆ ก็เกิดขึ้นไม่ง่ายนักหรอก...<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    กรณีความปลอดภัยเหล่านี้ ทราบมาว่าทางกรมทรัพยากรธรณี ได้นำเสนอต่อคณะกรรมการแผ่นดินไหวแห่งชาติ ให้แก้ไขใน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร โดยบังคับให้อาคารใหม่ต้องออกแบบรองรับแผ่นดินไหวได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงมหาดไทย แนวทางนี้ถือว่าช่วยได้มากโขอยู่เหมือนกัน....อย่างน้อยที่สุดประชาชนก็มั่นใจได้ระดับหนึ่งว่าการออกแบบก่อสร้างต่อจากนี้ไปจะปลอดภัยมากขึ้น.


    เรื่องและภาพโดย :Team Content www.thaihealth.or.th<O:p</O:p
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    “อาหารสะอาด รสชาติอร่อย” เหตุใดต้อง สด-ใหม่....?
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->http://www.thaihealth.or.th/cms/detail.php?id=8307


    สุขาภิบาลอาหารที่พ่อค้าแม่ขายไม่ควรมองข้าม<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    หลังจากมีข่าวคราวของประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามออกมาถึงการวิตกปัญหาความไม่ปลอดภัยของอาหาร ที่ได้ตรวจพบว่ามียาฆ่าแมลงในผักและผลไม้ ส่วนซีอิ๊วก็มีส่วนผสมของสารก่อมะเร็ง และยังตรวจพบสารฟอร์มาลดีไฮด์ที่ใช้ทำฟอร์มาลินในอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยวด้วยแล้วทำเอาคนไทยหลายๆ คนถึงกับผวาว่าอาหารที่รับประทานอยู่ในแต่ละวันจะ “ไม่ปลอดภัย” มากน้อยแค่ไหน?....<O:p</O:p
    <O:p[​IMG]
    </O:p
    ซึ่งจากข่าวเวียดนามเคยเป็นประเทศที่มีประชากรถึง 3 ใน 4 ประกอบอาชีพเป็นเกษตรกร เน้นการปลูกผักผลไม้แบบธรรมชาติ ไม่ต้องพึ่งสารเคมี แต่หลังจากเวียดนามพยายามปรับเปลี่ยนตัวเองให้เป็นประเทศที่เน้นอุตสาหกรรม และพัฒนาเศรษฐกิจให้เป็นแบบทุนนิยม ก็ทำให้สารเคมีเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในภาคการเกษตรและธุรกิจอาหาร<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    โดยผลสำรวจของกระทรวงคุ้มครองผลผลิตทางการเกษตรในเวียดนามพบว่า ผักที่ขายอยู่ในตลาดกรุงฮานอยเป็นผักที่ปนเปื้อนยาฆ่าแมลงมากถึงร้อยละ 30 ถึง 60 แต่ที่น่าตกใจก็คือ แม้กระทั่งยาฆ่าแมลงที่ทางการเวียดนามสั่งห้ามใช้ ก็ยังมีการตรวจพบปนเปื้อนอยู่ในผักด้วยเช่นกัน<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    นอกจากเวียดนามแล้ว จีนก็เป็นอีกประเทศที่ใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงกันมาก แม้จะรู้ดีว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค แต่สถานการณ์ที่เวียดนามดูจะเลวร้ายหนัก เพราะมีพ่อค้าแม่ค้าบางรายไม่ยอมกินผักที่ตัวเองขาย เพราะรู้ว่าเต็มไปด้วยสารเคมี แต่กลับเอาผักเหล่านั้นมาขายให้ผู้บริโภค<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ดังนั้นถึงเวลาแล้วหรือยังที่พี่น้องชาวไทยจะหันมาดูแลและใส่ใจเรื่องการการสุขาภิบาลอาหาร การจัดการและควบคุมอาหารให้สดสะอาด ปลอดภัยจากเชื้อโรค พยาธิ และสารเคมีที่เป็นพิษต่างๆ ซึ่งเป็นอันตราย หรืออาจเป็นอันตรวจต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย สุขภาพอนามัย และการดำรงชีวิตของมนุษย์ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถจัดการสุขาภิบาลอกหารในร้านอาหารของตนเองเพื่อความปลอดภัยแก่ผู้บริโภคได้ไม่ยากดังนี้<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    อย่างแรกคือต้องตรวจสอบแหล่งที่มาของอาหาร เพราะอาหารที่สะอาดย่อมได้มาจากแหล่งที่มาที่สะอาดปลอดภัย เช่น เลือกผัก ผลไม้ที่มีลักษณะสด สะอาด อยู่ในสภาพดี เช่น ใบผักต้องไม่ช้ำแห้ง มีสีเหลือหรือขึ้นรา ซึ่งอาจจะมองเห็นเป็นเมือกลื่นๆ บริเวณข้อต่อของต้นกับใบ ไม่เป็นสีขาว สีเทา หรือจุดขาวๆ ซึ่งอาจจะเกิดจากการถูกกระทบกระแทกขณะขนส่ง หรือยังมียาฆ่าแมลงตกค้างอยู่<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ส่วนเนื้อสัตว์สด ควรเลือกซื้อของใหม่ สด และไม่มีการใช้สารเคมีใดๆ กับเนื้อสัตว์มาก่อน <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เรื่องการขนส่งก็สำคัญ เพราะการขนส่งอาหารไปจำหน่าย หรือการขนส่งอาหารจากตลอดไปยังร้านอาหาร ถึงแม้จะได้พิจารณาแล้วว่าอาหารดังกล่าวได้รับมาจากแหล่งที่สะอาด ปลอดภัยก็ตาม แต่ถ้าการเก็บรักษาระหว่างขนส่งไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น ที่บรรจุหรือใส่อาหารสกปรก ทำให้เกิดการติดเชื้อโรคได้ ดังนั้นระหว่างการขนส่งก็ควรจะเก็บรักษาไว้ในที่เย็น เช่น ตู้น้ำแข็ง ตู้เย็น จึงจะรักษาคุณภาพอาหารไว้ได้ <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    อายุการเก็บอาหาร ซึ่งวัตถุดินที่นำมาปรุงเป็นอาหารจะต้องเป็นอาหารที่สด ใหม่ ไม่เก็บไว้นานจนเกินไป จนทำให้อาหารนั้นเสื่อมคุณภาพ ซึ่งสังเกตได้จากกลิ่น และสี ควรเก็บอาหารไว้ในอุณหภูมิต่ำ โดยการเก็บไว้ในที่เย็น เช่น ตู้เย็น หรือตู้น้ำแข็ง ที่อุณหภูมิ ไม่เกิน 7.2 องศาเซลเซียส เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในอาหารประเภทผัก และเนื้อ <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ส่วนด้านคุณภาพอาหารนั้นหากเป็นอาหารที่ดี ควรมีลักษณะที่สด ไม่บูดเน่า ไม่เสีย การพิจารณาเลือกใช้ขึ้นอยู่กับลักษณะอาหารแต่ละประเภท ดังนี้<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    อาหารสด ต้องได้รับการตรวจสอบผ่านการคัดเลือกคุณภาพอาหารทางกายภาพ เช่น<O:p</O:p
    - สภาพอาหารไม่ผิดปกติ<O:p</O:p
    - มีสีสดตามธรรมชาติ<O:p</O:p
    - ไม่เน่าเสีย และไม่มีกลิ่นเหม็น<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    อาหารแห้ง<O:p</O:p
    - ต้องไม่ขึ้นรา<O:p</O:p
    - ไม่มีกลิ่นอับ<O:p</O:p
    - ต้องล้างทำความสะอาดก่อนนำมาใช้ประกอบปรุงอาหาร<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    อาหารกระป๋อง สิ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ<O:p</O:p
    - ลักษณะของกระป๋อง และกระป๋องต้องไม่ผิดปกติ เช่น กระป๋องบวม เป็นสนิม<O:p</O:p
    - ตรวจดูวันผลิต และวันหมดอายุ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    สารปรุงแต่งอาหาร เป็นสารที่นำมาใช้การปรุงแต่งอาหารให้มีสีสัน รสชาติน่ารับประทาน การเลือกใช้สารปรุงแต่งอาหาร ควรพิจารณาดังนี้<O:p</O:p
    - เป็นสารที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ปรุงอาหารได้ และอยู่ในสภาพที่ดี สะอาด ไม่เสื่อมคุณภาพ หรือมีสี กลิ่น รสที่ผิดปกติ<O:p</O:p
    - อยู่ในภาชนะบรรจุที่สะอาด ปลอดภัย<O:p</O:p
    - มีฉลากถูกต้อง เช่นมีเลขทะเบียนตำรับอาหาร(อย.) หรือมีเครื่องหมายรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.)<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    น้ำดื่ม น้ำใช้ น้ำสามารถนำสิ่งสกปรกปนเปื้อนลงสู่อาหารได้ ความสกปรกนี้อาจเกิดได้ในการใช้น้ำล้างอาหารสด ล้างภาชนะ หรือประกอบอาหาร ถ้าน้ำที่นำมาใช้ สกปรก อาหารที่ประจะสกปรกด้วย ดังนั้น ควรคำนึงถึงหลักต่อไปนี้
    <O:p</O:p
    - น้ำดื่มควรเป็นน้ำที่ผ่านการฆ่าเชื้อโรคโดยการต้ม หรือกรอง และเก็บในภาชนะที่สะอาด มีฝาปิด เช่น ขวด เหยือก คูลเลอร์ และต้องวางสูงจากพื้นอย่างน้อย 60 Cm.<O:p</O:p
    - น้ำที่ใช้ในการเตรียมปรุงอาหาร และล้างภาชนะ และใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ต้องเป็นน้ำสะอาด ได้มาตรฐาน<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    น้ำแข็ง<O:p</O:p
    - ต้องเป็นน้ำแข้งที่ผลิตขึ้นเพื่อใช้ในการบริโภค <O:p</O:p
    - เก็บในภาชนะที่สะอาด ไม่เป็นสนิม มีฝาปิด และวางสูงจากพื้นอย่างน้อย 60 cm. <O:p</O:p
    - ต้องมีอุปกรณ์สำหรับคีบ หรือตักที่มีด้ามยาวเพียงพอจะหยิบจับสะดวก<O:p</O:p
    - ต้องไม่มีสิ่งของอื่นแช่รวมอยู่กับน้ำแข็ง<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว.... เราควรหันมาใส่ใจเรื่องการบริโภคอาหารให้มากขึ้น เพื่อสุขภาพที่ดีและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และจะได้ไม่ประสบปัญหาอย่างประเทศเพื่อนบ้านของเรา ช่วยกันนะ ไม่ยากเลย


    <O:pเรื่องและภาพโดย : Team www.thaihealth.or.th<O:p</O:p</O:p
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=706760#post706760


    <TABLE class=tborder id=post488490 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">14-02-2007, 05:51 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>wellrider<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_488490", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 04:09 PM
    วันที่สมัคร: Jan 2007
    อายุ: 27 ปี
    ข้อความ: 1,087 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 199 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 4,271 ครั้ง ใน 808 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 541 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_488490 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->คาถาสนองกลับผู้กระทำไสยศาสตร์

    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->คาถาบทนี้ พระ องค์ที่ ๑๐ มาบอกหลวงพ่อในขณะที่หลวงพ่อพักอยู่ที่เมืองควีนทาวน์ ประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๒๙ เวลา ๐๕.๐๐ น.
    ก่อนนอนหลวงพ่อนอนภาวนาเป็นปกติ ตื่นขึ้นมามีอาการปากขยับไม่ได้ มือขยับไม่ได้ รู้สึกอึดอัด คล้ายเป็นอัมพาต แต่ใจสบาย พระ องค์ที่ ๑๐ มาบอกว่า
    "เวลานี้มีคนคิดทำให้เธอเป็นแบบนี้"
    และท่านให้เห็นตัวผู้ทำชัดเจน พระ องค์ที่ ๑๐ ให้ภาวนาว่า "สัมปจิตฉามิ" จึงคลายตัว คาถาบทนี้ไม่ได้ให้ใช้เฉพาะหลวงพ่อเท่านั้น อนุญาตให้พุทธบริษัทศิษยานุศิษย์และลูกหลานหลวงพ่อใช้ได้ด้วย
    ก่อนนอนภาวนา ให้ตั้ง นะโม ๓ จบ และต่อด้วย พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
    และสวด อิติปิ โส ฯ ๓ จบ จึงภาวนาเรื่อย ๆ ในขณะที่ภาวนาให้ทำใจสบาย ๆ ผลของคาถาบทนี้ จะมีผลต่อผู้สั่ง ผู้รับคำสั่ง ผู้ร่วมมือ และผู้กระทำไสยศาสตร์มายังเราโดยฉับพลัน
    ผลพิเศษ ถ้าตั้งใจรักษาศีล ๕ บริสุทธิ์ หรือ ตั้งใจรักษากรรมบถ ๑๐ ได้ครบถ้วน สามารถระงับนิวรณ์ได้ ภาวนาวันละ ๑ ชั่วโมงเป็นเวลา ๓ เดือนติดต่อกัน จะมีผลคล้าย "อภิญญา"
    หมายเหตุ "สัมปจิตฉามิ" อ่านว่า สัม - ปะ - จิต - ฉา - มิ คาถาบทนี้ใช้ได้เฉพาะผู้ที่เป็นสัมมาทิฏฐิเท่านั้น ไม่มีผลสำหรับผู้เป็นมิจฉาทิฏฐิ พระโมคคัลลาน์ท่านมายืนยันว่า คาถาบทนี้เป็นคาถาอภิญญา บอกว่าคนที่ได้อภิญญามาในชาติก่อน ถ้าใช้คาถาบทนี้ของเก่าจะรวมตัว คือว่า ทำไป ๆ ถ้าเข้าถึงผรณาปีติจะรู้สึกว่าตัวไม่มีเหลือแต่หน้า ต่อไปก็ไม่มีอะไรเหลือเลย หน้าก็ไม่มี ถ้าทำได้เช่นนี้บ่อย ๆ ไม่ช้าก็รวมตัวจะไปไหนก็ได้ เที่ยวต่างประเทศเรื่องเล็ก ฆราวาสทำได้ทุกอย่าง แต่พระห้ามแสดงต่อหน้าคน
    <CENTER>[​IMG]</CENTER>
    อย่างท่านปิณโฑลภารทวาชะ เป็นต้นบัญญัติ ถูกห้ามเพราะอะไร เพราะถ้าไปทำอย่างนั้น คนก็ไม่ต้องการธรรมะ ต้องการพระแสดงปาฏิหาริย์ ถ้าขอให้พระแสดงปาฏิหาริย์ พระทำให้ คนนั้นตายแล้วเกิดใหม่ต้องไปเป็นทาสเขา ๕๐๐ ชาติ ถ้าพระไม่ทำให้แล้วโกรธก็เลยลงนรก พระพุทธเจ้าจึงทรงห้าม แต่ว่าพระที่อยู่ในป่าท่านมีความจำเป็นก็ใช้ได้ แต่ต้องไม่ให้คนเห็น อย่างพระที่เข้านิโรธสมาบัติ ออกมาแล้วปั๊บร่างกายต้องการอาหารก็ต้องดู เราจะไปหาที่ไหน เห็นหน้าคนที่จะให้ปั๊บก็เหาะไปทันที แต่ต้องไม่ให้คนเห็น พอเห็นว่าคนจะเห็นก็ต้องลงเดิน ถ้าเหาะจริง ๆ แล้วไวมาก ตามบาลีว่าที่พระโมคคัลลาน์ขึ้นไปดาวดึงส์ในคราวนั้น บอกว่า "แค่ลัดนิ้วมือเดียว"ความจริงไวกว่านั้น แต่ศัพท์ภาษาไทยไม่รู้จะใช้อะไร ความจริงนึกก็ถึงเลย ..สวัสดี*
    <!-- / message -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    <TABLE class=tborder id=post498122 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">23-02-2007, 08:20 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#13 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>:::เพชร:::<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_498122", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 04:20 PM
    วันที่สมัคร: Jul 2006
    อายุ: 42 ปี
    ข้อความ: 1,484 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 11,928 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 14,414 ครั้ง ใน 1,521 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 1602 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_498122 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->หลวงพ่อเคยแนะนำการใช้คาถาบทนี้ไว้ว่า เวลาภาวนาคาถาห้ามไม่ให้คิดอาฆาตมาตรร้ายผู้ใด อยู่ในอารมณ์สบายๆ แล้วจึงภาวนาคาถาบทนี้

    คงจำกันได้ ในหนังสือเล่มนึงของหลวงพ่อ ชื่อ"ประวัติหลวงปู่ปาน" คราวที่หลวงพ่อฯถอดกายทิพย์ออกไปนั้น อยู่ในห้องน้ำ เอาหลังพิงตุ่มน้ำ ความเย็นทำให้อารมณ์ทรงตัว ดังนั้นหากนำมาประยุกต์ใช้ในแนวทางนี้เหมือนกัน ผมใช้วิธีอาบน้ำฝักบัว ให้น้ำรดตัว จินตนาการเห็นภาพแสง หรือเงาสีดำถูกชำระล้างออกไปเหมือนของไม่ดี คุณไสย หลุดจากตัวเรา จากนั้นเห็นภาพแสงรังสีสีทองฉาบอาบไปทั่วตัว นึกถึงคุณความดีที่ได้กระทำมา นึกถึงพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรมคำสอน พระอริยสงฆ์ พรหม เทพ เทพยดา อาจารย์ ทั้งหลายสืบๆกันมา โดยมีหลวงปู่เทพโลกอุดร หลวงปู่ทวด หลวงปู่โต หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุง เป็นที่สุด เวลานั้น จิตเป็นทิพย์แล้ว จึงภาวนาคาถาบทนี้ ไปเรื่อยๆ น้ำจากฝักบัวก็ยังรดลงตัวเรา ใบหน้าเรา จนใจสบายเป็นสุข เวลานั้นไม่มีจิตที่เป็นอกุศลเข้าเจือปน จะได้ผลเป็นที่สุด ....

    ผมใช้วิธีการดังกล่าวข้างต้นมาตั้งแต่ปี 2535 จนถึงปัจจุบัน เรียกว่าได้ผลจริงๆครับ สนองกลับผู้กระทำจริงๆ ไม่ว่าจะถูกกล่าวหา หรือถูกคิดร้าย ก็ตาม ไม่เพียงว่าเป็นการกันการกระทำด้านคุณไสยเท่านั้นครับ เหตุการณ์ที่เกิดกับผมคือ ผมเคยถูกกล่าวหา ทั้งที่ผมไม่ได้ทำ ผมทำแบบที่แนะนำด้านบน ไม่เกิน 7 วัน ผู้กล่าวหา จู่ๆ เสียงหายไปเลย เวลาพูดเสียงเหมือนเป็ดไปเดือนเศษ อีกหลายเหตุการณ์ครับ จนเหมือนอัตโนมัติไปเลยนะครับ
    <!-- / message -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>



    หมายเหตุ "สัมปจิตฉามิ" อ่านว่า สัม - ปะ - จิต - ฉา - มิ คาถาบทนี้ใช้ได้เฉพาะผู้ที่เป็นสัมมาทิฏฐิเท่านั้น ไม่มีผลสำหรับผู้เป็นมิจฉาทิฏฐิ
     
  15. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    เฮ้ออออ..รู้สึกใจสั่นๆ กลัว เรื่องงาน อยากได้ที่สุดเลย ช่วยด้วย พี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตอนแรกไม่กลัว แต่ได้ยินมาเยอะเลยว่า ยากส์มาก
    เฮ้ออออออ :'(
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2007
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    นั่งสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ ปัญญาจะตามมานะครับ

    เป็นกำลังใจให้นะครับ

    .
     
  17. guawn

    guawn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    10,642
    ค่าพลัง:
    +42,113
    ขอให้น้องสมหวังสมความปรารถนา เพี้ยง!ได้งาน
     
  18. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    [FONT=&quot]จากคำถามของคุณไหมฟ้า เรื่องธรรมของหลวงปู่เทพโลกอุดร หรือหลวงปู่ใหญ่ นั้น เป็นคำถามที่ทะลุกลางปล้องและมิอาจละเลยที่จะไม่ตอบไม่ได้ ในวันนี้ผมและคุณโสระ จึงไปหาพี่ใหญ่ที่บ้าน เพื่อปรารภเรื่องนี้ให้ฟัง ทั้งหมดก็เห็นพ้องต้องกันที่จะทำให้คำถามนี้กระจ่างขึ้นแต่เนื่องจากหลวงปู่ใหญ่นั้น พ้นสภาวะวิสัยที่บุคคลธรรมดาที่จะได้รับฟังคำสอนโดยตรงจากท่านได้ พี่ใหญ่จึงตกลงเล่าตามสมาธินิมิตรให้ฟัง โดยพี่ใหญ่เคยโดนดุสั้นๆ ว่า [/FONT][FONT=&quot]ทำจิตอย่างนั้นไม่ถูก ต้องวางอารมณ์ใหม่[/FONT][FONT=&quot] หลังจากนั้นเจอท่านในสมาธินิมตร ก็ไม่ได้คุยเรื่องหลักธรรมอีกดังนั้นพี่ใหญ่จึงอุปมาว่าเปรียบเสมือนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งเข้าสู่ปรินิพพานนานแล้ว แต่ยังคงทิ้งหลักธรรมคำสั่งสอนไว้ เพื่อให้สงฆ์สาวก และอุบาสก อุบาสิกา ทั้งหลาย ได้ประพฤติปฏิบัติจนกว่าจะบรรลุถึงสัมโภธิญาณ ก็เป็นอันหมดเรื่อง สงฆ์สาวก และอุบาสก อุบาสิกา ทั้งหลาย ก็มิได้เคยเห็นตัวจริงของพระองค์ คงเห็นแต่รูปสมมุติในสภาวะเป็นรูปพระซึ่งเป็นประติมากรรมเท่านั้นถึงกระนั้นก็ตาม ก็ยังมีเหล่าสงฆ์สาวกฯกราบไหว้เคารพบูชาเทอดทูนเป็นหลักชัยในการดำเนินชีวิตแม้ขั้นต่ำสุดคือการบำเพ็ญศีล 5และมีความเชื่อเรื่องชาตินี้และชาติหน้าและหากสงฆ์สาวกฯบำเพ็ญตบะบารมีจนเข้าเขตพุทธญาณแล้ว ถึงเวลาท่านก็จะมาโปรดเป็นกรณีๆไปเปรียบได้อย่างพ่อแม่ครูอาจารย์มั่นที่มีพระอรหันต์อัครสาวกมาเยี่ยมเยือน และสอนการปฏิบัติพระกรรมฐาน หรือข้ออรรถขัอธรรมอยู่เนืองๆ ตามนิสัย และบารมี ที่เกี่ยวพันกันมา [/FONT]<o>:p></o>:p>
    [FONT=&quot]ในกรณีของท่านหลวงปู่ใหญ่ก็เช่นเดียวกันท่านมิได้มีคำสอนหรือเทศนาที่เกลื่อนกลาดเหมือนหลวงพ่อองค์นั้น หลวงปู่องค์นี้ ซึ่งเราคงจะคุ้นเคยตามสภาวะปัจจุบันที่ท่านเหล่านั้นยังมีชีวิตอยู่ แต่กรณีของหลวงปู่ใหญ่นี้กลับตรงกันข้าม หากเราประสงค์ที่จะเจอหลวงปู่ใหญ่ เราต้องบำเพ็ญตบะ บารมี ถึงพร้อมด้วยไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ และปัญญา และหากเข้าข่ายเมื่อใดท่านก็จะมาโปรด และสั่งสอนตามวาสนาบารมีเช่นกัน และเช่นเดียวกันบางทีท่านองค์อื่นที่มีวาสนาต่อกันมากาลก่อนก็อาจจะมาโปรดก่อนก็ได้ มิจำเป็นที่จะต้องเป็นหลวงปู่ใหญ่เสมอไปแต่หลักธรรมที่มาโปรดนั้นจะไม่มีหลักธรรมไดที่เกินไปกว่า พระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้า หรือพระไตรปิฎกนั่นเอง การมาโปรดของท่านนั้นก็แล้วแต่จริตของท่านแต่ละองค์บางองค์อาจมาทางกายเนื้อ บางองค์อาจมาทางอทิสมานกายหรือกายทิพย์นั่นก็แล้วแต่ภูมิจิตภูมิธรรมของผู้ปฏิบัตินั่นแล ซึ่งตนก็จะรู้เห็นได้เฉพาะตนอย่างที่เรียกว่าปัจจัตตังนั่นเองหากคุณไหมฟ้าได้อ่านข้อมูลเบื้องต้นนี้ ก็ขอได้โปรดทำความเข้าใจ และโปรดตั้งหลักในไตรสิกขาให้พร้อมถ้วนบริบูรณ์ หากกำลังบารมีพร้อมเมื่อใดและวาสนาของคุณไหมฟ้าเคยมีต่อท่านหลวงปู่ใหญ่แล้ว ไม่นานเกินรอก็คงจะสมหวังได้เช่นกันขอโมทนาในคำถามที่กินใจและเป็นประโยชน์แทนสายบุญในกระทู้นี้ ทุกคนเช่นกัน และขอเป็นกำลังใจให้ได้พบหลวงปู่ใหญ่โดยเร็ว<o>:p></o>:p>[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2007
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://watthummuangna.com/board/showthread.php?p=19773#post19773

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR vAlign=bottom><TD>[​IMG]</TD><TD></TD><TD width="100%">วัดถ้ำเมืองนะ จังหวัดเชียงใหม่ > หมวดประชาสัมพันธ์ > ข่าวประชาสัมพันธ์ของวัดพุทธพรหมปัญโญ </TD></TR><TR><TD class=navbar style="FONT-SIZE: 10pt; PADDING-TOP: 1px" colSpan=3>[​IMG] ท่านหลวงตาเมตตาตอบคำถามครับ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=tborder id=post19773 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead id=currentPost style="FONT-WEIGHT: normal">09-13-2007, 07:56 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal" align=right>#8 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 width=175>ไหมฟ้า<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_19773", true); </SCRIPT>
    สมาชิกใหม่

    วันที่สมัคร: Sep 2007
    ข้อความ: 4 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    Thanks: 2
    Thanked 8 Times in 3 Posts <!-- End Post Thank You Hack -->



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_19773><!-- icon and title -->[​IMG]

    <HR style="COLOR: #cccccc" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->กราบนมัสการหลวงตาและสวัสดีสมาชิกที่นี่ทุกๆ คน โยมขอกราบนมัสการถามหลวงตาว่า

    ถ้าเกิดมีฆารวาสที่มีผู้คนย่องยกศรัทธามากเข้าหา นับถือเป็นปรมาจารย์ ท่านผู้นี้เก่งทางด้านจับพลังวัตถุมงคลมาก แต่มีคนที่ไปหาอาจารย์ท่านนี้ ยื่นพระหางหมาก พระคำข้าว ขอให้ท่านจับพลังให้หน่อย ท่านกลับโยนกลับให้เจ้าของพระ แล้วพูดว่า พระใหม่ ไม่มีอะไร ไม่สนใจพระใหม่ คนๆ นั้นจึงรับมาเก็บเข้าที่เดิม และมีโยมผู้ชายอีกท่านเป็นตำรวจ ยื่นวัตถุมงคลของหลวงปู่ละมัยที่ท่านเมตตาอธิษฐานจิตให้ส่วนตัวให้อาจารย์ท่านนี้จับพลังอีก ท่านบอกหน้าตาเฉยว่า ไม่เห็นมีอะไร

    โยมได้ฟังมาอีกทีหนึ่งจากเพื่อนที่ได้ไปด้วยกันกับคณะนี้

    ถ้าโยมบอกกับเพื่อนที่ไปกับคณะนี้ว่า อาจารย์ไม่ควรตอบเช่นนี้

    โยมจะติดกรรมปรามาสอาจารย์ท่านนี้หรือไม่คะหลวงตา

    และโยมบอกกับคนที่นำพระและวัตถุมงคลต่างๆ ของครูบาอาจารย์ไปให้อาจารย์ท่านนี้ตรวจสอบว่า ถ้าพวกคุณไม่มั่นใจในพุทธคุณ มอบให้ฉันได้ ฉันยินดีรับมาบูชาต่อ โยมเป็นคนโลภหรือไม่คะหลวงตา

    ขออนุโมทนากับทุกกุศลบารมีใดที่หลวงตาบำเพ็ญถึงแล้ว ขอบารมีนั้นโยมและครอบครัวพร้อมสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ยังเวียนว่ายตายเกิดพึงได้เช่นกัน สาธุ...
    <!-- / message -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR vAlign=bottom><TD>[​IMG]</TD><TD> </TD><TD width="100%">วัดถ้ำเมืองนะ จังหวัดเชียงใหม่ > หมวดธรรมะศึกษา > ธรรมะครูบาอาจารย์ </TD></TR><TR><TD class=navbar style="FONT-SIZE: 10pt; PADDING-TOP: 1px" colSpan=3>[​IMG] ประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร </TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://watthummuangna.com/board/showthread.php?p=20045#post20045

    ผมเองก็กำลังรอคำตอบเช่นกัน

    ผมรู้แต่เพียงว่า อาจารย์ท่านนี้ รู้จักและเห็นหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร มา 50 ปีแล้ว น่าจะมากกว่าอายุคุณไหมฟ้าครับ

    และก็แล้วแต่คุณไหมฟ้า จะคิดเห็นอย่างไร เพียงแต่จะเตือนไว้เรื่องการปรามาสกับบุคคลที่............... ผมถือว่าผมได้เตือนแล้วครับ

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2007

แชร์หน้านี้

Loading...