ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ข้อความสื่อสารจาก Archangle Metatron

โดย...Tyberonn

The Dec 3rd Planetary Alignment! Astonishing- 25,920 - Mayan Cycle
ที่มา ...The Dec 3rd Planetary Alignment! Astonishing- 25,920 - Mayan Cycle > Earth Keeper

Saturday, 1 December, 2012 (posted 3 December, 2012)

มันจะมีการเรียงตัวของดวงดาวที่น่าสนใจมากเกิดขึ้นในวันที่ 3 ธันวาคม 2012 นี้
นักโหราศาสตร์และนักดาราศาสตร์บางท่านเชื่อว่ามันคือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆและทรงคุณค่ายิ่ง
และเป็นตำแหน่งดาวเคราะห์ที่อยู่เหนือ Pyramids แห่งเมือง Giza อย่างสวยงามอย่างที่สุดอีกด้วย
แม้ว่ามันจะดูเหมือนความขัดแย้งบางอย่างเกิดขึ้นกับปรากฏการณ์ที่เกิดได้ยากยิ่งเช่นนี้
แต่แม้กระนั้นมันก็ค่อนข้างทรงพลังและถูกเวลาอย่างแท้จริงทีเดียว

การเรียงตัวในวันที่ 3 ธันวาคมนี้ คือ รหัสสำคัญ
เป็นย่างก้าวที่พวกเราเริ่มนับถอยหลังเข้าสู่การเลื่อนระดับในวันที่ 12-12-12
สิ่งมากมายกำลังเกิดขึ้น และ การเรียงตัวในวันที่ 3 นี้ เป็นการเตรียมการณ์ดาวโหลดขึ้นบนโลกจริงๆ
ที่ไม่เพียงส่งผลแต่ที่เมือง Giza เท่านั้นแต่มันส่งผลให้กับโลกทั้งโลก
ในขณะที่เมือง Giza รวมทั้ง Easter Island และ Arkansas
ก็จะทำหน้าที่ป้อนพลังงานไปยังประตูวอร์เท็กซ์พลังงานต่างๆทั้งหมดอีกด้วย



ท้องฟ้ายามค่ำคืนในเมือง Giza ประเทศ Egypt ในวันที่ 3 ธันวาคม 2012 นี้
เทียบกับเวลาตามท้องถิ่น... 1 ชั่วโมงก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ณ หมู่มหาปีระมิดที่เมืองกิซา
ดาวเคราะห์ที่เรียงตัวกันนี้ นั่นคือ ดาวพุธ ดาวศุกร์และดาวเสาร์

การสายของจุดอิควินอคซ์(Precession of The Equinox)

การสายของจุดอิควินอคซ์อ้างอิงถึง ปรากฏการณ์ในการหมุนครบ1รอบของสวรรค์
ซึ่งจะมีช่วงระยะเวลา(โดยประมาณ) 25,920 ปี/1วงรอบ
ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เกินไปจากเวลาของกลุ่มดาวต่างๆ(ราศี...ผู้แปล) ที่หมุนวนอย่างช้าๆอยู่รอบๆโลก
ทำให้เกิดการสลับตำแหน่งกันกับตำแหน่ง ที่อยู่หลังการขึ้นของดวงอาทิตย์ ในจุดวสันตวิษุวัต(vernal equinox)

การสายของจุดอิควินอคซ = 25,920 ปี = (การหมุนครบรอบ 360°)

ถ้าท้องฟ้าถูกแบ่งออกเป็น 12 กลุ่มดาว(12 ราศี...ผู้แปล) : (25,920 / 12 = 2,160)

.......................................................

Note : ดวยเหตุที่แกนเอียงของโลกมีการส่ายด้วยคาบเวลา 25,920 ปตอรอบ
ทําใหจุดต่างๆบนแผนที่เปลี่ยนไปรวมทั้งจุดุ Equinox และ Solstice ดวย

Equinox คือปรากฏการณ์ที่แสงจากดวงอาทิตย์ตั้งฉากกับเส้นศูนย์สูตรพอดี
ทำให้เกิดกลางวันกลางคืนที่ยาวเท่ากัน ปีนึงจะเกิดสองหน คือ March equinox และ September equinox
ซึ่งปรากฏการณ์นี้จะเป็นจุดแบ่งฤดูกาลของซีกโลกเหนือและใต้โดย

Vernal Equinox = วสันตวิษุวัต หมายความว่า จุดที่มีกลางวันและกลางคืน เท่ากันในฤดูใบไม้ผลิ

Autumnal Equinox = ศารทวิษุวัต หมายความว่า จุดที่มีกลางวันและกลางคืนเท่ากันในฤดูใบไม้ร่วง

เมื่อแกนโลกส่าย จุดการตั้งฉากนี้จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
และวันที่ชวงเวลากลางวันเท่ากับกลางคืนก็จะเปลี่ยนไป
เราจึงเรียกปรากฏการณนี้ว่า การส่ายของอิควินอคซ (Precession of the equinox) ....ผู้แปล

........................................................

ความเร็วแสง

ความเร็วแสงในสภาพสุญญากาศ คือ 300,000 กิโลเมตร/วินาที
ดังนั้นแสงในวันหนึ่งๆของระบบสุริยะ(ในตอนกลางวัน..ผู้แปล)จะครอบคลุมถึง 25,920 ล้านกิโลเมตร


การหมุนรอบดวงอาทิตย์ของโลก

โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ด้วยความเร็ว 30 กิโลเมตร/วินาที
และมันครอบคลุมถึง 2592000 กิโลเมตร/วัน
นับเป็นร้อยๆครั้งมากกว่าจำนวนปี่ของเอกภพอันยิ่งใหญ่เสียอีก

เส้นผ่าศูนย์กลางของดวงอาทิตย์

ตัวเลขศักดิ์สิทธิ์ 33.333333333 x 25,920 = 864,000
ซึ่งเท่ากับ ขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลางของดวงอาทิตย์ ในมาตรวัดเป็นไมล์

รัศมีของดวงจันทร์

25,920 หารด้วย 24 จะได้ = 1080 miles ที่เป็นขนาดรัศมีของดวงจันทร์

และถ้าจะพิจารณากันต่อไป....

จากเวลา 11:11นาฬิกา ในวันที่ 3 ธันวาคม 2012 ถึง 11:11นาฬิกาในวันที่ 21 ธันวาคม 2012
มีระยะห่างทั้งหมด 25,920 นาที

ในวันที่ 3 ธันวาคม 2012 เวลา 11.00 นาฬิกา ตามเวลามาตรฐานกรีนิช (GMT)
จะเกิดการเรียงตัวกันของของดาวเสาร์ ดาวศุกร์ และ ดาวพุธ
ที่ตรงพอดีกับตำแหน่งเหนือยอดปีระมิดทั้งสมของหมู่มหาปีระมิด ในเมืองกิซา ประเทศอียิปต์

25,920 คือ ตัวเลขที่น่าสนใจและเป็นตัวเลขที่ทรงพลังยิ่ง
มันน่ามหัศจรรย์ไหมล่ะ? ... กับสัดส่วนที่สมมาตรกันดังกลาวนั้น !

 

สวัสดีค่ะ ขออนุญาตถามค่ะ

เราสามารถหลุดออกจากมายาการของกาลเวลาได้อย่างไรคะ
และเราสามารถเข้าถึงการเป็นตัวตนหลากมิติได้อย่างไร

ขอความคิดเห็นจากหลายๆ ท่าน ไม่จำกัดค่ะ

ปล.ไม่แน่ใจว่าคุณ Mead เขียนชื่อสลับกันหรือป่าวคะ?

 

คุณ animal will do หมายถึงการเข้าสู่มิติอื่นๆด้วยไหมค่ะ

เคยอ่านเจอแล้วลองฝึกวิธีเข้าสู่มิติอื่นๆ จากหนังสือชุดของท่านโนวา อนาลัยค่ะ
เดี๋ยวจะไปหาบทความนั้นมาให้ค่ะ

ตอนที่อ่านเสร็จแล้วลองฝึกนั้น ตอนนั้นไม่ค่อยตั้งใจ จึงไม่เห็นผล
แต่หลังจากนั้น ช่วงเวลาที่ได้อยู่นิ่งๆเงียบๆ เผลอๆก็ลองทำแบบไม่ตั้งใจมาก
ปรากฏว่าได้ผลค่ะ หลุดเข้าในมิติอื่นได้จริงๆ แต่มิติที่ดิฉันเข้าไปไม่ได้
เป็นอียิปต์โบราณ หรือฉากหรูๆอย่างที่คนอื่นๆเค้าเขียนถึง
ก็เป็นฉากเหมือนเวลาเราฝันธรรมดาๆน่ะค่ะ
จำรายละเอียดไม่ได้ แต่ก็เป็นเรื่องราวธรรมดาเหมือนตอนที่เราฝันทั่วๆไป
หลุดเข้าไปได้ ครั้ง สองครั้ง ตอนที่เผลอค่ะ ตอนตั้งใจจริงๆยังเข้าไม่ได้สักที

 

จะว่าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ พอดีข้อความของชาว Aucturians ข้อความต่อไปได้กล่าวถึงใว้มาก

เรามีหนังสืออยู่ค่ะ เล่มไหนคะ พอดียังอ่านไม่หมดจะได้ข้ามไปอ่านก่อน
แต่ถ้าคุณ PARINDA MAI อยากจะพิมพ์ให้คนอื่นอ่านด้วยก็คงดีค่ะ
(หรือถ้าไม่สะดวกให้เราพิมพ์ให้ก็ได้ค่ะ)

ขอบคุณค่ะ :d

 

ข้อความข้างล่างนี้้น่าจะพอไปกันได้กับเรื่องการเข้าถึงตัวตนหลากมิตินะครับ
มันมีหลายข้อความต่อเนื่องกัน ผมยกมาให้อ่านอันแรกนะครับ ถ้าคุณสนใจก็เข้าไปอ่านต่อ
ได้เลยหน้า 307 เริ่มที่ความคิดเห็นที่ 6133 ต่อเนื่องไปจนถึง ความเห็นที่ 6139

 

คุณ animal will do คะ

น่าจะเป็นเล่ม….โลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ (ภาคต้น)
บทฝึกฝนที่ 3 : การปรับระบบชีวภาพและภาวะจิต หน้า 150
บทฝึกฝนที่ 4 : การปรับคลื่นเพื่อรับสัญญาณส่วนบุคคล หน้า 153

ดิฉันกำลังอ่านทวน แต่ต้องค่อยๆอ่าน เพราะหนังสือชุดนี้อ่านยากมากๆ
คุณ animal will do ลองอ่านไปพร้อมๆกันนะคะ ว่าใช่ที่เราหาหรือปล่าว

ถ้าอย่างไรคุยกับดิฉันทาง facebook ก็ได้ค่ะ ชื่อเฟส..... ปริญดา มัย ......
สำหรับหน้าเฟสเชิญทุกท่านเข้าไปคุยได้นะคะ

 

สลับกันจริงๆด้้วยล่ะครับ สงสัยจะตาลายไปหน่อยน่ะ
แต่ไม่ว่าจะชื่ออะไรเราทุกคนที่นี่ก็เหมือนเป็นหนึ่งเดียวกันอยู่แล้วนะครับ

วันนี้เป็นวันมงคลอีกวันหนึ่งของชาวไทยที่น่าปลาบปลื้มที่สุด
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานครับ

 

ความรักคือประตูของคุณเพื่อการเลื่อนระดับ

การยกระดับการสั่นสะเทือนของคุณมาจากการเปิดหัวใจของคุณ

คุณสามารถเปิดหัวใจของคุณได้ด้วยความรักตัวเอง

รักทุกส่วนของตัวเองแม้บางส่วนจะเป็นเชิงลบ

ถ้าคุณรู้สึกว่าโกรธหรือมีข้อสงสัยให้รักความรักรู้เหล่านั้น

ให้เท่ากับความรู้สึกเวลาคุณมีความสุขและความสงบ

รักมนุษยชาติเช่นเดียวกับคุณรักพระเจ้าของคุณ

รักความไม่มั่นคงและความรู้สึกเชิงลบของคุณ

รักสิ่งที่คุณเรียกว่า”ความไม่สมบรูณ์”

คุณจะไม่สามารถเปลี่ยนสิ่งต่างๆนั้นได้โดยการปฏิเสธหรือเกลียด

รักความคิดของคุณทั้งหมดแม้กระทั่งความคิดที่ถูกจำกัดหรือกลัว

คิดเสียว่าความคิดนั้นเป็นเด็กเล็กๆที่ต้องการความรักและการดูแลจากคุณ

อย่าคิดว่าความคิดด้านลบเป็นสิ่งไม่ดี รักความคิดด้านลบของคุณ

แล้วคุณจะมีอำนาจเหนือความคิดเหล่านั้น

คุณสามารถรักความรู้สึกเชิงลบของคุณและทำให้เกิดการสั่นสะเทือน

และยกความรู้สึกนั้นออกจากข้อจำกัดด้วยแสงแห่งความรัก

หรือคุณสามารถเกลียดชังและต่อต้าน ซึ่งจะทำให้ความรู้สึกเหล่านั้น

มีอำนาจเหนือคุณยิ่งขึ้น รักความเป็นมนุษย์ของคุณ รักการอยู่ที่นี่

แล้วความรักของคุณก็จะพัฒนาขึ้นเท่าที่คุณรักความรู้สึกด้านลบมากขึ้น

คุณจะขยายโลกและจะมีทางเลือกที่หลากหลายส่งมาให้กับคุณ

 

(ตอนต่อจากข้อความที่ 6446 หน้าที่ 323)

TRIP TO THE MOTHERSHIP PART XII

MYTRE AND KEPIER 7

By Suzanne Lie – DECEMBER 2, 2012
http://suzanneliephd.blogspot.co.uk/

Releasing the Habit of Time

Kepier and I had been working with the same 4D visitors for quite a while, when something very special occurred. The Arcturian came to speak with the visitors. Without ceremony or introduction, the Arcturian spoke in its usual, loving way, “The reality in which you have ascended into the fifth dimension already exists. Therefore, there is no chance of your failure.

Kepier และผมทำงานร่วมกับผู้มาเยือนมิติที่สี่เหมือนกันชั่วเวลาหนึ่ง, เมื่อมีบางอย่างที่พิเศษมากเกิดขึ้น. ชาวอาร์คทูเรี่ยนมาพูดกับผู้มาเยือน. อย่างไม่เป็นทางการหรือได้รับการแนะนำ, ชาวอาร์คทูเรี่ยนพูดตามปกติในหนทางที่น่ารัก, “ความเป็นจริงที่คุณได้ยกระดับเข้าสู่มิติที่ห้ามีอยู่แล้ว. ดังนั้น, ไม่มีโอกาสที่คุณจะล้มเหลว”.

“We Arcturians see no separation between that reality and the one you believe you are living. Therefore, all you need do is shift your perception into the frequency of your Multidimensional SELF who is aligned with that ascended reality. You are experiencing a lifetime in which you believe you are ascending in a step-by-step manner.

พวกเราชาวอาร์คทูเรี่ยนมองไม่เห็นการแบ่งแยกระหว่างความเป็นจริงนั้น และคนที่คุณเชื่อว่าคุณกำลังใช้ชีวิต. ดังนั้น, ทั้งหมดที่คุณต้องทำก็คือยกระดับการรับรู้ของคุณเข้าสู่ความถี่ของตัวตนหลากมิติของคุณ ผู้ที่อยู่ในความเป็นจริงที่ยกระดับนั้น. คุณกำลังมีประสบการณ์ในช่วงชีวิตที่คุณเชื่อว่าคุณกำลังยกระดับในหนทางที่เป็นทีละขั้นทีละขั้น.

“We have come to you in your NOW to inform you that you can simply shift your attention to the ascended reality in which you already live. It is not your challenge to change your world. Your challenge is to change your own beliefs. Your long journey through the physical realm has taught you that change is an extended, sequential process. However, all change into the higher worlds is immediate.

พวกเรามาสู่คุณในขณะนี้ของคุณเพื่อให้ข้อมูลแก่คุณว่า คุณสามารถยกระดับความใส่ใจของคุณอย่างง่ายๆเพื่อยกระดับความเป็นจริงที่มีชีวิตอยู่แล้ว. มันไม่ใช่ความท้าทายของคุณที่จะเปลี่ยนแปลงโลกของคุณ. ความท้าทายของคุณก็คือการเปลี่ยนความเชื่อของคุณ. การเดินทางอันยาวไกลของคุณผ่านอาณาจักรทางกายภาพได้สอนคุณให้รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงได้ขยายออกไป, เป็นกระบวนการตามลำดับขั้น. อย่างไรก็ตาม, การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดเข้าสู่โลกที่สูงกว่าจะเป็นในทันทีทันใด.

“We, your Galactic Ancestors, have also taken physical incarnations. Therefore, we understand that shifting back into the fifth dimension is not easy. We did not wish to take an earth vessel during this “Earth time,” as we knew that we could be more helpful from our true Expression. However, we wanted to intimately participate in Gaia’s ascension. Therefore, we have implanted our Galactic and/or Celestial Essence within the core of your human expression.


พวกเรา, บรรพบุรุษชาวแกแลกติกของคุณ, ได้มาเกิดทางกายภาพเช่นเดียวกัน. ดังนั้น, พวกเราเข้าใจว่าการยกระดับกลับสู่มิติที่ห้าไม่ใช่เรื่องง่าย. พวกเราไม่ปรารถนาจะใช้ร่างกายโลกใน ”เวลาของโลก”, เนื่องจากพวกเรารู้ว่าพวกเราจะมีประโยชน์มากกว่าจากการแสดงออกที่แท้จริงของพวกเรา. อย่างไรก็ตาม, พวกเราต้องการมีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดในการยกระดับของไกอา. ดังนั้น, พวกเราจึงได้ปลูกฝังสาระสำคัญของชาวแกแลกติกและ/หรือชาวดวงดาวของพวกเรา เข้าไปในแก่นของการแสดงออกของความเป็นมนุษย์ของคุณ.

“During our experience of physical incarnations, we were also “trapped in time.” Because of our experience, we know how difficult it is to escape that illusion. The secret is, instead of focusing on the step-by-step shift of your sequential world; focus on changing your mind and your beliefs.

ระหว่างที่พวกเรามีประสบการณ์ของการเกิดทางกายภาพ, พวกเราก็ติดอยู่ในกับดักของเวลาเช่นเดียวกัน. จากประสบการณ์ของพวกเรา, พวกเรารู้ว่ามันยากแค่ไหนที่จะหนีออกจากมายาการนั้น. ความลับก็คือ, แทนที่จะให้ความใส่ใจไปที่การยกระดับทีละขั้นทีละชั้นของโลกตามลำดับของคุณ; ให้ใส่ใจไปที่การเปลี่ยนแปลงในจิตใจของคุณและความเชื่อของคุณ.

“We realize that your measured ascension process has allowed you to gradually adjust your thinking out of the “3D time-trap” and into a new way of perceiving reality. We tell you NOW to release that prop. During your myriad earthly incarnations, you formed the habit of believing that which you needed to tell yourself to avoid being afraid. Unfortunately, this meant that you where not telling yourself the TRUTH.

พวกเรารู้ว่ากระบวนการวัดค่าการยกระดับของคุณ ได้อนุญาตให้คุณค่อยๆปรับความคิดของคุณออกจากกับดักเวลาของมิติที่สาม และเข้าสู่หนทางใหม่ของการรับรู้ความเป็นจริง. พวกเราขอบอกคุณในขณะนี้ให้ปลดปล่อยสิ่งค้ำจุนนั้น. ในระหว่างการเกิดนับชาติไม่ถ้วนบนโลก, คุณได้สร้างนิสัยของความเชื่อว่า คุณจำเป็นต้องบอกตัวคุณเองให้หลีกเลี่ยงความกลัว. โชคไม่ดีที่, มันหมายความว่าคุณไม่ได้บอกความจริงกับตัวเอง.

“In order to re-align your consciousness with your SELF who is already ascended, you believed you needed to live the “time” that you believed it would take for you to “deserve” and/or “achieve” this alignment. We tell you NOW that YOU have already deserved and achieved that which you seek. Thus, you no longer need to give yourself time to be good enough to ascend.

เพื่อที่จัดแถวความตระหนักรู้ของคุณใหม่กับให้เข้าตัวตนของคุณที่ยกระดับเรียบร้อยแล้ว, คุณเชื่อว่าคุณจำเป็นต้องใช้ชีวิตอยู่กับเวลาที่คุณเชื่อว่า มันจะพาให้คุณสมควรได้รับและหรือบรรลุการปรับตัวในครั้งนี้. พวกเราขอบอกคุณในขณะนี้ว่าคุณสมควรได้รับอยู่แล้วและบรรลุอยู่แล้วในสิ่งที่คุณหา. ดังนั้น, คุณไม่จำเป็นต้องให้เวลากับตัวคุณเองเพื่อให้ดีพอสำหรับการยกระดับอีกต่อไป.

“How can you fail at something which you have already done? You do not need to create a ladder into the fifth dimension, which you can slowly climb, rung-by-rung. Of course, you can choose to retain that third dimensional thinking. However, as with all third dimensional thinking, the ladder is an illusion you created that is consistent with your third-dimensional, sequential thinking.


คุณจะล้มเหลวในสิ่งที่คุณทำสำเร็จไปแล้วได้อย่างไร? คุณไม่จำเป็นต้องสร้างบันไดเข้าสู่มิติที่ห้า, ที่คุณสามารถปีนขึ้นไปได้อย่างช้าๆ, ทีละขั้นทีละขั้น. แน่นอน, คุณสามารถเลือกที่จะรักษาความคิดในแบบสามมิตินั้นไว้. อย่างไรก็ตาม, กับการคิดแบบมิติที่สามทั้งหมด, บันไดก็คือมายาการที่คุณสร้างขึ้นมา ซึ่งเหมาะกับมิติที่สามของคุณ, การคิดแบบตามลำดับ.

“Therefore, it is not your greatest challenge to change your reality. Your greatest challenge is to change your thinking! In order to change your thinking, you will have to find your way out of the “trap of time.” Through all your third/fourth dimensional realities you have been trapped in time. It took time to grow into an adult. It took time to learn what you needed to know. And, it took time to get where you were going.

ดังนั้น, มันไม่ใช่ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของคุณที่จะเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงของคุณ. ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของคุณก็คือการเปลี่ยนแปลงวิธีคิดของคุณ! เพื่อที่จะเปลี่ยนความคิด, คุณจะต้องหาหนทางของคุณออกจากกับดักของเวลา. ผ่านความเป็นจริงมิติที่สาม/สี่ทั้งหมดที่คุณติดกับดักอยู่ในเวลา. มันต้องใช้เวลาในการเติบโตเป็นผู้ใหญ่. มันต้องใช้เวลาในการเรียนรู้สิ่งที่คุณต้องรู้. และมันต้องใช้เวลาเพื่อไปให้ถึงที่ที่คุณกำลังไป.

“Third dimensional time and space are intertwined. Hence, it takes time to move across space. Therefore, you have the habit of believing that you have to wait for something to come to its conclusion. This habit has been exacerbated by your long wait for this long prophesized ‘time of ascension.’

เวลามิติที่สามและอวกาศเกี่ยวพันกันอยู่. ดังนั้น, มันต้องใช้เวลาเพื่อเดินทางข้ามอวกาศ. ดังนั้น, คุณมีนิสัยของความเชื่อที่ว่าคุณจำเป็นต้องรอบางสิ่งสำหรับผลสรุปของมัน. นิสัยนี้มาจากการรอคอยที่ยาวนานของคุณสำหรับเวลาตามคำทำนายเรื่อง ‘เวลาของการยกระดับ’.

“Since you have waited such a long time for this opportunity of personal and planetary ascension, you might think that ascension will take time to occur. In fact, the realization that you could have instantly shifted into your fifth dimensional SELF could make you angry. Why have you been waiting so long for something that has always been there?

เนื่องจากคุณได้รอคอยมาเป็นเวลายาวนานสำหรับโอกาสของการยกระดับส่วนบุคคลและดาวเคราะห์, คุณอาจคิดว่าการยกระดับจะใช้เวลาเพื่อให้เกิดขึ้น. อันที่จริง, ความตระหนักที่ว่าคุณสามารถยกระดับในทันทีเข้าสู่ตัวตนมิติที่ห้าอาจทำให้คุณโกรธ. ทำไมคุณถึงต้องรอคอยแสนนานอย่างนั้นสำหรับบางสิ่งที่มันอยู่ที่นั่นอยู่เสมอ?

“Therefore, we will explain what it is you have really been waiting for. You have not been waiting for the ascension, because that reality has always existed. You have been waiting because you have been trapped in time. In fact, what you have actually been waiting for is the current energy field, which is greatly facilitating your ability to leave the trap of time.

ดังนั้น, พวกเราจะอธิบายว่าจริงๆแล้วคุณกำลังรออะไร. คุณไม่ได้กำลังรอการยกระดับ, เพราะว่าความเป็นจริงนั้นดำรงอยู่เสมอ. คุณจำเป็นต้องรอเพราะว่าคุณติดอยู่ในกับดักของเวลา. อันที่จริง สิ่งที่คุณกำลังรอจริงๆก็คือสนามพลังงานในขณะนี้, ซึ่งได้สร้างศักยภาพให้แก่คุณอย่างมากในการออกจากกับดักของเวลา.

“Once your consciousness has fully absorbed and integrated the high frequencies of light that have been gradually entering your earth vessel, your consciousness will expand beyond the belief in time. Of course, to our galactic perspective, your infusion of light has not been slow, nor has it been sequential. It has been constant and perpetual.

เมื่อความตระหนักรู้ของคุณได้ซึมซับและรวมความถี่ระดับสูงของแสงสว่าง ที่ค่อยๆเข้าสู่ร่างกายของคุณ, ความตระหนักรู้ของคุณจะขยายออกจากความเชื่อในเรื่องเวลา. แน่นอน, ในมุมมองของแกแลกติก, แสงสว่างที่เข้ามาสู่คุณไม่ได้ช้าหรือเป็นแบบตามลำดับ. มันคงที่และยั่งยืน.

“In fact, to our perception, this higher frequency of light that is bathing your reality and your consciousness is the portal of which we have so often spoken. This light is the portal out of time. Your test is not to just to enter this portal and accept this light, but to, also, allow this frequency of light to recode your consciousness.

อันที่จริง, ในมุมมองของพวกเรา, ความถี่ระดับสูงของแสงสว่างนี้ที่กำลังอาบความเป็นจริงของคุณและความตระหนักรู้ของคุณ ก็คือประตูที่พวกเราพูดถึงอยู่เสมอ. แสงสว่างนี้ก็คือประตูออกจากเวลา. การทดสอบของคุณไม่เพียงแค่เข้าสู่ประตูนี้และยอมรับแสงสว่าง, แต่เช่นกันอนุญาตให้ความถี่นี้ของแสงสว่างตั้งรหัสความตระหนักรู้ของคุณใหม่.

“This recoding of your consciousness will expand your consciousness beyond the limitations of past, present and future and into the NOW. As your consciousness fully expands beyond the limitations of time, you will regain your innate ability to simultaneously perceive and interact with more than one reality.

การตั้งรหัสของความตระหนักรู้ครั้งใหม่ของคุณจะขยายความตระหนักรู้ของคุณให้ก้าวล้ำกว่าข้อจำกัดในอดีต, ปัจจุบัน และอนาคต แล้วเข้าสู่ขณะนี้. เมื่อความตระหนักรู้ของคุณขายออกอย่างเต็มที่เหนือข้อจำกัดของเวลา, คุณจะฟื้นคืนศักยภาพดั้งเดิมที่จะรับรู้และมีปฏิสัมพันธ์มากกว่าหนึ่งความเป็นจริงพร้อมๆกัน.

“In other words, you can live your time-bound, gradual “ascension” life concurrently with one, or more, of your expressions of SELF who are already ascended. You can also share your experience of ascension with the expressions of your SELF who have never lowered their frequency into the worlds of polarity.

พูดอีกอย่างหนึ่งได้ว่า, คุณสามารถมีชีวิตที่ผูกพันกับเวลา, ค่อยๆยกระดับชีวิตพร้อมๆกับหนึ่ง, หรือมากกว่า ของตัวตนของคุณที่ได้ยกระดับไปแล้ว. คุณสามารถแบ่งปันประสบการณ์การยกระดับของคุณกับตัวตนของคุณที่ไม่เคยลดระดับความถี่เข้าสู่โลกของความเป็นขั้ว.

“Within this NOW, there are many of your Higher Expressions who are contributing to your ascension by channeling their higher light through you and into Gaia. In other words, even if you are just standing still, or involved in a mundane task, your ever-expanding consciousness provides an open portal through which your Higher Expressions can contribute their great light to Gaia.


ภายในขณะนี้, มีตัวตนระดับสูงของคุณมากมายที่สนับสนุนการยกระดับของคุณ ด้วยการส่งแสงสว่างระดับสูงของพวกเขาเข้าสู่คุณและเข้าสู่ไกอา. พูดอีกอย่างหนึ่งได้ว่า, แม้ว่าคุณจะยังคงยืนหยัด, หรือมีส่วนร่วมในงานทางโลก, ความตระหนักรู้ของคุณที่ขยายออกอยู่ตลอดเวลาจะตระเตรียมการเปิดประตูไปสู่ สิ่งที่ตัวตนระดับสูงของคุณสามารถสนับสนุนแสงสว่างที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขาสู่ไกอา.

“You do not need to do anything to become a portal of light. The mere fact that you are wearing an earth vessel connects you with Gaia. Furthermore, because you have been expanding your consciousness into the higher expressions of your Multidimensional SELF, you are inviting your Higher Expressions to assist both you and Gaia.

คุณไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพื่อให้กลายเป็นประตูของแสงสว่าง. เพียงความจริงเพียงหนึ่งเดียวก็คือคุณกำลังสวมใส่ร่างกายโลกที่เชื่อมต่อคุณกับไกอา. ยิ่งไปกว่านั้น, เนื่องจากคุณได้ขยายความตระหนักรู้ของคุณเข้าสูตัวตนที่สูงกว่าหลากมิติของคุณ, คุณกำลังเชื้อเชิญตัวตนที่สูงกว่าของคุณให้ช่วยเหลือทั้งคุณและไกอา.

“Meanwhile, we see our ascending ones patiently, or impatiently, waiting for the TIME to come in which they can ascend. We see you all preparing and getting ready for your future event. We are saying to you, there is no future. Future is a time-trap. There is only NOW. There is only frequency and resonance.


ในขณะเดียวกัน, พวกเราเห็นผู้กำลังยกระดับของพวกเรารอคอยอย่างอดทนหรือไม่อดทน สำหรับเวลาที่จะมาถึงที่พวกเขาสามารถยกระดับ. พวกเราเห็นคุณทั้งหมดเตรียมตัวและเตรียมความพร้อมสำหรับเหตุการณ์ในอนาคต. พวกเรากำลังบอกกับคุณ, มันไม่มีอนาคต. อนาคตเป็นกับดักของเวลา. มันมีเพียงขณะนี้. มีเพียงความถี่และการสะท้อนหนึ่งเดียว.

“However, the most popular choice of ascension process is the gradual and sequential change into fifth dimensional New Earth. We understand why this is the most popular choice. You have been trapped in third dimensional time for myriad incarnations. Then, when you “died” you were trapped in fourth dimensional time. Fourth dimensional time is more mutable than time in the third dimension, but it is still sequential.

อย่างไรก็ตาม, ทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับกระบวนการยกระดับก็คือค่อยๆเปลี่ยนและเปลี่ยนไปตามลำดับเข้าสู่โลกใหม่มิติที่ห้า. พวกเราเข้าใจว่าทำไมนี่จึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด. คุณติดอยู่ในกับดักของเวลามิติที่สามมานับชาติไม่ถ้วน. เวลามิติที่สี่เปลี่ยนแปลงไปมากกว่าเวลาในมิติที่สาม, แต่ก็ยังคงเป็นแบบตามลำดับ.

“Therefore, in order to comfort your innate 3D fear of a timeless unknown, you have developed the belief that ascension takes time. Then, you can gradually accustom yourself to a new way of thinking. Since what you think will happen is what you will create, you will create a slow, gradual ascension. However, since ascension into the fifth dimension and beyond takes you beyond all confines of time, the actual ascension can only be instant.

ดังนั้น, เพื่อที่จะทำให้ความกลัวแบบสามมิติเกี่ยวกับความไม่รู้เรื่องการไร้เวลาของคุณรู้สึกสบาย, คุณได้พัฒนาความเชื่อที่ว่าการยกระดับใช้เวลา. จากนั้นคุณก็ค่อยๆทำตัวให้คุ้นเคยกับการคิดในแบบใหม่. เนื่องจากสิ่งที่คุณคิดจะเกิดขึ้นจากสิ่งที่คุณสร้าง, คุณจะสร้างการยกระดับอย่างค่อยเป็นค่อยไป. อย่างไรก็ตาม, เนื่องจากการยกระดับเข้าสู่มิติที่ห้าและเหนือกว่านำคุณไปเหนือกว่าขีดจำกัดทั้งปวงของเวลา, การยกระดับจริงๆจะเป็นเพียงชั่วกระพริบตาเท่านั้น.

“We do not want to interfere with your choice of ascension. In fact, we greatly admire and support your logical manner of creating ascension. Choosing to slowly and sequentially transition out of a life that you have always believed was REAL and into another life, which you were told was NOT real, keeps your consciousness above fear.

พวกเราไม่ต้องการแทรกแซงทางเลือกในการยกระดับของคุณ. อันที่จริง, พวกเราชื่นชมและสนับสนุนอย่างมากในหนทางการสร้างการยกระดับอย่างมีเหตุผลของคุณ. การเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆและตามลำดับออกจากชีวิตที่คุณเชื่ออยู่เสมอว่าเป็นความจริงเข้าสู่ชีวิตอื่น, ที่คุณได้รับการบอกว่าไม่จริง, รักษาความตระหนักรู้ของคุณให้อยู่เหนือความกลัวไว้.

“You are creating your ascension. Leaving time will be your greatest adjustment. Therefore, choosing to “take time” to ascend affords you an opportunity to “take time” to change your beliefs. Once your belief is changed, you will instantly ascend. Therefore, you may think that it is taking time to ascend. However, ascension is not about time.


คุณกำลังสร้างการยกระดับของคุณ. การออกจากเวลาจะเป็นการปรับตัวครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของคุณ. ดังนั้น, การเลือกที่จะใช้เวลาเพื่อยกระดับ ได้ให้โอกาสคุณในการใช้เวลาเพื่อเปลี่ยนความเชื่อของคุณ. เมื่อความเชื่อของคุณเปลี่ยน, คุณจะยกระดับในทันที. ดังนั้น, คุณอาจคิดได้ว่ามันใช้เวลาในการยกระดับ. อย่างไรก็ตาม, การยกระดับไม่เกี่ยวข้องกับเวลา.

“Ascension is about the shift into your higher frequency of Multidimensional SELF. This shift will be instant. However, it may take you time to release your belief in TIME. You have long survived on your belief systems. Through myriad incarnations, you sought a belief that would bring you comfort in a reality that was fearful and constantly fraught with danger.

การยกระดับเกี่ยวข้องกับการยกระดับเข้าสู่ความถี่ที่สูงกว่าของตัวตนหลากมิติของคุณ. การยกระดับนี้จะเป็นแบบทันทีทันใด. อย่างไรก็ตาม, มันอาจต้องใช้เวลาเพื่อปลดปล่อยความเชื่อเกี่ยวกับเวลาของคุณ. คุณเอาตัวรอดมาอย่างยาวนานในระบบความเชื่อของคุณ. ผ่านการเกิดนับชาติไม่ถ้วน, คุณแสวงหาความเชื่อที่อาจทำให้คุณรู้สึกสบายในความเป็นจริง ที่เต็มไปด้วยความกลัวและเต็มไปด้วยอันตราย.

“Dear ascending ones, we support whatever form of ascension you choose to create. We are here within your NOW to inform you of your ability to choose an instant ascension. On the other hand, changing your belief systems about ascension can take time.


ที่รักแห่งการยกระดับทั้งหลาย, พวกเราสนับสนุนทุกๆรูปแบบของการยกระดับที่คุณเลือกจะสร้าง. พวกเราอยู่ที่นี่ภายในขณะนี้ของคุณเพื่อให้ข้อมูลแก่คุณ เกี่ยวกับความสามารถที่จะเลือกการยกระดับในทันทีทันใด. ในอีกด้านหนึ่ง, การเปลี่ยนระบบความเชื่อของคุณเกี่ยวกับการยกระดับต้องใช้เวลา.

“Once your beliefs in the separation and limitation that time represents are released, your ascension can be an instant return to your Multidimensional SELF. Instead, you will be choosing which frequency of your Multidimensional SELF to whom you wish to resonate. This choice will instantly expand into how many expressions of your SELF are you going to simultaneously resonate?


เมื่อความเชื่อของคุณในการแบ่งแยกและข้อจำกัดที่เวลาแสดงออกมาได้รับการปลดปล่อย, การยกระดับของคุณจะกลับไปสู่ตัวตนหลากมิติในทันที. แทนที่คุณจะเลือกความถี่ของตัวตนหลากมิติของคุณไปสู่ผู้ที่คุณปรารถนาจะสะท้อน. ทางเลือกนี้จะขยายออกในทันที เข้าไปสู่ตัวตนจำนวนมากมายของตัวคุณเอง จำนวนเท่าไหร่หละที่คุณต้องการที่จะสะท้อนพร้อมๆกัน?

“In fact, you can choose to retain your connection with your earth vessel while you, also, expand your consciousness into one or more higher expressions of your SELF. Your choice may take time, but your ascension will be instant.”

อันที่จริง, คุณสามารถเลือกที่จะรักษาการเชื่อมโยงกับร่างกายโลกของคุณในขณะที่คุณ, ขยายความตระหนักรู้ของคุณเข้าสู่หนึ่งหรือมากกว่าตัวตนระดับสูงของคุณ. ทางเลือกของคุณอาจใช้เวลา, แต่การยกระดับของคุณจะเป็นในทันที.

With that final sentence the Arcturian beamed away. I was surprised, and happy to see that a few of the Visitors beamed away with the Arcturian. Then, a few more beamed off, then even more decided that they were ready to release their belief in time!

หลังจากประโยคสุดท้ายชาวอาร์คทูเรี่ยนก็หายตัวไป. ผมแปลกใจ, และมีความสุขที่ได้เห็นว่าผู้มาเยือนสองสามคนได้หายตัวไปพร้อมกับชาวอาร์คทูเรี่ยน. จากนั้นอีกสองสามคนส่องแสงออกมามากขึ้น, จากนั้นคนมากขึ้นได้ตัดสินใจว่า พวกเขาพร้อมจะปลดปล่อยความเชื่อของพวกเขาในเรื่องเวลา!

ด้วยรักที่ไม่มีเงื่อนไข ขอบคุณครับ
(ตอนต่อไปข้อความที่ 6483 หน้าที่ 325)

 

[VDO]<object width="560" height="315"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/3boqddWaF1g?version=3&amp;hl=th_TH"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/3boqddWaF1g?version=3&amp;hl=th_TH" type="application/x-shockwave-flash" width="560" height="315" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>[/VDO]

Global UNITY Moment
On December 12, 2012 at exactly the same moment,
the entire world will be uniting in a global meditation to uplift humanity
and bring about a positive shift as we enter a new age.

วันที่ 12/12/12 นี้ ภายในเวลาเดียวกันทั่วโลก คนทั้งโลกจะร่วมใจกันเป็นหนึ่งเดียว ในการทำสมาธิหมู่เพื่อยกระดับมนุษยชาติ
และเพื่อนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในขณะที่เราเข้าสู่ยุคใหม่

ขอเชิญชวนชาวไทยร่วมทำสมาธิไปกับคนทั้งโลกและสัมผัสถึงพลังแห่งความเป็นหนึ่งเดียวของมวลมนุษยชาติ
ถ้าคำนวณเวลาไม่ผิด ประเทศเราน่าจะเริ่มทำสมาธิตอน 1 ทุ่มครึ่งค่ะ

ติดตามรายละเอียดและข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บ THE MASTER SHIFT
มีทั้ง Facebook และ Twitter ค่ะ

เวลาเพียงแค่ 30 นาทีที่เราร่วมกัน เราสามารถเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบได้
And the WORLD will be as ONE.

 

ขอตอบคุณ animal will do อีกครั้งให้ตรงคำถามนะคะ

การที่เราจะสามารถหลุดออกจากมายาของเวลาได้
เราต้องรู้ได้เสียก่อนว่าจริงๆแล้ว ทุกอย่างมีแต่ขณะนี้
ไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต มีแต่เดี๋ยวนี้
และ….เมื่อสามารถรู้ได้เราต้องเชื่อให้ได้ก่อน
หลายท่านก็คงบอกว่า ก็ฉันเชื่อแล้วนิ พวกฉันรู้เรื่องปัจจุบันขณะมาตั้งนานแล้ว
ใช่…พวกเรารู้แต่พวกเรายังไม่สามารถเชื่อโดยสนิทใจได้
พวกเราใช้ชีวิตอยู่กับม่านเวลามานานเราจึงยากที่จะถอนตัวอย่างฉับพลัน
เหมือนกับที่เรารู้ว่า…ถ้าเราเชื่อว่าเราบินได้ เราก็จะบินได้ นั่นหละ….
แต่พวกเราก็ยังบินไม่ได้กันใช่ไหม ทั้งๆที่เราเชื่อว่าหลักการนั้นเป็นจริง
ที่พวกเรายังบินไม่ได้เพราะเรายังผูกพันกับความเชื่อเก่าๆ
แต่สังเกตพวกลูกนกไหมคะ พวกเค้าเกิดมาเค้าก็เห็นพ่อแม่เค้าบิน
พวกเค้าไม่เคยคิดเกี่ยวกับว่าจะบินได้ไม่ได้ พวกเค้ารู้แต่ว่าพวกเค้าบินได้
พวกเค้าเลยบินได้ไวกว่าพวกเรา
เพราะพวกเค้าไม่ต้องมานั่งลังเลว่าตรูจะบินได้หรือไม่ได้หว่า…


สรุปว่าเรายังไม่สามารถออกจากม่านพรางของเวลาได้
เพราะเรายังเคยชินกับความคิดแบบมนุษย์ว่าทุกอย่างต้องอย่างต้องฝึกฝน
ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป ทุกอย่างต้องใช้เวลา
เพราะพวกเราคิดเช่นนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเราจึงเป็นเช่นนั้น
เพราะฉะนั้นถ้าเรายังไม่สามารถหลุดออกจากม่านเวลาได้อย่างฉับพลัน
ก็ปล่อยมันไปก่อนก็ได้ค่ะ เพียงแต่รู้ว่า จริงๆแล้ว มันไม่มีเวลา เท่านั้นไว้ก่อนก็ได้
ในทางกลับกัน ดิฉันรู้เสมอว่า ถ้าดิฉันเชื่อดิฉันจะบินได้ แต่ดิฉันก็วางสิ่งนั้นไว้ก่อน
เพราะดิฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนความเชื่อได้อย่างฉับพลัน
จึงไม่ได้ใช้เวลาไปทดลองหัดบินสักเท่าไหร่ (นอกจากในความฝัน)
อย่างที่ MYTRE บอกในโพสล่าสุด ของคุณ Mr empty

ความสามารถที่จะเลือกการยกระดับในทันทีทันใด
หรือการยกระดับที่ต้องใช้เวลา

ตัวดิฉันคงเป็นอย่างที่ MYTRE บอกต้องใช้เวลา แต่มันไม่น่าจะกังวลมากนี่คะ
เพราะเวลาที่พวกเราเชื่อก็วันที่ 21-12-2012 ไงล่ะคะ


ส่วนการเข้าถึงตัวตนหลากมิติได้อย่างไรนั้น
หลังจากที่ได้อ่านโพสล่าสุดของคุณ Mr empty
จึงได้มั่นใจว่า ถ้าเราออกจากม่านพรางของเวลาได้เมื่อไหร่
เราก็จะเข้าถึงตัวตนหลากมิติได้ทันที
……………………………………………….

ดังนั้น พวกเราจะอธิบายว่าจริงๆแล้วคุณกำลังรออะไร.
คุณไม่ได้กำลังรอการยกระดับ
เพราะว่าความเป็นจริงนั้นดำรงอยู่เสมอ.
คุณจำเป็นต้องรอเพราะว่าคุณติดอยู่ในกับดักของเวลา.
อันที่จริง สิ่งที่คุณกำลังรอจริงๆก็คือสนามพลังงานในขณะนี้
ซึ่งได้สร้างศักยภาพให้แก่คุณอย่างมากในการออกจากกับดักของเวลา

เมื่อความเชื่อของคุณในการแบ่งแยก
และข้อจำกัดที่เวลาแสดงออกมาได้รับการปลดปล่อย
การยกระดับของคุณจะกลับไปสู่ตัวตนหลากมิติในทันที
…………………………………………………….

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากท่านซาลูซ่า แห่ง The Galactic Federation

ผู้รับสาส์น : Mike Quinsey
ที่มา : Galactic Channelings - English

SaLuSa, December 5, 2012

With only days to go to the first part of your experience of a powerful upliftment, we urge you to try and arrange to be free on the 12th. and able to relax and enjoy it. As a key moment in your Ascension process, it is one to be totally aware of and remembered for the intensity of the energy. It is not that every person will have an identical experience, but if you are prepared for it you will be left with some memory of the changes within. Some of you will wake up from your sleep before 11.11 Universal time, and will be able to have full awareness of what is taking place. Others will sleep through it, yet may have vivid dreams when the energies are at work. However, all will receive the energies and benefit from them regardless of their conscious state at the time.

อีกเพียงไม่กี่วันก็จะถึงส่วนแรกของประสบการณ์ของคุณของการยกระดับอย่างทรงพลัง, พวกเราสนับสนุนให้คุณพยายามและทำตัวให้ว่าง ในวันที่ 12 ธันวาคม และสามารถผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับมัน. ซึ่งมันเป็นชั่วขณะที่เป็นกุญแจในกระบวนการยกระดับของคุณ, มันเป็นชั่วขณะหนึ่งที่ได้รู้เกี่ยวกับการยกระดับได้อย่างเต็มที่ และสามารถจดจำความแรงกล้าของพลังงานได้. มันไม่ใช่ทุกคนที่จะมีประสบการณ์เฉพาะแบบนี้, แต่ถ้าหากคุณเตรียมตัวสำหรับมัน คุณจะจากไปพร้อมกับความทรงจำบางอย่างของการเปลี่ยนแปลงในภายใน. พวกคุณบางคนจะตื่นจากความหลับใหลก่อนวันที่ 11/11 ของเวลาจักรวาล, และจะสามารถมีความตระหนักรู้อย่างเต็มที่ของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น. คนอื่นๆจะหลับใหลผ่านมัน, อาจมีความฝันที่สดใสเมื่อพลังงานทำหน้าที่ของมัน. อย่างไรก็ตาม, ทุกๆคนจะได้รับพลังงานและได้รับประโยชน์จากมัน โดยไม่คำนึงถึงสถานะของความตระหนักรู้ของพวกเขาในเวลานั้น.

To have Ascension follow on so quickly after 12.12. means that you will have an ongoing experience, that will heighten your senses and leave you in no doubt that you have benefitted from it. It will be a most uplifting occasion and there will be a new mood of happiness and joy within those you meet. You will be able to feel the difference in people around you, and sense a deeper calmness and peace as if suddenly all the darkness has gone. It will show in peoples eyes as after all it is the seat of the soul, and love will beam out more powerfully than you have noticed previously. The stresses of life will diminish to be replaced by a beautiful relaxed feeling, as though you do not have a care in the world and that Dear Ones is how we want you to be. The trouble and strife associated with your normal life, will gradually be eliminated by the changes that are in hand.

เพื่อให้การยกระดับตามติดไปอย่างรวดเร็วหลังจากวันที่ 12/12 ในหนทางที่คุณจะมีประสบการณ์อย่างต่อเนื่อง, ซึ่งจะยกระดับการรับรู้ของคุณและละทิ้งความสงสัยของคุณ นั่นจะทำให้คุณได้ประโยชน์จากมัน. มันจะเป็นโอกาสที่ยกระดับที่สุดและมันจะเป็นอารมณ์ใหม่ของความสุขและความเบิกบานภายในเหล่าผู้ที่คุณพบปะ. คุณจะสามารถรู้สึกถึงความแตกต่างในผู้คนรอบๆตัวคุณ, และรู้สึกลึกๆถึงความสงบที่ลึกกว่าและสันติสุขในทันทีที่ความมืดทั้งหมดจากไป. มันจะแสดงออกในสายตาของผู้คน ในท้ายที่สุดมันจะเป็นที่รองรับวิญญาณ, และความรักจะส่องสว่างออกมาอย่างทรงพลังมากขึ้นกว่าที่คุณเคยสังเกตได้ก่อนหน้านี้. ความเครียดของชีวิตจะลดลงด้วยการถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกผ่อนคลายที่งดงาม, ราวกับว่าคุณไม่ใส่ใจในโลก และนั่นแหละที่รักทั้งหลาย นั่นคือสิ่งที่พวกเราอยากให้คุณเป็น. ปัญหาและความขัดแย้งที่สัมพันธ์กับชีวิตปกติของคุณ, จะค่อยๆถูกกำจัดด้วยการเปลี่ยนแปลงที่กำลังดำเนินการ.

If you are one who experiences little change in your self, do not be concerned as according to your metabolism it will affect some people in different ways. From this month onwards your progress will speed up, as the excitement builds up at the prospect of disclosure. It can come in different ways, so expect the unexpected as certain options remain open. We still prefer an organized disclosure, so that it can be made an official occasion that can go world wide. Many countries have already made it known that we will be welcome to visit them, and each one in turn will be paid a visit. Major events such as a flyover will happen a little later when there has already been a general acceptance of our presence. We are always cognizant of the possibility that the fear factor may not have been completely eliminated.

ถ้าหากคุณเป็นผู้หนึ่งที่มีประสบการณ์กับการเปลี่ยนแปลงน้อยมากในตัวตนของคุณ, ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนคุณสมบัติของคุณ มันจะมีผลกระทบกับผู้คนในหนทางที่แตกต่างกัน. จากเดือนนี้เป็นต้นไปความก้าวหน้าของคุณจะรวดเร็วขึ้น, ความตื่นเต้นจะถูกสร้างขึ้น ณ โอกาสของการเปิดเผย. มันจะมาในหนทางที่แตกต่างกัน, ดังนั้นให้คาดหวังในสิ่งที่ไม่ได้รับการคาดหวัง ซึ่งทางเลือกที่แน่นอนยังคงเปิดอยู่. พวกเรายังอยากจัดโครงสร้างของการเปิดเผย, เพื่อให้มันสามารถสร้างโอกาสอย่างเป็นทางการที่จะสามารถออกไปสู่โลกกว้าง. หลายๆประเทศได้ทำให้มันเป็นที่รับรู้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งพวกเราจะได้รับการต้อนรับเมื่อมาเยือนพวกเขา, และแต่ละคนในทางกลับกันจะได้รับการเยี่ยมเยือน. เหตุการณ์ที่สำคัญต่างๆเช่นการบินเหนือพวกคุณจะเกิดขึ้นหลังจากนั้นเล็กน้อย เมื่อมีการรับรู้กันโดยทั่วไปถึงจุดมุ่งหมายของพวกเราเรียบร้อยแล้ว. พวกเรารู้อยู่เสมอของความเป็นไปได้ที่ปัจจัยของความกลัว ที่อาจไม่ได้ถูกกำจัดอย่างสมบูรณ์.

People will soon start talking amongst themselves about the Ascension process, having heard that something major is due to take place. There will be some confusion as they will not know who to turn to for the truth. As Lightworkers you can come into your own and gently spread the word, taking care not to overdo the "end time" scenario. Too many people have latched on to the "end of the world" stories, without being told that the end simply signals a new beginning. The new Earth awaits you and will as previously supply your needs that will be quite different to what you have now. In fact because your needs will be very small, and non-polluting Mother Earth can concentrate on her own requirements.

ผู้คนจะเริ่มพูดกันเกี่ยวกับกระบวนการยกระดับ, และได้ฟังมาว่าบางอย่างที่สำคัญจะเกิดขึ้น. จะมีความสับสนบ้างซึ่งพวกเขาจะไม่รู้ว่า ใครกันแน่ที่พวกเขาจะหันหน้าไปหาความจริงได้. ในฐานะของไลท์เวิร์คเกอร์คุณสามารถเข้ามาด้วยตัวคุณเองและเผยแผ่ข้อมูลอย่างสุภาพ, ระวังที่จะไม่ทำเรื่องราวของ “เวลาสิ้นสุด” ให้มากเกินไป. มีผู้คนมากเกินไปที่ฝังใจอยู่กับนิทานเรื่อง “จุดจบของโลก”, โดยไม่ได้รับการบอกกล่าวว่าจุดจบเป็นสัญญาณปกติของการเริ่มต้นใหม่. โลกใหม่รอคุณอยู่และสำหรับเรื่องการตอบสนองความต้องการของคุณ นั่นจะเป็นสิ่งที่ค่อนข้างแตกต่างจากที่เป็นอยู่ในขณะนี้. อันที่จริงเพราะว่าความต้องการของคุณเป็นเรื่องเล็กมาก, และพระแม่โลกที่ปราศจากมลภาวะสามารถใส่ใจกับความต้องการของเธอเอง.

As you are beginning to understand, love is the key to everything and you will be God's expression of it as incarnate Beings. To be free to share your love with all life, will be a new experience for you. You may have had your moments in duality but in future you will know what it is like as a normal condition. However, remember to love yourself as it is in no way egotistical to acknowledge your godself. Be love and give of love and it will be returned to you tenfold. Imagine not having to question a persons intentions towards you, and being able to trust everyone. You will soon get used to the new conditions which will be more than welcome after your lives in duality.

เมื่อคุณเริ่มเข้าใจว่า, ความรักคือกุญแจไปสู่ทุกๆสิ่ง และคุณจะเป็นการแสดงออกของพระเจ้าแห่งความรักในฐานะชีวิตที่ถือกำเนิดมา. เป็นอิสระที่จะแบ่งปันความรักกับทุกๆชีวิต, จะเป็นประสบการณ์ใหม่ของคุณ. คุณอาจจะมีบางเวลาของคุณในทวิภาวะ แต่ในอนาคตคุณจะรู้ว่าอะไรที่เป็นบรรยากาศปกติ. อย่างไรก็ตาม, จำไว้ว่าให้รักตัวคุณเอง ซึ่งมันไม่มีทางที่การถือตัวถือตนจะรู้ได้ถึงตัวตนพระเจ้าของคุณ. จงรักและให้ความรัก แล้วมันจะย้อนกลับมาสู่คุณเป็นสิบเท่า. จินตนาการว่าผู้คนไม่มีปัญหากับคุณ, และสามารถเชื่อถือทุกคนได้. ในไม่นานคุณจะเคยชินกับบรรยากาศใหม่ ซึ่งมันจะมากกว่าการยินดีต้อนรับ หลังจากที่คุณมีชีวิตอยู่ในทวิภาวะ.

As your vibrations move higher you will find that you can not only halt the aging process, but also reverse it. That is welcome news for those of you who are amongst the older generations. Eventually all souls will carry bodies that will be crystalline, and in an expression of how you were in your prime. Perfect health will be yours, as disease cannot exist in the higher dimensions. It also means that you cannot carry any infirmity with you, for the same reason. Perfection exists in all higher realms applying to all forms of life, that will have a heightened level of consciousness. Talk to the trees or whatever takes your eye, and you will get reply.

เมื่อความถี่ของคุณยกระดับขึ้นคุณจะค้นพบว่า คุณไม่เพียงแค่สามารถหยุดกระบวนการของอายุขัยได้, แต่ยังย้อนมันกลับมาได้ด้วย. นั่นเป็นข่าวดีสำหรับพวกคุณที่เป็นผู้สูงอายุ. ในที่สุดทุกวิญญาณจะมีร่างกายที่เป็นคริสตัลไลน์, และการแสดงออกของสภาพดั้งเดิมของคุณ. สุขภาพที่สมบูรณ์จะเป็นของคุณ, โรคภัยไข้เจ็บต่างๆจะไม่สามารถดำรงอยู่ได้ในมิติระดับสูง. มันหมายความว่าคุณไม่สามารถนำพาความเจ็บป่วยทั้งหลายไปกับคุณได้, ด้วยเหตุผลเดียวกัน. การดำรงอยู่อย่างสมบูรณ์ในอาณาจักรระดับสูงทั้งปวงจะปรับสู่ทุกๆรูปแบบชีวิต, นั่นจะยกระดับของความตระหนักรู้. พูดกับต้นไม้หรือด้วยการใช้สายตาของคุณ, แล้วคุณจะได้รับคำตอบ.

After all of the variations you get now where your weather is concerned, you will find it very nice in "day to day" temperate conditions. There is no necessity for day and night, as for one thing your need for sleep will be every much less than at present. With a lighter body that to some degree self regenerates, your need for sustenance will also be very slight. Much of your needs will eventually come from the energy around you, but we do still enjoy delicious natural drinks and some food. You will now understand why when we journey through the Universe in our Motherships we are self sufficient, but in any event only have very small needs. Understand that your bodies will be of a different composition, and you will not experience hunger pangs as you do now.

ท้ายสุดเกี่ยวกับความแปรปรวนของสภาพอากาศที่คุณมีในขณะนี้, คุณจะพบว่ามันยอดเยี่ยมมากในเรื่องของอุณหภูมิแบบวันต่อวัน. มันไม่มีความจำเป็นสำหรับกลางวันและกลางคืน, ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่คุณจำเป็นต้องนอน การนอนจะใช้เวลาน้อยกว่าในปัจจุบันอย่างมาก. ด้วยร่างกายแสงสว่างซึ่งมีระดับของการฟื้นฟูตัวเองระดับหนึ่ง, ความจำเป็นในการบำรุงเลี้ยงจะน้อยมากเช่นกัน. ในที่สุดสิ่งจำเป็นต่างๆของคุณจะมาจากพลังงานรอบๆตัวคุณ, แต่พวกเรายังคงเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มที่เป็นธรรมชาติและอาหารบางอย่างที่อร่อย. ขณะนี้คุณจะเข้าใจว่าทำไมเมื่อพวกเราเดินทางข้ามจักรวาลในยานแม่ของพวกเรา พวกเราจึงสามารถพึ่งพาตนเองได้, แต่ในเหตุการณ์ใดๆก็มีความต้องการเพียงเล็กน้อยเท่านั้น. ให้เข้าใจว่าร่างกายของคุณจะมีส่วนประกอบที่แตกต่างจากเดิม, และคุณจะไม่มีความหิวอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้.

Do not expect the changes to all come at once, as they usually come with your continued evolution and progress through the different dimensions. However, it is nice and comforting to know what lays ahead, and what you will be striving for next. For the time being the most important thing is for you not to relax your concentration on Ascension, and keep out of anything that is still strictly of the lower vibrations. You should be continuing to cleanse your body and releasing anything that is of the 3D world. You are leaving it now and cannot take the old remnants of your attachments to it. That should be easy as they will no longer serve you in any way. You may also find yourself moving from your old crowd of friends, because they do not represent your interests any more.

อย่าคาดหวังว่าการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดจะมาพร้อมกันทีเดียว, ซึ่งโดยปกติมันจะมาพร้อมกับการวิวัฒนาการและความก้าวหน้าที่ต่อเนื่องของคุณ ผ่านมิติต่างๆ. อย่างไรก็ตาม, มันสวยงามและสบายที่ได้รู้ในหนทางที่อยู่เบื้องหน้า, และอะไรที่เป็นขั้นต่อไปของคุณ. สำหรับในเวลานี้สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณก็คืออย่าปล่อยปละละเลยความเอาใจใส่ในการยกระดับ, และให้ออกจากสิ่งใดๆที่ยังคงเหนียวแน่นกับความถี่ระดับต่ำ. คุณควรชำระล้างร่างกายต่อไปและปลดปล่อยสิ่งใดๆที่เป็นของโลกมิติที่สาม. คุณกำลังออกจากมันในขณะนี้และไม่สามารถนำพาเศษเสี้ยวใดๆที่คุณยึดติดไปได้. นั่นควรจะเป็นเรื่องง่ายเนื่องจากมันไม่ตอบสนองคุณอีกต่อไป. คุณอาจค้นพบว่าตัวคุณเองออกจากเพื่อนกลุ่มเดิม, เนื่องจากพวกเขาไม่ได้แสดงออกถึงความสนใจของคุณอีกต่อไป.

I am SaLuSa from Sirius, and with my colleagues of the Galactic Federation of Light, wish you success in your personal journey to ascend. Be assured that many higher Beings will accompany you all of the way.

I am SaLuSa from Sirius, และพร้อมกับเพื่อนร่วมงานของสมาพันธ์แกแลกติกแห่งแสงสว่าง, ปรารถนาจะให้คุณประสบความสำเร็จในการเดินทางของคุณสู่การยกระดับ. รับรองว่ารูปธรรมระดับสูงมากมายจะไปกับคุณในทุกๆทาง.

Thank you SaLuSa.
Mike Quinsey
ด้วยรักที่ไม่มีเงื่อนไข ขอบคุณครับ

 

ขอบคุณมากค่ะ
ตอนนี้เราเข้าใจถึงกระบวนการของมันแล้ว หลังจากได้อ่านข้อมูลที่คุณ PARINDA MAI และคุณ deliver me หามาให้
กับข้อมูลเพิ่มเติมจากข้อความต่างมิติที่อื่นๆ อีกนิดหน่อย
ซึ่งก็ต่างพูดอย่างเดียวกันเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้
ต้องขอขอบคุณคุณ PARINDA MAI และคุณ deliver me มากๆ ค่ะ

ตอนนี้เราเหมือนผ่านด่านเกือบสุดท้ายแล้ว หลังจากนี้คงไม่มีอะไรถามอีก
เพราะแม้แต่จะพิมพ์ยังพิมพ์ไม่ออกเลย มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกจริงๆ
มันเหมือนกับไม่มีบทเรียนอะไรหลงเหลืออีกแล้ว
เหมือนในท้ายที่สุดเราก็รู้ว่าเราไม่ได้เกิดมาเป็นอะไรเลยนอกจากความรัก และทุกสิ่งรอบตัวก็เช่นกัน
เพราะฉะนั้นมายาการทั้งหลายในโลกก็ไม่มีความหมายสำหรับเราอีกต่อไป แม้กระทั่งเวลา
ดังนั้นเราจึงหมดความสงสัยและกังวลในทุกสิ่ง
เหลือแต่เพียงมั่นคงในความเชื่อนี้ใว้เรื่อยๆจนกว่าจะกลายเป็นความตระหนักรู้โดยสมบูรณ์
ซึ่งในท้ายที่สุดก็จะทำให้เราสามารถผ่านการยกระดับนี้ไปได้

ขอขอบคุณนักแปลทุกๆท่าน ขอขอบคุณทุกๆคนที่ช่วยเข้ามาแลกเปลี่ยนความรู้ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์
เรามีความเชื่อมั่นว่าทุกคนจะผ่านการเลื่อนระดับไปได้ด้วยดี
เพราะพวกท่านทุกคนได้ทำสำเร็จแล้วตั้งแต่เลือกที่จะเดินทางนี้

เราขออวยพรให้ทุกคนด้วยความรักอย่างไม่มีเงื่อนไขและด้วยความรู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้งค่ะ

 

วันนี้มีข่าวการปลดพนักงานธนาคาร ของกลุ่ม CITY GROUP (city bank) จำนวนมากหลายพันคน และปิดสาขาต่างที่กระจายอยู่ทั่วโลกไปเป็นร้อยสาขา ไม่ทราบว่าเป็นผลพวงของการจับกุมหรือการล้มของระบบเศรษฐกิจอะไรหรือเปล่า โอบามา ก็ออกมากล่าวถึงการจัดเก็บภาษีเพิ่มกับเศรษฐีอเมริกันhello8

 

วันนี้ผมขอพูด(พิมพ์)เรื่องที่ติดค้างแฟนๆไว้เมื่อหลายวันก่อนเกี่ยวกับประสบการณ์ของผมกับข้อความของชาวอาร์คทูเรี่ยน ซึ่งผมได้เคยบอกไปแล้วว่าสิ่งที่ผมได้รับนั้นมันเกินกว่าที่ผมคาดหวังมากๆ(ในเวลานั้น) ผมจะเริ่มยังไงดี เอาเป็นว่าผมได้ออร่ามิติที่สี่มาก็แล้วกัน ผมได้มาเพราะเขาให้มาหรือว่าเป็นเพราะวิวัฒนาการของผมเองผมไม่ทราบจริงๆ เล่าเลยแล้วกัน

ผมรู้ได้อย่างไรว่าผมได้ออร่ามิติที่สี่

ผมรู้มาจากความฝันของผมเอง นักอ่านท่านใดอยากหัวเราะเชิญหัวเราะตอนนี้ได้เลยครับ หลายวันมาแล้วเมื่อปลายเดือนตุลาคม (ก่อนวันที่ 11/11/12) ผมฝันว่ามีพลังมืดที่หนักมากมาทับตัวผม ปกติเวลาที่ผมฝันในลักษณะนี้ พลังนั้นจะทาบทับร่างกายฝันของผมโดยตรง แล้วผมก็ต้องแก้ปัญหาเอาเอง แต่ร่างกายฝันของผมก็มีวิธีแก้ปัญหาอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งใดๆในชีวิต พลังที่มาทับร่างกายฝันของผมมันมีเยื่อผนังบางๆมารับน้ำหนักเอาไว้ เยื่อบางๆนี้คล้ายกับลูกโป่งที่เป่าจากแชมพู หุ้มรอบร่างกายฝันผมเอาไว้ ทำให้พลังมืดนั้นไม่สามารถทับมาถึงตัวผมได้ มันทับลูกโป่งที่หุ้มรอบร่างกายฝันของผม แล้วร่างกายฝันของผมก็อยู่ในลูกโป่งนั้น แต่ผมก็รู้สึกได้ถึงน้ำหนักของพลังนั้น ในขณะเดียวกันผมก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมผนังนั้นมันจึงมีความยืดหยุ่นสูงมากขนาดนั้น หลังจากนั้นร่างกายฝันของผมก็ว่าคาถาว่า “นัตถิ เม สะระนัง อัญยัง พุทโธ เม สะระนัง วะรัง เอเตนะ” แล้วก็หยุด ผมรู้ว่าต้องว่าอะไรต่อ แต่ร่างกายฝันมันหยุดอยู่แค่นั้น เพราะมันรู้ว่าแค่นั้นก็พอแล้ว หลังจากนั้นผมก็เอามือผลักพลังงานนั้นออกไป พลังงานนั้นก็กระเด็นออกไป มองเห็นเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ลักษณะคล้ายกันเด็กยากจนด้อยโอกาสที่เห็นกันทั่วๆไป ที่เห็นกันในทีวี หรือตามป้ายรณรงค์ทั้งหลายนั่นแหละ นอนอยู่ในลักษณะที่ช่วยตัวเองไม่ได้ แล้วผมก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่เด็กคนนั้น แล้วผมก็เอามือไปแตะที่เด็กผู้หญิงคนนั้น แล้วก็ว่าคาถาอีกครั้งว่า “นัตถิ เม สะระนัง อัญยัง พุทโธ เม สะระนัง วะรัง เอเตนะ” แค่นี้อีกแล้ว แล้วใครจะเชื่อผมวะ ว่าในฝันผมสามารถว่าได้จนจบจริงๆ ก็ว่าแค่นี้มันก็พอแล้ว แล้วจะต้องว่าให้จบทำไม กลับมาที่เรื่องของเรา หลังจากผมแตะตัวเด็กผู้หญิงคนนั้นและว่าคาถาแล้ว เด็กผู้หญิงคนนั้นก็ลุกขึ้นได้สีหน้าดูมีความสุข แล้วเขาก็ไปตามทางของเขา ส่วนผมก็ตื่นขึ้น

เล่ามาซะยาวเชียว ประเด็นมันอยู่ที่ตรงฟองอากาศฟองนั้นนั่นเอง พอผมตื่นขึ้นมาผมก็รู้ได้ทันทีว่า มันคือออร่ามิติที่สี่ ใครไม่เชื่อผมก็ไม่เป็นไรครับผมไม่ว่า ผมเชื่อของผมตั้งแต่ตื่นนอนแล้ว ผมอยากจะเล่าความฝันนี้ให้เพื่อนๆฟัง(อ่าน)ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฝันแล้วหละ แต่ก็นั่นแหละมันก็แค่ความฝันมันไม่ใช่ความเป็นจริง ผมก็เลยเก็บเรื่องนี้ไว้คนเดียว เพราะผมต้องการทดสอบให้แน่ใจก่อนว่า มันใช่ มันจริง ที่พวกคุณได้อ่านเรื่องนี้ก็เพราะ มันมีสิ่งแปลกๆเกิดขึ้นกับร่างกายจริงๆของผมนี่แหละ ผมจึงกล้าเอาเรื่องนี้มาเล่าให้พวกคุณอ่าน

เกิดอะไรขึ้นบ้างกับร่างกายของผม

สองสามวันต่อมาพี่ขอให้ผมช่วยไปทำธุระให้ที่ธนาคาร ผมไปถึงธนาคารคนเยอะต้องนั่งรอ ผมก็นั่งรอตามระเบียบ ตรงที่นั่งที่ผมนั่ง แอร์ส่องลงมาพอดี ผมเป็นคนหนึ่งที่ร่างกายไม่ถูกกับอากาศเย็นหรืออากาศหนาว แค่เข้าไปในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศครู่เดียวมือก็เย็นแล้ว คราวนี้ก็เช่นกัน ดันมานั่นตรงกับช่องแอร์อีก แค่ลมแอร์เป่าผมก็รู้แล้วว่านั่งผิดที่ ผมส่งความรู้สึกไปที่มือตามความเคยชิน เฮ้ย! มืออุ่น กรุณาอย่าคิดว่าผมกำลังเล่าเรื่องตลก เพราะสำหรับผมแล้วมันไม่เคยเป็น ปกติเมื่อผมอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มือของผมจะเย็น การที่ผมทึ่งกับอาการมืออุ่นของผมนี่จึงไม่ใช่เรื่องล้อเล่นสำหรับผม

หลังจากคืนที่ฝันเรื่องนี้แล้วผมก็รู้ว่ามันคืออะไร ผมจึงอยากทำสมาธิก่อนนอนมากเป็นพิเศษ ผมก็นั่งสมาธิตามที่ใจปรารถนา ใช้เวลาไม่ถึง 7 วัน ผมสามารถทำสมาธิข้ามจุดที่ผมไม่เคยข้ามได้มาทั้งชีวิต สิ่งนั้นก็คือความเจ็บปวดที่ขาในขณะที่นั่งสมาธิ ถ้าเป็นพระป่าจะเรียกสิ่งนี้ว่าเวทนา ในอดีตเวลาผมนั่งสมาธิถ้าหากผมนั่งนานๆมันจะปวด และปวดมากขึ้นเรื่อยๆถ้าหากยังพยายามนั่นต่อไป ผมพยายามข้ามมันให้ได้หลายครั้งมากแต่ทำไม่เคยสำเร็จ แต่พอได้ออร่ามิติที่สี่มา มันทำได้ ข้ามได้ง่ายกว่าที่คิดมาก โดยที่ผมก็ไม่ได้คาดคิดว่าผมจะข้ามได้ เหตุที่ผมบอกว่าผมข้ามมันได้ เพราะว่าผมสามารถข้ามเวทนาที่กล้ามเนื้อชิ้นนั้นได้ ที่ผ่านมามันเจ็บตรงนี้มันปวดตรงนี้ และข้ามความเจ็บปวดตรงนี้ไปไม่ได้ แต่ครั้งนี้มันข้ามความเจ็บปวดตรงนี้ได้ หลังจากข้ามเวทนาตรงนี้ไปได้ผมก็รู้แล้วว่า โลกของสมาธิของผมได้เข้าสู่ดินแดนใหม่แล้ว ดินแดนที่ไม่เคยมาถึงมาก่อน ทางที่ไม่เคยเดินมาก่อน

กลับมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับสมองบ้างดีกว่า มีอาการปวดที่จอมประสาท ปวดแล้วก็แตกออกไป ปวดแล้วก็แตกออกไป ถี่มาก แล้วก็ปวดเป็นทางใหญ่เข้าไปในสมองซีกขวา อาการปวดนี้มันเป็นลักษณะที่ปวดแล้วก็หายแล้วก็หาย ผมมองโลกในแง่ดีว่ามันเป็นการขยายช่วงความถี่ของสมองสามมิติ

กลับมาเรื่องมืออุ่นอีกที ผมถีบจักรยานไปห้างสรรพสินค้า ระหว่างทางฝนตก เสื้อผ้าของผมโดนฝนเปียกไปทั้งตัว เข้าไปในห้างสรรพสินค้าแบบไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้เลย เดินไปเดินไปมันก็ปะทะกับลมแอร์รู้สึกเย็น ก็เลยเอามือมาประกบกันตามความเคยชิน เฮ้ย! มืออุ่น เสื้อผ้าก็เปียกไปทั้งตัว ไม่รู้สึกหนาวเลย

หลังจากนั้นผมก็เลยนอนโดยไม่ห่มผ้า ไม่ว่าอากาศจะหนาวขนาดไหน ผมไม่เคยรู้สึกหนาวเย็นอีกเลย ตื่นนอนเอาเท้าแตะกันดู เท้าก็ไม่เย็น มือก็ไม่เย็น แปลกมาก ระบบปราณของผมเปลี่ยนไปแล้ว

ตัวอย่างที่ผมยกมาอาจฟังดูไร้สาระสำหรับบางคน เพราะว่าผมก็เพิ่งได้สิ่งนี้มาแค่เดือนกว่าๆเท่านั้นเอง ปกติเวลาเราเดินทางไปในสถานที่ใหม่ๆ กว่าที่เราจะคุ้นเคยกับสถานที่นั้นๆมันต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆเพื่อเรียนรู้ สิ่งที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้ก็เช่นเดียวกัน ขณะนี้ผมใช้ร่างกายและสมองของผมในกรอบของมิติที่สามเพราะไม่เคยอยู่ในมิติที่สี่มาก่อน ผมไม่รู้หรอกว่าร่างกายและสมองมิติที่สี่มันทำอะไรได้บ้าง

วันนี้ผมพยายามเล่าในเรื่องที่สามารถวัดค่าได้ จับต้องได้ ในความเป็นจริงแบบมิติที่สาม สำหรับเรื่องที่จับต้องไม่ได้วัดไม่ได้เช่นเรื่องของความฝัน ความรู้ในภายใน ทำนองนี้ ผมจะยังไม่เล่านะครับ แล้วผมก็อยากบอกท่านนักอ่านที่รักทั้งหลายให้ทราบว่า อย่าไปใส่ใจกับเรื่องราวนี้ให้มากเกินไป เพราะโลกจะยกระดับไปถึงมิติที่ห้า สิ่งที่ผมได้มันไม่ได้ทันสมัยอะไรเท่าไหร่หรอก ตอนนี้ผมคิดได้ว่ามีเรื่องที่ควรทำอีกอย่างหนึ่ง ก็คือถ่ายรูปเก็บไว้ รูปที่เห็นผมหงอก หนวดหงอกของผมนี่แหละ เพราะเวลาที่ aging reverse มาเมื่อไหร่ มันสายเกินไปที่จะเก็บความทรงจำนี้ไว้

 

โอ๋เชื่อค่ะ คุณเอ็มตี้
ในส่วนตัวไม่ค่อยสัมผัสได้ถึงสิ่งแปลกๆรึพิเศษนักหรอกค่ะ แต่จะพบบ่อยๆคือ
ความบังเอิญที่เหลือเชื่อ พบกับพี่มี๊ดจนชินกันแล้วค่ะ
ส่วนเรื่องความฝันส่วนใหญ่พี่มี๊ดจะเป็นคนฝันค่ะ
เช้าตรู่ วันที่ 11 /11 พี่มี๊ดก็ฝันค่ะ ว่ามีคนมาบอกว่า โอ๋ต้องทำหน้าที่ใหม่แล้ว
ต่อไปจากนี้สุขภาพร่างกายโอ๋จะดีมาก และจะมีชีวิตที่สงบและมีความสุขค่ะ
แล้วก็ให้พี่มี๊ดพาโอ๋ไปที่ "ไท่จง"
ซึ่งก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าคือที่ไหนค่ะ
ส่วนเรื่องสุขภาพโอ๋ก็เกิดสิ่งอัศจรรย์มากมาก
ร่างกายโอ๋เกิดปกติจากวันนั้นหล่ะค่ะ ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำได้มาก่อน
และไม่คิดว่าจะหายด้วยค่ะ
แล้วพอหลังจากนั้น ตอนใกล้ เจ็ดโมงเช้าโอ๋ก็มาเพ่งพระอาทิตย์เหมือนปกติที่ว่างหน่ะค่ะ
พี่มี๊ดก็มาเพ่งอยู่ด้วยด้านหลังค่ะ
พี่แกก็ถามว่าโอ๋เห็นพระอาทิตย์เป็นสีอะไร
โอ๋ก็บอกว่าเป็นแสงสีทองอร่ามสวยมากกว่าทุกวัน(ซึ่งก็ปกติดี)
แต่พี่มี๊ดแกบอกว่าทำไมแกเห็นเป็นแสงสีชมพูอมม่วงค่ะ
โอ๋ยังคิดว่าสงสัยสายตาพี่แกไม่เคยชินค่ะ เลยเห็นเป็นอย่างนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร
จนพี่มี๊ดไปเห็นข้อความเกี่ยวกับแสงที่ชมพูที่เทพแห่งความรักจะส่องสว่างให้เราเห็นหน่ะค่ะ
เลยมหัศจรรย์ใจมากมากค่ะ (เล่าซะยาวเลย พอดีกว่าเล่าไม่เก่งด้วยหน่ะ ไปละค่ะ จุ๊บๆๆ)

ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยหากมีอะไรเสริม พี่มี๊ดแกคงมาบอกเองค่ะ
ถ้าแกอยากเล่านะคะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ และยินดีกับคุณเอ็มตี้ที่สุดเลยค่ะ

 

ผมเคยคุยกับแม่ชีองค์หนึ่ง แกบอกว่าแกชอบมองดวงอาทิตย์ เวลาว่างๆแกมักจะแอบไปมองดวงอาทิตย์ แกบอกว่าให้แข็งใจมองไป ไม่ต้องกลัวตาบอด หลังจากนั้นพระอาทิตย์จะเปิดให้เห็นเอง แกบอกว่าพระอาทิตย์จริงๆมองแล้วสบายตามาก สีคล้ายดาวศุกร์ สวยมองได้มองอีก (ตอนนั้นนานมาแล้ว สีของพระอาทิตย์อาจจะยังเป็นสีเดิมอยู่) ผมก็ฟังไว้เฉยๆไม่ได้เอามาปฏิบัติหรอก

 

ยินดีกับคุณเอ๊มตี้ด้วยครับ เหมือนมีม่านบาเรียประจำตัวเลย
สิ่งที่ดูเสมือนว่าจะรุนแรง กลับกลายเป็นความแผ่วเบาไปได้นะครับ

โลกของความฝันไม่ใช่เรื่องไร้สาระเลยครับ
เป็นการพุ่งความสนใจออกจากโลกภายนอก ถอนจากประสาทสัมผัสทั้งห้าที่เราเคยชิน
เข้าไปรู้เห็นหรือสัมผัสกับโลกภายในด้วยความรู้สึกตื่นตัวของจิตน่ะครับ
พี่นักเขียนโนวา อนาลัย บอกเทคนิคความฝันกับพวกเราเสมอๆแหละครับ
ว่าความฝันเป็นเรื่องของจิตวิญญาณที่เปลี่ยนวิถีการจดจ่อ
จากโลกแห่งความเป็นจริงที่เป็น กายภาพ
ไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงที่เป็น จินตภาพ

ไม่ว่าเราจะเผชิญกับความสงบ ตัวเบา ลอย รู้สึกเสมือนตัวพองโตใหญ่ยักษ์ หรือเล็กจิ๋ว
หรือรู้สึกถึงความสบายอื่นๆที่ผิดธรรมดา แต่ไม่ว่าเราจะรู้สึกอะไร
มันก็ยังเกี่ยวพันกับโลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพและจินตภาพอยู่ดีน่ะครับ

คุณเอ็มตี้สัมผัสความเป็นจริงทั้งสองนี้ได้ ก็นับว่ามันได้เกิดขึ้นและกลายเป็นประสบการณ์จริงๆแล้วนะครับ
ว่าแล้ว คืนวัีนที่ 12-12-12 หรือจะเป็นวันนี่ 21-12-12 นี้ก็ขอให้พวกเราตั้งใจฝันให้เต็มที่เลยนะครับ
ใครจะสัมผัสรู้เห็นอะไรในช่วงนั้น ก็มาแชร์กันบ้างนะครับ
ไม่ต้องคาดหวังอะไรจนเกินไป ปล่อยเป็นธรรมชาติก็พอล่ะครับ
เมื่อกริดไลน์ระบบใหม่จะพร้อมเปิดใช้ในการสนับสนุนและดูแลสรรพชีวิตบนโลก
จะเกิดอัตราเร่งทางพลังงานมากมายในช่วงนั้น ขอให้มีความสุขเบิกบานในช่วงเวลาสำคัญกันให้เต็มที่นะครับ ^^

 

สวัสดีเพื่อนๆที่รักทุกท่าน ก่อนอื่นต้องขออภัยเพื่อนๆ
ที่เราไม่สามารถแปลข้อความได้อย่างต่อเนื่องอีกแล้ว
อยากแชร์เรื่องราวบางอย่างกับเพื่อนๆและเชื่อว่า
เพื่อนๆหลายๆคนคงจะมีประสบการณ์ตามแบบฉบับ
ของตนเอง (ซึ่งช่วงนี้เกิดถี่ๆมากๆๆ)

ในชีวิตประจำวันของเรามีบททดสอบอารมณ์เยอะมากๆ
สิ่งเดียวที่ทำให้เราได้รู้สึกว่าได้พักเป็นการอ่านหนังสือ
ชุดของอ.โนวา อนาลัย มันทำให้เรื่องราวต่างๆ"เป็นของนอกๆ"
คือมันคล้ายๆกับภาวะตอนดูจิตตนเองมากๆ มันเกิด มันมี
แต่มันโจมตีเราไม่ได้ แม้ยามหลับก็ไม่ได้เขม็งเกร็งเกินไป
หรือไม่ได้เผลอไผลจนเกินไป มันมีแต่ ขณะนี้แล้วก็ขณะนี้เท่านั้น
มันเป็นการมองเข้าไปสู่ภายในอย่างแท้จริง ตอนที่คุณเอ็มตี้
บอกว่า "มีเยื่อบางๆหุ้มอยู่" เราเชื่อคุณหมดหัวใจเลยล่ะ
เพราะเราก็เจอประสบการณ์แบบเดียวกับคุณนี้แต่มันเกิดกับเรา
ในตอนที่เราตื่นอยู่ มีสติรับรู้โลกภายนอกทุกประการ
มันเป็นภาวะที่แปลกมากจริงๆ ทุกสิ่งอย่างทั้งมีอยู่และไม่มี
ไม่เป็นอยู่ในเวลาเดียวกัน มันกระพริบ วิบๆๆๆ อยู่ตลอด
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาได้มีโอกาสแชร์ประสบการณ์ส่วนตัว
กับกลุ่มสัมนาเล็กๆ ในห้วงขณะที่พูดเราไม่ได้เป็นผู้พูด
แต่ถ้อยคำเหล่านั้นหลั่งไหลออกมา เพราะถ้อยคำเหล่านั้น
รู้ว่าหน้าที่ของตนเองคืออะไร ในขณะนั้นมันเกิดความรู้สึก
"รัก" ในทุกสิ่งอย่างทั้งสิ่งที่คนทั่วไปมองว่าเป็นสิ่งดีหรือแม้
สิ่งที่ผู้คนเรียกว่า "เป็นสิ่งเลว"

ยามนั้นจักรวาลแห่งหัวใจได้เปิดออกและเรารู้สึกเป็นอิสระ
จากอายตนะทั้งหมดของเรา แต่เราก็ไม่ได้ขาดจากกัน
ตัวเราที่อยู่ตรงนั้นมันเหมือนแม่เหล็กดึงดูดให้ผู้คนรอบข้าง
"สัมผัส" สิ่งที่ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา และเราเองก็เป็น
ส่วนหนึ่งในนั้น ด้วยการ "เป็นมัน" คำที่ว่า So be it !
มันเป็นอย่างนี้นี่เอง


ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้กันเสมอมาและตลอดไปค่ะ