ถึงเวลาที่สยบข่าวภัยพิบัติ  ทางสายเอก

ขอบคุณครับ  เพียงอีกไม่กี่วันก็จะรู้กันครับ ที่ว่าวันที่  ๒๑  ธค เป็น วันที่อันตรายนั้น  จากวันนี้จนถึงวันปีใหม่ ระบบสุริยจักรวาล แห่งนี้จะยังคงทำหน้าที่ของมันตามปกติครับ  รวมถึงโลกนี้ที่เราอาศัยอยู่ด้วยครับ ก็ยังคงทำหน้าที่ของมันเช่นกัน
         ไม่ต้องตกใจครับ ให้ดำเนินชีวิตอย่างปกติครับ 

 

ขอบคุณครับ  ข้อความที่ลงในกระทู้นั้น สำหรับผู้เขียนแล้วจะไม่ยอมให้เสียชื่อ  ครูบาอาจารย์ที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาสั่งสอนมาอย่างแน่นอนครับ  

 

ดูจากการเกิดภัยพิบัติที่ผ่านมา ไม่มีใครสามารถรู้ล่วงหน้าเลย แผ่นดินไหว ไฟป่า สึนามิ แม้กระทั่งน้ำท่วมปี54. มันเป็นกฏเกณฑ์ของธรรมชาติ

 

พุทธดำรัส "ศาสนาของตถาคตจะเสื่อมไม่ใช่จากใคร ก็จากลูกของตถาคตเองนี่แหละ" ลูกในที่นี้คือ พระสงฆ์ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ที่มีมิจฉาทิฐิ สมเด็จฯ ท่านมีพุทธฏีกาไว้ชอบแล้ว

 

ชอบข้อความของคุณ ZincOxide คะ ที่เขียนว่า "อยู่ห้องนี้ไม่ต้องกลัวเหงา ระทึกกันทั้งปี ทุกปี ! " ดิฉันก็เป็นเช่นนี้ บางวันไม่มีรายการทีวีน่าดู ดิฉันก็เข้ามาอ่านใน Web นี้ ก็รู้สึกหรรษาไปอีกแบบ ได้อ่านความคิด ความรู้สึกอันบรรเจิดจ้า และจินตนาการของแต่ละคน ส่วนจะเชื่อได้มากน้อยแค่ไหนก็พิจารณาตามหลักกาลามสูตรที่ผู้อื่นให้ความเห็นไว้แล้ว แต่สิ่งที่ดิฉันเชื่อถือ คือคำทำนายของหลวงปู่สังวาลย์คะ

 

http://palungjit.org/threads/คำทำนายหลวงปู่สังวาลย์-เขมโก-เรื่องภัยพิบัติ-update.324819/

คำทำนายของหลวงปู่สังวาลย์ ก็หนักมากเช่นกันนะคะ

 

ต้องขอขอบคุณทุกฯท่านที่เข้ามาโพสต์ ในกระทู้และท่านที่ได้เข้ามาอ่านครับ
พระพุทธเจ้าของเราทรงสอนให้มองดูสิ่งที่ใกล้ตัวก่อนครับ
อดีตผ่านไปแล้วเราไม่ต้องไปคำนึงถึงมาก    ส่วนอนาคตยังไกลเกินไปอย่าไปกังวลนัก
ในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง  ท่านให้มีสัมมาสติอยู่กับปัจจุบันอยู่ทุกขณะจิตครับ

 

ขอขอบคุณท่านที่ในที่สุดก็มาโปรดปัญญาของมหาชนซะที

 

ภัยธรรมชาติมันก็มีเรื่อยๆตามเหตุปััจจัยของโลกและกรรมของมนุษย์ แต่ไม่มีภัยล้างโลกแบบที่หลงเชื่อกัน เพราะภัยธรรมชาติแก้ง่าย แต่ภัยจากมนุษย์ด้วยกันเองแก้ยาก หากมนุษย์ไม่เลิกเอารัดเอาเปรียบกัน สิ่งแย่ๆก็จะเกิดขึ้นจนเกิดมิคสัญญี แต่ถ้ามนุษย์หันหน้าเข้าหาศีลธรรม ภัยก็หมด สัีนติสุขก็จะบังเกิด

 

ไม่เคยเชื่อเลย!!แต่ก็อ่าน. สนุกดี...
แต่ละความเชื่อก็พยายามชักจูงเต็มที่
แต่บางทีก็จะมีคนไม่ดีอาศัยความงมงาย
หาเงินหาทอง หลอกลวงกันไป
ส่วนมากจะอ้าง อย่าลบหลู่ พระสงค์องค์เจ้า
เป็นต้น
ประเทศเราเจริญช้า หรือ ปชช จะถูกเอา
เปรียบตลอด ก็เพราะสุภาษิต หรีอคำพังเพยต่างๆ
ที่ถูกฝังหัวมาตลอด ยกตัวอย่าง
บุญทำกรรมแต่ง,ชาติที่แล้วทำบุญมาน้อยฯ,
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน,จงพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ฯลฯ
ฉะนั้น เมึ่อ ปชชไทยถูกฝังความคิดเหล่านี้
ไว้เรียบร้อยแล้ว ชนชั้นปกครองท่านก็จะเอา
สุภาษิตของท่านมาปกครอง ปชช หน้าโง่
ทั้งหลายทันที คือ มือใครยาวสาวใด้สาวเอา

 

สุภาษิตหรือคำพังเพยของไทยมีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ที่จะเลือกใช้ให้เหมาะกับเหตุการณ์ เพื่อที่จะได้ใช้ประคับประคองจิตใจไม่ให้เศร้าหมอง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความเป็นมนุษย์เอาไว้

 

ครับ   สุภาษิตหรือคำพังเพยที่ถูกนำมาใช้  ควรจะประกอบไปด้วยหลักธรรม
คือจะต้องไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น   
บุคคลที่จะฉวยโอาสจะใช้คำคมหรือคำพังเพยหาประโยชน์  จากคนที่จิตอ่อน
และผู้ที่อ่อนแอกว่า  และพยายามให้แสวงบุญนอกเขตพระพุทธศาสนา
ดังเช่น   ไม่เชื่ออย่าลบหลู่    ควรจะเป็น   ไม่รู้ต้องหาศึกษาจากผู้รู้
           บุญทำกรรมแต่ง          -- รู้จักและเข้าใจในบุญที่ไม่เจือบาป
           ต้องมาแก้กรรม          --เข้าปฏิบัติกรรมฐานเพื่อให้รู้กฏแห่งกรรม
           เสริมชะตาชีวิต        --        รู้จักมงคล๓๘ประการ
           กำลังดวงตก          --       มีสติรักษาจิต
           พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก ---เข้าวัดรักษาศีล
           มาพรมน้ำมนต์     ----  เจริญพรหมวิหาร  ๔
ด้านซ้ายมือท่านมีแต่โอกาสที่จะเสียเงินเสียของทั้งหมด 

ส่วนทางด้านขวามือท่านไม่ต้องเสียอะไรเลยครับ

พระพุทธองค์ทรงสอนมิให้นำธรรมะของท่านมาเร่ ขาย อย่างแน่นอนครับ

 

แจ่มเลย ให้10000 like

ชอบข้อความนี้จริง ๆ....แต่คิดว่าคงจะขัดใจ กลุ่มที่อ้างแต่ความฝันหรือนิมิตรอะไรต่างๆประมาณนั้น แต่ก็เป็นกำลังใจให้คุณคมสันต์นะ ที่กล้าขวางน้ำเชี่ยวตอนนี้ ... เตือนสติได้ดีมากๆครับ

 

ธรรมะนั้นไม่มีหนีไม่มีถอยครับ
ขอบคุณครับสำหรับกำลังใจ   ผู้เขียนเองคงไม่มีเจตนาที่จะขวางลำใครหรอก
ครับผู้ปฏิบัติธรรมแท้จริงนั้น  ย่อมยอมรับการติเตียนโดยธรรมจากเพี่อนธรรมเสมอ
เหมือนเป็นกระจกเงาที่ช่วยส่องให้เห็นครับ

เมื่อเพื่อนธรรมที่ยังเดินทางมาไม่ถึง หรือหยุดพักเหนื่อยอยู่ที่ริมทาง   เราก็รอได้ครับ

เจริญธรรมมาด้วยเมตตาจิต

 

เรียน คุณคมสันต์

เป็นไปได้ไหมครับที่เรื่องราวของวันสิ้นโลกอาจจะเป็นการวางแผนสร้างสถานการณ์เพื่อหวังผลอะไรบางอย่าง

แต่ก็นึกไม่ออกจริงๆว่าใครจะได้อะไร?
หรือเป็นแค่เรื่องบังเอิญของปฏิทินมายา แล้วคนเอามาต่อยอดกันเอง?

ส่วนตัวค่อนข้างมั่นใจว่าจะไม่มีอะไร เพราะหลังจากอ่านคำทำนายทั้งหลาย นำมาวิเคราะห์แล้วรู้สึกมันไกลความจริงมากขึ้นทุกที


.

 

ตอบครับ        ขายหนังสือ   ข้อเขียน  สร้างข่าว  จ้ดทัวร์  พาคนไปดู
 ทำของที่ระลึกขาย   โฆษณานิตยาสาร    สร้างรายได้ให้ไม่ใช่น้อย
เรียกว่าหารายได้จากความที่คนหวาดกลัว  ครับ

 

เข้าใจว่าบางที บางท่าน อาจเตือนด้วยใจบริสุทธิ์จริงๆ แต่อาจจะเตือนเพราะรู้ หรือเตือนเพราะไม่รู้ ตระหนกไปเอง ก็สุดแล้วแต่ครับ

มีคนเกาะกระแสเพื่อหวังผลก็เยอะอยู่ ทั้งอ้างเรื่องบุญ-บาป เพื่อหาเงิน หรือ สร้างข่าวเพื่อให้เป็นที่รู้จัก

หากมองในแง่ดี นึกย้อนไปในปี 2525 มีคนเล่าว่าข่าวก็แรงพอๆกับตอนนี้ สุดท้ายไม่มีอะไรเกิด แต่จากนั้นเศรษฐกิจเมืองไทยพุ่งพรวดเลย

เวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์ได้ครับ



.

 

บางคนก็ชักจูงให้คนอื่นสมทบทุน เพื่อสร้าง ซื้อวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ
เพื่อทำประโยชน์ในผืนที่ดินของตน อยากฝากข้อคิดไว้สักนิดว่า
เมื่อเหตุการณ์ไม่เกิด ทรัพย์สินที่คุณสมทบไปนั้นก็สูญเปล่า
สู้เก็บเงินเตรียมซื้อข้าวปลาอาหารของจำเป็นไว้ให้ครอบครัวตนเองดีกว่า

 

บางเรื่องก็หวังผลทางการเมือง

หมอดู et บอกปี 2556 ไทยน้ำท่วมหนัก

แล้วอย่างนี้ ใครที่เชื่อจะกล้าลงทุนในไทยหรือ


หนอยแน่ะ

 

ภัยพิบัติที่ใหญ่หลวงกว่าที่หลายกระทู้กล่าวมานั้นมากมายหลายเท่านักคือ

ภัยพิบัติที่ชาวพุทธที่กำลังเดินสวนทางกับองค์พระสัมมาสัมพระพุทธเจ้า

ที่ท่านได้ทรงมอบพระธรรมคำสั่งสอนของท่านใว้เมื่อสองพันห้าร้อยกว่าปีมาแล้วครับ

ภัยอันดับ  ๑   แสวงบุญนอกเขตบวรพระพุทธศาสนา
ภัยอันดับ  ๒   เลี่ยงบาลี
ภัยอันดับ  ๓   สอนในทางที่ผิด หลักธรรม
ภัยอันดับ  ๔   ไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย
ภัยอันดับ  ๕   ไม่ใช้หลักธรรมมาเป็นแนวทางนำชีวิต

พระพุทธเจ้าทรงประสูตร                 ที่ใต้โคนต้นไม้
พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้                  ที่บนกองหญ้ารองนั่ง
พระพุทธเจ้าทรงดับขันธ์ปรินิพาน   ที่ใต้โคนต้นไม้