รู้สึกเหมือนควบคุมอุณหภูมิในร่างกายได้ ?

ผมแค่รู้สึกนะครับ
ผู้เชี่ยวชาญโปรดชี้แนะด้วย
ว่าเพราะอะไร
ผมเข้าสมาธิทีไร
ก็ควบคุมได้ทุกที เอาไปไว้ที่มือ ที่ไหนก็ได้
เคยลองเข้าสมาธินานๆ (ประมาณ 3 นาที)
แล้วกำหนดที่มือ ก็เห็นเหมือนไอน้ำ ตอนอากาศร้อนๆหนะครับ
บางครั้งก็เห็นเป็นไอขาวๆเลย จางมากๆ
รบกวนทีนะครับ
ขอบคุณครับ

 

ปรกติ ไม่ต้องไป ตกใจ แตกตื่นอะไร

มันเรื่องของ จิต ที่มี กำลัง ระดับนึง

จะทำอะไร มานก็ทำได้หมดละครับ

ถ้า เป็นใหม่ๆ ก็ แปลก ปลาดใจ แบบนี้ละครับ




.

 

ครับขอบคุณครับ
แล้วบางครั้งผมก็รู้ว่าคนนั้นจะพูดอะไรก่อนด้วย
บ่อยมากๆ
ที่แตกตื่นเพราะผมไม่เคยเห็นครับ
ขอบคุณครับ ^^

 

ลองเอาความรู้สึกแผ่ค้างไปทั้งตัว แล้วอยู่อย่างนั้น แค่อย่าวอกแวก ทำเหมอืนเป็นศพค้างไว้อย่างนั้นแต่ไม่ต้องเกร็ง บางทีทำไปเรื่อยๆ มันจะเริ่มตัวร้อนเหมือนเป็นไข้เปิดแอร์ยังเหงื่อแตก

 

ไม่มีใครตอบในประเด็นที่เจ้าของกระทู้ถามเลย ที่ถามว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป อย่างนั้น ผมขอมาคุยเป็นการคั่นเวลาก่อนนะครับ

สิ่งที่ควรจะทำต่อไป คือการฝึกควบคุมสภาวะอย่างนี้ให้ได้ โดยถ้าควบคุมได้อย่างใจคิด เช่น กำหนดให้ร้อนมาก ร้อนน้อย ร้อนเร็ว ร้อนช้า หรือจะให้ร้อนที่ตรงจุดใด ย่อมกำหนดได้ดังใจ ทำได้อย่างนี้ จะมีประโยชน์ในการต่อยอดในทางสมถะหรือวิปัสสนาได้ต่อไป

แต่การจะนำไปต่อยอดทางสมถะหรือวิปัสสนา จะทำอย่างไร แบบไหน ผมยังไม่ขอกล่าวถึง เนื่องจากจะเกินขอบเขตของกระทู้นี้

ก่อนอื่น ขอทราบเพิ่มเติมเป็นข้อมูลประกอบว่า ตอนนี้คุณฝึกสมาธิโดยใช้กรรมฐานกองไหน และใช้อะไรเป็นอารมณ์ของสมาธิ พูดง่ายๆ คือ ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยว่า คุณใช้วิธีการอย่างไร ในการทำสมาธิ จนเกิดผลอย่างที่เล่ามานี้ เพื่อประโยชน์ในการเสนอแนะแนวทางที่เหมาะสมต่อไป

เบื้องต้นนี้ ผมว่าคุณน่าจะลองฝึกการควบคุมธาตุไฟในร่างกายของคุณ ลองอ่านกระทู้ที่มีสมาชิกเขาคุยกันเรื่องการควบคุมธาตุทั้ง 4 ในกระทู้นี้ดู ของคุณฝึกควบคุมแค่ธาตุไฟเพียงธาตุเดียว ถือว่าไม่ยาก แต่ในกระทู้ที่ผมยกมานี้ เขาฝึกควบคุมธาตุทั้งง 4 ธาตุ ซึ่งจะมีความซับซ้อนมากขึ้น แต่ก็ไม่เป็นไร ลองอ่านดู พอเป็นแนวทางนะครับ

อีกอย่างหนึ่ง ถ้ามีอะไรสงสัยในกระทู้นี้ ลอง pm ไปถามเจ้าของกระทู้ คือคุณ Supop ได้ บอกคุณ Supop ได้เลยว่า ผมแนะนำให้มาถาม มั่นใจว่าเจ้าของกระทู้อันนี้ น่าจะแนะนำคุณได้ต่อไป

ส่วนผมความรู้น้อย ด้อยปัญญา การปฏิบัติก็ยังไม่ได้เรื่อง ไม่ได้ราว ก็ขอเข้ามาคุยเป็นการคั่นเวลา แค่นี้ก่อนครับ

 

ขอบคุณ คุณ NICKAZ มากๆเลยครับ
ผมจะเล่าให้ฟังนะครับ
ส่วนตัวผมไม่เคยฝึกสมาธิจริงๆจังๆ
เพราะไม่มีเวลาจะฝึกเลยซักนิด
ตอนที่รู้ตัวว่าเป็นแบบนี้ก็ตั้งนานแล้ว แต่ผมไม่ใส่ใจครับ
จนวันนึงเกิดเรื่องที่ผมประหลาดใจก็คือ
วันนั้นผมเป็นไข้หนักมากๆ จนร่างกายผมเกิน 40 กว่าองศา
คิดว่าจะไม่รอดซะแล้วเพราะตอนนั้นเป็นไข้เลือดออก
อยู่โรงบาลแล้วผมก็นอนหลับตา
ผมเห็นเหมือนชายร่างขาวๆ รูปร่างสง่างาม มาแนะนำวิธีนี้ในฝันให้ผมลองควบคุม ความร้อนในร่างกายดู
ผมไม่รอช้าเลยลองทำ(แต่อยู่ในความฝัน)เค้าก็บอกผมว่ามีพรสวรรค์ในด้านสมาธินะ จากนั้นเค้าก็พูดอะไรอีกไม่รู้ ผมไม่ได้ยินเลย แต่เค้าพูดอยู่ จากนั้นผมก็ตื่นมาแล้วก็ประหลาดใจ ร่างกายผมเย็นลงเหลือ 38 องศา จากนั้นผมก็ไม่ได้ฝึกควบคุมอีกเลย หลังจากวันนั้นผมก็อาศัย ทำกิจวัตรไปด้วย กำหนดหายใจไปด้วยมันยากมากๆเลย แต่ผมก็พยายามทำตลอดพอนึกทีไรก็สงบทุกที
วันนึงผมก็ได้ไปปฏิบัติทำที่วัด เอาหละ คราวนี้จะได้ตั้งใจทำสักที แต่มีเวลาแค่วันเดียว ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากขอแค่ได้ทำก็พอ
จากนั้นก็นั้งสมาธิกำหนดลมหายใจไปธรรมดาๆนี่แหละครับ
ผ่านไปประมาณ30นาทีมั้ง ผมก็เห็นคนที่อยู่ข้างหน้าผม(ผมไปกับครูและเพื่อนๆ)เห็นพวกเขากำลังจ้องมาที่ผม เหมือนภาพจริงๆเลย ไม่นาน ผมก็เห็นกระดูกตัวเอง ผมก็เลยกำหนดไปที่หัวใจ ก็เห็นหัวใจ แต่ตอนนั้นภาพไม่ชัดนัก
เห็นลางๆ พอเห็นแค่นี้ผมรู้สึกเหนื่อยมาก ล้าทั้งกาย ก็เลยออกจากสมาธิ พระท่านก็บอกผมว่า ผมได้ฌาน2แล้ว ผมก็ไม่เชื่อหรอกครับ ผมยังไม่อยากเชื่ออะไรตอนนั้น พอมาจนถึงวันนี้ ผมก็ฝึกทุกวันทำกิจวัตรประจำวันไปด้วย
ก็เลยได้ไม่เต็มที่เหมือนคนที่ปฎิบัติ
ผมก็ไม่ทราบว่าผมปฎิบัติกรรมบานกองไหนเหมือนกันครับ
ผมแค่ทำสมาธิดูลมหายใจธรรมดาเอง
ตอนเด็กๆก็ชอบเจอแต่วิญญาณบางทีก็เจอเจ้าที่ เยอะแยะเลยครับ (555)
ก็ประมาณนี้แหละครับ
เดี๋ยวผมจะมาตอบให้ตอนเย็นนะครับ วันนี้วันเด็กต้องไปช่วยงานอาจารย์ที่มหาลัยครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ตอบนะครับ

 

มันเป็นปัญหาหรือเปล่า
ถึงได้คิดจะแก้มัน

มันไม่ต้องแก้ก็ได้มั้ง ช่างมันสิ

 

ปัญหา หนะมี แต่ จขกท ไม่ต้องการตั้งมันเป็นปัญหา

และหนำซ้ำ ยังต้องการ "ต่อยอดปัญหา" ให้มันมีมากขึ้น

แต่ ไม่กล้าที่จะสร้างปัญหาให้เกิดกับตัว กลัว รับผิดชอบสิ่งที่รู้ว่า ไม่ใช่ทาง ไม่ได้

ก็เลย ต้องอาศัย แพลมออกมานิดหน่อย เอาว่า มีใครมาตอบรับแนวทาง

ก็จะ ยกให้คนที่เข้ามาโพสโต้ตอบ เป็น ผู้รับรองผล แล้ว โยนความผิดให้ หากกรรม
ฐานที่ฝึก เกิดไม่ใช่ทาง ขึ้นมา พอมีคนมารับรองผล ก็จะเกิดการ แผลมเรื่องราว
มากยิ่ง มากยิ่งขึ้น จนลงหลังเสือไม่ได้ ลงจากเวทีไม่เป็น

ไอ้คนบางคน เข้ามา ก็รู้ทั้งรู้เหมือนกับ จขกท คือ เคยผ่านเรื่องแบบนี้มาแล้ว รู้เลาๆ
อยู่ว่า ห่างไกลมรรคผล ไม่สามารถ ควบวิปัสสนา ได้ ทั้งๆที่ สมถะ ที่ไหน หากทำ
ถูกต้อง วิปัสสนา จะควบพร้อมเฉพาะทันที แต่ ตัวเองก็ยังมืดแปดด้าน และ อาจจะ
รู้ตัวด้วยว่า ห่างไกลการเจริญ(วิปัสสนา) ก็โลย เล่นเทคนิตเดิม เหมือนกับที่ ตน
เคยทำมาก่อน จขกท คือ โบ้ย !! ให้สมาชิกคนอื่น ที่ยัง มีแนวโน้มคาบลูกคาบดอก
ยังมีแววไม่รู้ตัวว่าเดินทางผิด เผื่อว่า สมาชิกท่านอื่นท่านนั้นจะพาเดินจมปลักต่อไปได้

****************

จขกท หากต้องการทราบว่า ฝึกรรมฐานอะไรอยู่ ไม่ยากเลย

ทบทวนลงไปสิ เป็นไข้เลือดออก อุณหภูมิกำลังสูง แล้ว ก็ฝึก ฝึกอะไร
ตรงนี้อย่าไปดูที่ ภาพ หรือ ตัวประกอบเรื่อง

ให้รู้มาที่ ฐานกายใจ ตนเหมือนเดิม คือ กำลังตรีทูต กำลงัจะตายนั่นแหละ
หากหมอรักษาไม่ได้ มีโรคแทรกซ้อน ก็ตายไปแล้ว

ดังนั้น กรรมฐานที่ฝึกนั่น ควรมองย้อนกลับมาที่ เรื่องการตาย ความประมาท
ต่อความตาย ความเอ้อระเหยประมาทในธรรม

ไอ้ร้อน กับ ไออุ่น เป็น สัญญาณของชีวิต เรียกว่า ชีวตินทรีย์ หากหมด
สภาพไอ้ร้อน กับ ไออุ่น นั่นหมายถึง สิ้นชีวิต เปลี่ยนภพ เปลี่ยนชาติ

ดังนั้น อย่าเข้าใจผิด คิดเข้าไปควบคุม "ไอร้อน ไออุ่น" ที่จิตรับรู้

แต่จงยกเห็นไปตามความเป็นจริงว่า สิ่งนี้ควบคุมไม่ได้ และ หนำซ้ำ
ยังจัดเป็น ส่วนวิบาก คือ เวรกรรมก่อนๆมันให้ผล หากกรรมใหม่จัด
สรรไว้ไม่ดี ไอ้ร้อนไออุ่นนี้ก็จะแปรผันไปตามผล ของการก่อเวรก่อ
กรรมตามนั้น

และเหมือนไหร่ ที่ ธรรมชาติใดก็ตามยังต้องอาศัยการตั้งอยู่ ดับไป
ของไออุ่นนี้ ธรรมชาตินั้นย่อมมี ชรา มรณะ โศกา ปริเวท อุปยาส
อยู่แน่นอน

ดังนั้น จึงพิจารณาหา ธรรมชาติ ที่ไออุ่นนี้ไม่อาศับอยู่ มีอยู่ไม่ได้ ตั้งอยู่
ไม่ได้ ธรรมชาติที่มหาภูตรูป4 ตั้งไม่ได้ นั่นคือ อมตธาตุ !

แล้วพิจารณา โน้มไปสู่ อมตะธาตุ นั้น ไว้เนืองๆ อย่า ตั้งจิตไว้ผิด แม้แต่นิดเดียว

เหมือนการ ประกอบกายคตาสติ ที่อุปมาเหมือน นักโทษที่ถือหม้อน้ำมันร้อนที่
เขาเคี่ยวมีอยู่ปิ่มหม้อ แล้วมีเพชฆาติเดินตามหลัง หากเผลอไผลไปกับความ
ร้อนความอุ่นจนทำหก ลืมไปว่า เพชรฆาติคือมัจจุราช ที่รอเงื้อดาบฟันอยู่ข้างหลัง
คุณก็คงไม่รอด .....................

หา อมตะธาตุให้พบ เพื่อจะได้เลิกถือหม้อน้ำมันคือไออุ่น(ร้อoเย็น)โดย
อุปทานว่าเป็นเรื่องสั้นยาวของชีวิตสัตว์ ตัวตน บุคคล เราเขา

 

อนึ่ง ความตอนหนึ่งจากพระสูตร ว่าด้วย ท้าวผกาพรหม ผู้สร้างโลก ผู้เลิศ
ในการเล่นแร่แรธาตุ สำคัญตนว่าเป็นผู้ ควบคุมธาตุทั้งหมด ในมหาภิภพจักรวาล

แม้การอุบัติขึ้นของ พระพุทธเจ้าเป็น มะนุด ท้าวผกาพรหมก็สำคัญผิดดำริว่า เป็น
การควบคุม ดิน น้ำ ลม ไฟ ไออุ่น ไอเย็น จาก ตน

****************************

มีพรหมผู้เป็นบริวาร ท่านหนึ่ง ถามเท้า ผกาพรหมว่า ท่านรู้จัก ธรรมชาติที่
ไม่มีมหาภูตรูป4 หรือไม่

เท้าพกาพรหม ตอบว่า หากสมัยที่ พระสัพพัญญูยังไม่ปรากฏ หรือ ศาสนา
พุทธอันตรธานไปแล้ว เราก็จะอาศัยการ นิ่งเสีย ไม่ตอบคำถามนี้ แล้วจะ
ยังคงปกครองบริวารอยู่ได้ ไม่ต้องอายใคร เพราะความ ไม่รู้

แต่ นี่ พระศาสนาปรากฏอยู่ สัทธรรมปรากฏอยู่ เหมือนมีพระพุทธองค์ปรากฏ
อยู่ จึงไม่อาจจะอาศัย การนิ่งเสีย ไม่ตอบได้

ดังนั้น

ท้าวผกาพรหมก็จำ ต้อง โบ้ย !!! บอกให้ไปถาม พระอรหันต์เจ้า ใน
พระพุทธศานาเถิด ท่านเหล่านั้น รู้จริง ตอบได้ ไม่โบ้ย ไม่มีสันดาน
บ่มเพาะการโบ้ยไว้เช่นเรา คำตอบเรืองอมตธรรม จะได้รับคำตอบแน่นอน

ก็พิจารณาเอานะ จะเป็นผู้เลิศในการเล่นแร่แปรธาตุ รู้หมดเรื่องเย็นร้อนอ่อนแข็งตึงไหว ที่โบ้ยเก่งเพราะความไม่รู้ยังเต็มหัวใจ หรือเปล่า

 

ขออนุโมทนาสาธุ ธรรมใดที่ท่านสำเร็จแล้ว ขอข้าพเจ้าสำเร็จด้วยเทอญ สาธุๆๆ

 

ตั้งสมมติฐานถ้าควบคุมธาตุ4ได้-->ควบคุมขันธ์5ได้-->ไม่แปรปรวน ตั้งอยู่ -->เที่ยง
ถ้าสมมติฐานนี้ถูกนะ กฎไตรลักษณ์ก็จะไม่จริง

งั้นผลก็--> น่าจะย้อนวัยได้ ไม่เจ็บป่วยได้ดั่งใจปรารถนา ควบคุมได้

วิทยาศาสตร์ ทดลองเลย
เอาเทอร์โมมิเตอร์มากำเลย อธิษฐานให้เย็น อุณหภูมิลดไหม

ถ้าผลเกิดขึ้นไม่ได้สมมติฐานก็ไม่จริง ก็รู้ว่า มันไม่เที่ยง ความอยากให้เที่ยงนี่เป็นทุกข์จริงไหมครับ

งั้นน่าจะเกี่ยวกับการรับรู้เช่น เอามือจุ่มน้ำ30องศา แล้วไปจุ่ม น้ำ28องศา บอกเย็น
แต่พอเอามือจุ่มน้ำ 26องศา แล้วไปจุ่มน้ำ 28องศาบอกร้อน

บางทีเราปิติ เราเพ่งฌานอยู่ เราไม่รู้ร้อนหนาว

เรื่องตัวร้อนเป็นไข้พอหายไข้อุณหภูมิมันก็ลงเองตามธรรมชาติครับ

แต่เรื่องรู้เหตุล่วงหน้า เป็นอำนาจจิตครับฝึกไปเรื่อยๆ รักษาความสงบของจิตไว้ตลอดเวลา
ไม่ให้อกุศลครอบงำไปทำชั่วครับ

 

5555
อย่าซีเรียสครับ
ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะสงสัย ไม่ได้คิดอยากแก้หรืออยากเพิ่มอะไร
หากไขข้อข้องใจได้แล้วก็เพียงพอแล้วครับ
ผมไม่ใช่นักปฎิบัติ
ผมเป็นเพียงคนธรรมดาๆคนหนึ่ง
ที่ไม่เคยคิดชั่ว ต่อว่าคนอื่นลับหลัง ช่วยเหลือผู้อื่น
และทำความดี ให้พ่อแม่และคนที่ผมรัก
จะติ จะว่า อะไรผมก็เชิญเลยครับ
ผมยอมรับทุกคำสอน แต่ผมก็จะดำเนินชีวิตด้วยวิถีของผมเอง
ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ใยเราจะต้องทุกข์ใจ
หากรู้ว่าตัวเองทำคนอื่นเดือดร้อน เราก็ต้องร้อนกว่าเค้าเป็นพันเท่า
ขอบคุณครับ