ถึงเวลาที่สยบข่าวภัยพิบัติ  ทางสายเอก

เชิญลองเข้ามาศึกษาหาความรู้ร่วมกันครับ

คัดมาจาก Facebook สมุนไพรพลังพีระมิดพระอาจารย์รัตน์
ขออนุญาตเรียนย้ำว่า ท่านพระอาจารย์รัตน์ฯ ได้องค์ความรู้ฯ จากการศึกษาค้นคว้าในศาสตร์โบราณ และ จารึกโบราณ ว่าด้วยการเปลี่ยนขั้วโลกใหม่ และ เสริมด้วยองค์ความรู้ฯ ที่ได้มาจากการศึกษาทาง “จิต” ที่สงบนิ่งได้องค์ฌาน เป็นญาณทัศนะ ถอดจิตออกจากกายไปรับรู้เรื่องราวในอดีต และ ทราบเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทำให้พระอาจารย์รัตน์ฯ รู้ถึงเหตุและผล ของแต่ละปรากฏการณ์ ในความเชื่อมโยงของแต่ละเหตุการณ์ ได้ด้วยการใช้ แรงสืบต่อ หรือ แรงสันตติ สาวหาเหตุและผล ของการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และ สลาย ของสรรพสัตว์ ปรากฏการณ์ สุริยจักรวาล กาแลคซี่ และจักรวาล ฯลฯ

ทำให้ได้เห็นความจริงที่ผูกโยงเป็นเงื่อนไขว่า เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนั้นย่อมมี เพราะความเกิดขึ้นแห่งสิ่งนี้ สิ่งนั้นจึงเกิด เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนั้นย่อมไม่มี เพราะความดับไปแห่งสิ่งนี้ สิ่งนั้นจึงดับไป ซึ่งเป็นความรู้ที่ไม่ได้เกิดมาจากการทำงานของสมองและใจ ตามปกติที่สามัญชนกระทำกัน จึง
ไม่ใช่การพยากรณ์ มิใช่การทำนาย แต่เป็นการบอกแจ้งให้ทราบว่า หรือ เพียงแจ้งให้ท่านทราบว่า ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นแล้ว อะไรจะเกิดตามมาในลำดับต่อไป

คมสันต์usa
สมาชิก
ขอบคุณครับ พญามารนั้นสามารถเนรมิตร สิ่งต่างฯได้มากมายที่มาให้เห็นในสมาธิจิต เช่น ธาตุทั้งสี่ และสิ่งต่างฯ ทั้งที่มีในเมืองมนุษย์ และสิ่งที่เป็นทิพย์
แต่มีเพียงสิ่งเดียวที่พญามารไม่สามารถ ที่จะเนรมิตรได้คือ
พลังแสงแห่งอภิญญาฌานบารมีและรัศมีแห่งธรรม ครับ
อย่าว่าแต่เพียงเนรมิตรเลยครับ แม้นที่จะเข้ามาใกล้พลังแสงก็หมดโอกาสแล้วครับ

vigo1843
สมาชิก
ชอบข้อความนี้จริง ๆ....แต่คิดว่าคงจะขัดใจ กลุ่มที่อ้างแต่ความฝันหรือนิมิตรอะไรต่างๆประมาณนั้น แต่ก็เป็นกำลังใจให้คุณคมสันต์นะ ที่กล้าขวางน้ำเชี่ยวตอนนี้ ... เตือนสติได้ดีมากๆครับ

คำตอบโดยที่ไม่ต้องตอบครับคือมีคำตอบใว้ให้ชัดเจนแล้วครับ

เกี่ยวกับนิมิตต่างฯ
ข้อความนี้เคยโพสต์ไว้แล้วบนกระทู้ในวันที่  ๑๖ ธันวาคม หน้า ๒  ครับ

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=aS_d0Ayjw4o]A Beautiful Mind Trailer - YouTube[/ame]

ตัวอย่างคนที่เขาเห็นของเขาจริง แต่สิ่งที่เห็นไม่มีจริง และไม่เป็นจริง จากหนังเรื่องนี้ A Beautiful Mind สร้างจากเรื่องจริง

 

คัดมาจาก Facebook สมุนไพรพลังพีระมิดพระอาจารย์รัตน์
เรื่องของจิต และ พลังจิตของแต่ละท่านนั้น เป็นเรื่องที่มีอยู่จริง แต่มีมากน้อยแตกต่างกันเท่านั้น ท่านที่ไม่เคยมีพลังจิต หรือ มีเพียงน้อยนิด โปรดอย่าปรามาส หรือ สบประมาทครูบาอาจารย์ที่ท่านมีพลังจิตที่เหนือกว่า เข้าทำนองว่า “ไม่เชื่อ ก็อย่าลบหลู่" แต่ ก็มิได้บังคับให้ท่านต้องเชื่ออย่างงมงาย

เพียงแต่เรื่องใดที่ท่านไม่มีฐานความรู้ หรือ ไม่มีองค์ความรู้ในเรื่องนั้นๆมาก่อน ก็อย่าด่วนปฏิเสธทันที หรือ ดูหมิ่นความรู้ของผู้อื่น ที่นำเรื่องราวมาบอกกล่าวตักเตือน โปรดทำการศึกษาและติดตาม ทดลองและลงมือปฏิบัติ สักวันหนึ่งในอนาคต ท่านอาจได้พบความจริง เพียงแต่ หากลังเล หรือ ล่าช้าในการลงมือปฏิบัติ ในวันที่ท่านยอมรับความจริงนั้น อาจเป็นวันสุดท้ายของชีวิตท่านก็ได้ เข้าทำนองว่า “ไม่เห็นโลงศพ ก็ไม่หลั่งน้ำตา”
คมสันต์usa
สมาชิก
การกระทำนั้นย่อมแสดงออกถึงภูมิรู้และสติปัญญาได้ชัดเจนกว่า   คำพูดและข้อเขียนครับ
ถ้าตัวเราเองมีพลังจิตเพียงแค่น้อยนิดแล้ว   เราก็คงจะไม่กล้าเข้ามาเขียนให้เสียเวลาหรอกครับ
และถ้าท่านทำและปฏิบัติได้อย่างที่ท่านเขียนมาจริง   ก็คงจะไม่มีใครกล้าไป
ปรามาสท่านอย่างแน่นอนครับ

 

เปรียบเหมือนที่พักผ่อนหย่อนใจที่ริมทางเมื่อเราได้ใช้เป็นที่พักจนหายเหนื่อยแล้วและมีกำลังใจดีแล้วเราก็ควรจะเดินทางต่อครับ

 

เครดิต ที่มาจาก    กระทู้  จุฬาฯฟันธง!“วันสิ้นโลก”ไร้สาระ    
มาตามนัดทุกปีช่วงปลายธันวาฯ ชี้พายุสุริยะไม่เกี่ยวแผ่นดินไหว ระบุโลกจะแตกก็เพราะคนแตกแยก-ฆ่ากันเอง เตือนอย่าเป็นเหยื่อถูกหลอก
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.55 คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดเสวนาหัวข้อ "โลกแตก 2012!!! ในเชิงวิชาการ...จริงหรือหลอก?" โดย ผศ.พงษ์ ทรงพงษ์ อาจารย์ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า เรื่องเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 21 ธ.ค.นี้ มีการตีความ และโยงจากหลายเรื่องทั้งแผ่นดินไหว พายุสุริยะ ซึ่งพายุสุริยะที่เกิดขึ้นแต่ละครั้ง อาจจะกระทบสัญญาณดาวเทียม และระบบการรับสัญญาณของโทรทัศน์เท่านั้น แต่ดวงอาทิตย์เป็นสิ่งที่ทำนายล่วงหน้าไม่ได้ หากจะมาบอกว่าวันที่ 21 ธ.ค.นี้ จะเกิดพายุสุริยะรุนแรงก็เป็นไปไม่ได้
ด้าน ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ นักวิชาการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) กล่าวว่า ดวงอาทิตย์มีวันหมดอายุใน 4.5 พันล้านปี ก็จะเป็นดาวแดงดวงใหญ่ หรืออาจจะทำให้โลกร้อนก็จะเป็นโลกแตกในเชิงวิทยาศาสตร์ได้ แต่มนุษย์ส่วนใหญ่ก็มีอายุไม่เกิน 100 ปี
ขณะที่ดร.ไพบูลย์ นวลนิล อาจารย์ภาควิชาฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์กล่าวว่า ความเชื่อมโยงของพายุสุริยะเกี่ยวกับแผ่นดินไหวนั้น ไม่มีความเกี่ยวข้อง เพราะสถิติไม่ได้สอดคล้องกับปฎิกิริยาของดวงอาทิตย์ที่เปลี่ยนแปลงไป
ดร.สธน วิจารณ์ลักษณ์ อาจารย์ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า ขณะนี้ไม่มีรายงานการเกิดพายุสุริยะ ส่วนกระข่าวลือดาวเคราะห์นิบิรุใหญ่กว่าโลก 4 เท่าจะพุ่งชนโลกนั้น ถ้าวันนี้มีดาวเคราะห์นิบิรุบนท้องฟ้าเพื่อจะมาชนโลกเราจะต้องมองเห็นแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวล ส่วนประเด็นโลกถูกหลุมดำดูดเข้าไปนั้น ยังอยู่ห่างไกลออกไปมาก จึงเป็นเรื่องไร้สาระอย่างมาก เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ มันมาตามนัด โดยเฉพาะวันที่ 26 ธ.ค.ทุกปี มีคนพยายามพูดถึงเรื่องนี้ว่าภัยธรรมชาติมีอยู่ อาจเกิดขึ้นมาได้ ดังนั้น เรื่องโลกจะแตกพราะคน ความแตกแยกของคน คนที่จะฆ่ากันเองก่อน ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะมีคนนำเรื่องนี้ไปหาประโยชน์ทั้งนั้น อยากให้ประชาชนใช้วิจารณญาณก่อนจะเสียเงินเช่นกัน
     คมสันต์usa             เห็นว่าข้อมูลที่โพสต์เป็นประโยชน์ดีจึงนำมาให้อ่านกันครับ

 

ระบบสุริยจักวาล   พายุสุริยะ  หลุมดำ ดวงดาวต่างฯ หิมะม้วน  ปิรามิด   ภัยพิบัติต่างฯ จากธาตุทั้ง ๔  ล้วนเป็นสิ่งที่ไกลตัวทั้งสิ้น   ล้วนเป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์  และหมอดู ทั้งหลาย
ให้ความสนใจ  และศึกษากัน  และสอนกัน ต่างก็ล้วนหาข้อและเหตุผลมาอ้างให้เข้ากับความคิดของตน และสถาบันของตน มีเครื่องมือคือเทคโนโลยีที่ทันสมัย ถูกนำมาใช้ 

ส่วนองค์สัมมาสัมพระพุทธเจ้าของเรา ทรงสอนและให้ความสนใจในสิ่งที่ใกล้ตัวเราก่อน
คือการฝึกเจริญสติเพื่อให้มีสติสัมปชัญญะอยู่ในทุกขณะจิตเพื่อให้รู้เห็นถึงรูปนามเกิดดับ ในแต่ละห้วงแห่งอารมฌ์ในทุกขณะจิต โดยใช้ลมหายใจเป็นเครื่องมือ เพื่อจะเป็นหนทางที่จะละ  และวางเสียซึ่งกองกิเลสและเพื่อให้เข้าถึงเหตุแห่งความพ้นทุกข์ 
ที่เราเรียกกันว่า    ภัยพิบัตินั่นเองครับ

 

        จิตดูกับจิตรู้หนูกับแมว
แมวกับหนู คู่กัดกัน นานมาก่อน
แมวทำอ้อน ว่าเปรี้ยวปาก อยากทานหนู
แมวอวดเก่ง รีบเร่งมา ว่าเฝ้าดู
แมวรอหนู อาหารว่าง นั่งเฝ้ารู
หนูกับแมว แจวเล่น ดังเช่นก่อน
หนูทำอ้อน แมวบ้าบิ่น อยากกินหนู
หนูมาก่อน จะเข้านอน สอนมวยดู
หนูบอกครู ไม่ใช่หมู หนูกินแมว
จิตดูเป็นหนู   จิตรู้เป็นแมว  เมื่อรู้แล้วถูกแมวกินหมด  เมื่อพบแล้วต้องทิ้งทั้งหนูทั้งแมวครับ

 

โอกาสอันดีงามของคนเรามักจะวิ่งมาชนโดยไม่ทันตั้งตัว คนที่สามารถที่จะรับโอกาสอันนั้น
ได้คือคนที่เตรียมพร้อมอยู่เสมอ และพึงระลึกไว้ว่าวิกฤติในบางครั้งก็คือจุดเปลื่ยนของ
ชึวิตที่กลับจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดีขึ้นกว่าเดิม เพียงแต่ว่าเราจะมองวิกฤตินั้นให้เป็นโอกาสแบบคนคิดบวก หรือ เราจะมองว่าเป็นอุปสรรคแบบคนที่คิดลบ

 

มนุษย์เรามักจะเสียดายการสูญเสียในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่
แต่กลับไม่เสียดายการสูญเสียในสิ่งที่ควรจะพึงมี

 

กลอนเพราะดี มีข้อคิดลึกซึ้งมาก

 

สาธุค่ะท่านอาจารย์ ...

 

ท่านพนมฯ น่าสนใจดีครับ หนังเก่าใช่ไหมครับ ยังไม่เคยดูเหมือนกัน

 

A Beautiful Mind



หนังเรื่องนี้ เก่าหลายปีแล้ว พอดูไปจนจบ พบว่า มีเนื้อในที่มีสาระน่าคิดตาม เพราะพูดถึงความซับซ้อนซ้อนเงื่อน ในระบบจิตประสาทของคน สำหรับที่พิมพ์มานี้ ข้อมูลบางส่วนเอามาจาก link ของคนที่เคยดูหนังนี้แล้ว ท่านที่สนใจลองพิจารณาดู

A Beautiful Mind ..ความรักคือเหตุผลทั้งหมด

สร้างจากชีวิตจริงของ "จอห์น ฟอร์บส์ แนช จูเนียร์" ผู้คิดค้นทฤษฎีเกมส์ และได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์เมื่อปี 1994 นักอ่านบางคนอาจรู้จัก จอห์น แนช จากหนังสือ "คนเพี้ยนผู้เปลี่ยนโลก" ที่ชื่อของเขาถูกรวมไว้ในฐานะ"คนเพี้ยนผู้เปลี่ยนโลก" ร่วมกับอัจฉริยะในวงการต่างๆ เช่น อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ,วินเซนต์ แวนโก๊ะ ,เลโอนาโด ดาวินชี่ ,ลุดวิก เบโธเฟ่น

ไปๆ มาๆ ..จอห์น แนช เครียดจนบ้า

 

ขอบคุณครับ เดี๋ยวจะไปลองหาดู ส่วนตัวชอบหนังเรื่อง "Click" ที่เนื้อเรื่องเป็น Remote ย้อนการกระทำ มีผู้อนุเคราะห์หามาให้ตอนปฏิบัติถึง "จิตมีความเห็นย้อนกลับ กระทำโยนิโสมนัสสิการ" เลยผ่านจุดนั้นไปได้ แบบไม่น่าเชื่อ แต่ก็เป็นไปแล้ว คุณพ่อคุณแม่ท่านไม่ทิ้งเราจริงๆ

 

ขอบคุณคุณถิ่นธรรมที่แวะมาอ่านและคำชมครับ

น้ำค้างบนใบบัว กลิ้งไปทั่วบัวสดใส
ใสนิ่งกลิ้งเหมือนใจ ฝึกจิตใว้หายขุ่นมัว
สายธารและแสงธรรม  มีสุขล้ำตามไปทั่ว
จิตใสบนใบบัว   ไม่ขุ่นมัวเหมือนน้ำคลอง[

 

หนทางสอง ฟากข้าง ทางชีวิต
เดินทางผิด หลงเข้าป่า เดินหน้าใหม่
มีแสงธรรม แสงทอง ผ่องอำไพ
จิตสดใส ให้มองเห็น เส้นทางธรรม

 

อันสมอง คนเรา เขาแบ่งไว้
สองข้างได้ ซ้ายขวามี ที่ในหัว
อธิษฐาน ให้ตั้งจิต ไม่หมองมัว
ใส่จิตตัว ลงไป ในภาพเทอญ

ที่ซีกขวา ว่ามีจิต ใต้สำนึก
จักตรองตรึก ภาพชัด แลจัดให้
อธิษฐาน เป็นคำพูด พร้อมคิดไป
เป็นสมอง ซีกซ้าย ไม่ได้การ

 

ชีวิตคนเรานี้ ทำไมมีทุกข์ทางใจมากเหลือเกิน
บางปัญหาก็ไม่ทราบจะช่วยอย่างไร


องค์สัมมาพระพุทธเจ้าของเราทรงสอนเรื่อง ทุกข์กับวิธีดับทุกข์ ลองค้นคว้าดู
พระพุทธรูปนั้นเป็นปริศนาธรรมที่ดีเยี่ยมครับ
เวลาเรากราบพระพุทธรูป เคยสังเกตุไหมว่าทำไมสายตาของท่านจึงมองทอดลงต่ำ
ท่านสอนว่าให้มองดูปัญหาที่ใกล้ตัวเราก่อน อย่ามองอะไรที่มันไกลไปครับ
ส่วนบนศรีษะท่านที่เป็นตุ่มฯไม่เรียบนั้น คือชีวิตคนเราเกิดมา ไม่มีใครเอาดอกกุหลาบ
มาโปรยให้เราเดินหรอกครับ คือจะต้องพบกับอุปสรรคนานาประการ เป็นธรรมดา
ส่วนด้านบนแหลมสุด คือตัวปัญญา ที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาต่างฯที่พึงจะเกิดขึ้น แก้ไข โดยใช้สัมมาสติมาเป็นตัวควบคุมปัญญา ทำให้เราเข้าใจถึงที่มาของปัญหานั้นอย่างแจ่มแจ้งครับ

 

เยี่ยมครับ

 

อย่าเอ็ดไปนะครับ ตอนนี้ i ฮ้วโต๋ และ i เกษม บอกว่าเบื้องบนหรือเบื้องล่างไม่รู้เขาทำเสาดูดวิญญาณ สำเร็จแล้ว 55555555555555555 ทีนี้ละจะพากันจากเดินเป็นคลานกันเป็นแถว 5555555555555