หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง จ.ร้อยเอ็ด

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย Specialized, 28 กรกฎาคม 2010.

  1. อุดมสมพร

    อุดมสมพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,658
    ค่าพลัง:
    +6,964
    [​IMG]
    น้อมกราบหลวงปู่ศรี มหาวีโร เหนือเศียรเกล้า

    ผลการจับรายชื่อผู้โชคดี ได้รับเหรียญซุ้มเรือนแก้ว เนื้ออัลปาก้า ในโอกาสที่กระทู้หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง ของคุณบอย Specialized มีผู้เปิดอ่านครบ 300,000คนในวันนี้ ท่านผู้โชดดีได้แก่....ท่าน... ช้างป่า
    รบกวนแจ้งชื่อและที่อยู่ เพื่อจัดส่งในวันพรุ่งนี้เช้า (เหรียญที่จัดส่งให้เป็นคนละเหรียญกับในรูปนะครับ)ขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกท่านครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2013
  2. ช้างป่า

    ช้างป่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    511
    ค่าพลัง:
    +16,480


    ว้าวววว

    ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆๆครับผม :cool::cool::cool::cool:
     
  3. puedpunon

    puedpunon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    7,130
    ค่าพลัง:
    +16,093
    ยินดีกับท่านผู้โชคดีทุกท่านครับ
     
  4. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,437
    น้อมกราบหลวงปู่ศรีด้วยเศียรเกล้า....
    อรุณสวัสดิ์พี่อุดมสมพรและทุกๆท่าน...
     
  5. ช้างป่า

    ช้างป่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    511
    ค่าพลัง:
    +16,480
    [​IMG]


    “อยากเป็นคนดี”

    ..ขอให้บรรดาทุกท่านทุกคน จงนำไปประพฤติ ปฏิบัติ ฝึกหัด ดัดแปลงเอา

    ในตัวของใครของมัน เหมือนเรากินข้าวกินน้ำนี้หละ ถ้าหิวก็กินเลย

    ชอบอะไรก็กินไปตามแนว ลักษณะของการประพฤติปฏิบัติก็ทำนองเดียวกัน

    จะเอาไปตามความเห็นของใจไม่ได้หรอกไปกันใหญ่ เห็นไหมเขาตกนรกอเวจี

    นรกน้อยนรกใหญ่ไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ เป็นสิงสาราสัตว์นานัปการ

    แต่คนเราอยากเป็นคนดี แต่ถ้าไม่ประพฤติปฏิบัติธรรมะมันดีไม่ได้หรอก

    ของทางนอกมันมาก นี้หละ แนะนำมาพอเป็นแนวทางเอาละทีนี้..




    พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่ศรี มหาวีโร

    เทศนา เรื่อง ปฏิบัติที่ใจ
     
  6. motana2008

    motana2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    4,929
    ค่าพลัง:
    +10,336
    ยินดีกับพี่อั๋น และ ท่านช้างป่า ด้วยครับ

    กราบหลวงปู่วันอังคาร วันพระเล็กครับ
    \(^o^)/~
     
  7. อุดมสมพร

    อุดมสมพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,658
    ค่าพลัง:
    +6,964
    สาธุ สาธุ สาธุขอขอบคุณท่านช้างป่า ที่นำเทศนาธรรมของครูบาอาจารย์ มาให้เพื่อนๆสมาชิกได้อ่านกันครับ
    :cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool::cool:
     
  8. nitikoon kongkhaw

    nitikoon kongkhaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +53,508
    ขออนุโมทนากับพี่อุดมสมพร และยินดีกับคุณอั๋น น้องนายด้วยนะครับ..
     
  9. อุดมสมพร

    อุดมสมพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,658
    ค่าพลัง:
    +6,964
    อัตตนา โจทยัตตานัง จงกล่าวโทษโจทความผิดของตัวไว้เสมอ อย่าไปยุ่งกับคนอื่น

    อัตตนา โจทยัตตานัง จงกล่าวโทษโจทความผิดของตัวไว้เสมอ อย่าไปยุ่งกับคนอื่น คตินี้นักปฏิบัติทุกคนเขาจะประณามตัวเองเข้าไว้เสมอ อารมณ์ยุ่งอยู่กับกามราคะนิดหนึ่งเขาจะประณามว่าเลวทันที ของอะไรก็ดี ถ้าชมว่าสวย ชมว่างาม เมื่อรู้สึกขึ้นมาก็รู้สึกว่าใจของเรามันเลวเสียแล้วรึนี่ แค่นี้เขาตำหนิตัวเขาแล้ว แล้วยิ่งไปเพ่งโทษของบุคคลอื่นไปแสดงอารมณ์อิจฉาริษยาบุคคลอื่น ทำให้บุคคลอื่นได้รับความเร่าร้อน นั่นแสดงว่ากิเลสมันไหลออกมาทางกายและทางวาจา มันล้นออกมาจากใจมันเลวเกินที่จะเกิดเป็นมนุษย์ใหม่ นี่เราต้องประณามอย่างนี้ แล้วทางที่ไปจะไปไหน เป็นสัตว์เดรัจฉานก็ยังเป็นไม่ได้ ต้องไปขึ้นต้นมาจากนรก มันไม่เหมาะสำหรับเรา นี่เราต้องประณามตัวไว้เป็นปกติอย่าเที่ยวประณามคนอื่นเขา

    จงอย่าคิดว่าคนอื่นจะต้องมาลงโทษเรา ก่อนที่คนอื่นจะลงโทษ กรรมที่เราทำความชั่วมันก็ทำความเร่าร้อนให้เกิดขึ้นแก่เรา ใครเขาพูดความชั่วคราวใดเราก็สะดุ้งเพราะเรามันเลว พระพุทธเจ้าตรัสว่า อัตตนา โจทยัตตานัง จงเตือนตนไว้เสมอ และจงโจทตน กล่าวโทษตนไว้เป็นปกติ หาความชั่วของตัว อย่าไปหาความชั่วของบุคคลอื่น ถ้าเลวมากเมื่อไหร่ เราก็เพ่งเล็งความเลวของบุคคลอื่นมากเท่านั้น ถ้าเราดีมากเท่าไหร่เราก็ไม่มองเห็นความเลวของบุคคลอื่น เพราะยอมรับนับถือกฎของกรรม ที่เรายังไปหาความเลวของบุคคลอื่น เสียดสีเขาบ้าง พูดกระทบกระเทียบเขาบ้าง ทำลายความสุขใจเขาบ้างนั่นแสดงว่า เรามันเลวที่สุดของความเลว คือความเลวมันไม่ได้ ขังอยู่ เฉพาะในใจ มันไหลออกมาทางกายไหลออกมาทางวาจา เพราะมันล้น เลวจนล้น นี่ขอทุกท่านจงจำไว้ อย่าไปมองดูความเลวของคนอื่น มองดูความเลวของตน ไม่ต้องไปปรับปรุงบุคคลอื่น ปรับปรุงเราเองให้มันดีที่สุด

    สำหรับคนที่เขามาสร้างความชั่วให้สะเทือนใจเรานั่นเขาเป็นทาสของกิเลส ตัณหา อุปาทาน และอกุศลกรรม ไม่มีทางที่จะคืนตัวได้ เราจงคิดว่าคนประเภทนี้เขาไม่ใช่คน เขาคือสัตว์นรกในอบายภูมินั่นเอง เราคิดว่า ถ้าเราจะไปต่อล้อต่อเถียงจะกระทำตอบ เราก็จะเลวตามเขาเวลานี้จิตใจของเขาจมลงไปในนรก ถ้าเราทำตามแบบเขาบ้าง เราก็จะจมนรกเหมือนกันมันไม่มีประโยชน์จิตเราก็ระงับความโกรธด้วยอำนาจ ขันติ หรือ อุเบกขา เฉย เขาเลวก็ปล่อยให้เขาเลวไปแต่ผู้เดียว เราไม่ยอมเลวด้วย
    อย่าทำอารมณ์ให้วุ่นวาย อย่าใจน้อย อย่าคิดมาก จงคิดไว้เสมอว่า เราต้องตาย อย่าห่วงคนอื่นมากเกินกว่ากฎของกรรม จงนึกถึงความตายทุกลมหายใจเข้าออก อย่าทะเยอทะยานเรื่องยศศักดิ์ ถึงเวลามันได้ ถึงเวลามันมี ทำใจสบาย จะมีความสุข เรื่องลูกก็ขอให้ตั้งอารมณ์ไว้ ในฐานะพ่อแม่ที่ดี แต่อย่าดิ้นรนเกินพอดี จะเป็นทางตัดนิพพานให้ไกลออกไป

    ดีหรือชั่วมันอยู่ที่การควบคุมกำลังใจ ถ้าใจของเราบริสุทธิ์ผุดผ่องเสียอย่างเดียว ใครจะว่าดีหรือชั่ว ไม่มีความสำคัญ เขาจะประณามว่าเลวมันก็เลวไม่ได้ มันก็ต้องดีอยู่ตลอดเวลา ถ้าจิตของเราชั่วเขาจะสรรเสริญว่าดี มันก็ดีไม่ได้เหมือนกัน นี่เป็นอันว่า พระพุทธเจ้าทรงให้รักษากำลังใจ เป็นสำคัญว่าควบคุมกำลังใจให้ดีไว้แล้วมันดีเอง ไม่ต้องไปฟังคำชาวบ้านเขา การที่เราดี เพราะรอให้ชาวบ้านสรรเสริญนั่นมันเป็นอารมณ์ของความชั่ว

    คนที่เขามาสร้างความชั่วให้สะเทือนใจเรา นั่นเขาเป็นทาสของกิเลส ตัณหา อุปาทาน และอกุศลกรรม ทาสของกิเลส ตัณหา อุปาทาน อกุศลกรรมนี่ ไม่มีทางจะคืนตัวได้ ความเป็นอยู่ของเขาในสมัยปัจจุบันในชาติที่เป็นมนุษย์ เขาก็มีแต่ความเร่าร้อน มีแต่ความเศร้าหมอง เพราะกิเลสมันทำจิตใจให้เศร้าหมอง ตัณหาสร้างจิตใจให้เร่าร้อน อุปทานมีอาการเกาะความชั่วเป็นปกติ อกุศลกรรมทำความชั่วตลอดเวลา คนที่เป็นทาสของกิเลสตายแล้ว ไม่มีโอกาสจะเกิดเป็นคนแม้จะเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานก็ยังเกิดไม่ได้ ต้องไปเกิดในอบายภูมิ นี่ถ้าบุคคลผู้ใดทำใจของเราให้เร่าร้อนด้วยกายกรรม ทำด้วยกายก็ดี ด้วยวจีกรรม ทำด้วยวาจาก็ดี เราจงคิดว่าคนประเภทนี้เขาไม่ใช่คน เขาคือสัตว์นรกในอบายภูมินั่นเอง เราก็คิดว่าถ้าเราจะไปต่อล้อต่อเถียง จะกระทำตอบ เราก็จะเลวตามเขา เวลานี้จิตใจของเขาจมลงไปแล้วในนรก ถ้าเราทำตามแบบเขาบ้าง เราก็จะจมลงนรกเหมือนกัน มันไม่มีประโยชน์ จิตเราก็ระงับความโกรธด้วยอำนาจ ขันติ หรือ อุเบกขา นี่ อุเบกขา เราใช้กันตรงนี้เลย เฉย เขาเลวก็ปล่อยให้เขาเลวไปแต่ผู้เดียว เราไม่ยอมเลวด้วย

    หลวงพ่อวัดท่าซุง
    ถ้าเราทุกคนปรับปรุงใจตนดีแล้ว มันก็ไม่มีเรื่องยุ่งกับคนอื่น ไม่สร้างคนอื่นให้มีความเร่าร้อนในการที่จะเพ่งโทษคนอื่น ต้องรู้ตัวว่าเราเลวเกินไป นี่จงรู้สึกตัวไว้เสมอ รู้สึกตัวว่าเรามันเลว เลวมากจนกระทั่งขังไว้ในใจไม่ได้ มันจึงอุตส่าห์ไหลออกมาทางวาจา ไหลออกมาทางกาย นี่แสดงว่าความเลวมันล้นออกมาจากจิต ในข้อนี้ต้องคิดไว้เป็นประจำ อย่าทะนงตนว่าเป็นคนดี ถ้าดีแล้ว ปากไม่เสีย กายไม่เสีย ถ้าปากเสีย กายเสีย ความเลวมันล้น มีความดีไม่ได้



    พระพุทธเจ้าตรัสว่า ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เป็นโลกธรรม ถ้าเราติด เราก็มีความทุกข์ ลาภที่เรา มีมาได้แล้ว มันก็หมดเสื่อมไปได้ ถ้าเรายินดีในการได้ลาภ ไม่ช้ากำลังใจก็ต้องเสีย สลดใจ เมื่อลาภหมดไป คำสรรเสริญก็เช่นเดียวกัน คำสรรเสริญไม่ใช่ของดี ถ้าเราติดในคำสรรเสริญ เราก็จะมีแต่ความทุกข์ เพราะว่าไม่มีใครเขามานั่งตั้งตา นั่งสรรเสริญเราตลอดวัน คนที่เขาสรรเสริญเราได้ เขาก็ติเราได้ ฉะนั้นจงจำไว้ว่าพระพุทธเจ้าตรัสว่า นินทา ปสังสา เป็นธรรมดาของชาวโลก ชาวโลกทั้งหมดเกิดมาต้องพบนินทาและสรรเสริญ นี่ท่านมาติดลาภ ติดสรรเสริญก็ถือเป็นอุปกิเลสอย่างหนัก

    เราต้องการความเมตตาปรานีจากคนอื่นฉันใด บุคคลทั้งหลายก็ต้องการความเมตตาปรานี จากเราเหมือนกัน ฉะนั้น อารมณ์ใจของเราก็คิดไว้เสมอว่าเราจะรักคนและสัตว์ นอกจากตัวเราเหมือนกับเรารักตัวเรา เราจะสงสารเขาเหมือนกับที่เราต้องการให้คนอื่นสงสารเรา เราจะรักเขาเหมือนกับเราต้องการให้เขารักเรา เราจะไม่อิจฉาริษยาใคร เมื่อบุคคลอื่นใดได้ดี

    ทุกท่านที่ปฏิบัติพระกรรมฐานด้วยความจริงใจ ตั้งใจจริง มีศีลบริสุทธิ์ ตั้งใจทรงสมาธิให้ตั้งมั่น ตั้งใจรักษาปัญญาให้แจ่มใส รู้เท่าทันความเป็นจริง แต่ว่ายังไม่ถึง พระโสดาปัตติมรรค ก็ควรจะภูมิใจว่า เข้าอยู่ในเขตของความดี คือ ความอยู่ในเขตของคนดี แต่ว่าเราจะดีมาก จะดีน้อยนั่นประมาทไม่ได้ ถ้ารู้ตัวว่าดีเมื่อไรก็แสดงว่าเราเลวเมื่อนั้น จงจำพระพุทธภาษิต ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า อัตตนา โจทยัตตานัง จงกล่าวโทษโจทความผิดของตนไว้เสมอ

    เป็นธรรมะจากหนังสือโอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง คำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านเจ้าคุณพระราชพรหมยาน (วีระ ถาวโรมหาเถระ) นำมาฝากชาวห้องศาสนากันครับ


    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
    ถึงเขาจะผิดจริงก็เป็นการก่อกวนจิตใจตนเอง ให้ขุ่นมัวไปด้วยความเดือดร้อน วุ่นวายใจที่คิดแต่ตำหนิผู้อื่น จนใจอยู่ไม่เป็นสุขนั้น นักปราชญ์ถือเป็นความผิด และบาปกรรมไม่ดีเลย จะเป็นโทษให้ท่านได้สิ่งไม่พึงปรารถนา ทรมานอย่างไม่คาดฝัน

    การกล่าวโทษผู้อื่นโดยขาดการไตร่ตรองเป็นการสั่งสมโทษ และบาปใส่ตน ให้ได้รับความทุกข์ จึงควรสลดสังเวชต่อความผิดของตน งดความเห็นที่เป็นบาปภัยต่อตนเสีย ความทุกข์เป็นของน่าเกลียดน่ากลัว แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ทำไมพอใจสร้างขึ้นเอง



    คนติ ก็น้อมเอาพระธรรมไปปฏิบัติ พึงพิจารณาธรรมในตนก่อน
    พึงตั้งธรรมไว้ในตนก่อน แล้วค่อยไปโจทผู้อื่น


    คนที่ถูกติ ถูกชม พึงพิจารณาว่านินทาและสรรเสริญเป็นของธรรมดาของโลก
    และสำรวมระวังความประพฤติ ทางกาย ทางวาจา และทางใจ


    สามัคคีธรรม และความสันติสุขร่มเย็น ก็จะเกิดมีแก่ทั้งผู้โจทเอง ผู้ที่ถูกโจท
    และทั้งท่านอื่นๆทั้งหลาย ให้อยู่ร่วมกันในสังคมด้วยความร่มเย็นเป็นสุขได้ครับ

    ที่มา :http://palungjit.org/threads/อัตตนา...มผิดของตัวไว้เสมอ-อย่าไปยุ่งกับคนอื่น.215710/

    ไปอ่านเจอธรรมะของพ่อแม่ครูอาจารย์ ที่ท่านKomodo ที่ได้นำเสนอไว้ ขออนุโมทนาบุญกับท่านKomodoด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  10. motana2008

    motana2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    4,929
    ค่าพลัง:
    +10,336
    ได้ข้อคิดดีดีอีกแล้ว ขอบคุณครับ
     
  11. Pooldum

    Pooldum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +406
    วันนี้วันพระ อย่าลืมปฏิบัติธรรมถวายหลวงปู่กันด้วยนะครับ
     
  12. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,437
    ขอบพระคุณพี่กูลที่ร่วมอนุโมทนาและร่วมยินดีกับผมครับ.. (^_^)
     
  13. อั๋นวัดสาม

    อั๋นวัดสาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    4,259
    ค่าพลัง:
    +9,022
    กราบหลวงปู่ศรีด้วยความเคารพยิ่ง...........
    ขออนุโมทนาและขอบคุณมากครับ ผมขอรับเป็นหนังสือประวัติหลวงปู่ครับ
     
  14. jacky57

    jacky57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +1,863
    น้อมกราบพระรัตนตรัย น้อมกราบหลวงปู่ใหญ่ อนุโมทนากับคุณอุดมสมพรผู้แจก ยินดีกับคุณAUN54และคุณช้างป่าด้วยครับ แจ้งได้รับพระชัยวัฒน์ก้องหล้าแล้วครับ สวยงามมาก จะอัญเชิญขึ้นคอเร็วๆนี้ครับ ขอบพระคุณมากครับ
     
  15. sinsae101

    sinsae101 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +134
    เข้ามาเล่าประสบการณ์กับหลวงปู่ครับ...!!!

    เรื่องที่จะเล่านี้ได้รับฟังมาจาก"คุณจุฑา"ศิษย์จากโคราช..คุณจุฑาเป็นเจ้าของโคราชรีสอร์ทและทุกๆปีคุณจุฑาจะกราบนิมนต์หลวงปู่ท่านไปที่โคราชรีสอร์ทในวันมาฆะบูชาของทุกๆปี

    จำได้ว่าในวันที่ 13 มกราคม 2555 ก่อนวันพระราชทานเพลิงสรีระหลวงปู่หนึ่งวัน..คุณจุฑาพร้อมคณะศิษย์สายโคราชเดินทางมาในงานพระราชทานเพลิงสรีระหลวงปู่ฯ..และเข้ามาเยี่ยมเพื่อนที่บวชถวายหลวงปู่อยู่สองรูป..ที่กุฏฺิชั่วคราว(ทำขึ้นจากไม้ไผ่)อยู่ข้างหลังกุฏิพระอาจารย์ถาวรริมสระน้ำข้างทางเดินที่เชื่อมไปที่ทางเดินไปหน้ากุฏิขององค์หลวงปู่ใหญ่...

    ตอนคุณจุฑาเข้ามากราบเยี่ยมพระทั้งสองรูปกำลังมานั่งคุยกับผมที่กุฏิชั่วคราวที่ผมพักอยู่..ผมจึงมีโอกาสได้ร่วมพูดคุยและฟังคำบอกเล่าจากปากคุณจุฑา...

    คุณจุฑาเล่าว่า..[/COLOR]
    "บารมีหลวงปู่ฯท่านมากจริงๆ..ตอนดิชั้นซื้อที่สร้างรีสอร์ทก็จ้างคนจากสำนักทรัพย์ยากรน้ำมาสำรวจหาจุดที่จะขุดสระน้ำ..เพราะรีสอร์ทไม่มีน้ำก็ทำรีสอร์ทไม่ได้..แต่สำรวจทั่วบริเวณก็หาแหล่งน้ำไต้ดินไม่ได้..ดูจากภาพถ่ายทางอากาศที่ในระแวกนั้นไม่มีจุดที่จะขุดหาแหล่งน้ำได้เลย..ดิฉันจึงนิมนต์หลวงปู่ท่านมาที่รีสอร์ท..แล้วก็เล่าให้หลวงปู่ท่านฟังพร้อมกับสอบถามหลวงปู่ท่านว่าทำยังไงเจ้าค๊ะหลวงปู่..ทำรีสอร์ทมันต้องมีน้ำแต่นี่เขาเข้ามาสำรวจแล้วว่าไม่มีน้ำ..จะทำยังไงดีเจ้าค๊ะหลวงปู่..ท่านเลยบอกให้พาท่านไปเดินดูหน่อยสิ..ดิฉันจึงนิมนต์หลวงปู่ออกไปเดินดูบริเวณที่จะสร้างรีสอร์ท..ท่านเดินดูอยู่ครู่หนึ่งแล้วท่านก็หยุดเดินแล้วชี้ลงพื้นว่าให้เขาขุดสระตรงนี้..ดิฉันก็แปลกใจเพราะบริเวณที่ท่านชี้นี้คณะที่จ้างมาสำรวจก็ลองขุดดูแล้วลึกมากด้วยก็ไม่มีน้ำเลย..จึงคิดจะกราบเรียนหลวงปู่ฯ..ท่านก็บอกให้คนเอาจอบมาขุดตรงนี้..ในใจก็สงสัยแต่ก็เรียกคนไปเอาจอบมาขุดดินตรงนั้น..แบบงงๆเพราะคณะที่มาสำรวจบอกว่าบริเวณนี้มีตาน้ำใต้ดินแต่อยู่ลึกมากๆต้องขุดกันเป็นสิบเมตรกว่าจะเจอตาน้ำ..นี่หลวงปู่บอกให้คนเอาจอบมาขุดมันจะไหวหรือ..แบ็คโฮยังขุดได้ไม่ถึง 10 เมตรเลย..มันจะเป็นไปได้ยังไง..!!!

    พอคนงานไปเอาจอบมาขุดดินตรงนั้นกลับขุดได้ง่ายมากๆแป็ปเดียวก็ขุดได้ประมาณ 1 เมตรก็เริ่มเห็นน้ำเริ่มออกมาแล้ว..น่าอัศจรรย์มากๆ.."

    ปัจจุบันที่ตรงนั้นตอนนี้กลายเป็นสระน้ำขนาดใหญ่มาก..เพราะหลังจากนั้นคุณจุฑาได้ให้รถแบ็คโฮมาขุดเป็นสระขนาดใหญ่มีน้ำเต็มทั้งปีไม่เคยขาด..ได้น้ำมาให้ต้นไม้และสนามหญ้าในรีสอร์ท..

    ซึ่งความจริงบริเวณนั้นคุณจุฑาก็เคยให้คนมาขุดลงลึกมากๆก็ไม่เจอน้ำเลย..แต่พอหลวงปู่ท่านเดินมาชี้น้ำมาจากไหนกัน...


    คุณจุฑายังเล่าต่อไปอีกว่า..."หลวงปู่หล้าท่านเคยเล่าให้ฟังเมื่อครั้งที่ดิฉันได้ไปกราบท่านที่ภูจ้อก้อว่า.."ท่านศรีน่ะท่านมีฤทธิ์มาก..เพราะอดีตชาติของท่านน่ะ..ท่านเป็นนาคใหญ่..เป็นเจ้าแห่งนาคทั้งปวงในนาคพิภพเลยนะ.."

    นี่คือสาเหตุที่ท่านอยู่กุฏิกลางน้ำ..และที่วัดป่ากุงจะมีสระน้ำเยอะมาก (จากลูกศิษย์สายร้อยเอ็ดที่มีโอกาสได้ไปกราบหลวงปู่หล้าฯเล่าให้ฟังว่า..เมื่อหลวงปู่หล้าท่านทราบว่าเป็นคณะจากร้อยเอ็ดท่านก็จะพูดว่า.."อยู่ร้อยเอ็ดเคยไปกราบหลวงปู่ศรีท่านไม๊..? ท่านศรีนะ..ท่านมีบารมีมากนะ..เราน่ะเทียบท่านศรีไม่ได้หรอก..เราน่ะเหมือนเรือแจวน้อยท่านศรีท่านเป็นสำเภาใหญ่..เราน่ะลัดเลาะในลำคลองน่ะก็พอได้อยู่..แต่ท่านศรีน่ะท่านเปรียบเหมือนสำเภาใหญ๋..พาคนไปได้มากมายนักออกทะเลมหาสมุทรได้สบาย.." ท่านพูดแล้วยิ้มด้วยความเมตตา)


    เรื่องราวของหลวงปู่ท่านมีมากมายเหลือเกินจากที่ได้ประสบพบด้วยตนเองและจากคำบอกเล่าจากเหล่าศิษย์ทั้งหลายของท่าน..ผมก็จะหาโอกาสเข้ามาเล่าเรื่องราวของท่านให้อ่านกันในที่นี้..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 5 มีนาคม 2013
  16. Nov18

    Nov18 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +180
    ขอกราบหลวงปู่ศรี ด้วยคนครับ
    กระทู้ยิ่งคึกคักขึ้นเรื่อยๆเลยครับ อยากให้กระทู้คึกคักบ่อยๆ
     
  17. อุดมสมพร

    อุดมสมพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,658
    ค่าพลัง:
    +6,964
    วันนี้จัดส่งของที่ระลึกให้ท่านช้างป่า และท่านAUN54 เรียบร้อยแล้ว ตามหมายเลข EMS ดังนี้
    ท่านช้างป่า EJ811488405TH
    ท่านAUN54 EJ811488419TH
    วันพรุ่งนี้ถึงมือทั้ง 2 ท่าน ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกทุกท่านที่แวะเข้ามากราบหลวงปู่ศรี เล่าเรื่องประสบการณ์ และพูดคุยทักทายกันครับ
    :cool::cool::cool:
     
  18. healh

    healh Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +86
    กราบหลวงปู่ศรี มหาวีโร ด้วยความเคารพ
     
  19. air-x

    air-x เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2011
    โพสต์:
    129
    ค่าพลัง:
    +147
    กราบหลวงปู่ศรี ยินดีกับท่านสมาชิกด้วยนะครับ
     
  20. baml

    baml เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +115
    น้อมกราบหลวงปู่ศรีค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...