ใครมีปัญหาอะไรในการปฏิบัติลองเข้ามาถามดู

สำคัญผิด 9 อย่าง หรือ มานะ 9

๑.เป็นผู้เลิศกว่าเขา สำคัญตัวว่าเลิศกว่าเขา ก็ผิด

๒.เป็นผู้เลิศกว่าเขา สำคัญตัวว่าเสมอเขา ก็ผิด

๓.เป็นผู้เลิศกว่าเขา สำคัญตัวว่าเลวกว่าเขา ก็ผิด

๔.เป็นผู้เสมอเขา สำคัญตัวว่าดีกว่าเขา ก็ผิด

๕.เป็นผู้เสมอเขา สำคัญตัวว่าเสมอเขา ก็ผิด

๖.เป็นผู้เสมอเขา สำคัญตัวว่าเลวกว่าเขา ก็ผิด

๗.เป็นผู้เลวกว่าเขา สำคัญตัวว่าดีกว่าเขา ก็ผิด

๘.เป็นผู้เลวกว่าเขา สำคัญตัวว่าเสมอเขา ก็ผิด

๙.เป็นผู้เลวกว่าเขา สำคัญตัวว่าเลวกว่าเขา ก็ผิด

จากหนังสือของพระอาจารย์มิซูโอะ เควสโกะ

 

สาธุ... ขออนุญาตพระอาจารย์ หยิบยกข้อความนี้ไปเตือนผู้อื่นครับ

 

..เอ..ผมผิดอะไรรึนี่ อคติกับผมรึปล่าว นมัสการ

 

..เอ..ท่านอธิบายไม่ชัดเจน ผมอธิบายเสริมให้ชัดเจน ผมผิดตรงไหนรึท่าน กลับย้อนอ่านของผมดูซิครับท่าน นมัสการ

 

หลวงพี่อยู่วัดไหนหรือครับ ถ้าไม่ไกลจะแวะไปสนทนาด้วย...

 

..เอ..มานะ9..ที่ท่านยกมานะผมว่าดีมากเลยครับ ด้วยสัจจะ ขอสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิมธิ์ อันตัวผมนี่นะครับ
..มาศึกษาธรรม เพราะตัวเองไม่รู้ไม่เคยเรียนปริยัติ ผ่านแต่ภาคปฏิบัติมา และไม่เคยคิดจะไปแข่งขันเอาดีเอาเด่น ชนะคะคานใครแม้แต่ตัวท่าน ณ.เวลานี้
..ที่ถามท่านไปนั่นคือ อุปนิสสัยส่วนตัวของผม ชอบซักถามให้ขาว ยิ่งท่านเป็นพระผมยิ่งลดตัวเป็นเด็กจึงถามทุกอย่างเพราะคิดว่าท่านคงไม่ถือสากระผม..อีกอย่าง การพ้นเจตนานั่นนะครับ เป็นองคุณของอรหันต์อริยะชน..ผมจึงบอกเป็นนัยไปว่า..ท่านคงไม่เคยสัมผัสนะครับ

..สำหรับผม ยังงงอยู่ว่าผมผิดอะไร ท่านมาชี้ใส่ผมว่าดูถูกท่าน.. นมัสการ อคติอะไรกับผมรึครับ
ผมอวดเก่งกับท่านรึครับ ต้องขออภัย ท่านต้องทิ้งสมมุติของท่านซะในโลกอินเตอร์เนตนี่นะครับ ผมให้ความเคารพต่อผู้รู้ธรรมเสมอ มีกาละเทศะ และเป็นตัวของตัวเองมากๆโดยไม่ล่วงเกินผู้ใดก่อน ขออภัยที่ทำให้ท่านคิดเช่นนั้น อนุโทนา สาธุ

 

..ท่านอย่าเข้าใจผิด..อย่าได้มีอคติกับผม ผมเจตนาบริสุทธิ์มากๆครับ การสนทนาธรรมก็คือการซักถาม สอบสวน เพื่อให้รู้ว่าท่านนั้นรู้จริงในสภาวะ อย่างไร หากสูงกว่าผม ก็แค่อ่านก็รู้แล้วครับ สำหรับผม หากไม่ชัดเจนก็ถามต่อไปมิได้ต้องการสร้างศัตรูหรือมีเจตนาดูถูก ดูหมิ่นท่านแต่ประการใด หากสภาวะไม่ตรงกัน ต้องถามให้เกิดการเปรียบเทียบใกล้เคียง มิใช่ไปถามไล่ให้อับอายแต่ประการใด สำหรับผมหากไม่ชัด ไม่ใช่ ผมเปรี๊ยงออกไปเลยครับตามนิสสัย ไม่อ้อมแอ้ม อ้อมค้อมหลอกด่าใครแบบ เล่าปัง เอกวีร์ ..อย่าได้ถือสาผมครับ นมัสการ

 

..นั่นๆๆๆๆๆๆ..ไอ้ปากปีจอ พอได้ช่อง..กลายเป็นบ่างช่างยุเลยเชียว
ว่าแต่ว่า เข้าเวปแอนตี้ไม่ได้มานานแล้ว..เหตุเพราะลืม รหัส ช่วยแจ้งข่าวให้MOD เวปแอนตี้เปิดช่องทางให้หน่อยดิ อิอิ:boo:

 

เชย เข้าใจว่า ลืมรหัสเหรอ

ป๋มว่า เขาบึ้มเว็บทิ้งเองไปแล้วมั้ง หรือไม่ก็ ทำ บัญชีรายชื่อ หาย

ถ้า ยิ่งกว่านั้นคือ

MD เขาปิด ระบบ Web-Board หนี Gi-Joe ของ รัสเซีย ฮิวววส์

 

โอสภาวะธรรมที่ท่านเกิดนี่นะครับ น่าสนใจ เหตุเพราะตั้งจิตไว้ผิด..ศิลยังไม่บริสุทธิ์เต็มที่ สภาวะจึงเกิดแบบนั้น ตัวอวด ตัวตน มันขึ้นสูงครับ อย่าโกรธนะครับที่ชี้ตรงๆ
..สำหรับผม เคยเกิดสภาวะอย่างที่ท่านเล่ามานะครับ แต่ไม่ใช่อย่างท่าน สภาวะที่เกิดกับผมตอนนั้น ผมอยากจะหนีโลกอย่างเดียว มองอะไรก็ทุกข์ไปหมด จะเรียนอะไรก็รู้ไปหมด รู้ลึกไปถึงข้างในใจของคนที่ผมสัมผัส..คาดการณ์อะไรแทบจะปาฏิหารย์เกิด เพราะถูกต้องซะเกือบ100 เปอร์เซ็นต์
..จนวันหนึ่ง..อาจารย์ท่านสังเกตุเห็นอาการผม ท่านบอกกับผมดังๆต่อหน้าเพื่อนที่ปฏิบัติว่า ว่า..
นี่เธอ..หยุดคิดเดี๋ยวนี้นะ หยุดอย่ามามองเราด้วย เธอจะรู้ได้อย่างไรว่า..เราวางเรื่องนี้ เรื่องนั้น ไว้อย่างไร
..ผมตอบว่า..ผมก็ไม่ทราบนะครับ ผมห้ามตนเองไมได้ แต่ผมรู้ไปหมดเลยใครคิดยังไง จะทำอะไร ครับแค่ได้คุย ได้สัมผัสกับใคร มิได้โอ้อวดแค่เล่าแลกเปลี่ยนกันฟังนะท่านนะครับ สาธุ นมัสการ(ปัจจุบัน เสื่อมหมดแล้ว อิอิ):'(

 

..เอมันยังไงกัน..ช่วยหน่อยดิ อิอิ

 

อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ไกลมั้ย

 

ต้องขอโทษ นะ ที่เข้าใจท่านผิด ก้เห็นซักเหมือนจะ วัดอะไรซักอย่าง ข้าพเจ้าเองไม่เคยทำแบบนั้น แค่เคยคิดเฉยๆ กลัวคนอื่นรู้สึกไม่ดี เพราะตัวเองก้รู้สึกไม่ดีเหมือนกัน อย่าซัก เพื่ออยากรู้ว่าข้าพเจ้าถึงไหนเลย เอาแค่นิดๆหน่อยก้พอ แม้ถามตรงๆก้ไม่ตอบ เรื่องอาการหรือสภาวะของความหลุดพ้นเหมือนกัน ถึงแม้จะพอรู้เรื่องหรือไม่รู้เรื่อง แต่ก้จะไม่ตอบ เพราะมันเหมือนการฆ่าตัวตาย ข้าพเจ้าก้ชอบคนตรงไปตรงมา ยินดีที่ได้หยิบยื่น ไมตรี!!

 

อยู่ชลบุรีครับ ไกลทีเดียว
คงไม่ได้ไป กราบนนัสการครับ

 

มีคำถามเชิงปริยัติที่สงสัยอยู่ แต่ไม่ซีเรียสนะครับ เข้าใจว่าเป็นปัจจัตตัง

คำว่า สัพเพสังขารา หรือ สังขารทั้งหลาย เป็น อนิจจัง และ ทุกขัง
แต่ ทำไมพอเป็น อนัตตา จึงใช้ว่า สัพเพธรรมาอนัตตา
ทำไมไม่ใช้สัพเพสังขาราเหมือนกับที่ใช้ กับ อนิจจัง และ ทุกขัง

คำอธิบายตามตำราต่างๆ มักกล่าวว่า สังขาร คือ สังขตธรรม
ส่วน ธรรม รวมถึงทั้ง สังขตธรรม และ อสังขตะธรรม ซึ่งนิพพานก็อยู่ในกลุ่ม อสังขตะธรรม
แต่ที่ผมเข้าใจมาตลอดคือ นิพพาน ไม่ใช่อัตตาและิอนัตตา หลวงตามหาบัวและหลวงพ่อพุธ ก็ยืนยันเช่นนั้น
ดังนั้น คำว่า สัพเพธรรมาอนัตตา จะรวมถึงนิพพานได้อย่างไร แล้วคำว่าสัพเพธรรมา ครอบคลุมแค่ไหน นมัสการครับ...

 

สนทนาธรรม ตามกาล นมัสการ ภิกษุ............

 

สาธุ..อนุโมทนา ผมนั้นแรงทางความคิดมาก เหตุเพราะไปเรียนแต่ภาคปฏิบัติมา ปริยัติไม่เคยเรียน จึงมาเรียนเพิ่มในเวปทั่วไปและจมปลักอยู่ตามเวปนี่แหละครับเพื่อเรียนพิเศษจากท่านสมาชิกผู้ทรงคุณ อภิญญาญาณ ในแต่ละท่าน..
ปรากฏว่า เข้ามาในเวปผลที่ได้กับงุนงงสงสัยหนัก ต้องทำศึกกันบ่อยครั้ง มีพญามาร เอกวีร์ เล่าปัง เป็น "แม่ทัพใหญ่นาม ขุนพลเทียวเสี้ยม"..ผู้วางรูปแบบการเกิดศึก เพราะตนเองทะลุธรรม ไม่ทำมาหาแดกนอนเฝ้าทำศึกในบอร์ดอยู่นี่ทุกวันกับผู้มาใหม่..ผู้อวดบรรลุ และอนาคาริคทุกตัวตน การแสดงธรรมของผู้เป็นสมาชิก และผู้มาใหม่
บางท่านก็ถูก บางท่านก็ผิด เพราะขัดกันเองเถียงกันนบอร์ดแตกไปหลายครั้ง แต่ทุกคนก็สนทนากันไปได้จนบัดนี้ เพราะเมตตากัน ผมจึงพยายามเข้มแข็งทางอารณ์ช่วยปกป้องผู้มาใหม่..ครับอิอิ
..ระวังสมมุติบัญัติทางสัญญาโลก ของท่านจะหันมาเล่นงานท่านเอง หากตอบคำถามหรือเผลอเถียงเขาไม่ทันนะครับท่าน ต้องพร้อมรับให้ได้ ทำตนดังแผ่นดินเข้าไว้
อย่าหาว่ากระผมสอนหรืออวดดีเลย สมาชิกในนี้ .."ไชยามิตรชัย..ทั้งนั้นครับ ไม่ธรรมดาอื้อฮือ..ไม่ธรรมดา.."
มีตั้งแต่ โสดาบัน อนาคามี อริยะ พุทธภูมิ พระโพธิสัตว์ มีแต่ผมนี่แหละ ผู้ขัดขวางการบรรลุธรรม ที่เจ้าเล่าปัง เอกวีร์ มันตั้งให้ผม ขอให้ท่านโชคดี ท่านผู้มีอายุ นมัสการครับ อิอิ สาธุ อนุโมทนา:'''''(

 

เท่าที่ผมตามอ่าน ๆ มา ผมก็ยังไม่เห็นว่าจะมีท่านใด อธิบายธรรมได้ละเอียด ชัดเจน และตรงประเด็นเท่ากับท่านเอกวีร์ เล่าปัง เลยนะครับเนี่ย

 

ปัญญาคนเรานั้นแตกต่างกัน ต้องอาศัยวันเวลา ประสบการณ์ การฝึกอบรมปฎิบัติ การศึกษา

เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง ด้วยตนเอง

ปกติแล้ว เป็นการยากที่จะเชื่อคนที่เราไม่รู้จัก แต่หากเรามีศรัทธา ความเชื่อจึงจะตามมา

การพิจารณาด้วยปัญญาตนเองจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในธรรม ก็อาจเดินผิดทาง เสียเวลาเนิ่นนาน

อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นการดีที่มีผู้รู้ คอยแนะนำตักเตือน ให้เข้ารูปเข้ารอย อีกทั้งยังเป็นการสร้างกุศลแก่คนผู้นั้นอีกด้วย...

 

ก้ โลกทั้งปวงเป็นธรรม บางทีก้ ว่ากายทั้งปวง เพราะ เราสามารถศึกษาเรียนรู้โลก จากสิ่งที่เรามีอยู่ งั้นเมื่อทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ ก่อให้เกิดทุกข์ เหล่านี้เรียกว่าธรรม แล้วธรรมทั้งปวง ไม่มีตัวตน มีมีอัตตา ตัวอย่างเช่นความรู้ ของ ท่าน ท่านรู้ แต่ว่า มันไม่มี ถ้ามี ก้ยกออกมา แล้วนั่งดูมัน เอาให้เพื่อนดูด้วย
(ทุกอย่างเป็นธรรม เป็นอนัตตา จึงเรียก ธรรมาอนัตตา) ที่ถามมาก้คำตอบเดียวกันนะ พูดภาษาบ้านเราก้ ทั้งๆที่รู้ว่ารู้ แต่มันไม่มี ทั้งๆที่อากาศมี ชั้นบรรยากาศมี แต่พอมองออกไป กลับเป็นความว่าง ถ้าว่าไม่มีอะไร ก้ยังมีความว่าง สาธุ