ใครมีปัญหาอะไรในการปฏิบัติลองเข้ามาถามดู

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย พระ ธรรมะ, 9 มีนาคม 2013.

  1. พระ ธรรมะ

    พระ ธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2013
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +416
    แรง!!!หรือท่านไม่อยากให้อาตมาเป็นพระล่ะ
     
  2. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    ด้วยเจตนาที่ดีเช่นกัน
    ผมมีประสพการณ์เรื่องปฏิบัติ
    แต่หากเอ่ยมากๆ
    คนละทาง
    ลูกหลานเอาไปยึดเกิดอุปทาน
    เราก็ว่ากันในปัจจุบันก็พอขอรับ

    โรคลม
    กับโรคดี

    หากหยุดลมได้เมื่อใดก็หายเป็นโลกแล้วขอรับ
    หากมีใครรู้ว่าตายแล้วไปไหน
    ถามจริงเขากลัวตายหรือไม่อย่างไร
     
  3. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    กลัวติดหนี้บุญคุณท่านแล้วกลับมาใช้หนี้บุญคุณท่านอีกขอรับ
     
  4. พระ ธรรมะ

    พระ ธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2013
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +416
    สาธุ!!ท่านมะหน่อ ขอให้เจริญในธรรม มีโอกาสคงได้พึ่งพา
     
  5. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    ยินดีเป็นอย่างยิ่งเลยขอรับหากเกิดประโยชน์ทางธรรมกับท่าน
    และเพือ่นกัลยาณมิตร
    พอดีผมมีเหตุขอรับ

    ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้ว
     
  6. พระ ธรรมะ

    พระ ธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2013
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +416
    มันติดตรงไม่แน่นี่หล่ะ
    ไม่ได้เจอเองเขาก้ยังไม่เต็มร้อย ได้แต่นั่งทำหน้าละห้อย จริงหรือ จริงหรือ??
     
  7. พระ ธรรมะ

    พระ ธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2013
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +416
    แล้วใครไม่มีประสบการณ์มั่งล่ะ แต่ปัญญา บุญบา-ระมีไม่เท่า ที่อาตมาค่อนข้างจะใส่ใจเรื่องการให้เกียรติ เพราะเป็นการสนทนาธรรม และจะเอาสิ่งที่ตนปฏิบัติ แล้วตั้งให้ผู้อื่น เท่ากับตน หรือต่ำกว่าเพียงนั้น มันเลยมีวาจาเหยียดหยามแรงๆในบางครั้ง หรือคอยตัดบทตัดตอนกัน ขอบอกทุกคนเลยว่า การที่เราจะตั้งค่าตัวเองควรตั้งไว้ กลางๆ พอจะได้มองเห็นที่ต่ำและที่สูง อีกไม่นานหรอกนะท่านมะหน่อ ที่อาตมาจะไม่ได้เข้ามา ในนี้ เหมือนอย่างที่ท่านมะหน่อรู้นั่นแหละว่า มันต้องพึ่งตัวเอง เกิดคนเดียว ตายคนเดียว ก่อกรรมเองคนเดียว รับเองคนเดียว รักกันแทบตายอยู่ด้วยกันทั้งชีวิต เวลาไปก้ทางใครทางมัน ถึงแม้จะตายพร้อมกัน ก้มิอาจไปในที่เดียวกันได้เสมอไป เพราะน้อยมากที่ทั้งคู่จะสั่งสมบารมีไว้เท่ากันเป๊ะ ท่านทั้งหลายที่ปฏิบัติอยู่ก้ดี พึงระวังตนเองให้มาก เราคนปฏิบัติธรรม เวลา จะแย้งก้ให้ใช้คำกลางๆ มันจะได้ไม่เป็นฉนวน ให้หาท
    างอยู่สูงกว่า อย่าพยายามไป ประมาณผู้อื่นมากนัก ประเมิณการกระทำของตนให้มากๆ เรื่องของคนอื่นน่ะ มันมากมายเก็บไว้ไม่ไหวหรอก พระพุทธองค์ท่านตรัสกับพระอานนท์ว่า ดูกรอานนท์!เธอทั้งหลายจงมีตนเป็นสรณะ(สติปัฏฐาน๔ พิจารณาตัวเองและสิ่งที่มีเป็นตัวเอง)อย่าเอาสิ่งอื่นเป็นสรณะเลย ดูกรอานนท์! เธอทั้งหลายจงมีธรรมเป็มสรณะ(ความจริงอันประเสริฐ ความเป็นกลางที่เที่ยงแท้)เป็นสรณะ อย่าถือเอาสิ่งอื่นเป็นสรณเลย มีหลายอย่างมากที่ท่านตรัสสั่งเอาไว้ ท่านทั้งหลายอย่าลืมว่า แม้พระพุทธองค์ยังเคารพซึ่งธรรม แม้จะเป็นสาวกของท่านเป็นผู้แสดงธรรมนั้น ท่านจะหยุดรอ ให้แสดงธรรมจบลง ท่านถึงเสด็จเข้าไปในสถานที่นั้น ขออนุโทนาบุญท่านทั้งหลายได้ตั้งใจประพฤติปฏิบัติบูชา และพากันมีเป้าหมายอันสูงสุด คือพระนิพพาน สาธุ!!!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2013
  8. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    หามิได้ขอรับ
    ในเรื่องที่เราเสวนาแล้วท่านยังแสดงไม่เสร็จแล้วจะมีการกวน
    หรือวกวนกันหรือไม่อย่างไร

    หากทางที่แสดงไปผิดแนวทางหลักนั้น
    ความจริงหลักมีหลายหลัก
    แต่ไม่พากันเข้าหลัก
    แต่จะพากันเข้าหลง

    เสพย์เกินขนาด

    แล้วยิ่งไปก่อกระทำการอีก
    คือทำการดังนั้นทุกกริยา
    เอาเวลาอารมณ์ขณะปฏิบัติที่เป็นเพียงไม่กี่ลมหายใจ
    แล้วเอามาเป็นเรื่องทางโลกให้ได้ไม่กี่ลมหายใจนั้น
    คงหาเช่นนั้นไม่ว่า

    การแสดงฤทธิอภิญญาจะแสดงฝนตกได้เป็นปีตลอด
    การอวดอุตตุนิยมวิทยา

    หรือการแสดงความเห็นแบบยกตนข่มท่าน
    หากเป็นการเสวนากันตัวต่อตัวนี้เราสามารถผัสะ
    กิริยาอาการ
    การแสดงออกประกอบ
    รูปร่างกำเนิด

    แต่การผัสสะกันแบบไม่มีรูปมีนามมานี้ยาก
    ที่เราจะรู้ว่าเขาเป็นชายเป็นหญิง
    มุ่งเจตนาใด

    เช่นนั้นหรือไม่อย่างไร

    หากพากันไปเข้ารกเข้าพงไปในสิ่งที่ยากแล้วยืดมียางต่อๆกันไปอีก
    แล้วจะมีญาติมาเกิดเพิ่มขึ้นอีกตามกันไปเป็นการเกิดเหมือนฟองไข่

    ไข่นั้นหากเป็นไข่ดีก็ดีไข่พยาธิเขาก็ดีอยู่
    แต่หากรวมกันเป็นหมวดหมู่แล้วเอาพวกมากลากไปตั้งพรรค
    เอาอิทธิพลทางอื่นมาเป็นปัจจัยปรุงกันให้หลงมัวเมามากขึ้น

    กระผมว่าไม่จิ้มฟันบางครั้งใช้แทนงาช้างได้
    เพราะเมื่อไม่มีอะไร

    คนที่จะจมน้ำเห็นใบไผ่ลอยมาไม่กี่ใบก็คว้า
    รอดมาได้บูชาใบไผ่
    ทั้งที่หมาเน่าทั้งตัวที่อยู่ข้างในไม่รู้ไม่เคารพเขา
    ไม่บูชา

    นกแต้ไล่เจาะท้องช้างยังตายเลยขอรับ
    เพราะเขาไข่ไว้ที่ดินช้างก็ไม่รู้ไปเหยียบลูกเขา
    แล้วท้องช้างเป็นแผลแมลงวันมาช่วยเน่าตาย

    แต่การแสดงธรรมและเสวนาธรรมนั้นแสดงให้ก่อเกิดประโยชน์
    และต้องแสดงกันด้วยความสุภาพ
    หลายท่านน่าเคารพมากขอรับ

    แต่หากแกว่งกงจักรมาเหวี่ยงวึดวือ
    ผู้คนวี้ดว้ายกันไปหมด
    เราควรเดินหนีหรือเฉยเสียหรือไม่อย่างไร

    ธรรมของพระคุณเจ้าน่าเลื่อมใสที่ชี้แนวทางที่แปลกๆ
    เหตุที่ยังไม่เกิดคือยังไม่เกิดแม้จะมีแนวทางส่อว่าต้องเกิด
    เมฆตั้งเค้าลมกรรโชกนึกว่าจะตกไม่โตะก็มีขอรับ

    หากคนเราเข้าใจกันสมัคร
    มาเป็นเพือ่นกันศัตรูกัน
    ตีกันบนเวทีจบแล้วจับมือกันหาฉันทะเท่านั้น
    คือข้อตกลงร่วมกัน
    หรือไม่อย่างไร

    ผมดูหนังเรื่องอาเธอร์ที่ยึดเยรูซาเลมหรือเมืองอะไรนี่แหละ
    ศัตรูมีมากมายเอาชนะเขาไม่ได้ต้องยอมสงบกับทัพเล็กๆ
    เพราะแม่ทัพศัตรูที่ว่า กลัวเขาทำลายเมืองที่เป็นที่ตั้งของศาสนาของเขา
    ปล่อยชาวบ้านชาวเมืองกองทัพน้อยๆออกไปจากเมืองโดยไม่ทำร้าย
    หลังจากนั้นมีนายทัพคนหนึ่งไปถามชาวบ้านคนหนึ่งเพื่อจะไปอยู่กับอาเธอร์
    ชาวบ้านซึ่งเป็นชายกลางคน คนนั้นบอกไม่เคยรู้จักอาเธอร์
    เจอตอแล้วยังไม่ตำ
    น่าเป็นตัวอย่าง

    หากเพื่อนแบ่งทางให้กันเดินไม่ขวางทางกัน
    ไม่ปิดน้ำทั้งแม่น้ำเพื่อเอาน้ำเข้านาตัวเอง
    คนอื่นไม่มีข้าวกินลูกร้องไห้
    ปล้นมันทั้งน้ำตาเพื่อลูก
    เป็นจนแล้วเป็นโจรต่อทั้งที่เป็นคนดี

    หากมีใครมาเสวนาธรรมแล้วตาย
    หากเป็นผม
    พระคุณท่านช่วยไปบอกกินเนสบุ้คมาบันทึกด้วยขอรับ
    พี่ยมคงมารับแน่นอนไม่รอด

    ไม่ใช่เรื่องดังนั้น
    หรือไม่อย่างไร

    ผดุงปัญญาขอรับ

    เรื่องเก่าเอามาผสม
    อมเรื่องใหม่มาอ้าง
    ว่างจากปัจจุบัน
    สิ้นแล้ว

    กระผมขอกราบขอบพระคุณท่านยิ่งแล้ว
    ขอรับที่แสดงสมมุติออกมาเพื่อแสดงธรรม

    เหมือนเมื่อวานผ่านไปแล้ว
    นึกว่ารามเกียรต์แต่เป็นลิเก
    ที่มีคติไหมขอรับ

    ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้วขอรับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2013
  9. พระ ธรรมะ

    พระ ธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2013
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +416
    สาธุ !!ท่านมะหน่อผู้ตั้งใจในธรรม สิ่งที่ท่านทำอยู่ น่าชื่นชม ท่านเอาเวลาที่ คนอื่นเห็นว่าควรนอน ควรทำในสิ่งที่ใจสั่ง มานุ่งขาว ตั้งใจปฏิบัติธรรม เพื่อความหลุดพ้น นั่นคือท่านก้เป็นผู้หนึ่งที่แลเห็นภัยในวัฏฏะสงสาร อันไม่รู้ที่มา และไม่รู้ที่สิ้นสุดนี้ อนุโมทนาด้วย ยินดีที่ได้รู้จักนะ ท่านจะดูได้เฉพาะที่ท่านดูได้ อย่าพยายามดูอาตมาเลย มันมืด!! ยังมีคนอีกมากมายที่พยายามเอาสิ่งอื่น มาตั้งไว้ในใจแล้วพยายามไขว่คว้าสิ่งนั้น โดยหวังว่า จะเป็นที่น่ายินดีในหมู่ชนทั้งหลาย แต่เขาหารู้ไม่ว่า สิ่งที่เขาอยากทำได้ หรือได้นั้น ไม่สามารถทำให้คนเลื่อมใสตลอดไปได้ แต่ต่อเมื่อได้แลเห็นว่าไม่เป็นประโยชน์ก้จะเลิกทำไปเอง แม้แต่ของแถมที่เราได้มา มันยังพาให้ชื่นใจและพอใจเป็นอย่างมาก แต่พอเราเข้าใจด้วยตัวเราเอง ว่ามิได้มีประโยชน์เราก้จะไม่สนใจมันเอง ในที่สุดแล้วเหมือนไม่ติดแต่มันก้ติด เหมือนว่าจะติดแต่มันก้จะผ่านไปในที่สุด ถ้าไม่เลิกล้มเสียก่อน เราทำเอง ดูเอง เราก้จักรูู้ ตามธรรมที่ ท่านแสดงไว้แล้วอย่างแจ่มแจ้งเอง ฟังจากคนอื่น มันยังไม่ถึงร้อยเปอร์เซ็นดอก ว่ามั้ย ท่านลุงมะหน่อ ท่านน่าจะรู้ดีที่สุด ว่ามันเป็นอย่างนั้น ในที่สุดของจริงมันก้อยู่ตรงหน้าเรานี่เอง ตาดีก้ได้ ตาร้ายก้เสีย เนาะ เจริญธรรม เจริญพร
     
  10. มือปราบมาร

    มือปราบมาร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +31
    หลวงพี่ครับ พระนิพพาน มีกี่แบบ ครับ คนธรรมดา ไม่บรรลุธรรม สามารถไปถึงพระนิพพานได้มั๊ยครับ
     
  11. พระ ธรรมะ

    พระ ธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2013
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +416
    บุคคลใดที่นึกว่าตัวเก่งเฉพาะตัว เขาจะรู้ตัวเมื่อเขาแจ่มแจ้ง เอง ว่าเขาไม่สามารถ ปฏิบัติหนีหลักธรรมที่ตถาคตแสดงไว้ เขาเป็นเพียงแต่ผู้รู้ตามเท้านั้น หรืแม้แต่ศีล ที่พยายามหลีก พยายามฝืน ทำให้แตกต่าง สุดท้ายก้จะโดน ความจริงบังคับให้กลับเข้าหาศีล อยู่ดี ก้จะกลับมาเริ่มตั้งต้นที่ศีลนี่หล่ะ ต่อให้ผิด อีก ก้ไม่พ้นต้องกลับมาเริ่มที่ศีล เพราะศีลคือความดีงาม พยายามรู้ทุกข์ของตัวเองให้มากๆ จะได้รู้ทุกข์ ของบุคคลและสัตว์ อื่นๆ จะได้ไม่เบียนเบียนกัน ไม่ใช่อยากรู้อย่างอื่นของเขา มันไม่มีประโยชน์เลยมันไม่มีประโยชน์ทั้งสองฝ่าย เรามีธรรมจากศาสดาองค์เดียวกันเป็นที่พึ่ง จำไว้ว่าต่อให้เก่งสักแค่ไหน สิ่งที่รู้ก้หนีไม่พ้นหลักธรรมที่พระพุทธองค์แสดงไว้ เป็นแน่แท้ !!!!!
     
  12. พระ ธรรมะ

    พระ ธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2013
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +416
    • นิพพานมี ๓ อย่าง

    นิพพานนั้นองค์สมเด็จพระบรมศาสดา สัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงสอนได้ว่า มีอยู่ ๓ อย่าง คือ

    ๑. นิพพานชั่วขณะเรียกว่า “ตะทังคะนิพพาน”หมายความว่าจิตเข้าสู่ความพ้นจากกิเลส คือความหลุดพ้นชั่วขณะ ในขณะที่จิตเข้าสู่ความหลุดพันอย่างนั้นก็เป็นเหตุให้เดความสุขอย่างสุดยอด ทีเดยวแต่เมื่อเหตุยังมี ทิษฐิคือความคิดความเห็นยังอยู่ ย่อมนำจิตเข้ามาสู่ในโลกีย์วิสัยอีกได้ นิพพานอย่างนี้ท่านเปรียบเสมือนหนึ่งลิงที่อยู่นิ่งได้ชั่วขณะเดียว แต่ก็ยังดีกว่าผู้ที่ไม่ได้เสียเลยนิพพานชนิดนี่ท่านเรียกว่า “ตะทังคะนิพพาน” คือนิพพานชั่วขณะ

    ส่วนอีกสองประการนั้น เป็น นิพพานอยู่ชั่วกาลนาน เรียกว่า “สะอุปาทิเสสะนิพพาน”เป็นการที่นำดวงจิตเข้าสู่นิพพานอย่างถาวร ไม่กลับออกมาอีกแล้ว เพราะว่าตัดเสียหมดทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีอะไรเหลือคงอยู่แต่ร่างกายเท่านั้น ยังกิน ยังเดิน ยังพูด ยังนอนอยู่

    ส่วนอีกอย่างหนึ่งนั้นเรียกว่า “อะนุปาทิเสสะนิพพาน”นิพพานชนิดนี้ไปหมดทีเดียว ร่างการก็ไปแล้ว ดวงจิตก็หลุดพันจากกิเลสอาสวะทั้งปวงเข้าสู่นิพพาน เรียกกันว่าดับสนิททีเดียว ไม่มีเชื้อให้ลุกติดอีกได้ เหมือนเมล็ดพืชที่ปราศจากยางาเพราะถูกคั่วเสียแล้ว แต่ไม่ใช่หมายความว่าเมล็ดพืชนั้นจะสูญหายไปจากโลก

    +ถ้าไม่บรรลุธรรมก้ไปไม่ได้ เพราะจิตเท่านั้นเป็นผู้หลุดพ้น ไม่รู้แจ้ง ก้ไม่สามารถ ถอน อุปาทาน ความยึดมั่นถือมั่นได้ สาธุ ไม่กล้าตอบมาก เดียวจะโดนถามว่า ท่านเป็นอรหันต์หรือ เวรกรรมอีก มิอาจเอื้อม!!
     
  13. มือปราบมาร

    มือปราบมาร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +31
    ขอบคุณ หลวงพี่ ที่ชี้แนะครับ ตอนนี้ รักษาศีล 5 เจริญสติ อยู่ทุกวัน เพียงหวังว่า สักวัน จะพ้นจาก วัฎฎะ

    แต่ มนุษย์ ก็ย่อมไม่พ้นกฏแห่งกรรม ถ้ายังไม่บรรลุธรรม
    กราบ ขอบคุณพระคุณเจ้าครับ
     
  14. พระ ธรรมะ

    พระ ธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2013
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +416
    เราก้ทำเพื่อตัวเราเองไง บุคคลใดไม่แลเห็นทุกข์ย่อมไม่มีทางที่จะพ้นทุกข์ได้ ถามว่าช่วยได้มั้ย ช่วยได้แค่บอก ที่เหลือ ก้ตัวใครตัวมัน เหมือนตอนเกิดและ ตอนตาย อย่าไปสนใจเลยว่า คนอื่นจะสนใจหรือไม่สนใจ ที่เราทำให้รู้ก้เพื่อจะทำให้มันดี เราไม่ได้เบียดเบียนใคร เข้าก้จะยังทุกข์กายทุกข์ใจในส่วนของเขา เช่นเดิม!!!
     
  15. พระ ธรรมะ

    พระ ธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2013
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +416
    ถ้าใครอยากสัมผัส หรืออยากรู้อนาคต ไม่ยากเลย ให้นำเมล็ดพันธ์ อะไรก้ได้ไม่ต้องคัดนะ ไปปลูก หลายๆ หลุม แยกไว้ เมล็ดละหลุม แล้วคอยดู ว่าที่เห็นๆอยู่ ว่าต้นมันเกิดจากเมล็ด มันต้องเกิด แล้วมันจะเกิดอย่างเดียวมั้ย
     
  16. มือปราบมาร

    มือปราบมาร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +31
    โมทนาสาธุ พระคุณเจ้าครับ
    ผมก็แค่ชาตินี้กลัวแค่ไม่บรรลุธรรมะ อย่างที่เคยตั้งจิตอธิษฐาน เอาไว้ ครับ
     
  17. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    อย่าคิดว่านักปฏิบัติที่แท้จริง จะไม่รู้ในสิ่งที่ควรจะต้องรู้
    เมื่อถึงเวลาเหมาะสม ผู้ที่เดินอยู่บนเส้นทางมรรคผลที่แท้จริง ย่อมรู้ได้ ทราบได้เอง ในสิ่งทั้งหลาย
     
  18. มือปราบมาร

    มือปราบมาร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +31
    อันเนื่องด้วยเหตุผล ที่ผม ยังต้องเลี้ยงชีพชอบ มีภาระ หาเลี้ยงครอบครัว เลยตัดขันธ์ 5 ไม่ขาด ละสังโยชน์ไม่ได้

    กะว่าทุกอย่างลงตัว วาระนั้นคงมาขึ้น กระมังครับ
     
  19. มือปราบมาร

    มือปราบมาร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +31
    มนุษย์ ... มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรม เป็นที่พึ่งอาศัย เสมือน เมล็ดที่หว่านลงดิน ก็จะเติบโต เป็นไปตามเมล็ดพันธุ์ที่หว่านลงดิน


    กรรมของคนเราเหมือนเมล็ดพืชที่ถูกหว่านลงในดิน

    เทศนาโดยหลวงตามหาบัว



    เมื่อเราได้คิดได้พูดได้ทำอะไรลงไปแล้ว มันก็เริ่มก่อผลเป็นวิบากขึ้นในจิต ซึ่งเป็นประจุกรรม เหมือนข้อมูลที่ถูกป้อนเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ เราจะไปลบ ไปล้างไปเปลี่ยน ไปแปลงอะไรไม่ได้อีกแล้ว ได้อยู่อย่างเดียวคือ คอยจนกว่ามันจะงอกออกมา และผลิดอกออกผลให้เราเก็บเกี่ยว



    ด้วยเหตุนี้ท่านจึงสอนว่า สิ่งที่ทำลงไปแล้ว อย่าย้อนคิดเสียดาย อย่าเก็บมากังวลครุ่นคิด แต่ก่อนจะกระทำสิ่งใด ให้ไตร่ตรองจนรอบครอบเสียก่อน ด้วยสติด้วยปัญญา ด้วยเหตุผล

    ก่อนจะทำเรามีโอกาสเต็มที่ว่าจะทำอย่างไร เพื่อที่จะไม่ย้อนคิดเสียใจ เสียกำลัง เสียเวลาที่จะล้มล้างสิ่งที่เอาคืนมาอีกไม่ได้แล้ว

    ก่อนจะทำนั้นจะตรึกตรองอย่างไร จะเลือกเฟ้นอย่างไร ไม่เป็นปัญหา เวลามีอยู่ เรามีสิทธิเต็มที่ที่จะขีดเส้นที่เราต้องการจะไป ที่เราต้องการจะเป็น ที่เราต้องการจะได้

    แต่ครั้งหนึ่งที่ได้กระทำลงไปแล้ว จบสิ้นไปแล้ว พอสิ่งนั้นผ่านพ้นไปแล้ว เป็นเงาไปแล้ว เหมือนนกที่เกาะอยู่ พอมันขยับปีกบินไปแล้ว เราหารอยของมันไม่เจอ เหลือรอยอะไรทิ้งไว้ในอากาศที่บินผ่านไปเลย หรือเหมือนเราขีดไปในน้ำ ขีดแล้วก็หายไปไม่มีอะไรเหลือ



    เหตุอันใดก็ตามที่เป็นอดีตไปแล้ว เป็นอย่างนั้นคงเหลือแต่ผล ซึ่งจะงอกผลิดอกออกมาให้เราเก็บเกี่ยวใช้สอย

    อนาคตก็เช่นกัน ถ้าเราทำเหตุในปัจจุบันเฉพาะหน้าแต่ละขณะด้วยความรอบคอบ ด้วยความแน่ใจ มั่นใจ ไม่ต้องห่วงว่าอนาคตจะดีหรือไม่ดี สมมติว่าเราอยากได้มะม่วงเขียวเสวย ถ้าเรารอบคอบ เลือกเม็ดมะม่วง และแน่ใจว่าเป็นเขียวเสวย เอาเพาะลงดิน รับรองว่าถ้าเม็ดนี้งอกขึ้นเมื่อไหร่ เราต้องได้มะม่วงเขียวเสวยแน่ๆ ไม่มีทางจะกลายเป็นขนุน เป็นละมุด หรือต้นอะไรอื่นใดเป็นอันขาด

    เมื่อเห็นจริงดังนี้ เราอยากได้สิ่งใดในชีวิต ก็โปรดรอบคอบกับการกระทำทุกๆอย่าง แล้วผลในอนาคตไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวล เป็นที่แน่นอนว่า จะต้องเป็นไปดังใจปารถนา



    แต่โปรดอย่าเพิ่งทึกทักว่า ทุกๆอย่างจะเป็นดังนี้ทั้งหมด เพราะกรรมที่เราทำนั้นย่อมมีวาระแตกต่างกัน เช่นเมล็ดพืชบางชนิดต้องเพาะไว้เป็นเดือนจึงจะงอก แต่เมล็ดพืชบางชนิดโปรยเมล็ดทิ้งไว้วันสองวันก็งอกแล้ว กรรมของเราก็เช่นกัน บางสิ่งเราได้ทำไว้แต่เก่าก่อน จนความจำอันน้อยนิดระลึกไม่ได้แล้วมันเพิ่งส่งผลออกมา เราจะไปลงความเห็นว่า ไม่จริงเลยที่ว่า เราคือผู้รับผลแห่งการกระทำของเรา ยังไม่ได้



    ตราบเท่าที่จิตของเรายังไม่ละเอียด ยังไม่รู้แจ้งเห็นจริงรอบไปหมดอย่างพุทธองค์ เราจะไม่สามารถหาต้นเหตุแต่ละอันๆ ให้เห็นแจ่มแจ้งชัดทุกกรณี หากพากเพียรฝึกฝนจิต (ฝึกสมาธิ ,วิปัสสนา) เรื่อยไปไม่ละไม่ถอย ก็จะมีหลายสิ่งมาแสดงให้เห็น ให้เกิดศรัทธาอันมั่นคงว่า การกระทำ คำพูด ความคิดของเรา คือตัวผลิเป็นดอกผลให้เก็บเกี่ยว เราเป็นผู้รับผลของการกระทำของเราเองจริงๆ หากกรรมมีว่าจะต้องเป็นอย่างนั้น แม้จะพยายามหลบเลี่ยงอย่างไร ก็หลบเลี่ยงไม่พ้น เพราะฉะนั้นถ้าเราเป็นหนี้ใครอยู่ เวลาถูกเจ้าหนี้ทวง ก็อย่าหลบเลี่ยง แต่ให้บอกตัวเองว่าครั้งหนึ่งเราโง่ เรา เซ่อ ไปก่อหนี้สินล้นพ้นตัวเอาไว้ บัดนี้เราเข้าใจแล้ว เรารู้แล้วก็หน้าชื่นตาบานรีบใช้หนี้เสีย พร้อมทั้งระมัดระวังที่จะไม่ก่อหนี้ใหม่ขึ้นมาอีก วันหนึ่งบัญชีหนี้ย่อมต้องหมดไป เหมือนเรามีน้ำสกปรกอยู่โอ่งหนึ่ง และเรารู้ว่าน้ำโอ่งนี้สกปรก เราก็ตั้งหน้าตั้งตาวิดทิ้ง โดยไม่เผลอใส่สิ่งสกปรกเข้าไปอีก วันหนึ่งน้ำในโอ่งสกปรกนี้ก็หมด เราก็ล้างโอ่ง แล้วเอาน้ำใสสะอาดใส่เข้าไปแทน โอ่งของเราก็จะมีแต่น้ำดี น้ำบริสุทธิ์ เอาไปใช้กิน ใช้ดื่ม ใช้ทำอะไรก็ได้
     
  20. พระ ธรรมะ

    พระ ธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2013
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +416
    เมื่อกาลใดที่เรายังไม่พร้อม ก้ให้หมั่นสร้างบุญบารมีรอไว้ วันไหนที่เราพร้อมที่จะตัดให้หมด เราก้วัดใจไปเลย เป็นไงก้เป็นกัน ฝึกสติไว้เรื่อยๆ ดูให้มันกระจ่างในใจตัวเอง อย่างใหม่ๆ ความที่เราเข้าใจว่า เวทนาคือความเจ็บปวด อะไรต่างๆทางด้านร่างกาย ใช่ ไม่ได้ผิด แต่ยังไม่ถูกที่ เมื่อเราดู หมั่น ฝึกหัดศึกษามากแล้ว เราจะเข้าใจอีกว่า นอกจากกานนี้แล้ว สิ่งที่เป็นต้นเหตุ มันคือ ตัวรับการกระทบ เอาไปเปรียบเทียบกับผี(วิญญาณ)ที่ตายจากร่างนี้ไปแล้ว อย่างถูกรถชน ตายตกน้ำ ก้ยังยึดร่างนั้น เจ็บปวด โหยหวนอยู่เช่นเดิม นี่มันเป็นเรื่องของนาม ต้องทำให้มากๆ อย่าไป ตัดสินอะไรตามกิเลสที่เข้ามาแทรกในสิ่งที่รู้ ใจเย็นๆ แล้วทำ ดู ไปเรื่อยๆ ก้จะเข้าใจเอง ตอนที่กระจ่างในธรรมบางข้อนั้น ระวังอย่าให้ กิเลสตัณหามันปิดตา ดูอาการมันให้ดี เดี๋ยวจะไปไม่รอด ความปลื้มเหล่านั้นจะค่อยๆ หายไป ในที่สุด หลังๆมาเมื่อมันเกิดขึ้นเราก้จะไม่ค่อยมีอาการแล้ว เฝ้าดูให้มากๆ และอย่าถือว่า คงไม่มีใครเก่งเท่าตัว จะบอกให้นะ บางทีคนที่ไม่ได้ปฏิบัติธรรมก้แนะนำวิธีเราถูกได้เหมือนกัน อย่าประมาทเลย!!!
     

แชร์หน้านี้

Loading...