พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

สัก 2 อาทิตย์มาแล้วทราบว่าหนังสือพิมพ์.............ได้ลงคอลัมน์เกี่ยวกับพระเครื่องของนายรอบรู้ โดยมีเนื้อหาโจมตีพระวังหน้าว่า เก๊ และเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วก็ลงว่าพระสมเด็จกรุบางน้ำชนก็เป็นพระเก๊ จริงๆผมตั้งใจที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพวกเซียนทั้งหลายที่ชอบวิจารณ์และปรามาสพระที่มิใช่ 3 วัดที่เค้าเล่นหากัน(วัดระฆัง วัดอินทร์ฯ วัดไชโย) ว่าเป็นพระเก๊สนิทเพียงเพื่อหวังผลทางด้านพุทธพานิชย์เป็นหลัก ทำให้ผู้ที่มีพระดีพระแท้ซึ่งเป็นพระวังหน้าแต่ไม่ใช่ 3 วัดดังกล่าว ต้องทิ้งหรือเลิกใช้พระที่ตนเองมีอยู่น่าเสียดายแทนท่านเหล่านั้นจริง ผู้ที่มีพระสมเด็จกรุบางน้ำชนหรือสมเด็จปีระกา(สมเด็จเขียว)ก็จะมีสภาพแบบเดียวกันคือมีพระที่ดีที่แท้ซึ่งเป็นพระที่ทันเจ้าประคุณสมเด็จฯท่านเสกให้แถมยังจะเก่งกว่าปกติเสียอีกเพราะมีหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดรมาร่วมเสกด้วย อย่าลืมว่าพระชุดนี้สร้างที่วัดบวรสถานสุทธาวาสในวังหน้า กรมพระราชวังบวรฯท่านโปรดให้สร้างขึ้น เมื่อลูกศิษย์สร้างพระจะไม่เขิญพระอาจารย์ของท่านเองมาเสกให้ก็คงแปลกอยู่กระมัง? เมื่อตอนที่เจดีย์ของวัดบางน้ำชน อยู่เชิงสพานกรุงเทพฯซึ่งบรรจุพระสมเด็จดังกล่าวล้มลงไปในน้ำทราบจากผู้ที่อยุ่ในเหตุการณ์ว่าทางทหารเรือส่งทหารมาล้อมไว้เพื่อกันไม่ให้คนเข้าไปขโมยพระ ซึ่งในที่สุดผู้ที่ได้พระกรุนี้ไปมากก็คือทหารเรือนั่นเอง
และที่น่าแปลกใจก็คือพระกรุนี้เคยมีผู้นำไปตีตราวัดด้านหลังทรงแล้วเปลี่ยนวัดกลายเป็นกรุบางขุนพรหม เพราะมีสภาพขี้กรุและพิมพ์แทบจะเหมือนขายได้เงินเยอะกว่าเก่าเพราะตอนนั้นพระบางน้ำชนไม่ค่อยมีราคาเท่าไหร่ เรียกว่าถูกหลอกขายแบบไม่รู้ตัว ถ้าจะบอกว่าพระสมเด็จกรุนี้ปลอมแสดงว่าคนที่ปลอมก็ต้องนำไปใส่หรือบรรจุไว้ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4-5 แล้วรอเวลาเพื่อให้ได้สภาพพระที่มีขี้กรุแบบพระกรุบางขุนพรหมแล้วก้ต้อรอให้พระเจดีย์ล้มลงเพื่อจะได้เอาพระออกมาขายอย่าลืมว่าเจดีย์นั้นล้มลงเองไม่ได้มีใครไปลักลอบขุดเจาะนะ
ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้คนที่คิดทำแบบนี้ก็ตายไปตั้งนมนานแล้วคงไม่ได้อยู่ใช่เงินทองที่ขายพระได้
ก็แปลกดีนะข้อมุลที่บุคลที่ศึกษา(อย่าใช้คำว่าเล่นเลยไม่บังควร)ในศาสตร์ของพระเครื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องลบผงวิเศษ ตำส่วนผสมในการสร้างพระ เป็นทั้งเจ้าพิธีและพิธีกรในการพุทธาภิเศกพระ เรียนรู้และทดลองทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติเรื่องการใช้รัก(ที่ใช้ทาพระ) ได้รู้ได้เห็นได้สัมผัสพระพิมพ์ต่างๆมามากมายมหาศาลเป็นเวลามากกว่า 60 ปี มาบอกมาสอนให้รู้เรากับไม่เชื่อ แต่กับคนที่เพิ่งจะศึกษามาไม่เท่าไหร่เรากลับให้เขาชี้นำหรือตัดสินได้ว่านั่นแท้ นี่เก๊ แถมปรามาสบรรพบุรุษผู้มีศรัทธาในการสร้างพระพิมพ์ต่างๆที่เขาตีว่าเก๊ ก็เลือกเอาเองเน้อพี่น้องกรรมใครกรรมมัน ใครไม่เอาพระกรุนี้ก็ช่างเถอะสำหรับผมเจอที่ไหนเก็บหมดจะบอกให้นิดนึงหาไม่ยากหรอกถ้าดูเป็นนะได้ของดีราคาถูกไว้คุ้มครองตัวได้สบายใจกับของแพงหูฉี่ที่คุ้มครองตัวไม่ได้ก็เลือกเอาเองผมลือกอย่างแรกดีกว่า

 

ถึงอย่างไรก็ต้องขอบคุณ ที่นำเอาของดีมาให้บูชา

 

เซียนพระบอกว่า ใช้รักจีน(ชาด) ในการสร้างพระปิดตาบินเดี่ยวหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ ก็ยังมีคนตาบอดและหูหนวก ไปหลงเชื่อเซียนพระ

พระที่มีรัก ก็บอกจุ่มรัก ก็ยังมีคนตาบอดและหูหนวก ไปหลงเชื่อเซียนพระ

ยกตัวอย่างแค่นี้ก็พอ

เป็นเรื่องธรรมดาสัตว์โลก เงินและผลประโยชน์ไม่เข้าใครออกใครทั้งนั้น แต่เมื่อใดเห็นโลง ก็อย่าหลั่งน้ำตาก็แล้วกัน คิคิคิ

.

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ นายสติ
สัก 2 อาทิตย์มาแล้วทราบว่าหนังสือพิมพ์.............ได้ลงคอลัมน์เกี่ยวกับพระเครื่องของนายรอบรู้ โดยมีเนื้อหาโจมตีพระวังหน้าว่า เก๊ และเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วก็ลงว่าพระสมเด็จกรุบางน้ำชนก็เป็นพระเก๊ จริงๆผมตั้งใจที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพวกเซียนทั้งหลายที่ชอบวิจารณ์และปรามาสพระที่มิใช่ 3 วัดที่เค้าเล่นหากัน(วัดระฆัง วัดอินทร์ฯ วัดไชโย) ว่าเป็นพระเก๊สนิทเพียงเพื่อหวังผลทางด้านพุทธพานิชย์เป็นหลัก ทำให้ผู้ที่มีพระดีพระแท้ซึ่งเป็นพระวังหน้าแต่ไม่ใช่ 3 วัดดังกล่าว ต้องทิ้งหรือเลิกใช้พระที่ตนเองมีอยู่น่าเสียดายแทนท่านเหล่านั้นจริง ผู้ที่มีพระสมเด็จกรุบางน้ำชนหรือสมเด็จปีระกา(สมเด็จเขียว)ก็จะมีสภาพแบบเดียวกันคือมีพระที่ดีที่แท้ซึ่งเป็นพระที่ทันเจ้าประคุณสมเด็จฯท่านเสกให้แถมยังจะเก่งกว่าปกติเสียอีกเพราะมีหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดรมาร่วมเสกด้วย อย่าลืมว่าพระชุดนี้สร้างที่วัดบวรสถานสุทธาวาสในวังหน้า กรมพระราชวังบวรฯท่านโปรดให้สร้างขึ้น เมื่อลูกศิษย์สร้างพระจะไม่เขิญพระอาจารย์ของท่านเองมาเสกให้ก็คงแปลกอยู่กระมัง? เมื่อตอนที่เจดีย์ของวัดบางน้ำชน อยู่เชิงสพานกรุงเทพฯซึ่งบรรจุพระสมเด็จดังกล่าวล้มลงไปในน้ำทราบจากผู้ที่อยุ่ในเหตุการณ์ว่าทางทหารเรือส่งทหารมาล้อมไว้เพื่อกันไม่ให้คนเข้าไปขโมยพระ ซึ่งในที่สุดผู้ที่ได้พระกรุนี้ไปมากก็คือทหารเรือนั่นเอง
และที่น่าแปลกใจก็คือพระกรุนี้เคยมีผู้นำไปตีตราวัดด้านหลังทรงแล้วเปลี่ยนวัดกลายเป็นกรุบางขุนพรหม เพราะมีสภาพขี้กรุและพิมพ์แทบจะเหมือนขายได้เงินเยอะกว่าเก่าเพราะตอนนั้นพระบางน้ำชนไม่ค่อยมีราคาเท่าไหร่ เรียกว่าถูกหลอกขายแบบไม่รู้ตัว ถ้าจะบอกว่าพระสมเด็จกรุนี้ปลอมแสดงว่าคนที่ปลอมก็ต้องนำไปใส่หรือบรรจุไว้ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4-5 แล้วรอเวลาเพื่อให้ได้สภาพพระที่มีขี้กรุแบบพระกรุบางขุนพรหมแล้วก้ต้อรอให้พระเจดีย์ล้มลงเพื่อจะได้เอาพระออกมาขายอย่าลืมว่าเจดีย์นั้นล้มลงเองไม่ได้มีใครไปลักลอบขุดเจาะนะ
ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้คนที่คิดทำแบบนี้ก็ตายไปตั้งนมนานแล้วคงไม่ได้อยู่ใช่เงินทองที่ขายพระได้
ก็แปลกดีนะข้อมุลที่บุคลที่ศึกษา(อย่าใช้คำว่าเล่นเลยไม่บังควร)ในศาสตร์ของพระเครื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องลบผงวิเศษ ตำส่วนผสมในการสร้างพระ เป็นทั้งเจ้าพิธีและพิธีกรในการพุทธาภิเศกพระ เรียนรู้และทดลองทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติเรื่องการใช้รัก(ที่ใช้ทาพระ) ได้รู้ได้เห็นได้สัมผัสพระพิมพ์ต่างๆมามากมายมหาศาลเป็นเวลามากกว่า 60 ปี มาบอกมาสอนให้รู้เรากับไม่เชื่อ แต่กับคนที่เพิ่งจะศึกษามาไม่เท่าไหร่เรากลับให้เขาชี้นำหรือตัดสินได้ว่านั่นแท้ นี่เก๊ แถมปรามาสบรรพบุรุษผู้มีศรัทธาในการสร้างพระพิมพ์ต่างๆที่เขาตีว่าเก๊ ก็เลือกเอาเองเน้อพี่น้องกรรมใครกรรมมัน ใครไม่เอาพระกรุนี้ก็ช่างเถอะสำหรับผมเจอที่ไหนเก็บหมดจะบอกให้นิดนึงหาไม่ยากหรอกถ้าดูเป็นนะได้ของดีราคาถูกไว้คุ้มครองตัวได้สบายใจกับของแพงหูฉี่ที่คุ้มครองตัวไม่ได้ก็เลือกเอาเองผมลือกอย่างแรกดีกว่า


</TD></TR></TBODY></TABLE>

พระสมเด็จวัดระฆัง ที่ลงตามหนังสือพระหรือผ่านการประกวดพระนั้น มีแต่ปูนเปล่าๆเท่านั้น ข้างในท่านไม่อยู่แล้ว ลองพิจารณาดูกันเอง แล้วแต่โชค วาสนา บารมี ของแต่ละคนเอง

คนพวกเซียนพระ ไม่รู้จักว่า การรักษาศีลเป็นอย่างไร โดยเฉพาะข้อที่ 4 พวกนี้ไม่เคยมีสักวันที่จะมีศีลข้อที่ 4 ครบเลย พันธง

คิคิคิ


มาย้ำอีกรอบ

ไม่เห็นโลง ไม่หลั่งน้ำตา
แต่ถ้าเห็นโลง ก็หลั่งน้ำตา ก้มหน้ารับกรรม

สงสารแต่องค์พระโพธิสัตว์ ปราถนาจะรอขนสัตว์นรกที่มาเกิดเป็นมนุษย์และพาไปพระนิพพานจนสัตว์นรกตัวสุดท้าย


.

 

http://hilight.kapook.com/view/16528

หมา เลี้ยง แมว




<CENTER>ข่าว แปลก ที่ ประเทศ สหรัฐ อเมริกา มี เรื่องราว แปลก ของ หมา และ แมว โดย ลูก แมว วัย 6 สัปดาห์ นอน ดูดนม แม่ หมา โกลเด้น รีทรีฟเวอร์

​

เจ้าพรีเชียส ลูกแมว วัย 6 สัปดาห์ นอนดูดนมเจ้าฮันนีย์แม่หมาโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ วัย 7 ปี ในบ้านที่เมืองสตีเฟนส์ รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา ฮันนีย์ เคยตกลูกเมื่อปีที่แล้ว ​

แต่หลัง จากที่จิมมี่ มาร์ติน เจ้าของนำลูกแมวมาอยู่ด้วย มันก็เลยรับหน้าที่แม่เสียอย่างนั้น โดยหลังจากที่ได้ยินเสียงร้องเหมียวๆ จากพรี เชียส ร่างกายฮันนีย์ก็เริ่มผลิตน้ำนมเพื่อป้อนลูกแมว ​

ข้อมูลและภาพประกอบจาก
​

</CENTER>

 

เลือกอย่างแรกเหมือนกันครับ ฟันธง!!!

 

http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=47500&NewsType=2&Template=1


วันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2550 เวลา 07:43 น.

วิธีเก็บดอกไม้
<TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top>ถ้าอยากเก็บรักษาดอกไม้ไว้นาน ๆ ลองทำตามวิธีที่นำมาฝากกันดู
1. ปล่อยให้แห้งตามธรรมชาติ กำดอกไม้เป็นกำย่อย ๆ 5-10 ช่อ แล้วนำไปแขวนกลับหัวลง เพื่อให้ก้านตรง ควรแขวนไว้ในที่แห้ง ๆ ไม่ถูกแสงแดดโดยตรง เช่นในห้องแอร์ โรงรถ
2. การทำดอกไม้ทับแห้ง ทำได้ง่าย ๆ ก็คือ การเก็บลงหนังสือ แต่ก่อนที่จะเก็บลงหนังสือ ควรนำดอกไม้มาตัดแต่ง ซึ่งสามารถนำดอกไม้แห้งที่ได้ มาใช้ทำการ์ด ที่คั่นหนังสือ ตกแต่งอุปกรณ์ต่างๆ
3. ใช้สารดูดความชื้น ใช้ซิลิกาเจลแบบเม็ดละเอียด(ทราย)
วิธีทำ เริ่มต้นจากการนำเอาดอกไม้ที่ต้องการ อบแห้งมาตัดก้านออกให้เหลือความยาวประมาณ 1 นิ้ว เป็นอย่างต่ำ หลังจากนั้นก็หาภาชนะ ที่มีขนาดใหญ่พอที่จะบรรจุดอกไม้ที่ต้องการอบ เติมซิลิกาเจลลงในภาชนะประมาณ 1/2 - 1 นิ้ว ปักดอกไม้ที่เตรียมไว้ลงในซิลิกา แล้วค่อย ๆใช้ช้อนตัก ซิลิกาเติมลงไปรอบ ๆ ดอก และในระหว่างกลีบดอก ระวังอย่าให้กลีบพับ จนกระทั่งกลบดอกไม้ท่วมหมด
ขั้นต่อไป ถ้าเป็นดอกกุหลาบปิดฝาให้แน่นสนิท แล้วทิ้งไว้ประมาณ 7 ถึง 10 วัน หรือถ้าเป็นดอกกล้วยไม้ ก็ยังไม่ต้องปิดฝา นำไปใส่เตาไมโครเวฟ ใช้ไฟแรง 1 นาที หลังจากนั้นนำออกมาตั้งทิ้งไว้ให้เย็นตัวลง เมื่อดอกไม้แห้งพอแล้ว ค่อย ๆ เทซิลิกาเจลออก แล้วใช้พู่กันขนนุ่ม ๆ ปัดเศษซิลิกาเจลที่ติด ๆ อยู่ออกให้หมด ต้องเบามือมาก ๆ เพราะมันจะเปราะบางมาก
4. การใช้กลีเซอรีน เป็นวิธีการถนอมใบไม้
วิธีทำ เตรียมสารแช่โดยผสม กลีเซอรีน (หาซื้อตามร้านขายเคมีทำสบู่) 1 ส่วน กับน้ำอุ่นมาก ๆ 2 ส่วน กวนผสมกันให้ดี ตั้งทิ้งไว้ให้เย็น (กะปริมาณให้มากพอท่วมใบไม้) เตรียมใบไม้โดย เลือกใบที่สวย สมบูรณ์ ไม่มีรอยถลอก หรือฉีกขาด รอบพวกนี้จะเห็นชัดขึ้นเมื่อเสร็จกระบวนการแช่ เรียงใบในภาชนะโดยให้ส่วนโคนใบอยู่ด้านล่าง ตั้งปลายใบขึ้น แล้วจึงเทสารแช่ลงไปให้ท่วม ใช้เวลา 2 สัปดาห์ ถึง 2 เดือน เอาใบขึ้นมาล้างน้ำ เช็ดให้แห้งเท่านี้ก็ใช้ได้แล้ว
ใครที่มีดอกไม้สดอยู่ที่บ้าน ถ้าอยากเก็บไว้นาน ๆ ก็อย่าลืมนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติตามกันได้.
</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="VERTICAL-ALIGN: top; TEXT-ALIGN: left"><TABLE id=Table1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=message-bold>คอลัมน์ย้อนหลัง</TD></TR><TR><TD><TABLE id=ctl00_ContentPlaceHolder1_ctl00_Popup_news_15_oldcolumn1_dlsOColumn style="WIDTH: 100%; BORDER-COLLAPSE: collapse" cellSpacing=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">วิธีเก็บดอกไม้
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">เลือกซื้อกางเกงยีนส์ให้เหมาะกับรูปร่าง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">โรคลิชมาเนีย (Leishmaniasis)
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ประโยชน์ของพริกป่น
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ปลาลดความเสี่ยงการเกิดจอประสาทตาเสื่อม
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ลดริ้วรอยบนใบหน้าด้วยสับปะรด
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">วิธีทาครีมที่มือ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">วิธีแก้ปวดเมื่อยจากรองเท้าส้นสูง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ทำให้ขนกำมะหยี่ฟูดังเดิม
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">วิธีขจัดคราบเหงื่อ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROb1lYQXdOREl4TVRBMU1BPT0=&sectionid=TURNeE53PT0=&day=TWpBd055MHhNQzB5TVE9PQ==

วันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 17 ฉบับที่ 6170 แหล่งที่มา ข่าวสดรายวัน


พระราชพงษาวดาร ฉบับพิมพ์ ร.ศ.120



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>พระราชพงศาวดารนับเป็นหนังสือหลัก ในการศึกษาค้นคว้าประวัติศาสตร์ ว่าด้วยเรื่องราวของพระมหากษัตริย์ การเขียนพระราชพงศาวดาร จัดเป็นธรรมเนียมแบบแผนอย่างหนึ่งของราชสำนัก ที่ทำสืบต่อกันมาแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

กล่าวเฉพาะการจัดให้มีการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ หรือที่ในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 เรียกว่าพงศาวดารนั้น ทรงเร่งรัดให้กระทรวงธรรมการ พิมพ์แบบเรียนประวัติศาสตร์ที่เหมาะสมกว่าที่มีอยู่คือ พระราชพงศาวดาร ย่อ หรือ พระราชพงศาวดาร สังเขป พ.ศ.2430 เท่านั้น

อันสืบเนื่องจากการเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 1 พ.ศ.2440 เสด็จฯ ทอดพระเนตรพิพิธภัณฑ์ และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย เมื่อเสด็จฯ กลับสยาม ทรงเล็งเห็นการที่จะต้องให้ความสำคัญกับการเรียนรู้เรื่องความเป็นมาของชาติบ้านเมืองของตนมากขึ้น

ด้วยเหตุนี้ พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ากิติยากรวรลักษณ์ ซึ่งต่อมาคือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ อธิบดีกรมศึกษาธิการ กระทรวงธรรมการ จึงทรงจัดพิมพ์ขึ้น เมื่อร.ศ.120 ตรงกับพ.ศ.2444 จำนวน 3 เล่ม 2 ระดับชั้นเรียน (ประถมศึกษาและมัธยมศึกษา) ในชื่อ "พระราชพงษาวดาร" เล่ม 1 เล่ม 2 และเล่ม 3 หรือเรียกว่า "พระราชพงษาวดาร พิสดาร"

ความสำคัญของ "พระราชพงษาวดาร ฉบับพิมพ์ ร.ศ.120" นอกจากจะเป็นหนังสือเรียนและสอบสำหรับนักเรียนชั้นประถมและมัธยมแล้ว ยังเป็นหนังสือเรียนและสอบฉบับแรกที่ตีพิมพ์ในสยามประเทศ

106 ปี หากนับเนื่องจากปี พ.ศ.2444 ถึงปีพ.ศ.2550 ยังมิได้ปรากฏว่ามีการพิมพ์ซ้ำ

ในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 80 พรรษา 5 ธันวาคม พ.ศ.2550 นับได้ว่าเป็นโอกาสพิเศษที่ทางกระทรวงวัฒนธรรม สมาคมประวัติศาสตร์ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ร่วมกันจัดพิมพ์หนังสือชุดนี้ขึ้นมาอีกครั้ง <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

เนื้อหาในพระราชพงษาวดาร เล่ม 1 ประกอบด้วย ตารางลำดับพระมหากษัตริย์ตั้งแต่กรุงศรีอยุธยา จนถึงรัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี ต่อด้วยสรุปพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์สมัยกรุงศรีอยุธยาทุกพระองค์ จากนั้นเข้าเนื้อหาหลักของเล่ม 1 คือ เล่าเรื่องตั้งแต่ก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา จนถึงสมเด็จพระศรีสุธรรมราชา ต่อด้วยคำถามที่ครูควรถามและอธิบายคำศัพท์ที่ปรากฏในพงษาวดารเล่ม 1

เนื้อหาในพระราชพงษาวดาร เล่ม 2 เริ่มสมัยสมเด็จพระนารายณ์ จนถึงพระเจ้าเอกทัศน์ ต่อด้วยคำถาม แปลศัพท์ หมายเหตุเบ็ดเตล็ด สรุปเหตุการณ์สำคัญในแต่ละปี เริ่มตั้งแต่การสถาปนากรุงศรีอยุธยาจนสิ้นกรุงศรีอยุธยา ต่อด้วย ศุภศาสน์ ราชศาสน์ และสารตราตั้งต่างๆ สำเนากระแสพระราชดำรัส และพระราชอัยการที่สำคัญในบางรัชกาล

เนื้อหาในพระราชพงษาวดาร เล่ม 3 เริ่มสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสิน จนถึงสมัยรัชกาลที่ 1 (แต่เนื้อหาไม่จบถึงสวรรคต จบแค่รัชกาลที่ 1 โปรดให้พระยายมราชยกทัพไปตีเมืองทวาย ต่อจากนั้นเป็นสำเนาเทศนาพระราชประวัติรัชกาลที่ 1 ถึง รัชกาลที่ 4 จากนั้นเป็นคำอธิบายศัพท์ หมายเหตุเบ็ดเตล็ดลำดับเหตุการณ์สำคัญในแต่ละปี ใบบอกและรายงานระยะทางซึ่งเป็นเสมือนภาคผนวก

รศ.วุฒิชัย มูลศิลป์ นายกสมาคมประวัติศาสตร์ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กล่าวถึงที่มาของการจัดพิมพ์ว่า

"เป็นหนังสือเรียนที่พิมพ์ออกมาใช้กันในสมัยนั้น แล้วก็พิมพ์ออกมาครั้งเดียวใน ร.ศ.120 หลังจากนั้น ก็หายไปเลย ไม่มีการพิมพ์ซ้ำ มีส่วนหนึ่งของพระราชพงศาวดารที่อาจจะพิมพ์ซ้ำอยู่บ้าง แต่ว่าก็ไม่สมบูรณ์ เหมือนกับที่พิมพ์ใน ร.ศ.120 ก็พยายามตามหา คุณชายศุภวัฒย์ (พล.ต.ม.ร.ว.ศุภวัฒย์ เกษมศรี) ก็ให้ต้นฉบับมา" <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

"ผมเองก็มาปรึกษากันในสมาคมประวัติศาสตร์ฯ ก็เห็นว่าเหมาะสมในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา ความสำคัญของหนังสือนี้ก็มีความสำคัญสูง ในสมัยรัชกาลที่ 5 เอง ก็ให้ความสำคัญกับวิชาประวัติศาสตร์มาก"

ส่วนความสำคัญของพระราชพงษาวดาร ฉบับพิมพ์ ร.ศ.120

"ในพระราชพงษาวดารชุดนี้ นอกเหนือจากที่เคยมีเนื้อหาเป็นพระราชพงศาวดารโดยทั่วไปแล้ว ถ้าไปดูก็จะเห็นได้ว่ามีอย่างอื่นอยู่ด้วย คือแนะนำวิธีการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ในสมัยก่อน ว่าควรจะสอนอย่างไร นอกจากนี้ ในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นช่วงที่มีภาษาเกิดขึ้นใหม่ๆ เยอะ แล้วภาษาเก่าก็ชักจะลืมเลือนกันไป ภาษาใหม่ก็เริ่มมาจากที่ว่าเมื่อความรู้ขยายมากขึ้นก็รับเอาวิชาการของฝรั่ง รวมทั้งการติดต่อกับฝรั่ง"

"แต่ในขณะเดียวกันภาษาเก่าๆ ของเราซึ่งใช้กันมา ก็เข้าใจกันยากขึ้นด้วย สิ่งที่มีประโยชน์ในเรื่องของภาษา การเปลี่ยนแปลงทางด้านอักขรวิธี วีธีการเขียนจะเริ่มเปลี่ยนจากของเก่า ในหน้าแก้คำผิดเป็นส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า มีความเปลี่ยนแปลง เวลานั้นใช้กันอย่างไร เวลาพิมพ์เราก็คงหน้านั้นไว้ด้วย ภาษาเก่าที่เป็นประโยชน์มากในแต่ละเล่มๆ จะมีการอธิบายคำเก่าไว้ด้วย อธิบายศัพท์โบราณ ซึ่งในพระราชพงศาวดารทั้งหลายไม่มีส่วนนี้อยู่เลย แต่ว่าชุดนี้เป็นหนังสือเรียนก็มีการพิมพ์อธิบายศัพท์แสงที่ใช้อยู่ในพระราชพงษาวดารแต่ละเล่มๆ ให้นักเรียนเข้าใจได้มากขึ้น มีประโยชน์มากทีเดียว"

ที่สำคัญคือการถ่ายแบบจากต้นฉบับของพระราชพงษาวดาร คือความพิเศษของการพิมพ์ครั้งนี้

"ความสำคัญนี้คือการคงอักขรวิธีการเขียนในสมัยนั้น มีความสำคัญในแง่ของพัฒนาการทางด้านภาษาไทย เพราะเคยมีหนังสือในรุ่นหลังๆ มักจะไปเปลี่ยนแปลงวิธีการเขียนสะกดการันต์ ในส่วนนั้นเราจะใช้ประโยชน์ในแง่ของพัฒนาการทางภาษาไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นเราก็ถ่ายไว้ทั้งหมด ให้เห็นความเปลี่ยนแปลงทางภาษา แล้วต้นฉบับคุณธงชัย ลิขิตพรสวรรค์ สำนักพิมพ์ต้นฉบับ เอื้อเฟื้อแล้วก็ช่วยสแกนต้นฉบับ อ่านได้สบาย มีความชัดเจนมาก ไม่มีปัญหาข้อสงสัย ที่พิมพ์ออกมานี้ถูกหรือเปล่า ปรู๊ฟดีไหม"

"เราจะพบว่าคำในคำเดียวกันอาจจะพิมพ์ในต้นฉบับนั้นแตกต่างกัน เราก็คงไว้อย่างนั้นเลย และได้คุณค่าอย่างนี้ด้วย นอกเหนือจากเนื้อหาทางพงศาวดาร เพราะฉะนั้นคนที่ควรจะสนใจหนังสือชุดนี้ ไม่เฉพาะคนที่สนใจประวัติศาสตร์แต่คนที่สนใจในเรื่องภาษาไทย พัฒนาการทางภาษาด้วย แล้วการพิมพ์ซ้ำในครั้งนี้ก็คงรูปทั้งขนาดตัวหนังสือ ขนาดของรูปเล่มสิ่งที่อยู่ภายใน คงไว้อย่างเดิมทั้งหมด ส่วนที่เพิ่มอะไรเข้าไปเราก็มีบอก เพื่อความเข้าใจ"

สิ่งสำคัญอีกอย่างในหนังสือชุดนี้ คือภาพจากโคลงภาพพระราชพงศาวดาร รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้ทำขึ้นมาตั้งแต่ 120 ปีที่แล้ว พ.ศ.2430 คุณค่าสูง แสดงถึงจินตนาการของช่างเขียนที่จะสะท้อนเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ออกมาเป็นภาพ ภาพดังกล่าวได้รับความเอื้อเฟื้อถ่ายต้นฉบับจากกรมศิลปากร

ดังนั้นการจัดพิมพ์พระราชพงษาวดาร ขึ้นมาใหม่ ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อการศึกษาประวัติศาสตร์ไทย เพราะจะได้ช่วยกันตรวจสอบข้อมูลประวัติศาสตร์ไทย หวังว่าหนังสือนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาของชาติสืบไป

 

วันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10816​

http://matichon.co.th/matichon/news_detial.php?s_tag=01fod02211050&day=2007-10-21&sectionid=0125

"อาหารทะเล"เลือกเอง

คอลัมน์ หิวหรืออิ่มก็ยิ้มพอกัน

โดย พัชรพน




<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ชีวิตที่วุ่นอยู่กับสังคมเมือง พอมีสักวันที่ได้กลับบ้านเกิด รู้เลยครับว่าความสุขของชีวิตหาง่ายมากๆ

อากาศต่างจังหวัด ชายทะเลเมืองชล อย่างไรเสียก็สดชื่นกว่าในกรุงเทพฯ ตื่นมาแต่เช้ามืดตามเสียงนกการ้องปลุก อ้อยอิ่ง ต้มน้ำชงกาแฟกินพออุ่นท้อง และประสาทเริ่มทำงาน

นึกครึ้มๆ ขึ้นรถสตาร์ตเครื่องไปอ่างศิลาดีกว่า

ตลาดเช้าสะพานปลาอ่างศิลาคึกคักทุกวัน ผมชอบมาที่นี่ มาดูชีวิตของชาวเล หา กุ้ง หอย ปู ปลามาขายกันสดๆ ขึ้นจากเรือก็กองขายกันเลย ราคาถูกครับเพราะไม่ต้องแบ่งกำไรให้พ่อค้าแม่ค้าคนกลาง

ซื้อของจากชาวบ้าน ชาวเล มีความสุขครับ เพราะพูดคุยกันอย่างซื่อๆ ใสๆ เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายมิตรภาพ

ซื้อไปคุยไป วันนั้นได้ความรู้เรื่องเลือกของทะเลมาเพียบ

ความจริงก็พอรู้ๆ อยู่ แต่เพราะห่างเหินไปเสียนาน ความรู้ที่เคยมีก็เข้าหม้อ กลายเป็นความรู้ที่ติดอยู่ริมปาก คล้ายๆ จะนึกได้ แต่ก็นึกไม่ออก เมื่อได้มาทบทวนอีกทีก็กระจ่าง

อาหารทะเลนี่จำเป็นต้องสดครับ ถ้าไม่สดนอกจากไม่อร่อย ปรุงแล้วมีกลิ่นไม่พึงปรารถนาแล้ว ยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ท้องเสียเอาง่ายๆ

ถ้าเลือกเป็น ได้ทั้งความอร่อย และดีกับสุขภาพ มีการศึกษากันมาแล้วครับว่าอาหารทะเลดีกว่าสุขภาพมากกว่าเนื้อสัตว์อื่น

ชมตลาดไป หาทบทวนความรู้ตัวเองไป

อย่างนี้ครับ

ปลา วิธีเลือกก่อนอื่นต้องดูว่าท้องแข็งหรือไม่ ถ้าท้องแตกแสดงว่าเตรียมตัวเน่าแล้ว จับดูว่าท้องแข็งให้ดูผิวต้องเป็นมัน เกล็ดติดกับตัวแน่น มีเมือกใส จากนั้นดูตาต้องใส ไม่ขุ่น สุดท้ายเปิดเหงือกดู ต้องเป็นสีแดงสด

แบบนี้สดแน่ ซื้อเลยครับ ปลาสดนี่ปรุงเป็นอะไรก็อร่อย ด้วยเนื้อหวาน

ถ้าเป็น "ปู" ชอบผู้เนื้อต้องปูตัวผู้ สังเกตจากแผ่นปิดหน้าอก ที่เรียกว่าตะปิ้ง ตัวผู้ตะปิ้งจะเล็กออกแหลมๆ ส่วนตัวเมีย ตะปิ้งจะใหญ่อออกป้านๆ

วิธีเลือกให้สด

ดูสีกระดองก่อน ปูทะเลหรือปูดำต้องเขียวเข้ม สีก้ามต้องแดงเรื่อๆ ปูถ้าต้องเป็นสีฟ้าใสๆ ก้ามไม่หลุด แล้วดูตาต้องใส

สดแล้วดูว่าแน่นหรือไม่ กดเบาๆ ที่หน้าอก หากรู้สึกว่าแข็งใช้ได้เลย ถ้ารู้สึกว่านิ่มวางไว้ก่อน เพราะเนื้อจะโพรก เคาะหน้าอกดูก็ได้ หากเสียงทึบๆ เนื้อจะแน่น

เลือกปูไข่ก็คล้ายๆ กัน แค่เคาะที่กระดองปูตัวเมีย หากเสียงทึบๆ แสดงว่ามีไข่แน่น

กุ้ง นี่เลือกง่ายกว่า ดูว่าเปลือกใสๆ ตาไม่ขุ่น ที่สำคัญคือหัวไม่หลุด จับดูตัวยังแข็งๆ ไม่เหลวเละ ให้แน่ใจลองจับตัวกุ้งยืดออกดู หากงอกลับแบบเดิมเอง ได้อย่างนี้สดแน่

หอย ไม่ว่าจะเป็นหอยแมลงภู่ หรือหอยแครง หอยลาย หอยกะพง หรือหอยอะไรก็ตาม เลือกที่หุบเปลือกแน่น ไม่อ้า หรือถ้าอ้าอยู่ลองเอามาแตะดู หากหุบเองเป็นใช้ได้ เพราะยังเป็นอยู่ หอยที่ตายแล้วนี่ระวังเลย อย่าซื้อ หอยทำให้ท้องเสียได้ง่ายสุด

ถ้าเป็นหอยนางรม ซึ่งส่วนใหญ่จะแกะแล้ว ให้ดูว่าเยื่อบางๆ ยังหุ้มเนื้ออยู่หรือไม่ ถ้ายังมีเยื่อแสดงว่าสด

ส่วน ปลาหมึก เลือกที่ผิวใส เป็นมัน ไม่เป็นเมือกขาวขุ่น ถุงหมึกไม่แตก เนื้อไม่ยุ่ย และไม่มีกลิ่น

ชาวเลไม่หวงความรู้ครับ

วันนั้นซื้อมาทุกอย่าง ตกเย็นตั้งเตาถ่าน ชวนเพื่อนพ้องน้องพี่มาดินเนอร์ทะเลเผา

เป็นอีกวันที่ผ่านไปด้วยความสนุกสนาน ง่ายๆ ไม่กี่สตางค์

ฮา เฮ เสียยิ่งกว่าไปนั่งในภัตตาคารหรูเสียอีก

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>Yusen seki
การ “ลุกให้นั่ง” คือ “น้ำใจ” ใช่หรือเปล่า !?!
http://www.manager.co.th/lady/viewnews.aspx?NewsID=9500000124146
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>19 ตุลาคม 2550 12:40 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=216 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=216> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> โดย จินนี่ สาระโกเศศ คอลัมน์ Come Into นิตยสาร Metro Life

ประตูรถไฟเปิดออก ผู้โดยสารที่ยืนอยู่บนชานชาลา รีบก้าวเข้าไปบนรถไฟอย่างรวดเร็ว

ในรถไฟตู้นั้นมีที่นั่งว่างอยู่เพียงที่เดียว!

ผู้ชายญี่ปุ่นในชุดสูทที่ก้าวขึ้นรถไฟเป็นคนแรก ตรงเข้าไปนั่งโดยไม่รอรี ตอนนี้ไม่มีที่ว่างเหลือบนรถไฟตู้นี้อีกต่อไป!!

หญิงชราก้าวเข้ามาในรถไฟเป็นคนสุดท้าย เสียงกริ่งเตือนดังขึ้น ประตูรถไฟค่อยๆ ปิดเข้าหากัน แล้วรถไฟก็เคลื่อนที่ออกจากชานชาลาสถานี

หญิงชราผู้นั้นยืนอยู่ตรงที่ว่างที่มีอยู่เพียงน้อยนิด รถไฟแล่นไปข้างหน้า หญิงชรายังคงยืนต่อไป รถไฟจอดที่สถานีแล้วสถานีเล่าก็ยังไม่มีใครในบริเวณนั้นลงจากรถไฟ และก็ไม่มีใครลุกให้หญิงชราผู้นี้นั่งเลย

ถ้าเป็นเมืองไทย ภาพลักษณะนี้อาจจะพบเห็นได้ยาก ตั้งแต่วินาทีแรกที่ผู้สูงอายุขึ้นบนรถไฟ จะต้องมีคนลุกให้นั่ง

ไม่สิ ต้องมีคนหลายคนแย่งกันลุกให้นั่งต่างหาก

แต่ที่นี่ในตอนนี้ไม่มีใครทำเช่นนั้นเลย

ในญี่ปุ่นที่นั่งสำหรับผู้สูงอายุถูกจัดไว้ในส่วนหัวและท้ายของรถไฟแต่ละตู้ ซึ่งเรียกว่า “ยูเซ็นเซคิ”

ยูเซ็นเซคิเป็นที่นั่งสำหรับผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ และผู้ทุพพลภาพ ตรงกระจกหน้าต่างด้านหลังของที่นั่งยูเซ็นเซคิจะมีสติกเกอร์เขียนคำว่า “ยูเซ็นเซคิ” ติดเอาไว้

เวลาที่ขึ้นรถไฟ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่จึงตรงไปนั่งที่บริเวณนี้ ซึ่งจะมีประมาณฝั่งละ 4 ที่นั่ง รวมกันก็เป็น 8 ที่นั่ง เวลาที่ไม่มีที่ว่างในบริเวณของ “ยูเซ็นเซคิ” ผู้สูงอายุก็จะยืนอยู่ใกล้ๆ เพื่อรอให้ “ยูเซ็นเซคิ” ว่างในเวลาต่อไป

หญิงชราที่ยืนอยู่ในบริเวณนี้ก็เช่นเดียวกัน

หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมไม่มีใครเสียสละที่นั่งให้หญิงชราผู้นี้เลย เป็นเพราะผู้โดยสารคนอื่นๆ บนรถไฟ ไม่มีน้ำใจ ? หรือว่าเป็นเพราะเหตุใดกันแน่ ?!

ฉันก็เคยรู้สึกอย่างนี้เหมือนกัน

แต่ตอนที่ยังเรียนอยู่ อาจารย์เคยเล่าให้ฟังว่าครั้งแรกที่อาจารย์พบเจอเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้ อาจารย์คิดว่าผู้โดยสารคนอื่นในรถไฟช่างแล้งน้ำใจจริงๆ

แต่เมื่ออาจารย์ลุกขึ้นให้ผู้สูงอายุผู้นั้นนั่ง สิ่งที่อาจารย์รู้สึกว่าคือ “น้ำใจ” กลับถูกปฏิเสธ

คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ต่างให้ความสำคัญในการดูแลรักษา “สุขภาพ” และ “ร่างกาย” ของตัวเองอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่อายุเริ่มมากขึ้น คนญี่ปุ่นจึงได้มีอายุขัยเฉลี่ยสูงไม่แพ้คนชาติใดๆ

การมีสุขภาพแข็งแรงเป็นสิ่งที่คนญี่ปุ่นภูมิใจ ร่างกายแข็งแรง หน้าตาสดใส เป็นตัวบ่งชี้สุขภาพที่ดีของคนญี่ปุ่น เพราะฉะนั้นการที่มีผู้หยิบยื่น “น้ำใจ” โดยการเสียสละที่นั่งบนรถไฟให้

จึงกลับกลายเป็นการทำให้ผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยรู้สึกว่าตัวเองดู “ไม่แข็งแรง” หรือว่า “อ่อนแอ” จนไม่สามารถยืนไหว และรู้สึกไม่ดีต่อตัวเองไปในที่สุด

การ “เสียสละ” ที่นั่งในรถไฟให้จึงไม่ได้เป็นการแสดงออกซึ่ง “น้ำใจ” ในทุกกรณี “น้ำใจ” ที่หยิบยื่นให้ด้วยความหวังดี อาจกลายเป็นตัวทำลายความภาคภูมิใจในตัวของผู้ที่ถูกหยิบยื่นให้ไปในที่สุด

กรณีที่เกิดขึ้นกับอาจารย์ ภาพที่ฉันพบเห็นในตอนนี้ก็คงเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน การไม่หยิบยื่น “น้ำใจ” ให้ อาจถือว่าเป็น “น้ำใจ” อย่างหนึ่ง

การดูเหมือนแล้งน้ำใจ อาจจะเป็นน้ำใจอย่างหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้ผู้รับมีความสุขท้ายที่สุดก็เป็นได้ เรื่องนี้คือ ความแตกต่างกันทางวัฒนธรรม !!!
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>คาดราคาสินค้าพาเหรดขยับขึ้นใน 3-6 เดือนข้างหน้า
http://www.manager.co.th/Business/ViewNews.aspx?NewsID=9500000124634


</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>20 ตุลาคม 2550 17:27 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้ราคาสินค้ามีโอกาสขยับขึ้นอีกในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า หลังจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระต้นทุนเพิ่มขึ้นด้วย

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ประเมินว่าการปรับขึ้นของราคาน้ำมันที่ขึ้นมาอยู่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ ที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต การขนส่งที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่า ค่ารถโดยสารประจำทางได้ทำการปรับขึ้นมา 50 สตางค์ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังได้มีการขอปรับขึ้นราคาสินค้าต่อกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งหากราคาน้ำมันยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคน่าจะทยอยปรับเพิ่มขึ้นในอีก 3-6 เดือนข้างหน้า เนื่องจากภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าผู้ประกอบการจะพยายามพยุงราคาสินค้าในช่วงนี้ก็ตาม

นอกจากนี้ ราคาก๊าซหุงต้มยังได้มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นเช่นกัน แน่นอนว่าการปรับขึ้นราคาสินค้า แต่ระดับรายได้คงที่ย่อมมีผลกระทบโดยตรงต่อผู้บริโภค เนื่องจากภาระรายจ่ายในชีวิตประจำวันที่เพิ่มขึ้น



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

วันนี้ไปรับพระพิมพ์ "ปีระกา" มาเรียบร้อยแล้ว โดยมีสักขีพยานเยอะ เช่นคุณหนุ่ม คุณเอ คุณตั้งจิต คุณโสระ ได้ฟังประวัติจากพี่วุฒิ ลูกศิษย์รุ่นเดอะของ อ.ประถม รวมถึงพี่ใหญ่ในก๊วน ทำให้หายข้องใจในอิทธิคุณว่าเป็นพระพิมพ์ที่เชื่อขนมกินได้ พิมพ์หนึ่งทีเดียว โดยได้แบ่งให้คุณหนุ่มนำไปแจกจ่าย แล้ว คือ
1.รับแทนคุณน้องหนู คุณเพชร คุณ CHAIPAT คุณ THANYAKA
2.คุณตั้งจิตรับเองกับผม

สุดท้ายสักขีพยานทั้งหลายยังเหน็บของดีน่าใช้เช่น สมเด็จหลวงปู่แสง หลวงปู่ทวด หลวงพ่อเงินทองเนื้อแปด เจ้าคุณกรมท่า ร.4 กันพอหอมปากหอมคอ ตรวจพระตรงนั้น ฟังประวัติตรงนั้น สนุกไป ส่วนผมได้หลวงปู่เอี่ยมวัดสะพานสูงในราคาเด็กแรกเกิดไว้ เลยสบายไป นี่คุณหนุ่มสั่งหลวงปู่ทวดทองเนื้อแปดอีก 6 องค์ใครหนอโชคดีปานนั้น

สำหรับท่านที่จองสมเด็จพิมพ์ "ปีระกา" ที่เหลือรับพระได้ที่บ้าน อ.ประถมในวันที่ 4/11 นี้ พร้อมชำระเงินด้วยครับพ้ม...(คาดว่าจะสอนเรื่องเนื้อหาและพิมพ์ทรงในบ่ายวันเดียวกัน)

 

ผมเองก็นำหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูงไปให้ตรวจสอบดู ปรากฎว่าตรงตามที่ผมคิดไว้ แต่มีองค์เดียวนะครับ แต่หลวงปู่เอี่ยมของผมจะปิดทองร่องชาด เนื้อเดิมๆ ไม่ได้ล้างรักออกครับ

.

 

หลวงปู่ทวด ผมได้ไปสองรุ่น รุ่นแรกสร้างก่อนรัชกาลที่ 4 อีกรุ่นสร้างในรัชกาลที่ 4

แต่น่าอิจฉาคุณตั้งจิตและน้องเอ ได้ไปเยอะเลยครับ

.

 

แต่ที่เด็ดกว่านั้น คุณnongnooo โทรศัพท์ไปหาผม สอบถามว่าพอแบ่งอะไรให้ผมได้บ้าง ก็ได้ไปหลายองค์อยู่เหมือนกันนะ คิคิคิ

.

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=right width=438><SMALL></SMALL></TD></TR><TBODY><TR><TD width=16></TD><TD width=438><SMALL> หลักการฝึกนั่งสมาธิของข้าพเจ้า ตอนที่ 9 โดย เทวดา (ตอบ 0/16)
วิธีอยู่กับคนที่เราไม่ชอบ (ว.วชิรเมธี) โดย นีน่า (ตอบ 2/70)
มันไม่เที่ยง โดย poivang (ตอบ 0/25)
ขอคำแนะนำสำหรับผู้มีปัญหาทางจิตด้วยค่ะ โดย มิว (ตอบ 2/29)
เชิญชวนไปปฏิบัติธรรม (วัดปลายนา) วันที่ 15-18 พ.ย 50 โดย กาสลอง (ตอบ 0/19)
(T T) ต้องการเลือด B RH- ด่วน (เพื่อช่วยเมียและลูก) โดย วิสิฐ แย้มแสงฉาย (ตอบ 0/19)
ด่วนและสำคัญมากจริงๆ ขอเชิญพุทธศาสนิกชนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง (ฝ่ายมหายาน)... โดย เปรมวาทิต (ตอบ 0/61)
ขอคำแนะนำให้คนทั้งโลกที่กำลังท้อแท้และสับสนกับชีวิต โดย โลกสวย (ตอบ 4/81)
แจก CD พระไตรปิฏก ฟรี โดย สายธารธรรม (ตอบ 3/92)
รวมประวัติพระพุทธเจ้าและเสียงธรรมพระผู้ใหญ่แจกCDฟรี โดย ศุภเสฏฐ์ รวีภัคพงศ์ (ตอบ 0/7)
ร่วมช่วยเหลือวัดพระบาทน้ำพุแบบง่ายๆ โดย thaiadpoint (ตอบ 0/86)
ทำตัวอย่างไรเมื่อเพื่อนร่วมงานเป็นแบบนี้ โดย ฟ้าใส (ตอบ 7/144)
ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิต พระเณร สนส.บ่อเงินบ่อทอง โดย sithiphong (ตอบ 4/110)
ทำอย่างไรให้มองแต่ดี โดย คนเกือบสี่สิบ (ตอบ 5/161)
พระสงฆ์ก็มีทั้งดีเเละไม่ดี ถ้าจะว่าขอให้ว่าเป็นคนๆอย่าลยหลู่ศาสนา โดย คนพุทธเเท้ (ตอบ 1/55)
แจก vcd การ์ตูนพุทธประวัติ stereo 2 ภาษา ไทย-อังกฤษ โดย venfaa (ตอบ 46/211)
ขอเชิญร่วมสวดมนต์ บทโพชฌงคปริตร เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดย คนไทย (ตอบ 0/86)
ท่านผู้ใดมีข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาสงฆ์บ้าง จะนำมาทำวิทยานิพนธ์ โดย tara (ตอบ 1/46)
"เราเกิดมาทำไม" โดย กบนอกกะลา (ตอบ 3/171)
ขอขอบคุณทุกคำแนะนำในหัวข้อต้องพบจิตแพทย์ โดย คนมีทุกข์ลดลง (ตอบ 5/167)
</SMALL>
</TD></TR><TR><TD class=linkunder width=16 height=50></TD>

<HR>
<CENTER>
</CENTER>
</TR></TBODY></TABLE>

กระทู้ประวัติหลวงปู่เทพโลกอุดร ที่ผมนำไปลงใน http://www.budpage.com/ ถูกลบไปซะแล้ว ไม่เข้าใจจริงๆ งงงงงง

แต่อย่างว่าก็คือ จะอยู่ที่ความศรัทธา ความเชื่อถือ ผมเองไม่มีชื่อเสียง ก็เลยไม่น่าเชื่อถือละมั้ง

.

 

<TABLE class=tborder id=post758130 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">15-10-2007, 10:07 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#10842 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>sithiphong<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_758130", true); </SCRIPT>
สมาชิก ยอดนิยม
สมาชิกยอดฮิต



วันที่สมัคร: Dec 2005
ข้อความ: 16,062 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 19,221 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 90,417 ครั้ง ใน 12,294 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 10677




</TD><TD class=alt1 id=td_post_758130 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ช่วงนี้ งานผมเองค่อนข้างเยอะมาก ทั้งงานหลวงและงานราษฎร์ ผมขอลาพักร้อน พักงานบุญไว้ก่อน

หลังปีใหม่(2551)นี้ ผมจะมาแจ้งให้ทราบกันอีกครั้งว่า ผมจะมอบพระพิมพ์ไหนให้กับท่านที่ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งอีกนะครับ


ขอขอบคุณเพื่อนๆ น้องๆ ทุกๆท่านที่ให้กำลังใจนะครับ

โมทนาสาธุครับ

.
<!-- / message --><!-- sig -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE class=tborder id=post759237 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">เมื่อวานนี้, 11:09 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#10855 </TD></TR></TBODY></TABLE>
รายนามท่านผู้ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ที่ผมยังไม่ได้ส่งพระพิมพ์ให้ ผมรบกวนตรวจสอบให้ผมอีกครั้งนะครับ ตามรายละเอียดนี้ ผมเองพิมพ์ไว้หลายแผ่น ก็เลยสับสนว่าส่งให้แล้วหรือยัง รบกวนด้วยนะครับ<O</O
<O</O

1.คุณPichet-m <O</O
1.1ชุดหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน 1 ชุด ( 5องค์ )
<O</O
2.คุณdrmetta<O</O
2.1ชุดพระสมเด็จเนื้อผงยาวาสนา 1 ชุด ( 8 องค์ )<O</O
2.2พระพิมพ์ไตรโลกอุดร เนื้อกรมท่า 2 องค์<O</O
2.3พระพิมพ์พุทธประวัติ เนื้อสีขาว 4 องค์<O</O
2.4พระพิมพ์พุทธประวัติ เนื้อสีขาวแตกลายงา 4 องค์<O</O
2.5ชุดไกเซอร์ 1 ชุด ( 4 องค์)
<O</O
3.คุณtg22070<O</O
3.1พระพิมพ์ไตรโลกอุดร เนื้อกรมท่า 1 องค์
<O</O
4.คุณเทพารักษ์<O</O
4.1ชุดไกเซอร์ 1 ชุด ( 4 องค์ )<O</O
4.2ชุดหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน 1 ชุด ( 5 องค์)<O</O
4.3ชุดสมเด็จวังหน้า (เนื้อสีเดียว) 1 ชุด (6 องค์ 6 สี)<O</O
4.4ชุดพระสมเด็จเนื้อผงยาวาสนา 1 ชุด ( 8 องค์ )
4.5พระพุทธประวัติ เนื้อขาว 1 องค์
4.6พระพุทธประวัติ เนื้อขาวแตกลายงา 1 องค์
<O</O
5.คุณpunnarphut<O</O
5.1พระจิตรลดา (เนื้อกรมท่า องค์ซ้าย) 1 องค์<O</O
5.2พระสมเด็จเนื้อขาวลงชาด(สีแดง) ไม่ใช่เนื้อจูซาอั้ง 1 องค์<O</O
5.3พระพิมพ์พุทธประวัติ เนื้อสีขาวแตกลายงา 1 องค์
<O</O
6.คุณVodka109<O</O
6.1พระสมเด็จ เนื้อปัญจสิริ 1 องค์<O</O
6.2พระพิมพ์ไตรโลกอุดร (เนื้อกรมท่า) 1 องค์
<O</O
7.คุณdragonlord<O</O
7.1พระพิมพ์พุทธประวัติ เนื้อสีขาว 1 องค์<O</O
7.2พระพิมพ์ไตรโลกอุดร (เนื้อกรมท่า) 1 องค์
<O</O
8.คุณteerachaik <O</O
8.1พระพิมพ์ท่านท้าวมหาพรหมชินะปัญจะระ 1 องค์ (สีน้ำเงิน)
<O</O
9.คุณactive<O</O
9.1ชุดสมเด็จวังหน้า (เนื้อสีเดียว) 1 ชุด (6 องค์ 6 สี)<O</O
9.2พระนาคปรก 2 องค์
<O</O
10.คุณพุทธันดร<O</O
10.1พระนาคปรก 2 องค์
<O</O
11คุณThanyaka<O</O
11.1พระพิมพ์ท่านท้าวมหาพรหมชินะปัญจะระ 1 องค์ (สีน้ำเงิน)<O</O
11.2พระนาคปรก 1 องค์
<O</O
12คุณตั้งจิต <O</O
13.คุณaries2947<O</O
14.คุณchaipat

ส่วนถ้ามีท่านอื่นที่ผมตกหล่นแจ้งให้ทราบอีกครั้งนะครับ

โมทนาสาธุครับ<!-- / message --><!-- sig --><!-- / message --><!-- sig --><!-- / message --><!-- sig --><!-- / message --><!-- sig --><!-- / message --><!-- sig --><!-- / message --><!-- sig -->

 

เรื่องใดที่ไม่ถูกต้อง ก็อย่า "กดอนุโมทนา" นะครับ
(b-no)
มิฉะนั้น เหมือนกับผู้ที่ "กดอนุโมทนา" กระทำเหมือนกัน ขอเตือน
(b-angry)

.

ส่วนรูปพระสมเด็จนั้น จากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ครับ

วันที่ 27 ตุลาคม 2550 โพสเรื่องพระสมเด็จจากเดลินิวส์เพิ่ม คือโพสที่ #11139
http://palungjit.org/showthread.php?p=778161#post778161

.
<!-- / message --><!-- sig -->

 

ผมจะลงเรื่องพระสมเด็จ ซึ่งเป็นบทความจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ไว้ครับ
แต่ผมไม่เห็นด้วยในหลายๆเรื่องครับ


คุณนายสติ ผมลงให้ดูนะครับ เรื่องพระสมเด็จกรุบางน้ำชน (ปีระกาป่วงใหญ่)

************************************************

http://www.dailynews.co.th/web/html/...e=2&Template=1

การปลอม

 

http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=47153&NewsType=2&Template=1