พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat colSpan=2>ข้อความส่วนตัว: เรียน คุณ sithiphong ครับ จากที่ได้รับ mail ครับ</TD></TR></TBODY></TABLE><!-- post # --><TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-RIGHT-WIDTH: 0px"><!-- status icon and date -->[​IMG] วันนี้, 11:31 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT-WIDTH: 0px; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right></TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid" width=175>punnarphut<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Aug 2007
    ข้อความ: 13 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 24 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 67 ครั้ง ใน 13 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->เรียน คุณ sithiphong ครับ จากที่ได้รับ mail ครับ
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->5.คุณpunnarphut<O:p</O:p
    5.1พระจิตรลดา (เนื้อกรมท่า องค์ซ้าย) 1 องค์<O:p</O:p
    5.2พระสมเด็จเนื้อขาวลงชาด(สีแดง) ไม่ใช่เนื้อจูซาอั้ง 1 องค์<O:p</O:p
    5.3พระพิมพ์พุทธประวัติ เนื้อสีขาวแตกลายงา 1 องค์

    <O:p
    ถูกต้องแล้วครับ
    ขอบคุณมากครับ</O:p
    <!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    วันพรุ่งนี้ ผมหยุดงาน จะดำเนินการส่งให้นะครับ
    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder id=post768592 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">เมื่อวานนี้, 11:30 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #972 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>nongnooo<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_768592", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Nov 2006
    ข้อความ: 500 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 8,099 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 3,894 ครั้ง ใน 504 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 450 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_768592 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->เรียนคุณ sithiphong
    เมื่อวันที่20ตค.50 เวลา 16.30น.ผมได้ฝากเงินจำนวน 1000บาทผ่าน adm ktb central bangna 1890131288 เพื่อทำบุญร่วมสร้างเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งตามที่ได้บูชาพระพิมพ์ไว้ และยังมียอดคงค้างจำนวน 5933บาทครับ
    ขอบคุณและโมทนาสาธุครับ
    nongnooo...
    <!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>

    โมทนาสาธุครับคุณnongnooo

    <TABLE class=tborder id=post768603 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">เมื่อวานนี้, 11:43 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #973 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>nongnooo<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_768603", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Nov 2006
    ข้อความ: 500 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 8,099 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 3,894 ครั้ง ใน 504 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 450 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_768603 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->เรียนคุณ sithiphong
    ผมมีความสนใจที่จะบูชาและร่วมทำบุญเพิ่มในชุดล็อกเก็ตเล็กตามนี้
    2.ชุดล็อคเก็ตเล็ก ด้านหลังติดพระนาคปรกหลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก จำนวน 4 ชุด<O:p</O:p
    ประกอบด้วย
    <O:p</O:p
    2.1ล็อคเก็ตขนาดเล็ก ขนาด กว้าง 2.0 * ยาว 2.8 ซม. จำนวน 1 องค์ <O:p</O:p
    2.2พระสมเด็จเนื้อผงยาวาสนา จำนวน 2 องค์ <O:p</O:p
    2.3พระสมเด็จผงยาวาสนา คะแนนร้อย จำนวน 3 องค์ <O:p</O:p
    2.4พระสมเด็จเนื้อผงยาจินดามณี จำนวน 1 องค์ <O:p</O:p
    2.5พระสมเด็จเนื้อผงยาจินดามณี คะแนนร้อย จำนวน 2 องค์ <O:p</O:p
    2.6พระสมเด็จวังหน้า เนื้อขาวคะแนนร้อย จำนวน 1 องค์ <O:p</O:p
    2.7พระสมเด็จวังหน้า เนื้อปัญจสิริคะแนนร้อย จำนวน 1 องค์<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    มอบให้ผู้ร่วมทำบุญเพื่อสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง
    ผมเข้าใจว่าหมดแล้วและช่วงนี้คุณ sithiphong พักการมอบพระพิมพ์ไว้ก่อน
    ผมขอสอบถามเพื่อขอแบ่งบูชาสัก 1ชุดเนื่องจาก จองไม่ทันครับรอบูชาหลังจากเริ่มเปิดให้ทำบุญอีกครั้งก็ได้ครับ
    ขอบคุณครับ
    nongnooo...
    <!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>

    หลังปีใหม่(2551) ผมจะนำมาลงให้ร่วมทำบุญและรับชุดล็อคเก็ตกันอีกครั้งครับ แต่จะกี่ชุดนั้น ผมขอดูอีกครั้งนะครับ (น่าจะไม่เกิน 4 ชุด)

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  3. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 9 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 5 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>chaipat, :::เพชร:::, pondkantana, sithiphong </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สวัสดีครับ
     
  4. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    OK งั้นผมจะเข้าไปดำเนินการ กดไม่เห็นด้วย
     
  5. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder id=post758130 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">15-10-2007, 10:07 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#10842 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>sithiphong<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_758130", true); </SCRIPT>
    สมาชิก ยอดนิยม
    สมาชิกยอดฮิต



    วันที่สมัคร: Dec 2005
    ข้อความ: 16,062 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 19,221 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 90,417 ครั้ง ใน 12,294 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 10677 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]




    </TD><TD class=alt1 id=td_post_758130 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ช่วงนี้ งานผมเองค่อนข้างเยอะมาก ทั้งงานหลวงและงานราษฎร์ ผมขอลาพักร้อน พักงานบุญไว้ก่อน

    หลังปีใหม่(2551)นี้ ผมจะมาแจ้งให้ทราบกันอีกครั้งว่า ผมจะมอบพระพิมพ์ไหนให้กับท่านที่ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งอีกนะครับ


    ขอขอบคุณเพื่อนๆ น้องๆ ทุกๆท่านที่ให้กำลังใจนะครับ

    โมทนาสาธุครับ

    .
    <!-- / message --><!-- sig -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=tborder id=post759237 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">เมื่อวานนี้, 11:09 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#10855 </TD></TR></TBODY></TABLE>
    รายนามท่านผู้ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ที่ผมยังไม่ได้ส่งพระพิมพ์ให้ ผมรบกวนตรวจสอบให้ผมอีกครั้งนะครับ ตามรายละเอียดนี้ ผมเองพิมพ์ไว้หลายแผ่น ก็เลยสับสนว่าส่งให้แล้วหรือยัง รบกวนด้วยนะครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    1.คุณPichet-m <O:p</O:p
    1.1ชุดหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน 1 ชุด ( 5องค์ )
    <O:p</O:p
    2.คุณdrmetta<O:p</O:p
    2.1ชุดพระสมเด็จเนื้อผงยาวาสนา 1 ชุด ( 8 องค์ )<O:p</O:p
    2.2พระพิมพ์ไตรโลกอุดร เนื้อกรมท่า 2 องค์<O:p</O:p
    2.3พระพิมพ์พุทธประวัติ เนื้อสีขาว 4 องค์<O:p</O:p
    2.4พระพิมพ์พุทธประวัติ เนื้อสีขาวแตกลายงา 4 องค์<O:p</O:p
    2.5ชุดไกเซอร์ 1 ชุด ( 4 องค์)
    <O:p</O:p
    3.คุณtg22070<O:p</O:p
    3.1พระพิมพ์ไตรโลกอุดร เนื้อกรมท่า 1 องค์
    <O:p</O:p
    4.คุณเทพารักษ์<O:p</O:p
    4.1ชุดไกเซอร์ 1 ชุด ( 4 องค์ )<O:p</O:p
    4.2ชุดหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน 1 ชุด ( 5 องค์)<O:p</O:p
    4.3ชุดสมเด็จวังหน้า (เนื้อสีเดียว) 1 ชุด (6 องค์ 6 สี)<O:p</O:p
    4.4ชุดพระสมเด็จเนื้อผงยาวาสนา 1 ชุด ( 8 องค์ )
    4.5พระพุทธประวัติ เนื้อขาว 1 องค์
    4.6พระพุทธประวัติ เนื้อขาวแตกลายงา 1 องค์
    <O:p</O:p
    5.คุณpunnarphut<O:p</O:p
    5.1พระจิตรลดา (เนื้อกรมท่า องค์ซ้าย) 1 องค์<O:p</O:p
    5.2พระสมเด็จเนื้อขาวลงชาด(สีแดง) ไม่ใช่เนื้อจูซาอั้ง 1 องค์<O:p</O:p
    5.3พระพิมพ์พุทธประวัติ เนื้อสีขาวแตกลายงา 1 องค์
    <O:p</O:p
    6.คุณVodka109<O:p</O:p
    6.1พระสมเด็จ เนื้อปัญจสิริ 1 องค์<O:p</O:p
    6.2พระพิมพ์ไตรโลกอุดร (เนื้อกรมท่า) 1 องค์
    <O:p</O:p
    7.คุณdragonlord<O:p</O:p
    7.1พระพิมพ์พุทธประวัติ เนื้อสีขาว 1 องค์<O:p</O:p
    7.2พระพิมพ์ไตรโลกอุดร (เนื้อกรมท่า) 1 องค์
    <O:p</O:p
    8.คุณteerachaik <O:p</O:p
    8.1พระพิมพ์ท่านท้าวมหาพรหมชินะปัญจะระ 1 องค์ (สีน้ำเงิน)
    <O:p</O:p
    9.คุณactive<O:p</O:p
    9.1ชุดสมเด็จวังหน้า (เนื้อสีเดียว) 1 ชุด (6 องค์ 6 สี)<O:p</O:p
    9.2พระนาคปรก 2 องค์
    <O:p</O:p
    10.คุณพุทธันดร<O:p</O:p
    10.1พระนาคปรก 2 องค์
    <O:p</O:p
    11คุณThanyaka<O:p</O:p
    11.1พระพิมพ์ท่านท้าวมหาพรหมชินะปัญจะระ 1 องค์ (สีน้ำเงิน)<O:p</O:p
    11.2พระนาคปรก 1 องค์
    <O:p</O:p
    12คุณตั้งจิต <O:p</O:p
    13.คุณaries2947<O:p</O:p
    14.คุณchaipat

    ส่วนถ้ามีท่านอื่นที่ผมตกหล่นแจ้งให้ทราบอีกครั้งนะครับ

    โมทนาสาธุครับ<!-- / message --><!-- sig --><!-- / message --><!-- sig --><!-- / message --><!-- sig --><!-- / message --><!-- sig --><!-- / message --><!-- sig --><!-- / message --><!-- sig -->
    <!-- / message --><!-- sig -->
    **********************************************

    22 ตุลาคม 2550
    คืนนี้และวันพรุ่งนี้ ผมจะจัดส่งพระพิมพ์ให้สำหรับท่านที่ผมยังไม่ได้ส่งพระพิมพ์ให้นะครับ ขออภัยและขอโทษในความล่าช้าของผมที่ยังไม่ได้ส่งพระพิมพ์ให้ทุกๆท่านครับ

    โมทนาสาธุครับ
    .
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับพระพิมพ์อื่นๆ ที่ได้คุยกันบนบอร์ดนั้น ผมไม่มีให้บูชาทุกๆพิมพ์ บางส่วนผมจะนำไปบรรจุในพระเจดีย์ บางส่วนขอเก็บไว้บูชาและศึกษาครับ

    ส่วนพระพิมพ์ที่ผมมอบให้ผู้ทำบุญ ผมจะแจ้งให้ทราบกันบนบอร์ดว่ามีพิมพ์ไหนบ้าง ส่วนเงินก็ให้โอนเข้าบัญชีที่ใช้ในการสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งนะครับ

    ส่วนเงินที่หลายๆท่านร่วมสร้างห้องสุข(า) ถวายหลวงปู่ทองดี ผมได้โอนเงินจำนวน 4,500 บาท เข้าไปยังบัญชีของ อ.จเรทั้งหมดแล้วนะครับ ขอโมทนาบุญกับทุกๆท่านอีกครั้ง

    .
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ พันวฤทธิ์ [​IMG]
    วันนี้มีเรื่อง อัชฌาสัย ๔ : อัชฌาสัยปฏิสัมภิทัปปัตโต มาให้อ่าน

    โดยนำมาจาก http://www.praruttanatri.com/meditat...hi/samp204.htm

    ในเรื่องนี้มีเรื่องเกี่ยวกับหลวงพ่อกบ หรือ หลวงปู่ใหญ่ องค์ที่ 4 พ่วงอยู่ด้วย สาเหตุก็คือเมื่อวานได้มีโอกาสคุยกับพี่ใหญ่เรื่องวัตถุมงคลที่ผมฝากให้พี่ใหญ่ขออาราธนาบารมีท่านข้างบนไว้ เป็นพระพิมพ์ต่างๆ เช่นพระพิมพ์เจ้าคุณกรมท่า พระปิดตา 2 หน้า ราว 400 องค์ พี่ใหญ่บอกว่า ช่วงนี้ท่านหลวงพ่อกบ ท่านลงมาเสกให้เกือบทุกวัน มาเป็นแสงสว่างจ้ามาก กะว่า วันที่สิ้นเดือนนี้จะไปรับคืน หรือไม่ก็ทิ้งไว้ให้ขอบารมีท่านองค์อื่นลงมาในพิธีใหญ่ด้วย นี่ขอบารมีกันมาเกือบเดือนแล้ว บอกตามตรงแจกฟรีให้กับใครก็ได้ที่ขอ ถือว่าทำมาให้ไม่คิดมูลค่า เอาท่านองค์ที่ 4 ซึ่งไม่ค่อยได้เห็นนี่ฌาณบารมีท่านนี่ละเอาไปใช้กัน แต่เดี๋ยวจะบอกอีกทีว่าให้เมื่อไร และแจกยังไง เพราะสงสารคนไกลเหมือนกัน ส่งไปรณีย์ก็เป็นเรื่องที่น่าเบื่อที่สุัด เพราะคิวยาวมาก แต่เพราะตั้งใจไว้แล้วว่าของฟรีต้องมีในโลกบ้าง จึงทำให้ต้องแจกฟรีๆ ให้คนเป็นๆ ไปใช้กัน เป็นการเผยแพร่พุทธศาสนาของเราด้วย แถมได้บุญอีก..โอ้ว.

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=tborder id=post764565 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">19-10-2007, 10:24 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #10929 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>MEA<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_764565", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Dec 2006
    อายุ: 35 ปี
    ข้อความ: 48 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 1,139 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 330 ครั้ง ใน 46 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_764565 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->เรียน พี่พันวฤทธิ์

    ทราบว่า พี่พันวฤทธิ์ เมตตาแจก พระพิมพ์ให้สมาชิกไว้บูชา ไม่ทราบหมดหรือยัง ผมขอต่อแถวด้วยครับ ขอบคุณครับ.


    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ พันวฤทธิ์ [​IMG]
    ให้ทุกคนจริงๆ แต่การส่งทางไปรษณีย์ก็เป็นสิ่งที่ผมกลัวที่สุดเหมือนกัน เพราะไปรษณีย์ข้างที่ทำงานที่ ข้าง ธ.ทหารไทย สนญ.คนเยอะมักๆ ไม่ใช่เพราะส่งไปรษณีย์แต่ไปชำระเงิน ค่าบัตรเครดิต ฯ แถวเลยยาว รอทีละ 1 ชม. ไม่ไหวจริงๆ นอกจากจะส่งซอง bubble เปล่าพร้อมติดสแตมป์มาให้ หรือมารับเองละพอไหวครับ นี่คือปัญหาใหญ่ของผมจริงๆ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=tborder id=post755263 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead id=currentPost style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">13-10-2007, 12:44 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #10790 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>กุ้งมังกอน<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_755263", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Aug 2006
    ข้อความ: 115 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 2,913 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 914 ครั้ง ใน 113 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 117 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_755263 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ขอโมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ ด้วยครับ
    ขอต่อแถวอีกคนนะครับ พี่พันวฤทธิ์ (y) (y) (y)
    (b-flower)
    <!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ chaipat;769437
    [SIZE=4[/B]
    เพราะความไม่เป็น ไม่รู้จักบอกยังไง[/size]
    คงต้องอยู่เงียบๆ พักหนึ่ง
    ไว้เป็นเมื่อไหร่ คงจะเข้าใจมากขึ้นครับ
    ท่านพี่เก่งๆ แล้ว เข้าใจอยู่แล้ว
    สาธุครับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อย่าพูดเอง แล้วเข้าใจเองซิ อ่านแล้ว งงงงงงงงง

    :eek:
     
  12. Sunny

    Sunny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    1,405
    ค่าพลัง:
    +8,071
    สติไปเปรียบกับอะไรไม่ได้

    คำที่พูดไม่ใช่ไปเอาคำเขามาพูดอย่าเอาในตำรามาว่ากัน การงานคือการ
    กริยาในการกระทำที่เห็นได้เหมือนคำพูดที่พูดจะพูดอะไรก็ได้แต่เวลาพูดนะเราใช้ สติ กันหรือเปล่าทุกคนไม่มีใครดีเกินใคร,ใครจะดีเกินกันไม่ได้ การศึกษาเรื่องธรรมเป็นเรื่องละเอียดอ่อนไม่จะพูดและเอาการทำงานมาเปรียบเทียบคำไม่ได้จงใช่ สติ ใตร่ตรองกันไม่ใช่ใช้ตำราในหนังสืออ่านแล้วเอามาตอบแล้วพอเอาจริงทำอะไรกันไม่ได้ไม่ได้จงอย่ามัวว่าคนนั้นเก่งคนนี้เก่งจงรวมใจสนธนาธรรมกันเอาความรู้ของตัวเองมาคุยกัน คนดีเขาไม่ค่อยแขวนพระแต่จะมีศรัทธาอยู่ในใจจะบังเกิดผลมากกว่า จงใช้สติกันเถาะ นะโมมีไว้ทำอะไรแล้วเราจะทำจึงจะได้ผล ผลของบุญอยู่ที่การศรัทธา และความเชื่อมั่น จิตใจต้องสะอาด สรุปแล้วทุกอย่างที่ว่ากันแต่ไม่ลงตัวก็คือพวกเราขาด สติกัน
     
  13. Sunny

    Sunny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    1,405
    ค่าพลัง:
    +8,071
    สติไปเปรียบกับอะไรไม่ได้

    คำที่พูดไม่ใช่ไปเอาคำเขามาพูดอย่าเอาในตำรามาว่ากัน การงานคือการ
    กริยาในการกระทำที่เห็นได้เหมือนคำพูดที่พูดจะพูดอะไรก็ได้แต่เวลาพูดนะเราใช้ สติ กันหรือเปล่าทุกคนไม่มีใครดีเกินใคร,ใครจะดีเกินกันไม่ได้ การศึกษาเรื่องธรรมเป็นเรื่องละเอียดอ่อนไม่จะพูดและเอาการทำงานมาเปรียบเทียบคำไม่ได้จงใช่ สติ ใตร่ตรองกันไม่ใช่ใช้ตำราในหนังสืออ่านแล้วเอามาตอบแล้วพอเอาจริงทำอะไรกันไม่ได้ไม่ได้จงอย่ามัวว่าคนนั้นเก่งคนนี้เก่งจงรวมใจสนธนาธรรมกันเอาความรู้ของตัวเองมาคุยกัน คนดีเขาไม่ค่อยแขวนพระแต่จะมีศรัทธาอยู่ในใจจะบังเกิดผลมากกว่า จงใช้สติกันเถาะ นะโมมีไว้ทำอะไรแล้วเราจะทำจึงจะได้ผล ผลของบุญอยู่ที่การศรัทธา และความเชื่อมั่น จิตใจต้องสะอาด สรุปแล้วทุกอย่างที่ว่ากันแต่ไม่ลงตัวก็คือพวกเราขาด สติกัน
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ในหลวงพระสมองไม่ขาดเลือด ไม่สูญเสียเนื้อสมอง ไม่พบหลอดพระโลหิตตีบหรืออุดตัน
    http://www.manager.co.th/QOL/ViewNew...=9500000125291
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>22 ตุลาคม 2550 18:05 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=200 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อเวลา 17.55 น.วันนี้ (22 ต.ค.) สำนักพระราชวัง ได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 10 ความว่า

    วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานผลการตรวจพระสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ว่า พระสมองไม่มีการขาดเลือด ไม่มีการสูญเสียเนื้อสมอง ไม่พบหลอดพระโลหิตตีบ หรืออุดตัน แสดงว่า พระโลหิตเลี้ยงพระสมองไม่เพียงพอเป็นภาวะชั่วคราว

    สำหรับผลการตรวจพระนาภี (ท้อง) ด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ พบว่า พระอันตะ (ลำไส้ใหญ่) มีเนื้อเยื่อเป็นติ่งถุง (Diverticulum) อักเสบนั้น การอักเสบเหลือน้อยมากจนเกือบเป็นปกติ พระอาการทั่วไปดี จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน


    สำนักพระราชวัง
    22 ตุลาคม พุทธศักราช 2550
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>23 ตุลาคม วันปิยะมหาราช พระราชบิดาแห่งการโทรคมนาคมไทย
    http://www.manager.co.th/Telecom/Vie...=9500000125312
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>22 ตุลาคม 2550 17:44 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=203 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=203>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>โดย ปรเมศวร์ กุมารบุญ

    ในปี พ.ศ. ๒๔๑๘ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ในหลวงรัชกาลที่ ๕) วิลเลี่ยม เฮนรี่ รีด กลับมาอีกครั้ง เพื่อขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตสร้างระบบโทรเลขในสยามภายใต้เงื่อนไขเดิมที่ให้ไว้กับในหลวงรัชกาลที่ ๔ แต่ครั้งนี้พระองค์ทรงปฏิเสธ ดังปรากฏในหนังสือ ประวัติ และวิวัฒนาการการไปรษณีย์ไทย ว่า “ทรงพระราชดำริพร้อมด้วยเคาซิลว่า ไม่ควรให้มิสเตอร์รีดจัดทำ แต่ครั้นจะไม่ทรงยอมมีพระบรมราชานุญาตตรงๆ คำที่ทรงยอมไว้แต่เดิมในรัชกาลก่อน (รัชกาลที่๔) ก็จะเสียไป จึงทรงบ่ายเบี่ยงไปว่า สยามตกลงจะดำเนินกิจการโทรเลขเอง ไม่อาจอนุมัติให้ มิสเตอร์รีด จัดทำได้” ทั้งนี้เพราะเงื่อนไขเดิมของรีดระบุว่า หลังจากดำเนินการสร้างสายโทรเลขเสร็จ อังกฤษจะมีสิทธิเต็มที่ในทรัพย์สินและสามารถจัดตั้งบริษัทก่อสร้าง และบำรุงรักษาสายโทรเลขที่วางผ่านจังหวัดต่างๆ ได้แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ อาจทรงเห็นว่าเป็นเสียเปรียบเกินไป
    เมื่อปฏิเสธมิสเตอร์รีดแล้ว สยามจึงต้องเริ่มวางระบบโทรเลขทันที โดยขอประสานการดำเนินกิจการกับบริษัทกิจการโทรเลขแห่งหนึ่งในสหพันธรัฐมลายา (มาเลเซีย) แต่ครั้งนั้นก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จจนต้องหยุดโครงการไปพักใหญ่ และกลับมาเริ่มต้นจริงจังอีกครั้งเมื่อ เมอซิเออร์กาเนียร์ กงสุลฝรั่งเศส เข้ามาเจรจาในปีเดียวกัน ดังปรากฏบันทึกในหนังสือที่ระลึก ๑๐๐ ปี การโทรคมนาคมของการสื่อสารแห่งประเทศไทยว่า “ทางการเมืองไซ่ง่อนปรารถนาจะสร้างสายโทรเลขต่อเข้ามาในประเทศไทย การเดินสายโทรเลขในเขตของไทย รัฐบาลฝรั่งเศสรับเป็นธุระจัดสร้างให้เสร็จ เพียงแต่ขอความช่วยเหลือให้ประเทศไทยตัดเสาที่จะพาดสายให้เท่านั้น

    เมื่อทำการแล้วเสร็จก็จะยกทางสายโทรเลขให้เปล่าตั้งแต่เขตแดนเขมรเข้ามาจนถึงกรุงเทพฯ” ส่งผลให้ “รัฐบาลอังกฤษซึ่งเป็นคู่แข่งขัน ยื่นหนังสือขอให้งดการที่จะรับทำกับฝรั่งเศสเสีย และว่ารัฐบาลอังกฤษที่ประเทศอินเดีย จะขอสร้างสายโทรเลขติดต่อกับไทยเข้ามาทางเมืองทวายบ้าง”

    เพื่อตัดปัญหาที่เกิดขึ้น พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ จึงทรงตัดสินพระทัยสร้างระบบโทรเลขด้วยพระองค์เองทันที โดยให้อยู่ในความดูแลของกรมกลาโหม จากนั้นได้ทำการวางสายโทรเลขสายแรก ในปี พ.ศ. ๒๔๑๘ คือ สายกรุงเทพฯ-สมุทรปราการ ความยาว ๔๕ กิโลเมตร ต่อมาได้ขยายเส้นทางเดินสายไปถึงแหลมภูราย จากนั้นได้ทอดสายลวดใหญ่ใต้น้ำ (เคเบิลใต้น้ำ) ต่อออกไปจนถึงประภาคารที่ปากน้ำเจ้าพระยา และสายที่ ๒ คือ สายกรุงเทพฯ-บางปะอิน และขยายต่อไปจนถึงพระนครศรีอยุธยา ในปี พ.ศ. ๒๔๒๑ โดยในระยะแรกจะมีการใช้โทรเลขในทางราชการเท่านั้น จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. ๒๔๒๖ จึงเปิดโทรเลขสายตะวันออก (กรุงเทพฯ-ไซ่ง่อน) เป็นบริการสาธารณะ โทรเลขสายนี้ยังถือเป็นสายแรกของไทยที่สามารถติดต่อกับต่างประเทศได้โดยตรงอีกด้วย นับแต่นั้น โทรเลขก็กลายเป็นระบบการสื่อสารสำหรับคนทุกระดับชั้น ตั้งแต่กษัตริย์ถึงสามัญชน

    จนกระทั่งได้เปิดให้มีบริการสำหรับประชาชนเป็นครั้งแรก เมื่อ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๒๖ โดยมีอัตราค่าบริการ “คำละ ๑ เฟื้อง” จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้งขึ้นเป็น “กรมโทรเลข” และมีสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าภานุรังษีสว่างวงศ์ เป็นผู้สำเร็จราชการกรมโทรเลข จากนั้นกลาโหมได้เริ่มมีการนำโทรศัพท์เข้ามาเพื่อแจ้งข่าวเรือเข้าออกระหว่างปากน้ำ สมุทรปราการ กับ กรุงเทพฯ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๒๔ และมอบให้กรมโทรเลขดูแลต่อ

    กำเนิดการไปรษณีย์ไทย


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=212 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=212>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ผู้วางรากฐานกิจการสื่อสาร และโทรคมนาคมของประเทศ พระองค์ทรงเห็นความสำคัญของการสื่อสารว่าเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาประเทศ และเพื่อบำบัดทุกข์ราษฎรในพื้นที่ห่างไกล ตลอดจนสนับสนุนงานด้านความมั่นคงของชาติด้วยประการหนึ่ง

    การสื่อสารในรูปไปรษณีย์พิเศษ ได้ถูกจัดทำขึ้นเป็นหนังสือที่จัดพิพม์เพื่อเผยแพร่ในพระบรมมหาราชวัง และเขตพระนครชั้นใน โดย สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าภานุรังษีสว่างวงศ์ทรงร่วมกับเจ้านายรวม ๑๑ พระองค์ออกหนังสือพิมพ์รายวัน “Court” หรือ “ข่าวราชการ”เพื่อแจ้งข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับข้อราชการ และความเป็นไปในราชสำนักเฉพาะหมู่เจ้านายเป็นสำคัญ

    ต่อมาสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าภานุรังษีสว่างวงศ์ จึงโปรดฯ ให้มีบุรุษเดินหนังสือข่าวราชการ เรียกว่า “โปสต์แมน” และใช้ “ตั๋วแสตมป์” สำหรับค่าส่งเดินส่งหนังสือเป็นครั้งแรก

    อีก ๔ ปีต่อมา เจ้าหมื่นเสมอใจราช ได้มีหนังสือกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ ถึงความจำเป็นที่สยามควรมีการจัดตั้งให้มีการไปรษณีย์ขึ้น

    จนกระทั่งเมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๒๔ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าภานุรังษีสว่างวงศ์ เป็นผู้ก่อตั้งการไปรษณีย์

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=202 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=202>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>จอมพลสมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภานุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุ์วงศ์วรเดช

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=288 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=288>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ภาพ รูปปั้นจำลองสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าภานุรังษีสว่างวงศ์ ณ สำนักงาน กทช.

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=267 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=267>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>จนในที่สุดการสื่อสารของไทย โดยการไปรษณีย์ได้ถือกำเนิดขึ้นเป็น “กรมไปรษณีย์” อย่างเป็นทางการขึ้น ในวันที่ ๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๒๖ (๔ สิงหาคม จึงถือเป็น วันสื่อสารแห่งชาติ) โดยมีที่ทำการไปรสะนียาคารแห่งแรก ที่ ปากคลองโอ่งอ่าง ตำบลราชบูรณะ และอาคารในพระราชอุทยานสราญรมย์

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=309 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=309>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ภาพบุรุษไปรษณีย์ในสมัยรัชกาลที่ ๕

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=312 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=312>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ภาพพนักงานโทรเลข
    ดร. สเตฟัน (Stephan) ผู้สำเร็จราชการไปรษณีย์เยอรมัน ได้แสดงความเกื้อกูลกิจการไปรษณีย์ไทยก่อนชาติอื่น เมื่อกรมไปรษณีย์ของไทยได้ก่อตั้งขึ้นมา ๒ ปีแล้ว รัฐบาลเยอรมันีจึงได้ทำหนังสือเชิญชวนเข้าร่วมกับสหภาพสากลไปรษณีย์ (Universal Postal Union) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเห็นควรว่า ไทยควรเข้าร่วมเป็นสมาชิกสหภาพสากลไปรษณีย์ ด้วยทรงตระหนักถึงความสำคัญว่า เป็นโอกาสอันดีให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่เวทีระดับโลก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าปฤษฏางค์ ราชทูตไทยประจำกรุงปารีสในเวลานั้น เป็นผู้ติดต่อประสานงาน และว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญการไปรษณีย์จากต่างประเทศเข้ามาช่วยปรับปรุงกิจการไปรษณีย์ไทยให้เป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=134 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=134>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าปฤษฏางค์ ทรงดำรงตำแหน่ง จางวางกรมไปรษณีย์
    และในวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๔๒๘ ประเทศไทยได้เข้าเป็นสมาชิก “สหภาพสากลไปรษณีย์” พร้อมกับ กรมไปรษณีย์ได้เปิดที่ทำการแห่งที่สองขึ้นเพื่อให้บริการรับฝากและจำหน่ายไปรษณียภัณฑ์ต่างประเทศอย่างเป็นทางการ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=155 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=155>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้านกิจการไปรษณีย์ของไทย ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องพิจารณาว่าจ้างชาวต่างชาติผู้มีความเชี่ยวชาญมาปฏิรูปกิจการไปรษณีย์ เช่นเดียวกับการปฏิรูปบ้านเมืองด้านอื่นๆ ในครั้งแรกนั้นได้มีการพิจารณาจะว่าจ้างชาวฝรั่งเศสชื่อ เมอสิเออร์เบิดเทเลีย แต่กรมหลวงภาณุพันธุวงศ์วรเดช เกรงว่าจะเป็นการซ้ำยกกรมไปรษณีย์ของสยามให้แก่ฝรั่งเศสอีกชั้นหนึ่ง และขณะเดียวกันในเวลานั้นฝรั่งเศสได้ขยายอาณานิคมมาประชิดดินแดนสยามในภาคตะวันออกเฉียงเหนือหากฝรั่งเศสเข้ามามีบทบาทในกิจการโทรคมนาคมไทย ย่อมทำให้มีอิทธิพลในประเทศมากยิ่งขึ้น

    ส่วนผู้เชี่ยวชาญจากอังกฤษนั้นได้เข้ามาปฏิบัติงานด้านไปรษณีย์ที่ฮ่องกงและสิงคโปร์อยู่ก่อน แต่เนื่องจากว่าผู้สำเร็จราชการสิงคโปร์และกงสุลอังกฤษประจำประเทศไทย ได้แสดงทีท่าว่าต้องการให้กิจการไปรษณีย์ของไทยอยู่ภายใต้รัฐบาลอังกฤษ ไทยจึงต้องไม่ว่าจ้างอังกฤษเช่นเดียวกับที่ปฏิเสธฝรั่งเศส
    จากนั้นจึงได้มองที่เยอรมัน ซึ่งเป็นผู้ที่แสดงให้เห็นความพร้อมเสมอมาในการต้องการช่วยเหลือเกื้อกูลกิจการไปรษณีย์ไทย พระบาทสมเด็จพระจุลจอเกล้าเจ้าอยู่หัว และกรมหลวงภาณุพันธุวงศ์วรเดชเห็นพ้องกันว่า ควรว่าจ้างผู้ชำนาญการซึ่งเป็นข้าราชการชาวเยอรมันมาฝึกสอนข้าราชการไทยรวมทั้งเป็นที่ปรึกษาด้านกิจการไปรษณีย์ด้วย

    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีรับสั่งด่วนให้พระองค์เจ้าปฤษฎางค์ติดต่อว่าจ้างชาวเยอรมันในการดังกล่าว และทรงมอบหมายให้พระองค์เจ้าปฤษฎางค์เป็นตัวแทนรัฐบาลไทยเข้าร่วมประชุมสหภาพสากลไปรษณีย์ในปี ๒๔๒๗ ณกรุงเบอร์ลินด้วย

    ภายหลังพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าปฤษฏางค์เสด็จกลับจากปารีสมาดำรงตำแหน่ง จางวางกรมไปรษณีย์ เมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๔๒๙ กิจการไปรษณีย์ไทยจึงได้ก้าวหน้าขึ้นไปอีก โดยเฉพาะการติดต่อสื่อสารระหว่างประเทศ

    ในส่วนของกิจการโทรเลขภายใต้การดำเนินงานของกรมโทรเลขนั้น ในระยะแรกนั้นทั้งอังกฤษ และฝรั่งเศส ต่างยื่นข้อเสนอในการวางระบบโทรเลขให้ไทยเชื่อมต่อไปยังต่างประเทศ แต่รัฐบาลอาจเป็นกังวลเกี่ยวกับการที่ประเทศมหาอำนาจล่าอาณานิคมทั้งสองจะสามารถติดต่อสื่อสารกับสายลับในและต่างประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงยืนยันว่าไทยจะเป็นผู้วางระบบเอง จากนั้นกิจการโทรเลขไทยก็ได้มีการพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าเป็นลำดับ ประเทศไทยก็ได้เข้าเป็นสมาชิก “สหภาพโทรเลขระหว่างประเทศ” (หรือสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ หรือ ITU ในปัจจุบัน)

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=152 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=152>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>จะเห็นได้ว่า กิจการไปรษณีย์ และกิจการโทรเลข นั้นคือ งานบริการประชาชนเพื่อติดต่อสื่อสาร ด้วยเหตุนี้ ในปี พ.ศ. ๒๔๔๑ กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิธาดา เสนาบดีกระทรวงโยธาธิการ จึงได้มีหนังสือกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้รวม กรมไปรษณีย์ และ กรมโทรเลข เป็นกรมเดียวกัน

    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รวมทั้งสองกรมไว้เป็นกรมเดียวกันชื่อว่า “กรมไปรษณีย์โทรเลข” ตั้งแต่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๔๑ เป็นต้นมา

    เมื่อก้าวเข้าสู่ยุคพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ซึ่งเป็นยุคแห่งการพัฒนากิจการด้านสื่อสารโทรคมนาคมของไทยกว้างขวางที่สุดในประวัติศาสตร์ เริ่มจากโอนกิจการกรมโทรเลขจากกระทรวงกลาโหม มาสังกัดกระทรวงโยธาธิการ เมื่อวันที่ ๑ เมษายน ๒๔๔๕

    ในปี ๒๔๕๐ กรมไปรษณีย์โทรเลข ได้นำ “เครื่องโทรศัพท์ระบบไฟกลาง” (CENTRAL BATTERY: CB) เข้ามา ในระยะแรกได้ติดตั้งเครื่องชุมสายระบบไฟกลางใช้พนักงานต่อไว้ที่วัดเลียบ ซึ่งเป็นเครื่องชุมสายแห่งแรกในประเทศไทย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=466 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=466>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>จากนั้นได้มีงานโทรคมนาคมใหม่เกิดขึ้นตือ “งานวิทยุโทรเลข” ซึ่งเป็นการส่งโทรเลขด้วยคลื่นวิทยุไม่ต้องเดินสาย เริ่มใช้เป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๐
    และในอีก ๕ ปีต่อมาคือปี ๒๔๕๕ ได้มีการนำคำว่า “ราดิโย” เข้ามาในประเทศไทย ต่อมาภายหลังพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงบัญญัติให้ใช้คำว่า “วิทยุ” ซึ่งตรงกับคำว่า “วิชชุ” ใช้แทน

    พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กระทรวงทหารเรือจัดตั้งสถานีวิทยุโทรเลขถาวร ขึ้น ๒ สถานี ที่ตำบลศาลาแดง พระนคร และอีกแห่งหนึ่งที่จังหวัดสงขลา และได้เสด็จพระราชดำเนินเปิดสถานีวิทยุโทรเลขถาวรแห่งแรกที่ ตำบลศาลาแดง เมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๔๕๖ ทรงกดสัญญาเรียกขานแรกด้วยฝีพระหัตถ์ แล้วพระราชทานโทรเลขฉบับปฐมฤกษ์ถึงสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ อุปราชปักษ์ใต้ ซึ่งขณะนั้นประทับอยู่ที่สถานีวิทยุโทรเลขจังหวัดสงขล

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=338 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=338>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>สถานีวิทยุโทรเลขถาวรแห่งแรกที่ ตำบลศาลาแดง
    ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ปีพุทธศักราช ๒๔๗๑ ได้มีการติดต่อสื่อสารทางวิทยุโทรเลขกับต่างประเทศ เป็นครั้งแรก เมื่อพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานโทรเลขฉบับปฐมฤกษ์ ถึงอัครราชฑูตไทยประจำกรุงเบอร์ลินประเทศเยอรมนี

    งานพัฒนาด้านกิจการโทรคมนาคม และงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรุดหน้าไปมาก ภายใต้การกำกับดูแลของพระเจ้าวรวงศ์กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน ซึ่งทรงดำรงตำแหน่ง “เสนาบดีกระทรวงพาณิชย์และคมนาคม” ในระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๖๘ ถึง พ.ศ. ๒๔๗๕

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=240 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=240>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>พลเอก พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน
    ในปีพุทธศักราช ๒๔๗๑ พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมพระกำแพงเพช็รอัครโยธิน ทรงตั้งสถานีวิทยุกระจายเสียงขึ้นที่กรมไปรษณีย์โทรเลข วัดเลียบ โดยใช้เครื่องส่งกระจายเสียงขนาด ๒๐๐ วัตต์ ความยาวคลื่น ๓๖.๔๒ เมตร ต่อมาได้เปิดสถานีวิทยุกระจายเสียงถาวรที่วังพญาไท (ปัจจุบันคือโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า) ใช้เครื่องส่งกระจายเสียงขนาด ๒ กิโลวัตต์ ความยาวคลื่น ๓๕๐ เมตร เปิดทำการเมื่อวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๔๗๓ ซึ่งตรงกับวันพระราชพิธีฉัตรมงคล และอัญเชิญกระแสพระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวออกอากาศด้วย นับเป็นการถ่ายทอดเสียงทางวิทยุเป็นครั้งแรก ในประเทศไทย โดยถ่ายทอดกระแสพระราชดำรัส ฯ จากพระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย ไปยังเครื่องส่งที่พญาไท ถือเป็นการเปิดสถานีฯ และถ่ายทอดสดนอกสถานที่เป็นครั้งแรกความว่า...
    “…การวิทยุกระจายเสียงที่ได้เริ่มจัดขึ้น และทำการทดลองตลอดมานั้น ก็ด้วยความมุ่งหมายว่าจะส่งเสริมการศึกษา การค้าขาย และการบันเทิงแก่พ่อค้าประชาชน….” ต่อมาวันนี้ถือเป็น “วันวิทยุกระจายเสียงไทย”

    หลังจากยุค พลเอกเจ้าวรวงศ์เธอกรมพระกำแพงเพช็รอัครโยธิน ผู้มีคุณูปการใหญ่หลวงต่อกิจการสื่อสารไทย กรมไปรษณีย์โทรเลขต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอันเป็นผลมาจากด้านการเมืองเมื่อ “คณะราษฎร์” ทำการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง เมื่อ ๒๔๗๕

    เมษายน ๒๔๘๒ รัฐบาลโอนกองทะเบียนวิทยุและกระจายเสียง รับผิดชอบสถานีวิทยุกรุงเทพฯ ที่พญาไท และจดทะเบียนเครื่องรับวิทยุกับเครื่องขยายเสียง จากกรมไปรษณีย์โทรเลข ไปขึ้นกับสำนักงานโฆษณาการ ส่วนสถานีวิทยุที่ศาลาแดงยังคงทดลองต่อไป

    ใน พ.ศ. ๒๔๘๔ กรมโฆษณาการเปลี่ยนชื่อสถานีวิทยุกรุงเทพฯ ที่พญาไท (Radio Bangkok at Phayathai) มาเป็นสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย (Radio Thailand)

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=353 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=353>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาสู่ประชาธิปไตย คณะราษฎร์ ภายใต้การนำของพันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา พันเอกพระยาทรงสุรเดช และหลวงประดิษฐ์มนูธรรม ใช้วิทยุกระจายเสียงเผยแพร่ข่าวสารการเปลี่ยนแปลงการปกครอง หลวงประดิษฐ์มนูธรรมมีความคิดให้ก่อตั้งกองการโฆษณา ส่วนนายพลเรือโทพระยาราชวังสัน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ภายใต้การนำของพระยามโนปกรณ์นิติธาดา สนใจการก่อตั้ง กระทรวงการโฆษณาของเยอรมัน สมัยนั้นการประชาสัมพันธ์ถือเป็นวิชาการแขนงใหม่

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=432 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=432>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๗๔ ต่างประเทศได้มีการแพร่ภาพเคลื่อนไหว เรียกว่า "Television" หรือ "วิทยุโทรทัศน์" ในครั้งนั้น พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน ได้ทรงดำริให้มีวิทยุโทรทัศน์เข้ามาทดลองในประเทศไทย แต่ยังไม่ทันเรียบร้อย ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ต่อมาในปีพุทธศักราช ๒๔๙๕ จึงได้มีการจัดตั้ง "บริษัท ไทยโทรทัศน์" ขึ้น
    โทรทัศน์ถือกำเนิดภายใต้กรมประชาสัมพันธ์ นับเป็นแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แพร่ภาพออกอากาศในวันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๗ ในสมัย ฯพณฯ จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ซึ่งข้าราชการกลุ่มหนึ่งของกรมประชาสัมพันธ์ แสดงความคิดเห็นเรื่องการจัดตั้งโทรทัศน์มาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๓ ว่า “ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยควรมี TELEVISION”

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=580 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=580>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ไทยทีวีช่อง ๔
    วันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๙๘ ซึ่งถือเป็นวันชาติในสมัยนั้น จอมพล ป.พิบูลสงครามได้เป็นประธาน ในพิธีเปิดสำนักงาน และที่ทำการสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวี ช่อง ๔ และเริ่มแพร่ภาพออกอากาศอย่างเป็นทางการ เรียกชื่อตามอนุสัญญาสากลวิทยุ HS1/T-T.V. สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งแรกบนผืนแผ่นดินใหญ่แห่งเอเชีย เครื่องส่งโทรทัศน์เครื่องนี้มีกำลังส่ง ๑๐ กิโลวัตต์ ขาวดำ ระบบ ๕๒๕ เส้นต่อภาพ ๓๐ ภาพต่อวินาที
    อย่างไรก็ตามกิจการด้านการสื่อสาร และโทรคมนาคมของ ไทยโดยกรมไปรษณีย์โทรเลขก็ได้พัฒนาก้าวหน้ากว้างขวางไปเป็นลำดับ สืบเนื่องต่อมาก็ได้แยกทั้งกิจการ ไปรษณีย์ และโทรเลข ออกไปเพื่อดำเนินภารกิจโดยเฉพาะ กรมไปรษณีย์โทรเลขยุคสุดท้าย จึงเหลือแต่เพียงภารกิจด้านการบริหารทรัพยากรคลื่นความถี่ของชาติ
    การกำกับดูแลด้านกิจการโทรคมนาคมและการสื่อสารของชาติ เริ่มแรกโดย กระทรวงกลาโหม กระทรวงโยธาธิการ มาเป็นกระทรวงพาณิชย์และคมนาคม และมีการแยกแตกแขนงหน่วยงานออกไปมากมาย ต่อมาเป็นกระทรวงคมนาคมกำกับดูแล และยุคสุดท้ายที่การกำกับดูแลกิจการด้านโทรคมนาคมของประเทศอยู่ภายใต้รัฐบาลโดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ก่อนที่จะกลายมาเป็นองค์กรอิสระทำหน้าที่กำกับดูแลด้านกิจการโทรคมนาคมของชาติ โดย กทช. ดังในปัจจุบัน

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=353 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=353>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>อ้างอิง
    ๑. วารสารราชบัณฑิตยสถาน ปีที่ ๒๙ ฉบับที่ ๒
    ๒. ข้ามขอบฟ้า หนังสือที่ระลึก ๑๑๙ ปี กรมไปรษณีย์โทรเลข
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ถึงหลานที่ pm เข้ามาหาลุง(น่าจะดีกว่า)

    ก็ให้เข้ามาคุยกันได้ในบอร์ดนะครับ จะมีทั้งลุง ป้า น้า อา เยอะแยะ ยกตัวอย่าง ลุงพันวฤทธิ์ ลุงโสระ ลุงnongnooo ลุงตั้งจิต ป้าขุนท้าว ป้าแด๋น(ไม่ค่อยมาเท่าไร งานยุ่ง) ป้าตุ่น (นี่ก็งานยุ่ง) ลุงguawn ลุงchaipat น้าเอ(aries2947) และยังมีลุงๆป้าๆ อีกหลายคนที่จะพอแนะนำเรื่องต่างๆได้บ้าง

    อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเองนะครับ ขอฝากไว้(ถ้าได้เข้ามาอ่าน)

    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สธ.เตือน อย่าเชื่อเตียงนวดไฟฟ้าอวดอ้างรักษาโรค</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>22 ตุลาคม 2550 15:17 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> สธ.เตือน อย่าเชื่อเตียงนวดไฟฟ้าและบำบัดด้วยแสงอินฟราเรดอวดอ้างรักษาโรค โดยจัดขึ้นตามสถานที่ต่างๆ เป็นศูนย์ให้บริการ ดึงดูดด้วยการแจกของ และสอนพูดภาษาเกาหลี อ้างว่า สามารถรักษาโรคได้ต่างๆ นานา เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน อัมพาต เกาต์ หัวใจ ตับ ไต มะเร็งชนิดต่างๆ ชี้ที่แท้มีสรรพคุณแค่ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวดเท่านั้น

    นพ.มรกต กรเกษม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีรูปแบบการขาย เตียงนวดไฟฟ้า และบำบัดด้วยแสงอินฟราเรด โดยเปิดเป็นศูนย์บริการให้กับประชาชนผู้สนใจ ในสถานที่ต่างๆ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ พร้อมทั้งมีการสอนการพูดภาษาเกาหลี หรือแถมสินค้า อุปโภคบริโภคสำหรับผู้เข้ามาใช้บริการ อีกทั้งแจกใบปลิวโดยอวดอ้างว่าเตียงนี้เหมาะกับผู้ป่วยโรคต่างๆ เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน อัมพาต เกาต์ หัวใจ ตับ ไต มะเร็งชนิดต่างๆ ผู้ที่มีภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวอ้างว่า เตียงนี้สามารถปรับแนวกระดูกสันหลัง อุปกรณ์เสริมที่เป็นหยกนั้นสามารถป้องกันโรคต่างๆ ขจัดของเสีย ทำลายแบคทีเรีย บรรเทาอาการอักเสบ และกระตุ้นระบบให้กลับคืนสู่สภาพปกติได้

    “อย่าหลงเชื่อ การประชุม สัมมนา ที่แอบแฝงการขายสินค้าดังกล่าว ที่มีการโฆษณาอวดอ้างว่าใช้แล้วรักษาโรคได้ เพราะไม่เป็นความจริง แม้ว่าเตียงนวดไฟฟ้าและบำบัดด้วยแสงอินฟราเรดจะจัดเป็นเครื่องมือแพทย์ที่ต้องแจ้งรายการละเอียด ประเภทเครื่องใช้ หรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้เพื่อกายภาพบำบัดชนิดหนึ่ง แต่ประโยชน์ และข้อบ่งใช้ที่ได้รับอนุญาตจาก อย.คือ ผ่อนคลาย กล้ามเนื้อ เพิ่มการไหลเวียนโลหิตเฉพาะที่ และบรรเทาอาการปวดเท่านั้น”นพ.มรกต กล่าว

    นพ.มรกต กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีคำเตือน ข้อควรระวัง และข้อห้ามใช้ของเตียงนวดไฟฟ้า โดยเตียงนวดนี้ต้องใช้โดยแพทย์ หรือนักกายภาพบำบัด ส่วนในเรื่องของการปรับแนวกระดูกสันหลัง ประโยชน์ และข้อบ่งใช้ที่ระบุว่า หยกที่ใช้เพื่อการนวด สามารถขจัดของเสียออกจากร่างกาย ทำลายแบคทีเรีย บรรเทาอาการอักเสบ และกระตุ้นระบบในร่างกายให้คืนสู่สภาพปกติที่ปรากฏอยู่ในใบปลิวที่แจกนั้น ไม่เป็นความจริง และทาง อย.ไม่เคยอนุญาตแต่อย่างใด เพราะทางบริษัทผู้นำเข้าไม่มีเอกสารอ้างอิงทางวิชาการ ที่สามารถเชื่อถือได้ว่าสามารถรักษาโรคต่างๆ ได้จริง หากผู้บริโภคต้องการซื้อสินค้า ทดลองใช้ หรือซื้อเครื่องมือหรืออุปกรณ์สำหรับสุขภาพใดๆ ผู้บริโภคควรตรวจสอบข้อมูล และข้อเท็จจริงจากทาง อย. ก่อนว่า เครื่องมือหรืออุปกรณ์ดังกล่าว ได้รับอนุญาตนำเข้าอย่างถูกต้องหรือไม่ รวมทั้งเรื่องประโยชน์ ข้อบ่งใช้ คำเตือน ข้อควรระวัง และข้อห้ามใช้ การจะซื้อสินค้าใดๆ นั้น ผู้บริโภคควรคำนึงถึงราคา คุณประโยชน์ และความคุ้มค่าที่จะได้รับจากสินค้าเหล่านี้ ประกอบกันไปด้วย

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>มหิดลชี้อีเมลสยอง"ห้ามกินกุ้งพร้อมวิตามินซี"หลอกลวง
    http://www.komchadluek.net/2007/10/2...news_id=164349

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>21 ตุลาคม 2550 23:07 น.


    </TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG] นักท่องเว็บตื่นอีเมลลูกโซ่สยอง อ้างหญิงไต้หวันเลือดออกทั่วตัวจนตาย เพราะชอบกินกุ้งพร้อมวิตามินซี เว็บบอร์ดหลายแห่งนำมาโพสต์ว่าห้ามกินกุ้งเพราะมีสารหนูผสม สร้างความหวาดวิตกให้ผู้บริโภค ด้านผอ.สถาบันวิจัยโภชนาการ ม.มหิดล ชี้เป็นอีเมลหลอกลวง ไม่มีข้อมูลวิทยาศาสตร์ยืนยัน ชี้กินกุ้งพร้อมวิตามินซีปลอดภัยไม่กลายพิษเป็นสารหนู
    ปัจจุบันข้อมูลความรู้ด้านต่างๆที่เป็นประโยชน์ ได้ถูกส่งผ่านทางอีเมลไปยังผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเกือบ 10 ล้านคนทั่วประเทศไทย ขณะเดียวกันก็มีอีเมลหลอกลวงที่เขียนขึ้นมาเพื่อกลั่นแกล้งผู้อื่น แล้วส่งต่อกันไปเป็นลูกโซ่ให้คนอื่นๆ จนสร้างความตื่นตระหนกให้ผู้อ่านที่หลงเชื่อว่าเป็นข้อเท็จจริง ล่าสุดอีเมลฉบับหนึ่งจากไต้หวันถูกนำเผยแพร่ผ่านเว็บบอร์ดหลายแห่ง โดยเนื้อความกล่าวอ้างว่า มีผู้หญิงไต้หวันตายเนื่องจากชอบกินกุ้งพร้อมวิตามินซี สร้างความวิตกกังวลให้ผู้อ่านที่หลงเชื่ออีเมลฉบับนี้ ทั้งนี้ "คม ชัด ลึก" ได้สอบถามไปยังนักวิชาการด้านโภชนาการจากมหาวิทยาลัยมหิดล จนได้รับการยืนยันว่าเป็นเพียงข้อมูลเท็จ

    ผู้สื่อข่าวคมชัด ลึก ได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตว่า ขณะนี้มีการส่งต่ออีเมลลูกโซ่ที่อ้างว่า ผู้หญิงไต้หวันคนหนึ่งเสียชีวิตอย่างลึกลับจากเลือดออกทั่วร่างกาย โดยผู้เชี่ยวชาญพบว่าเกิดจากชอบกินกุ้งพร้อมวิตามินซี สารเคมีของกุ้งกับวิตามินซีจะทำปฏิกิริยากันจนกลายเป็นพิษสารหนูสะสมในร่างกาย จึงขอเตือนให้ผู้ได้รับอีเมลฉบับนี้อย่ารับประทานวิตามินซีพร้อมกุ้ง ซึ่งข้อความในอีเมลดังกล่าวมีการอ้างถึงข้อมูลทางวิทยาศาสตร์จนน่าเชื่อถือ ทำให้ผู้อ่านจำนวนมากวิตกกังวลกับการกินวิตามินซี โดยสรุปข้อความส่วนหนึ่งได้ดังนี้
    ที่ไต้หวันมีหญิงคนหนึ่งเลือดออกทางทวารทั้งเจ็ดโดยไม่รู้สาเหตุเสียชีวิตในช่วงข้ามคืน จากการชันสูตรศพเบื้องต้น ลงความเห็นว่าตายเพราะพิษสารหนู ตำรวจเริ่มสืบสวนและเชิญศาสตราจารย์นิติเวชมาร่วมคลี่คลายคดี เมื่อตรวจวิเคราะห์สิ่งตกค้างในกระเพาะไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เปิดโปงสาเหตุการตายฉับพลันว่า พบสารหนูในกระเพาะอาหารผู้ตาย เนื่องจากผู้ตายกินวิตามินซีทุกวัน พร้อมกับมีนิสัยชอบกินกุ้งจำนวนมากในมื้อเย็น"
    ในอีเมลดังกล่าวยังระบุอีกว่า นักวิจัยมหาวิทยาลัยชิคาโกเคยทดลอง พบว่าสัตว์เปลือกอ่อนเช่น กุ้ง มีสารประกอบอาเซนิกเข้มข้นในปริมาณสูง สารประกอบชนิดนี้เข้าไปอยู่ในร่างกายก็ไม่มีพิษภัยอะไร แต่เมื่อรับประทานวิตามินซีพร้อมกัน จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมี ทำให้สารประกอบเดิมที่มีสูตรเคมี As2O5 หรืออาเซนิกออกไซด์ซึ่งไม่มีพิษ กลายเป็นสารประกอบที่มีสูตรเคมี As2O3 หรืออาเซนิกไตรออกไซด์ ซึ่งมีพิษหรือภาษาชาวบ้านเรียกว่าสารหนูนั่นเอง พิษสารหนูจะทำให้เกิดอาการเลือดคั่งในหัวใจตับ ไต และลำไส้ เซลล์ผิวหนังตายด้าน เส้นโลหิตฝอยขยายตัว ดังนั้นผู้ที่รับพิษจนตาย จะมีเลือดออกทางทวารทั้งเจ็ด เพราะฉะนั้นในระยะที่รับประทานวิตามินซีต้องงดกินอาหารประเภทกุ้งเพื่อความไม่ประมาท
    จากข้อความดังกล่าว"คม ชัด ลึก" สอบถามไปยัง รศ.ดร.เอมอร วสันตวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อยืนยันข้อเท็จจริง รศ.ดร.เอมอร กล่าวว่า เมื่อประมาณสัปดาห์ที่ผ่านมา มีสื่อมวลชนหลายแขนงสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างกุ้งกับวิตามินซีว่า เป็นไปตามที่อีเมลสยองฉบับข้างต้นกล่าวอ้างจริงหรือไม่ซึ่งก็ได้ค้นข้อมูลรายงานการวิจัยและรายงานวิชาการจากองค์กรอนามัยโลก (ฮู) ปรากฏว่าไม่พบรายงานหรือข้อมูลอ้างอิงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เชื่อมโยงระหว่างปฏิกิริยาทางเคมีของการกินกุ้งกับวิตามินซีแต่อย่างใด และเมื่อปรึกษาไปยังผู้เชี่ยวชาญเรื่องพิษจากอาหาร ก็ได้รับการยืนยันว่าไม่มีข้อมูลทางวิชาการที่อ้างถึงเรื่องนี้มาก่อน
    ผอ.สถาบันวิจัยโภชนาการกล่าวต่อว่า เมื่อได้อ่านอีเมลสยองดังกล่าวอย่างละเอียดก็พบจุดน่าสงสัย 4 ประการคือ 1.ไม่มีชื่อหญิงชาวไต้หวันที่เสียชีวิต 2.ไม่มีชื่อและสถาบันของผู้เชี่ยวชาญทางนิติเวช 3.ไม่มีชื่อนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชิคาโก และ 4.มีการอ้างปฏิกิริยาเคมีที่ไม่เกี่ยวข้องกัน ทำให้เชื่อว่าเป็นเพียงอีเมลหลอกลวงที่เขียนขึ้น โดยอ้างหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือเท่านั้นเอง
    นอกจากนี้ตามข้อเท็จจริงสัตว์ทะเลประเภทกุ้งจะมีสารประกอบอาเซนิกอยู่จริงแต่น้อยมาก และเป็นฟอร์มหรือรูปแบบที่ไม่เป็นพิษต่อร่างกายคน นอกจากนี้ยังไม่เคยพบว่าสารประกอบวิตามินซีไปทำปฏิกิริยาทางเคมีกับสารอาหารใดในร่างกายคน
    อีเมลหลอกลวงนี้อ่านแล้วดูขลังและน่าเชื่อถือ เพราะมีอ้างสูตรเคมีแบบวิทยาศาสตร์และอ้างตำแหน่งศาสตราจารย์ และผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง แต่ไม่มีการเขียนชื่อจริงเลย ยิ่งไปกว่านั้น สูตรเคมีที่อ้างว่าเป็นสารหนูหรืออาเซนิกไตรออกไซด์ ก็เป็นสูตรเคมีของสารหนูจริง แต่ไม่ได้เกิดจากการผสมระหว่างวิตามินซีกับการกินกุ้ง ส่วนใหญ่คนกินอาหารทะเลแล้วเกิดอาหารเป็นพิษร้ายแรง ก็จะเกิดจากสัตว์ทะเลตัวนั้นมาจากแหล่งน้ำที่สกปรก แล้วเกิดสะสมสารพิษในตัวมัน เมื่อคนกินเข้าไปร่างกายจึงได้รับความผิดปกติ และหากพิษแรงมากร่างกายก็จะขับออกมาโดยการอาเจียนทันที สรุปคืออีเมลฉบับนี้เป็นการหลอกลวง เพื่อให้คนอ่านตื่นตระหนก ไม่มีข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์เลย รศ.ดร.เอมอร กล่าวอธิบาย
    เช่นเดียวกับศ.ดร.ทรงศักดิ์ ศรีอนุชาติ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องพิษจากอาหาร อดีตผู้อำนวยการสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวยืนยันว่าไม่เคยมีงานวิชาการที่กล่าวถึงการทำปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างสารอาเซนิกในกุ้งกับวิตามินซี ซึ่งที่จริงแล้ว "อาเซนิก(Arsenic)" คือสารประกอบที่เรียกว่าสารหนู ส่วน "อาเซนิกไตรออกไซด์(Arsenic Trioxide)" เป็นสารหนูที่มีส่วนผสมของออกซิเจน3 ส่วน เรียกทั่วไปว่ายาฆ่าแมลง ถ้าจะฆ่าคนก็ต้องนำอาเซนิกไตรออกไซด์มาผสมกับอาหารหรือใส่ไปในกุ้งเพื่อให้เกิดพิษกับร่างกายอย่างฉับพลัน แม้ในกุ้งจะมีสารอาเซนิกประกอบอยู่จริงแต่ก็น้อยมากจนไม่มีพิษและจะสลายไปในกระเพาะอาหาร ส่วนวิตามินซีนั้นจะถูกดูดซึมในกระเพาะอาหาร และขับออกมากับปัสสาวะ หากร่างกายได้วิตามินซีมากผิดปกติ ในระยะยาวจะเกิดการสะสมเป็นนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ แต่ไม่ได้ไปทำปฏิกิริยาเคมีกับสารอื่นจนทำให้เสียชีวิต
    นอกจากนี้ในเว็บบอร์ดทางการแพทย์หลายแห่งและเว็บบอร์ดชื่อดัง "พันทิปดอทคอม" ก็มีผู้มาแสดงความเห็นต่ออีเมลสยองฉบับข้างต้นว่า เป็นอีเมลหลอกลวงที่เคยแพร่หลายในไต้หวันเมื่อ 6 ปีที่แล้ว แล้วก็เงียบหายไปจากอินเทอร์เน็ต จนกระทั่งถูกแปลเป็นภาษาไทย แล้วนำมาส่งต่อเป็นอีเมลลูกโซ่ จึงขอเตือนผู้บริโภคว่าอย่าหลงเชื่อ
    -->
    นักท่องเว็บตื่นอีเมลลูกโซ่สยอง อ้างหญิงไต้หวันเลือดออกทั่วตัวจนตาย เพราะชอบกินกุ้งพร้อมวิตามินซี เว็บบอร์ดหลายแห่งนำมาโพสต์ว่าห้ามกินกุ้งเพราะมีสารหนูผสม สร้างความหวาดวิตกให้ผู้บริโภค ด้านผอ.สถาบันวิจัยโภชนาการ ม.มหิดล ชี้เป็นอีเมลหลอกลวง ไม่มีข้อมูลวิทยาศาสตร์ยืนยัน ชี้กินกุ้งพร้อมวิตามินซีปลอดภัยไม่กลายพิษเป็นสารหนู
    ปัจจุบันข้อมูลความรู้ด้านต่างๆที่เป็นประโยชน์ ได้ถูกส่งผ่านทางอีเมลไปยังผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเกือบ 10 ล้านคนทั่วประเทศไทย ขณะเดียวกันก็มีอีเมลหลอกลวงที่เขียนขึ้นมาเพื่อกลั่นแกล้งผู้อื่น แล้วส่งต่อกันไปเป็นลูกโซ่ให้คนอื่นๆ จนสร้างความตื่นตระหนกให้ผู้อ่านที่หลงเชื่อว่าเป็นข้อเท็จจริง ล่าสุดอีเมลฉบับหนึ่งจากไต้หวันถูกนำเผยแพร่ผ่านเว็บบอร์ดหลายแห่ง โดยเนื้อความกล่าวอ้างว่า มีผู้หญิงไต้หวันตายเนื่องจากชอบกินกุ้งพร้อมวิตามินซี สร้างความวิตกกังวลให้ผู้อ่านที่หลงเชื่ออีเมลฉบับนี้ ทั้งนี้ "คม ชัด ลึก" ได้สอบถามไปยังนักวิชาการด้านโภชนาการจากมหาวิทยาลัยมหิดล จนได้รับการยืนยันว่าเป็นเพียงข้อมูลเท็จ
    ผู้สื่อข่าวคมชัด ลึก ได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตว่า ขณะนี้มีการส่งต่ออีเมลลูกโซ่ที่อ้างว่า ผู้หญิงไต้หวันคนหนึ่งเสียชีวิตอย่างลึกลับจากเลือดออกทั่วร่างกาย โดยผู้เชี่ยวชาญพบว่าเกิดจากชอบกินกุ้งพร้อมวิตามินซี สารเคมีของกุ้งกับวิตามินซีจะทำปฏิกิริยากันจนกลายเป็นพิษสารหนูสะสมในร่างกาย จึงขอเตือนให้ผู้ได้รับอีเมลฉบับนี้อย่ารับประทานวิตามินซีพร้อมกุ้ง ซึ่งข้อความในอีเมลดังกล่าวมีการอ้างถึงข้อมูลทางวิทยาศาสตร์จนน่าเชื่อถือ ทำให้ผู้อ่านจำนวนมากวิตกกังวลกับการกินวิตามินซี โดยสรุปข้อความส่วนหนึ่งได้ดังนี้
    ที่ไต้หวันมีหญิงคนหนึ่งเลือดออกทางทวารทั้งเจ็ดโดยไม่รู้สาเหตุเสียชีวิตในช่วงข้ามคืน จากการชันสูตรศพเบื้องต้น ลงความเห็นว่าตายเพราะพิษสารหนู ตำรวจเริ่มสืบสวนและเชิญศาสตราจารย์นิติเวชมาร่วมคลี่คลายคดี เมื่อตรวจวิเคราะห์สิ่งตกค้างในกระเพาะไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เปิดโปงสาเหตุการตายฉับพลันว่า พบสารหนูในกระเพาะอาหารผู้ตาย เนื่องจากผู้ตายกินวิตามินซีทุกวัน พร้อมกับมีนิสัยชอบกินกุ้งจำนวนมากในมื้อเย็น"
    ในอีเมลดังกล่าวยังระบุอีกว่า นักวิจัยมหาวิทยาลัยชิคาโกเคยทดลอง พบว่าสัตว์เปลือกอ่อนเช่น กุ้ง มีสารประกอบอาเซนิกเข้มข้นในปริมาณสูง สารประกอบชนิดนี้เข้าไปอยู่ในร่างกายก็ไม่มีพิษภัยอะไร แต่เมื่อรับประทานวิตามินซีพร้อมกัน จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมี ทำให้สารประกอบเดิมที่มีสูตรเคมี As2O5 หรืออาเซนิกออกไซด์ซึ่งไม่มีพิษ กลายเป็นสารประกอบที่มีสูตรเคมี As2O3 หรืออาเซนิกไตรออกไซด์ ซึ่งมีพิษหรือภาษาชาวบ้านเรียกว่าสารหนูนั่นเอง พิษสารหนูจะทำให้เกิดอาการเลือดคั่งในหัวใจตับ ไต และลำไส้ เซลล์ผิวหนังตายด้าน เส้นโลหิตฝอยขยายตัว ดังนั้นผู้ที่รับพิษจนตาย จะมีเลือดออกทางทวารทั้งเจ็ด เพราะฉะนั้นในระยะที่รับประทานวิตามินซีต้องงดกินอาหารประเภทกุ้งเพื่อความไม่ประมาท
    จากข้อความดังกล่าว"คม ชัด ลึก" สอบถามไปยัง รศ.ดร.เอมอร วสันตวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อยืนยันข้อเท็จจริง รศ.ดร.เอมอร กล่าวว่า เมื่อประมาณสัปดาห์ที่ผ่านมา มีสื่อมวลชนหลายแขนงสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างกุ้งกับวิตามินซีว่า เป็นไปตามที่อีเมลสยองฉบับข้างต้นกล่าวอ้างจริงหรือไม่ซึ่งก็ได้ค้นข้อมูลรายงานการวิจัยและรายงานวิชาการจากองค์กรอนามัยโลก (ฮู) ปรากฏว่าไม่พบรายงานหรือข้อมูลอ้างอิงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เชื่อมโยงระหว่างปฏิกิริยาทางเคมีของการกินกุ้งกับวิตามินซีแต่อย่างใด และเมื่อปรึกษาไปยังผู้เชี่ยวชาญเรื่องพิษจากอาหาร ก็ได้รับการยืนยันว่าไม่มีข้อมูลทางวิชาการที่อ้างถึงเรื่องนี้มาก่อน
    ผอ.สถาบันวิจัยโภชนาการกล่าวต่อว่า เมื่อได้อ่านอีเมลสยองดังกล่าวอย่างละเอียดก็พบจุดน่าสงสัย 4 ประการคือ 1.ไม่มีชื่อหญิงชาวไต้หวันที่เสียชีวิต 2.ไม่มีชื่อและสถาบันของผู้เชี่ยวชาญทางนิติเวช 3.ไม่มีชื่อนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชิคาโก และ 4.มีการอ้างปฏิกิริยาเคมีที่ไม่เกี่ยวข้องกัน ทำให้เชื่อว่าเป็นเพียงอีเมลหลอกลวงที่เขียนขึ้น โดยอ้างหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือเท่านั้นเอง
    นอกจากนี้ตามข้อเท็จจริงสัตว์ทะเลประเภทกุ้งจะมีสารประกอบอาเซนิกอยู่จริงแต่น้อยมาก และเป็นฟอร์มหรือรูปแบบที่ไม่เป็นพิษต่อร่างกายคน นอกจากนี้ยังไม่เคยพบว่าสารประกอบวิตามินซีไปทำปฏิกิริยาทางเคมีกับสารอาหารใดในร่างกายคน
    อีเมลหลอกลวงนี้อ่านแล้วดูขลังและน่าเชื่อถือ เพราะมีอ้างสูตรเคมีแบบวิทยาศาสตร์และอ้างตำแหน่งศาสตราจารย์ และผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง แต่ไม่มีการเขียนชื่อจริงเลย ยิ่งไปกว่านั้น สูตรเคมีที่อ้างว่าเป็นสารหนูหรืออาเซนิกไตรออกไซด์ ก็เป็นสูตรเคมีของสารหนูจริง แต่ไม่ได้เกิดจากการผสมระหว่างวิตามินซีกับการกินกุ้ง ส่วนใหญ่คนกินอาหารทะเลแล้วเกิดอาหารเป็นพิษร้ายแรง ก็จะเกิดจากสัตว์ทะเลตัวนั้นมาจากแหล่งน้ำที่สกปรก แล้วเกิดสะสมสารพิษในตัวมัน เมื่อคนกินเข้าไปร่างกายจึงได้รับความผิดปกติ และหากพิษแรงมากร่างกายก็จะขับออกมาโดยการอาเจียนทันที สรุปคืออีเมลฉบับนี้เป็นการหลอกลวง เพื่อให้คนอ่านตื่นตระหนก ไม่มีข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์เลย รศ.ดร.เอมอร กล่าวอธิบาย เช่นเดียวกับศ.ดร.ทรงศักดิ์ ศรีอนุชาติ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องพิษจากอาหาร อดีตผู้อำนวยการสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวยืนยันว่าไม่เคยมีงานวิชาการที่กล่าวถึงการทำปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างสารอาเซนิกในกุ้งกับวิตามินซี ซึ่งที่จริงแล้ว "อาเซนิก(Arsenic)" คือสารประกอบที่เรียกว่าสารหนู ส่วน "อาเซนิกไตรออกไซด์(Arsenic Trioxide)" เป็นสารหนูที่มีส่วนผสมของออกซิเจน3 ส่วน เรียกทั่วไปว่ายาฆ่าแมลง ถ้าจะฆ่าคนก็ต้องนำอาเซนิกไตรออกไซด์มาผสมกับอาหารหรือใส่ไปในกุ้งเพื่อให้เกิดพิษกับร่างกายอย่างฉับพลัน แม้ในกุ้งจะมีสารอาเซนิกประกอบอยู่จริงแต่ก็น้อยมากจนไม่มีพิษและจะสลายไปในกระเพาะอาหาร ส่วนวิตามินซีนั้นจะถูกดูดซึมในกระเพาะอาหาร และขับออกมากับปัสสาวะ หากร่างกายได้วิตามินซีมากผิดปกติ ในระยะยาวจะเกิดการสะสมเป็นนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ แต่ไม่ได้ไปทำปฏิกิริยาเคมีกับสารอื่นจนทำให้เสียชีวิต นอกจากนี้ในเว็บบอร์ดทางการแพทย์หลายแห่งและเว็บบอร์ดชื่อดัง "พันทิปดอทคอม" ก็มีผู้มาแสดงความเห็นต่ออีเมลสยองฉบับข้างต้นว่า เป็นอีเมลหลอกลวงที่เคยแพร่หลายในไต้หวันเมื่อ 6 ปีที่แล้ว แล้วก็เงียบหายไปจากอินเทอร์เน็ต จนกระทั่งถูกแปลเป็นภาษาไทย แล้วนำมาส่งต่อเป็นอีเมลลูกโซ่ จึงขอเตือนผู้บริโภคว่าอย่าหลงเชื่อ <TABLE align=center><TBODY></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...