เรื่องเด่น แชร์เล่าเรื่องหลวงปู่มีชัย กามฉินโธประสบการณ์ในสามจังหวัดชายแดนใต้ครับ

สวยมากครับ หลวงปู่ ทวด ปรอทหยาดฟ้า จีวรก็ สุดยอดงามแต้ๆครับ
ตอนนี้แอบเห็น เหล็กไหล(สาย ท่านท้าว วิรูปัก) ปรอดหยาดฟ้า .อัญมณีเพชร..ทองคำ.... ธาตุคนธรรพ์(สาย ท่าน ธตรฐ)

 

สาธุ สาธุ สาธุ
เมตตา ลาโภ นะโส วิยะ อาหะ พุทโธ. ชัยยะ ชัยยะ ไชโย

 

ผมมีเรื่องเล่ามาให้ฟังสนุกๆเมื่อพูดของการลองของ ความจริงผมไม่ชอบหรอกแต่พอดูๆเขาทำกันก็แอบไปดูเพื่อให้หมดความสงสัยเท่านั้นเองมีเรื่องหนึ่งจะเล่าให้ฟังในวันหยุดนะครับ ตอนผมอยู่ ปานาเระใหม่ๆเข้าร้อยเวร ตอนเช้าๆหลังจากราดตระเวน พระ และครูแล้ว ก็ไปหาอะไรทานกัน ไปนั้งร้านอิสลามแถวๆปารัส ผมสั่งมาแกกาฟี่ หรือกาแฟ ลูกน้องมาแกไอท์ หรือน้ำแข็ง แตระออ หรือ น้ำชา อาจผิดได้ครับผมไม่เก่งภาษายาวีเท่าไหร่ มีลูกน้องคนหนึ่งเขาเป็นมุสลิมแกก็บอกมาคำหนึ่ง ผู้หมวดผมลาดตระเวณกับผู้หมวดมาก็หลายครั้งแล้วเห็นผู้หมวดชอบพูดว่าของดีอะไรๆผมไม่เชื่อนะบอกตรงๆ จริงหรือเอางั้นไปกันเลยเราออกเวรแล้วไปสวนพิธานเลยไปจำหน่ายกระสุนกัน คิดในใจผมไม่ได้ลองแต่อยากให้เขารู้ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงไม่ได้มีแต่คำพูด ตอนนั้นขอบอกว่ายังไม่รู้จักอาจารย์ทองและหลวงปู่มีชัย มีแต่ของที่เอามาจากกรุงเทพฯ ขณะไปอธิษฐานว่าขออย่าให้ยิงออกเลยสาธุ ทองย่อมเป็นทองอย่างที่หลวงพ่อเดิมว่า งูเห่าอยู่ที่ไหนมันก็กัดคนตายฉันใดฉันนั้น ครูบาอาจารย์แสดงปาฏิหาริย์ให้ลูกเห็นด้วยเทอญ พอเดินทางไปสวนพิธานก็ลงจากรถใช้ปืนประจำกายคือปืน 11ม.ม.ยิงเอาของเขาตามใจ เอาของผมก่อนผมก็ถอดตระกรุดแขวนไว้ที่ต้นไม้ ทันใดริตำรวจมุสลิมคนท้าก็ยิงผมมองหันหลัง เสียงปืนดังขึ้น ปัง ปัง ปัง ใจหล่นหมดเลยตระกรุดเรายิงออกแต่ไม่ถูกสักนัด ประสิทธิ์ลองของผมบ้าง ปัง ปัง ปัง ตระกรุดกระเด็น ผมบ้างครับนายเจ้าน้อยสายข้อมือหลวงพ่ออุตตะมะ ปัง ปัง ปัง ถูกแต่ไม่ขาด ครับท่านผู้อ่านผมกลับบ้านด้วยความเศร้าคิดในใจว่าจะหาที่ยิงไม่ออกให้เขาเห็นว่า สักวันเขาจะต้องศรัทธาเครื่องรางของเราให้ได้

 

.........เอาอีก..............เอาอีก

 

เอาแหม ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

วันนั้นที่มาถึง โปรดเล่าในวันนี้เลย จะได้มั้ยครับ

 

อ่านเรื่องลองของๆผมบ้างมั้ยครับเหรียญแรก เหรียญหลวงปู่ดุลย์ สุรินทร์ที่ระลึกงานกฐินกองบัญชาการทหารสูงสุด ปี20หรือ21นี่แหละครับ ปืนตราโล่ห์ของตำรวจรู้จักกัน พี่ที่ทำงานเป็นคนลอง ออกครับแต่ลูกปืนห่างเหรียญมากไม่ถูกผ้าเช็ดหน้าที่วางเหรียญเลย อีกอย่างเป็นรูปเหมือนปั้มเนื้อตะกั่ว หลวงพ่อเพี้ยนวักเกริ่นกฐิน ลพบุรี ลูกออกโดนผ้าเช็ดหน้าเป็นรอยใหม้แต่ไม่ทะลุผ้า อีกชุดเป็ดตะกรุดเก่าไม่รู้ที่ลูกออกทะลุอิฐบล็อกที่วางในถุงพลาสติคแตก คนลองยืนห่างพระประมาณเมตรครึ่งทั้งสามครั้งครับ ก่อนลองจุดฐูปขอขมาหลวงพ่อและขอชมบารมีก่อนครับ

 

มีประสบการณ์เหมือนกันมาเล่าสู่กันฟังขอบคุณมากครับ ผมลืมบอกไปของผมใช้วิธีจ่อยิงและใช้วิธีง้างนกยิงครับ

 

นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติ ภควา

กราบหลางพ่อทวดครับ

สวยมากครับ อยากได้ๆ

 

ในกระบวนวิชาป้องกันอาวุธ ว่ากันว่ามีหลักๆ 3 แบบ

มหาอุด คือ ยิงไม่ออก (ฮึกเหิมมาก)

คงกระพัน คือ ยิงออก โดนแต่ไม่เข้า (เจ็บ เผลอๆ เจอของหนักกระดูกหัก)

แคล้วคลาด คือ ยิงออกแต่ไม่ถูก (ไม่เจ็บ แต่หวาดเสียว)


เคยได้อ่านมาว่า หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เคยบอกนายทหารที่ไปขอของดีก่อนไปสนามรบและอยากได้ของที่ยิงไม่เข้า ว่า...

เอาไปทำไมยิงไม่เข้า เอ้านี่ ยิงไม่ถูก......

 

หลวงพ่อ แดง ท่าน ได้ออกเหรียญ มีรุ่น หนึ่ง ชื่อ ว่า รุ่น แม่ทัพ
ท่าน เสกให้ ข้าราชการ ทหารโดยเฉพาะ ครับ
ประสพการณ์ ตามท่าน รองเจริญ กล่าว ไว้ ครับ แต่ มี ทหารพูดกัน ว่า
ใครลอง ปืน แตก เลยครับ

 

แนะนำของดีราคาถูก หลวงพ่อทวดรุ่น5 แชะ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ







วันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7665 ข่าวสดรายวัน


เปิดประวัติ"พ่อท่านแดง" หลวงปู่ทวดรุ่นดัง 5 แชะ (จบ)

คอลัมน์ มุมพระเก่า
อภิญญา



ปี พ.ศ.2494 พระเทพญาณโมลี วัดตานีนรสโมสร เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี สั่งการให้พระครูญาณวิมล (กิมสุย) เจ้าคณะอำเภอโคกโพธิ์ มอบหมายให้ "หลวงพ่อแดง สุนทโร" ไปบูรณปฏิสังขรณ์วัดร้างเก่าแก่แห่งหนึ่งชื่อ "วัดบ้านดอน" โดยได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านจนสำเร็จลงด้วยดี และเปลี่ยนชื่อเป็น "วัดศรีมหาโพธิ์" พร้อมกับรับตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบมา กระทั่งละสังขารเมื่อวันที่ 27 ก.พ.2539 ด้วยวัยที่สูง 94 ปี พรรษา 73

หลวงพ่อแดงนั้น นับว่าเป็นพระแท้ที่กราบไหว้ได้ตลอดกาล มีคุณธรรมอันแก่กล้า มีพลังจิตสูงส่ง โดยอุทิศชีวิตมุ่งมั่นในการ ปฏิบัติธรรมอย่างแท้จริง ซึ่งประกอบด้วยพรหมวิหารธรรม 4 (เมตตา-กรุณา-มุทิตา-อุเบกขา) อย่างสมบูรณ์

เชื่อกันว่าอภิญญาฤทธิ์ของท่านนั้นสูงมาก เพราะได้ศึกษามาอย่างถูกต้องและถ่องแท้จากหลวงพ่อสีพุฒ อีกทั้งได้รับการฝึกจิตจากพระอธิการสุข วัดมะปรางดัน จนสำเร็จกสิณ และไปยกครูเป็นศิษย์สำนักพุทธาคมเขาอ้ออันลือลั่นอีกด้วย

กล่าวขวัญกันว่า ทุกครั้งที่ศรัทธาสาธุชนหรือศิษยานุศิษย์อธิษฐานจิตขอพรจากท่าน โดยมิได้เห็นตัว หรือได้ยินเสียงของกันและกัน แต่ได้ผลสำเร็จทุกครั้ง จนกระทั่งบางคนถึงขนาดเคยเห็นกายทิพย์ของท่านมาปรากฏก็มี หากผู้ใดเป็นนักปฏิบัติกรรมฐานที่ถูกต้องด้วยแล้ว จะยิ่งสัมผัสอภิญญาฤทธิ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น

ในด้านวัตถุมงคลท่านสร้างตามความศรัทธา ของศิษย์ สร้างตามวิชาที่เรียนมา สร้างเพื่อแผ่บารมีคุ้มครองคนดี และเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจผู้คน

ทั้งนี้ ท่านมักพูดเปรียบเทียบให้เห็นถึงวิชาอาคมที่ก่อให้เกิดคุณประโยชน์ ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่ต้องยอมรับ และอยู่ที่ผู้เรียนรู้จะนำมาใช้ให้มีค่า

โดยกล่าวว่า "เหมือนมีดเราจะใช้ทำอะไรก็ได้ ฆ่าคน ทำร้ายคน หรือนำมาใช้ป้องกันตัว ตัดไม้ ทำอาหาร มีดมิใช่ว่าใช้ทำร้ายอย่างเดียว ประโชน์ต่างๆ ก็มีมาก"

พระเครื่องรุ่นแรก สร้างปีพ.ศ.2518 เป็นพระชุดหลวงปู่ทวดบุญญฤทธิ์, เหรียญหลวงพ่อแดง สร้างปี พ.ศ.2525, เหรียญฉลองอายุ 83 ปี พ.ศ.2527, พระเครื่องและเหรียญชุดวัดศรีมหาโพธิ์ สร้างปี พ.ศ.2536, พระเครื่องชุดสร้างปี พ.ศ.2537 อาทิ พระเนื้อว่าน, เหรียญรูปไข่, พระเครื่องชุดสร้างปี พ.ศ.2538 อาทิ รูปเหมือนบูชา, พระหลวงพ่อทวด เนื้อว่านพิมพ์พิเศษ

วัตถุมงคลของท่านได้รับความนิยมทุกรุ่น และหนึ่งรุ่นที่ฮือฮาสุดๆ ก็คือ พระหลวงพ่อทวดพิมพ์พิเศษ รุ่นประสบการณ์ หรือที่เรียกกันว่า "รุ่น 5 แชะ" ซึ่งโด่งดังเป็นข่าวหน้าหนึ่งทั่วประเทศเมื่อปี พ.ศ.2539

2 หนุ่มแบงก์ทหารไทยเมืองยะลาห้อย "หลวงปู่ทวด-หลวงปู่แดง" ถูก 2 โจรดักปล้นยิงใส่ระยะเผาขน แต่รอดตายปาฏิหาริย์ เพราะกระสุนทั้ง 5 นัดด้านสนิท

อิทธิปาฏิหาริย์ประสบการณ์พระเครื่องหลวงพ่อทวดในครั้งนั้น กลายเป็นข่าวใหญ่ในหมู่ผู้นิยมชมชอบพระเครื่อง ทำให้หลายคนหลายคณะเดินทางไปเช่าบูชากันเนืองแน่น จนมีปัจจัยเข้าวัดจำนวนมาก

ทั้งนี้ ประสบการณ์ที่เกิด ใช่ว่าจะมีเพียงวัตถุมงคลเท่านั้น สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ชาวบ้านก็ประสบกับตัวเองมามาก เช่น การบนบานศาลกล่าวขอความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา เมื่อเห็นผลแล้วก็มักจะมา ขอปิดแผ่นทองคำเปลวที่ตัวท่านเสมอ วันหนึ่งๆ มีคนมาขอแก้บนหลายๆ ราย

แม้ภายหลังมรณภาพแล้ว ก็กล่าวได้ว่าความศักดิ์สิทธิ์ในตัวท่าน ยังคงศักดิ์สิทธิ์มิเสื่อมคลายมาจนทุกวันนี้ ซึ่งไม่มีใครรู้ดีไปกว่า ผู้เลื่อมใสศรัทธาในองค์ท่านอย่างแน่นอน!!!

 

เอาอีก เอาอีกdenceedenceedencee(......)

 

เอาอีก ครับ...........เอาอีกครับ

 

รุ่นนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2538 โดย พ่อท่านแดง แห่งวัดศรีมหาโพธิ์
รุ่นนี้สร้างก่อนท่านมรณะภาพเพียง 1 ปี
โดยมีเกจิที่เข้าร่วมปลุกเสกดังนี้
อาจารย์นอง วัดทรายขาว... อาจารย์ทอง ... พ่อท่านเขียว ...เป็นต้นครับ





ว่ากันว่าครั้งที่ปลุกเสก ล.ป.ทวด เนื้อว่านปี2497 วัดช้างให้ นั้น อ.ทิม ได้กราบอาราธนา ล.พ.แดง ไปร่วมปลุกเสกด้วย วัตถุมงคลหลวงปู่ทวดที่ล.พ.แดง สร้างนั้นโด่งดังสุดขีดเมื่อปี เดือน มีนาคม ปี 2539 เมื่อมีคนร้ายปล้นเงินของรถขนเงินธนาคาร แต่ในการปล้นครั้งนั้นไม่สำเร็จ เพราะปืนทั้ง2กระบอกของคนร้ายยิงไม่ออก กระสุนด้านติดต่อกันถึง 5 นัด

 

เทส......:z12...............

 

พิมพ์หลวงปู่ทวดไม่มี แต่มีพิมพ์พระพุทธอยู่ ๑ องค์
ครอบครัวคนรู้จักไปเที่ยวใต้แล้วเอามาฝาก พร้อมกับพ่อทวดไกรและเหรียญหลวงพ่อทวดเลื่อนสมณศักดิ์พระครูอนุกูลฯ(สวัสดิ์) ใช้แทนกันได้หรือไม่

 

สุดยอดทุกองค์ครับ ใช้ได้แน่นอน




หลวงพ่อทวดไกร วัดลำพะยา


"ลำพะยา" กล่าวแต่เดิมว่าเจ้าพระยาปัตตานี ได้ใช้พื้นที่ตำบลลำพะยา เป็นที่พักผ่อนและท่านโปรดการคล้องช้างเป็นอย่างมาก จึงให้สร้างที่พักขึ้นบริเวณหมู่บ้านทำเนียบในปัจจุบัน ชาวบ้านเรียกที่พักเจ้าพระยาปัตตานีแห่งนี้ว่า "ทำเนียบ" ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของวัดสิริปุณณาราม (วัดลำพะยา) ซึ่งบ้านทำเนียบนี้ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางของตำบลลำพะยา โดยการคล้องช้างในสมัยนั้นจะนำช้างมาล่ามไว้ที่บ้านทำเนียบ จนชาวบ้านเรียกกันว่า "ที่ล่ามช้างของพระยา" และต่อมาคำพูดนี้จึงกร่อนสั้นลงเหลือเป็นคำว่า "ลำพะยา"

วัดลำพะยาเป็นที่บรรจุอัฐิของพระเกจิอาจารย์ชือดัง คือ "หลวงพ่อไกร" หรือ "สมภารท่านเจ้าไกร"หรือ "หลวงพ่อทวดไกร" ประวัติท่านอาศัยการเล่าต่อกันมาในแถบถิ่นจากรุ่นสู่รุ่น เป็นเวลาถึงประมาณ 400 ปี ท่านเป็นพระภิกษุที่มีชีวิตอยู่ในสมัยอยุธยา ท่านได้ศึกษาสมถวิปัสสนากรรมฐานพระอาจารย์องค์เดียวกันกับ "หลวงพ่อทวด" วัดช้างให้

“หลวงพ่อไกร” เป็นพระภิกษุรูปหนึ่งในพระพุทธศาสนา ราว พ.ศ. 2055 ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ภูมิลำเนาเดิมของท่านเป็นชาวจังหวัดสงขลา หลังจากท่านอุปสมบทแล้ว ได้เข้าศึกษาวิชาทางพุทธศาสนา เคร่งครัดในทางธุดงค์มาก ก่อนที่หลวงพ่อจะเข้ามาอยู่ในวัดนี้ ท่านได้ออกธุดงค์ไปในที่ต่าง ๆ จนประชาชนในสมัยนั้น รู้จักท่านเป็นอันมาก เมื่อท่านเดินทางมาถึงตำบลนี้เห็นว่าสถานที่เป็นทำเลที่เหมาะสม ควรแก่การวิปัสสนา และธุดงค์ จึงเข้ายึดเอาสถานที่นี้ทำเป็นวัดของท่าน ภูมิประเทศ วัดที่หลวงพ่อเข้าไปอยู่นี้มีชื่อว่า “วัดใน” ตั้งอยู่ที่หน้าถ้ำใหญ่ หมู่ที่ 2 ตำบลลำพะยา อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา ภายในถ้ำนี้หลวงพ่อเข้าประทับทรงบอกว่า ภายในถ้ำนี้มีโบราณวัตถุเป็นเงินเป็นทอง และของมีค่ามากมายสมัยที่ท่านยังอยู่ประชาชนในแถบนั้นยังเข้าไปหยิบยืม ถ้วย โถ โอ ชาม มาใช้ได้เป็นครั้งคราว แต่ระยะต่อมาประชาชนเล่นไม่ซื่อ ทำให้ของหายตกหล่นเจ้าของผู้รักษาถ้ำ คือ คนธรรพ์ท่านไม่ชอบใจ จึงปิดประตูถ้ำเสียตั้งแต่บัดนั้น ขณะนี้ ถ้าท่านไปสังเกตดู ที่หน้าถ้ำใหญ่แห่งนั้น ก็จะเห็นว่าถ้ำนั้นมีรอยปิดที่ประตูจริง ๆ ซึ่งเป็นของที่น่าอัศจรรย์อยู่ไม่น้อยสถานที่แห่งนี้ ตั้งชิดติดอยู่กับภูเขาใกล้ ๆ หมู่บ้านของตำบลนี้ระยะไกลออกมาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 5 เส้นเศษ ๆ เป็นสถานที่เก็บอัฐิธาตุของหลวงพ่อไกร ซึ่งเรียกตามภาษาไทยได้ว่า “เขื่อน” สถานที่นี้มีประชาชนแถบนั้นไปนมัสการ กราบไหว้เป็นประจำนับเป็นเวลานานกว่า 400 ปี แล้วมิได้ขาดกระทั่งบัดนี้ ทั้งนี้ก็เพราะความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อไกร ใครเดือดร้อนอะไรก็ต้องไปหาท่านบนบานบวงสรวงขึ้น ท่านก็สามารถให้ความคุ้มครองได้ตลอดมา ประชาชนในตำบลลำพะยาอยู่เป็นกลุ่มเป็นก้อนเรื่องร้ายหายนะอย่างแรงไม่มีเท่าไรนัก เพราะทุกคนต่างก็ฝากจิตใจไว้กับวัด และมีหลวงพ่อคอยให้ความคุ้มครองอยู่เบื้องหลังตลอดเวลา

หลวงพ่อทวดไกรเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนในแถบนี้มากว่า 400 ปี เพราะปรากฏเลื่องลือในด้านอภินิหารมากมายในสมัยนั้น ตามตำนานกล่าวว่าท่านเก่งไสยเวทย์มากขนาดเส้นผมกลายเป็นทองแดง เวลาจะปลงผมท่านต้องทำพิธีเสียก่อนถึงจะปลงผมได้ หลวงพ่อทวดไกรท่านมีบริวารเป็น เสือ และ งูจงอาง ชาวบ้านทั่วไปมักจะเรียก ทวดเสือ ทวดงู โดย งูจงจาง 2 ท่าน พระเครื่อง "หลวงพ่อทวดไกร" หรือ "หลวงพ่อไกร" ต้องมี ทวดเสือ และ ทวดงู อยู่กับท่านเสมอครับ

จนกระทั่งปี 2505 ได้มีการอัญเชิญอัฐิของท่านหลวงพ่อทวดไกร ในวันที่ 5 มิ.ย. 2505 เพื่อนำมาประดิษฐานใหม่ที่วัดลำพะยา ในการขุดนั้นพบว่าอัฐิของท่านได้บรรจุอยู่ในขวดดินเผาองค์อัฐิเมื่อเคาะแล้วจะมีเสียงดังกังวานคล้ายโลหะ ส่วนรากไม้ที่อยู่ในบริเวณรัศมี 10 วา จากที่ฝังอัฐิ ล้วนแต่มีกลิ่นหอมทั้งสิ้น ซ้ำยังมีสรรพคุณในการรักษาโรคแก่ผู้ที่ศรัทธาและนับถืออีกด้วย และในการนี้อาจารย์ทิมวัดช้างให้ได้จัดสร้างหลวงพ่อไกรเนื้อว่านไว้ให้ชาวบ้านบูชาและแจกจ่ายให้ชาวบ้านที่ร่วมพิธีมีทั้งพิมพ์เล็กและพิมพ์ใหญ่และพิมพ์พิเศษ

งานย้ายกระดูกหลวงพ่อไกรจากวัดเก่าไปไว้ที่วัดลำพะยาในขบวนแห่ด้วยความดีใจชาวบ้านจึงยิงปืนข้ามขบวนแห่แต่ปืนไม่สามารถยิงออกได้จึงเป็นที่กล่าวขานต่อกันมาในงานพิธีย้ายกระดูกหลวงพ่อไกรพระอาจารย์ทิมวัดช้างให้ได้จัดสร้างหลวงพ่อไกรเนื้อว่านไว้ให้ชาวบ้านบูชาและแจกจ่ายให้ชาวบ้านที่ร่วมพิธีมีทั้งพิมพ์เล็กและพิมพ์ใหญ่และพิมพ์พิเศษในพิธีครั้งนี้ทางวัดได้จัดสร้างหลวงพ่อไกรพิมพ์พิเศษให้กับกรรมการและผุ้บริจากเงินจำนวนมากเพื่อใช้ในพิธีครั้งนี้บางองค์เป็นศิลปะแกะมือหรือไม่ก็แกะพิมพ์แต่ล่ะพิมพ์จะมีแค่องค์เดียวและบรรจุพระธาตุไว้จึงไม่เป็นที่พบเห็นทั่วไป ผ่านมาถึงยุค3จังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดความไม่สงบหลวงพ่อไกรก็ได้สร้างอภินิหารช่วยชีวิตทหารตำรวจและชาวบ้านไว้จึงเป็นที่ศัทธาของชาวบ้าน

ปี2505 ได้มีการอัญเชิญอัฐิของท่านหลวงพ่อทวดไกร ในวันที่ 5 มิ.ย. 2505 เพื่อนำมาประดิษฐานใหม่ที่วัดลำพะยา ในการขุดนั้นพบว่าอัฐิของท่านได้บรรจุอยู่ในขวดดินเผาองค์อัฐิเมื่อเคาะแล้วจะมีเสียงดังกังวานคล้ายโลหะ ส่วนรากไม้ที่อยู่ในบริเวณรัศมี 10 วา จากที่ฝังอัฐิ ล้วนแต่มีกลิ่นหอมทั้งสิ้น ซ้ำยังมีสรรพคุณในการรักษาโรคแก่ผู้ที่ศรัทธาและนับถืออีกด้วย และในการนี้อาจารย์ทิมวัดช้างให้ได้จัดสร้างหลวงพ่อไกรเนื้อว่านไว้ให้ชาวบ้านบูชาและแจกจ่ายให้ชาวบ้านที่ร่วมพิธีมีทั้งพิมพ์เล็กและพิมพ์ใหญ่และพิมพ์พิเศษ

 

เมตตา ลาโภ นะโส วิยะ อาหะ พุทโธ
พุทธัง โลกัง ยัสสะ สิกขัง
ชัยยะ ชัยยะ ไชโย
เฮง เฮง เฮง รวย รวย รวย ทุกๆท่านเด้อค่ะเด้อ
น้อมกราบหลวงปู่มีชัย

 

เช้านี้คนเข้าทู้น้อยจัง เสร็จเรา แฮ่แฮ่ (||)