เปิดตำนานหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ภาค 2

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย แก้วสว่าง, 15 ธันวาคม 2012.

  1. รักรังสิต

    รักรังสิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    2,418
    ค่าพลัง:
    +17,140
    สวัสดีครับวันอาทิตย์พักผ่อนกันสบายๆๆๆที่บ้าน
    เมื่อวานไปช่วยงานกดพระชุดปฐมฤกษ์ที่บ้านค่าย ไม่ได้ช่วยอะไรมากมายนะครับ
    เอาปูนเปลือกหอย และอุปกรณ์กดพระไปส่ง ต้องขอบพระคุณพี่ปลัด อย่างมาก
    ที่มอบมวลสารทองคำเปลวที่ปิดองค์หลวงปู่ที่วิหาร ให้มาร่วมกุศลด้วย
    อาทิตย์นี้ขออัฟเดตข้อมูลเรื่องงานทอดกฐิน งานหล่อพระประธาน ให้ทราบนะครับ
    เรื่องแรกต้องขอบพระคุณคุณพ้อย ที่ร่วมบริจาค ทองหล่อพระ
    และ นำเงินของญาติพี่น้อง มาร่วมทอดกฐินและสร้างพระด้วยจิตศรัทธาอย่างสูง
    วันนี้ผมจะไปเบิกเงินกฐินที่ คุณครุฑยุดนาค สะพานบุญที่รวบรวมเงินมามอบให้ผม
    ผมได้รับซองแล้ว จะแยกใส่ซองและโพสให้ดูเป็นจำนวนเงิน 16158 บาท
    ผมได้ถ่ายรูปซองใส่เงิน โพสให้ดูแล้ว เก็บรวบรวม รอให้มากพอก็จะนำไปฝากธนาคาร
    เก็บรักษา รอส่งมอบ ให้วัดคลองบงวราราม ตามเจตนารมณ์ของญาติธรรมต่อไป
    เรื่องที่สอง งานปั้นหุ่นหล่อพระประธาน จากที่สอบถามมา ได้ขึ้นหุ่นดินไปเรื่อยๆๆนะครับ
    ช่วงนี้ช่างปั้นหุ่นพระต้องใช้จินตนาการ และ อารมณ์ศิลปินในการปั้น
    ผมจึงไม่ได้ไปเร่งรัด อะไรมาก ให้ใช้ความรู้สึกของศิลปิน สร้างสรรค์พุทธศิลป์ ให้สวยงาม
    ช่วงนี้งานรวมๆๆรวมทั้งงานกฐินก็ดำเนินไปเรื่อยๆๆนะครับ
    มีภาพมาให้ชมความคืบหน้าเกี่ยวกับงานกฐิน
    อีกเรื่องครับ ต้องขอบพระคุณ คุณฉัตร เป็นอย่างสูงที่ขอเป็นผุ้ช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายในการไปคุมงานหล่อพระจนแล้วเสร็จ
    เนื่องจากได้โชคจากการประมูลพระเศียรโต และนำเบอร์พระไปเสี่ยงโชค หลวงปู่ท่านเมตตา ให้พระเศียรโตไว้บูชา
    และให้เงินขวัญถุงไว้ร่วมบุญกับท่าน ต้องขออนุโมทนาบุญอย่างสูงกับคุณฉัตร ที่มีจิตอันเป็นกุศล งวดหน้าขอให้ได้อีกครั้งครับ


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2013
  2. รักรังสิต

    รักรังสิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    2,418
    ค่าพลัง:
    +17,140
    อีกเรื่องนะครับ ทองเหลืองหล่อพระ จะเป็นแผ่นทองที่ใส่ไว้ในซองกฐิน เขียนชื่อแล้วนำไปหลอมเป็นองค์พระ สร้างบุญบารมี สะสมไปเรื่อยๆๆครับ ถึงเวลาที่บุญส่งเสริมเรา วันนั้น อะไรก็ต้านเราไม่อยู่ บุญจะช่วยเราเอง ขอให้เร่งสร้างบุญไปเรื่อยๆๆ อย่าหยุด ไม่ว่าจะนั่งภาวนาอยู่กับบ้านหรือร่วมสร้างพระประธานกัน ที่ไหนก็ได้ครับ ครั้งนี่บุญใหญ่ ช่วยกันหล่อพระ ร่วมกับหลวงปู่ทิม กับลุงสาย ในนามคณะศิษย์ เปิดตำนานหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ระยองสร้างบุญบารมีร่วมกัน ทองเหลืองก้อนใหญ่ ก้อนละ ครึ่ง กิโลกรัม มีเพียง 400ก้อนครับแบ่งไปตามสะพานบุญทั้งหลาย 300 ก้อน และนำไปในงานหล่อพระที่วัด 100 ก้อน ท่านที่ร่วมบริจาคทองเหลืองก้อน อ. แก้วสว่าง แจกภาพยืนของหลวงปู่ทิม เป็นที่ระลึก ท่านละ 1 ภาพ เป็นที่ระลึกของการทำความดี ร่วมกับหลวงปุ่ทิม ขออนุโมทนาบุญครับ
     
  3. แควใหญ่

    แควใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,271
    ค่าพลัง:
    +10,008
    กราบหลวงปู่ทิม คุณลุงสาย แก้วสว่าง สวัสดีครับอาจารย์แก้วสว่าง น้าต๋อย พี่โต้ง พี่รัก พี่เดชา พี่ภู พี่คนบนเกาะ พี่เตอร์ พี่ทหารเก่า คุณโอ๊ด คุณอภิเชษฐ์และพี่ๆเพื่อนๆลูกศิษย์หลวงปู่ทิมทุกท่าน สบายดีกันทุกคนนะครับ
     
  4. น้องตั้ม

    น้องตั้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +426
    ขอบคุณครับพี่แก้วสว่าง ผมใช้จิตศรัทธาที่ดีและพยายามเข้าใจหลักคำสอนของหลวงพ่อครับ :VO

    กราบ กราบ กราบ หลวงปู่
     
  5. รอดป่อง

    รอดป่อง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2013
    โพสต์:
    292
    ค่าพลัง:
    +2,473
    กราบนมัสการหลวงปู่ทิม คุณลุงสาย แก้วสว่าง กราบสวัสดีอาจารย์แก้วสว่าง พี่รักรังสิต น้าต๋อย เซมเบ้ พี่ส่างปา พี่ทหารเก่า และพี่ๆศิษย์หลวงปู่ทิมทุกท่านครับ สบายๆกับวันหยุดต่อเนื่องครับบบ (deejai)(deejai)(deejai):cool::cool::cool:
     
  6. รักรังสิต

    รักรังสิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    2,418
    ค่าพลัง:
    +17,140
    ผมได้ไปเบิกเงิน ของญาติธรรมคณะ คุณครุฑยุดนาค จำนวนเงิน 16158 เก็บรวบรวมไว้แล้ว โพสให้ดูครับ
    เรื่องชนวนแผ่นยันต์ ขณะนี้ได้ถวายแผ่นทองให้ครูบาอาจารย์เสกและเขียนไปเกือบ 300 แผ่นแล้วครับ กำลังรวบรวมไปเรื่อยๆๆ แล้วจะนำมาลงให้ดู
    วันเททอง ตามที่หลวงพ่อวัดหงษ์ดูให้ตกวันจันทร์ ที่ 29 เดือน กรกฏาคม แต่คณะเราดูท่าจะไปกันยาก จะไปกราบหลวงพ่อให้หาวันเททองใหม่ให้ตกวันเสาร์ เดือน สิงหาคม ขอเวลาไปกราบหลวงพ่อก่อนนะครับจะมาแจ้งให้ทราบ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    นี่คือพระพิมพ์รูปเหมือนหลวงปู่ทิม ที่นายสาย แก้วสว่างท่านได้แกะไว้ในยุคแรกเริ่มด้วยการแกะบล็อคหินมีดโกนที่ยังไม่มีการพัฒนาฝีมือให้เกิดความสวยงามและความคมชัดซึ่งมันต้องใช้จินตนาการบวกกับแรงบันดาลใจ ซึ่งมันคงเป็นเรื่องยากสำหรับฝีมือชาวบ้านที่จะแกะให้มีความเรียบร้อยสวยงามเหมือนช่างอาชีพแกะ นายสายท่านเล่าว่าพระพิมพ์รูปเหมือนนี้แกะสร้างไว้ได้จำนวนไม่มาก โดยใช้เนื้อดินผสมผงของหลวงปู่ซึ่งพิมพ์นั้นอาจจะยังไม่มีความสวยงามและไม่ถูกใจกับรูปทรง นายสายท่านก็ได้แกะขึ้นมาอีก ตามจินตนาการของท่าน พระพิมพ์รูปเหมือนนี้หลวงปู่ท่านเสกในห้องของท่านตลอด แต่พระพิมพ์นี้ขนาดค่อนข้างใหญ่และหนาจึงไม่ค่อยมีใครอยากได้กัน แต่นี่แหละครับคือของดีที่น้อยคนที่ใครจะรู้จักครับ


    [​IMG] [​IMG]
     
  8. KIRATI_99

    KIRATI_99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1,035
    ค่าพลัง:
    +842
    ประวัติกำเนิดผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่


    ประวัติกำเนิดผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ เมื่อกลางปี 2515 คณะกรรมการวัดละหารไร่ มีนายสาย แก้วสว่าง ไวยาวัจกร ประชุมกันเรื่องการสร้างพระเครื่องวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสมนาคุณแด่ชาวบ้านและสาธุชนทั่วไป ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินร่วมทำบุญกับวัดละหารไร่ ต่อไปในวันข้างหน้าโดยเฉพาะงานผูกพัทธสีมาพระอุโบสถ วัดละหารไร่ ในการนี้หลวงปู่ทิมได้กล่าวว่า หากได้ผงพรายกุมารมหาภูติผสมใส่ลงไปด้วย พระเครื่องที่สร้างขึ้นนี้จะมีความศักดิ์สิทธิ์มากขึ้นเพราะมีอานุภาพแห่งพรายกุมารมหาภูติแฝงอยู่คอยช่วยเหลือเอื้ออำนวยพร เมื่อหลวงปู่ทิมมีความต้องการจะทำผงพรายกุมารมหาภูติ เพื่อนำมาเป็นมวลสารที่สำคัญยิ่งในการสร้างปลุกเสกพระเครื่องครั้งนี้นั้น ในบรรดาลูกศิษย์ยุคแรกของหลวงปู่ทิมอิสริโกทั้งหมดไม่มีใครกล้าเสนอตัวอาสากระทำการ เพราะต่างคนต่างก็เกรงกลัวความอาถรรพ์ของผีตายทั้งกลม ซึ่งโบราณกล่าวไว้ว่ามีความดุร้ายและหวงลูกมาก ถึงขั้นตามเอาชีวิตกันเลยทีเดียว มีแต่เพียง “หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ “ ผู้เดียวที่มีวิชาคาถาอาคมและสมาธิกล้าแข็งเพียงพอ กล้าขอเสนอตัวรับอาสาสนองพระคุณหลวงปู่ทิม จะไปนำ ” กะโหลกพรายกุมาร “ วัตถุอาถรรพ์สำคัญยิ่ง จากหญิงตายทั้งกลม (หญิงชาวบ้านท้องแก่ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุสยดสยอง ทางญาติได้นำศพมาฝังไว้ที่ป่าช้าวัดละหารใหญ่ ปัจจุบันเป็นบริเวณที่ชาวบ้านทำไร่สับปะรด ) มาเพื่อให้ท่านสร้างปลุกเสกเป็น ”ผงพรายกุมารมหาภูติ “ ซึ่งหมอกุหลาบ จ้อยเจริญ ต้องพบกับอิทธิฤทธิ์ของอาจารย์พรายนายป่าช้า แม่นางพราย และพรายกุมาร แต่ด้วยมูลเหตุแห่งวัตถุประสงค์เพื่อการสร้างบุญกุศลในพระพุทธศาสนา บารมีของหลวงปู่ทิม และคาถาอาคมที่หลวงปู่ทิมได้ประสิทธิให้นั้น ทำให้นายป่าช้า แม่นางพราย และพรายกุมาร ได้ยินยอมและเต็มใจ เกิดความปิติในกุศลผลบุญที่ตนเองจะได้รับ หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ จึงกระทำการครั้งนี้ได้สำเร็จเรียบร้อยทุกประการ “ วิญญาณของาจารย์นายป่าช้า แม่นางพราย และพรายกุมาร มีอยู่จริงเห็นตัวตนเป็นเงาใสๆ ลางๆ เหมือนกับภาพที่สะท้อนบนพื้น ในปัจจุบันวิญญาณเหล่านี้ก็ยังอยู่คุ้มครองที่วัดละหารไร่ “ หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ กล่าวย้ำ การสร้างผงพรายกุมารมหาภูตินั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เมื่อได้กระโหลกพรายกุมารมาแล้ว หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ ใส่ห่อผ้าเก็บไว้หลังพระประธานในพระอุโบสถหลังเก่า เป็นระยะเวลาประมาณสามถึงสี่เดือน จนกระโหลกพรายกุมารแห้งสนิทหมดกลิ่นดีแล้ว จึงนำมาโขลกตำให้ละเอียดแล้วผสมกับผงวิเศษสำคัญต่างๆ ที่หลวงปู่ทิมมอบให้มาจนครบทั้งหมดผสมน้ำแช่เกสรบัวทั้งห้า ปั้นเป็นแท่งขนาดใหญ่ แล้วตากแดดไว้จนแห้งสนิท เมื่อได้ฤกษ์งาม ยามดีวันดี ตามที่หลวงปู่ทิมได้กำหนดไว้ จึงจะนำแท่งผงปั้นนี้มาเขียนอักขระพระยันต์ต่างๆ บนกระดานชนวน กระทำในพระอุโบสถหลังเก่า ท่ามกลางการเจริญพระพุทธมนต์ของพระสงฆ์ ๙ รูป โดยหลวงปู่ทิมอิสริโก เป็นประธานสงฆ์ เขียนอักขระพระยันต์ต่างๆ ลงบนกระดานชนวนแล้วลบผงก่อนเป็นปฐมฤกษ์ แล้วจึงมอบให้หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ เป็นผู้ลงอักขระพระยันต์และลบผงต่อไป การปลุกเสกผงพรายกุมารมหาภูตินี้ หลวงปู่ทิมท่านได้ปลุกเสกพรายกุมารทั้งหลายให้เป็นกึ่งเทพกึ่งภูติเป็นมหาภูติขวาและซ้าย(พระพรายคู่ เป็นรูปเทวดานั่งคู่กัน แทนรูปมหาภูติซ้าย-ขวา) วิญญาณพรายกุมารไม่ใช่มีอยู่ตนเดียว แต่มีมากมายประมาณมิได้ หลวงปู่ทิมได้อธิฐานให้วิญญาณพรายกุมารทุกตนที่ผ่านไปมาในบริเวณพิธี หากจะช่วยกันบำรุงพระพุทธศาสนา ก็ให้มาสถิตย์อยู่รวมกันในผงพรายกุมารมหาภูติที่ท่านปลุกเสกนี้ ให้มีอิทธิฤทธิ์คอยช่วยเหลือคุ้มครองอำนวยพรให้ผู้ศรัทธาบูชาอยู่ระยะเวลาหนึ่ง หลังจากเสร็จพิธีเรียบร้อยแล้วได้ผงพรายกุมารมหาภูติบริสุทธิ์สีขาวหม่นอมเทาประมาณ 1 ถาดใหญ่ เมื่อแบ่งผสมผงว่านมหามงคลจะได้ผงพรายกุมารมหาภูติเนื้อละเอียดสีน้ำตาลเข้มประมาณ 1 กะละมังใหญ่ แล้วเก็บรวบรวมไว้ในกุฎิหลวงปู่ทิม เมื่อจะทำพระเครื่องจึงจะขออนุญาตหลวงปู่ทิมไปตักแบ่งเอามาผสมผงที่จะกดพิมพ์พระอีกครั้งหนึ่ง.หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ กล่าวยืนยันโดยเห็นกับตาตนเองว่า “ผงที่หลวงปู่ทิมอิสริโก เขียนอักขระพระยันต์ต่างๆ นั้น หลุดร่วงทะลุลอดกระดานชนวนลงมา และทะลุผ้าขาวที่ปูรองเอาไว้ถึงเจ็ดชั้นจนถึงพื้นพระอุโบสถวัดละหารไร่ “ที่กล่าวนี้ไม่ได้กล่าวเกินความจริงแต่อย่าง แต่กล่าวเปิดเผยเพื่อให้ท่านทั้งหลายที่ศรัทธาหลวงปู่ทิมอิสริโก จะได้เกิดความปิติ และซาบซึ้ง ในบุญญาบารมีของหลวงปู่ทิมอิสริโก หากผู้ใดได้ครอบครองบูชา พระผงขุนแผนพรายกุมาร นับว่าท่านมีของวิเศษขั้นสูงอยู่กับ จะส่งผลให้เกิดโภคทรัพย์ ความเจริญรุ่งเรือง เป็นสิริมงคลแก่ตนเอง นับว่าเป็นบุญกุศลของผู้นั้นที่เคยได้ร่วมสร้างกันมา หลวงปู่ท่านกล่าวว่าพระของท่านมีเจ้าของอยู่แล้ว ของของใครต้องมาอยู่กับผู้นั้น ผู้ใดมิใช่เจ้าของจักมีอันต้องเปลี่ยนมือไปไม่ช้าก็เร็ว
    เรื่องจริงที่เล่าขานกันโด่งดัง ของ จังหวัดอยุธยา ณ.วัดสะแก เมื่อประมาณปี ๒๕๒๐ ขณะนั้นเป็นเวลาบ่ายเย็น หลวงปู่ดู่ แห่งวัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ออกมานั่งคุยกับศิษย์ที่บริเวณระเบียงกุฏิของท่าน เมื่อนั่งคุยกันชั่วครู่ใหญ่ หลวงปู่ดู่และศิษย์เห็นรถยนต์คันหนึ่งวิ่งเข้ามาในวัดแล้วจอด มีชาย ๔ คนลงจากรถ และเดินตรงมาที่กุฏิของท่าน "เอ๊ะ..อ้ายพวกนี้มาแปลก..." หลวงปู่ดู่อุทาน "มันเอาผีมาด้วย" บรรดาศิษย์ของหลวงปู่ดู่ เมื่อได้ยินหลวงปู่พูดถึงผี ก็พากันชะเง้อดูคนทั้งสี่ "เอ...ผมมองไม่เห็นผี" ศิษย์คนหนึ่งบอกกับหลวงปู่ "ผมไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ มีอะไรหรือครับหลวงปู่..." หลวงปู่ดู่หัวเราะกับศิษย์ และพูดกับศิษย์ว่า.. "ฉันเห็นผีมันล้อมรอบพวกสี่คนที่กำลังเดินมาเต็มไปหมด" คนทั้งสี่ เมื่อเดินมาถึงหน้าบันได้กุฏิ ก็พากันถอดรองเท้า แล้วพากันขึ้นบนกุฏิ คลานเข้ามากราบหลวงปู่ดู่.. "นี่...พวกเธอมาหาฉัน ทำไมจึงเอาผีมาด้วย" หลวงปู่ดู่ถามชายทั้งสี่ พร้อมกับหัวเราะด้วยอารมณ์ดี คนทั้งสี่มองหน้ากัน ตีหน้าเลิ่กลั่ก เมื่อได้ยินหลวงปู่ดู่บอกว่า พวกตนที่มาหา...พาผีมาด้วย "ผีที่ไหนครับหลวงปู่" นายเบิ้ม พบร่มเย็น หนึ่งในสี่คนที่มาหาหลวงปู่ ถามขึ้นด้วยความสงสัย "ยังไม่รู้อีกเรอะ" หลวงปู่ดู่หัวเราะด้วยอารมณ์ดี "ผีมันออกมาจากพระที่แขวนอยู่ที่คอน่ะสิ" ทั้งสี่คนที่มาหาหลวงปู่ถึงบาง "อ้อ" คนทั้งสี่ที่มาหาหลวงปู่ดู่เป็นศิษย์ของ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง และทุกคนมีพระเครื่องที่หลวงปู่ทิมสร้าง แขวนอยู่บนคอ เช่น พระพรายเพชร พรายบัว (พระสององค์ติดกัน)พระพิมพ์สี่เหลี่ยมหัวโต...หรือพระเล็กๆ แบบสามเหลี่ยมเรียกนางพญา และพระขุนแผนเล็กและใหญ่ บรรดาพระเครื่องที่เอ่ยนามมานี้ นอกจากจะมีผงพระพุทธคุณแล้ว ยังผสม "ผงผีพรายกุมาร" ที่ได้มาจากเด็กที่ตายทั้งกลม.... คนทั้งสี่นำสร้อยคอที่แขวนพระที่มีส่วนผสมของผงพรายกุมาร ให้หลวงปู่ดู หลวงปู่นั่งหลับตาชั่วครู่ใหญ่บอกว่า "ของเขาแรงใช้ได้ดีทีเดียว แต่ดูเหมือนผู้สร้าง..ได้เสีย..เสียแล้ว" "ครับ...เป็นพระเครื่องของท่านหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง ที่ได้สร้างขึ้น และหลวงปู่ทิมได้มรณภาพมากว่า ๒ ปีแล้ว..." นายเบิ้ม พบร่มเย็น บอกแก่หลวงปู่ดู่... ข้อมูลเพิ่มเติมจากเวป. http://www.watthummuangna.com/board/showthread.php?t=5297 ขอขอบคุณไว้ ณ.ที่นี้ด้วยนะครับ

    หนึ่งในมวลสารที่ผสมลงในพระขุนแผนบล็อกลองพิมพ์ ที่มีความเป็นเป็นที่สุดอีกอย่างคือน้ำมันพระเจ้าตากหรือน้ำมันพราย สุดยอดแห่งพลังเมตตามหานิยม ที่เพิ่มความเฮียนหรือพลังของพระพรายมหาภูติ รวมเข้ากับจิตอันบริสุทธิของหลวงปู่เสกจากวัตถุอาถรรต์พลังรุนแรง จนเป็นสิ่งบริสุธิที่มีพลังมหาสารสามารถบังเกินฤทธิ์ปาฏิหารต่างๆนาๆกับผู้ครอบครองบูชา

    ผมเคยไปนั่งคุยกับหลวงพ่อสิน วัดระหาญใหญ่เรื่องนี้ ท่านกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ก่อนอื่นถ้าใครเคยไปวัดไร่วารี ถ้าก่อนผ่านสะพานซ้ายมือจะเห็นเมรุ ตรงนั้นละสถานที่ๆกล่าวถึง แต่เป็นเมรุแบบเก่าคือมีแท่นปูน2แท่นตั้งคู่กัน หลวงพ่อสินเล่าว่า เขามาบอกก่อนๆที่จะทำพิธี เพราะท่านป็นเจ้าอาวาส ทีแรกท่านก็ไม่เชื่อ ท่านบอกว่าเขาใช้ผ้าขาว มัดปากขวดโหล แล้วแอบเอาไปฝังดินตรงกลางที่เผา พอหลังจากการปลงเรียบร้อยแล้ว รุ่งเช้าพวกที่มาทำก็เชิญท่านมาดู เอ้อลืมไป การทำพิธีนี้ จะให้คนอื่นรู้ไม่ได้ กลัวญาติผู้ตายไม่ยอม พอรุ่งเช้า หลังจากการปลงเรียบร้อยแล้ว พวกที่มาทำพิธี ก็ต้องนิมนหลวงพ่อสินมาเป็นการขออนุญาติไปในตัว หลวงพ่อสินท่านกล่าวว่า ไม่น่าเชื่อนะ เพราะตอนฝังดินมีผ้าขาวปิดอยู่ แล้วยังฝังลงไปในดินอีก พอขุดขวดโหลขึ้นมา ท่านบอกว่าข้างในขวด เป็นน้ำสีเหลืองใสมาก แล้วมีกลิ่นหอมมาก สุดท้ายท่านยังกล่าวกับผมอีกว่า ตอนนี้ท่านก็ทำได้ ปกติแล้วหลวงพ่อสินท่านจะเป็นพระที่ถ่อมตัวมาก น้ำมันนี้แหละที่หลวงพ่อนำไปทำพระเครื่อง ที่ท่านทำเอง เป็นแค่ส่วน1ในการสร้างพระ ยังมีน้ำมันพระเจ้าตาก ผงพรายกุมาร ผีตายโหงอีกหลายศพ ที่หลายคนยังไม่ทราบ เรื่องผงพรายกุมาร ท่านคงได้ฟังจากหมอหลาบหรือโยมสายตอนท่านมีชีวิตอยู่มาแล้ว แต่น้ำมันพระเจ้าตาก มีพิธีการทำที่พิศดาร ไม่แพ้กันเลย ต่อไปผมจะเล่าเรื่องน้ำมันพระเจ้าตาก กว่าจะมาทำเป็นพระเครื่อง ของหลวงพ่อทิมว่ายากเย็นเพียงไร น้ำมันพระเจ้าตากหรือน้ำมัน...ก็สุดแต่จะเรียกกันเป็นการขุดพบโดยบังเอิญ เมื่อครั้งที่ทางวัดจะสร้างศาลาการเปรียญบริเวรนั้นมีกองกระดูกที่ทับถมกันเป็นเวลานานนับ10ปี กระดูกเหล่านี้แต่เดิมอยู่ภายในบริเวณวัด แล้วได้ย้ายมากองทับถมกันเพื่อเอาสถานที่ปรับปรุงวัด ลุงแมงบอกว่าตอนย้ายกระดูกนั้น แกอายุประมาณ15-16ปี และก็เป็นผู้หนึ่งที่ได้ขนย้ายนี้ด้วย ปัจจุบันลุงแมงอายุใกล้70แล้ว (ลุงแมงเป็นลูกบุญธรรมของหลวงปู่ทิม เพราะเมื่อตอนแรกเกิดนั้น พ่อ แม่ เห็นว่าคงจะเลี้ยงไม่รอด เลยยกให้เป็นลูบุญธรรมหลวงปู่ และโดยวงษ์ตระกูลแล้ว พี่สาวของพ่อลุงแมงก็เป็นน้องสาวของหลวงปู่ทิมนั่นเอง) ผมจำเป็นต้องเล่าเรื่องลุงแมง เพราะเป็นบุคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องน้ำมันนี้โดยตรง และเพื่อให้ท่านได้นึกภาพออกง่ายขึ้น ในความเป็นอยู่ในอดีต ที่มีความเกี่ยวข้อง สนิทสนมกัน

    ครั้นต่อมาทางวัดต้องการจะสร้างศาลาการเปรียญอีกก็ต้องย้ายกองกระดูกเหล่านี้อีกที เนื่องบริเวณนั้นจำเป็นต้องใช้สถานที่ กองกระดูกที่ว่านี้ ถ้าอยู่ปัจจุบัญก็อยู่ตรงกลางศาลาการเปรียญ ค่อนข้างไปทางทิศเหนือ แต่ทางวัดหาคนที่จะขุดย้ายกองกระดูกนี้ไม่ได้ จ้างใครก็ไม่มีใครรับ หลวงปู่จึงให้ลุงแมงรับหน้าม่นี้แต่เพียงผู้เดียว เนื่องจากลุงแมงแกเคยอยู่กับหลวงปู่มาแต่เกิด และอีกทั้งยังเคยเป็นสัปเหร่อมาก่อน รวมทั้งมีหลวงปู่ช่วยดูอยู่ด้วยจึงไม่กลัว (ลุงแมงแกสนิทสนมกับหลวงปู่มาก แม้แต่เวลาปลงผมก็ลุงแมง และรับหน้าที่หาผักปลาอาหารถวายพระ ครั้งเมื่อตอนหลวงปู่ยังไม่มีใครรู้จัก เรื่องเกี่ยวกับลุงแมงกับหลวงปู่คุยทั้งวันก็ไม่จบ

    ครั้นเมื่อถึงวันที่ทำการขนย้ายนั้น หลวงปู่ฯท่านได้เรียกลุงแมงเข้าไปพบแล้วบอกให้ท่องคาถาคำว่า " สัพพัง " ไปจนกว่าการขุดจะแล้วเสร็จ เมื่อลุงแมงแกเริ่มทำการขุดไปได้ครึ่งทางก็พบน้ำมันที่ว่านี้อยู่ในแก้วก้นจีบเป็นน้ำมันสีเหลืองใสมากจึงนิมนต์หลวงปู่ฯมาดูพอท่านเห็นก็ชอบใจมาก แล้วบอกให้ค่อยๆแซะออกมาเสร็จแล้วก็นำผ้ายันต์ปิดปากแก้วแล้วนำกลับเข้ากุฏิไปเลย ต่อมาหลังจากนั้นหลวงปู่ฯก็ให้ลุงแมงนำนำมันนี้ไปแอบไว้ที่ทางสามแพร่งแล้วปั้นข้าวสามก้อนบูชา พอตกกลางคืนมีคนผ่านมาก็ให้เอาก้อนหินแกล้งปาเพื่อทำให้คนที่ผ่านไปมาตกใจเหตุผลก็คือต้องการให้น้ำมันนี้เฮี้ยน(เป็นเคล็ดอย่างหนึ่ง) ลุงแมงทำอยู่กี่วันผมไม่ทราบ รู้แต่ว่าเมื่อทำแล้วต่อมามันหลอกเองแล้วโดยที่ลุงแมงไม่ต้องแกล้งอีก สมัยนั้นผู้มีวิชาอาคมมีอยู่มาก พอเดินผ่านก็โดนหลอก ผู้มีวิชาเขารู้กันว่าเป็นการเล่นของ ก็เลยถูกผู้คนที่ผ่านไปมาแล้วโดนผีหลอกด่าพ่อ ด่าแม่ มาจนลุงแมงได้ยินแล้วทนไม่ไหวจนต้องไปบอกหลวงปู่ฯว่าเขาด่าเหลือเกินไม่ไหวกระมังครับ แทนที่จะหยุดหลวงปู่กลับให้ลุงแมงย้ายที่ใหม่ ทีนี้นำไปไว้ทางสามแพร่งใต้ต้นยางใหญ่แล้วทำแบบเดิมอีก ลุงแมงแกบอกว่าพอตกกลางคืนมันก็หลอกเอง มีคนเห็นเด็กปีนบนต้นยางใหญ่เต็มไปหมด แต่ก็ไม่พ้นพวกมีวิชาอีกแหละที่ไปเล่าให้ชาวบ้านฟังว่า มีคนทำพิเรนแกล้งทำของหลอกโดยที่ไม่รู้ว่าลุงแมงเป็นคนทำ และก็โดนชาวบ้านด่าอีกเช่นเคยจนแกทนไม่ไหวจนต้องไปบอกหลวงปู่ให้ทราบท่านจึงรู้ว่าน้ำมันนี้ใช้ได้แล้วจึงให้ลุงแมงเก็บกลับมาหลังจากนั้นลุงแมงก็ป่วย แกบอกว่ามีอาการคล้ายคนเป็นไข้รุมๆกินไม่ค่อยได้ซึมๆเซื่องๆ อาการเหล่านี้ถ้าคนเคยโดนของจะรู้ดี แกไม่ได้เข้าวัดอยู่สิบกว่าวันเมื่อหลวงปู่เจอแม่ของลุงแมงจึงถามว่าอ้ายแมงหายไปไหน แม่ลุงแมงบอกว่าไม่สบาย หลวงปู่จึงให้ไปตามมา พอลุงแมงมาถึงหลวงปู่จึงทำน้ำมนต์ให้อาบ แล้วบอกกับลุงแมงว่า " มันเล่นนี่ " แทบแย่เหมือนกัน ถึงตอนนี้ท่านจะเห็นว่าการที่หลวงปู่ทิมท่านทำของให้คนนำไปใช้นั้นมิใช่ง่ายๆเลยต้องลงทุนมากขนาดเอาตัวท่านเองเข้าไปเสี่ยง ถ้าวิชาไม่ถึงจริงอะไรจะเกิดขึ้น เรื่องที่เล่ามานี้ได้ถูกปิดบังมาตลอดผมเห็นว่ามีสาระน่ารู้จึงนำมาเล่าสู่กันฟัง

    แหล่งที่มา ยินดี มหานิยม - พระเครื่อง กุมารทอง เครื่องราง ของขลัง ตะกรุด

    ผมได้ไปพบมาในเว็ปอื่นเกี่ยวกับการสร้างพระผงของหลวงปู่ทิมซึ่งเขาเขียนว่าการสร้างพระของหลวงปู่ยากมาก(โดยเฉพาะน้ำมันพระเจ้าตากหรือน้ำมันพราย) กว่าจะได้ส่วนผสมที่เข้มขลังต้องมีหลายกรรมวิธี รบกวนสอบถาม อ.แก้วสว่าง ชี้แจงหน่อยครับจริงเท็จประการใด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2013
  9. lynn@nice

    lynn@nice เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    21,324
    ค่าพลัง:
    +19,459
    สวัสดีค่ะทุกๆท่าน เมื่อวานนี้มีงานเสกพระที่วัดหลวงปู่คำบุ ลินจึงได้นำแผ่นโลหะที่จะนำไปหล่อสร้างพระประธานที่สุโขทัย โดยพี่รักได้จัดส่งมาให้นำไปให้ครูบาอาจารย์ท่านเมตตาจารให้ค่ะ หลังจากเสร็จพิธีปลุกเสกแล้ว ครูบาอาจารย์ท่านได้เมตตา จารแผ่นโลหะให้ค่ะ เสียดายที่คราวนี้หลวงปู่คำบุท่านต้องรีบไปกิจนิมนต์ที่อื่น ครั้งนี้จึงยังไม่ได้แผ่นจารท่านค่ะ
    ส่วนหลวงปู่เร็วท่านติดกิจนิมนต์ในเมืองอุบลจึงไม่ได้มาร่วมพิธีเสก แต่ได้เข้าไปกราบท่านในช่วงบ่าย ท่านเมตตาจารให้ 3 แผ่นค่ะ
    แผ่นจารในครั้งนี้จึงมีของ หลวงปู่เก่ง หลวงปู่เรียบ หลวงพ่อขุน หลวงปู่เร็ว ท่านเจ้าคุณพระครูกิตตินนทคุณ วัดบางจาก พระครูปลัดสุริยา ค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P5040852.JPG
      P5040852.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.9 MB
      เปิดดู:
      42
    • P5040862.JPG
      P5040862.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.8 MB
      เปิดดู:
      57
    • a2.jpg
      a2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      251.4 KB
      เปิดดู:
      50
    • P5040859.JPG
      P5040859.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.9 MB
      เปิดดู:
      55
    • a4.jpg
      a4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      378.4 KB
      เปิดดู:
      58
    • P5040868.JPG
      P5040868.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.9 MB
      เปิดดู:
      104
    • a1.jpg
      a1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      74
    • P5040849.JPG
      P5040849.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2 MB
      เปิดดู:
      38
    • a3.jpg
      a3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      246.5 KB
      เปิดดู:
      38
    • a.jpg
      a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      311.1 KB
      เปิดดู:
      42
    • P5040857.JPG
      P5040857.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.1 MB
      เปิดดู:
      60
  10. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    มันเป็นเรื่องราวที่ยากเกินจะชี้แจงกันได้ อยู่ที่การสืบประวัติและข้อเท็จจริงว่ามันเรื่องราวที่มันแท้จริงประการใด อยู่ที่องค์ประกอบและหลักฐานและผู้ที่ร่วมรู้เห็นโดยเฉพาะชาวบ้านในยุคที่ทันโดยไม่มีในเรื่องของผลประโยชน์แอบแฝงว่ามันจริงหรือไม่ จากการสืบทราบหาข้อเท็จจริงบางอย่างนั้นผมไม่อาจจะกล่าวได้เพราะมันเป็นเรื่องของผลประโยชน์ที่เข้ามา เอาไว้คุยกันนอกรอบดีกว่านะครับจะได้เข้าใจ...
     
  11. รอดป่อง

    รอดป่อง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2013
    โพสต์:
    292
    ค่าพลัง:
    +2,473
    ใหญ่ๆยิ่งใหญ่ยิ่งชอบครับอาจารย์แก้วสว่าง เพราะแขวนแล้วมันสะใจดีครับ สวยมากครับพิมพ์นี้
     
  12. naygood

    naygood เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,082
    ค่าพลัง:
    +7,245
    รู้สึกว่าลุงพรามณ์ แกก็รู้ที่มาของน้ำมันเจ้าตากนี้เหมือนกันครับ ผมเคยถามแก แกเล่าว่า เป็นน้ำมันผีและชี้ไปที่จุดที่ลุงแมงพบบริเวณหลังโบส ลุงพรามเป็นใคร ลุงพรามเป็นลูกหลานของหลวงพ่อแก้ว สมัยหนุ่มแกชอบเที่ยวเกเร จนหลวงปู่ทิมท่านจับสักยันต์ให้ จับแกบวชและห้ามแกสึก เป็นพี่ชายของพระ ย. หรือทิศ ย. ในปัจจุบัน ตัวละครในนิทานเรื่องนี้ และคนที่ทำกับข้าวให้หลวงปู่ ก็คือลุงพราม หลวงปู่ชอบฉันอะไร แกรู้ดีที่สุด คนใกล้ชิดบีบนวดให้หลวงปู่ก็แกอีกนั่นแหละ แปลกไหมครับที่ชื่อนี้ไม่คุ้นหูหลายๆคน เพราะว่าแกไม่เอาด้วยกับพวกปลอมพระขายหนะครับ ลูกศิษหลวงปู่ต้องมีสัจจะไม่หากินกับชื่ออาจารย์ ครับถ้านอกเหนือจากนี้ไม่ใช่ของจริง และหลวงปู่เป็นพระเคร่งวินัย ที่จะให้ท่านไปเบียดเบียนผี ไปหลอกลวงชาวบ้านไปให้คนเอาหินปาแกล้งทำผีหลอกช่วบ้านจะเป็นไปได้หรอครับ และน้ำมันที่ลุงแมงขุดพบนั้นไม่ได้มีกลิ่นหอมอย่างที่ว่าเลยครับ ลุงพรามแกบอกว้าเหม็นบรรลัยเลย ก็น้ำมันเน่าของคนที่ปล่อยของอ่าครับ เอาของมาฝังไว้หลังโบส เพราะไม่ต้องการให้ใครมาพบ แต่ก็นะ นักธุระกิจนี่ครับ เห็นอะไรเป็นเงินเป็นทองไปหมด เสริมแต่งจนเป็นของดีแล้วก็เอามาเป็นจุดชูโรง พูดเยอะไปไหมเนี่ยผม ไม่ได้ว่าใครนะความคิดส่วนตัวสุดๆครับ
     
  13. kengnaja

    kengnaja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,961
    ค่าพลัง:
    +16,850
    สวัสดีครับพี่นาย วันนั้นได้ของดีลุงพรามห์ไปผมเอาไปต่อเรียบร้อยแล้วครับ สีที่ออกมาโดนใจวัยรุ่นมั๊กๆ^^
    [​IMG]
     
  14. buakaew2007

    buakaew2007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,410
    ค่าพลัง:
    +6,221
    กราบหลวงปู่ทิมครับ

    ในฐานะที่เป็นคนอยุธยา และคุ้นเคยกับวัดสะแกพอสมควร
    อยากจะบอกว่าเรื่องที่เขียนกันไว้ที่เกี่ยวเนื่องกับหลวงปู่ดู่นั้น
    นิยายเรื่องยาวครับ
    ขอรับรองด้วยเกียรติของคนกรุงเก่าครับ
    ส่วนขวดน้ำมันก็นิยายตามที่มีผู้เขียนบอกไว้ข้างต้นนะครับ
    เงินทำให้คนกลายเป็นหมาได้ครับ
     
  15. ครุฑยุดนาค

    ครุฑยุดนาค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,914
    ค่าพลัง:
    +7,212
    55555..ขอโทษทีพี่..เห็นแล้วอดไม่ได้จริงๆ:cool::cool::cool:
     
  16. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    ก่อนจะลุกก็ต้องผ่านซึ่ง..การล้ม
    ก่อนจะคมก็ต้องผ่านซึ่ง..การทื่อ
    ก่อนจะเก่งก็ต้องผ่านการ..ฝึกปรือ
    ก่อนจะมีชื่อ ก็ต้องผ่านการ..ฝึกตน
    การเป็นคนต้องรักษาไว้ซึ่ง.."ความดี"


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤษภาคม 2013
  17. kengeg

    kengeg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2009
    โพสต์:
    1,735
    ค่าพลัง:
    +7,227
    กราบหลวงปู่ทิม , ลุงสาย แก้วสว่าง
    สวัสดียามเช้าทุกๆท่านครับ
    ดูแล้วเข้มขลังมากครับ:cool::cool::cool::cool::cool::cool:
     
  18. เม่นจัง

    เม่นจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    370
    ค่าพลัง:
    +401
    :cool::cool::cool::cool::cool::cool:
     
  19. KIRATI_99

    KIRATI_99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1,035
    ค่าพลัง:
    +842
    ผมอ่านตอนแรกๆก็พอเคลิ้มๆจะเชื่อน่ะ แต่พออ่านมาถึง ตอนที่ต้องนำหินมาขว้างให้ชาวบ้านตกใจกลัว และทำอะไรแบบนี้ ผมว่าจะผิดพระวินัยถึงแม้จะให้คนอื่นเป็นคนทำก็ตาม และยิ่งไม่อยากจะเชื่อว่าหลวงปู่ทิมจะเป็นคนทำกิจลักษณะแบบนี้เพราะในเมื่อหลวงปู่มีวิชาและพลังจิตสมาธิที่กล้าแกล่งสามารถจะกำหนดจิตให้วัตถุมงคลนั้นๆมีพลังงานที่เข้มขลังแล้วใยต้องทำการในลักษณะนี้ (ตามความเชื่อส่วนตัวน่ะครับ) ผมก็เลยอยากถามผู้รู้ในกระทู้นี้ว่าจริงเท็จประการใดเกี่ยวกับการทำน้ำมันพรายนี้น่ะครับ จนพี่ naygood ได้มาบอกทำความเข้าใจให้กระจ่าง ขอบพระคุณยิ่งครั
     
  20. KIRATI_99

    KIRATI_99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1,035
    ค่าพลัง:
    +842
    กราบขอบพระคุณในคำชี้แจง แต่ผมพอจะเข้าใจในสิ่งที่ อ.แก้วสว่าง บอกมา สุดท้ายก็มีแต่ผลประโยชน์เพื่อหากินกันทั้งนั้น นิยายเอาไว้เล่าให้เด็กฟัง...สงสารเด็กยุคหลังเราจะหาความจริงได้จากไหนเนี่ย
     

แชร์หน้านี้

Loading...