ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกุศลกับคุณน้ำฝนทั้งหมดทั้งมวลด้วยค่ะ ที่ได้สละพระศรีอารียเมตไตรย หน้าตัก ๙ นิ้ว เพื่อร่วมเป็นบริวารกฐิน วัดพระพุทธบาทห้วยทรายขาว ปี ๒๕๕๖ นี้

ขอให้เจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปค่ะ

Numsai

 

อนุโมทนาบุญก้วยนะครับ ขออำนาจบารมีของพระพุทธเจ้าได้โปรดประทานพร
ให้คุณ moom สำเร็จพระโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตกาลตามที่ปรารถนานะครับ สาธุ สาธุ

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ครับ
ขออำนาจบารมีของพระพุทธเจ้าได้โปรดประทานพร ให้มีแต่ความคล่องตัวทุกประการครับ สาธุ สาธุ

ขออนุโมทนากับพี่น้ำฝนด้วยนะครับ ขออำนาจบารมีพระพุทธเจ้าได้โปรดประทานพรให้สมปรารถนาทุกประการทั้งทางโลกและทางธรรมด้วยเถิด สาธุ สาธุ

ยิ่งอ่านยิ่งดีใจนะครับ น่าปลื้มใจมาก จริงๆครับ
ของกายสิทธิ์เป็นสิ่งที่รักที่ชอบใจ แต่ก็สละได่เพื่อพระพุทธศาสนา ความดีสิ่งนี้น่าโมทนาสาธุมากครับ
ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยอันประเสริฐ ได้โปรดประทานพรให้ทุกท่านสมหวังทุกประการ ทั้งทางโลกและทางธรรม
ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเถิด สาธุ สาธุ

 

โอนเงินประมูลอุณาโลม จำนวน 3,000 บาท
เวลา 19:03:06 น.เรียบร้อยแล้วครับพี่

 

มีความสุขทุกครั้งที่ได้เข้ากระทู้ เหมือนเป็นแหล่งชาจพลังงาน กระตุ้นให้เกิดความปิติใจ ปลื้มใจ ในการร่วมอนุโมทนาบุญ
ทั้งหมดทั้งมวลกับทุกๆ ท่าน ที่สั่งสมบุญบารมีกันแบบไม่รู้จักเหน็ด เหนื่อย...ขอให้ได้รับกุศลผลบุญ กันแบบตั้งรับไม่ทัน นะคะ
สาธุ สาธุ สาธุ

 

กราบขอบคุณและอนุโมทนาบุญ กับกัลยานมิตรทุกท่าน ที่ได้ร่วมบุญ
ในกองผ้าป่ากองน้อยๆของพวกเรา ทำให้งานนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยความปลื้มปิติและอิ่มเอมใจ

--- ยอดเงินที่ได้จากกัลยานมิตร 125,723.16 บาท
--- ยอดเงินที่ได้จากชาวบ้านที่นำผ้าป่ากองน้อยๆมาร่วมบุญด้วย 14,276 บาท​

*** เป็นที่ประหลาดใจ ของชาวบ้าน หลังจากที่มีการประกาศยอดเงินแล้ว มีชาวบ้านสงสัยและตะโกนถามว่า ยอดสิบหกสตางค์นั้นมาจากไหนและมาได้อย่างไรเพราะปกติจะมีแต่เศษยี่สิบห้าสตางค์ พี่น้ำใสจึงตอบไปว่า เป็นเงินที่มีผู้ร่วมบุญโอนมาจากกรุงเทพ พวกเราได้แต่นั่งอมยิ้ม รู้ทันที่ว่ามาได้อย่างไร ใช่ไหมเจ้าคะท่าน widya อิอิ

 

สาธุ สาธุ สาธุ
ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับทุก ๆ บุญ เช่นกันครับ

 

สาธุ สาธุ สาธุ
ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับทุก ๆ บุญ ด้วยครับ

 

ขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ประมูลธาตุกายสิทธิ์ได้ในครั้งนี้ และที่สำคัญที่สุด...ขออนุโมทนาบุญกับท่าน widya ที่ถวายจักรแก้วคู่บารมี(สีขาว-ชมพู) และกริซสีขาว
คุณน้ำใส และคุณ vatechayana เจ้าภาพถวายจักรสีเหลือง ๑ คู่
คุณ sun2555 ถวายดวงแก้วมณี ขนาด ๑๐ กว่ากก.
คุณ mooom ถวายพระขรรค์สีชมพู
คุณน้ำฝน (NamfonBaanfa)ถวายพระศรีอาริยเมตตรัย ปางจักรพรรดิ หน้าตัก ๙ นิ้ว
คุณ pizza4g ถวายองค์ตรีศูรย์สีขาว รวมทั้งคุณ Phuya คุณธรรมวิวัฒน์ และท่านอื่นๆที่มีเจตนาอันบริสุทธิ์ในมหากุศลที่ยิ่งใหญ่ทุกท่าน เพื่อมอบในงานกฐิน วัดพระพุทธบาทห้วยทรายขาว จ.ลำพูนในปี ๒๕๕๖ ครั้งนี้ ขอคุณความดีทั้งปวง รวมทั้งอำนาจแห่งพระไตรรัตน์ ได้โปรดประทานพรให้ทุกท่าน จงสมหวัง สำเร็จในสิ่งที่ทุกท่านปรารถนา ทั้งทางโลกและทางธรรม ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน โดยพลันด้วยเถิด ขออนุโมทนาบุญอย่างยิ่ง สาธุ สาธุ สาธุ

 

​

​

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณ phuya ที่จัดเรียงภาพด้วยความสวยงามให้พวกเราได้ระ
กถึงบุญได้ง่ายค่ะ

และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่มีส่วนในบุญครั้งนี้ด้วยค่ะ
Numsai

 

..ขอบารมีพระพุทธเจ้าบนพระนิพพาน

ก่อนอื่นต้องขอเล่าย้อนจากในภาพ หลังจากพวกเราได้ทำความสะอาดห้องพัก และขัดห้องน้ำแล้ว จากนั้นก็อาบน้ำทานข้าวเย็นเสร็จแล้ว

ดิฉันเห็นว่า ยังไม่ดึกมากนักจึงชวนน้อง ๆฝึกมโนมยิทธิกันในแบบของเรา
มีคุณ phuya คุณ paktrawadee คุณจันทรกาล

เนื่องจากทุกท่านเคยผ่านการฝึกมโนมยิทธิกันมาแล้ว จึงไม่ยากนักที่จะไปพระะนิพพานเป็นแห่งแรก เหตุที่ไปพระนิพพานก่อนที่อื่นนั้น เพื่ออาศัยความสว่าง ความบริสุทธิ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เมื่อพวกเราปรากฏต่อหน้าพระพักตร์ของสมเด็จองค์ปัจจุบันพระอัครสาวกซ้าย-ขวา สมเด็จองค์ปัจจุบันท่านได้โมทนาบุญกับพวกเราด้วยค่ะ

จากนั้นเราได้ขอขมาพระพุทธเจ้า และพระอริยสงฆ์ทั้งปวง และสอบถามบางเรื่อง ในรอบนี้บุตรสาวของดิฉันได้ไปด้วย จากนั้นได้ถอยกำลังสมาธิออกมา รอบแรก

 

..กราบเท้าสักกเทวราช และพระมเหสี ตลอดทั้งพ่อแม่ในอดีต..

เหตุที่ต้องถอยออกมาก่อน เนื่องจากช่วงแรกใช้เวลาในการสอบถามนาน เกรงว่าจะใช้กำลังมากเกินไป และต้องการให้ท่านที่ร่วมฝึกได้สอบถามและ ำควทำความเข้าใจ
เนื่องจากภาพที่เห็นตอนขึ้นพระนิพพาน แต่ละท่านมาคนละทาง ยกเว้นน้องหนูดี ที่ปรากฏต่อหน้าพระองค์ท่าน จากนั้นจึงได้ขอบารมีพระ ไปเฝ้าท่านท้าวสักกเทวราช และพระมเหสีหน้าแท่นบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์

ท้าวสักกเทวราชได้โมทนาบุญ สนทนากันพอควร พวกเราได้กราบพ่อแม่ในอดีตจำนวนมาก โดยแยกกายเท่ากับจำนวนพ่อแม่ และครูบาอาจารย์ในอดีต
ดิฉันได้พบท่านโภคะ ท่านบอกว่า.."ขอให้ไปเยี่ยมท่านอัสดรบ้างนะ ท่านบอกว่า ตั้งแต่พ่อเคลื่อนภพ ไม่ยอมไปภพพญานาคเลย"

จึงได้รับปากท่าน ในรายละเอียดของท่านอื่น
ขอให้เจ้าตัวมาเล่าความรู้สึกเองค่ะ

จากนั้นพวกเราได้ลากลับ และ ท้าวสักกเทวราชบอกให้ไปาำนักพระยายมราช

ดิฉันเห็นว่า ทุกท่านใช้กำลังใจสูงจึงได้ให้ออกจากสมาธิรอบสอง..

หมายเหตุ เท่าที่สอบถามมีบางท่านไม่เคยไปสำนักพระยายมราช อาจจะรู้สึกไม่ดี หรือไม่ทันตั้งตัว จึงให้ออกจากสมาธิมาก่อน เพื่อความเข้าใจ และเตรียมใจ

 

..พระพุทธเจ้า ๓ พระองค์ปรากฏ..

เมื่อทุกท่านมีอารมณ์ผ่อนคลายแล้ว จึงได้เริ่มรอบ ๓ ต่อไป

การฝึกเริ่มแต่ละครั้ง ดิฉันจะพาอาราธนาบารมีพระ ไปปรากฏบนวิมานของสมเด็จองค์ปัจจุบัน
คราวนี้ทุกท่านคุ้นเคยปรากฏที่เดียวกัน พบตรงกันว่า มีแสงสว่างจ้าไม่มีประมาณ พบว่า มีพระพุทธเจ้า ๓ พระองค์ปรากฏตรงหน้าพวกเรา

โปรดติดตามต่อไปพรุ่งนี้ค่ะ เนื่องจากเรื่องยาวมากค่ะ_______________________________________________________
(ต่อจากเมื่อวาน)

เมื่อพบแสงสว่างตรงหน้า จึงได้ถามท่านผู้ฝึกว่า เห็นอะไรตรงหน้า คุณ phuya คุณจันทรกาล พูดตรงกันว่า..

"เห็นแสงสว่างมากกว่าเดิมมากค่ะ"

จึงได้ถามน้องหนูดีว่า .."น้องหนูดีเห็นอย่างไร"

(ในการฝึกดิฉันจะไม่มีการพูดนำว่า มีอะไรบ้าง เพื่อให้ผู้ฝึกได้ฝึกด้วยตนเอง จำเป็นต้องให้ผู้ฝึกบอกเอง ทุกครั้งจะทราบว่า ผู้ใดไปได้จริงหรือไม่ไปไม่ได้ จะเห็นทันที เพียงแต่ไม่พูด หากมีผู้ใดยังไปไม่ได้ จะให้อธิษฐานขอบารมีพระอีกครั้ง เพื่อให้ปรากฏในสถานที่นัดกันไว้ค่ะ)

น้องหนูดีบอกว่า "เห็นพระพุทธเจ้า ๓ พระองค์"

ได้ถามอีกสองท่านว่า สามพระองค์นั้น มีท่านใดบ้าง คุณ phuya บอกว่า...

"รู้สึกมีสมเด็จองค์ปฐมด้วย"

จึงถามตอบว่า "ใช่ค่ะ มีสมเด็จองค์ปฐมอยู่ตรงกลาง มีสมเด็จองค์ปัจจุบัน และอีกพระองค์หนึ่งเป็นพระองค์ใดคะ"


จึงหันไปถามน้องหนูดีว่า.."น้องหนูดี ขอบารมีพระถามว่า เป็นพระองค์ใด"

น้องหนูดีตอบว่า "พระพุทธกัสสปค่ะ" จึงตอบว่า

"ถูกต้องจ๊ะ เป็นสมเด็จพระพุทธกัสสป พวกเรากราบพร้อมกันนะคะ ขอขมาพระองค์ท่านทั้ง ๓ แล้วถวายบุญแก่ท่าน และอนุโมทนาบุญกับพระองค์ท่าน พร้อมกันค่ะ"
__________________________________________________

บุพกรรมของสมเด็จองค์ปฐมในอดีต​

เมื่อพวกเรากราบพระพุทธองค์ทั้ง ๓ แล้ว สมเด็จองค์ปฐมตรัสว่า...


"เราขออนุโมทนาในบุญกุศลของพวกเธอด้วยนะ ที่ตั้งใจกระทำอย่างเต็มแรงกายแรงใจ จนงานสำเร็จได้ด้วยดี สมัยที่เราบำเพ็ญบารมีเราก็ทำเช่นนั้นเหมือนกัน การตั้งใจทำงานบุญด้วยจิตบริสุทธิ์ และทำอย่างเต็มกำลัง ไม่บ่นเมื่อเหนื่อยยากจากงานบุญนั้น ส่งผลให้เป็นผู้ที่มีลาภมากในอนาคตกาล

ในอดีต เราเคยเกิดเป็นคนยากจน เป็นลูกจ้างช่างไม้คนหนึ่ง ได้เดินทางผ่านป่ามา พบว่า มีพระดาบส ๕ รูปนั่งบำเพ็ญภาวนาอยู่ จึงได้ปรารถนาที่จะนำน้ำอ้อยมาถวายแด่พระดาบสทั้ง ๕ รูปนั้น

จึงได้ตั้งความปรารถนาอยากมีทรัพย์ เพื่อนำไปซื้อน้ำอ้อย ในสมัยนั้นข้าวยากหมากแพง กว่าสมัยนี้มาก เนื่องจากเพิ่งผ่านภัยพิบัติแล้งมาไม่นาน เงินทองหายากมาก

อีกทั้งค่าจ้างก็เพียงพอต่อการดำรงชีพ แต่ไม่เหลือจะซื้อน้ำอ้อย จึงได้ขอนายช่างไม้ ช่วยไสไม้ให้ฟรี โดยไม่คิดค่าจ้าง แต่ขอขี้เลื่อยที่นายช่างไม้ทิ้ง นำไปขายให้คนเผาถ่าน เพื่อได้อัฐนั้นไปซื้อน้ำอ้อย

เวลานั้นน้ำอ้อยมีราคาแพงมาก จึงต้องทำงานมากกว่าเดิมเป็นพิเศษ ขี้เลื่อยนั้นกว่าจะได้จำนวนมากต้องใช้ความพยายามอย่างสูง กว่าจะได้เพียงพอที่จะซื้อน้ำอ้อย

ผู้คนที่พบเห็นต่างก็เห็นว่า เราโง่ ไม่รู้จะทนลำบากเอาขี้เลื่อยไปทำไม แต่เรามิได้บอกความปรารถนาแก่คนเหล่านั้น

จากนั้นเราได้แบกกระสอบขี้เลื่อยขนาดใหญ่ไปยังเรือนเศรษฐีในเมืองนั้นขายขี้เลื่อยแก่ผู้ทำหน้าที่เผาถ่านไว้ใช้ทำอาหาร เขาดีใจมาก เพราะไม่ต้องไปซื้อที่อื่น จึงบอกว่า หากมีอีกให้นำมาขายให้เขา ใช้เวลา ๑๓ วันจึงรวบรวมขี้เลื่อยเพียงพอที่จะซื้อน้ำอ้อย ๕ กระบอกใหญ่ (สมัยก่อนใช้กระบอกไม้ไผ่ บรรจุของที่เป็นน้ำ)

จากนั้น จึงได้ขออนุญาตนายช่างเดินทางเข้าป่า เพื่อนำน้ำอ้อย ๕ กระบอก ถวายแด่พระดาบส ๕ ทาน ท่านเหล่านั้นนั่งหลับตานิ่ง เรานั่งรอจนท่านลืมตา เมื่อเราถวายน้ำอ้อย ท่านก็นำไปดื่มอย่างเงียบ ๆ

ท่านที่เป็นหัวหน้าพระดาบสกล่าวว่า.. "ผู้ให้กำลังแก่สมณะพราหมณ์นั้น ได้ชื่อว่า เป็นผู้มีพลอันประเสริฐ ท่านหาทรัพย์มาได้ด้วยความยากลำบาก แต่เป็นไปด้วยจิตบริสุทธิ์ ผลความดีนั้นจะส่งผลให้ท่านเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในอนาคต ขอจงรักษาความดีนั้นต่อไปนะ"

พระดาบสองค์ที่ ๒ กล่าวว่า..
"หลังจากนี้เจ้าจงไปลาออกจากการเป็นลูกจ้างช่างไม้ แล้วเดินทางไปทางทิศตะวันออก จะได้ดี"

จากนั้นท่านทั้ง ๕ ก็เหาะไปในอากาศ เราปิติใจมาก ภายหลังเราได้ทำตามพระดาบสบอกทุกประการ ปรากฏว่า เมืองที่เรามุ่งหน้าไปขาดกษัตริย์ปกครองเมือง

อยู่ ๆ ราชรถก็มาปรากฏขึ้น ให้เราอภิเษกกับพระธิดาของกษัตริย์เมืองนั้น และปกครองเมืองด้วยความร่มเย็นเป็นสุขจนสิ้นอายุขัย

นั้นเป็นการทำบุญนอกเขตพระพุทธศาสนา ยังมีผลเพียงนั้น ขอจงตั้งใจทำอย่างเต็มกำลังไม่บ่น ผลบุญจะปรากฏเต็มที่..."

เมื่อพระพุทธองค์ตรัสจบ พวกเราได้ก้มกราบทั้ง ๓ พระองค์อีกครั้ง

มีต่อ...

 

..บุพกรรมในอดีตของสมเด็จพระพุทธกัสสปพุทธเจ้า..ผู้มีลาภมาก..

ต่อมาสมเด็จพระพุทธกัสสปพุทธเจ้า ทรงตรัสว่า..

"ฉันจะเล่าบุพกรรมแต่อดีตส่งผลให้ฉันมีลาภมากให้แก่พวกเธอฟัง"

ในอดีต สมัยสมเด็จพระโลกุตตระพุทธเจ้า ฉันเกิดเป็นขอทานยากจนมาก นามว่า "ทุคตยาจก"
มีภรรยา และบุตรชาย ๑ คน เมื่อทราบว่า มีพระพุทธเจ้าบังเกิดขึ้นในโลก และกษัตริย์ในเมืองนั้น ได้อาราธนาพระพุทธเจ้ามาที่เมืองที่ฉันอยู่ อีก ๓ เดือนข้างหน้า เนื่องจากช่วงนั้นเป็นช่วงเข้าพรรษา พระพุทธองค์จะเสด็จหลังออกพรรษา

ฉันมีความปรารถนาที่จะถวายทานกับพระพุทธเจ้าเท่าที่ตนเองมี ปกติฉันจะแบ่งทรัพย์นั้น ๓ ส่วนคือ ส่วนของฉัน ๑ ส่วนของภรรยาและลูก ๑ อีกส่วนหนึ่ง เก็บไว้เพื่อเวลาเจ็บไข้จะได้รักษาโรค

ฉันได้พยายามกินน้อยลง หรือแม้บางครั้งก็ยอมอดข้าว เพื่อเก็บเงินนั้นไว้ ซื้อของที่จะถวายทาน

เมื่อครบ ๓ เดือนจึงสามารถ ซื้อน้ำผึ้งได้ ๑ ขวดจากชาวป่าคนหนึ่ง ซึ่งมีราคาสูง เนื่องจากชาวป่านั้นตั้งใจจะขายน้ำผึ้งแก่คนมีเงิน

เหตุที่ฉันคิดซื้อน้ำผึ้ง ฉันคิดว่า หากทำเป็นอาหารจะได้เพียงมื้อเดียว แต่ว่า น้ำผึ้งท่านสามารถผสมน้ำ ถวายทานแก่พระสาวกได้อีกหลายองค์ อย่างน้อยช่วยดับกระหาย เหลือเงินนิดหน่อยพอซื้อเข็มและด้าย

เมื่อถึงเวลาราชบุรุษของทางการได้ป่าวประกาศว่า พระพุทธเจ้าเสด็จแล้ว จึงพาภรรยา และบุตรชายไปถวายของแก่พระพุทธเจ้า

เดิมทีพวกราชบุรุษจะไม่ให้เข้า เนื่องจากพวกเราใส่เสื้อผ้าขาด ๆ ยากจน และเป็นขอทาน แต่สมเด็จพระจอมไตรบอกให้เข้าเฝ้า

บรรดากษัตริย์ และเศรษฐีเหล่านั้น ก็รู้สึกแปลกใจ ฉันได้ถวายน้ำผึ้ง เข็มและด้ายแก่พระพุทธองค์แล้ว

พระบรมโลกนาถได้ตรัสแก่ฉันว่า..

"ยาจกผู้นี้ เป็นผู้ที่มีความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ ต่อไปจะได้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า พระองค์หนึ่งในอนาคตกาลเบื้องหน้า"

เป็นพุทธพยากรณ์ครั้งแรกที่ฉันได้รับ จากนั้น พระพุทธองค์ได้ทรงแจกน้ำผึ้งที่ฉันถวายเพียงขวดเดียวแก่พระภิกษุทั้งหลายทั้ง ๒๐๐,๐๐๐ รูป

ปรากฏว่า ได้รับการถวายน้ำผึ้งทุกรูป อย่างน่าอัศจรรย์

เป็นสิ่งที่ฉันปลื้มปิติใจอย่างมาก กษัตริย์ เศรษฐี และชาวเมืองทั้งหลาย ต่างโมทนาสาธุการในการบำเพ็ญกุศลครั้งนั้น ภรรยา และบุตรของฉันได้ปรารถนาจะติดตามฉันให้ถึงที่สุดแห่งธรรม

ปรากฏว่า มีเศรษฐีท่านหนึ่ง ภรรยาเสียชีวิต และไม่มีผู้สืบสกุล ได้ประกาศต่อหน้าพระพักตร์ว่า..

"ข้าฯแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ข้าฯพระองค์ แก่ชรามากแล้ว และยังไม่มีผู้สืบสกุล ข้าฯพระองค์ ขอยกทรัพย์สมบัติแก่ชายผู้นี้ทั้งหมด

ขอพระองค์โปรดทรงเป็นสักขีพยานในการสละทรัพย์ของข้าฯพระองค์ด้วยเถิด"

สมเด็จพระจอมไตรตรัสว่า "สุมนเศรษฐีนั้น ไปภายภาคหน้าจะได้เป็นบิดาแห่งยาจกผู้นี้ จนถึงชาติสุดท้ายที่สำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

และเราขอมอบนามใหม่แก่ยาจกผู้นี้ว่า สุคตเศรษฐี นับแต่นี้ไป.."



เมื่อพระพุทธองค์ตรัสจบ มนุษย์และเทวดาต่างแซ่ซ้องสรรเสริญ ในชาตินั้น ฉันได้นำทรัพย์ของท่านสุมนเศรษฐีจัดเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารทุกวัน ตลอดระยะที่พระองค์ และพระสาวกอยู่ที่เมืองนั้น

และได้ดูแลท่านสุมนเศรษฐีดุจบิดาบังเกิดเกล้า ทำให้กิจการค้าของท่านเศรษฐีเจริญรุ่งเรือง วาระสุดท้ายของท่าน ฉันได้สร้างวัดให้ท่าน เพื่อเป็นการสร้างวิหารทาน

เหตุนี้ทำให้ฉันเป็นผู้มีลาภมากในทุกชาตินับแต่นั้นมา ฉันขอโมทนาสาธุการแก่พวกเธอที่ตั้งใจบำรุงพระศาสนาของพระพุทธสมณโคดมด้วยนะ"


เมื่อพระพุทธองค์ตรัสจบ จึงได้กราบลาทั้ง ๓ พระองค์ เป็นอันว่า แล้วออกจากสมาธิ รอบสามก็ยังไม่ได้ไปสำนักพระยายมราชแต่อย่างใด

 

ตรีศูรย์ที่จะนำมาร่วมมหาทานมหากุศลในครั้งนี้ครับ

ที่มาของกายสิทธิ์นี้แค่ทราบมาว่ามาจากพระสุปฏิปันโนทางเหนือ แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดประการอื่นๆครับ ตอนที่นำมาถ่ายรูปมีความรู้สึกผูกพันธ์จนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ขอมหากุศลแห่งพุทธทานในครั้งนี้จงบังเกิดพึงมีแก่ทุกท่านและทุกๆดวงจิตดวงธรรมด้วยเถิด _/\_

 

ขออนุโมทนาด้วยครับ

 

สวัสดีดีครับ คุณน้ำใส และชาวเมืองทุกท่าน..

ขอความช่วยเหลือครับผม..
ใกล้จะครบรอบวันเกิด (19 มิ.ย.) จึงได้ฝากเงินให้พี่ที่กลับเมืองไทย เพื่อทำบุญสร้างสมเด็จองค์ปฐม 21 ศอก วัดหนองเก่า จ.กาญจนบุรี และบริจาคเงินสมทบ “มูลนิธิศรีรัตนโกสินทร์” เพื่อผู้ป่วยที่ฟอกไต..ยังเหลืออีกหนึ่งรายการ คือ

จำได้ว่า คุณน้ำใส แจ้งเรื่องทำบุญสร้างสมเด็จองค์ปฐม 21 ศอกและบุญทุกอย่าง..
ณ วัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี บัญชี ธนาคาร กรุงไทย สาขาทองผาภูมิ เลขที่ 718 -1-25502-9
แต่ปรากฏว่า ไม่สามารถโอนได้ เพราะบัญชีไม่มีการเคลื่อนไหว...

ผมค้นเจอบัญชี ธนาคารกรุงไทย สาขาทองผาภูมิ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ ๗๑๘ - ๑ - ๑๘๑๕๕ - ๖
ชื่อบัญชี พระครูวิลาศกาญจนธรรม (เล็ก เพชรชื่นสกุล). ไม่ทราบว่าโอนเข้าบัญชีนี้ได้ไหมครับ..มีท่านใดพอทราบบ้างครับ..

ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ..

 

..เหตุเกิดที่สำนักพระยายมราช-พระพุทธเมตตาไม่มีประมาณ...

หลังจากที่พวกเราได้กราบลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๓ พระองค์แล้ว ต่างก็ได้เล่าประสบการณ์ที่ตนเองสัมผัสได้ด้วยความปิติใจ จากนั้นดิฉันได้บอกว่า...

"พวกเรามัวแต่คุยเพลิน ลืมไปเลยว่า ท่านพระอินทร์ให้เราไปที่สำนักพระยายมราช ก่อนไปสำนักพระยายมราช

ขอให้ทุกท่านกำหนดจิตไปที่วิมานของสมเด็จองค์ปัจจุบัน เพื่อขอบารมีของพระพุทธองค์นะคะ หากจิตไม่สงบให้ภาวนานะมะ -พะธะก่อนนะคะ ภาวนาไปเรื่อย ๆ จากนั้นขออาราธนาบารมีพระ ให้ปรากฏต่อหน้าสมเด็จองค์ปัจจุบัน"

ขณะนั้นมีผู้มาบอกว่า การไปสำนักพระยายมคราวนี้ เป็นเรื่องของน้องหนูดีโดยตรง พวกเราอีก ๓ คนนั้น เป็นเพียงพยานเท่านั้น ดิฉันจึงกล่าวแก่ทุกคนว่า.

"ไปสำนักพระยายมราชคราวนี้ รู้สึกว่า เป็นเรื่องของน้องหนูดีโดยตรงนะ เราไปกัน กำหนดจิตไปพระนิพพานที่วิมานสมเด็จองค์ปัจจุบันก่อนนะคะ"

จากนั้นพวกเราต่างเข้าสมาธิภาวนาและไปปรากฏต่อหน้าพระพักตร์ทันที คราวนี้ภาพที่เห็นไม่มีพระอัครสาวก และพระอสีติมหาสาวกแต่อย่างใด พบว่า สมเด็จองค์ปัจจุบันอยู่เพียงลำพังพระองค์เดียว



____________________________________________

พวกเราได้ไปกราบพระพุทธองค์ พระพุทธองค์ตรัสว่า...

"เราจะพาพวกเธอไปที่สำนักพระยายมราชเองนะ"
จากนั้นพวกเราก็ไปปรากฏอยู่ข้าง ๆ ท่านสุวรรณ วันนี้สำนักพระยายมราชสว่างไสวเป็นพิเศษ เนื่องจากสมเด็จองค์ปัจจุบัน ได้เสด็จมาเอง ดิฉันได้สอบถามว่า..

"ภาพที่เห็นต่างจากบนพระนิพพานหรือสวรรค์หรือไม่คะ"
ทุกท่านที่ไปก็ตอบพร้อมกันว่า "ไม่เหมือนค่ะ"

คุณ phuya ตอบว่า "รู้สึกอึดอัด เหม็นสาบไม่โปร่งเหมือนอยู่พระนิพพานเลย"

ดิฉันจึงขอประทานอนุญาตจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในการอธิบายแก่ผู้ฝึกทุกท่านว่า..

"แดนนี้คือ สำนักพระยายมราช เป็นที่พิพากษาของเหล่ามนุษย์และวิญญาณทั้งหลาย บรรยากาศจะไม่เหมือนสวรรค์ จึงไม่ให้น้องแพรร่วมฝึกด้วย เพราะเด็กอาจจะเห็นภาพไม่ดีติดตา..

ตรงกลางจะเป็นที่สำหรับท่านพระยายมราช เวลานี้พระองค์ยังไม่เสด็จมา ให้รอก่อน ที่ที่พวกเราอยู่นี้คือ ที่ของท่านสุวรรณนายบัญชีฝ่ายบุญ ส่วนตรงกันข้าม เป็นที่ของท่านสุวาร นายบัญชีฝ่ายบาปอกุศลค่ะ

วันนี้ยังไม่รู้ว่า มาทำอะไรเหมือนกัน พวกเรารอดูก่อนนะคะ"


จากนั้นสักพักก็เห็นท่านพระยายมราชปรากฏขึ้นมา ทราบว่า ท่านให้น้องหนูดีไปยืนอยู่กลางลาน พร้อมเจ้าหน้าที่คอยดูแล ๒ ท่าน

จึงได้บอกแก่น้องหนูดีว่า... "น้องหนูดีคะ ท่านพระยายมราชให้น้องไปยืนกลางลาน วันนี้จะมีเจ้ากรรมของน้องมาค่ะ

ส่วนอีก ๒ ท่านกำหนดจิตอยู่ที่เดิมนะคะ วันนี้จะเป็นคดีความของน้องหนูดี พวกเราฟังเฉย ๆ ดูเป็นธรรมทาน หากท่านให้ทำอะไรค่อยทำต่อนะคะ"

ภาพขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังปรากฏอยู่เหนือแท่นพระยายมราช โดยระหว่างการพิพากษานั้น ท่านพระยายมราชและนายนิริยบาลที่ไม่มีหน้าที่จะประนมมืออยู่ตลอดเวลา

ท่านพระยายมราชตรัสว่า ..."นี้เป็นเจ้ากรรมของเจ้าทั้งหมดให้ดู"...
...มองเห็นภาพเจ้ากรรมของน้องหนูดีเต็มไปหมด เสียงอื้ออึงเกิดขึ้น และเห็นภาพเจ้ากรรมหลายท่าน พยายามจะกระโจนเข้ามาทำร้ายน้องหนูดี..เจ้าหน้าที่ที่ถือหอกดาบพยายามกันเอาไว้

เห็นภาพสมเด็จพระพุทธสมณโคดมลอยกลางอากาศ พร้อมยกมือประทานพร คล้ายกับแผ่เมตตา

_________________________________________

ขณะที่เจ้ากรรมพยายามกระโจนจะเข้าทำร้ายน้องหนูดี

ท่านพระยายมราชได้สั่งให้ทุกดวงจิตเงียบเสียง ทำให้สำนักพระยายมราชเงียบสงบอีกครั้ง จากนั้นท่านพระยายมราชอนุญาตให้เจ้ากรรม เบอร์ ๑ ของน้องหนูดี

ท่านเจ้ากรรมแต่งกายคล้ายนายทหารพม่า แล้วกล่าวว่า...

"เราทำอะไรให้เจ้า เจ้าถึงต้องทำกับเราด้วยไร้มนุษยธรรมเช่นนั้น

จึงถามท่านว่า "ท่านมีเรื่องใดหรือเจ้าคะ ขอให้โปรดให้ทราบด้วยเถิด"

ท่านจึงให้เห็นภาพการทรมานต่าง ๆ นานา จนรู้สึกสะเทือนใจ จึงกล่าวแก่น้องหนูดีด้วยเสียงเครียดว่า...

"น้องหนูดีจ๊ะ เห็นเจ้ากรรมหรือเปล่า ทำอย่างไรก็ได้ให้เจ้ากรรมอโหสิกรรมให้ที่เคยทำกรรมกับเขาไว้ อีกทั้งสองท่านแผ่เมตตานะคะ นึกถึงบุญที่ทำแล้วแผ่เมตตา"

เห็นภาพน้องหนูดีหันไปหาเจ้ากรรมท่านนั้น ท่านทำเหมือนไม่ยอมรับในการขออโหสิกรรม (ส่วนที่เหลือก็พยายามจะมาทำร้าย คล้าย ๆ ท่านผู้นี้เป็นหัวหน้า ส่วนคนอื่น ๆ เป็นลูกน้องเป็นกองทัพ)

สักพักเสียงต่าง ๆ ก็เงียบไป เนื่องจากท่านพระยายมราชได้เจรจาต่อรองให้ น้องหนูดีกล่าวว่า..

"ท่านมีนามว่าอะไร เราจะให้อุทิศบุญให้"

ท่านเจ้ากรรมผู้นั้นมิยอมบอก เพียงบอกว่า..

"นามอะไรหรือจะสำคัญกว่า การที่เจ้าสำนึกผิดที่กระทำต่อข้าฯ เยี่ยงสัตว์เดรัจฉาน ดุจข้าฯมิใช่มนุษย์ เจ้าทำให้ข้าฯสูญเสียทุกอย่าง แม้แต่ความเป็นมนุษย์ จิตใจเจ้าทำด้วยอะไร ช่างโหดร้ายนัก"

จึงบอกแก่น้องหนูดีว่า..."เวลาอุทิศบุญให้ระลึกถึงเจ้ากรรมท่านนี้ไว้ค่ะ ท่านไม่ต้องการให้ทราบชื่อ เพราะเราจะยึดติดในอดีต ชาติก่อนน้องเป็นชาย มิได้เป็นหญิง ไม่เห็นอดีตเป็นดีที่สุดค่ะ"ดิฉันได้กล่าวต่อไปว่า..

"หนูดี หากเป็นพี่ ๆ จะคุกเข่าก้มลงกราบในสิ่งที่เคยล่วงเกินท่านมา อดีตชาติมีความเป็นไทย-พม่าก็จริง แต่ชาตินี้เรื่องเหล่านั้นหมดไปแล้ว ไม่เหลือ เราจะแยกเขาแยกเราทำไม ท่านก็ดวงจิตหนึ่ง อ่อนน้อมเข้าไว้เป็นดีที่สุด"

ท่านพระยายมราชสั่งให้รวมบุญอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร รวมทั้งดิฉันและอีกสองท่าน จากนั้นเราเริ่มเห็นดวงจิตบางดวงเป็นสีทอง ลอยขึ้นจำนวนมาก เป็นระยะ ๆ บางท่านก็กลับไปใช้กรรมในนรกต่อ แต่จำนวนชาติลดลง ส่วนบางท่านไปจุติเป็นมนุษย์

ต่อมาท่านพระยายมราชได้ยุติการพิพากษาคดีความดังกล่าว พวกเราได้รวมบุญน้อมถวายแด่องค์สมเด็จพระพุทธสมณโคดมที่ทรงเมตตาพาพวกเรามาได้รู้เห็นความเป็นจริงของชีวิต และน้อมอุทิศบุญแด่ท่านพระยายมราช นายนิริยบาล และเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกดวงจิต

จากนั้นพวกเราก็กราบลาทุกท่าน และถอนออกจากสมาธิ

ผลบุญใดที่เกิดจากการให้ธรรมทานครั้งนี้ ขอน้อมถวายแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ โดยมีสมเด็จองค์ปฐมเป็นประธาน และพระพุทธสมณโคดมเป็นที่สุด

พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรมและพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทุกท่าน มีหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค พระราชพรหมยาน วัดท่าซุง และครูบาอาจารย์ที่มิได้เอ่ยนามก็ดี ตลอดทั้งครูอาจารย์ในสายพระฤาษี อันเป็นหลวงปู่เกษรีฤาษีเป็นต้น

ขอน้อมถวายแด่ท้าวสักกเทวราช พระมเหสีทั้ง ๔ ตลอดทั้งมเหสักข์เทพทุกองค์ ท้าวจาตุมหาราชทั้ง ๔ เทพยดาที่เกี่ยวเนื่องกับข้าพเจ้า และดวงแก้วมณีรัตนะทุก ๆ ดวง บิดามารดาในอดีตจนถึงปัจจุบัน โดยท่านอนันตกะเทวบุตร เป็นผู้บอกกล่าวบุญนี้

และน้อมถวายแด่ท่านพระยายมราช ท่านสุวรรณ ท่านสุวาร นายนิริยะบาล และขอทุกท่านได้โปรดเป็นพยานในการให้ธรรมทานครั้งนี้ด้วยเถิด สาธุ

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai

 

เท่าที่ทราบนะคะคุณ Sylvenus ...
พระอาจารย์เล็กท่านปิดบัญชีวัดท่าขนุนไปแล้วค่ะ
เนื่องจากติดขัดปัญหาบางประการ...
ท่านจึงเปิดบัญชีใหม่ให้โอนเงินที่เป็นชื่อของท่านแทนค่ะ


ต้องขออภัยที่หา Link อ้างอิงให้ไม่ได้ ... ท่านน่าจะลบทิ้งแล้วค่ะ
ตาลว่า รอท่านอื่นมาตอบดีกว่า เผื่อข้อมูลจะแม่นกว่านี้ แหะ ๆ

 

สาธุ หนูดีขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยค่ะ

หนูดีรบกวนพี่น้ำใสเล่ารายละเอียดในการฝึกมโนมยิทธิในครั้งนี้ให้เป็นธรรมทานค่ะ
แม้เรื่องนั้นๆจะเป็นเรื่องของหนูดีโดยตรง ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ผู้ร่วมฝึกสัมผัสได้ทุกท่าน
ทั้งนี้หนูดีเองทั้งเห็นและได้ความชัดเจนมาก พระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ ท่านเมตตา
หนูดีมากค่ะ หนูดีคงไม่มีคำกล่าวใดๆที่จะถวายพระพุทธเจ้าทั้ง3 พระองค์ แต่จะทำตัวหนูดีเอง
ให้สมกับที่ท่านเมตตา คือเข้าพระนิพานเท่านั้นค่ะสาธุ ลูกขอน้อมกราบด้วยเศียรเกล้าเจ้าค่ะสาธุ
หนูดี