ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Numsai, 21 สิงหาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,344
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,298
    ยินดีและอนุโมทนาบุญกับ คุณวาสุเทพ ด้วยนะครับ สาธุ สาธุ

    ขอให้บุญกุศลนี้ส่งผลให้สมหวังทุกประการครับ
     
  2. am12

    am12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +7,701
    ขอแสดงความยินดีและอนุโมทนาบุญกับ คุณวาสุเทพ ด้วยนะครับ
     
  3. widya

    widya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,095
    ค่าพลัง:
    +13,214
    ขอแสดงความยินดีและขออนุโมทนาบุญกับคุณวาสุเทพด้วยนะครับ

    ที่ได้เป็นเจ้าของดวงแก้วศุภเรศวร์นวปกรณ์
     
  4. mooom

    mooom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2010
    โพสต์:
    860
    ค่าพลัง:
    +9,291
    ขอแสดงความยินดีและขออนุโมทนาบุญกับคุณวาสุเทพด้วยครับ และขอขอบคุณอละอนุโมทนาบุญกับคุณsylvenusด้วยครับที่ช่วยสรุปผลเป็นตารางอยู่เสมอด้วยครับ
     
  5. Phuya

    Phuya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +10,966
    ขอแสดงความยินดีและขออนุโมทนาบุญกับคุณวาสุเทพด้วยค่ะ...
     
  6. prapart54

    prapart54 สุรสีห์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,221
    ค่าพลัง:
    +3,096
    ขอประมูล 24,000 บาทครับ
     
  7. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ขออนุโมทนาบุญกับคุณวาสุเทพด้วยค่ะ

    ขอแสดงความยินดี และขออนุโมทนากับคุณวาสุเทพด้วยค่ะ
    ในวันนี้ขอนำปัจจัยอีก 500 บาท เพื่อร่วมบุญถวายดวงแก้ว 3 วัด และเครื่องบวงสรวงกับน้องน้ำตาลด้วยค่ะ

    ขอให้เจริญในธรรมค่ะ

    Numsai
     
  8. วาสุเทพ

    วาสุเทพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +5,174
    โอนเงินแล้วครับ
    เวลาที่สั่งทำรายการ : 16/08/2013 18:16
    บัญชีผู้รับโอน : SCB:pHUTTARA ROJJ A/C No.:0802526472
    จำนวนเงินที่โอน : THB 23,000.00

    ขอเจ้ากรรมนายเวรและผู้มีพระคุณทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้
    ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าได้ทิพยจักษุญาณ ได้ปฏิสัมภิทาญาณและนิพพานในชาตินี้
    หากข้าพเจ้า ยังไม่ถึงซึ่งพระนิพพานเพียงไร ขอความไม่มี ไม่รู้ ไม่สามารถ จงอย่าได้ปรากฎแก่ข้าพเจ้า นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบท้าวเข้าสู่พระนิพพานเทอญ


    ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ร่วมประมูลร่วมยินดีร่วมอนุโมทนาและร่วมเชียรด้วยครับ สาธุๆๆ
     
  9. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ขออนุโมทนาบุญกับคุณน้ำฝนด้วยค่ะ ความหมายลำดับที่ในที่นี้หมายถึง พระอนาคตวงศ์ที่จะตรัสรู้เป็นพุทธเจ้าในอนาคตกาลค่ะ

    สมเด็จพระศรีอาริยเมตไตรยทรงจัดอยู่ลำดับที่ 1 ของพระอนาคตวงศ์ค่ะ ซึ่งครูบาอาจารย์ท่านกล่าวไว้เพียง 10 ลำดับเท่านั้นค่ะ พระโพธิสัตว์หลายพระองค์ที่บารมีเต็มแล้ว อาจจะยังลงมาเกิด เพื่อสงเคราะห์ลูกหลานก็มีค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2013
  10. sylvenus

    sylvenus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2010
    โพสต์:
    697
    ค่าพลัง:
    +3,283
    ขอบพระคุณ และมหาอนุโมทนาบุญกับพี่น้ำใส และทุกท่านครับ..

    ยินดีครับที่ได้ช่วยแบ่งเบา โมทนาบุญกับคุณ mooom ด้วยนะครับ..

    โมทนาบุญ และยินดีด้วยนะครับ..

    โมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะครับ...
    ------
    ภูมิ
     
  11. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    สาธุ สาธุ สาธุ
    ขอให้สมความปรารถนาทุกประการค่ะ วันนี้ได้จัดส่งดวงแก้วไปให้เรียบร้อยแล้วค่ะ เลขที่ EK 3455 5907 5TH ค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญค่ะ

    Numsai
     
  12. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    เงียบจังค่ะ ระหว่างรอชาวคณะที่ไปฝึกมโนมยิทธิฯ วันนี้กลับมาเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้ฟัง

    วันนี้ขอนำเหนอ บุพกรรม ๑๔ ประการขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันนะคะ
    เ้พื่อชาวเราทั้งหลายจะได้ระวังกาย วาจา ใจ ของตนให้ดียิ่งขึ้นไปค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2013
  13. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    ณ พื้นศิลาที่น่ารื่นรมย์ ใกล้สระอโนดาตโชติช่วงด้วยรัตนะต่าง ๆ
    ในละแวกป่า มีดอกไม้มีกลิ่นหอมนานาชนิด พระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้นำสัตว์โลก
    มีหมู่ภิกษุหมู่ใหญ่ห้อมล้อม ประทับนั่งที่ศิลาอาสน์นั้น ได้ตรัสเล่าบุพกรรมของพระองค์ว่า ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลาย จงฟังบุพกรรมของเรา ดังต่อไปนี้

    ๑. เรื่อง ถวายผ้าไว้ในอดีต จึงได้รับผลบุญ

    คราวหนึ่ง ขณะที่พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ใกล้สระอโนดาต ได้ตรัสเล่าบุพกรรมของพระองค์เรื่องที่ ๑ ให้ภิกษุทั้งหลายฟังว่า

    ในชาติก่อน เรา เมื่อครั้งเสวยพระชาติเป็นพราหมณ์ เห็นภิกษุผู้อยู่ป่าเป็นวัตร
    จึงได้ถวายผ้าเก่าผืนหนึ่ง ในกาลนั้น ข้าพเจ้าปรารถนาการตรัสรู้ เพื่อความเป็นพระพุทธเจ้าเป็นครั้งแรก
    ผลของการถวายผ้าเก่าให้ผลในความเป็นพระพุทธเจ้า


    เรื่องนี้ มีกล่าวอธิบายขยายความไว้ว่า หลังจากที่พระสิทธัตถโพธิสัตว์ได้เจริญในศากยสกุล
    มีถิ่นกำเนิดชื่อว่ากรุงกบิลพัสดุ์ พระบิดามีพระนามว่า สุทโธทนะ พระมารดามีพระนามว่า มายาเทวี
    ทรงครองฆราวาสอยู่ ๒๙ ปี มีปราสาท ๓ หลัง มีชื่อว่า สุจันทะ โกกนุท และโกญจะ
    มเหสีพระนามว่ายโสธรา โอรสพระนามว่า ราหุล
    ทอดพระเนตรเห็นนิมิต ๔ ประการ คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตายและสมณะ
    แล้วเกิดความสังเวชสลดใจ กลางคืนได้เสด็จทรงม้ากัณฐกะ พร้อมกับนายฉันนะ แล้วเสด็จถึงแม่น้ำอโนมานที
    รับสั่งให้นายฉันนะนำม้าและเครื่องทรงกลับ แล้วพระองค์ก็ตัดพระโมลีแล้ว ตั้งสัจจะ
    อธิษฐานโยนไปในอากาศว่า จักเป็นพระพุทธเจ้า ณ ริมฝั่งแม่น้ำอโนมานทีแล้ว
    ก็ดำริอีกว่า ผ้าของชาวกาสีอย่างดีเหล่านี้ ไม่สมควรแก่ความเป็นสมณะของเรา
    ในทันใดนั้นเอง สหายเก่าเมื่อครั้งพระกัสสปพุทธเจ้า ซึ่งไปเกิดเป็นพรหมชื่อว่า ฆฏิการมหาพรหม
    ช่วงระยะพุทธันดรหนึ่ง ไม่ถึงความพินาศเลย (คือดำรงอยู่ในชั้นพรหมโลกตลอด)
    เพราะเคยเป็นเพื่อนกัน จึงคิดว่า วันนี้ สหายเก่าของเราจะบวช
    เราจะถือสมณบริขาร ๘ อย่างกล่าวคือ ไตรจีวร บาตร มีดน้อย เข็ม ประคดเอว และผ้ากรองน้ำไป
    เพื่อสหายเก่าของเรานั้นดีกว่า ครั้นแล้ว ก็นำสมณบริขารทั้ง ๘ อย่างนั้น
    มาถวายด้วยตนเอง พระโพธิสัตว์ก็รับแล้วครองผ้าที่เป็นธงชัยแห่งพระอรหันต์อธิษฐานเพศนักบวชผู้อุดม

     
  14. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    ๒. เรื่อง ห้ามผู้อื่นดื่มน้ำ ทำให้ต้องอดน้ำ


    คราวหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ใกล้สระอโนดาต ได้ตรัสเล่าบุพกรรมของพระองค์เรื่องที่ ๒ ให้ภิกษุทั้งหลายฟังว่า


    ชาติปางก่อน เรา เมื่อครั้งเกิดเป็นนายโคบาล ต้อนโคไปเลี้ยง
    ได้เห็นแม่โคกำลังดื่มน้ำขุ่น จึงห้ามมันไว้ไม่ให้ดื่ม
    ด้วยผลกรรมนั้น ในภพสุดท้ายนี้ เรากระหายน้ำ ก็ไม่ได้ดื่มน้ำตามความปรารถนา


    มีเรื่องกล่าวไว้ในพระไตรปิฎกว่า ก่อนที่พระผู้มีพระภาคจะปรินิพพาน
    หลังจากเสวยพระกระยาหารที่นายจุนทกัมมารบุตรจัดถวายแล้ว
    ได้เกิดอาการพระประชวรอย่างรุนแรงลงพระบังคนหนักเป็นโลหิต(ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด)
    ทรงมีทุกขเวทนาอย่างแสนสาหัส (กระหายน้ำอย่างมาก)
    แต่ทรงใช้สติสัมปชัญญะข่มทุกขเวทนาไว้ ตรัสชวนท่านพระอานนท์
    ออกเดินทางต่อไปยังกรุงกุสินารา ระหว่างทางทรงหยุดพักและรับสั่งให้พระเถระนำน้ำดื่มมาถวาย

    แต่พระอานนท์กราบทูลว่า น้ำในแม่น้ำตรงนั้น
    มีน้ำน้อยและถูกกองเกวียน ๕๐๐ เล่มเหยียบย่ำไปก่อนหน้านั้นแล้วก็ไม่ไปตักมาถวาย
    จนพระองค์ต้องรับสั่งในครั้งที่ ๓ พระอานนท์จึงไปตักน้ำนำมาถวายให้พระองค์ได้ทรงดื่ม
    และน้ำที่พระอานนท์ไปตักนั้น กลับเป็นน้ำใสสะอาด น่าอัศจรรย์ใจมาก
     
  15. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    ๓. เรื่อง กล่าวตู่พระอรหันต์ ทำให้ต้องตกนรก


    คราวหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ใกล้สระอโนดาด ได้ทรงตรัสเล่าบุพกรรมของพระองค์เรื่องที่ ๓ ให้ภิกษุทั้งหลายฟังว่า


    ในชาติปางก่อน เราได้เคยเกิดเป็นนักเลงชื่อว่าปุนาลิ
    ได้กล่าวตู่พระปัจเจกพุทธเจ้ามีนามว่า สุรภี ผู้ไม่ประทุษร้ายใคร
    ด้วยผลกรรมนั้นเราจึงได้เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในนรกเป็นเวลานาน
    เสวยทุกขเวทนาหลายพันปี ด้วยผลกรรมที่เหลืออยู่นั้น
    ในภพสุดท้ายนี้ เราจึงได้รับการกล่าวตู่เพราะนางสุนทรีเป็นเหตุ


    เรื่องนี้ มีกล่าวไว้อธิบายไว้ว่า สมัยนั้น ลาภสักการะเกิดขึ้นแก่พระพุทธเจ้าเป็นอันมาก
    เป็นเหตุให้พวกเดียรถีย์ทั้งหลายอับเฉาสิ้นลาภสักการะไปตาม ๆ กัน
    ไม่ผิดอะไรกับแสงหิ่งห้อยในเวลาพระอาทิตย์ขึ้น
    วันหนึ่ง พวกเดียรถีย์ได้ปรึกษากันหาทางจะทำลายลาภสักการะของพระพุทธเจ้า
    เพื่อจะทำให้ตนได้ลาภสักการะ ดังที่เคยเป็น จึงขอแรงนางสุนทรีปริพาชิกาผู้มีรูปงามให้ไปทำลายพระพุทธเจ้า
    โดยให้ไปใส่ความว่าประพฤติร่วมประเพณีกับพระพุทธเจ้า


    นางสุนทรีทำเช่นนั้นอยู่ ๒-๓ วัน พวกเดียรถีย์ก็จ้างพวกนักเลงให้ไปฆ่านางสุนทรี
    แล้ว หมกไว้ที่ระหว่างกองขยะดอกไม้ใกล้พระคันธกุฎี พวกนักเลงได้ทำตามสั่งทุกประการ
    เอาละคราวนี้ พวกเดียรถีย์ก็แกล้งโจษจันหานางสุนทรี กราบทูลเรื่องนั้นแก่พระราชา
    พระราชารับสั่งให้ค้นหาจนทั่ว จึงได้ไปพบศพนางที่กองขณะดอกไม้
    พวกเดียรถีย์จึงยกศพนางขึ้นเตียงแล้วหามเข้าไปยังพระนคร
    ทูลแด่พระราชาว่า สาวกของพระพุทธเจ้าฆ่านางสุนทรี แล้วหมกไว้ในระหว่างกองขยะดอกไม้ด้วยคิดว่า
    เราจักปกปิดกรรมชั่วที่พระพุทธเจ้าได้ทำไว้
    พระราชาได้ให้ป่าวร้องไปทั่วพระนคร พวกเดียรถีย์ได้เที่ยวป่าวร้องด่าพวกภิกษุในภายในและภายนอกพระนคร
    แม้กระทั่งในป่า ภิกษุได้กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระศาสดา
    พระศาสดาตรัสว่า ถ้าเช่นนั้น พวกเธอจงกลับโจทมนุษย์เหล่านั้นอย่างนี้
    แล้วตรัสคาถาเหล่านี้ว่า คนที่ชอบพูดเท็จ หรือคนที่ทำความชั่วแล้วกล่าวว่า “ฉันไม่ได้ทำ”
    ต่างก็ตกนรก คน ๒ จำพวกนั้น ต่างก็มีกรรมชั่ว มีกรรมเลวทราม ตายไปแล้ว มีคติเท่าเทียมกันในโลกหน้า


    พระราชาได้ส่งตำรวจไปสืบสวนเรื่องนั้น บังเอิญว่า วันนั้น พวกนักเลงผู้ฆ่านางสุนทรี
    กำลังเมาสุราทะเลาะกันอยู่ในร้านสุราแห่งหนึ่ง พูดพาดพิงไปถึงนางสุนทรีว่าตนเองเป็นผู้ฆ่านางสุนทรีเอง
    พวกตำรวจจึงจับกุมตัวไปถวายพระราชา พระราชาได้ตรัสถาม ทราบความจริงว่า เดียรถีย์จ้างให้ฆ่านางสุนทรี
    จึงรับสั่งให้เรียกพวกเดียรถีย์มาแล้วทรงบังคับให้ไปเที่ยวป่าวร้องบอกแก่ชาวพระนครว่า
    นางสุนทรีนี้พวกข้าพเจ้าประสงค์จะสาดโคลนใส่พระพุทธเจ้าให้ฆ่านางแล้ว
    โทษของพระสาวกของพระพุทธเจ้าไม่มี เป็นโทษของพวกข้าพเจ้าฝ่ายเดียว
    พวกเดียรถีย์ได้ทำอย่างนั้นแล้ว คลายความสงสัยของมหาชนผู้โง่เขลาเสียได้
    ต่อมา เดียรถีย์เหล่านั้น พร้อมด้วยพวกนักเลง ก็ถูกตัดสินประหารชีวิตฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา

    ตั้งแต่นั้นมา ลาภสักการะของพระพุทธเจ้าก็เจริญรุ่งเรืองตามเดิม
     
  16. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    ๔. เรื่อง กล่าวตู่พระอรหันต์ ทำให้ตกนรกถึงแสนปี


    คราวหนึ่ง พระผู้มีพระภาค ได้ทรงตรัสเล่าบุพกรรมของพระองค์เรื่องที่ ๔ ให้ภิกษุทั้งหลายฟังว่า


    เราเมื่อครั้นเกิดเป็นนักเลงหัวไม้ เป็นอันธพาล เพราะการกล่าวตู่พระนันทเถระ ผู้เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า
    เราจึงเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในนรกเป็นเวลานาน ถึง ๑๐๐,๐๐๐ ปี
    ครั้นได้เกิดเป็นมนุษย์ ก็ได้รับการกล่าวตู่มาก
    ด้วยผลกรรมที่เหลืออยู่นั้น นางจิญจมาณวิกาจึงมากล่าวตู่เรา ด้วยคำไม่จริงท่ามกลางหมู่ชน


    มีเรื่องกล่าวไว้ว่า สมัยนั้น ลาภสักการะเกิดขึ้นแก่พระพุทธเจ้าเป็นอันมาก ฝ่ายพวกเดียรถีย์ลดน้อยลง
    ราวกับแสงหิ่งห้อยในเวลาพระอาทิตย์ขึ้น พวกเดียรถีย์จึงประชุมตกลงกัน
    ออกอุบายให้นางจิญจมาณวิกาปริพพาชิกา ผู้มีรูปงามคนหนึ่งทำลายพระพุทธเจ้า
    นางจิญจมาณวิกาได้ทำทีเป็นเดินเข้า-ออกในเวลาเช้าตรู่และเวลาเย็น
    ทำให้พวกอุบาสกผู้ไปฟังธรรมสงสัย นางบอกว่า ได้อยู่ร่วมในพระคันธกุฎีเดียวกันกับพระสมณโคดม
    ยิ่งทำให้คนพวกนั้นสงสัยขึ้นอีก


    ต่อมา นางได้เอาผ้าพันท้อง ทำเป็นคล้ายคนมีท้องได้ ๘-๙ เดือนจวนจะคลอด
    เมื่อพระพุทธเจ้ากำลังประทับนั่งแสดงธรรมอยู่บนธรรมาสน์นั่นเองได้ไปสู่ธรรมสภา
    ทูลพระองค์ว่า มหาสมณะ พระองค์ดีแต่พูดเท่านั้น เสียงพระองค์ไพเราะ พระโอษฐ์ของพระองค์สนิท
    ส่วนหม่อมฉันอาศัยพระองค์ได้เกิดมีครรภ์ครบกำหนดแล้ว พระองค์ไม่ทรงทราบที่คลอดของหม่อมฉัน
    ไม่ทรงทราบเครื่องบริหารครรภ์แก่หม่อมฉัน เมื่อไม่ทรงทำเอง
    ก็ไม่ตรัสบอกพระเจ้าโกศล อนาถบิณฑิกเศรษฐี หรือนางวิสาขามหาอุบาสิกา คนใดคนหนึ่ง
    แล้วด่าพระพุทธเจ้าต่าง ๆ นานาในท่ามกลางบริษัท


    ฝ่ายท้าวสักกะ เมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนั้น จึงสั่งให้เทพบุตร ๒ องค์โดยให้แปลงเป็นหนู
    และแปลงเป็นลม มาทำลายพิธีของนาง กัดเชือกที่ผูกท่อนไม้ไว้ และลมพัดเลิกผ้าห่มขึ้น
    ไม้กลมพลัดตกลงบนหลังเท้าของนาง ปลายเท้าทั้ง ๒ ข้างแตก
    มนุษย์ทั้งหลายก็พูดว่า นางกาฬกัณณี เจ้าด่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ่มเขฬะลงบนศีรษะ
    ขับออกจากวิหาร นางวิ่งเตลิดเปิดเปิงไป พอล่วงคลองพระจักษุของพระพุทธเจ้าเท่านั้น
    ก็ถูกแผ่นดินสูบตกไปเกิดในอเวจีมหานรก ลาภสักการะของพวกเดียรถีย์เสื่อมลงอีก
    แต่ของพระทศพลยิ่งเจริญขึ้น
     
  17. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    ที่เหลือเอาไว้วันหลังนะคะ ^^
     
  18. sylvenus

    sylvenus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2010
    โพสต์:
    697
    ค่าพลัง:
    +3,283
    โมทนาบุญในธรรมทาน กับคุณตาล ด้วยนะครับ..รออ่านอยู่นะครับ..
     
  19. mooom

    mooom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2010
    โพสต์:
    860
    ค่าพลัง:
    +9,291
    ขออนุโมทนาบุญกับคุณน้ำตาลด้วยครับ ที่คอยดูแลบ้านและคอยหาธรรมทานมาโพสบ่อยๆ
     
  20. NamfonBaanfa

    NamfonBaanfa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    510
    ค่าพลัง:
    +7,086
    โทษมหันต์ที่เกิดจากการตำหนิติเตียนอริยบุคคล

    ผรุสวาจาเพียงดังจอบ ซึ่งเป็นเครื่องตัดทอนตนของคนพาล
    ผู้กล่าวคำชั่ว ย่อมเกิดขึ้นที่ปากของบุคคลผู้เป็นบุรุษพาล
    ผู้ใดสรรเสริญผู้ที่ควรติเตียน หรือติเตียนคนที่ควรสรรเสริญ
    ผู้นั้นชื่อว่าสะสมโทษด้วยปาก ย่อมไม่ประสบความสุขเพราะโทษนั้น
    การปราชัยด้วยทรัพย์ ในการเล่นการพนันจนหมดตัว เป็นโทษมีประมาณน้อย
    การที่บุคคลยังใจให้ประทุษร้ายในพระอริยเจ้าผู้ดำเนินดีแล้วนี้ เป็นโทษมาก
    บุคคลตั้งวาจาและใจอันเป็นบาปแล้วติเตียนพระอริยะเจ้า
    ย่อมเข้าถึงนรกสิ้นหนึ่งแสนนิรัพพุทกัป ๓๖ นิรัพพุทะ และ ๕ อัพพุทะ ฯ

    พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๖ อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต โกกาลิกสูตร


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2013
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...