แขวนพระอะไรกันบ้าง

มีอีกเหรียญคับ ช่วยทีนะคับ

 

เลือกองค์ไหนก็ได้ครับ แขวนเดี่ยวไปเลย เคยเห็นบางท่านลองแขวนที่ละองค์ องค์ไหนแขวนแล้วมีประสบการณ์ดีๆก็เลือกแขวนองค์นั้น
ส่วนผมไม่ค่อยยึดติดกับค่านิยมที่ต้องแขวนพระดังหรือพระราคาแพง เพราะเชื่อว่ารูปตัวแทนของพระพุทธเจ้าจะมีเทวดารักษาประจำแต่ละองค์ ถ้าเราทำดี รักษาศีล5ไว้ได้ และถ้าได้สวดมนต์ไหว้พระทุกวันได้ยิ่งดี หลังสวดมนต์ก็อุทิศส่วนกุศล ให้กับเทวดาที่รักษาองค์พระ ผู้ที่สร้างพระ กรณีที่ไม่แน่ใจว่าพระของเราแท้หรือเปล่า เพราะเป็นพระดูยาก ก็เอาพระไปให้หลวงพ่อที่เรานับถือ ขอให้ท่านช่วยอธิษฐานจิตให้ก็แขวนได้สบายใจแล้วครับ
จากประสบการณ์ส่วนตัว หลังจากที่ทำแล้วไม่ว่าจะแขวนองค์ไหน ผมก็มีแต่ประสบการณ์ดีๆเกิดกับชีวิต ส่วนต้วก็ไม่ค่อยได้เปลี่ยนพระองค์ที่แขานประจำเท่าไหร่ เพราะแขวนแลัวดีเหมือนกันหมด เลือกแขวนองค์เดียวไม่ปวดคอด้วยครับ

ผมเลือกองค์นี้ให้ท่านลองแขวนเดี่ยวดู คุณปู่ท่านเคยแขวน ประสบการณ์ดีทุกด้านเลยครับ

 

ขอบคุณท่านคริสตัลบอยสำหรับคำแนะนำ จะลองแขวนเดี่ยวดูคับ แล้วเราต้องแขวนนานเท่าไหร่จึงจะลองเปลี่ยนอีกองค์ดีคับ

 

แรกๆลองเปลี่ยนสลับแขวน วันละองค์เลยก็ได้ครับ แล้วลองสังเกตุดูว่าท่านแขวนองค์ไหนแล้วถูกโฉลกกับท่าน ที่สำคัญท่านควรหมั้่นสวดมนต์ไหว้พระ(พระคาถาชินบัญชรก็ได้ ตัวผมสวดประจำ) รักษาศีล ปฎิบัติบูชาตามคำสอนขององค์ศาสดาของเราได้ยี่งดี
แม้แต่จิตที่เป็นกุศลของฆราวาสก็สามารถทำให้เกิดปาฎิหารได้ อย่างแม่ชีบุญเรือน หรือกรณีพระวัดปากน้ำรุ่นแรกที่มีประสบการณ์มากมาย ผู้ใหย๋ท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่าเมื่อประมาณ20ปีเศษๆที่ผ่านมาได้มีข่าวใหญ่ถล่มยืงสามีภรรยาคู่หนึ่งคารถด้วยอาวุธสงครามจนรถพรุน สามีตายคาที่ ภรรยาที่แขวนพระวักปากน้ำรุ่นแรกรอดมาได้อย่างปาฏิหารมีเพียงรอยช้ำตามตัวจากกระสุนเท่านั้น พระรุ่นนี้ในการสร้างพระไม่ได้นิมนต์หลวงพ่อดังมาปลุกเสกแต่ใช้ฆราวาสอธิษฐานจิตนั่งสมาธิทำจิตให้เป็นกุศลที่ส่งแรงอธิษฐานมาที่องค์พระ พลังการรักษาศีลและการนั่งสมาธิของฆราวาสก็สามารถอัญเชฺิญสิ่งศักสืทธิ์และเทวดามารักษาองค์พระได้เหมือนกัน
ผมมีประสบการณ์ตรงตอนเด็กๆจากคุณทวดซึ่งเป็นแม่ของคุณย่าของผม ตอนนั้นท่านอายุเกือบ80แล้ว ท่านชอบไหว้พระสวดมนต์ ทำบุญใส่บาตรทุกๆเช้า และถือศีล8อย่างเคร่งครัด ตัวท่านเองเนื่องจากอ่านหนังสือไม่ออกเลยต้องท่องจำบทสวดมนต์จากวิทยุ ตอนผมไปหาท่านมักจะเห็นท่านฟังธรรมบรรยายทางวิทยุเสมอ มีวันหนึ่งผมไปไปยกกาน้ำร้อนที่เป็นกาน้ำรุ่นเก่าที่ยังไม่มีพลาสติคกันความร้อนที่หูจับออกจากเตา ด้วยความที่กาน้ำร้อนมากและผมไม่ได้ใช้ผ้ารองมือตอนยก ก็เลยทำน้ำร้อนเดีอดใหม่ๆหกใส่ตัว ยังจำได้เลยว่ารู้สึกปวดแสบปวดร้อนเป็นอย่างมาก คุณทวดท่านเข้ามาดูผมแล้วท่านก็ปากพึมพำแล้วก็เป่าลงมาที่แขนและขาของผมที่โดนน้ำร้อนลวก จำได้ว่ารู้สึกเย็นตอนที่ท่านเป่าลงมา หลังจากหายเย็นจากแรงลมที่เป่าแล้วก็หายจากการปวดแสบปวดร้อนเป็นปลิดทิ้ง และไม่ต้องไปหาหมอเพราะที่ผิวหนังไม่มีร่องรอยว่าเคยโดนน้ำร้อนลวกเลย ภายหลังผมถามท่านว่าทำอย่างไร ท่านหัวเราะและบอกผมว่าว่าท่านไม่ได้มีคาถาวิเศษอะไร ท่านเพียงเป็นห่วงคิดอยากให้ผมหายเจ็บและท่องบทสวด นะโมตัสสะ.. เท่านั้นเอง
พระองค์ที่ผมแนะนำให้ท่านแขวนเดึี่ยวนั้น สมัยสงครามเวียดนามคุณปู่ผมทำงานกับกองทัพอเมริกามึประสบการณ์ทั้งด้านแคล้วคลาด มากมายกับพระรุ่นนี้ครับ

คนส่วนใหญ่ก็อยากแขวนพระแท้ พระดี เทวดารักษาองค์พระท่านก็คงชอบที่จะคุ้มครองคนแท้ คนดีเเหมือนกัน ศึลมีห้าข้อ ถ้าขาดไปข้อหนึ่งเราก็คงลดความเป็นคนของเราลงไปที่ละ20เปอร์เซ็น สมมุติว่านาย ป.เซียนพระสร้างเรื่องโกหกหลอกขายพระไม่แท้ให้กับลูกค้า ได้เงินมาตกเย็นไปฉลองกับก๊วนด้วยการดิ่มเหล้าจบด้วยการเที่ยวผู้หญิงนอกใจเมีย วันนั้นนาย ป.เซียนพระก็มีความเป็นมนุษย์ไม่ถึงครึ่ง และถ้าวิถีชีวิตของนาย ป. เซียนพระวนเวียนเป็นประจำอยู่อย่างนี้ ต่อให้นาย ป. แขวนพระดังในตำนาน ราคาหลายสิบล้านก็คงไม่มีความหมาย เทวดารักษาพระท่านก็คงย้ายไปสถิตย์ที่ที่อื่นนานแล้ว

 

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่ดีคับ ผมจะนำไปปฏิบัติ ส่วนตัวผมก็ไม่ได้มีรายได้ พอที่จะเช่าพระแพงๆครับ จากภาพที่เห็น พระที่ผมเช่ามีอยู่3องค์ คือพระที่ท่านคริสตัลบอยแนะนำ แล้วก็พระร่วงรางปืน กับเบี้ยแก้คับ ที่เหลือก็เอามาจากหิ้งที่คุณพ่อท่านเก็บไว้ อย่างหลวงพ่อมุ่ยและอื่นๆ ผมก็ไม่ทราบว่าแท้ไหม แต่เป็นของที่พ่อผมสะสม แพงสุดที่เช่าก็เบี้ยราคา1500 ที่เหลือ2องค์ก็ องค์ละ500 ที่ผมเช่าเพราะผมได้อ่านประวัติการสร้างพระและก็เบี้ยมาคับเลยเช่ามา เห็นว่าราคาไม่แพง ขอบคุณมากครับที่ช่วยแนะนำ:boo:

 

หลวงปู่ภูครับ เนื้อเหลือง พิมพ์นี้ น่าจะเป็นอกครุฑใหญ่

 

ตอนนี้แขวนหลวงปู่เทศน์รุ่นแรกองค์เดียวครับ

 

ของผมองค์นี้ครับ

 

แขวนอยู่องค์เดียวครับ

 

ขออนุญาติดันครับ กระทู้แบ่งปันแบบนี้
เคยมีอาการแบบผมกันบ้างไหมเวลาเห็นใครห้อยพระเป็นต้องชำเลือง
ว่าพระอะไร หรือบางทีเห็นไกลๆมองไม่ชัดยัง แกล้งเดินโฉบไปแอบดู
มันเป็นความสุขแบบบอกไม่ถูก แชร์กันดูเยอะๆนะครับ เห็นแล้วชื่นใจถ่ายรูปเสร็จเดี๋ยวลงมั่ง

 

ชุดประหยัดราคาเบาแต่มากด้วยศรัทธาครับ

 

อีกองค์ครับ

 

......องค์นี้แขวนเดี่ยว...ครับ...

 

ชอบกริ่งคลองตะเคียนมากๆครับ
ดูจากภาพผมดูว่าแท้ดูง่ายขนาดถ่ายกับมือถือ อยากเจอองค์จริงมากๆ

แฟนพันธุ์แท้คลองตะเคียน

 

สุดยอดทั้งนั้นเลยครับ

 

.....ผมเองก็ไฝ่ฝันมานาน...เช่นกัน..ตั้งแต่เด็ก...เคยดูหนังไทยเรื่องเสาร์ ๕ มีพระเคร่องอยู่ ๕ องค์ ซึ่งถูกยกย่องว่า เป็นชุดเบญจภาคีของวงการนักเลงสมัยโบราณ ประกอบด้วย
๑. พระสมเด็จวัดระฆัง
๒. พระนางพญา พิษณุโลก
๓. พระกริ่งคลองตะเคียน กรุ จ.อยุธยา
๔. พระยอดธง สมัยอยุธยา
๕. พระท่ากระดาน กรุ จ.กาญจนบุรี
นี่และครับ...เป็นแรงบันดาลใจ...ที่ทำให้ต้อง...หา...หา...และ...หา ..มาตั้งแต่
เด็กจนเป็นหนุมใหญ่..ๆ..ๆ....เจอมาก็องค์นี้แหละครับ...
ได้เพียงแค่เสาร์เดียว....อีกสี่เสาร์ยังไม่เคยได้ครอบครอง....เลย...
...เป็นความไฝ่ฝันตั้งแต่สมัยเด็ก...ๆ...ครับ...

 

พระหูยานวัดราชบพิธปลุกเศกใหญ่ปี๒๕๑๒ เขาเรียกหูยานปืนแตก

 

พิธีพุทธาพิเศกครั้งยิ่งใหญ่ในเมืองไทย พุทธคุณครอบจักรวาล ๒๕ศตวรรษ

 

สุดยอดพิธี ครับ

พระหูยานปืนแตก วัดราชบพิธฯ พิธีใหญ่108 อาจารย์ ปี 2513


พระร่วงนั่งหูยาน เหรียญปืนแตกหลังจปร 2513 ออที่วัดราชบพิธ สร้างพร้อมกับ พระ กริ่ง จปร. รัชกาลที่ 5 . เป็นต้น พระชุดนี้มีพิธีปลุกเสกใหญ่มากๆ มีพระเกจิมามากถึง 108รูป โดยเฉพาะมีพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่นมาเข้าร่วมพิธีมากมาย ซึ่งยากจะหาพิธีอื่นๆในยุคหลังทำได้แล้วครับ พระรุ่นนี้มีประสบการณ์เยอะ มีคนเอาเหรียญรัชกาลที่ 5 และพระร่วงนั่งหูยาน ไปลองยิงปรากฏว่าปืนแตกเลยครับ พระรุ่นนี้เป็นของดีที่น่าบูชามากครับ พระ กริ่งรุ่นนี้ออกแบบโดยนายช่าง เกษม มงคลเจริญ สร้างในปี 2513 ในวาะครบ 100 ปี วัดราชบพิธฯ ในหลวงเสด็จพระราชดำเนิน ประกอบพิธีถึง 3 ครั้ง * พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จฯเททอง ผสมกับ ชนวนโลหะวัตถุมงคลรุ่นเก่า ๆ ของวัดราชบพิธฯ รวมกับ แผ่นยันต์ลงอักขระของพระเกจิ ผู้ทรงพุทธาคม จากทั่วประเทศ ๑๐๘รูป ในวัตถุมงคล ทั้งเนื้อนวโลหะ และเนื้อทองแดงโดยทั่วถึงกันอย่างพิถีพิถันพิธีมหาพุทธาภิเษก 3 วัน 3 คืน โดยพระคณาจารย์ 108 รูป ซึ่งล้วนเเต่เป็นพระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้านพุทธคมในยุคนั้นทั้ง สิ้นที่รับนิมนต์มานั่งปรกปริกรรมเจริญภาวนาโดยผลัดเปลี่ยนกันมาร่วมพิธีใน เเต่ละวันดังนี้

๑. วันศุกร์ที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๔ ระหว่างเวลา ๑๖.๓๐-๒๐.๐๐ น. คือ

๑.) พระเทพสังวรวิมล (เจียง) วัดเจริญสุขาราม จ.สมุทรสงคราม
๒.) พระราชธปรมากรณ์ (เงิน) วัดดอนยายหอม จ.นคร ปฐม
๓.) พระศูพิพิธวิหารการ (หลวงพ่อเทียม) วัดกษัตราธิราช จ.พระนครศรีอยุธยา
๔.) หลวงพ่อกี วัดหูช้าง จ.นนทบุรี
๕.) พระครูโสภณพัฒนกิจ วัดอัมพวา บางกอกน้อย ธนบุรี กรุงเทพฯ
๖.) พระครูสุทธิการี (หลวงพ่อทองอยู่) วัดใหม่หนองพะอง จ.สมุทรสาคร
๗.) พระครูโพธิสารประสาธน์ (บุญมี) วัดโพธิ์สัมพันธ์ จ.ชลบุรี
๘.) พระครูอุภัยภาดาทร (หลวงพ่อขอม) วัดโพธาราม (วัดไผ่โรงวัว) จ.สุพรรณบุรี
๙.) พระครูนนทกิจวิมล (หลวงพ่อชื่น) วัดตำหนักเหนือ จ.นนท บุรี
๑๐.) พระครูสมุห์อำพล วัดประสาทบุญญาวาส กรุงเทพฯ
๑๑.) พระอาจารย์อรุณ วัดตะล่อม ธนบุรี กรุงเทพฯ
๑๒.) พระครูสมุห์สำรวย วัดกษัตราธิราช จ.พระนครศรีอยุธยา
เวลา ๒๐.๐๐-๒๒.๐๐ น.
๑.) พระราชสุทธาจารย์ (โชติ ระลึกชาติ) วัดวชิราลงกรณ์จ.นครราชสีมา
๒.) พระนิโรธรังสีคัมภีร์เมธาจารย์ (หลวงปู่เทสก์ เทสโก) วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย
๓.) พระอินทสมาจารย์ (เงิน อินทสโร) วัด อินทรวิหาร กรุงเทพฯ
๔.) พระครูสภาพรพุทธมนต์ (สำเนียง อยู่สถาพร) วัดเวฬุวนาราม จ.นครปฐม
๕.) พระครูกัลป์ยานุกูล (เฮง) วัดกัลยาณมิตร ธนบุรี กรุงเทพฯ
๖.) พระครูภาวนาภิรม วัดปากน้ำภาษีเจริญ ธนบุรี กรุงเทพ
๗.) พระครูประภัสสรศีลคุณ (เอก) วัดไผ่ดำ จ.สิงห์บุรี
๘.) พระครูสมุห์หิน วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ
๙.) หลวง พ่อใหญ่อภินันโท (จุล) วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ.ลพบุรี
๑๐.) พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโศธาราม จ.อุดรธานี
๑๑.) พระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน (พระธรรมวิสุทธิมงคล) วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
๑๒.) พระครูใบฎีกาสมาน (หลวงพ่อเณร) วัดพรพระร่วง กรุงเทพฯ,

เวลา ๒๒.๐๐-๒๔.๐๐ น.
๑.) พระราชวตาจารย์ วัดมกุฏกษัตริยาราม กรุงเทพฯ
๒.) พระญาณโพธิ (เข็ม) วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพฯ
๓.) พระวิเชียรมุนี วัดอินทราม กรุงเทพฯ
๔.) พระพุทธมนต์วราจารย์ (สุพจน์) วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพฯ
๕.) พระโสภณมหาจารย์ วัดดาวดึงนาราม กรุงเทพฯ
๖.) พระครูพิบูลมงคล วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพฯ
๗.) พระมงคลสุรี วัดนาคกลาง กรุงเทพฯ
๘.) พระครูปลัดสงัด วัดโพธิ์ท่าเตียน กรุงเทพฯ
๙.) พระครูวินัยธร (เดช) วัดสระเกศฯ กรุงเทพฯ
๑๐.) พระปลัดมานพ วัดชิโนรสราม กรุงเทพฯ
๑๑.) พระมหาวาส วัดปทุมวนาราม กรุงเทพฯ
๑๒.) พระอาจารย์ผ่อง จินดา วัดจักรวรรดิ (สามปลื้ม) กรุง เทพฯ,

พระสวดพุทธาภิเษก ระหว่างเวลา ๑๖.๓๐-๒๑.๐๐น. จำนวน ๔ รูป
จากวัดสุทัศนเทพวราราม, ระหว่าง เวลา ๒๑.๐๐-๒๔.๐๐ น. จำนวน ๔ รูป
จากวัดบวรนิเวศวิหาร

๒. วันเสาร์ที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๔ เวลา ๑๘.๐๐-๒๐.๐๐ น.
๑.) พระธรรมวราลังการ วัดบุปผาราม ธนบุรี กรุงเทพฯ,
๒.) พระโพธิวรคุณ (ไพฑูรย์) วัดโพธิ์นิมิต กรุงเทพฯ,
๓.) พระครูสีลวิสุทธาจารย์ วัดสง่างาม จ.ปราจีนบุรี
๔.) พระครูประภัศระธรรมาภรณ์ (หลวงพ่อแต้ม) วัดพระลอย จ.สุพรรณบุรี
๕.) พระครูประสิทธิสารคุณ (พ้น) วัดอุบลวรรณาราม จ.ราชบุรี
๖.) พระครูสังฆวฒาจารย์ (หลวงปู่เย่อ) วัดอาฬาสงคราม จ.สมุทรปราการ
๗.) พระอาจารย์หนู วัดบางกะดี่ กรุงเทพฯ
๘.) พระอาจารย์มงคล (กิมไซ) วัดป่าเกตุ จ.สมุทรปราการ
๙.) พระครูสมุห์ทองคำ วัดเสาธงทอง จ.ลพบุรี
๑๐.) พระอาจารย์สมภพ เตชบุญโญ วัดสาลีโขภิรตาราม จ.นนทบุรี
๑๑.) พระอาจารย์ยาน วัดถ้ำเขาหลักไก่ จ.ราชบุรี,
๑๒.) พระอาจารย์บุญกู้ วัดอโศกตาราม จ.สมุทรปราการ

เวลา ๒๐.๐๐-๒๒.๐๐ น.
๑.) พระสุนทรธรรมภาณ วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ
๒.) พระครูโสภณกัลป์นาณวัตร (เส่ง) วัดกัลยาณมิตร กรุงเทพฯ
๓.) พระครูวรพรตศีลขันธ์ (แฟ้ม) วัดป่าอรัญศิกาวาส จ.ชลบุรี
๔.) พระครูปสาธน์วิทยาคม (หลวงพ่อนอ) วัดกลางท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา
๕.) พระอาจารย์บุญเพ็ง วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ
๖.) พระอาจารย์สุวัจน์ วัดป่าภูธรพิทักษ์ จ.สกลนคร
๗.) พระอาจารย์วัน วัดป่าอภัยวัน (ภูเหล็ก) จ.สกลนคร
๘.) พระอาจารย์สุพัฒน์ วัดบ้านใต้ จ.สกลนคร
๙.) พระอาจารย์ทองสุข วัดถ้ำเจ้าภูเขา จ.สกลนคร
๑๐.) พระอาจารย์ฟัก สันติธัมโม วัดเขาน้อยสามผา จ.จันทบุรี
๑๑.) พระอาจารย์ดวน วัดมเหยงค์ จ.นครศรีธรรมราช
๑๒.) พระอาจารย์สอาด วัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ

เเละเวลา ๒๒.๐๐-๒๔.๐๐ น.
๑.)พระเทพเมธากร วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ
๒.) พระราชวรญาณมุนี นุภพศิริมาตราม กรุงเทพฯ
๓.) พระปัญญาพิศาลเถระ วัดราชประดิษฐ์ กรุงเทพฯ
๔.) พระครูโสภณสมาธิวัตร วัดเจ้ามูล ธนบุรี กรุงเทพฯ
๕.) พระครูวิริยะกิตติ (หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี) ธนบุรี กรุงเทพฯ
๖.) พระครูพิชัย ณรงค์ฤทธิ์ วัดสิตาราม กรุงเทพฯ
๗.) พระครูปลัดถวิล วัดยางระหงษ์ จ.จันทบุรี
๘.) พระอธิการพัตน์ วัดเเสนเกษม กรุงเทพฯ
๙.) พระอาจารย์เชื้อ หนูเพชร วัดสะพานสูง กรุงเทพฯ
๑๐.) พระอาจารย์รัตน์ วัดปทุมคงคา กรุเทพฯ
๑๑.) พระครูสังฆรักษ์ (กาวงค์) วัดป่าดาราภิรมย์ จ.เชียงใหม่
๑๒.) พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา จ.พัทลุง
โดยมีพระสวดพุทธาภิเษก เวลา ๑๘.๐๐-๒๑.๐๐ น. พระภิกษุ ๔ รูป จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
เเละจากวัดราชประดิษฐ์ เวลา ๒๑.๐๐-๒๔.๐๐น.

๓. ส่วน วันอาทิตย์ที่ ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๔ ก็ล้วนเเต่เป็น “พระคณาจารย์” ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิทยาคมแห่งยุคซึ่งส่วนใหญ่ได้ “มรณภาพ” แล้วรวม ๓ วัน “ครบถ้วน ๑๐๘ รูป”

หลังพิธีพุทธาภิเษก ได้มีบรรดานายทหารจาก กรมรักษาดินแดน และ กระทรวงกลาโหม ซึ่งอยู่ใกล้กับ วัดราชบพิธฯ ได้ มาบูชาไปเป็นจำนวนมาก โดยนายทหารที่บูชาไปในสมัยนั้น ได้มีการนำพระรุ่นนี้ไป เลี่ยมพลาสติกแล้วไปแขวนกับ ธงชาติ จากนั้นจึงได้ชักธงชาติระดับเหนือศีรษะ แล้วทำการ “ทดลองยิง” ปรากฏว่า ปืนยิงไม่ออกในนัดแรก
บรรดาผู้ทดลอง จึงทำการตรวจสอบปืนใหม่แล้วยิงอีกนัด คราวนี้ปรากฏว่าเกิดเสียงระเบิด ดังขึ้น และพอสิ้นเสียงระเบิด ปรากฏ ปากกระบอกปืนที่ใช้ทดลองยิงแตกเป็นรอยร้าว จึงเรียก พระรุ่นนี้ว่ารุ่น “ปืนแตก” นอกจากนี้ พระหูยานรุ่นปืนแตกนี้ ได้ปรากฏปาฏิหาริย์ ช่วยเหลือ บรรดาทหารที่อาสาสมัครไปร่วมรบ ในสมรภูมิเวียดนามรอดชีวิตกลับมา

เป็นที่ร่ำลือว่า บรรดาเซียนพระหลายราย ก็มีการบอกเล่ากันต่อ ๆ มาว่า พระหูยาน จ.ป.ร. นี้ มีพุทธคุณเข้มขลัง มาก

สรุป ประสบการณ์สูงมากครับ ในเรื่องคงกระพันครับ และในหลวงทรงเสด็จพระราชดำเนินเททองด้วย พร้อมเกจิดังร่วมปลุกเสกอาทิ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงปู่เทสก์ วัดหินหมากเป้ง, หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด, หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช ,อ.นำ แก้วจันทร์ วัดดอนศาลา, หลวงปู่หิน วัดระฆัง, หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธินิมิตร,หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง, หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง, หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว, หลวงพ่อโชติ ระลึกชาติ, หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ, หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย, พระอาจารย์วัน อุตตโม วัดถ้ำอภัยธำรงธรรมและเกจิมากมาย ฯลฯ

 

หลวงพ่อพรหมสร(รอด)