เกาะติดสถานการณ์ ดิน น้ำ ลม ฝน พายุ **เฝ้าระวัง !!!!2556(2013)**

วังทองวิกฤติน้ำยังคงท่วมสูง
วันจันทร์ที่ 30 กันยายน 2556 เวลา 12:05 น.











น้ำจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ไหลทะทักเข้าแม่น้ำวังทอง เอ่อล้นท่วมในหลายพื้นที่ทางการเกษตร บ้านเรือนประชาชน วัด โรงเรียนจมมิด เจ้าหน้ที่เร่งขนพระอายุเก่าแก่ออกจากวัดป้องกันความเสียหาย
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 30 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำในแม่น้ำวังทองยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำได้ไหลเอ่อล้นทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ อ.วังทอง อ.บางกระทุ่ม และ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก จนน้ำได้ไหลทะลักขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก โดยทางจังหวัดประกาศพื้นที่ประสบภัยจำนวน 8 อำเภอ 38 ตำบล 149 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 4514 ครัวเรือน นาข้าวเสียหายกว่า 25,643 ไร่ พืชสวนจำนวนกว่า 256,20 ไร่ ถนนถูกตัดขาดจำนวน 11 สาย สะพานไม้ชำรุด 4 แห่ง ฝาย 2 แห่ง อ่างเก็บน้ำ 1 ห่ง บ่อปลา 25 บ่อ วัด 5 วัด โรงเรียน 2 แห่ง ปิดไม่มีกำหนด โดยพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักได้แก่พื้นที่ใน 3 หมู่บ้าน คือ หมู่ 8 บ้านวังสำโรง และ หมู่14 บ้านวังฉำฉา ตำบลวังทอง หมู่ 7 บ้านวังพิกุล ตำบลวังพิกุล ต.ไชยนาม อ.วังทอง เนื่องจากระดับน้ำไหลมาจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ไหลทะลักท่วมพื้นที่ทางเกษตรหลายพันไร่ ส่งผลให้น้ำตัดถนนเชื่อมระหว่างหมู่บ้านขาดเป็นทางยาวกว่า 1 กม. ระดับน้ำสูงกว่า 50 ซม. จนรถไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ชาวบ้านทั้ง 3 หมู่บ้านต้องช่วยกันระดมขนกระสอบทรายตั้งป้องกันน้ำ ไหลเข้าไปภายในหมู่บ้าน และขนย้ายสิ่งของตลอดจนสัตว์เลี้ยงออกไปพักอยู่ในพื้นที่สูง

ขณะที่กองกำลังทหารจากกองพลพัฒนาที่ 3 ค่ายบรมไตรโลกนารถ กองทัพภาคที่ 3 ได้นำกำลังเข้ามาช่วยเหลือประชาชนขนย้ายสิ่งของต่าง ๆ พร้อมกับบรรจุกระสอบทรายตั้งเป็นแนวทางยาว บริเวณวัดวังสำโรง ต.วังพิกุล อ.วังทอง มีปริมาณน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยบูรพา สมาคมพิษณุโลกการกุศลสงเคราะห์ ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากพระครูไฟศาล ธรรมรังสี เจ้าอาวาสวัดวังสำโรง หมู๋ 8 ต.วังพิกุล อ.วังทอง ได้แจ้งขอความช่วยงานให้ช่วยขนย้ายพระพุทธรูปเก่าแก่คู่วัด ที่กำลังจะจมใต้น้ำและเกรงว่าจะได้รับความเสีย จากน้ำไหลทะลักเข้าท่วมสูงกว่า 1 เมตรไปไว้ในที่ปลอดภัย

ด้านนายบุญยิ่ง คุ้มสุพรรณ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ขณะนี้ทางจังหวัดได้ประกาศให้ 8 อำเภอเป็นพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมแล้ว ส่วนน้ำหลากลงมาจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ เข้าท่วมในพื้นที่ อ.เนินมะปราง และ อ.วังทอง อ.บางกระทุ่ม มีปริมาณเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และทางเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันออกสำรวจเพื่อหาทางเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อบ่างเร่งด่วน เพราะเกรงว่าพายุลูกใหม่ที่กำลังจะเข้าสู่ประเทศไทยภายในช่วงบ่ายของวันนี้ อาจส่งผลให้มีปริมาณฝนตกเพิ่มขึ้น.

วังทองวิกฤติน้ำยังคงท่วมสูง | เดลินิวส์

 

สุรินทร์ยังอ่วมน้ำท่วมหลายหมู่บ้านถูกตัดขาด
วันจันทร์ที่ 30 กันยายน 2556 เวลา 11:26 น.









การสัญจรเข้าออกหมู่บ้านเป็นไปด้วยความลำบาก แถมนาข้าว-ไร่อ้อย ถูกน้ำท่วมนานนับสัปดาห์ จนเริ่มเน่าตายส่งกลิ่นเหม็น ขณะที่ชมรมสื่อมวลชนฯ พร้อมภาครัฐและเอกชน นำสิ่งของไปมอบให้ผู้ประสบภัย
เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ว่า ได้เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น หลายพื้นที่กลับสู่ภาวะปกติ แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายหมู่บ้านในพื้นที่ต.เกาะแก้ว ต.กระออม อ.สำโรงทาบ ซึ่งเป็นแหล่งรับน้ำจากพื้นที่ต่าง ๆ ของจังหวัด ยังถูกน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะที่บริเวณถนนทางเข้าหมูบ้าน ระดับน้ำท่วมสูง 30-50 เชนติเมตร บางหมู่บ้านถนนเป็นดินเหนียว การสัญจรเข้าออกหมู่บ้านเป็นไปด้วยความลำบาก ต้องใช้รถออฟโร้ดเดินทางเข้าออกหมู่บ้าน ขณะที่ต้นข้าว ต้นอ้อย ถูกน้ำท่วมขังนาน และเริ่มส่งกลิ่นเน่าเหม็นแล้ว


ทั้งนี้ ชมรมนักวิทยุและโทรทัศน์จังหวัดสุรินทร์ มีสมาชิกผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ และสถานีวิทยุกระจายเสียง เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ในจังหวัด ได้รวบรวมเครื่องอุปโภค บริโภค นำไปมอบให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์.


สุรินทร์ยังอ่วมน้ำท่วมหลายหมู่บ้านถูกตัดขาด | เดลินิวส์

 

น้ำมูลเอ่อล้นโชคชัย-โคราชคลี่คลายแล้ว
วันจันทร์ที่ 30 กันยายน 2556 เวลา 11:59 น.







สถานการณ์น้ำมูลตอนบนเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตรที่ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เริ่มคลี่คลายแล้ว
เมื่อวันที่ 30 ก.ย. นายประเทือง วันดี หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง เปิดเผยถึง สถานการณ์ลุ่มน้ำมูลเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรในเขต ต.พลับพลา ต.ท่าเยี่ยม และ ต.กระโทก อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ขณะนี้พบว่าระดับน้ำเริ่มปรับตัวลดลงบ้างแล้ว โดยที่สถานีวัดระดับน้ำบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำมูล ต.ท่าเยี่ยม อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 6.62 เมตร เหนือกว่าระดับตลิ่งเล็กน้อย

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าปริมาณน้ำภายในลำน้ำมูลตอนบนเริ่มปรับตัวลดระดับลงบ้างแล้ว แต่มีพื้นที่การเกษตรส่วนใหญ่เป็นนาข้าวติดกับลำน้ำมูลต้องจมอยู่ใต้น้ำบางส่วน เบื้องต้นคาดการณ์ว่าจะมีพื้นที่นาข้าวที่ได้รับผลกระทบประมาณ 3 พันไร่ แต่ส่วนใหญ่เป็นนาข้าวที่กำลังอยู่ในช่วงแตกกอสูงและเตรียมตั้งท้องออกรวง จึงสามารถทนกับสถานการณ์น้ำท่วมขังได้นานกว่า 1 สัปดาห์ ขณะที่สถานการณ์น้ำในลำน้ำมูลตอนบนยังมีแนวโน้มที่จะลดลงเรื่อย ๆ และส่งผลดีทำให้พื้นที่นาข้าวที่ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย หากไม่มีฝนตกลงมาซ้ำอีก

น้ำมูลเอ่อล้นโชคชัย-โคราชคลี่คลายแล้ว | เดลินิวส์

 

“ลำน้ำมาศ” ทะลักท่วมถนน 226 บุรีรัมย์เชื่อมโคราชเป็นอัมพาต - จม 1,000 ครัวเรือน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 กันยายน 2556 12:03 น.


บุรีรัมย์ - “ลำน้ำมาศ” ล้นทะลักท่วมถนน 226 สายลำปลายมาศ - ห้วยแถลง ช่วงเชื่อมต่อบุรีรัมย์-โคราช สูงกว่า 50 ซม. เป็นอัมพาต รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ซ้ำท่วมบ้านเรือน วัด โรงเรียน ไร่นาราษฎรได้รับความเดือดร้อนแล้ว 1,000 ครัวเรือน ขณะอำเภอประกาศเตือนให้ ปชช หลีกเลี่ยงเส้นทาง

วันนี้ (30 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.บุรีรัมย์ ยังขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดน้ำจากลำปะเทีย และเขื่อนลำนางรอง ได้ไหลลงมารวมกันลงลำน้ำมาศ ทำให้ระดับน้ำมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นรวดเร็วต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมถนนทางหลวงหมายเลข 226 สายลำปลายมาศ - ห้วยแถลง บริเวณสะพานข้ามลำน้ำมาศ ช่วงบ้านหนองคู ต.หนองคู อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ รอยต่อกับ อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา และน้ำได้ท่วมผิวถนนสูงกว่า 50 เซนติเมตร (ซม.) เป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร (กม.)

เจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) และหน่วยกู้ภัย ต้องคอยอำนวยความสะดวกในการระบายรถที่สัญจรผ่านไปมาบริเวณเส้นทางดังกล่าว เพราะรถยนต์สามารถวิ่งได้เพียง 1 ช่องทางจราจร จาก 4 ช่องจราจร เนื่องจากไหล่ทางมีน้ำท่วมสูงและไหลเชี่ยว เกรงว่าผู้สัญจรจะได้รับอันตรายจากกระแสน้ำ ทำให้การจราจรล่าช้ารถติดขัดเป็นอัมพาต ยาวกว่า 1 กม. ตลอดทั้งวัน และระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยรถเล็กไม่สามารถผ่านได้

นอกจากนั้น น้ำยังได้เอ่อท่วมในพื้นที่ 6 ตำบล 50 หมู่บ้าน ที่ติดกับลำน้ำมาศ ได้แก่ ต.หนองคู, ต.บ้านยาง, ต.หนองโดน, ต.โคกกลาง, ต.หินโคน และ ต.ลำปลายมาศ ท่วมพืชส่วน ไร่นากว่า 10,000 ไร่ ท่วมวัด 2 แห่ง โรงเรียน 1 แห่ง ถนน 5 สาย ราษฎรได้รับความเดือดร้อนร่วม 1,000 ครัวเรือน แต่ยังไม่ได้รับรายงานความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วม

ทางด้าน นายสุรพล ลีลาเลศแล้ว นายอำเภอลำปลายมาศ ได้นำเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่รับผิดชอบ ออกให้บริการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนผู้สัญจรผ่านไปมาบนเส้นทางดังกล่าวที่ถูกน้ำท่วมพร้อมกันนี้ ยังได้ประกาศให้ประชาชนผู้ที่จะสัญจรเส้นทางหลวงหมายเลข 226 สายลำปลายมาศ- ห้วยแถลง ให้หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 24 สายโชคชัย-เดชอุดม แทน เพื่อความสะดวกและปลอดในการเดินทางดังกล่าวแล้ว





















*****************************

 

คาดเย็นนี้มวลน้ำก้อนใหญ่ถึงกรุงเก่า เตือนชาวบ้านท้ายเขื่อนพระราม 6 เก็บของหนีน้ำ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 กันยายน 2556 11:45 น.



พระนครศรีอยุธยา - ฝนถล่มเมืองพระนครศรีอยุธยาหนักตลอดทั้งคืน ทำให้เกิดน้ำท่วมขังบริเวณอนุสรณ์สถานแห่งความจงรักภักดี (ทุ่งหันตรา) ด้านนายอำเภอท่าเรือ เตือนชาวบ้านท้ายเขื่อนพระราม 6 เก็บของหนีน้ำ คาดเย็นนี้มวลน้ำก้อนใหญ่มาถึงอยุธยา ขณะที่สำนักชลประทานที่ 10 แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำในเขตสระบุรี และพระนครศรีอยุธยา รีบมือปริมาณน้ำสูงขึ้น

เมื่อเช้าวันนี้ (30 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้มีน้ำฝนท่วมขังบริเวณอนุสรณ์สถานแห่งความจงรักภักดี (ทุ่งหันตรา) สูงประมาณ 10 เซนติเมตร และน้ำฝนที่ตกลงมายังทำให้น้ำในบ่อภายในสวนสาธารณะอนุสรณ์สถานแห่งความจงรักภักดี (ทุ่งหันตรา) เอ่อล้นท่วมถนนบางส่วน เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งทำการสูบน้ำออก

ขณะที่ทางชลประทานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ประกาศเตือนให้ประชาชนชาว จ.พระนครศรีอยุธยา ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก ตั้งแต่อำเภอท่าเรือ อำเภอนครหลวง ให้เก็บสิ่งของขึ้นไว้ที่สูงเนื่องจากอาจจะมีมวลน้ำก้อนใหญ่ไหลผ่านเขื่อนพระราม 6 ในพื้นที่อำเภอท่าเรือ สูงกว่า 550 ลบ.ม./วินาที ภายในเย็นวันนี้

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด นายวิทิต ปิ่นนิกร นายอำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เดินทางไปตรวจสอบระดับน้ำที่เขื่อนพระราม 6 พบว่า ระดับน้ำยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยมีการระบายน้ำอยู่ที่ 450 ลบ.ม./วินาที ขณะนี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่อชาวอำเภอท่าเรือมากนัก

"แต่สำหรับมวลน้ำที่จะไหลมารวมกันที่เขื่อนพระราม 6 ที่ทางชลประทานประกาศคาดว่าจะมาถึงเขื่อนพระราม 6 ในเย็นวันนี้ ในช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. ซึ่งหากมวลน้ำมาถึงทางเขื่อนพระราม 6 ก็จะต้องเพิ่มการระบายน้ำอยู่ที่ 600 ลบ.ม./วินาที ก็จะส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน 27 หมู่บ้าน 158 หลังคาเรือน ที่อยู่ 2 ริมตลิ่ง จึงฝากเตือนประชาชนเตรียมขนย้ายข้าวของ และติดตามสถานการณ์น้ำในเย็นวันนี้อย่างใกล้ชิด นายอำเภอท่าเรือ กล่าว

ทางด้านทางเทศบาลตำบลท่าเรือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้จัดเตรียมกระสอบทรายนำมาอุดท่อระบายน้ำ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ พร้อมเปิดเครื่องระบายน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วมตลาดสดท่าเรือซ้ำรอย ซึ่งจะได้รับผลกระทบก่อนใครหากระดับน้ำสูง จึงต้องเร่งเตรียมพร้อมรับมือเพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าประชาชนสามารถจับจ่ายใช้สอยได้ตามปกติ

ขณะที่สำนักชลประทานที่ 10 ได้แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำในเขตจังหวัดสระบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 ว่า ด้วยยังคงมีฝนตกบริเวณเหนือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จากอิทธิพลร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เป็นเหตุให้มีปริมาณน้ำท่าไหลลงอ่างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน ณ วันที่ 29 กันยายน 2556 มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ 800 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณร้อยละ 83 ของความจุเก็บกักสูงสุดที่ 960 ล้านลูกบาศก์เมตร

ทั้งนี้ แม้จะยังคงรองรับน้ำได้เพิ่มอีกประมาณ 160 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังพายุโซนร้อน "หวู่ติ๊บ (Wutip) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนที่กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก คาดว่าจะเข้าฝั่งเวียดนามตอนบน วันที่ 1 ตุลาคม 2556 ที่จะถึงนี้ จึงต้องเพิ่มการระบายน้ำท้ายอ่างเก็บน้ำเป็นระยะๆ โดยไม่ให้เกิดผลกระทบด้านท้ายน้ำในทันทีทันใด และจะระบายน้ำสูงสุดในเกณฑ์ 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที วันที่ 29 กันยายน 2556 เวลา 18.00 น. ซึ่งเมื่อรวมกับปริมาณน้ำระหว่างทางที่ไหลลงแม่น้ำป่าสักก่อนถึงหน้าเขื่อนพระราม 6 อีกประมาณ 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะทำให้การระบายน้ำท้ายเขื่อนพระราม 6 อยู่ในเกณฑ์ 600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่ 30 กันยายน 2556 โดยจะมีระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักท้ายอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพิ่มขึ้นจากวันที่ 29 กันยายน 2556 ประมาณ 65 เซนติเมตร ในท้องที่จังหวัดสระบุรี และด้านท้ายเขื่อนพระราม 6 เพิ่มขึ้นประมาณ 100 ถึง 120 เซนติเมตร ในท้องที่อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำหลาก เนื่องจากอิทธิพลดังกล่าวตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา จึงมีความจำเป็นต้องพร่องน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเขื่อนพระราม 6 ตามเกณฑ์ข้างต้น สำนักชลประทานที่ 10 จึงได้ขอความอนุเคราะห์จังหวัดสระบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้านที่ประกอบกิจการในแม่น้ำป่าสัก และประชาชนที่อาศัยอยู่พื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำขนย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นบนที่สูง หรือที่ปลอดภัยจากระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักที่จะเพิ่มสูงขึ้นในระยะต่อจากนี้ และขอให้เฝ้าระวังติดตามสถานการน้ำอย่างใกล้ชิด






**************************************
เหมือนได้กลิ่นทะแม่งๆ

 

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุ “หวู่ติ๊บ” (WUTIP)"
ฉบับที่ 12 ลงวันที่ 30 กันยายน 2556​

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (30 ก.ย. 56) พายุไต้ฝุ่น “หวู่ติ๊บ” (WUTIP) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง
มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 350 กิโลเมตรทางตะวันออกของจังหวัดนครพนม หรือที่ละติจูด 17.2 องศาเหนือ ลองจิจูด 108.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทาง

ทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะขึ้นฝั่งที่ตอนเหนือของเมืองเว้ ประเทศเวียดนามในเย็นวันนี้ (30 กันยายน 2556) จากนั้นจะอ่อนกำลังลงตามลำดับโดยจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณจังหวัดนครพนม ในวันพรุ่งนี้ (1 ต.ค. 56)และคาดว่าจะเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณรอยต่อของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะทำให้ด้านตะวันออกและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวมทั้งภาคเหนือด้านตะวันออกมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติดังกล่าวไว้ด้วย โดยจะเริ่มมีฝนเพิ่มขึ้นทางด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือในบ่ายวันนี้ (30 ก.ย. 56)

อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามัน

และอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังการเดินเรือในระยะ 1-2 วันนี้

ไว้ด้วย

ประกาศ ณ วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 11.00 น.

(ลงชื่อ) วรพัฒน์ ทิวถนอม

(นายวรพัฒน์ ทิวถนอม)

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา
​

 

กรมทางหลวงแจ้งเลี่ยงทางน้ำท่วม
| 30 ก.ย. 2556 12:02 |

กรมทางลวง 30 ก.ย.-นายชัชวาลย์ บุญเจริญกิจ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยรายงานการเกิดอุทกภัย ประจำวันที่ 30 กันยายน 2556 (เวลา 09.30 น.) ว่า มีสภาวะน้ำท่วมพื้นที่ 9 จังหวัด จำนวน 23 สายทาง (จำนวนรวม 23 แห่ง ผ่านได้ 21 แห่ง, ผ่านไม่ได้ 2 แห่ง) และขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนหลีกเลี่ยงเส้นทาง 2 สายทางที่ผ่านไม่ได้ ในพื้นที่ 1 จังหวัด เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทาง คือ จังหวัดปราจีนบุรี ทางหลวงหมายเลข 3078 ระเบาะไผ่-ประจันตคาม ท้องที่อำเภอศรีมหาโพธิ ช่วง กม.ที่ 16-17 ระดับน้ำสูง 55 เซนติเมตร ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 33- ทางหลวงหมายเลข 304 (แยกกบินทร์ฯ) ทางหลวงหมายเลข 3079 ปราจีนบุรี-ศรีมหาโพธิ ท้องที่อำเภอศรีมหาโพธิ ช่วง กม.ที่ 12-19 เป็นแห่ง ๆ ระดับสูง 35-60 เซนติเมตร ให้ใช้ทาง ทช. ปจ.4018 หมายเลข 3069- บ้านโคกขวาง

นอกจากนี้ พื้นที่ที่มีน้ำท่วมทาง ระดับน้ำสูง 20- 30 เซนติเมตร อาจทำให้สัญจรไม่สะดวก โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์และรถยนต์ขนาดเล็ก 9 สายทาง 6 จังหวัด ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 1072 หนองเบน-ลาดยาว ท้องที่อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ ช่วงกม.ที่ 8-30 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 10-30 เซนติเมตร

ทางหลวงหมายเลข 315 หัวไผ่- ชลบุรี ท้องที่อำเภอเมืองชลบุรี ช่วง กม.ที่ 38-39 ระดับน้ำสูง 40 เซนติเมตรให้ใช้ทางเบี่ยงด้านขาเข้าแทน ทางหลวงหมายเลข 344 หนองรี - หนองปรือ ท้องที่อำเภอเมืองชลบุรี ช่วง กม.ที่ 6-7 ระดับน้ำสูง 25 เซนติเมตร ทางหลวงหมายเลข 201 หนองบัวโคก-บ้านลี่ ท้องที่อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ ช่วง กม.ที่ 86 - 87 ระดับน้ำสูง 40 เซนติเมตร ผ่านได้ 1 ช่องจราจร ทางหลวงหมายเลข 2150 คง-โนนไทย ท้องที่อำเภอขามสะแกแสง จังหวัดชัยภูมิ ช่วง กม.ที่ 42-45 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำขาออกสูง 10-20 เซนติเมตร

ทางหลวงหมายเลข 2170 หนองบัวใหญ่ - หนองจาน ท้องที่อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ ช่วง กม.ที่ 3-4 ระดับน้ำสูง 30 เซนติเมตร ทางหลวงหมายเลข 201 หินหล่อง-ด่านขุนทด ท้องที่อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ช่วง กม.ที่ 37-38 ระดับน้ำสูง 20 เซนติเมตร ทางหลวงหมายเลข 226 หนองกระทิง-ลำปลายมาศ ท้องที่อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ ช่วง กม.ที่ 87-88 ระดับน้ำสูง 35 เซนติเมตร ทางหลวงหมายเลข 33 ประจันตคาม-พระปรง ท้องที่อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี ช่วงกม.ที่ 82-85 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 20-30 เซนติเมตร ทางหลวงหมายเลข 3070 ศรีมโหสถ -ศรีมหาโพธิ ท้องที่อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ช่วง กม.ที่ 5-7 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 10-20 เซนติเมตร ทางหลวงหมายเลข 319 ไผ่ชะเลือด-โคกไทย ท้องที่อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี ช่วง กม.ที่ 26 - 26 ระดับน้ำสูง 40 เซนติเมตร ผ่านได้ไม่สะดวก

ทางหลวงหมายเลข 3452 ดงพระราม - ห้วยขื่อ ท้องที่อำเภอเมืองปราจีนบุรี ช่วง กม.ที่ 3-15 เป็นแห่ง ๆ ระดับน้ำสูง 10-30 เซนติเมตร ทางหลวงหมายเลข 2043 ยางเฌอ - พนมไพร ท้องที่อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด ช่วง กม.ที่ 31 - 32 ระดับน้ำสูง 30 เซนติเมตร และทางหลวงหมายเลข 2077 สังขะ-บัวเชด ท้องที่อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ช่วง กม.ที่ 4 - 50 ระดับน้ำสูง 25 เซนติมเตร.

-สำนักข่าวไทย

 

พิษณุโลกยังท่วมหนัก 8 อำเภอ

By สำนักข่าวไทย TNA News | 30 ก.ย. 2556 10:14 |
พิษณุโลก 30 ก.ย.- สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดพิษณุโลก วันนี้ (30 ก.ย.) ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะ 8 อำเภอ น้ำท่วมยังไม่คลี่คลาย คือ นครไทย, ชาติตระการ, วังทอง, เนินมะปราง, บางกระทุ่ม, บางระกำ, วัดโบสถ์ และอำเภอเมือง ล่าสุดอำเภอวังทองน้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์หลากลงสู่แม่น้ำวังทองจนล้นแนวกระสอบทรายที่ชาวบ้านได้วางกั้นเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรเป็นวงกว้าง ถนนสายวังพิกุล-วังทอง น้ำท่วมสูงและไหลเชี่ยว ระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร รถทุกชนิดผ่านไม่ได้ ต้องใช้เรือสัญจรอย่างเดียว ท่ามกลางท้องฟ้ามืดครึ้มและฝนตกตลอดเวลา ขณะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชาวบ้านริมฝั่งจัดเวรยามตรวจสอบตลิ่งแม่น้ำวังทอง 24 ชั่วโมง หากมีจุดใดเสียหายจะซ่อมแซมหรือปิดช่องทางน้ำได้อย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้ไหลเข้ามาในพื้นที่มากขึ้น

นายบุญยิ่ง คุ้มสุพรรณ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก ย้ำเตือนประชาชนให้เตรียมรับมือต่อไปในระยะนี้ เพราะยังมีฝนตกสะสมบนเทือกเขาเพชรบูรณ์ ประกอบกับจังหวัดพิษณุโลก เป็น 1 ใน 13 จังหวัดในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนระวังอิทธิพลใต้ฝุ่นหวู่ติ๊บ ทำให้มีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง.

-สำนักข่าวไทย

 

จับตาอิทธิพลหวู่ติ๊บเข้าไทย ทำอีสานฝนเพิ่มช่วงบ่ายวันนี้

By สำนักข่าวไทย TNA News | 30 ก.ย. 2556 12:27 |

ภูมิภาค 30 ก.ย. - จับตาอิทธิพลไต้ฝุ่นหวู่ติ๊บ ที่คาดว่าจะอ่อนกำลังลงก่อนเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยในวันนี้ ซึ่งจะทำให้หลายจังหวัดภาคอีสานมีฝนเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงบ่าย

จ.นครพนม เป็นจังหวัดแรกที่ต้องรับมือกับพายุหวู่ติ๊บซึ่งจะเคลื่อนเข้าไทยในวันนี้ ทำให้ทางเทศบาลเมืองนครพนมต้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เตรียมระบายน้ำหากมีฝนตกหนัก สำหรับสภาพอากาศที่นครพนม ขณะนี้ท้องฟ้ามีเมฆมาก ลมพัดแรง สลับกับมีฝนตกเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงยังต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จึงไม่น่าห่วง

ด้านนายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปตรวจสถานการณ์น้ำที่ จ.ศรีสะเกษและอุบลราชธานี เพราะห่วงผลกระทบจากอิทธิพลพายุหวู่ติ๊บ และได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมรับมืออย่างเต็มที่

ขณะเดียวกัน ภาคเหนือและภาคกลาง น้ำท่วมยังขยายวงกว้าง ที่ จ.พิษณุโลก น้ำในแม่น้ำวังทองล้นตลิ่งฝ่าแนวกระสอบทรายไหลเข้าท่วมหมู่บ้านและถนนสายวังพิกุล-วังทอง ทำให้รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ ชาวบ้าน ต.วังพิกุล และ ต.วังทอง ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

ขณะที่ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายต่างๆ ที่ จ.นครสวรรค์ เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะแม่น้ำยม น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรนับพันไร่ ใน ต.เกยชัย และ ต.บางเคียน

ด้านผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยา เตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักเก็บของให้สูงขึ้นอีก 30 เซนติเมตร โดยเฉพาะ อ.ท่าเรือ ที่จะได้รับผลกระทบจากเขื่อนพระราม 6 ปล่อยน้ำเพิ่มขึ้น

น้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ หลากเข้าท่วมบ้านกว่า 50 หลัง ต.บางไผ่ อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ระดับน้ำ 60 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร

ด้านนายแผน วรรณเมธ เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นผู้แทนพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ แจกจ่ายชุดธารน้ำใจสภากาชาดไทยจำนวน 600 ชุด ให้ผู้ประสบภัย ต.โผงเผง จ.อ่างทอง

สำหรับสถานน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเช้าวันนี้ เริ่มลดระดับลงเหลือประมาณ 90 เซนติเมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ภาพรวมระดับน้ำยังไม่สูงมาก เนื่องจากน้ำทะเลหนุนไม่สูง ด้านกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเสนอของบประมาณ จาก กบอ. จำนวน 3,600 ล้านบาท เพื่อทำโครงการเติมน้ำลงสู่ใต้ดิน ในพื้นที่เกษตรกรรมในจังหวัดภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน เพื่อเก็บน้ำใต้ดินไว้ใช้ แก้ปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม.

- สำนักข่าวไทย

 

แม่น้ำปราจีนเพิ่มสูง ทะลักท่วมตลาดกลางเมือง

By Digital Media | 30 ก.ย. 2556 12:24 |
ปราจีนบุรี 30 ก.ย. - แม่น้ำปราจีนเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับมีฝนตกตลอดคืน ทำให้น้ำเอ่อล้นท่วมเขตเทศบาลอำเภอเมือง โดยเฉพาะที่ตลาดกลางเมืองซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจ ระดับน้ำสูงกว่า 50 ซม. รถเล็กสัญจรลำบาก ชาวบ้านส่วนใหญ่บอกว่าเก็บของขึ้นที่สูงไม่ทัน โรงเรียนประจำจังหวัดต้องปิดการเรียนการสอน เพราะระดับน้ำสูงมากกว่า 80 ซม. ชาวบ้านต้องอาศัยรถ GMC ของทหารเดินทางไปทำงาน

ส่วนภายในวัดแก้วพิจิตร ซึ่งมีโบสถ์เก่าแก่อายุนับร้อยปี ถูกน้ำท่วมสูง พระสงฆ์ต้องเร่งขนย้ายพระไตรปิฎกขึ้นที่สูง เจ้าอาวาสเปิดเผยว่า น้ำท่วมวัดทุกปี จึงไม่ได้ทำแนวป้องกัน แต่ได้เตรียมแผนซ่อมแซมอุโบสถที่ถูกน้ำท่วมไว้แล้ว .

- สำนักข่าวไทย

 

คลองบางบาลท่วมวัดเก่าแก่อยุธยา-ปทุมฯ จับตาน้ำหนองเสือขึ้นสูง

By สำนักข่าวไทย TNA News | 30 ก.ย. 2556 12:04 |
ภูมิภาค 30 ก.ย.- นายอภิชาติ สุขสมบูรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตลอดคืนที่ผ่านมา ทำให้แม่น้ำเจ้าพระยาระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง เช่น บริษัทหน้าวัดกษัตราธิราชวรวิหาร และวัดธรรมมาราม ซึ่งเป็นโบราณสถานอีกแห่งของจังหวัดพบว่ามีน้ำฝนขังอยู่ในพื้นที่วัดและได้เร่งสูบออกแล้ว

ส่วน อ.บางบาล วัดเก่าแก่หลายแห่ง เช่น วัดโบสถ์ วัดไทรน้อย วัดธรรมจักร วัดนกกระจาบ ถูกน้ำคลองบางบาลเอ่อท่วม ซึ่งเป็นคลองเชื่อมแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย โดยเฉพาะวัดไผ่ล้อม ตำบลสะพานไท ระดับน้ำสูงท่วมกุฏิพระและศาลาการเปรียญ รวมทั้งน้ำยังท่วมชุมชน 2 ฝั่ง สูงเกือบ 2 เมตร ชาวบ้านเร่งขนไม้เก่าจากที่เก็บของใต้ถุนศาลามาไว้บริเวณเนินดินติดถนน พร้อมสร้างสะพานไม้ไว้ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมาทำบุญได้เดินอย่างสะดวกจากถนนไปศาลาการเปรียญ

ด้านนายวรณัฎฐ์ หนูรอต นายอำเภอหนองเสือ จ.ปทุมธานี เรียกประชุมหน่วยงานวางมาตรการเฝ้าระวังน้ำในพื้นที่ เนื่องจากช่วงนี้มีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้น้ำคลองสาขาของชลประทานมีน้ำเพิ่มขึ้นตั้งแต่คลองชลประทานที่ 7 ถึงคลองชลประทานที่ 14 โดยกำชับให้แต่ละท้องถิ่นจัดเตรียมบุคลากรและอุปกรณ์การช่วยเหลือไว้ให้พร้อม หากมีเหตุเร่งด่วน รวมทั้งรายงานมายังอำเภอให้ทราบทุกระยะ และการเร่งขุดลอกคูคลอง เพื่อเปิดทางน้ำให้ระบายเร็วขึ้นและเป็นการเตรียมพร้อมรับมือพายุที่จะเข้ามาในช่วงนี้.

-สำนักข่าวไทย

 

กทม.ประเมินอิทธิพล “หวู่ติ๊บ” กระทบ กทม.ไม่มาก

By Digital Media | 30 ก.ย. 2556 11:35 |

กรุงเทพฯ 30 ก.ย.- ศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม กทม.ประเมินผลกระทบจาก “หวู่ติ๊บ” ในพื้นที่ กทม.ไม่มาก แต่จะทำให้มีฝนตกมากขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้

สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเช้าวันนี้ เริ่มลดระดับลงเหลือประมาณ 90 เซนติเมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง หลังจากขึ้นสูงสุดไปตั้งแต่เวลา 07.00 น. ภาพรวมระดับน้ำยังไม่สูงมาก เนื่องจากน้ำทะเลหนุนไม่สูงมาก เรือโดยสารยังสามารถสัญจรตามปกติ โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักการระบายน้ำล่องเรือเก็บขยะในแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง

ด้านศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเช้าวันนี้ว่า น้ำเหนือที่ปล่อยมาวัดได้ 2,424 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเวลา 10.00 น.วัดได้อยู่ที่ 0.92 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลางโดยน้ำจะขึ้นสูงสุดไปแล้วตั้งแต่เวลา 07.00 น. สูง 1.20 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ในวันนี้กรมชลประทานได้ระบายน้ำออกมาสูงกว่าในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เนื่องจากน้ำทะเลในช่วงนี้ไม่หนุนสูง จึงเร่งระบายน้ำช่วยด้านบน แต่ในช่วงกลางสัปดาห์เป็นต้นไปฐานน้ำทะเลจะเพิ่มสูงขึ้นจาก 80 เซนติเมตร เป็น 1.10 เมตร จึงอาจต้องปล่อยน้ำคงที่ในระดับ 2,300-2400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเช่นเดิม คาดการณ์ระดับน้ำบวกกับน้ำทะเลหนุน ระดับน้ำสูงสุดในเจ้าพระยาน่าจะอยู่ที่ 1.80 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งจะยังไม่ส่งผลกระทบกับที่อยู่อาศัยภายในแนวเขื่อน แต่ระดับน้ำดังกล่าวน่าจะทำให้บ้านเรือนนอกแนวได้รับผลกระทบบ้าง

ส่วนช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งพายุหวู่ติ๊บจะเคลื่อนตัวเข้าฝั่งที่เวียดนาม จะทำให้ในพื้นที่ภาคอีสานได้รับผลกระทบมีฝนตกหนัก ส่วนในพื้นที่กรุงเทพฯ อาจจะได้รับผลกระทบที่ไม่มากนัก จะได้รับเพียงผลกระทบทางอ้อมจากหย่อมความกดอากาศที่พัดผ่านมาอาจจะส่งผลให้บ่ายวันนี้ กรุงเทพฯ มีฝนตกมากขึ้น ทั้งนี้ ยังคงต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่าพายุจะมีการเคลื่อนตัวตามที่คาดการณ์หรือไม่ แต่ภาพรวมยังไม่มีอะไรที่น่าวิตกกังวลขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนก

ขณะที่ประตูระบายน้ำคลองสอง เช้าวันนี้สูงสุดวัดด้านนอกประตูระบายน้ำ อยู่ที่ 1.50 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่วนระดับวิกฤตนั้นอยู่ที่ 1.80 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ระดับดังกล่าวยังอยู่ในระดับที่ กทม.ยังควบคุมได้ ส่วนประตูน้ำยังคงเปิดอยู่ที่ระดับ 20 เซนติเมตร โดยได้เร่งระบายน้ำจากด้านบนลงแม่น้ำเจ้าพระยาเตรียมรับมือฝนที่จะตกลงมาในช่วงสัปดาห์นี้ด้วย

ส่วนประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนาที่รับน้ำด้านตะวันตก และจาก จ.นนทบุรี ระดับน้ำด้านนอกอยู่ที่ 84 เซนติเมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งระดับวิกฤตอยู่ที่ 1.30 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งทั้งสองแห่งยังถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่น่าห่วง

ส่วนฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ถึงเช้ามืดวันนี้เป็นผลมาจากพายุหวู่ติ๊บที่นำความชื้นพัดมาในพื้นที่กรุงเทพฯ ทำให้มีฝนตกมาแต่ลักษณะเป็นฝนอ่อน ตกหนักในพื้นที่ด้านเหนือของ กทม.อาทิ ดอนเมือง สายไหม หลักสี่ ปริมาณสะสมเฉลี่ยอยู่ที่ 48 มิลลิเมตร กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าในวันนี้พื้นที่กรุงเทพฯ จะยังคงมีฝนตกร้อยละ 70 ของพื้นที่ และช่วงบ่ายอาจจะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น.

-สำนักข่าวไทย

 

TD21W( SEPAT ) คาดว่าไม่มีผลกับประเทศไทยแต่อย่างใดครับ

 

พิษหวู่ติ๊บซัดเรือประมงล่มในทะเลจีนใต้ สูญหายกว่า 70 ราย

By สำนักข่าวไทย TNA News | 30 ก.ย. 2556 14:29 |

จีน 30 ก.ย.-มีผู้สูญหายกว่า 70 คน จากเหตุเรือประมงล่มในทะเลจีนใต้ หลังถูกพายุคลื่นลมแรงพัดกระหน่ำ

สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า เรือประมง 3 ลำประสบเหตุอับปางเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ เนื่องจากคลื่นลมแรงจัดจากอิทธิพลของไต้ฝุ่นหวู่ติ๊บ โดยบนเรือทั้ง 3 ลำ มีชาว ประมงรวม 171 ชีวิต จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบจำนวนตัวเลขผู้สูญหายที่แน่นอน แต่มีรายงานระบุว่าอยู่ระหว่าง 74-75 คน

สำหรับไต้ฝุ่นหวู่ติ๊บ ที่กำลังเคลื่อนตัวอยู่ในทะเลจีนใต้ คาดว่าจะพัดขึ้นฝั่งเวียดนามในคืนวันนี้ ทางการได้อพยพประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง 70,000 คนไปอยู่ในที่ปลอดภัย และเตรียมการรับมืออย่างเต็มที่ และขณะนี้ไต้ฝุ่นลูกดังกล่าวยังคงส่งผลกระทบอย่างหนักต่อมณฑลไห่หนานและกวางตุ้งทางใต้ของจีนอย่างต่อเนื่อง.

-สำนักข่าวไทย

 

กรุงเก่าผวาถนนทรุดน้ำทะลักท่วมเกาะเกิด
วันจันทร์ที่ 30 กันยายน 2556 เวลา 14:10 น.

กรุงเก่าผวาถนนทรุดพังเป็นแนวยาวพังเสียหาย หวั่นน้ำทะลักท่วมเกาะเกิด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา


เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถนนสายอยุธยา-บางปะอิน ต.เกาะเกิด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เกิดทรุดตัวพังทลายเป็นแนวยาว จึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่าช่วงบริเวณโค้งหน้าวัดพระยาญาติ ถนนทรุดตัวหายไป 1 เลน ลึกประมาณ 1 เมตร ยาวประมาณ 10 เมตร อีกทั้งยังมีการทรุดตัวอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา โดยมีสาเหตุน่าจะมาจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตลอดคืนที่ผ่านมา

สำหรับถนนถนนดังกล่าวเป็นถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา และหลังจากปี 2554 ได้มีการยกระดับพื้นผิวถนนให้สูงขึ้นพร้อมกับทำพนังกั้นน้ำไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลข้ามถนนเข้าไปยังทุ่งนา ใน ต.เกาะเกิด และขณะนี้พบว่าระดับน้ำในแม่น้ำพระยา มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะระดับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่ อ.บางปะอิน ต้องรับน้ำจากแม่น้ำป่าสักไหลมาบรรจบ จนทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และล้นตลิ่งเข้าท่วมแล้วบางส่วนในพื้นที่ ต.เกาะเกิด ต.วัดยม ต.บางประแดง และทำให้ชาวบ้านหวั่นเกรงว่าถนนจะทรุดตัวเพิ่มมากขึ้น จนทำให้น้ำไหลเข้าท่วมทุ่งเกาะเกิด.

http://www.dailynews.co.th/thailand/236762

 

ชาวอ่างทองเครียดถูกน้ำท่วมกว่า 1 สัปดาห์ ปภ.สรุปจม 25 จังหวัด ตาย 22 ราย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 กันยายน 2556 14:43 น.


อ่างทอง - ชาวบ้านอ่างทองเริ่มเครียดหลังน้ำท่วมสูงมานานกว่า 1 สัปดาห์ เผยชีวิตต้องอยู่อย่างยากลำบาก เสี่ยงกับสัตว์มีพิษที่หนีน้ำขึ้นไปในบ้าน อีกทั้งหวั่นเกรงว่าจะไม่ได้รับค่าชดเชยเหมือนที่ผ่านมา ขณะที่สถานการณ์น้ำเจ้าพระยาที่อ่างทอง ยังเลยจุดวิกฤต ด้าน ปภ.สรุปสถานการณ์น้ำท่วม 25 จังหวัด เสียชีวิตแล้ว 22 ราย

วันนี้ (30 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อ่างทอง ว่า หลังจากฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่ จ.อ่างทอง จนเกิดน้ำท่วมบ้านเรือนมานานกว่า 1 สัปดาห์ ขณะนี้ได้ทำให้ประชาชนบ้านที่ถูกน้ำท่วมเริ่มมีความเครียด เนื่องจากไม่สามารถที่จะออกไปประกอบอาชีพหารายได้เข้ามาเลี้ยงครอบครัวได้ ขณะเดียวกัน กลับมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งพิชผลทางการเกษตรก็ถูกน้ำท่วมจนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะชาวบ้านในพื้นที่ ต.โผงเผง อ.เมือง จ.อ่างทอง ที่อยู่ในสภาพน้ำท่วมสูงตั้งแต่ 1-2 เมต รมานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว

ชาวบ้านหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ขณะนี้พวกตนมีความเป็นอยู่ลำบากมาก เนื่องจากชาวบ้านที่มีบ้านชั้นเดียวไม่สามารถที่จะเข้าไปอาศัยอยู่ในบ้านได้อีก เนื่องจากบ้านถูกน้ำท่วมหมดทั้งหลัง ต้องอพยพขึ้นไปอยู่ริมถนน ส่วนคนที่มีบ้านสูงแบบยกพื้นที่ 2 ชั้นก็ขึ้นไปอาศัยอยู่ชั้นบน ส่วนสัตว์เลี้ยง เช่น ไก่ ก็ต้องจัดกรงให้อยู่ร่วมกันบนบ้าน อีกทั้งยังต้องเสี่ยงกับสัตว์มีพิษที่หนีน้ำ เช่น งู ตะขาบ แมลงป่องที่มากับน้ำ และหลบเข้าอาศัยอยู่ในบ้านด้วย

“ขณะนี้ชาวบ้านหลายคนเริ่มเกิดภาวะเครียดเนื่องจากความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก พืชผลการเกษตรเสียหาย ไม่มีรายได้ ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และกลัวไม่ได้รับการช่วยเหลือในการชดเชยน้ำท่วมเหมือนครั้งที่ผ่านมา” ชาวบ้านคนหนึ่งกล่าว

ด้านสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังคงเลยจุดวิกฤต โดยล่าสุด เขื่อนเจ้าพระยา ระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนอยู่ที่ 2,195 ลบ.เมตร/วินาที ทำให้ระดับน้ำที่ไหลผ่านสถานีโทรมาตร C7A หน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทองอยู่ที่ 2,208 ลบ.เมตร/วินาที ระดับน้ำสูง 8.19 เมตร/รทก. ส่งผลให้พื้นที่ราบลุ่มในเขต ต.บ้านอิฐ ต.บ้านแห ต.จำปาหล่อ อ.เมืองอ่างทอง และ ต.โผงเผง ต.นรสิงห์ ต.ป่าโมก อ.ป่าโมก ได้รับผลกระทบแล้วกว่า 500 หลังคาเรือน มีพืชผลทางการเกษตรและปศุสัตว์เสียหายเป็นจำนวนมาก

**ปภ.สรุปน้ำท่วม25 จังหวัด ตายแล้ว 22 ราย

ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2556 เกิดสถานการณ์อุทกภัย รวม 32 จังหวัด 233 อำเภอ 1,384 ตำบล 11,033 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 809,646 ครัวเรือน 2,789,398 คน บ้านเรือนเสียหาย 11,400 หลัง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 1,943,000 ไร่ ถนน 4,265 สาย สะพาน 174 แห่ง ฝาย/ทำนบ 515 แห่ง ผู้เสียชีวิต 22 ราย ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 7 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ นครราชสีมา กาฬสินธุ์ พะเยา และแม่ฮ่องสอน

“ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 25 จังหวัด แยกเป็น น้ำป่าไหลหลาก 21 จังหวัด ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี บุรีรัมย์ อำนาจเจริญ ชัยภูมิ ยโสธร และมุกดาหาร ภาคเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ พิษณุโลก และอุทัยธานี ภาคกลาง 3 จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี สระบุรี และชัยนาท ภาคตะวันออก 4 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว ปราจีนบุรี นครนายก และฉะเชิงเทรา ส่วนสถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำท่าจีนล้นตลิ่ง 4 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี และสุพรรณบุรี มีพื้นที่ได้รับผลกระทบรวม 21 อำเภอ 160 ตำบล 809 หมู่บ้าน” อธิบดี ปภ. กล่าว

สำหรับแนวโน้มสถานการณ์อุทกภัยในภาพรวม นายฉัตรชัย กล่าวว่า ยังต้องเฝ้าระวังชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ และพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำออกจากเขื่อน และอ่างเก็บน้ำ ส่งผลให้แม่น้ำสายหลัก และลำน้ำสาขามีระดับน้ำสูงขึ้น

อีกทั้งในช่วงวันที่ 30 กันยายน 2556 พายุไต้ฝุ่นหวู่ติ๊บจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณจังหวัดนครพนม ทำให้ด้านตะวันออก และตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือด้านตะวันออกมีฝนเพิ่มขึ้น และฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งบางจังหวัดประสบสถานการณ์อุทกภัยอยู่แล้ว อาจส่งผลให้สถานการณ์ขยายวงกว้างมากขึ้น

นายกรัฐมนตรี จึงได้สั่งกำชับให้ ปภ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมรับมือ โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ จัดชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต และเครื่องมือวัสดุอุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงสนับสนุนการปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที และครอบคลุมทุกด้าน โดยเฉพาะพื้นที่ฝนตกหนัก และสถานการณ์น้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

 

เพียงเสียงทักทายจากไต้ฝุ่นหวูติ๊บ หลายจังหวัดเวียดนามน้ำท่วมเละ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 กันยายน 2556 14:31 น.


เด็กดีเดินและจูงรถจักรยานลุยน้ำไปเรียนตามปรกติในเมืองโฮยอาน จ.กว๋างนาม ในตอนเช้าวันจันทร์ 30 ก.ย.นี้ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืนจนถึงเช้า ย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำของเมืองมรดกโลกระดับน้ำท่วมสูง 30-40 ซม. สร้างความยากลำบากไปทั่ว สื่อของทางการรายงานว่าจังหวัดชายทะเลตั้งแต่นครด่าหนังขึ้นไปจนถึง จ.เหงะอาน มีคลื่นสูง 3-4 เมตรเข้ากระทบฝั่งตลอดทั้งคืน ไต้ฝุ่นหวูติ๊บมีกำหนดเคลื่อนเข้าฝั่งในบ่ายวันนี้. -- ภาพ: TTO


ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เกิดฝนตกหนักในหลายจังหวัดตอนกลางเวียดนามในคืนวันอาทิตย์ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา เมืองเก่ามรดกโลกโฮยอาน (Hoi An) เกิดน้ำท่วมขัง อุทกภัยยังลามถึง จ.เถือะเทียนเหว (Thua Thien Hue) เหนือขึ้นไป และใน จ.เหงะอาน (Nge An) ตอนเช้าวันจันทร์ 30 ก.ย.นี้ มีโรงเรียนนับร้อยแห่งต้องปิดไปโดยอัตโนมัติเนื่องจากน้ำท่วมสูง

นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะไต้ฝุ่นลูกใหญ่ยังอยู่ห่างจากฝั่งออกไปกว่า 300 กิโลเมตร ในหลายพื้นที่ฝนยังตกหนักติดต่อกันมาจนถึงขณะนี้ หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงานในเว็บไซต์ข่าวภาษาเวียดนาม

น้ำจากแม่น้ำในเมืองโฮยอาน จ.กว๋างนาม (Quang Nam) ได้เอ่อล้นขึ้นท่วมท้นตัวเมือง และถนนหนทางตั้งแต่ากลางคืน ระดับน้ำ 30-40 ซม. สร้างความยากลำบากให้แก่ประชาชนทั่วไป และนักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมา แต่นักเรียนจำนวนมากก็ยังคงลุยน้ำเพื่อไปเรียนในท่ามกลางฝนตกโปรยปราย ทางการระดมเรือกว่า 20 ลำ และอากาศยานเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยรุนแรง ซึ่งมีจำนวนมากหลังคาบ้านเรือนถูกพัดหายไป

จังหวัดชายทะเลตั้งแต่นครด่าหนัง ขึ้นไปจนถึง จ.เหงะอาน ต้องเจอคลื่นสูงตั้งแต่ 3-4 เมตร ซัดเข้าฝั่งตลอดคืนที่ผ่านมา ทางการท้องถิ่นต่างๆ กำลังเร่งสำรวจความเสียหาย โดยคาดว่าจะมีเรือประมงที่เข้าจอดชายฝั่งถูกคลื่นพัดพาหายไป หรือเสียหายจำนวนไม่น้อย

ที่ อ.เลถวี (Le Thuy) จ.กว๋างบี่ง (Quang Binh) มีบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายราว 220 ครัวเรือน อีกจำนวนมากได้อพยพไปอาศัยในแหล่งหลบภัยชั่วคราวในเช้าวันนี้ ชาวสวนยางกล่าวว่า ต้นยางพาราในสวนยางบนเนินเขาถูกพายุพัดหักโค่นลงเป็นจำนวนมาก

ในเมืองโด่งเฮย (Dong Hoi) เมืองเอกของจังหวัด มีต้นไม้หักโคนลงกีดขวางเส้นทางจราจรเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดการจราจรติดขัดไปทั่ว กองบัญชาการทหารจังหวัดได้ระดมพลราว 300 นาย ร่วมกับกำลังตำรวจอีก 150 นาย พร้อมเรือ 35 ลำ เรือเล็กอีกหลายสิบลำ ออกให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบเคราะห์ เตื่อยแจ๋กล่าว

ตอนเช้าวันจันทร์นี้ หวูติ๊บ ยังคงอยู่ห่างจากฝั่ง จ.เหงะอาน ราว 170 กม. ขณะเป็นไต้ฝุ่นระดับ 2 คาดว่าจะเข้าถึงฝั่งในเวลาประมาณ 17 น.วันนี้

นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋ง ซึ่งเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติในนครนิวยอร์ก ได้สั่งการในวันอาทิตย์ให้จังหวัดต่างๆ กับหน่วยงานต่างๆ ทั้งฝ่ายพลเรือน และทหาร ติดตามช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยอย่างทันการณ์ และอย่างไม่มีเงื่อนไข เตื่อยแจ๋กล่าว.


นายหว่างจุงหาย (Hoang Trung Hai) รองนายกรัฐมนตรีลงเยี่ยมเยือนราษฎรผู้ประสบภัยใน จ.กว๋างจิ ตอนเช้าตรู่วันจันทร์นี้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋งสั่งการให้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันกาลและอย่างไม่มีเงื่อนไข สื่อของทางการกล่าว. -- ภาพ: TTO


ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงซัดกระหน่ำบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายหลายหลังในบริเวณอ่าวด่าหนัง ฝนยังคงตกติดต่อกันมาจนถึงวันจันทร์นี้. -- ภาพ: TTO


ต้นไม้หักโค่นลงจำนวนมากในนครเหวสร้างความยากลำบากให้แก่การสัญจร ยังมีรายงานเหตุการณ์คล้ายกันนี้ในเมืองโด่งเฮย จ.กว๋างบี่ง และ จ.เหงะอานที่อยู่สูงขึ้นไป ฝนยังคงตกทั่วไปในภาคกลางตอนบนเวียดนามวันจันทร์นี้ ขณะไต้ฝุ่นหวูติ๊บกำลังจะพัดเข้าฝั่งในตอนบ่าย. -- ภาพ: TTO

 

หางเข้ามาแล้ว ไม่รู้จะเสียหายเท่าไหร่ ไม่เคยเห็นพายุเหมือนกัน
ภาพนี้เวลา 15.00น ไทย

 

โอกาสที่ไต้ฝุ่น หวู่ติ๊บ จะเข้านครพนมขณะที่เป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 มีโอกาศจริงๆเหมือนกันน่ะ









จากรูป จะเห็นได้ว่า จ.นครพนม ถึงเวียดนามนั้น ตรงช่วงที่เป็นเส้นทางพายุผ่านมันมีระยะไม่ไกลกันมากครับ ระยะจากทะเลเข้าเวียดนาม ลาว มาไทย โอกาสที่จะเป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 ถึงไทย ก็เป็นไปได้เหมือนกัน

 

ใช่ครับคุณบ่วงตอนนี้โดนหางเข้าแล้วครับอีกไม่นานคงมีรายงานระดับฝนสะสมเข้ามาเรื่อยๆครับ