จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

พิมพ์ไปแล้วส่งข้อความหน้าวอลล์ไม่ได้แฮงค์อีกเสียอารมณ์พรุ่งนี้ค่อยเล่านะครับ

เดี๋ยวพรุ่งนี้ส่งการบ้านครับผมต้องเตรียมตัวทำงานเข้ากะดึกครับ

จับภาพพระตลอดคืน

ใครแกล้งผมป่าวนี้พิมพ์เล่าตั้งนานแฮ้งค์อีก

 

คุณtherd2499 เรียนจิตเกาะพระกับครูเกษในเมล์ไป
แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้คุณช่วยรายงานผลของจิตตนมาเป็นระยะๆในกระทู้นี้ด้วย ก็จะดีมากเลย
เพราะว่า อยากให้คนอื่น โดยเฉพาะผู้ที่กำลังปฎิบัติธรรม ดูเป็นตัวอย่าง คิดซะว่าเป็นธรรมาทานแก่ผู้อื่นก็แล้วกัน
อย่าไปถือว่า เป็นการโชว์ออฟ เพราะการปฎิบัติธรรมนั้น เป็นเรื่องปัจจัตตัง แต่อยากให้ผู้ที่กำลังปฎิบัติเห็นเอง รู้เอง

โดยเฉพาะ ผู้ที่ยังมีความลังเล มีความสงสัยอยู่ จะได้ติดตามดูผลว่าจิตเขาพัฒนาจิตกันอย่างไร หรือจิตเดินมรรคสดๆมันเป็นยังไง
แต่จะไม่เหมือนกันทุกคนไปหรอกนะ เพราะดวงจิต นิสัยของจิต หรือจริตของแต่ละบุคคลนั้น แตกต่างกันไป นั่นเอง
แต่ถ้าจริตไม่ตรงกับจิตเกาะพระ คือพุทธานุสสติ+กสิณ อาจทำให้ผู้ปฎิบัติไม่ได้ผล อย่าไปคิดว่าผู้ที่ทำจิตเกาะพระแล้วจะทำกันได้ทุกคน
แต่งานนี้ขอบอกกันเสียก่อนนะว่า จะต้องมีครูดูแลอย่างใกล้ชิดในขณะจิตกำลังเดินมรรค หรือปฎิบัติในแนวจิตเกาะพระ
เพราะครูผู้สอนจะคอยดูแล คอยให้คำแนะนำที่ถูกต้อง จนกว่าครูจะมั่นใจว่าได้ส่งจิต(ผู้รับ)ไปจ่อที่ปากประตูนิพพานแล้ว
และส่วนที่เหลือผู้นั้นจะต้องเดินเข้าไปเอง ด้วยสติปัญญ หรือญาณของตนเองก็ยิ่งดีใหญ่

กรรมฐานทั้ง ๔๐ กอง ตามที่พระพุทธเจ้าทรงประทานให้กับผู้ปฎิบัติทั้งหลายเหล่านั้น
จุดประสงค์ก็เพียงแค่ให้ผู้ปฎิบัติเข้าถึงความสงบภายในจิตของตนเท่านั้น
ซึ่งกรรมฐานประกอบไปด้วย ๑.สมถกรรมฐาน ๒.วิปัสสนากรรมฐาน

สมถะจึงถือเป็นพื้นฐานของกรรมฐาน ซึ่งจะนำพาจิตไปสู่กรรมฐานขั้นสูงยิ่งๆขึ้นต่อไปอีก นั่นก็คือ วิปัสสนากรรมฐาน
หรือ สมถกรรมฐานจึงเป็นบาทฐานของ คำว่า วิปัสสนา นั่นเอง

เพราะฉะนั้น ผู้ปฎิบัติทุกท่านจำเป็นจะต้องผ่านกองกรรมฐานแรกสุดไปให้ได้ก่อนนั่นก็คือ สมถะ (สมถะ แปลว่า สมาธิ)
จิตได้สมถะ(สมาธิ)เมื่อไหร่ นั่นแสดงว่าจิตพอจะมีปัญญาแล้ว แต่จะมีมากหรือน้อย ตอบว่า..ขึ้นอยู่กับตนเอง
ว่าเราขยันสร้างตัวสติบ่อยแค่ไหน นานแค่ไหน ตรงนี้ขอเน้นย้ำคำว่า ต่อเนื่อง (พยายามสร้างสติให้ต่อเนื่่อง)
สำหรับจิตเกาะพระนั้น การสร้างสติโดยการให้ผู้ปฎิบัติคอยหมั่นระลึกหรือนึกถึงภาพพระที่กำลังนำมาปฎิบัติกันอยู่นั้น

เพราะฉะนั้น จิตจะต้องมีปัญญาเสียก่อน เพราะจิตจะใช้ตัวปัญญานี้ เพื่อไปพิจารณาธรรมต่างๆ
แต่ถ้าจิตไม่เป็นสมถะ(สมาธิ)ย่อมเข้าถึงธรรมยาก
ถึงแม้น (บางที)อาจเข้าใจธรรม แต่จะปล่อยวางยังไม่ได้ทันที ทันใด เหมือนกับพระอริยสงฆ์ ก็ด้วยเหตุผลทั้งปวงนี้แลฯ
เรื่องจิตเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ส่วนศีลหรือธรรมของตนจะละเอียดมากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับจิตตนเท่านั้น

ขอโมทนาสาธุกับจิตที่กำลังปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบทุกๆท่านด้วย

*** ปัญญาของเรามีแค่ไหน เราก็รู้แค่นั้น หรือพูดแค่นั้น ผู้ปฎิบัติคอยสังเกตตนเองให้ดีแล้วก็จะรู้เอง

 

ได้เลยครับหากคิดว่าเป็นธรรมทาน

ครับตอนแรกกลัวจะเป็นการอวดเหมือนกันแต่ถ้าเป็นธรรมทานได้เลยครับ

ผมปฎิบัติแบบโง่ๆนะครับแต่ด้วยจริตผมจับภาพพระให้ได้ฌาณเพื่อต่อยอดฝึก

ทิพยจักษุ

และมโนมยิทธินะครับแต่จุดหมายปลายทางคือหลุดพ้นเหมือนกันครับ

ท้ายนี้จริตผมชอบแนวทิพยจักษุในวิชาสามและมโนมยิทธิในหลักสูตร

อภิญญามิได้จะโอ้อวดใครมันชอบเป็นการส่วนตัวจริงๆครับ

 

โมทนาสาธุด้วยครับ
ทั้งหมดทั้งมวล มันก็ขึ้นอยู่ที่เจตนาของตนเอง
แต่ถ้าเรา(จิต) คิดว่าธรรมาทานเป็นบุญเป็นกุศล มันก็เป็นบุญเป็นกุศล(ตามนั้น)

เรามิอาจจะไปเปลี่ยนแปลงผู้อื่นได้ โดยเฉพาะจิต เขาจะคิดอย่างไรก็ปล่อยเขาไป
เพราะสิ่งข้างนอกจิตของตนนั้น ไม่มีใครเขาไปห้ามได้
แต่สิ่งที่พอจะเปลี่ยนแปลงได้(บ้าง) นั่นก็คือ จิตหรือความคิดตนเอง
ตามลำพังตนก็ยังเปลี่ยนยากเลย นับประสาอะไรจะไปเปลี่ยนแปลงผู้อื่นหรือสิ่งอื่น

แต่สิ่งเดียวที่จะพอเปลี่ยนแปลงจิตของคนเราไปในทิศทางที่ดีได้ นั่นก็คือ กรรมฐาน

***เธอไม่ได้โง่จริงๆหรอก จิตถ่อมตนแบบนี้ฝึกง่าย ครูไม่ปวดหัว อย่างนี้เป็นผลดีต่อตนเอง(จบไว)

 

อานาปานุสสติกรรมฐาน
ทิ้งไม่ได้!

ธรรมโอวาทหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง

อานาปานุสสติกรรมฐานมีอุปมาเหมือนกับพื้นแผ่นดิน
อารมณ์จิตที่จะทรงเป็นสมาธิหรือปัญญาที่จะเกิดเหมือนกับเรา ตัวเราซึ่งยืนอยู่บนแผ่นดิน
ถ้าเราไม่มีแผ่นดิน เราจะยืนที่ไหน จะก้าวไปข้างหน้า จะถอยไปข้างหลัง จะนั่ง จะนอน จะยืน จะเดิน ไม่มีที่
เพราะมันไม่มีแผ่นดิน

จำไว้ให้ดีว่าอานาปานุสสติกรรมฐานนี่ทิ้งไม่ได้

BuddhaSattha ​

 

อย่าเมาอภิญญา

โดยหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง

นี่ลูกหลานฟังไว้ให้ดีนะ ว่าเรื่องความอยากนี่มันไม่ใช่ของดี
มันไมมีอะไรจะดีหรอก ความอยากนอกรีต นอกรอยนี่นะไม่ดี
เข้าใจว่าการเจริญอภิญญาดี ถ้ามันเป็นวิสัยของเรา
เราได้งายมันก็ดี ถ้ามันรู้สึกว่าได้ยากเราก็คิดว่า อภิญญานี้นะ
ไม่ใช่ อรหัตผล อภิญญาไม่ใช่ พระโสดา สกิทาคา อนาคา

อภิญญา ก็คือ โลกีย์ญาน

ถึงแม้ว่าจะได้สักเท่าไหร่ก็ตามที
จิตก็ยังตกอยู่ในอำนาจกิเลส ตัณหา อุปาทาน กรรม

ถ้าหากว่าเราทำได้ยาก เราก็หาโอกาสแบบนี้ดีกว่า
หาโอกาสทำอย่างอื่น คือเจริญวิปัสสนาญานให้สามารถ
ตัดสังโยชน์ ๓ ประการ ได้เป็นพระโสดาบันแทน หรือเป็น
พระสกิทาคามีแทน หรือเป็นพระอนาคามี หรือ พระอรหันต์
เอายังงั้นเลยดีกว่า
นี่ทำยากนะ ถ้าทำได้เป็นวิสัยของเรา ก็ทำเถอะ ไม่เป็นไร
เพราะการได้อภิญญานี่เป็นการช่วยให้การบรรลุมรรคผลสำเร็จได้โดยง่าย
ถ้าเราไม่เมาอภิญญา

แต่ว่าเราได้อภิญญาแล้วเมาอภิญญาอย่างท่านพระเทวทัต
ไม่ดีเหมือนกัน ชวนลงนรก เรื่องนี้ขอผ่านไป ไม่มีอะไรหนัก

นี่เล่าให้ฟัง

BuddhaSattha ​

 

การได้แสดงธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น แม้บุคคลใดที่ได้ยินได้ฟังธรรมของท่าน ผู้ที่แสดงธรรมแม้ยังไม่ได้หลุดพ้น ในธรรมนั้นๆ แต่ช่วงได้แสดงธรรมนั้นก็จะทําให้ผู้แสดงธรรมได้รู้ธรรมและเห็นธรรมตามไปด้วย เพราะจิตได้รู้ตามเห็นตามนั้น การแสดงธรรม การได้กล่าวธรรมให้ผู้ที่ยังไม่รู้ได้รู้ถือว่าเป็นธรรมทานอันสูงส่งค่ะ

จึงขออนุโมทนาสาธุกับธรรมทานของครูพี่ภู และท่านผู้ต้องการหลุดพ้นที่เข้ามาแวะพักที่กระทู้นี้ และถ้าท่านต้องการสิ่งที่ดี มีประโยชน์ต่อท่านก็ต้องมาลองฝึกดูว่า การฝึกจิตทุกๆท่านสามารถฝึกได้ ทําได้เพื่อความสุขความเจริญของท่านเอง...สาธุค่ะ

 

ศรัทธา เป็นอุปกรณ์สำคัญในการทำความเพียร

-เป็นทรัพอันประเสริฐ เมื่อเรามีศรัทธาเกิดขึ้นแล้ว

...จะทำประโยชน์ในโลกนี้ และโลกหน้า...

...ประโยชน์อย่างยอด...คือนิพพาน...ได้พ้นทุกข์...

...พระธรรมคำสั่งสอนของหลวงปู่ทอง วัดพระธาตุศรีจอมทอง จ. เชียงใหม่...

...กราบน้อมรับพระธรรมคำสั่งสอนของหลวงปู่เจ้าค่ะกราบ กราบ กราบ...

 

ส่วนที่เกี่ยวกับการปฏิบัติโดยตรง คือศรัทธาวิริยะสติสมาธิปัญญา ยังไม่รวมถึง

ศีลและทาน ที่เป็นองค์ประกอบที่ต้องทำด้วยเช่นกัน ถ้ายังไม่มีใจกว้างยังตระหนี่อยู่ ก็จะ

ปฏิบัติธรรมยาก จะรักษาศีลยาก ถ้าไม่มีศีลจิตจะไม่สงบง่าย จะวุ่นวายรุ่มร้อนเรื่องต่างๆ

เวลาเราทำผิดแล้วจะมีความกังวลวุ่นวายใจ...นอกจากมีศรัทธาสติวิริยะสมาธิปัญญาแล้ว

ก็ยังต้องทำบุญให้ทานรักษาศีล...อย่างที่พวกเราทั้งหลายได้ปฏิบัติกัน อย่าไปเสียดาย

สมบัติข้าวของเงินทอง...ทำบัญชีจำแนกมันไว้ ส่วนไหนที่จำเป็นก็เก็บไว้ ส่วนไหนไม่จำ

เป็นก็เอาไปจำหน่ายจ่ายแจก...จะได้ตัดความตระหนี่ตัดความโลภจะได้ไม่อยากได้เงิน

ทอง เพราะพอมีพอกินแล้ว...ถ้าใจยังมีความโลภอยู่ก็จะทำให้วุ่นวาย ใหรู้จักคำว่าพอแล้ว

จะทำให้จิตใจของเรานั้นสงบสบาย และการปฏิบัตินั้นก็จะได้ผลดังใจที่เราปรารถนาค่ะ...

 

สาธุค่ะคุณพี่มาลืนี กล่าวถูกต้องเลย ถ้าจิตใจที่ไม่มีความตระหนี่แล้ว จะทําอะไรๆก็มีแต่คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมและจิตก็เป็นสุข เพราะจิตที่ไม่ตระหนี่ เหนียวแน่น
ก็จะเป็นผู้กว้างขวาง ไปในที่ไหนๆจะเป็นที่รักของเทวดา และมนุษย์ พร้อมทั้งเป็นคนเห็นอก เห็นใจผู้อื่นด้วย

ข้าพเจ้าจําติดหูเลยว่า คําสอนขององค์ตามหาบัว ท่านกล่าวไว้ว่า"ถ้าผู้ใดที่ทําประโยชน์เพื่อส่วนร่วมนั้นแหละเป็นผู้มีใจกว้างขวางและได้ประโยชน์มาก แต่ถ้าทําเพื่อส่วนตนแล้วก็จะเป็นคนที่แคบ คือไปไหนก็ตีบตันอ้นตู้"นี้เป็นคําที่ข้าพเจ้าได้จําฝังใจมาตลอด
และลูกน้อมกราบรับคําสอนนี้มาปฏิบัติเพื่อความเสียสละ เพื่อความหลุดพ้นด้วยเศียรเกล้าค่ะ
ลูกขอน้อมกราบนมัสการองค์หลวงตา ด้วยเศียรเกล้าค่ะ

 

~อย่ากังวล ให้พยายามปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่าง อย่าคิดถึงคนอื่น ให้ดูจิตใจตนเองเป็นสำคัญ
ทำจิตใจให้อยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุด คิดถึงความตายให้มาก
ถ้าปล่อยให้จิตเศร้าหมองอยู่แม้แต่นิดเดียว ตายไปขณะนั้นย่อมไม่ถึงซึ่ง
พระนิพพานอย่างแน่นอน พึงคำนึงถึงข้อนี้เอาไว้ให้ดี

จงช่วยตนเองให้ดีเสียก่อน อย่าเพิ่งคิดไปช่วยคนอื่น แล้วให้เคารพในกฏของกรรมให้มากๆ
ตัดใจให้ได้เสียอย่างเดียว โดยมองเห็นอริยสัจเป็นหลัก แล้วจิตจักสงบลงได้~



ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๑๒ หน้า ๔๒
พระราชพรหมยานมหาเถระ หลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
รวบรวมโดย : พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

 

สมาคมจิตเกาะพระ
สายUK

แอบซุ่มทำบุญกันอีกแล้ววว
ขอให้พวกเราร่วมกันอนุโมทนาบุญกับสมาคมจิตเกาะ มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
โมทนาสาธุ

(ข้อความเดิม)
ปลาบปลื้ม อิ่มใจ อิ่มบุญ อิ่มท้อง กันทั่วหน้า ...
พวกเราสมาคมจิตเกาะพระ สายUK(จิตบุญ จิตเกาะพระ)
มารวมตัวกันเฉพาะกิจ กันอีกครั้งอีกครา เมื่อถึงงานบุญผ้าป่า วัดสังฆปทีป แคว้นเวลส์
มาร่วมกัน ถวายผ้าป่าที่มี ท่านผู้มีจิตศรัทธา ร่วมบุญกับทางสมาคมจิตเกาะพระ
ได้ปัจจัยรวมทั้งสิ้น 770.20 ปอนด์ ....

ขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่านค่ะ
Nat Natcha
https://www.facebook.com/natcha.savill?directed_target_id=222448861205893































​

 

หลายปีก่อนตอนยังชั่วจิตใจยังไม่เข้าถึงธรรมวันนั้น

อยู่หน้าคอมความความคิดนึงมันเข้ามาในจิตคือ หลวงพ่อฤาษีลิงดำความคิดคือ

หลวงพ่อฤาษีคือใครเลยได้ศึกษาประวัติและคำสอนใช่เลยจริตผมเลย

ก็ตั้งใจฝึกจับภาพพระบ้างทิ้งบ้างโต๋เต๋ไปบ้างสรุปไม่ได้ไรเลย

ช่วงเดือนก.คที่ผ่านมาพ่อเสียเลยเห็นสัจธรรมเลยกลับมาฝึกจับภาพพระอีกครั้ง

ฝึกใหม่ๆก็ธรรมดาครับมีฟุ้งบ้างก็ผ่านมาได้ครับ

พอเริ่มจับภาพพระได้จิตปรามาสพระอริยะไม่เว้นแม้แต่หลวงพ่อก็ผ่านมาได้ครับ

ส่วนจับภาพพระผมก็จับภาพพระตลอดทั้งวันเผลอบ้างลืมบ้าง

ก่อนนอนก็นอนจับภาพพระจับลมหายใจเข้าออกทุกวันครับ

แต่จิตผมจำพระได้ทุกส่วนยกเว้นใบหน้าองค์พระครับทำไมมันไม่ค่อยจำก็ไม่

ทราบ

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงตลอด3เดือนที่ฝึกจับภาพพระคือ

1.จิตมันใคร่ครวญศีลโดยอัตโนมัติครับศีล5หยาบนะครับยังไม่ถึงขั้นละเอียด

ที่เล่ามาก็ประมาณนี้ครับยังไม่ก้าวหน้าเท่าไหร่ครับ

 

ทำไม
จิตบุญผู้ชาย(สายอังกฤษ) ไม่มีสักคนเลย
หรือว่าผู้ชายเสียใจไม่เป็น ทุกข์ใจไม่เป็น

ดูหน้าแต่ละท่านสิ! อิ่มเอิบบุญไปตามๆกัน

ครูเกษ เห็นรูปน้องตูนรึยัง ผิดกันคนละคนเลย
ตอนนี้กลับมาเป็นคน เป็นมนุษย์ประเสริฐอย่างภาคภูมิใจอีกครั้งนึง
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน

พยายามเกาะกลุ่มกันเข้าไว้ ช่วยกันนำพาพัฒนาจิตใจซึ่งกันและกันให้สูงยิ่งๆขึ้นไปอีก
อย่าหยุดการภาวนา ตราบใดยังมีขันธ์ ประมาทมิได้
หากผู้ใด ยังละตัวรู้มิได้ ยังละธรรมารมณ์มิได้ ก็พยายามละซะนะ
โดยเฉพาะละธรรมารมณ์ ซึ่งจะละโดยตรง มิได้ แต่จะต้องละด้วยการเจริญปัญญาอย่างต่อเนื่อง

ขอโมทนาสาธุอีกครั้งนึง

 

วันนี้ตั้งกำลังใจใหม่ครับทิ้งความอยากฝึกวิชาสามมโมยิทธิ

ทิ้งผลของการปฎิบัติว่าฝึกอย่างงี้จะได้อย่างนั้นเอาไว้ทีหลังตัวอุปกิเลสและตัวนิวรณ์ดีๆนี่

เองตั้งกำลังใจใหม่เอาแบบยกจิตตามแนวทางครูเกษไปก่อนครับเรื่องอย่างอื่นค่อยแหก

คอกเอาทีหลังครับ

วันนี้ส่งการบ้านแค่นี้ครับก็ขอเรียนทางเมลล์ไปก่อนมีไรคืบหน้าจะมาเล่าผลของ

การฝึกให้ฟังครับ

 

มีครูผมอยู่ในรูปไหมครับ^^

 

นี่ไง๊ ครูเกษ คนที่ใส่เสื้อสีม่วง
คุณลินดา มาช่วยผมเฉลยหน่อยครับ ว่าแต่ว่า คนไหนแน่​

 

ครูเกษ.. ที่คุณถามถึง

โทษที ตะกี้นี้ลงรูปผิดไปหน่อย
ป่านนี้ ครูเกษคงสะดุ้งโหยงไปแร๊ะ ใช่ไหมคุณลินดา
catt9

 

อิอิอิอิอิ

เซกซี่มากครับ5555ว่าแต่ซ้ายหรือขวา

 

ดีใจครับมีครูสวยน่ารักมีกำลังใจปฎิบัติขึ้นเยอะ

ว่าแต่จับภาพครูเกษแทนได้ปล่าวครับ