จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    การปฏิบัติธรรม ก็มีหลายแขนง หรือหลายสาย แต่จะแขนงไหน สายไหนก็ไปถึงจุดหมายได้ ถ้าเรายึดตามคําสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ก็จะสําเร็จได้ เพราะการปฏิบัติจุดสําคัญ ก็คือ ใจ ถ้าขาดใจก็ไม่มีความหมาย

    และเป้าหมายของการปฏิบัตินั้น ก็คือ พ้นจากทุกข์ นั้นคือ การปฏิบัติ ที่ถูกต้อง เราไม่ควรยึดติดในสายนั้นๆว่าจะมาจากไหน? และสิ่งที่ควรน้อมระลึกอยู่เสมอ ก็คือ ลมหายใจ ถ้าขาดลมหายใจแล้ว ก็หมดสิทธิ์ ทําความดีเท่านั้นเอง...

    ยกตัวอย่างการปฏิบัติธรรม ทุกๆคนก็ต้องการสิ่งที่ดีกันทั้งนั้น แต่ความสามารถของผู้ปฏิบัติจะได้ขนาดไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถ หรือองค์ประกอบ เช่น การแข่งขันการยิ่งธนู ผู้เข้าแข่งขันทุกๆคน ต้องการยิ่งให้เข้าเป้าหมายมากที่สุด เท่าที่จะทําได้ แต่ทําไม?

    บางท่านยิ่งไปแล้วก็ไม่เข้าเป้าดังใจหมาย เพราะจะขึ้นอยู่กับว่า ช่วงจังหวะ หรือ การฝึกซ่อมก็เป็นได้ จึงยิ่งไปแล้วตรงเป้าบ้างไม่ตรงเป้าบ้าง แต่เราผู้ยิ่งไม่สามารถจะฝึนได้ เพราะยิ่งไปแล้ว คนที่ปฏิบัติธรรมก็เช่นเดียวกันทุกๆคนต้องการไปถึงนิพพานกันหมด แต่การเดินทางไปนั้นไม่ใช่ของง่ายๆ ที่ทุกๆคนจะไปได้

    ก็ต้องอยู่กับคนๆนั้นเท่านนั้น...จึงไม่ควรเป็นทุกข์กับใครๆทั้งที่ตัวเราก็ควรจะน้อมมาดูตัวเราเท่านั้น เพราะถึงจุดๆนั้นแล้ว ก็ไม่ควรยึดติดในสิ่งใดๆทั้งหมดด้วยเช่นกันค่ะ
    ธรรมะจากใจขอฝากไว้ค่ะสาธุค่ะ
     
  2. Natcha@uk

    Natcha@uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +9,444
    [​IMG] [​IMG]



    "หากยามใดท้อถอย เหนื่อยหน่ายต่อการปฏิบัติ
    ก็ให้ระลึกถึงภัยข้างหน้าที่จะมีมา ต้องตระหนักว่า
    ขณะนี้เรายังอยู่ในมรสุม อยู่ท่ามกลางคลื่น
    ภัยนั้นมีอยู่รอบด้าน เอาไว้ให้ถึงฝั่งเสียก่อน
    อย่ามัวแต่เที่ยวเก็บ เที่ยวชมดอกไม้
    มืดค่ำแล้ว เดี๋ยวจะหาทางออกไม่พบ"

    หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ
     
  3. Pugsley

    Pugsley เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +4,825
    อนุโมทนาสาธุกับคุณ มาริโกลด์ ด้วยค่ะ

    บ้านน้อยหลังนี้ยินดีต้อนรับด้วยความยินดียิ่งจ้ะ

    ว่าแต่ครูเกษคนจ๋วย..ไปไหนง่ะ...เดี๋ยวป้าไปตามมาให้นะ ^^
     
  4. therd2499

    therd2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +3,209
    ท่านป้าครับฝากบอกครูตอบการบ้านศิษย์ด้วยครับ

    ทำงานก่อนครับเลิกงานตี1
     
  5. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    ท่านป้าคะ ไม่ต้องตามท่านหรอกค่ะ อิฉันรอได้ อิๆ
    ปล.ช่วงบ่ายเห็นครูเกษอยู่ค่ะ แต่เธอคงไม่เห็นอิฉัน เอ.หรือดิฉันจะเรียนกับท่านป้าดีคะ?(อยากได้ครูที่ใสๆน่ะค่ะ555++)
     
  6. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    ไปก่อนะคะท่านป้า (ท่านป้าเป็นครูดิฉันเถอะค่ะ พรุ่งนี้จะเข้ามาหาแต่เช้า)
    ปล.ฝากขอบคุณ คุณครูทุกๆท่าน ทุกข้ออรรถข้อธรรม ดิฉันขอโมทนาด้วยความจริงใจ สาธุค่ะ
     
  7. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    สาธุอนุโมทนาค่ะ และยินดีต้อนรับค่ะ ขอให้ความตั้งใจมั่นของท่าน

    ...จงประสพความสำเร็จโดยเร็วพลัน มีดวงตาเห็นธรรมนะคะ ขออนุโมทนากับ

    -ครูเกษ และครูผู้สอนที่ท่านเป็นตัวแทนของท่านพ่อตามหาลูกหลานของท่าน

    ...นั่นก็คือญาติพี่น้องของพวกเราขออนุโมทนาค่ะสาธุ สาธุ สาธุ...
     
  8. Natcha@uk

    Natcha@uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +9,444
    ....ฮ่าๆๆๆ ... ท่านป้า งานเข้าแย้ววว ดีๆ :cool: ท่านย่าจะขอนั่งแท่นคอยเชียร์ คอยดู หลานๆ นะจ๊ะ อิ อิ...

    คุณมาริโกลด์ อยากได้ครูที่ใสๆ... ท่านป้าดาว นี่เลย จิตใสๆ ฝีมือ ฉกาจฉกรรจ์ไม่แพ้ ครูเกษ ...โฆษณาแทน ท่านป้าดาว ซะเลย ...

    โมทนาสาธุ ป้าดาว จัดเต็ม !! ลุยโล้ด...อย่ามัวรีรอ เดินชมนกชมไม้ เดี๋ยวหมดเวลา จะหาว่า ท่านย่าไม่เตือน อิ อิ
     
  9. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027

    ค่ะ..ครูเกษแจกพระค่ะ...แต่แจกพระในจิตน่ะค่ะ ไม่ใช่พระเครื่อง...อิๆๆ
     
  10. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    แต่ก็ยังดื้อไม่ที่สุด เหมือนใครบางคน...คิๆๆๆ
     
  11. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    ยินดีค่ะ แต่อย่าให้นานเกินรอน่ะ เดี๋ยวจะไม่ทันการณ์...:cool:
     
  12. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    สวัสดีและยินดีด้วยค่ะ ต้องขอโทษที่มิอาจตอบกลับได้ทันใจท่าน...

    ตกลงว่าเลือกครูได้แล้วใช่มั้ยค่ะ...ครูป้าดาว...ให้รีบมาไวๆ ...ได้ลูกศิษย์กิตติมศักดิ์มาให้ลับวิชาแล้วค่ะ...ขอแนะนำ..เคสนี้ เรียนบนหน้ากระทู้หน้าจะเหมาะเป็นธรรมทานได้ดีมากมากเลยค่ะ

    ขอสาธุโมทนาบุญล่วงหน้าค่ะ...
    :cool:
     
  13. naproxen

    naproxen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +742
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=8SQCQJuTkIo]ขรัวโต-เทศน์ครั้งสุดท้าย - YouTube[/ame]
     
  14. Natcha@uk

    Natcha@uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +9,444
    [​IMG]



    ตัดห่วงร้อยรัด ตัดความผูกพัน

    ตัดห่วงร้อยรัด ตัดความผูกพัน ออกจากจิต ตัดอย่างไร?
    ความผูกพัน เป็นเรื่องของความรู้สึก นามธรรม มันละเอียดอ่อน ถูกสร้างถูกบันทึกใส่มาในจิตมานาน เยื่อใยที่ถูกสร้างขึ้นมา
    บวกกับการใส่ความคิดความรู้สึกเข้าอีก ว่านี่เป็น ตัวกู ไอ้นี่เป็นของกู มันมีมานานนับอสงไขยกัปป์
    นี่แหละเรียกว่า อวิชชา หรือ ความไม่รู้ หรือ รู้ไม่ครบ ฉะนั้นไอ้การที่จะตัดให้ได้ขาดสะบั้นได้นั้น ต้องใช้ ปัญญา หรือปัญญาญาน เท่านั้น
    ที่จะเข้าไปเป็นผู้พาออกมา
    หรือเบื้องต้น ถ้ายังไม่เกิดญานอันเป็นเครื่องรู้ หรือ ตัวรู้ หรือธาตุรู้ ก็อย่างน้อย ต้องเป็น จิตปัญญาที่เข้มมากพอที่เข้าไป ละ
    ไปสอนจิตให้เห็นถึง โทษที่จะทำให้กลับมาเกิด ...

    โดยเฉพาะ ความผูกพันในร่างกาย ขันธ์5 ของเราเองและ ของผู้อื่น อันนี้ จำเป็นต้องใช้ วิปัสสนากรรมฐาน เป็นการเดินการปฏิบัติธรรม เหมือนอย่างที่
    หลวงพ่อ ท่านสอนว่า " ตัดขันธ์5 อย่างเดียวลูกเอ๊ย ไปนิพพานได้ "
    นั่นแหละ ทางเดียวที่เราจะเดินไป นำเอาจิตเรามาเดินมรรค มาปฏิบัติให้จิตเข้าถึงธรรมให้ได้
    จิตที่เข้าถึงธรรม คือจิตที่มีปัญญา รู้ครบตามความจริงของธรรมชาติ รู้ครบตามความจริงที่พระพุทธเจ้าทรงสอน จิตที่ผ่านการเจริญในมรรค 8 ตามลำดับขั้นตอนหรือ คือ จิตที่เข้าถึงการปฏิบัติ ด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา นั่นเอง...


    ผู้ปฏิบัติ ที่จิตเข้าถึงแล้วย่อมรู้ได้ด้วยตนเอง ว่ากิเลสที่ร้อยรัด จิตใจเรามาตั้งนาน โดยเฉพาะ ไฟ 3 กองใหญ่ (โลภ โกรธ หลง)
    และอีก1 กองย่อย (รัก)มันเบาบาง หรือ หลุดไปได้แล้ว มาน้อยเพียงใด ผู้ปฏิบัติจะรู้เอง จะรู้ๆได้อย่างไรน่ะหรือ? ...
    ก็ต้องดูตอนที่เจอสิ่งกระทบ ของจริงไง ดูว่าตอนนั้น จิตเราเป็นอย่างไร? ยังมี พอใจ ไม่พอใจ หรือว่ากลางๆ

    ถ้าสติเรารู้เท่าทันอารมณ์ปัจจุบัน เราจะเห็นชัด ว่า...เมื่อเจอการกระทบแล้ว จิตเรายังคงนิ่งอยู่ในความสงบ ...วางเฉย
    สามารถมองเห็น อารมณ์จิต เกิด ดับ โดยที่ไม่ต้องวิปัสนาหรือว่ายังหวั่นไหวต่อสิ่งกระทบ หรือว่า ยังต้องคอยหมั่นคิดวิปัสสนา ตัดลงไตรลักษณ์ ...
    เราจะรู้ทันที...


    ผลของการปฏิบัติ ... จิตมันต้องนิ่ง สงบ โปร่ง เบา สบาย ไม่หวั่นไหว...ต่อสิ่งกระทบ
    อารมณ์ใจมันจะหนักแน่น มีพลัง แต่ชุ่มชื่น เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นโดยที่ไม่ต้องหาเหตุหาผล มันเหมือนมันรู้ด้วยตัวของมันเอง
    นี่แหละ ผู้เขียนถึงได้เข้าใจ ว่า คำว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนนั้น เป็นอย่างไร ก็คือ จิตนั่นเอง เขาเป็นที่พึ่งของตัวเขาเองได้นั้่นแหละเราถึงจะรู้ว่า
    ผลของการปฏิบัติเกิดขึ้นแล้ว

    สิ่งที่เราเพียรพยายาม สำรวมจิต ทรงสมาธิ หรือ ทรงเอกัคคตารมณ์ เจริญวิปัสสนาตลอดเวลา
    เพื่อให้จิตเกิดปัญญาโดยเฉพาะ ความเข้าใจเกี่ยวกับขันธ์5 ทั้งรูป1 นาม4 (กาย เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน)
    โดยเฉพาะ ตัวนามธรรม 4 ตัว จิตต้องอาศัย กำลังสมาธิ เพื่อคิดวิปัสสนาตลอดเวลา เกี่ยวกับ ความจริง ของขันธ์ 5 ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้
    เมื่อจิตมีความรู้ ความเข้าใจ และเข้าถึง ความจริงของขันธ์5 อย่างถ่องแท้แล้ว จนจิตสามารถ เห็นได้ว่า เราไม่มีในร่างกาย และร่างกายไม่มีในเรา
    จิตจะแยกแยะได้เองว่า เรื่องใดเป็นเรื่องของจิต เรื่องใดเป็นเรื่องของขันธ์ 5
    จิตจะผ่านอารมณ์เบื่อหน่ายขันธ์5 (โดยเฉพาะ เรื่องกาย และ สังขาร )มาก่อน เพราะมองเห็น แต่ความเกิด ดับ ตลอดเวลา โดยเฉพาะอารมณ์จิต เบื่อจนพอ จนมีปัญญามาพอสอนให้ มาวางลงที่อารมณ์ความเป็นกลางๆ...


    พอเขาเข้าใจแล้ว จิตก็จะวางลงทันทีเพราะมองเห็นตามความเป็นจริงแล้วว่า ...
    ทุกอย่างที่เป็นเรื่องของร่างกายนั้น เรา(จิต) บังคับไม่ได้ ฝืนไม่ได้ และให้เป็นไปตามอย่างที่เราต้องการไม่ได้
    เมื่อเขาเข้าใจอย่างนี้ เขาจะวางลง ทันทีด้วย มองเห็น ความเป็นธรรมดา ...มองทุกสิ่ง ทุกอย่างเป็น ธรรมดา
    นั่นละ อารมณ์ใจก็จะสบาย เพราะเขายอมรับ ไม่ใช่ อารมณ์หนัก เพราะ เอาฌานกดทับไว้ ไม่ใช่นะ...
    แต่เป็นอารมณ์ของความเข้าใจ ปล่อยวาง จิตจะแช่มชื่น มีพลัง ความเข้มแข็งของจิตจะมาก
    โดยเฉพาะ ยิ่งถ้าทรงอารมณ์สมาธิ ที่มีพุทธคุณครอบไว้ด้วยแล้ว มันยิ่ง มีพลัง ยิ่งใหญ่อย่าบอกใครเลย ...
    กำลังใจที่จะไป นิพพาน กำลังใจ ที่พร้อมตาย พร้อมปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างไว้บนโลกนี้ มันมากจริงๆ
    นี่แหละ อารมณ์ที่เพียรฝึก ละความพอใจ ยินดี ละห่วงร้อยรัดทั้งหลาย ละความผูกพัน ในการเกิดมาเป็นมนุษย์โลก
    เทวโลก และ พรหมโลก เพื่อไปนิพพานอย่างเดียว ...มันละกันตรงนี้



    ***ป.ล....การฝึกจิตเกาะพระ (กรรมฐานพุทธานุสสติ + กสิณ)
    จึงเป็นทางลัดอย่างเยี่ยมยอด ที่ทำให้การปฏิบัติ ลัด สั้น ตัด ตรง พัฒนาได้อย่างต่อเนื่องอย่างคาดไม่ถึง
    เป็นการฝึกสติ ที่มีคุณค่าแยบคายมาก เพราะสร้างสติให้เกิดตลอดเวลา สติมีทั้งรู้ตัวทั่วพร้อมทางกาย และสติที่คุมจิตให้อยู่กับพระตลอด
    จิตสามารถเรียนรู้ จากการวิปัสสนาได้ตลอดเวลา เพราะอาศัยจิตทรงสมาธิ ตลอด24 ชม นั่นเอง
    นี่เองเป็นข้อเด่นที่สุด ของการปฏิบัติแบบจิตเกาะพระ ที่สามารถสร้างปัญญาป้อนให้จิตได้ตลอดเวลา จิตจะเรียนรู้ พัฒนาของเขาไปเอง โดยที่เราไม่รู้ตัว
    แต่จะมารู้ตัวอีกที ก็อีตอน ที่เจอโจทย์บททดสอบ สิ่งกระทบ นั่นแหละ
    ไม่ว่า สิ่งที่มากระทบนั้น จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ความโลภ ความโกรธ ความหลง หรือ ความรักที่มันเข้ามา ทำให้จิต เราเร่าร้อน กิเลส เหล่านี้ มันมีอยู่ตลอด เพราะเรามีร่างกาย
    แต่จิต เราที่ฝึกมาดีแล้ว จะไม่หวั่นไหว ขุ่นมัวเลยเพราะจิตนั้นเข้าใจแล้ว ละ วาง ปล่อยแล้วด้วยปัญญา ไม่หันไปคบ กับกิเลสอีกแล้ว ก็แค่ปล่อยให้มันเกิด มันดับ ของมันไป ...

    จิตจึงเป็นแค่ผู้ดู เท่านั้น ไม่ลงไปเล่นกับกิเลสเหมือนเมื่อก่อนแล้ว


    ณัฐชยาวดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤศจิกายน 2013
  15. Pugsley

    Pugsley เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +4,825
    ป้าไม่ใช่ครูหรอกจ้าา คุณมาริโกลด์ ป้ามาอยู่แถวนี้เพื่อรับแขกเฉยๆ
    ป้าเองยังไปไม่ถึงฝั่งฝันกะเขาเลย...ยังต้องหมั่นเพียรก้าวเดินต่อไป
    ระยะทางของป้ายังอีกยาวไกลยิ่งนัก

    ตัวป้าเองนั้นเรียนวิชาจิตเกาะพระกับ ครูเกษ , ครูพี่แนท , ครูลูกพลัง , ครูพี่เพ็ญ
    และยังมีครูใหญ่พี่ภู..ท่านมาเสริมทัพให้ภายหลัง เป็นงัยจ๊ะป้าใช้ครูเปลืองดีใช่ม่ะ..ฮ่าๆๆๆ

    ตอนนี้ป้าเป็นได้เพียงป้าผู้ให้กำลังใจแค่นั้นเองจ๊ะ..

    ขออภัยนะจ๊ะที่ทำให้เข้าใจผิด...ป้าก็แค่เหมือนจะเป็น..แต่ยังไม่เป็น ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤศจิกายน 2013
  16. Pugsley

    Pugsley เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +4,825
    จะเลือกเคารพพระแบบใด?
    หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุงตอบปัญหาธรรม จากหนังสือ "สู่แสงธรรม" โดย พล.อ.ต.มนูญ ชมภูทีป



    "หลวงพ่อครับ โดยทั่วๆ ไปแล้วเราควรจะเคารพกราบไหว้พระที่เคร่งในวินัยและสำรวมในการพูด มากกว่าพระที่ไม่สำรวมใช่ไหมครับ?"

    "เออ ถามดี ตอนนี้คุณกำลังเรียนอยู่โรงเรียนผู้บังคับฝูงใช่ไหม?" หลวงพ่อย้อนถาม

    "ครับ" ข้าพเจ้าตอบ ชักลังเล

    "นักเรียนในโรงเรียนผู้บังคับฝูงรุ่นของคุณนั้น มีกี่คน" หลวงพ่อถามต่อ

    "ประมาณ 160 คนครับ" ข้าพเจ้าตอบไปชักงงหนัก

    "ทั้ง 160 คน จบจากโรงเรียนนายทหารหลักอย่างคุณทั้งหมดไหม?" หลวงพ่อถามต่อ

    "ไม่หรอกครับ ปะปนกัน มีทั้งจบจากโรงเรียนนายร้อย จปร. นายเรือ นายเรืออากาศก็มี จบจากมหาวิทยาลัยในเมืองไทยก็มี เมืองนอกก็มี และเลื่อนยศขึ้นมาจากนายทหารชั้นประทวนก็มีครับ รวมความว่ามีทั้งไม่ได้ปริญญาก็มี ได้อนุปริญญาก็มี ปริญญาตรีก็มี ปริญญาโทก็มี และปริญญาเอกก็มีครับ" ข้าพเจ้าตอบอย่างละเอียด ไม่ทราบว่าหลวงพ่อจะมาในรูปใดอีก

    "อ้อ แล้วนักเรียนจำพวกไหนที่ขยันที่สุด คร่ำเคร่งในการดูตำรับตำรามากที่สุดล่ะ"

    หลวงพ่อถามไปเรื่อยๆ ทำให้ข้าพเจ้าต้องนั่งใคร่ครวญอยู่นานพอสมควร
    จึงตอบไปตามที่รู้ที่เห็นว่า "พวกที่คร่ำเคร่งตำรับตำรา และตั้งอกตั้งใจฟังครูสอนมากที่สุด ก็คือ พวกที่เขาเลื่อนขึ้นมาจากนายทหารชั้นประทวนครับ เพราะเขาไม่ค่อยเข้าใจและฟังครูไม่ค่อยทัน"

    "แล้วพวกคุณที่จบจากโรงเรียนนายทหารหลักล่ะ" หลวงพ่อถามต่อ

    "ผมก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง เรียนบ้างไม่เรียนบ้าง แล้วแต่ว่าวิชาใดจะน่าสนใจหรือไม่ แต่ความจริงแล้วครูก็ว่าไปตามตำรา ไม่ต้องฟัง อ่านเอาเองเที่ยวเดียวก็จำได้ครับ" ข้าพเจ้าตอบไปตามความเป็นจริง

    "เออ นั่นแหละ พระที่ท่านเคร่งนั้นเป็นเพราะท่านเพิ่งจะเริ่มฝึกปฏิบัติ ยังไม่มีปัญญาพอ เกรงไปว่า หากตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไปสัมผัสอะไรเข้าแล้วมาบอกจิตที่ยังขาดปัญญา ก็จะเกิดความโลภ โกรธ หลง คือกิเลส หรือความทะยานอยากจะได้ อยากจะมี อยากจะเป็น คือตัณหา หรือเกิดอุปทาน ความหลงเอาว่าไอ้นั้นเป็นของเรา ไอ้นี่เป็นของเรา เข้าได้ ท่านจึงต้องปิดตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจของท่านเสีย จึงดูเหมือนเป็นพระเคร่งในสายตาของผู้คนไป เท่านั้นเอง เหมือนนายทหารชั้นประทวนที่เลื่อนชั้นยศขึ้นมาตามที่คุณเล่านั่นแหละ ส่วนพระที่ท่านเป็นพระอริยเจ้า บรรลุมรรคผล มีปัญญาแล้ว ท่านมีสติของท่านอยู่ตลอดเวลา ท่านก็ทำตัวสบาย ๆ ไม่จำเป็นต้องระวังอะไรมากนัก ดังเช่นพระสารีบุตร ท่านก็เล่นกับเด็กนะ เหมือนพวกคุณ ก็ไม่เห็นต้องเรียนต้องฟังอะไรจากครูมากมายนั่นแหละ ดังนั้นจึงจะไปรีบด่วนสรุปเอาว่าพระเคร่งพระสำรวม เหนือกว่าพระที่ไม่สำรวมยังไม่ได้นะ" หลวงพ่อตอบอย่างเมตตา..


    บทความเกี่ยวกับหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง)
    จากหนังสือ สู่แสงธรรม โดย พล.อ.ต.มนูญ ชมภูทีป

    ที่มา FaceBook : BuddhaSattha
     
  17. Pugsley

    Pugsley เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +4,825
    อนุโมทนาสาธุในธรรมด้วยค่ะพี่แนท...สาธุ สาธุ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤศจิกายน 2013
  18. Pugsley

    Pugsley เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +4,825
    [​IMG]

    วันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๖
    วันครบรอบวันมรณภาพ ๖๔ ปี ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตะมหาเถระ
    บูรพาจารย์ใหญ่แห่งกองทัพธรรม คำสอนพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตะมหาเถระ
    ท่านทั้งหลายจงอย่าทำตัวเป็นตัวบุ้งตัวหนอน คอยกัดแทะกระดาษแห่งคัมภีร์ใบลานเปล่าๆ
    โดยไม่สนใจพิจารณาสัจธรรมอันประเสริฐที่มีอยู่กับตัว แต่มัวไปยึดธรรมที่ศึกษามาถ่ายเดียว
    ซึ่งเป็นสมบัติของพระะพุทธเจ้า มาเป็นสมบัติของตน
    ด้วยความเข้าใจผิด ว่าตนเรียนรู้และฉลาดพอตัวแล้ว ทั้งที่กิเลสยังกองเต็มหัวใจยิ่งกว่าภูเขาไฟ
    มิได้ลดน้อยลงบ้างเลย จงพากันมีสติคอยระวังตัว
    อย่าให้เป็นคนประเภทใบลานเปล่าๆ เรียนเปล่าและตายทิ้งเปล่า
    ไม่มีธรรมอันเป็นสมบัติของตัว อย่างแท้จริงติดตัวบ้างเลย

    ที่มา FB : BuddhaSattha
     
  19. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    พระที่ท่านเคร่งนั้นเป็นเพราะท่านเพิ่งจะเริ่มฝึกปฏิบัติ ยังไม่มีปัญญาพอ เกรงไปว่า หากตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไปสัมผัสอะไรเข้าแล้วมาบอกจิตที่ยังขาดปัญญา ก็จะเกิดความโลภ โกรธ หลง คือกิเลส หรือความทะยานอยากจะได้ อยากจะมี อยากจะเป็น คือตัณหา หรือเกิดอุปทาน ความหลงเอาว่าไอ้นั้นเป็นของเรา ไอ้นี่เป็นของเรา เข้าได้ ท่านจึงต้องปิดตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจของท่านเสีย จึงดูเหมือนเป็นพระเคร่งในสายตาของผู้คนไป เท่านั้นเอง เหมือนนายทหารชั้นประทวนที่เลื่อนชั้นยศขึ้นมาตามที่คุณเล่านั่นแหละ ส่วนพระที่ท่านเป็นพระอริยเจ้า บรรลุมรรคผล มีปัญญาแล้ว ท่านมีสติของท่านอยู่ตลอดเวลา ท่านก็ทำตัวสบาย ๆ ไม่จำเป็นต้องระวังอะไรมากนัก ดังเช่นพระสารีบุตร ท่านก็เล่นกับเด็กนะ เหมือนพวกคุณ ก็ไม่เห็นต้องเรียนต้องฟังอะไรจากครูมากมายนั่นแหละ ดังนั้นจึงจะไปรีบด่วนสรุปเอาว่าพระเคร่งพระสำรวม เหนือกว่าพระที่ไม่สำรวมยังไม่ได้นะ" หลวงพ่อตอบอย่างเมตตา.

    สาธุค่ะดาว ขออนุโมทนาในธรรมทาน ที่นํามาลง จริงๆแล้ว การที่ท่านเข้าถึงแก่นแล้วนั้น คือ จิตท่านจะไม่เคร่ง เพราะท่านไม่มีอะไรจะกําจัดแล้ว คือกิเลสหมดไป เพราะหลวงพ่อเยื้อน ขันติพโล ท่านก็กล่าวเช่นนี้เหมือนกัน เพราะ คนที่ยังไม่ถึงก็ต้องสํารวม หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ เพราะกลัว กิเลสจะเข้ามาก่อกวนได้ แต่ถ้าท่านรู้ถึงแก่นแล้วนั้น แหละก็สบายเท่านั้นเอง...

    ก็เปรียบเสมือน "วิชาจิตเกาะพระ"นั้นเอง เป็นทางลัด ที่ใช้พุทธานุสติ คือมั่นระลึกคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และการเพ่งกสิณ เพื่อเข้าถึงแก่นแท้นั้นเอง คือเปลือกไม่เอา กระพรี่ไม่เอา แต่เล่งถึงแก่น เหมือนคนผู้ชํานาญทาง และรู้จักทางลัด ฉันใด ก็เดินทางถึงก่อนฉันนั้น แล้วก็ไม่เสียเวลา นั้นคือผลดี ของวิชาจิตเกาะพระ คือรู้จักทางเดินลัดไปนิพพานนั้นเอง...สาธุค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤศจิกายน 2013
  20. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    ขอเปลี่ยนครูค่ะ (เปลี่ยนใจแหล่ะ เกรงใจน่ะค่ะ)
     

แชร์หน้านี้

Loading...