หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง และพระคณาจารย์สายต่างๆ (ข้อมูลวัตถุมงคล หน้า 1-8)....

พักหลังนี้มีเข้ามาตลอด ก็เลือกที่จะสะสมครับท่านดินระเบิด

 

กราบหลวงปู่พิศดูและครูบากฤษดาบรมครูที่เคารพ สวัสดีสมาชิกทุกท่านครับ เพื่อนฝากมาถามครับ

 

ต่อครับ

 

ท่านหอย... ปลัดน่ะถ่ายรูปเสร็จแล้วขอไว้ศึกษาต่ออีกสัก3ปีนะ เด๋วค่อยเอาไปคืน อิอิ

 

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/xeN0q3jFmUdwSaEX" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/220/Tf6lgb.jpg" /></a>

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/xeN0sbbL4yx1FXfk" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/08b/8KmMPA.jpg" /></a>

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/xeN0uj3QLVwV0dKB" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/232/5zwv4O.jpg" /></a>

 

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/xeN11Z2DIbKFOdqK" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/62f/RkIOol.jpg" /></a>

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/xeN180Gex6HrUBDu" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/f02/dLmSIb.jpg" /></a>

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/xeN16ALvoJsarzMt" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/2b4/j1kFtX.jpg" /></a>

มุมสวยๆกับพระกสินครับ แก้เหงา...

 

สอบถามท่านเอ็กซ์ หลวงปู่ลงยันต์อะไรบ้างหนะครับ ขอทราบเป็นความรู้ครับ

 

อยากทราบเป็นความรู้ด้วยคนครับท่านทุเรียนทอด:c

 

4.พระผงรูปเหมือน รุ่น4
พระผงชุดนี้จัดสร้างโดยคณะศิษย์ชุดอุปัฏฐากดูแลองค์หลวงปู่ ลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยม ด้านหน้าเป็นรูปหลวงปู่ครึ่งองค์อยู่ในใบโพธิ์ เพราะเอาบล็อคเหรียญรุ่น5 มากดพิมพ์ ส่วนด้านหลัง มีอยู่ 2 แบบ คือ แบบเหมือนกับด้านหลังเหรียญใบโพธิ์รุ่น5 อีกแบบคือด้านหลังเป็นรูปใบไม้ สร้างประมาณปี พ.ศ.2549 พอหลังจากปั๊มเหรียญรุ่น5สำเร็จเสร็จลง ก็นำเนื้อผงมวลสารต่างๆมานวดคลุกเคล้ากันและลองกดพิมพ์พระนี้ขึ้นมาได้จำนวนไม่มากนัก ประมาณ 80 องค์ และมีเนื้อกดพิมพ์นำฤกษ์ 7 องค์ เป็นงานทำแบบง่ายๆไม่ปราณีต ขนาดการตัดขอบแต่ละองค์ไม่ค่อยเท่ากันนัก และฝากหลวงปู่อธิษฐานจิตไว้นานถึง 2 ปี หลวงปู่ท่านแจกลูกศิษย์ไปเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นศิษย์ใกล้ชิด รุ่นนี้หลวงปู่เมตตาเสกให้อย่างดีทีเดียวครับ

พระผงชุดนี้จะเป็นเนื้อผง แก่น้ำมัน(มนต์)ครับ เพราะฉะนั้นเนื้อพระจึงดูคล้ายมีความฉ่ำในตัว กระแสเนื้อออกเป็นสีเหลืองอมขาว ส่องแว่นขยายดูจะเห็นมวลสารผสมอยู่ในเนื้อมากมายครับ เป็นพระอีกชุดนึงที่ไม่ค่อยได้เห็นกันเท่าไหร่นัก ถ้าเทียบกับพระผงรูปเหมือนหลวงปู่พิศดูทุกรุ่นนั้น พระผงชุดนี้นับว่าหาดูยากที่สุด เนื่องจากจำนวนสร้างที่น้อยมากครับ ซึ่งจากเดิมนั้นกดพิมพ์กันได้ประมาณ 80 องค์ แต่ว่าพอเอาจริงๆ พระชุดนี้เหลือหมุนเวียนในหมู่ลูกศิษย์เพียงไม่เกิน 60 องค์เท่านั้นนะครับ เนื่องจากพระชุดนี้กดพิมพ์ และตัดขอบกันกับมือแบบโบราณ(คล้ายๆพระกสิณ) ซึ่งจะมีพระที่ชำรุด และไม่ค่อยสวยหลายองค์ ซึ่งพระในจำนวนที่ไม่ค่อยสวย หรือชำรุดนั้น ได้นำมาขอพลี บดเป็นมวลสารไปทำพระรุ่นอื่นๆไปหมดแล้ว เพราะฉะนั้นจะเหลือพระที่สมบูรณ์จริงๆเพียงไม่เกิน 60 องค์เท่านั้นครับ

 

ขอโชว์ชุดพระกริ่งชุดหลักที่เพิ่งไ้ด้มาใหม่ครับ หายากเหลือเกิน ชุดพระกริ่งมังกรฟ้า พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง และพระชัยวัฒน์เนื้อแดงเข้มข้ม เข้าใจว่าน่าจะแก่ชนวนมากๆครับผม สร้างโดยครูบากฤษดา และหลวงปู่พิศดูร่วมเสกอย่างเต็มที่ รวมระยะเวลาเสกทั้งหมดก็ 3 ปีเต็ม ไม่รู้กี่สิบพิธีครับ และชนวนมวลสารสุดยอด เป็นสัญลักษณ์ของศิษย์สำนักมังกรฟ้าและสายหลวงปู่พิศดูที่ต้องมีทุกคนครับ สมัยก่อนมีคำกล่าวว่า "ถ้าหากริ่งมังกรฟ้าไม่ได้ ก็ให้ใช้กริ่งธรรมจารีแทน" แสดงให้เห็นว่าพระกริ่งพระชัยวัฒน์มังกรฟ้านี้ หายากและทรงคุณค่ายิ่งอย่างมากมาย กว่าจะหามาได้ตามแบ่งพวกมานานมากกกกกก ^^

พระกริ่งมังกรฟ้าพิมพ์ใหญ่




พระกริ่งมังกรฟ้าพิมพ์กลาง



พระชัยวัฒน์มังกรฟ้า

 

ด้านบน เป็นอักขระขอมครับ อ่านว่า พุทโธ ธัมโม สังโฆ
ถัดลงมา เป็นอักรไทย อ่านว่า ธัมมะจารี สุขังเสติ
ถัดลงมา เป็นอักษรไทย อ่านว่า นะชาลีติ อะระหังพุทโธ อิติปิโส ภะคะวา นะมามิหัง

 

พระสภาพสวยมากครับพี่แมวจ้ะ..

 

ภาพเสก็ต ต้นแบบเหรียญรุ่น 5 (ใบโพธ์ใหญ่)ลป.พิศดู

เป็นเหรียญอีกรุ่นนึงที่หลวงปู่ท่านชอบครับ และมักจะสั่งให้ลูกศิษย์ที่ได้รับแจกไปนั้น เอาไปเลี่ยมคล้องคอกัน
ด้วยเหตุใด มาดูรายละเอียดของเหรียญกันชัดๆอีกทีนะครับ




เหรียญรุ่นนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2549 สร้างถวายโดยลูกศิษย์ชุด อุปัฏฐาก องค์หลวงปู่ โดยด้านหน้าเป็นรูปหลวงปู่พิศดูครึ่งองค์ อยู่ในใบโพธิ์ มีอักขระขอมข้างๆอ่านว่า ธัม มะ จา รี




ด้านหลังเป็นปริษณาธรรมชวนให้ขบคิด อธิบายคร่าวๆได้ว่า มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปางปฐมเทศนา ประทับอยู่กลางพระธรรมจักร ส่วนด้านล่างเป็นบัวสี่เหล่า หมายถึงบุคคลสี่จำพวก พระพุทธเจ้าทรงเปรียบระดับปัญญา ที่อยู่ในฐานะของบุคคลที่สามารถฝึกสอนให้รู้ธรรมได้และไม่ได้ในทางพระพุทธศาสนา... ออกได้สี่ระดับคือ
( อุคคฏิตัญญู ) พวกที่มีสติปัญญาฉลาดเฉลียว เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมก็สามารถรู้ และเข้าใจในเวลาอันรวดเร็ว เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ เมื่อต้องแสงอาทิตย์(แสงธรรม)ก็เบ่งบานทันที
( วิปจิตัญญู ) พวกที่มีสติปัญญาปานกลาง เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มเติม จะสามารถรู้และเข้าใจได้ในเวลาอันไม่ช้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำซึ่งจะบานในวันถัดไป
( เนยยะ ) พวกที่มีสติปัญญาน้อย แต่เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มเติมอยู่เสมอ มีความขยันหมั่นเพียรไม่ย่อท้อ มีสติมั่นประกอบด้วยศรัทธา ปสาทะ ในที่สุดก็สามารถรู้และเข้าใจได้ในวันหนึ่งข้างหน้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งจะค่อยๆ โผล่ขึ้นเบ่งบานได้ในวันหนึ่ง
( ปทปรมะ ) พวกที่ไร้สติปัญญา และยังเป็นมิจฉาทิฏฐิ แม้ได้ฟังธรรมก็ไม่อาจเข้าใจความหมายหรือรู้ตามได้ ทั้งยังขาดศรัทธาปสาทะ ไร้ซึ่งความเพียร เปรียบเสมือนดอกบัวที่จมอยู่กับโคลนตม ยังแต่จะตกเป็นอาหารของเต่าปลา ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบาน
ถัดจากนั้นมาจะมีอักขระยันต์ที่ระทับอยู่บนใบบัวอ่านได้ว่า พุทโธ ซึ่งเป็นบทกำหนดบริกรรมภาวนาตามแบบสายพระป่ากรรมฐาน และพุทธโธก็ยังแปลความหมายได้อีกว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ด้วยธรรม ถัดจากนั้นมา จะมีอักขระอยู่ตรงข้างพระธรรมจักรอีก 4คำ ซึ่งเป็นหัวใจของพระอริยะสัจ4 อ่านว่า ทุสะนิมะ ย่อมาจากคำหน้าของพระอริยะสัจ4 คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ซึ่งทั้งหมดนี้รวมเรียกว่าหัวใจพระอริยะสัจทั้งสี่ประการ ถัดขึ้นไปด้านบน จะมีอักขระอีก 3 คำอ่านได้ว่า อะ ระ หัง แปลความหมายได้ว่า อรหันต์ หรือ พระอรหันต์ หมายถึงผู้ที่สามารถละกิเลศอาสวะได้ ผู้สำเร็จธรรมวิเศษสูงสุดในพระพุทธศาสนา หรือพระอริยบุคคลชั้นสูงสุด และยอดสุดของด้านหลังเหรียญนั้นคือยันต์ เฑาะอุนาโลม รวมความแล้วนั้น เหรียญรุ่นนี้ มีครบทั้งองค์พระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระอริยะสงฆ์

 

อ่านตามข้อมูลแล้ว กว่าจะทำเป็นเหรียญได้ไม่ง่ายเลย มีทั้งธรรมมะ คำสั่งสอน ปริษณาธรรม ข้อคิด เพี่อไว้เตือนใจลูกศิษย์ ให้ทำแต่ความดี ให้พ้นจากกองทุกข์ หลุดพ้นบ่วงกรรม เข้าถึงพระรัตนตรัย หลวงปู่เมตตาจริงๆครับ

 

กราบหลวงปู่พิศดูและครูบากฤษดาบรมครูที่เคารพ สวัสดีสมาชิกทุกท่านครับ

 

ช่วงนี้ท่านหอยมีของมาลงโชว์บ่อย สงสัยจะเจอรังใหญ่ละสิ อิอิ

 

ใช่ครับท่านเป็ด หลวงปู่ท่านมักมีปริษณาธรรมสอดแทรกเสมอๆครับ
หลวงปู่ท่านเป็นพระโบราณ ทำอะไรก็มักจะมีเคล็ดหลายๆอย่าง ที่เราคาดไม่ถึง แต่ถ้าใครตีปริษณานั้นแตกละก็ จะทึ่งในปัญญาญาณของท่านมากๆเลยครับ คือหลวงปู่ท่านไม่มีเพียง ปัญญา เท่านั้น แต่ว่าท่านยังมี ญาณ อีกด้วย ปัญญา+ญาณ = ปัญญาญาณ

 

โอ้..ไปหามาจากไหนครับท่าน พิมพ์นี้ไม่ค่อยได้พบกันเท่าไหร่นะครับ นอกองค์ที่ผมมีอยู่ ก็เพิ่งเห็นเป็นองค์ที่ 2 นะเนี่ย ดีใจด้วยนะครับ
พิมพ์นี้ เท่าที่เคยฟังข้อมูลจากศิษย์รุ่นเก่าๆมา(ถ้าเขาบอกไม่ผิดนะ) แม่พิมพ์พิมพ์นี้เป็นพิมพ์ที่ลูกศิษย์ทางท่าแฉลบทำมาถวายครับ และลูกศิษย์คนนั้นเขาว่ากันว่าสำเร็จธรรมชั้นสูงด้วยนะครับ เนื่องจากตอนประชุมเพลิงร่างของเขาแล้ว ปรากฏว่ากระดูกบางส่วนได้กลายเป็นพระธาตุ เป็นแก้วใสสวยงามมากครับ.. สาธุ

 

สะพานตากสินมหาราช (สะพานแหลมสิงห์)

ถ้ากล่าวถึงวัดแหลมสิงห์ อ.แหลมสิงห์ คนเมืองจันทบุรี และอีกหลายคนจะนึกถึงท่านพ่อสุ่น ซึ่งเป็นอดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ผู้มีวิชาอาคมแก่กล้ายิ่งนักของเมืองจันทบุรี และเต็มไปด้วยอิทธิปาฏิหาริย์มากมาย ท่านเป็นที่พึ่ง และเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของชาวบ้านแหลมสิงห์และชาวจ.จันทบุรี ในสมัยรัชการที่ 5 ยุคที่ฝรั่งเศษล่าอาณานิคม ท่านพ่อสุ่นมีบทบาทมากมาย เป็นผู้นำของชาวบ้านต่อต้านอำนาจการกดขี่ข่มเหงของทหารฝรั่งเศษ ในสมัยนั้นคนเมืองจันท์ถ้าไม่มีท่านพ่อสุ่น เมืองจันท์ก็อาจตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศษไปแล้วก็เป็นได้ เรื่องราว เกียรติคุณของท่านพ่อสุ่นคนรุ่นหลังก็ยังกล่าวขาน และยกย่องกันถึงทุกวันนี้...

มาถึงยุคปัจจุบัน พ่อแม่ครูบาอาจารย์ใน จ.จันทบุรี ผู้มีเกียรติคุณกว้างไกล แบบที่เรียกได้ว่ามีครบเครื่องทุกอย่างแล้ว ก็คงไม่มีใครเกิน หลวงปู่พิศดู ธัมมะจารี วัดเทพธารทอง ถึงท่านจะเป็นพระที่ไม่ได้เปิดตัว ไม่ได้ออกคลุกคลีกับหมู่ แต่ทว่า เรื่องราวของท่านนั้น กลับถูกตีแผ่ขึ้นมาเองจากประสบการณ์ล้วนๆ รวมถึงมีครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณธรรมหลายๆท่าน กล่าวยกย่องหลวงปู่ท่านในด้านเป็นพระอริยะผู้มีคุณธรรมขั้นสูงสุด มากด้วยอิทธิปาฏิหาริย์ ทั้งวิชชา และวิมุติ จนมีผู้กล่าวยกย่องในองค์ท่านกันว่า " ถ้าคนเมืองจันท์ ไม่มีหลวงปู่พิศดูสักองค์ คงจะตายกันอีกมากนัก.." ด้วยความที่ท่านเป็นพระที่พรั่งพร้อมในทุกอย่างแบบครบเครื่อง วัตถุมงคลของท่านก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้คนรอดพ้นจากวิกฤตและภัยต่างๆ ปัจจุบันจึงมีผู้หันมาเคารพศรัทธาในองค์ท่านมากมาย นับวันยิ่งจะเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างไม่มีประมาณ

รูปที่ผมนำมาลงให้ดูกันนี้เป็นรูปสะพานตากสินมหาราช หรือที่เรียกกันว่า สะพานแหลมสิงห์ พอดีจังหวะว่าวันนี้ขับรถผ่านสะพานนี้ เลยทำให้นึกถึงเรื่องราวที่น่าประทับใจได้เรื่องหนึ่งครับ..
สะพานตากสินมหาราช (สะพานแหลมสิงห์) เป็นสะพานที่ทอดข้ามปากแม่น้ำจันทบุรีที่ อ.แหลมสิงห์ เชื่อมต่อระหว่าง ต.ปากน้ำแหลมสิงห์ และตำบลบางกะไชยที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เป็นสะพานที่ยาวที่สุดในภาคตะวันออก มีความยาว ระยะทาง 1,060 เมตร

กรมทางหลวงชนบทได้ดำเนินการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำจันทบุรีที่บริเวณปากแม่น้ำ อ.แหลมสิงห์ เพื่อสนับสนุน ส่งเสริมศักยภาพการท่องเที่ยวเพิ่มเส้นทางขนส่งสินค้าทางการเกษตรร่นระยะเวลาในการเดินทางของประชาชนในพื้นที่ อ.แหลมสิงห์ อ.ท่าใหม่ อ.เมือง และอ.นายายอาม ให้สามารถเดินทางเลียบชายฝั่งทะเลโดยรถยนต์ถึงกันได้โดยไม่ต้องเดินทางอ้อมเป็นระยะทางไกลมากดังเช่นในอดีต โดยสะพานดังกล่าวได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ และ จ.จันทบุรี ได้จัดพิธีเฉลิมฉลองเปิดสะพานแห่งใหม่ให้ประชาชนทั่วไปได้ใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2551
ซึ่งก่อนที่จะมีพิธีฉลองเปิดสะพานนี้ ได้มีประชาชนพร้อมใจกันมาอาราธนานิมนต์ พระเดชพระคุณหลวงปู่พิศดู ธัมมะจารี วัดเทพธารทอง ได้ไปเหยียบสะพานใหม่นี้ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชาวแหลมสิงห์ และชาว จ.จันทบุรี ซึ่งองค์หลวงปู่ท่านก็ได้รับการอาราธนานิมนต์ดังกล่าว และเมื่อคราวที่คณะของท่านได้ไปถึงนั้น บรรยากาศช่างเป็นใจยิ่งนัก เรียกได้ว่าจากอากาศที่ร้อนอบอ้าว กลับกลายเป็นอากาศที่เย็น แบบแดดร่มลมตกกันเลยทีเดียว เมื่อองค์หลวงปู่ได้ลงจากรถ ฝ่าเท้าของท่านได้สัมผัสลงบนสะพาน และท่านก็ทำการอธิษฐานจิตให้เป็นที่เรียบร้อย จากนั้นท่านก็เดินไปมาบนสะพานสักครู่หนึ่งจึงเดินทางกลับ ยังความปราบปลื้มยินดีของผู้ที่มากราบอาราธนานิมนต์ และชาวแหลมสิงห์เป็นยิ่งนัก หลังจากคณะขององค์หลวงปู่ได้เคลื่อนออกไปได้สักพักหนึ่งแล้ว ก็ได้มีละอองฝนตกลงมาที่บริเวณนั้น ราวกับว่าเป็นน้ำทิพย์มนต์ขององค์หลวงปู่ท่าน ที่พร่างพรมลงมาเพื่อความชุ่มฉ่ำ และเป็นศิริมงคลอย่างยิ่งเลยทีเดียว... ผมคิดว่าหลวงปู่ท่านคงต้องทำอะไรไว้สักอย่างหรือหลายๆอย่าง เพื่อเป็นธรรมอาถรรพ์ติดตรึงไว้ที่สะพานแห่งนี้แน่นอนครับ..

สะพานตากสินมหาราช (สะพานแหลมสิงห์) จัดได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของ " ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต " ซึ่งเป็นถนนสายท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเลที่ยาวและงดงามที่สุดในภาคตะวันออก ที่เชื่อมต่อระหว่างชาดหาดต่างๆ และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญชายทะเลของของ จ.จันทบุรี มีทัศนียภาพและจุดชมวิวที่สวยงามมาก ใครมีเวลาก็ไปเที่ยวชมทิวทัศน์บนสะพานนี้ได้นะครับ บ้านเมืองของเรายังมีสถานที่สวยๆงามๆอีกมากเพียงแค่ท่านปลีกเวลาสักนิดเท่านั้นเองครับ..

 

สาธุ ครับ