เพื่อการกุศล นิ่มป่าแดง...ตามอ่านประสบการณ์จริง

หลังจากเลี่ยมแล้วคล้องคอ พอดีไปซื้อของร้านเซเว่นมีแผงล็อตเตอรี่เลยแวะซื้อ4ใบ (ปกติก็ไม่ค่อยได้ซื้อครับ) ปรากฎว่าถูกเลขท้าย2ตัวครับ...กราบหลวงปู่ครับ

 

ขอลองทดสอบดูเป็นการฝึกวิชานะครับ ใช้แต่ดาวจรพอ ต้องงมอยู่เหมือนกัน
ดาวตรีเทพพฤหัสจรมรณะ เสาร์-ราหู จร วินาสน์ จากสองจุดนี้ วัยปัจจุบันแสดงถึงชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่
มองดาวที่ให้แสงหลักคืออาทิตย์ จรราศีกุมภ์ทับศุกร์ เรือนเกษตรราหู กระแสถึงศุกร์และราหูเจ้าเรือน
ตามเจ้าเรือนราหูจรไปอยู่วินาสน์ องศาต่ำกว่าองศาตากลางแล้ว แสดงว่าทำงานเป็นวินาสน์
ดาวจรราหูทำงานเป็น พันธุ-วินาสน์ เจ้าชะตาอยู่ในระหว่างการโยกย้าย เปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัยหรือที่ทำงาน
ในราศีดุลย์ ๓-๗-๘ จรอยู่รับกระแสทางตรีโกณจากอาทิตย์ เจ้าเรือนตุลย์ ศุกร์ยอ่มได้แสงไปด้วย
ศุกร์จึงได้กระแสทั้งทางจรและในดวงกำเนิด ศุกร์ทำหน้าที่พันธุไปด้วย จรสหัชชะทับราหู ย้ำไปอีกทางในเรื่องพันธุ
เนื่องจากวัยจรปีนี้ แสดงถึงการเปลี่ยนแปลง โยกย้าย ช่วงนี้ ราหู-ศุกร์ ทำงานทั้งพื้นกำเนิดและดวงจร
เรื่องหลักในช่วงเดือนหนึ่งนี้ จะเป็นเรื่อง ย้ายที่อยู่ เดินทางไกลไปต่างประเทศ เป็นต้น
แต่ถ้าผสมวิชาตรีโกณ-ตรีเทพไปด้วย ผมว่าดวงนี้ ไปต่างประเทศ ในช่วงนี้หละ

ป.ล. มั่วกันเพลินเลย ลองช่วยๆ กันวิเคราะห์หน่อยนะครับ

 

อาจจะเป็นชุดสุดท้ายแล้วที่ผมพอจะหาให้ได้

.....มีเรื่องเขียนถึงหลวงปู่ฯเยอะ แต่เขียนไม่ลง ......

หลวงปู่ฯไม่ใช่พระให้หวย แต่เคยให้เหมือนกัน สมัยหวย กข.
ลองวิชา นั่งดูว่าจะออกอะไร พอเห็นแล้วก็บอกคนใกล้ตัวว่าหวยจะออก นี่ๆนะ

หลังหวยออก หลวงปู่ฯบอกมีแต่คนเอาบุหรี่มาถวาย สูบจนปอดจะพัง
ตอนนี้มีอาการหายใจลำบาก สาเหตุมาจากปอดไม่แข็งแรงนั้นแหละ.....

ผมหาพระฯรุ่นนี้ไม่ได้ง่ายแล้วนะครับ น่าจะเป็นรุ่นสุดท้ายที่มีการจาร (ก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้จาร)

คนจะถูกหวย จะมีสิ่งดลใจให้ซื้อหวย
คนเล่นหวย จะมีข้ออ้างดลใจให้ซื้อหวย สังเกตดีๆครับ

 

คุณหนุ่มทิพย์ ขอบคุณสำหรับข้อมูลและความเห็นครับ

เด๊๋ยวจะพยายามทดลองส่งรูปสมเด็จสามชั้นครับ เมื่อวันก่อนลองส่งupic.แล้วuploadภาพไม่ได้ครับ ส่งจากwebก็ไม่มีรูปปรากฏ เลยแจ้งลบไป ปรากฏว่าหลังจากนั้นเปิดหน้าwebแล้วกระทู้นี้ถูกปิด(เป็นรูปกุญแจ)ไปสองวัน เพิ่งมาเปิดดูได้วันนี้ เลยไม่แน่ใจว่าเกิดจากการแจ้งลบหรือเปล่า....

 

ถ้าใช้ดาวตรีเทพ ผมจะใช้ชัณษาจร เพราะเคยตัว
อายุเต็ม 42 ปี 11 เดือน
ทายตลอดเดือนกุมภาพันธ์
ชัณษาจรเดือน ตกมรณะ เขียนเป็น มรณะ-ปุตตะ-ตนุ
ดูจากตนุลัคน์ พันธุ-วินาสน์
เจ้าชะตาได้โยกย้ายอย่างกระทันหัน(ย้ายแบบไม่ธรรมดาด้วย)


ดูดาวจรบนท้องฟ้า
๓ ตนุลัคน์ ลอยในภพวินาสน์ เรือน๖
๖เดิม เป็นปัตนิ-วินาสน์-พันธุ
จรในภพกดุมภะ
ตัวเองต้องย้าย(วินาสน์/จะแปลว่าลี้ภัย ก็ได้) ที่อยู่(พันธุ) เพราะเรื่องกดุมภะ(ผลประโยชน์) ..มีปัตนิด้วย(ทั้งครอบครัว)

ส่วนที่ทายว่า จะได้ไปต่างประเทศ ผมเข้าใจว่าดูจากดาว9 หรือดาว๙เดิม รึเปล่า

ผมทายดวงนี้ได้เปรียบ เพราะรู้จักกัน เป็นคุณหนุ่มนั้นเอง
ต้องลี้ภัยจากวัดออกมาทั้งครอบครัว ไม่ได้อยู่ดูแลหลวงปู่ฯอีก

จึงสงสัยว่า ถ้าดาว๙ แทนต่างประเทศ
สำหรับคุณหนุ่ม น่าจะหมายถึง "วัด"

....................................

เรื่องแสง ผมไม่เป็นเลย จะเกิดอะไรขึ้น หาก1 จรไปเป็นอุจจ์ในราศีเมษ?

 

ไปที่ฝากรูป ก็ได้ครับ คลิก แล้วฝากรูปไว้

จากนั้น copy โค้ด HTML เลือกเอาว่าจะเอาภาพใหญ่หรือเล็ก แล้วเอามาแปะได้เลย

กระทู้ปิด เพราะระเบียบของเวป ให้เฉพาะสมาชิกพรีเมี่ยมประกาศขายหรือจำหน่ายวัตถุมงคล จะจากทางวัดหรือจากทางบ้านก็แล้วแต่ ถือเป็นการหาประโยชน์จากการใช้พื้นที่ของเวป ต้องช่วยค่าใช้จ่ายเค้าด้วยครับ

ผมเองก็ทำอะไรทีละอย่าง เพราะความสามารถมีเท่านั้น ตอนแรกทำให้วัดโพธิผักไห่ พอมีคนมาช่วยทำ ผมก็ย้ายไปทำวัดโพธิ์ทอง พอมีคนจากศูนย์ฯมาช่วย ผมก็ย้ายไปทำวัดท่าช้าง พอมีคนมาช่วย ผมก็ย้ายไปทำวัดป่าแดง

ถ้าจะให้ผมไปช่วยวัดอื่นอีก ก็ต้องรอให้จบงานวัดป่าแดงในเดือนเมษายน นี่ก่อนครับ ผมถึงรับงานอื่นได้

เห็นคุณเอกเข้ามาช่วยแล้ว ก็คงวางมือให้คุณเอกรับช่วงต่อแล้วครับ ผมหันเอาดีทางภาคปฏิบัติดีกว่า ทิ้งไปนานแล้ว

ถ้าโชคดี งานวัดป่าแดงงานนี้ จะเป็นงานวางมือของผมซะที

.................

พระฯของหลวงปู่ฯ ไม่ใช่พระบู๊ ถ้าคุณใช้เป็น คุณจะไม่เจอเรื่องหวาดเสียว ชีวิตเหมือนเรียบๆ เรื่อยๆ ไม่โดดเด่น ไม่เจ็บตัว ไม่พลุ่งพล่าน ที่สำคัญ ต้องดูด้วยว่า เพราะที่เราห้อยนั้น ถูกโฉลกกับเราจริงๆหรือเปล่า

 

อ้อ ดวงคุณหนุ่มนี่เอง ดูผสมกันระหว่างเกตุในดวงเดิมและดวงจรครับ
เห็นเกตุจรอยู่เรือนอาทิตย์ อาทิตย์รับกระแสเกตุเข้ามาด้วย เลยนึกว่าไปเมืองนอก
จะว่าไป เกตุ หมายถึงเรื่องกรรมเก่า แล้วในกรณีนี้หมายถึงวัดด้วย

เรื่องแสงผมก็ไปแบบดำน้ำเหมือนกันครับ ตำราจริงๆผมไม่ได้มีไว้เท่าไหร่
อาศัยผสมเอาที่อ่านบนเน็ตมาใช้ มันจับฉ่ายวิชามาก อาศัยลองดูไปเรื่อย
เรื่องนี้ผมไปไล่แกะมาจากบนเว็ป
ขออนุญาตยกข้อความมาจากกระทู้ในเว็ปพยากรณ์นะครับ ท่านไหนไม่อยากอ่านเรื่องนี้ข้ามไปเลยครับ

คำตอบนี้ ถ้าผมอ่านสำนวนไม่พลาด เป็นของท่านพระอาจารย์อภิสิทธิ์ มาตอบไว้ครับ
ผมก็งมเอาตามด้านบนนี่หละครับ น่าไปขอความรู้ของท่านมาก(ฮา) ตำราจริงผมไม่มี

ป.ล.จะเป็นวิชาการโหราศาสตร์มากสักหน่อย ท่านใดอ่านแล้วปวดหัวขออภัยด้วยคร้าบ

 

เรื่องเล่า : ที่มาของเรื่องเล่า หรือความจำที่มาของเรื่องเล่าฯ

ตอน : ฯลฯ ต้นทุนต่ำฯลฯ (ตอนที่ ๓)

ในช่วงของการชุมนุม ผมได้รับฟังภาษาไทยราคาตกของพิธีกรของฝ่ายต่างๆ มากมาย มากเสียจนไม่อยากจดจำ พิธีกรของแต่ละฝ่ายใช้คำพูด

เหมือนกัน แต่มันอาจจะทำให้ฝ่ายตนเองได้เปรียบหรือเข้าเนื้อก็ได้ เช่น ฝ่าย กปปส. พูดว่าวันนี้ กปปส. ได้นำผู้ชุมนุมไปคัดค้านการเลือกตั้ง

อย่างนี้ฝ่าย กปปส. ไม่เสียเปรียบ แต่มีหลายครั้งที่พลั้งเผลอหรืออ่อนหัดจะพูดว่า"ไปขัดขวาง" จะไปทำอย่างไรไม่สำคัญ สำคัญที่เวลาเอา

บันทึกไปขึ้นศาล คัดค้านกับขัดขวางมันต่างกันมาก บางทีฝ่ายที่เข้าข้างรัฐบาลก็ช่วยฝ่ายชุมนุม โดยพิธีกรพูดว่า ผู้ชุมนุมเดินทางมาคัดค้านการ

เลือกตั้ง ทั้งๆที่หวังผลที่จะให้มีความหมายหนักเป็นการขัดขวาง จะว่าเธอเหล่านั้นก็ไม่ได้ เพราะเธอเหล่านั้นก็ผ่านการสอบเพื่อมาเป็นพิธีกรมา

แล้วทั้งนั้น ผมถึงใช้คำว่าภาษาไทยราคาตก จะบอกว่าคู่ต่อสู้ไปขัดขวางก็ดันไปพูดว่าไปคัดค้าน อยากให้เป็นโทษกับกลุ่ม กปปส. ก็ดันไปพูด

ว่า"คัดค้าน" ผมไม่แปลกใจกับคำว่า"รถอีแต๊ก"หรอก เพราะคนเขียนข่าวหรือคนบอกอาจจะเขียนผิด ต้องการจะใส่ไม้จัตวา แต่ไปกดเอาไม้ตรี

เข้าก็เท่านั้น หรือพิธีกรก็อาจจะฟังมาผิด ผมมีที่มาที่ไปของรถอีแต๋น ช่วงปี พ.ศ.2515-2519 ไม่รู้ว่าเป็นปีไหน แต่เป็นช่วงที่ผมรับราชการอยู่

ที่สัตหีบ วันหนึ่งผมมีเรื่องถกเถียงกับเพื่อนที่อยู่ พาชี,อยุธยา เป็นปัญหาข้อกฏหมาย เรื่องคนต่อสู้กันจนถึงบาดเจ็บและล้มตาย ฝ่ายหนึ่งมีจอบ

เป็นอาวุธ อีกฝ่ายมีมีดดาบเป็นอาวุธ ปัญหาคือ ฝ่ายไหนเป็นฝ่ายได้เปรียบในด้านของอาวุธ คนที่ได้เปรียบทางอาวุธย่อมจะเสียเปรียบทาง

กฏหมาย เถียงกันมั่วไปหมด จนที่สุดเจ้าของปัญหาก็เฉลยให้ฟังตามคำพิพากษาของศาล การถกเถียงก็ดี การเอาเรื่องมาเล่าสู่กันฟังก็ดี ล้วนมี

ประโยชน์ ถ้าจะคิดแค่ว่าเขารู้กันทั้งนั้น แต่บางทีอาจจะมีสักคนที่ไม่รู้ก็ได้ ต่อจากนั้นเพื่อนที่เป็นคนอยุธยาก็เริ่มเรื่องใหม่ขึ้นมาว่า ใครเคยเห็นรถ

อีเอ๋อีแต๋นบ้าง ในวงนั้นรู้และเห็นกันมาแล้วทั้งนั้น บางบ้านก็เรียกอีเอ๋ บางบ้านก็เรียกอีแต๋น ถึงตอนนี้ผมขอเดาว่าหลายท่านนึกเรื่องที่ผมเขียนนี้

ไปกันหลายทาง ว่าเรื่องจะต้องเป็นอย่านั้นอย่างนี้ และผมก็เดาว่าน้อยคนที่จะเดาถูก ในยุคนั้นรถอีเอ๋หรืออีแต๋นเพิ่งเริ่มมีใหม่ๆ จะเป็นรถไม่มี

เกียร์ ลุยไปข้างหน้าอย่างเดียว เวลาใกล้ทางแยกต้องชลอความเร็วให้ดี ในตอนหลังจึงพัฒนาจนมีเกียร์เดินหน้า กับ ถอยหลัง คือยังไม่เป็น

แบบปัจจุบัน เรื่องที่เอามาเล่าก็คือ เพื่อนผมคนอยุธยา เขาภูมิใจว่าชาวนาบ้านเขาเอาชนะกรมการขนส่งได้ในข้อกฏหมาย เพราะในตอนนั้นมี

การร้องเรียนเรื่องอันตรายบ้างละ เช่น ไม่มีเกียร์,ไม่มีเบรค,ไม่มีไฟสัญญาณ และไม่มีการจดทะเบียน เรียกง่ายๆ ก็อยากให้มีการตรวจรับรอง

และตรวจสภาพ,ตรวจเรื่องความปลอดภัย แล้วให้มีหมายเลขทะเบียนเหมือนรถทั่วไป จะหาเรื่องเก็บภาษี/ให้มีประกัน/มีการต่อทะเบียน/เงิน

ทั้งนั้น การต่อสู้ทางกฏหมายจึงมาจำกัดเรียกกันเป็น รถอีแต๋น และข้อต่อสู้ที่ไม่ต้องจดทะเบียนก็คือ ไม่ถือว่าเป็นยานพาหนะ เป็นแต่เพียง

เครื่องมือ,เครื่องทุ่นแรง ในทางเกษตรกรรมฯ เอาเป็นว่ารถอีแต๋นไม่ต้องจดทะเบียนเหมือนรถยนต์ทั่วไปด้วยประการฉนี้ เมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา

ผมพาหลานไปเที่ยว อ.ลาดบัวหลวง ,อยุธยา ลูกชายเพื่อนผมเป็นคนทำหน้าที่พาเด็กๆ ออกไปเที่ยวทุ่งนา พอใกล้มืดก็กลับมา หลานผมต่อว่า

ผมว่า พ่อ...พ่อเรียกผิด...เขาไม่เรียกรถอีแต๋นสักหน่อย เขาเรียกรถกระแทะ...ก็ต้องวางแก้วแล้วอธิบายว่า มันเป็นคนละอย่างกัน รถกระแทะนี้

เขาไม่ได้วางเครื่องเหมือนรถอีแต๋น เขาใช้รถไถนาเอามาเป็นตัวลาก ใช้บรรทุกพันธ์ข้าวปลูกหรือปุ๋ยไปใส่นา บรรทุกได้ประมาณ 12 กระสอบ

ถ้าจะลากออกถนนเหมือนรถอีแต๋น ก็จะถอดล้อเหล็กรถไถออก เอาล้อยางใส่แทน หลานก็เข้าใจ...และบอกว่า...มาเที่ยวหน้าให้ตา...กับพี่...

เตรียมรถอีแต๋นไว้พาเที่ยวก็แล้วกัน นี่ถ้าชาวนาเอารถกระแทะมา...ก็ไม่รู้ว่า พิธีกร จะเรียกเพี้ยนเป็นอะไร ???

ในตอนที่ ๒ ลืมบอกไปว่า ข่าวสี่มุมบ้านก็เป็นข่าวชาวบ้าน มีตั้งแต่เรื่องผัวเมียตีกัน ประกาศหาญาติ ประกาศงานวัดงานฝังลูกนิมิต หรืองาน

โรงเรียน ในยุคนั้นรายการเล่าข่าวยังไม่มี จะมามีและฮิตก็ในช่วงของ คุยโขมงหกโมงเช้า ที่จัดโดย ดุ่ย ณ บางน้อย หรือคุณอำนาจ สอนอิ่ม

ศาตร์(ถือเป็นนักเล่าข่าวคุณภาพชั้นบรมครู ต้องตัดผมเอง คนอื่นตัดให้ไม่ได้จะเสียวมาก เพราะเคยประสบอุบัติเหตุจนกระโหลกร้าว) นายโหร

หวยฯ ก็ใช่ แต่เป็นประเภทเอามันเข้าว่าเหมือนสมหญิงฯ

เรื่องของสมบัติหรือเคร็ดที่เจ้าของสมบัติทำไว้ เพื่อให้คนที่มีวาสนาจะได้สมบัติก็มีต่างๆ นาๆ อย่างที่เคยเล่าไปแล้ว จะเอามาเล่าซ้ำก็เช่น ที่

วิหารของวัดหนึ่ง ทำปูนปั้นเป็นรูปพระนั่งอันดับ องค์ที่ ๑ ชี้ไปที่องค์ที่ ๒ องค์ที่ ๒ ชี้ไปที่องค์ที่ ๓ องค์ที่ ๓ ชี้ไปที่องค์ที่ ๔ องค์ที่ ๔ ชี้ไปที่แม่

ชี รูปปั้นแม่ชี ทำเป็นรูปเอามือปิดหน้า คนก็เห็นกันมานมนาน ไม่มีใครตีปัญหาหรือว่ารู้เคร็ด จนวันหนึ่งมีคนเมาผ่านมา ก็ยืนชี้หน้าแม่ชีแล้วพูดว่า

"อีชีมึงไม่ต้องปิดหน้าปิดตาหรอก พระท่านไม่เก็บเอาไว้หรอกเงินทองน่ะ อยู่ที่มึงนั่นแหละ" ว่าแล้วก็เอาสากซ้อมข้าวที่ทำด้วยปูน ตีไปที่คอแม่

ชี พอคอแม่ชีหักก็เอามือล้วงเอาทองที่อยู่ในคอแม่ชีไป ส่วนสากปูนนั้นก็ยังอยู่ เวลาคนมาไหว้พระเสร็จก็จะมาเอาสากตำครกที่อยู่ ณ วิหารแห่ง

นั้น เหมือนที่เราตีระฆังรอบๆ โบสถ์หรือเจดีย์ในปัจจุบัน ครกตำข้าวและสากปูนก็อยู่อย่างนั้นมานานไม่น้อยกว่ารูปปูนปั้นของพระกับแม่ชี อยู่มา

ไม่นานก็มีคนเมาอีกนั่นแหละ(เรื่องเล่าผมมันวนเวียนอยู่กับคนกินเหล้า)มาไหว้พระที่วิหารนั้น พอไหว้เสร็จก็มาหยิบสากปูนเหมือนๆ คนอื่น แต่

เขาไม่ตำลงไปที่ครก ยกสากขึ้นแล้วก็พูดว่า "ตำให้ตายก็ไม่ได้อะไร...อย่าอยู่เลย" ว่าแล้วก็เอาสากฟาดไปที่ปากครก สากหักตรงที่จุดคอคอด

สำหรับจับสากเวลาตำ มีทองหลุดออกมา ๑ แท่ง........

ตอนที่แล้วจบตรงที่เป็ดร้อง ตอนนี้มีเรื่องเล่าว่าที่วัดแห่งหนึ่ง มีเต่าที่ทำด้วยไม้ขนาดใหญ่อยู่ที่ลานโคกโบสถ์ ไม่มีใครรู้ว่าใครทำไว้และทำไว้

ตั้งแต่เมื่อไร มีวัตถุประสงค์อะไร มีเรื่องเล่าล้อเล่นกันอยู่เรื่อยๆ ว่า ถ้าคืนไหนฝนตก พอรุ่งขึ้นเช้าเจ้าเต่าไม้ตัวนี้มักจะเปลี่ยนที่อยู่ เช่นเคยอยู่

หน้าโบสถ์ก็จะย้ายไปหลังโบสถ์เป็นต้น แต่บางคนก็ว่าน่าจะความทลึ่งของคนบางคนทำขึ้น บางคนก็ว่าน่าจะเป็นเต่าเดินไปเอง หุ่นพยนตร์มีได้

ขุนแผนผูกหุ่นได้ เป็ดในหลุมสมบัติยังร้องได้ ทำไมเต่าจะเดินไม่ได้ อยู่ๆไปก็มีคนตั้งข้อสังเกตว่า เต่าไม้อยู่ที่โคนต้นโพธิ์เป็นเวลานานแล้วไม่

เคยเห็นย้ายที่ไปไหนเลย มีคนไปพลิกดูก็พบว่าตรงที่เป็นคอกับหัวเต่า ที่เคยเอามือกดเล่นแล้วมันกระดกได้ แต่ก่อนนี้มันตันแต่วันนั้นมันกลวง

มีคนสันนิษฐานว่า น่าจะมีแผ่นทองหรือแผ่นยันที่ทำให้เต่าเดินได้เคยใส่อยู่ แต่ก่อนๆโน้น เขาก็เล่าว่าเรื่องแบบนี้มันมีอยู่จริง ผมเล่าก็เพียงให้รู้

ว่า มันเคยมีเรื่องเล่าแบบนี้ ขอบคุณมากครับ...สวัสดีครับ

 

ท่านฯนัดให้ไปหาหลังพฤหัสย้ายเป็นอุจจ์ ไว้จะพาเข้าไปด้วยกัน ผมมีเรื่องสำคัญคุยกับท่านอยู่ คงอาจดอดไปคุยล่วงหน้าก่อน

ผมเป็นคนเข้าใจยาก เรื่องการกระทบกัน ถ้าเข้าใจไม่ผิด คือจะมีผลหลัง๕ย้ายแล้วได้4เดือน ถูกต้องใช่ไหมครับ ถ้าเป็นดาว๗ ก็ 10เดือน

ส่วนจันทร์ สะท้อนแสงยังไม่เข้าใจ ไว้กราบเรียนถามท่านตรงๆ
แต่ว่าไป เรื่องดาวสัมพันธ์อาจจะง่ายกว่าถนัดกว่า

พูดถึงเรื่องลัคน์ในเรือนศรี ก็นึกถึงพี่สาวคนนึง เลยเอาดวงมาให้ดู วิจารณ์ได้เต็มที่ครับ พี่สาวผมใจกว้าง
<img src='http://img3.uploadhouse.com/fileuploads/19028/190288333997c3e1f455f129122f13b26123e7f8.jpg' /><br /><font size='1'><a href='http://www.xn--12c5cgw1fub.com' target='_blank'>ฝากรูป</a></font>

 

มีวิธีสังเกตบ้างมั้ยครับว่า พระ/วัตถุมงคล/เครื่องราง องค์ไหน/ชิ้นไหน ถูกโฉลกกับผู้แขวน

ขอบคุณครับ

 

สนใจครับ ถ้าจะไปกราบท่านเมื่อไหร่บอกล่วงหน้าซักระยะนะครับ ผมไม่มีรถนั่งรถไฟฟรีเข้ากทม.เอา
เรื่องผลกระทบของดาวใหญ่ที่ย้ายราศี ตามความเข้าใจผมคือ เหมือนนกบินโผลงจับกิ่งไม้
เวลาดาวย้ายก็เหมือนนกบินลงมาเกาะกิ่งไม้ ซึ่งกิ่งไม้ก็เปรียบเสมือนเรือนเกษตร
ย่อมเกิดการสั่นไหวไปทั่ว เรือนเกษตรเอง ดาวเจ้าเรือน และดาวที่ลอยอยู่ในเรือนนั้น
ซักพักกิ่งไม้ก็จะค่อยๆนิ่งลง และยามดาวย้ายก็เหมือนนกโผบินขึ้นกิ่งไม้ก็สะบัดอีกที
ดังนั้นระยะที่สั่นไหวคือจะมีผลกระทบชัดเจนส่งผล ก็คือช่วงยกย้ายเข้าหรือออกราศี
ดาวย่อมส่งอิทธิพลราวๆ 1/3 ของเวลาโคจรในราศีนั้น ช่วงนั้นดาวจะส่งกระแสมาก
ดาวใหญ่มักจะให้ผลในช่วงเวลานั้น ช่วงเวลานอกเหนือจากนั้นก็ส่งอิทธิพลไม่มาก
ต้องรออาทิตย์มาให้แสงอีกทีเหมือนกัน ถึงจะมีผลทำงาน เรื่องดาวโคจรแบบนี้
ที่งมมา มันมีผลที่แตกต่างกันในเรื่องการโคจรแบบวิกลคติเช่น พักร์ มนฑ์ เสริด ด้วย
เรื่องจันทร์ผมก็ยังไม่เข้าใจเท่าไหร่เหมือนกันครับ คงต้องไปสอบถามท่านผู้รู้อีกที

เรื่องดวงเดี๋ยวไว้ตอนว่างๆมาช่วยกันดูนะครับ

 

เคยสงสัยว่า ทำไมบางวันกระทู้เรามีคนเข้ามาดูกันเยอะเลย....
เป็นที่ระบบรวนหรือเปล่า เผื่อจะเอาไปอ้างอิงสำนักพิมพ์ได้บ้าง

............

ตะกี๋ ถามพี่แอ๊บ ว่ารู้จักรถอีแต๊กรึเปล่า แกตอบว่า

รถอีแต๊ก รถอีแต๋น รถไถเล็ก เป็นคันเดียวกัน ......เหมือนที่คุณพ่อประดู่ฯเล่า เลยได้ความรู้เพิ่มว่า มันไม่ใช่รถยนต์ แต่เป็นเครื่องมือเกษตรกรรม

ลืมถามว่า "สกายแล็ป" เป็นอย่างไรอีก....
แล้วเรือหางยาว ทำไมต้องหางยาว หางมันยาวแล้วมันจะเร็วขึ้นรึ?
เรือเฟอรี่เค้ายังหางสั้นเลย....

 

รถอีแต๊ก รถอีแต๋น รถสกายแล็ป

ที่เขาเรียก ๆ กันอยู่นี่ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าในแต่ละภาคจะเรียกเหมือนกันหรือไม่

สำหรับที่บ้านผม

รถอีแต๊ก จะใช้เรียกรถที่ใช้รถไถนาเดินตามเป็นตัวลากโดยตัวรถ
จะมีลักษณะคล้ายกับเกวียน ที่เรียกอีแต๊ก เพราะเวลาเดินเครื่องจะดัง แท็ก ๆ ๆ
บางคนจะได้ยินเป็นเสียง แต๊ก ๆ ๆ ๆ ในขณะกำลังขับเคลื่อน

รถอีแต๋น จะใช้เรียกรถที่มีเครื่องยนต์เหมือนกับภาพที่คุณหนุ่มทิพย์นำมาลงประกอบคำถาม น่าจะเรียกตามเสียงเครื่องยนต์ที่เดินเบากว่ารถไถนาเดินตาม

รถสกายแล็ป จะใช้เรียกรถสามล้อเครื่องที่สามารถบรรทุกของและคนนั่งได้สองฝั่งแบบรถสองแถว

สามล้อเครื่อง ใช้เรียกรถที่เหมือนอย่างสามล้อแบบเก่าที่บรรจุผู้โดยสารได้เพียงสองคน แต่ตัวรถส่วนหน้าเป็นจักรยานยนต์

สามล้อ , สามล้อถีบ ใช้เรียกสามล้อที่ใช้แรงคนในการขับเคลื่อน ปัจจุบันไม่มีแล้ว

 

เรือหางยาว เรียกตามท่อเหล็กขนาดยาวที่มีใบพัดอยู่ตรงปลาย ตัวเครื่องติดตั้งอยู่ท้ายเรือ
เวลาอยากให้เรือเบนหัวไปทางด้านไหนก็กวาดวาดท่อใบพัดเอาเหมือนอย่างถ่อ
ความเร็วก็น่าดูเหมือนกัน น้ำเชี่ยว ๆ ขับตัดลำน้ำแป๊บเดียว หนังไทยสมัย ๆ เก่า ๆ น่าจะมีให้เห็นอยู่บ้าง

ผมเคยนั่งข้ามแม่น้ำตอนเด็ก ๆ นั่งตัวเกร็งมือจับกราบเรือสองข้างแน่นเป๋ง ลุ้นระทึกไม่กล้ากระดุกกระดิกด้วยกลัวล่ม เพราะลำเรือไม่กว้างนักเหมือนอย่างเรือยาวที่ใช้แข่งแต่สั้นกว่า ด้านท้ายเรือตัดไม่แหลมใช้วางเครื่องยนต์

 

คุณไชย ส่งปฏิทินมาให้
ขอขอบคุณครับ แต่ไม่ใช่อย่างที่ผมต้องการ ที่ผมอยากได้ ถ้าจำไม่ผิด จะอยู่ที่เล่มละ 150-160 บาท ประมาณนี้ และได้คุณธรรมจักรช่วยเป็นธุระให้แล้ว

จะอย่างไรก็ขอขอบคุณครับ ผมยังพอใช้ประโยชน์ได้อยู่บ้าง

 

เออ...ใช่ เรือหางยาวไม่มีพวงมาลัย!

 

แจ้งโอนครับ พระปิดตา สมทบทุนวางศิลาฤกษ์วิหารสามเณรฤดูร้อน
18/02/57 เวลา 19.37 น. โอนจำนวน 2,500.05 บาท ทางตู้ไทยพาณิชย์ ครับ ส่วนที่เหลือจากค่าส่งขอร่วมบุญปล่อยปลากับคุณหนุ่มทิพย์ด้วยครับ

 

พระปิดตาจตุพิธพรชัย(ปิดตาปั้น)
สมทบทุนจัดสร้างที่พักสามเณรฤดูร้อน
วางศิลาฤกษ์ วันที่ 16 เมษายน 2557



ตรวจสอบรายชื่อกรรมการกิตติมศักดิ์ ที่ข้อความที่ #10094

 

วันนี้เห็นคนถามถึงหมูเลยนำมาให้ชมกันครับ...ขอบคุณครับ

<a href="http://upic.me/show/49700285" target="_blank"><img border="0" src="http://upic.me/i/nv/dsc_0174-tile.jpg"></a>

หมูทองแดง เนื้อผง
จัดสร้างโดย นิ่ม ป่าเเดง

 

โอนร่วมบุญ 2260 บาทแล้วครับ
มี sms จาก kbank ยืนยัน
แจ้งที่อยู่ทาง pm ครับ