พระเนื้อขาว กระทู้เปิดตำนานหลวงปู่ทิม ฯ

564

 

หมดรายการสำหรับวันนี้ครับ
พระปิดตาที่นำมาลง มีขนาดสูงราว 2.5 cm
ถือว่านำมาเลี่ยมห้อยคอแล้ว ขนาดไม่ใหญ่เลย
แต่องค์ที่นำมาลงช่วงแรก จะสูง 3 - 3.5 cm

 

สำหรับตะกรุดตะกั่วทุบ ที่ได้เกริ่นไว้ก่อนหน้านี้
มีดีอีกอย่าง คือ สามารถใช้อธิฐานได้ครับ...

มีใครเคยลองอาราธนาดูแล้วบ้าง

 

เฉลยความลับด้วยครับ จะได้แนะนำเจ้าของตัวจริงต่อไป

 

ขอ559...........ด้วย ครับ

 

อธิฐานขอ หรือเสี่ยงทายครับ

 

ตะกรุดตะกั่วทุบ สามารถใช้อธิฐาน แทนพระเนื้อขาวได้ครับ
และน่าจะเป็นจุดเด่นอีกข้อของตะกรุดตะกั่วทุบ นอกจากที่จะ
สร้างความสมานฉันท์ภายในบ้านแล้ว

สรุปภาพรวมผู้ที่ได้ใช้ ได้ผลเป็นที่น่าพอใจมาก ส่วนใหญ่
หากมีโอกาสได้เจอสมาชิกที่เคยบูชาพระเนื้อขาว หรือวัตถุ
เครื่องรางในกระทู้นี้ไป แทบจะเห็นใช้ทุกคน ไม่แน่ใจว่า
ใส่กันภรรยา หรือว่ามีดีอย่างอื่นก็ไม่ทราบนะครับ...

 

แล้วที่ได้มากับขุนแผนนะกุกู หลังฝังตะกรุดทุบ เช่นกันไหม ครับ

 

ใช้อธิฐานขอครับ...
การเสี่ยงทาย ก็มีสมาชิกบางท่าน นำไปใช้แล้วขึ้นมากก็มี
แต่ก็ใช่ว่าจะขึ้นทุกคนครับ ผมเลยไม่แนะนำเรื่องเสี่ยงดวง
เท่าไรนัก เพราะเป็นโชคใครโชคมัน

ถ้าเรื่องปัดเป่าสิ่งไม่ดี ทำให้ชีวิตราบรื่น เรื่องเหล่านี้ เกิด
ขึ้นได้กับทุกคน และใช้ระยะเวลาไม่เท่ากัน ควรใจเย็นใน
การดำเนินชีวิต อย่าเพียงหวังว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะมาพลิกชีวิต
เพียงข้ามคืน แล้วตัดสินว่าดีหรือไม่ดี ถ้ามองในเรื่องอัตรา
ส่วนที่ผมเก็บข้อมูลมา อย่างที่เคยบอกเสมอว่า ไม่เคยเห็น
ใครที่แย่ลง จากการใช้พระเนื้อขาวครับ..

 

ถ้าผมจำไม่ผิด คุณ Keng29 เคยนำไปฝังหลัง
ขุนแผนนะกุกู คิดว่าใช่ครับ...นานแล้ว ผมเองก็ลืม แหะๆ

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

บุญบริสุทธิ์
"การที่สอนให้ทำบุญโดยไม่ปรารถนานั้น ก็เพื่อให้กระแสบุญนั้นบริสุทธิเป็นขั้นที่หนึ่ง จะได้ตามให้ผลทันในปัจจุบันชาติ แต่ถ้าตามไม่ทันในปัจจุบันชาติ ก็ติดตามไปให้เสวยผลในปรภพ คือ เมื่อสิ้นอายุขัยจากโลกมนุษย์ไปแล้ว ฉะนั้น เขาจึงสอนไม่ให้ทำบุญเอาหน้า ทำบุญอย่าหวังผลตอบแทน สิ่งดีที่ท่านทำไปย่อมได้รับสนองดีแน่นอน"

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Ov อ่านข้อความ
กราบหลวงปู่ทิมและพี่ๆน้องๆครับ
นอกจากหลวงปู่ทิมที่ผมนับถือเคารพบูชาแล้วก็ยังมีคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติมที่ผมเคารพท่านมากเช่นกันกันที่ต้องกล่าวถึงคุณแม่บุญเรื่อนนั้นก็ด้วยเหตุผลที่ว่ามวลสารนั้นสำคัญไฉน พอพูดถึงผงพรายกุมารที่อุปโหลกลวงโลกขึ้นมานั้นด้วยความเชื่อต่างๆนาๆให้ดูเหมือนว่าจะได้ใช้ผีแอบช่วยตามที่จะแต่งเรื่องราวกันไป แต่พอกลับไปดูวัตถุมงคลของ คุณแม่บุญเรือนกลับเห็นได้ว่ามวลสารนั้นเป็นแบบพื้นๆแล้วแต่จะหามาได้ในยุคนั้น เช่น ศิลาน้ำ ข้าวตอกพระร่วง ปูนแดง สาคู เมล็ดพริกไท เหรียญดีบุก หรือพุทโธเนื้อดินต่างๆ ทั้งหมดที่ว่ามานี้ล้วนเป็นของหาง่ายที่ชาวบ้านในยุคก่อนนำมาให้คุณแม่บุญเรือนอธิฐานจิตสำหรับพุทธคุณหลังจากนั้นไม่พูดถึงเป็นที่ประจักษ์กันในหมู่ลูกศิษย์ว่าเป็นอย่างไรดีแค่ไหนอะไรเป็นสิ่งสำคัญถ้ามวลสารนั้นแสนจะธรรมดา ก็คืออำนาจแห่งจิตที่ท่านอธิฐานลงไปนั้นเองสำหรับพระยุคต้นของหลวงปู่ทิมที่ดูเหมือนว่าจะเป็นมวลสารธรรมดาคือเน้นไปในผงดินสอพองซะส่วนใหญ่ก็ไม่น่าจะสงสัยว่าทำไมพุทธคุณมากเหลือหลายเช่นกันโดยที่ไม่ต้องมีผงอุปโลกมาผสม หรือไม้แกะต่างๆเป็นไม้ธรรมดาไม่ต้องกิ่งชี้ไปทางทิศไหนหรือมีใครเคยมาผูกคอตายในกิ่งนั้นถึงจะเอามาแกะได้ล้วนแล้วแต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างแกะมาให้หลวงปู่เสกก็มีพุทธคุณเช่นกันสรุปได้ว่าจิตนั้นสำคัญที่สุด ให้สวดคาถาได้ทุกบทแต่จิตไม่ถึงก็ไม่เกิด
ให้เลือกระหว่างรวมมวลสารทั้งประเทศเอาที่ดีที่สุดเสกกันแบบเป็นร้อยๆพิธีถ้าผู้เสกนั้นไม่สำเร็จจิตก็ไม่เป็นผล แต่หากว่าเป็นแค่ผงดินธรรมดาแต่ผู้เสกถ่องแท้ในจิตการอธิฐานจิตเพียงผู้เดียวนั้นย่อมบรรลุผล เกิดพุทธคุณสูง พระเครื่องที่ดีนั้นเจตนาต้องบริสุทธ์ในการสร้างอันนี้สำคัญมาก
สำหรับเรื่องของผงพรายกุมารเป็นสิ่งที่ทุกท่านคงต้องคิดให้อย่างละเอียดอ่อนมากกับการที่เอาบทความการเขียนจากเหตุการณ์ที่ผ่าเอากะโหลกเด็กมาตำทำเป็นผงพรายนั้นว่ามันจะเป็นข้อเท็จจริงปานใดในการถือปฏิบัติของพระระดับอริยะที่คู่ควร หากมาเปรียบกับเหตุผลที่สมดุลกันตามตรง ถ้าเราจะคิดว่ามีมันก็คงจะเป็นได้เพราะไม่มีใครรู้เห็นกับสิ่งที่มาเพียงแค่เกิดจากการจิตนาการหรือการวิเคราะห์กันไป หรือถ้าคิดว่ามีอย่างเชื่อมั่นก็คงไม่ได้กับคำตอบที่ชัดเจนเพราะไม่มีใครรับรองเหตุการณ์ว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมานั้นมันจะจริง คือไม่มีประจักษ์พยานที่ชี้เห็นชัด มีแต่เพียงร่ำลือกันมาเท่านั้น

จะเห็นว่าตัวบทละครในเรื่องราวของผงพรายกุมารที่กำหนดขึ้นมานี้จะมีก็คือ นายสาย แก้วสว่าง และหมอหลาบ จ้อยเจริญ ที่แน่นอนหลายคนคงเชื่อกันจนฝังใจกันไปแล้ว ถ้าอ่านจำจากในหนังสือประวัติของหลวงปู่ทิม หรือการเล่าต่อจากศิษย์ยุคหลังที่ไม่เคยได้ไปสัมผัสกับเรื่องราวที่เห็นจริงกันเลย แต่นำมาเล่าต่อขานกัน ซึ่งมันแน่นอนที่จะต้องมีการขัดแย้งกันแน่เพราะต่างก็เชื่อข้อมูลและที่มา แต่เคยนึกกันไว้หรือปล่าวว่าเราเคยใช้เหตุผลมาเป็นเครื่องพิสูจน์กันบ้างไหม ว่ามันมีข้อมูลที่เชื่อถือกันมากน้อยเพียงใด ถ้าจะเปิดใจรับกันจริงๆ ว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นคือ การหลงลวง

นายสาย แก้วสว่าง อดีตไวยาวัจกรของวัดที่อยู่คลุกคลีกับหลวงปู่ทิมมานาน ท่านเล่าว่าถ้าจะให้เล่ากันตามตรงโดยเนื้อหาที่แท้จริงนั้นมันก็ไม่ได้มีเรื่องราวอันพิสดารอะไรกันมากมาย ถ้าคนไม่เอาไปแต่งเสริมเรื่องราวกันไปยกใหญ่หรือในสิ่งที่ไม่ถูกหลักความจริง โดยเรื่องราวมันมีกับสิ่งเหลือเชื่อที่สมดุลกับปาฏิหาริย์อันเกิดขึ้นมา กับเรื่องราวที่ต้องใช้เหตุผลมาประกอบ และเรื่องราวที่มันเป็นไปตามธรรมชาติโดยยึดตามหลักกฎแห่งกรรม หลวงปู่ทิมท่านเป็นพระที่เรียบง่าย แต่เคร่งครัดมากในเรื่องกิจของสงฆ์กับในแง่เรื่องที่ถูกต้องตามหลักการปฏิบัติ

การสร้างวัตถุมงคลต่างๆอย่างเช่นว่าไม้แกะ หรือตะกรุดใดๆก็ตามที นายสาย แก้วสว่างท่านเล่าว่า หลวงปู่ทิมท่านไม่เคยกำหนดหรือการให้หาเลยว่าต้องเอาไม้ที่ถูกต้องตามตำราเท่านั้น หรือไม้อะไรที่มันมีคุณวิเศษหายากๆถึงจะเสก หรือแม้กระทั่งตะกรุดก็เอามาตั้งชื่อกันตามความเชื่อกันไปเอง อย่างเช่นตะกรุดมหานิทราหรือ ตะกรุดมหาปราบ หรือมหาระงับ ในยุคสมัยนั้นไม่มีการกำหนดชื่อของตะกรุด มีแต่การเล่าตำนานกันฟังเท่านั้น ตะกรุดก็คือตะกรุดที่คาดเอวและที่เอาไว้ห้อยติดตัวเท่านั้น ที่ฮิตกันหน่อยก็คือตะกรุดคลอดลูกที่ทำให้คนท้องแก่ติดตัวไว้ป้องกันภัยและการคลอดลูกง่าย เฮีย จ แกคงทราบดีในการเขียนเรื่องราวอรรถรสในหนังสือเพื่อเอาใจหลอกผู้คนโดยบางครั้งไม่ได้ตั้งใจในแต่แรก แต่ผู้รับฟังกลับเกิดจินตนาการรับรู้ไปแบบเชื่อถือกันไปแล้ว จนต่อมาต้องเสริมเรื่องราวต่อยาวเพื่อให้มีผลพวงในด้านพุทธพาณิชย์ขึ้นมา จนทำให้เกิดความสับสนกับเรื่องราวกันมาในทุกวันนี้

เมื่อเรื่องราวที่มันค่อนข้างจะเลือนๆนี้ เฮีย จ แกก็ทำของขึ้นมาแล้วพยายามกำหนดเอาเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นมาก่อนปี17 เพื่อให้ศิษย์หลายคนคิดไม่ทันต่อเหตุการณ์อันที่จะเกิดขึ้นจริง เพราะหลายคนก็ตายกันไปบ้างแล้ว ยกตัวอย่างเอาง่ายๆแค่พรายขาวพรายดำที่เล่าสรรพคุณเรื่องราวปาฏิหาริย์กันซะอย่างมากมาย แต่ผลสุดท้ายเอาเข้าจริงๆกลับหาที่มาที่ไปไม่ได้กับคนที่เขาซื้อไปและคำถามที่ต้องตอบในภายหลังเมื่อมีคนอยากรู้ขึ้นมา ถ้าจะบอกว่าโยมสายเป็นคนแกะขึ้นมาก็คงจะยากเพราะศิลป์ฝีมือมันไม่ใช่ ถ้าจะบอกว่าแกะมาจากพยุหะ ก็คงเป็นคำตอบที่นึกอะไรไม่ออกแล้วจนปัญญา ก็เหมือนกับไม้แกะตามแบบศิลป์สวยงามอะไรต่างๆนาๆที่แกเอามาขาย เมื่อเจอคำถามที่มา นึกอะไรไม่ออกก็ต้องว่ามันอยู่บนหัวเตียงหลวงปู่ไว้ก่อน ไม่รู้ใครแกะ ซึ่งมันก็แปลกนะ หัวเตียงนอนของหลวงปู่ทำไมมันมีแต่ของแปลกๆกัน มันไม่มีของมาตราฐานอย่างอื่นๆที่คนเขารับรู้กันเลยรึงัย ! สงสัยหัวเตียงนอนของหลวงปู่ทิมคงจะใหญ่โตบรรจุพระไว้กันเป็นกระด้งๆเลยมีไม่รู้จักหมดซะที! ซึ่งจริงๆแล้วเรื่องราวต่างๆและวัตถุมงคลที่นำเสนอกันมาควรจะเชื่ออย่างมีหลักและเหตุผล อย่างน้อยก็ต้องมีประจักษ์พยานหรือไม่ก็ชาวบ้านรับรู้กันบ้าง ถึงแม้มันจะเป็นเวลานานแล้วก็ตามที จะทันยุคที่เห็นหรือไม่ทันยุคก็ต้องมีกันบ้าง อันนี้มันก็อยู่ที่เหตุผลของแต่ละยุคที่จะต้องวิเคราห์ความจริงกันไป

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Ov อ่านข้อความ
พระโบราณที่เคร่งในศีล มั่นในธรรม อยู่ดีๆจะลุกขึ้นมาบอกให้ลูกศิษย์ไปผ่าเอาศพเด็กมาบดทำพระเครื่อง ผมว่ามันดูขัดๆกันนะครับ
แต่ถ้าบอกว่าพระหลวงปู่ทิมที่มีพุทธคุณสูง อันเกิดจากการใช้จิตเป็นหลักในการตั้งธาตุ หนุนธาตุ เรียกรูปเรียกนามจนมีตัวมีตน ให้คุ้มครองป้องภัยให้กับผู้บูชา ซึ่งหาพระในยุคนี้ที่เต็มไปด้วยความมีกิเลทลุ่มหลงและอ้างวิชาที่ไม่รู้จริงว่ารู้จริง ไม่แปลกหรอครับที่ไม่ว่าจะนำมวลสารที่สุดยอดแค่ไหนก็ตามไม่ว่าจะเป็นของกี่สิบกี่ร้อยหลวงปู่ดังๆนำมาทำเป็นส่วนผสมในการสร้างพระใหม่ๆถึงไม่มีพุทธเทียบเท่าของเดิมก็เพราะว่าถึงตอนเสกผู้เสกเรียกธาตุไม่เป็นจึงได้แต่เสกแบบเป็นแค่เมตตาเท่านั้น ( เอาไว้เป็นข้อมูลครับ)


ครับพระยุคโบราณนั้นเขาเคร่งครัดในศีล มั่นในธรรม โดยเฉพาะในยุคแต่แรกนั้นการศึกษาทางด้านวิชาอาคมต่างๆ มันแน่นอนที่พระเกจิอาจารย์เมื่อได้ร่ำเรียนรู้วิชาก็จะต้องมีการลองวิชาเพื่อให้รู้ว่าสิ่งที่เรียนไปแล้วนั้นมันประสบผลหรือไม่ ดูอย่างเช่นวิชาการทำปลัดขิก สิ่งที่สำเร็จผลได้ก็คือการเสกแล้วต้องดิ้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากจิตเท่านั้นที่ทำได้ และวิชาต่างๆพระสงฆ์ที่เคร่งครัดในศีลไม่สามารถกระทำได้คือการผ่าเอาศพเด็กมาทำผงพรายหรือทำกุมารทอง หรือแม้กระทั่งการใช้ให้ลูกศิษย์ไปเอามาก็ยังไม่สามารถกระทำได้ เพราะมันขัดกับศีลที่ครองไว้ ถ้าเราเอาเหตุผลมาประกอบกัน ทีนี้เราลองมาดูเหตุผลตามประวัติของหลวงปู่ทิมวัดละหารไร่ในหนังสือเล่มเก่าๆ ที่มีบทตอนหนึ่งที่เฮีย จ เขียนขึ้นมาว่า “ วันหนึ่งหลวงปู่ทิมได้เรียกนายสาย และศิษย์ใกล้ชิด2-3คนเข้าไปหาและถามว่าเคยเห็นศพหญิงตายท้องกลมบ้างหรือไม่ จะต้องเป็นศพตายท้องกลมในวันเสาร์แล้วกำหนดเผาผีในวันอังคาร ถึงจะต้องตามตำราและให้นำเอากะโหลกศีรษะของเด็กซึ่งเผาแล้วมาให้ได้ เพื่อทำผงพรายกุมาร นายสาย แก้วสว่างก็ได้เพียรพยายามหาจนพบว่าจะมีการเผาศพหญิงตายท้องกลมนี้ที่ป่าช้าวัดละหารใหญ่ นายสายเข้าไปในป่าช้าคนเดียวทำพิธีข่มผีในเชิงตะกอนแล้วนำเอากะโหลกของเด็กซึ่งอยู่ในท้องแม่ออกมาโดยมีเคล็ดอยู่ว่า ห้ามมองกลับไปข้างหลังเป็นอันขาด จนกว่าจะพ้นเขตป่าช้า หลังจากนำหัวกะโหลกเด็กในท้องแม่ ให้หลวงปู่ทิมใช้คาถาข่มผีตามวิธีการ7คืนแล้วให้นายสายเป็นผู้ตำกะโหลกให้เป็นผงโดยใช้ครกหินขนาดใหญ่ และนำกะโหลกศีรษะเด็กใส่ตำลงไปปรากฏเป็นที่อัศจรรย์ ได้เกิดไฟลุกไหม้ครก ท่ามกลางความตกตะลึงกับบรรดาลูกศิษย์ลูกหาหลายคน ตำอีก3ทีครกแตกเป็น2ซีกเลย หลังจากนั้นหลวงปู่ท่านให้จุดธูปขอขมาซะก่อน จากนั้นนายสายก็ตำลงไปจนกะโหลกศีรษะละเอียดเป็นผง และเป็นที่มาของผงพรายกุมาร ที่เฮีย จ แกเขียนเล่าไป

เรื่องนี้มันดูเหมือนว่าจะจริงและสนุกตื่นเต้นดีตามเรื่องราวที่เขียนกัน แต่ก็คงไม่มีใครทราบความจริงมาก่อนเลยล่ะว่ามันเป็นเรื่องที่เขียนแหกตาคนอ่านกัน เฮีย จ แกคงจะทราบดีกับเรื่องราวที่เขียนไป รึแม้กระทั่งใครหลายๆคนที่เพิ่งเริ่มเข้ามาศึกษาหรือเข้าวงการใหม่ๆอ่านแล้วแน่นอนก็คงจะเชื่อเหมือนกับบทความที่เฮีย จ เขียนมา เมื่อเรื่องราวเป็นเช่นนั้นคนที่จะตอบคำถามความจริงในตัวละครที่กำหนดขึ้นก็คือนายสาย แก้วสว่าง ไวยาวัจกรของวัดที่ถือว่าใกล้ชิดหลวงปู่ทิมมากที่สุด และมันก็เป็นคำถามที่เกิดขึ้นมาว่าเรื่องราวผงพรายกุมารมันมีที่มาที่ไปกันยังไง จริงไหม! ที่นายสายไปเอากะโหลกเด็กมาตำทำผงพราย


เมื่อคำถามที่ถามนายสาย แก้วสว่าง สำหรับคนคุ้นเคยเท่านั้นที่แกจะตอบความจริงให้ เพราะมันเป็นเรื่องของจริตความเชื่อในแต่ละคน โดยมันเป็นความจริงไหม!ที่หลวงปู่ทิมใช้ให้ลุงสายไปผ่าเอาหัวกระโหลกเด็กมาทำเป็นผงพรายกุมาร เมื่อพอลุงสายได้ยินคำถามแกก็ตกใจว่าหึ! มันมีด้วยรึ ท่านก็ส่ายหัวว่ามันจะไปกันยกใหญ่แล้ว เพราะในหนังสือนั้นเฮีย จ แกดันเขียนขึ้นมาดื้อๆโดยไม่มีมูลเหตุหลักฐานอะไรเลย ลุงสายท่านก็เล่าว่าถ้าจะเอาความเป็นจริงนั้นหลวงปู่ทิมท่านไม่เล่นหรอกเรื่องภูติพรายอะไร และท่านก็ไม่เคยใช้ให้ใครไปเอาผงกะโหลกอะไรที่ว่าทั้งนั้น ผีนางส้มที่ว่าท่านเองยังไม่รู้จักเลยไปเอามาจากไหนล่ะ! เส้นผมผีพราย ผมเด็กกุมารอะไร นายสายท่านกล่าวว่า จะบ้ากันรึงัย!หลวงปู่ท่านจะเล่นอะไรกับของพรรณนั้น มันไม่ใช่จริตของหลวงปู่เลย ซึ่งคนที่ใกล้ชิดกับหลวงปู่จริงๆเขาย่อมทราบกันดีว่าท่านปฏิบัติแบบไหน

ต่อมาภายหลังเรื่องราวมันก็คงติดหูจากคนที่อ่านในหนังสือเรื่องราวของผงพรายกุมาร โดยเฉพาะพระขุนแผนผงพรายกุมารที่คนฮิตอยากได้กันแบบคลั่งไคล้ โดยหนังสือเอามาเขียนเรื่องราวการสร้างกันยกใหญ่โดยคัดลอกจากตำราเล่มเก่าๆของเฮีย จ ที่เขียนกันไปแล้วว่ามีผงพรายที่ไปพลีเอามาทำพระ จนต้องมาหาเรื่องราวจากลุงสายซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์เรื่องราวเกือบทั้งหมด ลุงสายท่านเองเมื่อทราบเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่องก็ไม่รู้จักทำยังไงกับเหตุการณ์ที่เฮีย จ แกดันเขียนเรื่องราวที่บิดเบือนไป บอกความจริงไปก็คงจะไปตีกันกับข้อมูลที่เขียนไปแล้ว คงจะด้วยความดื้อดันจากใครหลายๆคนที่วุ่นวายสับสนกันกับข้อมูลที่อ่านจำจากตำรากันมาแล้วมาร่ำรู้กัน จึงเป็นเหตุผลที่ลุงสายในบางครั้งก็ต้องพูดปดกันไปว่ามีผงผีอะไรต่างๆนาๆเพื่อตัดความรำคาญกัน ตามแต่ใครอยากจะเชื่อ ซึ่งมันก็ไม่แปลกหรอกถ้าคิดจะเชื่อกันไปแบบจินตนาการ และลุงสายท่านได้กล่าวเป็นคำสอนเตือนแก่คนใช้พระผงหลวงปู่ในเรื่องของพรายกุมารที่ว่า “ถ้าคิดว่ามีก็มี ถ้าคิดว่าไม่มีก็ไม่มี” มันเป็นเหตุผลที่แล้วแต่ใครจะคิดกันได้ทั้งนั้น


มาถึงทุกวันนี้แล้วถ้าใครคิดว่ามี ก็หาความจริงกันให้ได้กับที่มาที่ไปที่คิดว่ามันชัดเจน เพราะอย่างน้อยก็มีประจักษ์รู้เห็นกันบ้างกับใครหลายๆคนที่ยังทันต่อเหตุการณ์ในวัดละหารไร่ ซึ่งเรื่องราวของผงพรายนั้นก็คงจะวายสับสนเหมือนกับพระขุนแผนหรือพระยอดขุนพลบ้านค่ายที่ต่างก็มีความเชื่อคนละแบบพิมพ์กันไป เพียงแค่ถามความจริงว่า มีใครอยู่ในเหตุการณ์จริงกับการกดสร้างขุนแผนกันมั่ง มีแต่คำร่ำลือกันมาแบบปะปรายกันทั้งนั้น รึแม้กระทั่งเฮีย จ ที่พยายามปั้นตัวเองว่าใกล้ชิดหลวงปู่และถ้าคิดว่าตัวเองมีใจบริสุทธิ์ทำไมไม่กล้าเขียนเรื่องราวความจริงกับพระขุนแผนกัน หรือเพราะกลัวความจริงมันเปิดเผยตัวเองขึ้นมา!

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

“หลักของคุณธรรม คือการคิดด้วยจิตใจที่เป็นกลาง ก่อนจะพูดจะทำสิ่งไร จำเป็นต้องหยุดคิดเสียก่อนเพื่อรวบรวมสติให้ตั้งมั่น และให้จิตสว่างแจ่มใส ซึ่งเมื่อฝึกหัดจนคุ้นเคยชำนาญแล้ว จะกระทำได้คล่องแคล่ว ช่วยให้สามารถแสดงความรู้ ความคิด ในเรื่องต่าง ๆ ให้ผู้ฟังเข้าใจได้ง่าย ได้ชัด ไม่ผิดทั้งหลักวิชาทั้งหลักคุณธรรม”

 

ผมแจ้งโอนเงินเพิ่มไปเมื่อวานในข้อความ ไม่ทราบน้าต๋อยได้รับหรือยังครับ

 

ได้รับแล้วครับ จัดส่งให้วันจันทร์นะครับ...

 

จัดส่งไปเมื่อช่วงบ่ายครับ

ชุมศักดิ์ EK 4195 7918 5 TH จตุจักร
ธนา EK 4195 7919 9 TH สามเสนใน
อังคาร EK 4195 7920 8 TH แหลมงอบ
ประกาญจน์ EK 4195 7921 1 TH ลาดพร้าว
กิตติศักดิ์ EK 4195 7922 5 TH ฉะเชิงเทรา

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

การสร้างพระเครื่องของวัดละหารไร่ที่กำเนิดขึ้นมาแต่ก่อนนั้น นับกันตั้งแต่เดิมที่บล็อกแม่พิมพ์นั้นเริ่มแกะมาจากไม้เนื้อแข็ง โดยมีกันหลากหลายพิมพ์ทรงและเนื้อหาซึ่งมีกันตั้งแต่พระเนื้อผงและเนื้อดินที่นำเอามาสร้างเป็นพระเครื่องกัน แน่นอนครับที่ทางวัดสร้างมาเนิ่นนานแล้วแบบไม่มีอย่างมาตราฐานใดๆ เพียงเพราะสร้างมาแจกจ่ายแก่ผู้ที่นับถือและศรัทรากันเท่านั้น การสร้างวัตถุมงคลของวัดนั้นย่อมมีผู้ทราบกันเสมอถึงแม้กาลเวลามันจะผ่านมานานแล้วก็ตามที มันยังเป็นตำนานที่ชาวบ้านในรุ่นเก่าที่ยังถือการกล่าวขานกันมา เว้นซะแต่ผู้ที่ยังไม่ได้เข้ามาคลุกคลีหรือเข้ามาไม่ทันยุคเท่านั้น ที่อาจจะยังไม่ทราบเรื่องราวข้อเท็จจริงใดๆ

ลุงแก่น อัมฤทธิ์ ซึ่งถือเป็นชาวบ้านละหารไร่โดยกำเนิด ท่านมีโอกาสได้ไปคลุกคลีอยู่กับหลวงปู่ทิมเสมอในเวลายามว่าง และยังได้ร่วมสร้างพระเครื่องในยุคแต่แรกของวัดละหารไร่ โดยเรื่องราวดังกล่าวนั้นมันมีหลักและเหตุผลที่ควรจะเชื่อหรือไม่นั้นก็อยู่ที่การพิจารณาในแต่ละท่านว่าการสร้างนั้นมันมีมาแต่ก่อนหรือไม่ครั้งใด ลองย้อนดูคลิบเอานะครับ

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=IWniLZa-IZ8&feature=player_embedded]ตำนานหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ 2 - YouTube[/ame]

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

 

พึ่งจะนึกออกครับอาทิตย์ที่แล้วผมฝันเห็นลูกอมเนื้อขาวที่พ่อผมติดรถไว้ในฝันผมเห็นว่าลูกอมนั้นแตกเป็นผงเลยผทอยากทราบว่่ฝันแบบนี้จะเตือนอะไรรึเปล่าครับ