ขอเชิญพี่ๆน้องๆ ที่ศรัทธา หลวงปู่โต๊ะ มาพูดคุยกันหน่อยครับ

และมีเรื่องแปลกจากวัดถ้ำสิงโตทองอย่างครับ แต่ตอนนั้นพระอาจารย์มีแขกมาก ผมเลยไม่มีโอกาสที่จะได้กราบถามท่าน คือในพานที่ใส่เศษชิ้นส่วนชนวน ที่เมื่อหลอมแล้วเป็นส่วนเกินล้นจากเบ้าหลอม พระอาจารย์ก็นำเก็บไว้เพื่อที่จะไว้เป็นมวลสารในการหล่อองค์หลวงปู่องค์ใหญ่ เมื่อพระอาจารย์เมตตามอบให้ผม ๑ ชิ้น ผมเห็นมีเหรียญห้าสิบสตางค์อยู่ ๒ เหรียญ มีคราบทองคำที่หลอมละลายติดอยู่ และมีคราบเบ้าคราบชนวนเกาะติดอยู่ที่เหรียญด้วย ผมจึงขอเมตตาพระอาจารย์มา ๑ เหรียญ ผมประมาณคิดเองในใจว่า เหรียญห้าสิบสตางค์ที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสองเหรียญนี้หลอมไม่ละลายครับ ส่วนตัวถือเป็นเรื่องมงคลและคิดเองว่ายอดคงกระพันมากครับ เพราะขนาดทองยังละลายทำไมเหรียญถึงไม่ละลาย ไว้มีโอกาสจะสอบถามพระอาจารย์อีกครั้งครับ พรุ่งนี้จะถ่ายภาพมาชมกันครับ

 

น้อมกราบหลวงปู่โต๊ะ ด้วยเศียรเกล้า

 

น้อมกราบ หลวงปู่โต๊ะ ด้วยความศรัทธา
สวัสดีพี่กิม พี่โญ เสือนุ และพี่ๆน้องๆทุกท่านครับ^^

 

สวัสดีครับคุณเอก สบายดีนะครับ

 

สวัสดีครับเฮียกิม และสมาชิกทุกท่านครับ เมื่อวานได้มีโอกาสไปทำบุญซื้อที่ดินถวายหลวงปู่ที่วัดถ้ำสิงโตทอง และทอดผ้าป่า และได้หล่อพระที่ถ้ำด้วยครับ ขออนุโมทนาบุญให้สมาชิกทุกท่านครับ โชคดีทุกๆๆท่านครับ

 

ชนวนที่เมื่อวานทางวัดถ้ำสิงโตทอง มีพิธีเททองหล่อรูปเหมือนของหลวงปู่โต๊ะ น่าจะเป็นรุ่นที่ซื้อที่ดิน เห็นป้ายคร่าวๆว่า หน้าตัก ๙ นิ้ว สร้างจำนวน ๙ องค์ และเททองในวันนี้ ๙ องค์เลย พระอาจารย์เมตตาผมมา ๑ ชิ้น ส่องกล้องดูแล้วน่าจะมีทองคำมากพอสมควร เมื่อวานผมไปไม่ทันในงานพิธีเททองหล่อ แต่ตั้งใจไปกราบหลวงปู่บนถ้ำอย่างเดียว ผมไปถึงวัดก็ประมาณสี่โมงเย็นแล้วครับ ผมได้ถวายภาพพิมพ์ด้วยกระดาษนอกอย่างดี กระดาษเดียวกับปกใบอนุโมทนาบัตรแก่ศิษย์ผู้ที่สละทรัพย์ทำบุญที่ดินแด่พระอาจารย์ เพราะผมเห็นอาจารย์นำปกไปใส่กรอบ เนื่องจากพระอาจารย์ดำหริว่าสวยงาม พอมีงานบุญนี้จึงพิมพ์ถวายร่วมงานบุญกับท่านจำนวนร้อยกว่าแผ่น ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐาน 8 x 10 นิ้ว และผมเรียนกับพระอาจารย์ว่า ผมมีส่วนตัว ๓๐ แผ่น ไว้นำแจกให้ลูกค้าที่มีพระคุณกับผม ผมจึงขอเมตตาขออนุญาตพระอาจารย์ ประทับตรายางของวัดถ้ำสิงโตทองไว้เป็นสิริมงคลด้วย พระอาจารย์ก็มอบชนวนให้ผมในเวลานั้น แต่ระหว่างที่ถวาย ก็มีศิษย์ของพระอาจารย์ ยืนเข้าคิวมารอคุยธุระกับท่านมากหลายคณะอยู่ ผมจึงขอปลีกตัวขึ้นไปกราบหลวงปู่ จึงไม่มีโอกาสได้ถามที่มาของเหรียญและมวลสารของชนวนชุดนี้ครับ

 

เฮียและครอบครัวโชคดีที่มีวาสนาได้ร่วมพิธีหล่อครับเฮีย อนุโมทนาบุญกับเฮียด้วยครับ ครอบครัวเฮียมาช่วยงานหลวงปู่มิขาดสามสิบกว่าปี ขอบารมีหลวงปู่ดลให้ครอบครัวเฮียที่ร่ำรวยอยู่แล้ว ให้รวยขึ้นกว่านี้อีก ๑๐ เท่านะครับเฮีย

 

ขอบคุณในคำอวยพรครับเฮียกิม และขอพรที่เฮียให้ให้กับเฮียและครอบครัวของเฮียเช่นกันนะครับ สาธุ สาธุ สาธุ

 

น้อมกราบหลวงปู่โต๊ะ -/\-

สวัสดีลูกหลานหลวงปู่ทุกท่านครับ เข้ามาอ่านนานแล้วขอบคุณเฮียกิมที่นำเรื่องหลวงปู่มาเล่าให้ศิษย์รุ่นหลังฟังครับ ฟังแล้วยิ่งศรัทธาท่านมากขึ้น

ส่วนใหญ่ผมมีแต่พระย้อนยุคหลวงปู่ครับ ล็อกเก็ตนี้แจกเมื่อวันที่ 1 มีค. ที่ผ่านมาครับ

 

สวัสดีครับ สิ่งใดที่จะเป็นการเผยแผ่ความเมตตาของหลวงปู่เมื่อในอดีต ไม่ว่าจากตัวเองบ้าง หรือที่ได้รับรู้รับทราบมาจากพี่ๆมาบ้าง จากผู้หลักผู้ใหญ่บ้าง และจากท่านเจ้าอาวาสบ้าง ก็นำมาเป็นเรื่องเล่าให้เยาวชนศิษย์รุ่นหลังที่ศรัทธา ได้จิตนาการถึงบรรยากาศเก่าๆ ก็มีกำลังความสามรถทำได้แค่เล็กๆน้อยๆแค่นี้เอง แต่ก็ยินดีรับใช้ครับ

ถ้าเป็นเมื่อสมัยก่อนผมเคยเห็นบรรยากาศเป็นแบบนี้ครับ คือเหมือนถ้าคุณปูท่าพระ ไปกราบหลวงปู่หรือได้รับแจกวัตถุมงคลแบบนี้จากหลวงปู่ หรือบางท่านบูชาวัตถุมงคลจากที่วัด เมื่อบูชาแล้วถ้าหลวงปู่อยู่ก็จะนำขึ้นไปกราบขอเมตตาท่านเป่าเสกอีกครั้ง ผมเชื่อว่าหน้าผากของคุณปูท่าพระ ต้องมีแป้งเจิมลงมา 555 รับรองเลยครับ เวลาพวกพี่ๆไปวัด แล้วจะรู้ว่าหลวงปู่ท่านอยู่หรือไม่ ก็จะสังเกตุศิษย์ที่เดินไปมาที่วัด ว่ามีแป้งที่หน้าผากหรือเปล่า ถ้ามีแสดงว่าหลวงปู่ท่านอยู่ ประมาณว่าเป็นสัญญลักษณ์เลยครับ เวลาหลวงปู่เจิมแป้งที่หน้าผากเรา เราก็มองไม่เห็นอยู่แล้ว และตอนนั้นก็ไม่เคยสนใจมองว่าท่านเขียนอักขระอะไรที่หน้าผาก แต่ผมย้อนคิดถึงความรู้สึกที่ท่านเจิมในวันนี้ เหมือนว่าท่านจะเขียนอักขระยันต์นะ คือความรู้สึกตอนนั้นเหมือนท่านจะวนๆแล้วลากยาวขึ้นไปบนกลางศีรษะ พี่เคยเล่าว่าเคยเห็นบางครั้งท่านก็ใช้นิ้วมือ แต่ยุคผมที่เห็นหลวงปู่จะใช้เทียนที่มีพันสายสิญจน์อยู่ พี่เคยเล่าว่าสมัยก่อนเทียนที่หลวงปู่เจิมหน้าผากไม่ได้พันสายสิญจน์ เวลาหลวงปู่เจิมเทียนจึงชอบหัก หลวงปู่จึงให้นำมาพันสายสิญจน์ เฮียว่าความรู้สึกเฮียเองที่หลวงปู่ใช้เทียนเพราะมีศิษย์ที่เป็นผู้หญิงมาเจิมจะได้สะดวก เฮียเล่าว่าเฮียเองไปที่ไรก็ต้องเจิมทุกครั้งจนนับไม่ถ้วน ตอนขึ้นครูนั่งกัมมัฏฐานครั้งแรก หลวงปู่ใช้เหล็กจารให้เลยไม่ได้ใช้แป้งเจิม ถ้วยเจิมของหลวงปู่มีหลายใบ บนกฏิสายหยุดก็มี บนกุฏิเหลืองก็มี

ไว้มีโอกาสจะถ่ายภาพย้อนถึงอดีต ว่าที่เจิมแป้งของหลวงปู่หน้าตาเป็นอย่างไรให้ศิษย์รุ่นหลังได้ชม แบบสภาพเดิมๆมีถ้วยเจิมที่ยังมีเทียนพันสายสิญจน์คาอยู่ในถ้วยครับ

 

สุดยอดหาชมยาก ถ้วยเจิมหน้าผากสภาพเดิมๆ ที่หลวงปู่โต๊ะท่านเคยใช้เมื่อในอดีต ศิษย์รุ่นเก่าๆเห็นคงจำได้ ในตอนที่นำมาถ่ายภาพ พี่ย้ำนักย้ำหนาว่า ระวังโดนแท่งเทียนที่พันสายสิญจน์หัก หรือหลุดออกมาจากแป้งที่แห้งแล้วเด็ดขาด แกว่าแป้งหมดสภาพไปแล้ว เมื่อหลุดออกมาไม่สามารถละลายน้ำให้ยึดติดกันใหม่ได้ เมื่อแตกแล้วเนื้อแป้งจะเป็นเม็ดๆไม่ละลายน้ำแล้ว ผมเห็นแกรักษามาสามสิบกว่าปี ตอนถ่ายผมเลยเกร็งมากเลยครับ

 

สาธุครับเฮีย ในชีวิตผม ไปทีไรเจิมทุกทีแบบนี้มีอีกสององค์ หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้าหนึ่ง หลวงปู่ผล วัดเซิงหวายหนึ่ง เทียนที่หลวงปู่คร่ำใช้เจิม อยู่ที่ผม ไม่กล้าแกะห่ออกดูเหมือนกันครับ จะยี่สิบปีแล้ว กลัวแป้งหลุด

 

555 จัดอยู่ในกลุ่มประเภทสุดยอดอนุรักษ์อีกท่าน เฮียวิรัชไว้จะส่งภาพลายเส้นไปฝาก เพราะเคยร่วมทำบุญกัน ภาพนี้พระอาจารย์ประทับตรายางให้กับมือเดี๋ยวลงภาพให้ชม ของดีมีน้อย 555

 

ภาพพระครูภาวนาโชติคุณ ฝ่ายวิปัสนาชั้นเอก วัดถ้ำสิงโตทอง เมตตาประทับตรายางบนภาพไว้ให้เป็นมงคล

 

รีบเลย รีบเลย ขอบคุณครับตั้วเฮีย

 

อ่านแล้วนึกถึงความเมตตาของหลวงปู่เลยครับ ผมเคยไปกราบหลวงพ่อทรงวัดศาลาดินหลวงพ่อท่านเข้าพบได้ง่ายและใจดีมากพอได้กราบท่านก็รู้สึกสุขใจ หลวงปู่โต๊ะก็เช่นกันแม้ไม่ทันหลวงปู่แต่ได้ฟังเรื่องหลวงปู่ก็สุขใจครับ

ภาพที่เจิมแป้งของหลวงปู่ดูเข้มขลังมาก เฮียกิมถ่ายภาพได้สวยมากครับ

 

สบายดีครับพี่กิม พี่กิมสบายดีนะครับ แอบแวบๆมาเห็นพระพี่กิมแล้ว ชื่นใจทุกครั้งครับ

 

เมื่อผมถามถึงภาพที่เฮียห่อเก็บไว้อย่างดี เฮียถามว่าภาพมีลักษณะยังไง ผมก็เมล์ภาพไปให้ดู เฮียก็ร้องอ้อ แล้วเล่าว่า เฮียเห็นภาพนี้ที่ไรบอกได้ว่าซึ้งถึงความเมตตาของหลวงปู่เลย ยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งคิดถึงคำหลวงปู่และไม่สงสัยเลยว่า สมัยก่อนที่เฮียเห็นทำไมถึงมีทั้งพระหลายรูปหลายวัด ทั้งฆารวาสและชาวบ้าน มาปรึกษากับหลวงปู่มากมาย กิมเฮียจะบอกให้หลวงปู่โต๊ะผู้คนทราบว่าท่านปลุกเสกพระเก่ง ถ้าใครได้ใกล้ชิดแล้วจะรู้ว่า หลวงปู่ท่านเก่งหลายด้านมาก ทั้งดูฤกษ์ยามอีกสารพัด ใช่แต่จะปลุกเสกพระเก่งอย่างเดียว เฮียเล่าต่อว่าในกรอบใบนี้มีอยู่ ๓ ภาพใส่อยู่รวมกัน คือมีทั้งภาพพุทธประวัติ ภาพชุดนี้ไม่รู้ว่าใครมาถวายหลวงปู่ แต่มีตรายางของวัดประทับมาแบบนั้นแล้วทุกภาพ หลวงปู่นำไว้แจกแก่ศิษย์ มีภาพอยู่หลากหลาย ทั้งภาพพุทธประวัติ ภาพของเทพต่างๆ ในวันที่เฮียได้ภาพนี้นั้น ในวันนั้นเป็นวันเกิดเฮีย เฮียมีบันทึกไว้ ว่า ๒๐ มี.ค. ๒๒ เฮียตั้งใจไปกราบขอพรหลวงปู่ และจะขอเมตตาให้หลวงปู่เจิมหน้าผากเป็นสิริมงคลด้วย เมื่อไปถึงที่วัดหลวงปู่อยู่ เฮียก็บอกกับหลวงปู่ว่า วันนี้เป็นวันเกิดมาขอพรจากหลวงปู่ หลวงปู่ท่านยิ้มและไม่พูดอะไร แล้วหลวงปู่บอกเฮียว่า ตี๋บนตู้มีภาพอยู่หยิบลงมา และหลวงปู่ก็เลือกภาพที่มีเทพหาบคนแก่ ๒ คน มอบให้เฮีย แล้วพูดว่าวันเกิดต้องไปกราบพระอรหันต์ที่บ้านด้วย ให้กตัญญูเหมือนดั่งภาพนี้ เฮียจึงรู้เองว่าหลวงปู่ท่านสอนด้วยภาพ ภาพนี้คือภาพที่เป็นปริศนาธรรม เป็นภาพที่เทพองค์หนึ่งกำลังหาบพ่อแม่อยู่ เฮียเห็นมีภาพพุทธประวัติแบบอื่นๆอีก จึงขอหลวงปู่มาอีก ๒ ภาพ หลังจากนั้นเฮียจึงนำไปใส่กรอบ เมื่อใส่กรอบเสร็จแล้วก็ประมาณว่าจะไปอวดหลวงปู่ว่า ภาพที่หลวงปู่เมตตาให้ไปใส่กรอบมาแล้ว หลวงปูจึงเมตตาเจิมแป้งให้อีกครั้งที่กระจก ด้วยความที่กลัวแป้งเจิมจะหลุดจึงห่อเก็บไว้อย่างดี นานๆถึงแกะออกมาชม

ก็มีที่มาเป็นแบบนี้ ว่าเป็นภาพที่ครั้งหนึ่งหลวงปู่โต๊ะท่านเคยแจกให้กับลูกศิษย์ไปสักการะบูชา

 

น้อมกราบหลวงปู่โต๊ะ -/\-

สวัสดียามเช้าลูกหลานหลวงปู่ทุกท่านครับ

วัดถ้ำสิงโตทองเคยไปครั้งเดียวเมื่อปีตัดลูกนิมิต เนื่องจากพี่ชายได้ย้ายไปอยู่ที่บ้านคา ราชบุรี เวลาไปจากกรุงเทพ ก็จะผ่านวัดหลวงปู่ หลังจากนั้นก็ไม่ได้แวะไปอีก พอเห็นเฮียกิมถ่ายรูปที่วัดมาให้ชมดูร่มรื่นและเงียบสงบ ทำให้อยากไปกราบหลวงปู่อีกครับ

 

มีโอกาสไปกราบเลยครับ ไปชมสถานที่ปฏิบัติธรรมของหลวงปู่บนเขาในถ้ำ ไปชมสุขภัณฑ์อ่างล้างหน้าของหลวงปู่ ที่หลงเหลืออยู่เพียงชิ้นเดียว ที่กล่าวมานี้ล้วนเป็นโอกาสที่เราเหล่าศิษย์สามารถได้ชมกันอย่างใกล้ชิด ถ้าอยากเฮงๆก็ขอยืมไม้กวาด ขอยืมถังและผ้าจากหลวงตาวุฒิผู้ดูแลกุฏิของหลวงปู่ มากวาดมาถูกุฏิหรือรดน้ำต้นไม้ที่ปลูกรอบๆกุฏิ ถือว่าสุดยอดใกล้ชิดครับ (คุณชุงคนฮ่องกงทำมาแล้ว เมื่อไม่นานมานี้เมล์มาบอกว่ากลับไปฮ่องกงงานเยอะจึงยิ่งศรัทธา เมื่อแกมาเมืองไทยแกก็ชวนพรรคพวกไปกราบหลวงปู่ที่วัดถ้ำเองเลยครับ )