อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ปู ท่าพระ, 26 ธันวาคม 2013.

  1. nitikoon kongkhaw

    nitikoon kongkhaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +53,508
    [​IMG]
     
  2. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,031
    ค่าพลัง:
    +53,093


    ผมแอบไปเล่นเกมส์ แป๊บ เดียว ตกขบวนเลยครับ
    :cool::cool:
     
  3. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448

    ถ้าบ้านอยู่ใกล้จะขับรถไปรับวัสดุธรรมชาติจากคุณวุฒิเลย :':)':)'(

    ชอบวัสดุธรรมชาติ เพราะมีลวดลายเส้นสายแปลกตาดีเวลาถ่ายภาพซูมครับ :cool::cool::cool:
     
  4. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,031
    ค่าพลัง:
    +53,093
    เมื่อคืนถึงตอนใหน จำไม่ได้ ลงใหม่ละกัน

    คุณอภินิหารของพระเครื่องหลวงพ่อทวดฯ
    เท่าที่ปรากฏเห็นประจักษ์แล้ว

    บันทึกและรวบรวมโดยนายอนันต์ คณานุรักษ์ จำนวน ๓๒ เรื่อง จากหนังสือประวัติ
    หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด และคุณอภินิหารพระเครื่องหลวงพ่อทวดฯ วัดช้างให้
    จัดพิมพ์เนื่องในงานฉลองโบสถ์วัดช้างให้ ๒๔-๓๐ เมษายน ๒๕๐๔

    เรื่องที่ ๑

    ในงานพิธีแจกพระเครื่องสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดวันแรก มีเด็กชายกับเด็กหญิงหมนสองคนพี่น้อง ได้รับแจกพระทั้งสองคน เด็กหญิงหมนเมื่อได้รับพระแล้วก็เอาพระเครื่องนั้นห่อชายพกกลับบ้าน ซึ่งอยู่ที่บ้านป่าไร่ ต.ป่าไร่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ครั้นถึงบ้านแก้ห่อผ้าจากพกให้แม่ดูปรากฏว่า พระรูปนั้นกลายเป็นถ่านไฟไปเสียแล้ว ส่วนเด็กชายขณะที่เดินกลับบ้าน ได้เอาพระเครื่องโยนขึ้นแล้วใช้มือรับเช่นเดียวกับโยนก้อนหินเล่นตามประสาของเด็ก แต่รับไม่ทันพระจึงตกลงบนพื้นดิน เขาจึงก้มลงเก็บพระด้วยมือ ทันทีนั้นเด็กชายผู้นั้นก็ยืนแกว่งมือตกใจร้องไห้ขึ้น พ่อเขาจึงลงมาดูเห็นลูกยืนแกว่งมือร้องไห้อยู่ จึงเข้าไปจับมือแกะออกดู ปรากฏว่ามีพระหลวงพ่อทวดฯ อยู่ในกำมือ พ่อและแม่ของเด็กทั้งสองเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เกิดจากอภินิหารของหลวงพ่อทวดฯ บันดาลให้เกิดขึ้น เขาทั้งสองจึงนำลูกทั้งสองคนมาพบท่านอาจารย์เจ้าอาวาสที่วัดช้างให้ประมาณเวลา ๒๑.๐๐ น. แล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ท่านทราบ ท่านอาจารย์จึงแนะนำให้เขาพาเด็กทั้งสองไปกราบไหว้ที่สถูปของหลวงพ่อทวดฯ และกล่าวคำขอโทษเสีย คืนนั้นข้าพเจ้ากลับบ้านเวลา ๒๐.๓๐ น. จึงมิได้ประสพด้วยตนเองแต่ได้รับคำบอกเล่าจากท่านอาจารย์ฯ

     
  5. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,031
    ค่าพลัง:
    +53,093
    เรื่องที่ ๒

    นายไสว ปลื้มสำราญ ครูประชาบาล โรงเรียนตำบลบ้านไร่ ได้พบกับข้าพเจ้าที่วัดช้างให้ และเล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า คืนวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๔๙๗ เวลากลางคืน ภรรยาของเขาถูกตะขาบกัด มีอาการเจ็บปวดทุรนทุรายไม่ได้สติ เวลาค่ำคืนเช่นนี้จะหายาที่ไหนก็ไม่ได้ นายธำรงบุตรชายคนโต จึงนิมนต์พระเครื่องหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดวางลงในน้ำพอเปียกแล้วเอาตั้งลงบนแผลนานประมาณ ๒ - ๓ นาที แล้วก็หายปวดทันที นายไสวบอกว่าเขาได้ประสพอภินิหารของหลวงพ่อทวดฯ ในครั้งแรกจึงเลื่อมใส วันนี้ผมจึงมาขอพระเครื่องอีก

    เรื่องเอาพระเครื่องรักษาคนถูกตะขาบกัดมีมากราย ปรากฏว่าศักดิ์สิทธิ์นัก แต่ผู้เขียนเห็นว่าไม่จำเป็นจะบันทึกลงทุกๆ คน เพราะยังมีเรื่องอื่นๆ อีกมาก


     
  6. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,031
    ค่าพลัง:
    +53,093
    เรื่องที่ ๓

    เมื่อปลายเดือนเมษายน ๒๔๙๗ ในค่ำวันหนึ่งเวลาประมาณ ๑๙.๐๐ น. ข้าพเจ้าออกจากบ้านเพื่อจะไปซื้อของบางอย่างที่หน้าโรงภาพยนตร์ปัตตานี ก่อนจะออกจากบ้านข้าพเจ้าได้พนมมือที่หน้าหิ้งพระ ระลึกถึงหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด อธิษฐานในใจว่า ขอให้หลวงพ่อทวดคุ้มครองบ้านและบุตรด้วย แล้วก็ออกจากบ้านไป เวลาประมาณ ๒๒.๐๐ น. จึงกลับบ้าน ขณะที่ข้าพเจ้าเดินกลับเข้าบ้านนั้น ได้มองไปที่ประตูชั้นล่างอาศัยแสงสว่างข้างแรมสลัวๆ เห็นรูปคนดำทมึนยืนอยู่ ณ ที่นั้น ข้าพเจ้าสะดุ้งตกใจนึกว่าคนร้าย จึงเหลียวกลับหลังเอาดุ้นฟืนมาถือไว้ แล้วร้องถามไปว่าใคร แต่เงาดำรูปคนคงยืนโยกตัวโงนเงนอยู่ไปมา ณ ที่เดิม ในขณะอึดใจนั้นข้าพเจ้าก็ระลึกขึ้นได้ว่า อ้อ หลวงพ่อทวดนี่เอง ข้าพเจ้าจึงโยนดุ้นฟืนทิ้งแล้วยกมือขึ้นพนมไหว้แล้วเดินเข้าไปหาเงาดำรูปนั้น เมื่อเดินเข้าไปในระยะใกล้ เงานั้นก็สลายตัวจากรูปคน คล้ายๆ กับควันบุหรี่ ค่อยๆ จางหายไปทีละน้อยจนหมด นี่คืออภินิหารของหลวงพ่อทวดฯ ซึ่งข้าพเจ้าได้ประสพด้วยตนเอง

    เผด็จ ณ นคร
    แผนกช่างเทศบาลเมืองปัตตานี
    ๑๕ พฤษภาคม ๒๔๙๗
     
  7. nitikoon kongkhaw

    nitikoon kongkhaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +53,508
    พี่ไปทานข้าวแป๊บเดียวกลับมาอีกทีไป3หน้าเลยครับ....:cool::cool:
     
  8. oatlovetong

    oatlovetong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    472
    ค่าพลัง:
    +17,292
    พระคำข้าวพอมีโอกาส"เตาะ"ได้มั้ยครับ นี่ก็จีบมานานแล้ว...
     
  9. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    [​IMG]

     
  10. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,031
    ค่าพลัง:
    +53,093
    เรื่องที่ ๔

    เมื่อปลายเดือนเมษายน ๒๔๙๗ นางมาลี ภรรยาของนายล้วน สมประสงค์ กรรมกรรถไฟ โรงกุลีนาประดู่ เจ็บท้องจะคลอดบุตรมาสองวันแล้ว แต่คลอดไม่ออก ผู้เจ็บมีอาการหนักมาก เนื่องจากความยากจนจึงไม่สามารถจะนำไปทำการคลอดที่โรงพยาบาลได้ เพราะไม่มีเงินว่าจ้างเหมารถ จึงต้องนอนรอวาระสุดท้ายอยู่ บังเอิญเพื่อนร่วมงานของนายล้วนรู้เรื่องนี้ เขาจึงบอกให้นายล้วนนำเอาพระเครื่องหลวงพ่อทวดฯ มาวางลงในขันน้ำ แล้วจุดธูปเทียนบูชาขอเป็นน้ำมนต์เสดาะแล้วเอาน้ำมนต์ให้นางมาลีดื่มและพรมศีรษะ ต่อมาชั่วครู่ นางมาลีผู้เจ็บคลอดก็เกิดมีกำลังและลมเบ่งคลอดลูกออกมาได้ แต่ปรากฏว่าเด็กนั้นได้ตายเสียนานแล้ว

    นายชาติ สิมศิริ
    กำนัน ตำบลนาประดู่ ผู้เล่าเรื่อง
     
  11. kraisorn_pithsanulok

    kraisorn_pithsanulok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +3,133
    [​IMG]

    [​IMG]

    งานไหว้ครู หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา

    เคดิต Jetsada Sangjan กลุ่ม รวมพลคุณครู ศิษย์หลวงปู่แขก:cool::cool::cool::cool::cool:
     
  12. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,031
    ค่าพลัง:
    +53,093
    เรื่องที่ ๕

    เมื่อปลาย พ.ศ. ๒๔๙๘ มีผู้หญิงไทยอิสลามคนหนึ่งคลอดบุตรเอามือออกมาก่อน แต่ติดอยู่เพียงนั้น เวลาผ่านมา ๓ วัน ๒ คืน บุตรจึงตายอยู่ในท้อง คนเจ็บหมดกำลังและลมเบ่ง อาการเข้าเขตอันตราย ญาติคนเจ็บมาตามภรรยาข้าพเจ้าซึ่งเป็นนางผดุงครรภ์แผนปัจจุบัน เมื่อภรรยาของข้าพเจ้าได้ไปตรวจดูแล้ว ก็ทราบว่าไม่มีทางใดจะช่วยได้ จึงแนะนำญาติของผู้ป่วยให้นำส่งโรงพยาบาลปัตตานี แต่เขาไม่ยอมนำไปได้แต่ขอร้องให้ภรรยาของข้าพเจ้าช่วยแต่อย่างเดียว เมื่อไม่มีทางใดที่จะใช้วิชาความรู้ช่วยได้แล้ว เขาก็ระลึกถึงพระเครื่องหลวงพ่อทวดฯ ซึ่งเขาเชื่อมั่นเป็นที่ประจักษ์มาแล้ว เขาจึงอาราธนาให้ท่านช่วยเสดาะลูกในครั้งนี้ให้ด้วย พอจบคำอธิษฐานในใจ (ผู้เจ็บ)ก็ร้องครวญครางขึ้น ภรรยาข้าพเจ้าจึงจับมือเด็กนั้นเขย่าเบาๆ ทันทีนั้นเด็กก็เปลี่ยนเอาก้นออกมา เขาเห็นที่เป็นเช่นนั้นเพราะถูกหลักซึ่งจะช่วยด้วยวิชาความรู้ได้ จึงจัดการเอาเด็กออกจากท้องแม่ได้โดยง่ายดาย ภรรยาข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่าเป็นด้วยคุณอภินิหารของหลวงพ่อทวดฯ ท่านดลบันดาลให้แน่ เพราะประสพมาแล้วเป็นที่ประจักษ์

    เปี่ยม จุลวัธน์ ธ.บ.
    ทนายความจังหวัดปัตตานี
     
  13. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,031
    ค่าพลัง:
    +53,093
    เรื่องที่ ๖

    มีอีกรายหนึ่งเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๙ เวลากลางคืน ผู้หญิงจีนมาที่บ้านข้าพเจ้า และบอกว่าเขาปวดท้องจะคลอด (ผู้หญิงจีนคนนี้ฝากท้องกับภรรยาข้าพเจ้า) ข้าพเจ้าว่าเขายังคลอดไม่ได้ เพราะภรรยาข้าพเจ้าไปทำคลอดที่อื่นยังไม่กลับมา เขาว่าเจ็บเต็มทนจะคลอดอยู่แล้ว ข้าพเจ้าจนใจจึงรีบเข้าห้องพระ กราบบูชาหลวงพ่อทวดฯ แล้วกล่าวว่า ขอให้หญิงจีนคนนี้อย่าพึ่งคลอด และขอให้ทางโน้นคลอดง่ายและให้ภรรยาข้าพเจ้ากลับเร็วๆ เถิด ประมาณ ๑๐ นาที ภรรยาข้าพเจ้าก็กลับมาได้นำหญิงจีนเข้าห้องประมาณ ๕ นาที ก็คลอดอย่างง่ายดาย

    เมื่อภรรยาเสร็จธุระ ข้าพเจ้าถามเขาว่าทำไมจึงได้กลับเร็ว ทางโน้นคลอดแล้วหรือ เขาตอบว่าคลอดแล้ว ขณะเขาล้างมือและทำความสะอาดอยู่นั้น ได้ยินเสียงปลาดกระซิบที่ข้างหูอยู่ว่าจงรีบกลับ เขาสนใจในคำกระซิบนั้นจึงรีบกลับมาทันที เจ้าของบ้านขอร้องให้นั่งพักเขาก็ไม่ยอมนั่ง นี่ก็เกิดจากอำนาจอภินิหารของหลวงพ่อทวดฯ ที่ภรรยาข้าพเจ้าได้ประสพมาทั้งสองเรื่อง

    เปี่ยม จุลวัธน์ ธ.บ.
    ทนายความจังหวัดปัตตานี
     
  14. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,031
    ค่าพลัง:
    +53,093
    เรื่องที่ ๗

    ข้าพเจ้าป่วยเป็นโรคหืดหอบมาช้านาน ได้รักษาด้วยยาแผนใหม่และแผนโบราณมามาก แต่ก็ไม่หาย ข้าพเจ้ามีวัยชราแล้วคิดว่าคงจะมีชีวิตอยู่ไม่เกิน พ.ศ. ๒๔๙๘ เป็นแน่ อยู่มาวันหนึ่งอาการหืดหอบกำเริบมากขึ้น ไม่มีทางใดจะดับทุกข์ทรมานให้โรคนี้หายได้ บังเอิญนึกถึงหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดเขาเล่าลือกันว่ามีคุณอภินิหารศักดิ์สิทธิ์นัก จึงบอกให้นางนุ้ยภรรยาของข้าพเจ้า ซึ่งเขาเป็นนักวิปัสสนา จัดดอกไม้ธูปเทียนเครื่องบูชา แล้วนิมนต์พระวิญญาณของหลวงพ่อทวดฯ เข้าประทับทรงนางนุ้ย เวลาชั่วครู่ต่อมานางนุ้ยก็ทรง ข้าพเจ้าจึงได้พรรณนาถึงเรื่องที่ได้รับความทุกข์ทรมานทางโรคหืดและหอบพร้อมทั้งขอยา ท่านอยู่ในทรงได้บอกยาสมุนไพรให้พร้อมด้วยคาถาปลุกเสก ให้ข้าพเจ้าต้มกินเป็นยาประจำ แล้วท่านสั่งว่าถึงจะต้มยานี้ให้ผู้อื่นกินก็ได้และมึงอย่าเรียกร้องเอาค่ายาจากเขาแพงๆ จงนึกถึงการกุศลเป็นสำคัญ ข้าพเจ้าจึงจัดการหายามาต้มกิน หม้อที่ ๑ อาการป่วยก็ทุเลาลง หม้อที่ ๒ น้ำยาไม่ทันจะจืด อาการหืดหอบที่เคยเป็นก็หายเป็นปกติมาจนบัดนี้ เพื่อนๆ รู้ข่าวก็ขอให้ข้าพเจ้าต้มยานี้ให้กินรักษาโรคหืด ปรากฏว่าหายมาหลายคนและข้าพเจ้าขอรับรองว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงซึ่งเกิดขึ้นแก่ตัวข้าพเจ้าเองและมีผู้รู้เห็นกันมา

    นายสุนทร หะวิเกตุ
    ต.เจาะปริง อ.สายบุรี

     
  15. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,031
    ค่าพลัง:
    +53,093
    เรื่องที่ ๘

    วันหนึ่งในต้นเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๐ ร.ต.ต.ไพจิตร์ เกตุวิลัย และจ่านายสิบวีระ กองบังคับการตำรวจภูธร ภาค ๙ จังหวัดสงขลา ได้มาราชการที่จังหวัดปัตตานีและไปเยี่ยมข้าพเจ้าที่บ้าน การสนทนาตอนหนึ่ง จ่าวีระแจ้งเรื่องอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อทวดฯ ให้ฟังว่า เขาเป็นโรคหืดหอบเรื้อรังมานาน รักษามามากแล้วก็ไม่หายวันหนึ่งอาการหืดหอบแรงขึ้น เขาแสนจะทุกข์ทรมานบังเอิญได้นึกถึงคำเล่าลือว่า พระเครื่องหลวงพ่อทวดฯ มีความศักดิ์สิทธิ์ขลังนัก อาราธนาทำน้ำมนต์กินแก้โรคทุกชนิดได้ เขาเข้าใจว่าเนื่องจากพระเครื่องประกอบขึ้นด้วยว่าน ๑๐๘ จึงมีสรรพคุณเช่นนี้ เขาคิดว่าโรคหืดหอบของเขานั้นใช้แรงน้ำมนต์แช่พระเห็นจะไม่มีแรงพอ ควรจะกินเนื้อพระเครื่องทั้งองค์คงจะได้ผลแน่ เขาจึงนำพระเครื่องเข้าในครัว ซึ่งทุกๆ คนในบ้านไม่มีใครรู้ เขาจึงตำพระเครื่องหลวงพ่อทวดฯ จนละเอียดดีแล้วละลายน้ำกินจนหมด โดยเขาคิดว่าได้กินผงว่านในองค์พระจะได้แก้โรคร้ายของเขา แต่ปรากฏว่าโรคร้ายก็ไม่ทุเลาลงเลย กลับต้องทนทุกข์ทรมานมาเป็นแรมเดือน ต่อมาวันหนึ่งเขามาราชการที่จังหวัดปัตตานี ได้รับคำแนะนำจากนายสามารถ หะวิเกตุ บอกให้เขาไปขอยาแก้โรคหืดหอบจากนายสุนทร หะวิเกตุ มารักษาโรคนี้

    หลังจากนี้มาไม่นานจ่าวีระ ได้ไปหานายสุนทรเพื่อขอยา นายสุนทรจึงให้นางนุ้ยภรรยาเชิญหลวงพ่อทวดฯ ทรงเสกยาให้ เมื่อหลวงพ่อทวดฯ ทรงในนางนุ้ยแล้วก็ลุกขึ้นยืนเดินตรงเข้ามาที่จ่าวีระ ทรงแสดงกิริยาเกรี้ยวกราดมาก ทำท่าจะทุบตีและชี้หน้าจ่าวีระ แล้วพูดว่า มึงนะใจดำกินกูเข้าได้ (หมายถึงว่าจ่าวีระกินพระเครื่อง) แสดงกิริยาขึ้งโกรธจ่าวีระอยู่ชั่วครู่ จ่าวีระก็งงงันเพราะไม่รู้เรื่องอะไรได้แต่พนมมือไหว้ นายสุนทรจึงแนะนำว่า ผู้ที่ทรงนั้นคือหลวงพ่อทวดฯ จ่าวีระนึกถึงเรื่องที่เขาเอารูปท่านหลวงพ่อทวดฯ ตำแล้วกิน ยิ่งเพิ่มความตกใจมากขึ้นในการกระทำของเขาครั้งนี้ จึงก้มลงกราบขอขมาโทษในสิ่งที่ผิดพลาดล่วงเกินท่านมาแล้วนั้น นางนุ้ยผู้ประทับทรงจึงพูดว่า เอาละกูจะยกโทษให้มึง ต่อไปมึงอย่าทำเช่นนั้นเป็นอันขาด และปลุกเสกยามอบให้จ่าวีระไปต้มกิน

    จ่าวีระแจ้งแก่ข้าพเจ้าว่าเขาได้ต้มยากินหลายหม้อ อาการป่วยจึงได้หายเป็นปกติจนถึงบัดนี้ (ขณะที่มาเยี่ยมข้าพเจ้า) จ่าวีระได้ขอพระเครื่องหลวงพ่อทวดฯ จากข้าพเจ้าหนึ่งองค์ ข้าพเจ้าถามว่ายังไม่มีหรือ เขาตอบว่าแต่ก่อนมีหนึ่งองค์ เขาตำกินเสียแล้ว ข้าพเจ้าจึงให้เขาไปบูชา ๑ องค์

    นายสุนทร หะวิเกตุ ได้บอกต้นยาขนานนี้ของท่านหลวงพ่อทวดฯ ให้แก่ข้าพเจ้า แต่ไม่ให้คาถาปลุกเสก คือ ๑.ต้นเข็ตมอญเหยียทั้ง ๕, ๒.รากไม้เท้ายายหม่อม ๓.รากเค็ตเคล้า ๔.รากเชียดเขา ๕.รากปรางหวาน ๖.รากพุดซ้อน ๗.รากพุดชนิดไม่ซ้อน ๘.รากชมภูยาหมู (รากต้นฝรั่ง) ๙.รากสาวหยุด หากผู้ใดจะทดลองยานี้ต้มแก้หืดหอบ ก็ให้ระลึกถึงหลวงพ่อทวดฯ เจ้าของยา โดยมีธูปเทียนอาราธนาให้ท่านปลุกเสกและขอความประสิทธิ์จากท่าน เวลาจะดื่มยาทุกครั้ง ข้าพเจ้าคิดว่าคงจะได้ผล

    นายอนันต์ คณานุรักษ์ บันทึก
     
  16. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,031
    ค่าพลัง:
    +53,093
    เรื่องที่ ๙

    เหตุเกิดที่บ้านหนองกรก อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ในคืนวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๔๙๗ เวลาประมาณ ๒๑.๐๐ น. นายแดงและภรรยากลับจากทำงานมากินข้าวแล้วเตรียมเข้าห้องนอน พอใกล้จะหลับได้ยินเสียงกริ่งๆ อยู่ในขวดโหลบนหิ้งพระ ซึ่งมีพระเครื่องหลวงพ่อทวดฯ ขอมาจากวัดช้างให้ใหม่ๆ และได้เก็บไว้บนขวดโหลใบนั้น เขาคิดว่าหนูได้กลิ่นน้ำมันจึงลงไปคาบพระแล้วกระทบกับขวดจึงเกิดเสียงดังขึ้น นายแดงจึงลุกขึ้นจุดตะเกียงส่องดูก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ จึงล้มตัวลงนอนต่อไปจนถึงเวลา ๒๒.๐๐ น. เขากับภรรยาก็ตกใจตื่นขึ้นทันทีเพราะเสียงปืนดังขึ้นที่ชานเรือนสามนัด นายแดงนึกได้ทันทีว่าตนถูกผู้ร้ายปล้นบ้าน จึงตื่นขึ้นจับมีดตัดฟากพื้นเรือนขาดเป็นช่อง แล้วรอดหนีไปทางช่องใต้ถุนเรือน

    ฝ่ายภรรยากำลังตกตลึงไม่ได้สติ จึงลุกขึ้นไปจะเปิดประตูให้พวกโจร ขณะที่พวกโจรกำลังกระแทกบานประตูอยู่ พอเขายื่นมือจับกลอนประตู ก็มีมือประหลาดมาผลักหน้าอกเขาก้นกระแทกพื้น เขานึกถึงหลวงพ่อทวดทันที จึงลุกขึ้นไปที่หน้าหิ้งพระพนมมืออ้อนวอน ขอให้หลวงพ่อทวดช่วยคุ้มครองรักษา ฝ่ายพวกโจรก็ออกกำลังพังประตูห้องอยู่โครมครามสั่นสะเทือน เขากลัวจนไม่สามารถจะทนอยู่ได้ จึงพนมมือกล่าวขอให้หลวงพ่อทวดฯ ช่วยคุ้มครองบ้านให้ลูกหลานด้วยเถิด กล่าวจบแล้วลอดหนีทางช่องตามสามีไป ปรากฏว่าพวกโจรใช้ปืนยิงติดตามมาข้างหลังแต่ไม่ถูก พวกโจรเมื่อโถมพังประตูไม่ออกจึงพากันหนีเข้าป่าไป

    นายชาติ สิมศิริ
    กำนันตำบลนาประดู่ เล่าเรื่อง


    วันหนึ่งข้าพเจ้าพบกับพนักงานสอบสวนอำเภอโคกโพธิ์ เขาว่าผมได้ไปสอบสวนพร้อมกับนายอำเภอได้ตรวจดูความแข็งแรงของบานประตูห้องนอนของนายแดงแล้ว ปรากฏว่าเก่าแก่และแบบบางมาก ใช้แรงผลักดันคนเดียวก็พังเพราะประตูมีบานเดียว และสอบถามคนแก่ที่อยู่นอกห้องได้ความว่าพวกโจร ๖ คนโถมพังประตูอยู่นานประมาณ ๒๕ นาที เจ้าพนักงานสอบสวนคนนั้นบอกข้าพเจ้าว่า มันเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก

    นายอนันต์ คณานุรักษ์ บันทึก
     
  17. nitikoon kongkhaw

    nitikoon kongkhaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +53,508
    เห็นบอกพี่ว่าหวงมีดหมดอย่างเดียวนะ อย่างอื่น"เตาะ"ได้หมดครับ...catt3
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 พฤษภาคม 2014
  18. nitikoon kongkhaw

    nitikoon kongkhaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +53,508
    เดือนหน้าต้องไปกราบท่านให้ได้ครับน้องเอ๋.....:cool:
     
  19. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448

    <a href="http://emoticon.ohozaa.com" target="_blank"><img src="http://emoticon.ohozaa.com/datas/emoticon/Onion/onion_smile.gif" border="0" alt="onion_smile.gif" /></a>



    [​IMG]
     
  20. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,031
    ค่าพลัง:
    +53,093
    เรื่องที่ ๑๐

    คืนวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๔๙๗ เวลาประมาณ ๑๙.๐๐ น. นายซัว นิลกำแหง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๓ ต.ลำพะยา จังหวัดยะลา ได้เอาพระเครื่องหลวงพ่อทวดใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อแล้วลงจากเรือนไปวัดลำพะยา เพื่อฟังพระแสดงธรรม วันนั้นเดือนขึ้น ๑๕ ค่ำ พระจันทร์เต็มดวงส่องแสงสว่าง เวลาประมาณ ๒๒.๐๐ น. พระแสดงธรรมเสร็จแล้วก็กลับบ้าน ขณะเดินมาพบคนร้าย ๓ คนเป็นที่เขารู้จักดีและจำได้ดี เพราะแสงสว่างของดวงเดือน ผู้ร้ายคนหนึ่งวิ่งมาใกล้เขาแล้วใช้ปืนสั้นยิงเขาในระยะใกล้ชิดรวม ๔ นัด ๓ นัดแรกไม่ถูก กระสุนนัดสุดท้ายถูกข้างตะโพกของนายซัวล้มลง ผู้ร้ายเข้าใจว่าเขาถูกกระสุนปืนตายเสียแล้วจึงได้พากันหนีไป

    นายซัวจึงลุกขึ้นดูรอยที่ถูกกระสุน ปรากฏว่ากางเกงทะลุตามแรงกระสุนปืน แต่ที่ตะโพกไม่มีบาดแผล เขาจึงรอดชีวิตมาได้ก็เพราะอำนาจหลวงพ่อทวดฯ คุ้มครอง เขายังพูดให้ผู้ไปสอบถามฟังว่าถ้าหลวงพ่อทวดไม่คุ้มครองผมคงตายแน่เพราะมันยิงผมในระยะเผาขน

    นายชาติ สิมศิริ นายกวี จิตต์กุล นายวิศิษฐ์ คณานุรักษ์
    ได้ไปสอบถามปากคำนายซัวด้วยตนเองทั้งสามคน
     

แชร์หน้านี้

Loading...