คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ประสบการณ์พระพุทโธน้อยและของอธิษฐาน

แจ้งให้ทราบ
เรื่องการเปลี่ยนเนื้อหาเกี่ยวกับ ประวัติคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม

เดิมทีผมอาศัยลิงค์ที่มีอยู่เดิมของเว็บไซต์หนึ่งมาตั้งแต่เปิดกระทู้คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ขึ้นมา โดยขณะนั้นผมยังไม่ได้มีหนังสือคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม อนุสรณ์มาอ่านและอ้างอิง จึงทำให้เข้าใจว่าที่ได้อ้างอิงมานั้นครบถ้วนสมบูรณ์มากสุดเท่าที่หาได้ แต่เมื่อไม่นานมานี้ได้ลองอ่านพิจารณาเนื้อหาของเว็บไซต์ดังกล่าวอีกครั้งปรากฏว่าเนื้อหาขาดหายไปมากหมือนกันครับ ดังนั้นเพื่อให้ตรงตามเอกสารและครบถ้วนในเนื้อหาผมจะทำการพิมพ์ขึ้นมาใหม่แล้วนำมาลงเผยแพร่ใหม่เพื่อให้ตรงและสมบูรณ์มากสุดเท่าที่จะทำได้ครับ

 

เป็นกำลังใจให้ครับ การทำงานบางอย่างเพื่อสังคมส่วนรวม ย่อมมีคนที่เห็นต่างบ้างในบ้างครั้ง ยังไงก็ขอเอาใจช่วยนะครับ มารไม่มี บารมีไม่เกิดครับ พี่ท่าน..

 

ขอบารมีคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เมตตาให้ผ่านพ้นไปด้วยดีด้วยเถอะ

 

กราบคุณแม่บุญเรือนด้วยความเคารพครับ
สวัสดีพี่เชษฐ์ พี่น้องทุกท่านครับ
เป็นกำลังใจให้พี่ผ่านพ้นอุปสรรคทุกประการครับ

 

กราบคุณแม่บุญเรือน

สวัสดียามเช้าพี่st-antiqueและทุกๆท่านครับ
เป็นกำลังใจให้นะครับเนื้อหาประวัติจะได้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นครับ

 

เป็นกำลังใจให้คุณเชษฐ์อีกคนค่ะ จะได้อ่านเรื่องราวคุณแม่ที่มาเผยแพร่อย่างตรงไปตรงมาต่อไป B_with_U

 

กราบคุณแม่บุญเรือน คุณเชษฐ์ และพี่น้องทุกท่าน ครับ


เป็นกำลังใจให้ครับ กับความมุ่งมั้น เผยแผ่ประวัติ วัตถุมงคล และเรื่องราวมากมายต่างๆ ของคุณแม่บุญเรือน และผมเชื่อว่าด้วยความบริสุทธ์ใจของคุณ เชษฐ์ จะทำให้ผ่านพ้นปัญหาอุปสรรค ต่างๆ ครับ

 

กราบคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ที่เคารพยิ่ง
สวัสดีครับลูกหลานและศานุศิษย์คุณแม่ฯทุกท่าน
​

สวัสดียามเย็นวันอังคารครับ วันนี้ขอให้ทุกท่านทำงานอย่างมีความสุขและใช้ทุกเวลาในชีวิตอย่างมีค่ามากที่สุด เพราะ "ชีวิตนี้สั้นนัก แต่ชีวิตนี้สำคัญยิ่งนัก" เช่นพุทธพจน์ของ สมเด็จพระญาณสังวรณ์ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ที่พระองค์ได้ประทานไว้จริงครับ

 

ขอบใจมากครับน้อง meteekit

สาธุครับพี่

 

สวัสดีครับน้องไชยยันต์และขอบใจมากครับที่เป็นกำลังใจและเข้าใจการทำงานที่ผ่านมา

สวัสดีครับน้อง kengeg และขอบใจมากครับสำหรับกำลังใจ ^^

 

ขอบคุณจ๊าดนักครับปี้ต่าย ^^

ขอบคุณมากครับ ^^

 

กราบคุณแม่บุญเรือน
คุณเชษฐ์ครับอย่าสนใจเสียงนกเลยครับ ด้วยความเมตตาของคุณแม่บุญเรือนและคุณเชษฐ์
ที่เมตตาแบ่งศิลาให้อาการป่วยของคุณแม่ผมกำลังดีวันดีคืนผมขอขอบคุณคุณแม่บุญเรือน และคุณเชษฐ์มา ณ. ที่นี้ ขอบคุณมากครับ

 

ขอบคุณมากครับ และขอแสดงความยินดีอยากมากครับที่คุณแม่ของพี่วรวิทย์ได้รับเมตตาจากคุณแม่ฯอนุเคราะห์รักษาอาการป่วยให้ดีขึ้นตามลำดับครับ

 

กราบคุณย่าบุญเรือน โตงบุญเติม
สวัสดีคุณเชษฐ์และเพื่อนสมาชิกทุกท่านครับ

 

สวัสดีครับพี่ธนน ^^

 

กราบคุณย่าบุญเรือน โตงบุญเติมด้วยความเคารพยิ่ง

[/Cหายไปนานกลับมาพร้อมประสบการณ์ ประสบการณ์เรื่องนี้สอนอะไรหลาย ๆ อย่าง เรารู้จักคุณย่าบุญเรือนเพราะการสูญเสียปีนั้นเราเสียคุณพ่ออันเป็นที่รัก แล้วบังเอิญดูรายการทีวีตอนนั้นเค้าสัมภาษณ์คุณบอยท่าพระจันทร์ คุณบอยพูดถึงคุณย่าบุญเรือน เราเลยค้นหาข้อมูลคุณย่าจากผู้รอบรู้ Google มีตอนนึงกล่าวถึงรูปอธิษฐานคุณย่าบุญเรือนซึ่งไม่ว่าจะอัดหรือพิมพ์สักกี่ครั้งก็ให้ศักดิ์สิทธิ์เท่ารูปต้นฉบับเดิม เราไม่รีรอตอนนั้นเรากำลังรู้สึกไม่รู้จะทำอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น พ่อของเราเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุถูกรถพ่วงชน แค่นี้เราก็เสียใจจะแย่อยู่แล้วแต่ที่แย่ไปกว่านั้น เราไปที่สำนักอัยการจังหวัดเพื่อสอบถามว่าคดีของพ่อเราเรื่องไปถึงไหนแล้วเจ้าหน้าที่แจ้งว่าส่งฟ้องศาลวันนี้เวลา 10.00 น. สำนักงานอัยการจึงทำเรื่องแนบเรียกร้องค่าเสียหายโดยพิจารณาจากอายุพ่อเราแล้วก็หลาย ๆ อย่าง เจ้าหน้าที่บอกว่าคิดให้หมดแล้วทั้งค่าจัดงานศพอยู่ที่ประมาณสองแสนห้าหมื่นบาทเค้าจึงให้เราไปที่ศาลเพื่อขอยื่นเรื่องเรียกร้องค่าเสียหาย พอไปถึงเจ้าหน้าที่ศาลพูดไม่ดีเลยทั้ง ๆ ที่เราเป็นเจ้าทุกข์ เค้าถามว่าตกลงจะยื่นเรื่องไม๊ เรารู้สึกสับสนขอสอบถามทนายก่อนทนายว่ายื่นไปก่อนเลยเพราะถ้ามาฟ้องทีหลังเรื่องจะยาก เราก็เดินทางกลับระหว่างทางเราร้องไห้จนถึงบ้านเราเอารูปคุณย่าบุญเรือนใส่กระเป๋าสตางค์ไว้เรายกขึ้นท่วมหัวบอกกล่าวคุณย่าบุญเรือนว่าถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวเรามันเป็นกรรมเก่าที่ครอบครัวเราต้องชดใช้เราขอยอมรับและจะไม่ปริปากใด ๆ เพื่อให้กรรมนั้นสิ้นสุด แต่หากไม่ใช่ลูกขอให้ลูกได้รับความยุติธรรมด้วย เรารู้สึกเสียใจที่คนชนไม่เคยมาเคารพศพพ่อเราเลยถามถึงความรู้สึกตอนนั้นว่าโกรธไม๊ มาก และแล้ววันที่เรารอคอยก็มาถึง เรากับผู้ต้องหาไม่เคยเจอหน้ากันหรือพูดคุยกันก่อนเลย จนวันที่ศาลนัดมาเพื่อไกล่เกลี่ย เรากับคุณแม่ไปถึงพร้อมกันกับผู้ต้องหาแต่บริษัทประกันยังไม่มา เค้าเข้ามากราบแม่ขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น แม่ถามกลับไปคำนึงทำไมใจดำจังไม่มาเคารพศพผู้ตายเลย เค้าพูดทั้งน้ำตาผมขอไปแล้วแต่บริษัทประกันสั่งห้ามเค้าบอกว่าจะจัดการเอง แต่ที่ผมมารู้ทีหลังเพราะผมถามทางบริษัทประกันว่าเจ้าทุกข์บ้านอยู่ที่ไหนทางบริษัทประกันตอบไม่ได้ผมก็รู้สึกเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วเค้าก็ยื่นซองซึ่งภายในซองนั้นมีเงินอยู่เป็นจำนวน 10,000 บาท เค้าบอกว่าเป็นค่าเทอมลูกครอบครัวเค้าก็ไม่ได้มีฐานะอะไรเป็นแค่ลูกจ้างและตอนนี้ผมกับครอบครัวก็ได้รับกรรมในสิ่งที่ก่อแล้ว พ่อตาแม่ยายไล่ผมออกจากบ้านด่าผมว่าไอ้ฆาตกรมึงอย่ามาเหยียบบ้านกูอีก ผมก็เลยต้องพาลูกคนเล็กซึ่งได้ไม่กี่เดือนอาศัยรถแทนบ้าน เรากับแม่ฟังแล้วร้องไห้ แม่พูดขึ้นมาคำนึงว่าอี๊ดอภัยให้เค้าเถอะนะ ไม่มีใครตั้งใจที่จะฆ่าคนตายหรอกแล้วตอนนี้เค้าก็ได้รับกรรมนั้นแล้ว
อโหสิกรรมให้เค้าเถอะลูกแหมะว่าป๊าก็คงต้องการแบบนี้เช่นกัน บุญนี้จะได้ส่งให้ดวงวิญญาณป๊าไปสู่ภพภูมิที่ดี แล้วแม่ก็ส่งเงินคืนให้กับผู้ต้องหา เงินจำนวนนี้ทางครอบครัวเรารู้ว่ามันไม่มากแต่มันจำเป็นสำหรับครอบครัวคุณ บรรยากาศดีขึ้น พอบริษัทประกันมาถึงเค้าแจ้งครอบครัวเราว่าทางบริษัทประกันจะจ่ายเงินให้ครอบครัวคุณ โดยทางครอบครัวเรียกค่าเสียหายอยู่ที่ 250,000 บาท แต่ทางบริษัทประชุมกันแล้วจะจ่ายให้เป็นจำนวนเงิน 300,000 บาท ขอเวลายืนยันบริษัท 15 นาที แล้วเค้าก็แจ้งเราอีกว่าบริษัทประชุมกันแล้วตกลงจะชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ครอบครัวเราเป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท สิ่งที่เกิดขึ้นเรารับรู้ถึงความเมตตาที่คุณย่าบุญเรือนมีต่อเราและครอบครัว น้ำตาไหลออกมาจากความรู้สึกหลาย ๆ อย่าง แต่สิ่งที่ให้แง่คิดจากประสบการณ์คือไม่ว่าความขัดแย้งใด ๆ จะคลี่คลายไปในทางที่ดีหากเราได้พูดคุยกันสักนิดอย่าตัดสินผู้อื่นด้วยสิ่งที่เราเห็น แล้ววันหน้าจะเล่าประสบการณ์ให้ฟังอีกนะคะ ศรัทธาเชื่อมั่นปาฏิหาริย์บังเกิด
เลิกถูกใจ · ENTER]​

​

 

สาธุ บารมีคุณแม่ฯแผ่ปรกคลุมลูกหลานทุกคนที่มีใจศรัทธาและตั้งมั่นในศีลธรรมเสมอครับ ขอแสดงความเสียใจกับการสูญเสียครั้งนี้กับทางครอบครัวพี่ขวัญเรือนด้วยครับ และยินดีด้วยครับที่ได้รับความเมตตาในครั้งนี้ สุดท้ายต้องขอบคุณมากๆครับที่เสียสละเวลานำเรื่องราวดีดีนี้มาฝากลูกหลานคุณแม่ฯทุกคน ขอบารมีคุณแม่ฯเมตตาคุ้มครองรักษาตลอดไปครับพี่
​

 

นึกถึงข้อคิดนี้แล้วทำให้นึกถึงเรื่องของตัวเองขึ้นมาเลย เรื่องการลดทิฐินี่แหละ

เมื่อ 2 ปีก่อน ตอนที่ย้ายเข้าบ้านใหม่ เพื่อนบ้านใหม่ก็ยังไม่ค่อยจะรู้จักนิสัยกันดี เรื่องก็มีอยู่ว่า ข้างบ้านติดกันเค้าจะติด True Internet ไว้ connect กับกล้องวงจรปิดหน้าบ้าน เพราะบ้านเค้ายังไม่มีใครมาอยู่ แต่จะทำเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญไว้ที่หน้าบ้าน

ปัญหาเกิดตรงที่ป้ายหน้าร้านเรา จะมีสาย main ไฟฟ้า พาดผ่านป้ายชื่อร้านเรา เป็นแนวสายตกท้องช้าง ซึ่งเราก็ต้องคอยเขี่ยให้มันพ้นชื่อร้าน เพราะเราคิดเองว่า มีเส้นอะไรมาคาดชื่อร้านมันคงไม่ดี ... ทีนี้พอทีมช่างของ True มาถึง เค้าก็จัดการงาน เราก็ดูเค้าทำงานตลอด และได้คุยกับเค้าด้วยว่า “ช่วยหาวิธี พาดสายให้หลบชื่อร้านได้ไม๊”

พนักงานของเค้ามี 2 คน คนหนึ่งเค้ามายืนดู แล้วก็คุยว่า “อืม จริงพี่ ผมว่าพาดผ่านเส้นเดียว พี่คงอึดอัดแล้วนะ เดี๋ยวจะลองหาวิธีดู”

แต่พนักงานอีกคน มองแล้วก็บอกว่า “ทำไม่ได้” (ที่จริงเพื่อนเค้าบอกว่าให้พาดหลบไปด้านบนหลังคาแทน แต่คนที่บอกว่าทำไม่ได้ เค้าขี้เกียจปีนหลัง ก็เลยยึดเอาแนวสาย main เป็นหลัก)

สักพักคู่สามีภรรยาเจ้าของบ้านก็มา คนเป็นเมีย เดินเข้าไปในบ้าน พอดีสามีเค้าเดินมาที่หน้าบ้าน เราก็เลยบอกเค้าว่ากำลังคุยถึงปัญหา และอยากให้ช่างช่วยหาวิธีการหลบให้หน่อย

พอเมียเค้าออกมานอกบ้าน ช่างคนที่บอกว่าทำไม่ได้ ก็คุยอ้างโน่นนี่ว่า “ทำไม่ได้” สุดท้ายเมียเค้าก็เดินมาโวยวายที่หน้าบ้านเรา ว่า
“เดินสายไปตามแนวสาย main นี่แหละ เอาตามแนวสายไฟเลย เป็นทางสาธารณะ ทำไมทำไม่ได้” แล้วมาคุยตะโกนเสียงดังหน้าบ้านเรา เค้าพูดว่า ถ้ามันจะต้องพาดป้ายชื่อร้านเราอีกเส้นก็ไม่เห็นเป็นไร

อารมณ์นั้นคงไม่ต้องบอกว่าเป็นยังงัย “ปี๊ดสุดขีด” ทำไมขอร้องด้วยเหตุผล และช่วยคิดหาทางออก แต่อารมณ์คุณเธอไม่เอาอย่างเดียว พูดแบบมีอำนาจมาก หน้านี้เราก็ไม่อยากจะมองเลย พอดีหันไปเจอรูปคุณแม่ สติมา บอกกับตัวเองว่า

“ปล่อยเค้า ปล่อยเค้า ปล่อยเค้า ถ้าเค้าคิดว่าทำแบบนี้ดีแล้ว ก็ปล่อยเค้า”

พอถึงตอนที่ช่างโยงสายไฟผ่านป้ายร้านเรา สามีเค้าก็ดีมากเลยวิ่งมาช่วยดึงสายให้ตึงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งมันก็พ้นป้ายชื่อร้านเราไป (ตอนแรกช่างเค้าดึงสายให้มันหย่อน ตกท้องช้างเหมือนสาย main แต่สามีเค้ารีบวิ่งมาดึงให้ตึง ช่างก็เลยต้องมาช่วยดึงด้วย)

พอพวกเค้าทำงานเสร็จ ก็จากไป ส่วนความคิดเราก็ยังพลุ่งพล่านในหัว เพราะนึกถึงแต่ภาพที่เมียเค้ามาโวยวายเสียงดังหน้าบ้าน …. แต่พอเรามองเห็นสายที่มันลอยเหนือชื่อร้าน เราก็นึกขอบคุณคนที่เป็นสามีทุกครั้ง เพราะเราเห็นแล้วว่าเค้าพยายามทำดีที่สุดแล้ว

ต่อมาเค้าก็มาลงเครื่องซักผ้าไว้หน้าบ้าน
ปัญหาก็เกิดอีกคือทีมช่างที่มาต่อท่อน้ำก็ห่วยอีก พันท่อน้ำทิ้งไม่สนิทอยู่เครื่องหนึ่ง ท่อน้ำหันมาทางหน้าบ้านเรา ถ้ามีคนมาซักผ้าตู้นั้น น้ำทิ้งก็จะนองหน้าบ้านเรา
ปัญหาอีกแล้วไม๊ล่ะ ... พอตอนลูกน้องเค้ามาเช็คเครื่อง เราก็จะบอกปัญหา แต่ดูเหมือนลูกน้องก็ทำเป็นไม่สนใจ เราบอกไป 2-3 ครั้ง ก็ทำเป็นเฉยๆ เรารับรู้ได้ทันทีเลยว่า คนเป็นเมียต้องสั่งมาว่า ถ้าเราบอกอะไร ไม่ต้องไปฟัง

เราก็ “ปี๊ด” ในหัวนะ

ทีนี้พอเห็นหน้าคนเป็นเมียทีไร เราก็จะหลบ เพราะเรานึกถึงพฤติกรรมของเค้า เราก็เกิดความโกรธ เกลียดชัง ความรู้สึกนี้เป็นแบบนี้ประมาณเกือบปี

ทุกครั้งที่เป็นแบบนี้ เราจะบอกตัวเองว่า เราไม่ชอบให้เป็นแบบนี้เลย แต่เราก็ไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อนนะ ทำไม ทำไม ทำไม เค้าต้องมาทำให้เราเกิดความรู้สึกทุกข์ใจแบบนี้ด้วย

และแล้ว เมื่อ 3 เดือนก่อน เมียเค้าก็พาลูกน้องมาทำความสะอาดตู้ซักผ้า ซึ่งบังเอิญเป็นช่วงที่เรากำลังเดินออกไปรดน้ำต้นไม้พอดี พอเราเห็นเค้าปุ๊บ

ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นทันที คือ เราเดินหลบจะเข้าบ้าน ความคิด “ไม่อยากเห็นหน้า” เกิดขึ้นมาในหัวทันที เอาล่ะสิ มันกลายเป็นนิสัยไปแล้วเหรอ เราบอกตัวเองว่าทำแบบนี้ไม่ได้ อยู่บ้านติดกัน เราจะต้องหลบหน้าไปตลอดชีวิตเหรอ

แล้วเราหันหลังกลับ เดินออกไปรดน้ำต้นไม้อีกที พอเห็นเค้า…..

“พี่คะ ช่วยดูเครื่องซักผ้าตัวนี้ให้หน่อยนะคะ รู้สึกว่าท่อน้ำมันรั่ว เวลามีคนมาซักผ้า น้ำมันจะนองออกมา”

โอ้ ประโยคแรกที่เราคุยกับเค้าในรอบเกือบปี มันออกจากปากเราไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่านี่เราต้องไปขอร้องเค้าเหรอเนี่ย

“ค่ะ ค่ะ … นี่ๆ เดี๋ยวดูเครื่องนี้ให้พี่เค้าด้วยนะ” เมียเค้าบอกเรา แล้วก็หันไปสั่งลูกน้องเค้าทันที

พอนึกถึงประโยคนี้ทีไร ความชัง ความโมโห ที่เก็บมาเกือบปีในตัวเรามันก็หายไป และเราก็แอบสังเกตเห็นว่า ลูกน้องของเค้าก็ยิ้มๆด้วย มันนำให้เราคิดขึ้นมาทันทีว่า ขนาดลูกน้องเค้าก็ยังสัมผัสได้ถึงความขัดแย้งของเรากับเจ้านายเค้าเหรอเนี่ย

ตอนนี้บรรยากาศมาคุมันหมดไปแล้ว (smile)

และถ้าพิจารณาให้เห็นจริง ตัวต้นเรื่องที่ทำให้เราต้องเคืองเพื่อนบ้าน คือ "พนักงาน True" ซึ่งเป็นตัวเปิดประเด็นแล้วก็เดินจากไป ปล่อยให้คู่กรณีต้องคิดกันเองว่าจัดการอย่างไร

หึ หึ สรุปก็ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอม "ลดทิฐิ" เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีขึ้น

เจ้า "ทิฐิ" นี่ร้ายจริงๆนะ

 

ตัว "ทิฐิ" ร้ายจริงอย่างว่าครับ ไม่มีใครได้ดีเพราะทิฐิมีแต่จะเสียหาย เสียเวลา เสียโอกาสได้พบเจอเรื่องดีดีอีกมากมาย ขอบคุณพี่เอมอย่างมากครับที่นำเรื่องเล่าที่มีข้อคิดดีดีมาเผยแพร่เพื่อเตือนสติลูกหลานคุณแม่ฯให้อยู่ในภาวะรู้ตลอด

 

กราบคุณแม่บุญเรือนด้วยความเคารพครับ
สวัสดีพี่เชษฐ์ พี่น้ งทุกท่านครับ
ขอให้สุข สมหวังทุกท่านครับ