อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ปู ท่าพระ, 26 ธันวาคม 2013.

  1. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,125

    สวัสดีครับ...ได้เจอกันที่เหนือแน่นอนครับ...
     
  2. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,125

    ขอบคุณภาพสวยๆครับน้องนาย...:cool::cool:
     
  3. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,483
    ค่าพลัง:
    +53,107
    [​IMG][​IMG]
     
  4. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,483
    ค่าพลัง:
    +53,107
    [​IMG] [​IMG]
     
  5. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,125


    ลงทองแล้วก็ดูสวยครับคุณเอ็ม...

    [​IMG]
    [​IMG]

     
  6. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866
    สวัสดีครับทุกๆท่าน มาแล้วครับ เลิกงานดึกครับวันนี้
     
  7. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866
    หลวงปู่มหาโส กัสสโป วัดป่าคำแคนเหนือ จ.ขอนแก่น



    [​IMG]

    [​IMG]
     
  8. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866
    หลวงปู่มหาโส กัสสโป วัดป่าคำแคนเหนือ จ.ขอนแก่น


    [​IMG]

    [​IMG]

     
  9. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  10. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866
    พระเดชพระคุณพระเทพสุทธาจารย์หลวงพ่อโชติ คุณสมฺปนฺโน วัดวชิราลงกรณวรารามวรวิหาร อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา(ปี 2506 )


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    หลวงพ่อโชติ เกิดเมื่อ พ.ศ.๒๔๐๘ หรือเมื่อ ๑๑๑ ปีมาแล้ว นามเดิมชื่อ “เล็ง” นามสกุล “เมืองไทย” เกิดที่บ้านกระทม ตำบลนาบัว อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ห่างไปทางทิศใต้ของตัวจังหวัดประมาณ ๑๕ กม. (ในสมัยนั้นการเดินทางไปยังตัวจังหวัดต้องใช้การเดินเท้า และในป่าก็มีเสือ และช้างชุกชุมมาก) มีพี่น้องร่วมท้องมารดา ๒ คน คนน้องเป็นหญิงชื่อ นางเหรียญ ส่วนนายเล็ง เป็นพี่ชาย

    เมื่อนายเล็งอายุ ๑๖ ปี บิดามารดาได้พาไปฝากให้บวชเรียนกับหลวงพ่อฉิม ที่วัดนาแห้ว ระหว่างที่บวชเรียนได้ศึกษาหนังสือขอม และท่องพระไตรปิฎกขอมกัมพุชพากย์จนมีความรู้แตกฉาน เนื่องจากพระภิกษุสงฆ์ในสมัยนั้นถือเคร่งมาก ท่านบวชเรียนอยู่เป็นเวลา ๑๐ ปี จึงได้ลาสิกขาไปครองเรือนอีก ๒๐ ปี มีบุตร ๓ คน

    ในปี พ.ศ.๒๔๕๑ ซึ่งตรงกับปีวอก นายเล็งอายุได้ ๔๕ ปี เกิดอาการป่วยหนักจนเสียชีวิตลง และได้เกิดใหม่กับนางเหรียญซึ่งเป็นน้องสาวของตนเอง มีชื่อว่า “โชติ” ตลอดเวลาที่เป็นเด็กชายโชติอยู่นั้น เด็กชายโชติยังมีความรู้สึกว่าเป็นพี่ชายของนางเหรียญอยู่ตลอดเวลา ยังจดจำความเดิมได้หมดทั้งสิ้น แม้กระทั่งการบวชเรียนกับหลวงน้าฉิม ที่วัดนาแห้ว

    ดังนั้น เด็กชายโชติจึงไม่ยอมเรียกนางเหรียญว่าเป็น “แม่” เพราะมีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นนายเล็ง คือ พี่ชายของนางเหรียญอยู่ตลอดเวลา

    เมื่อเด็กชายโชติไม่ยอมเรียกนางเหรียญว่าเป็น “แม่” จึงถูกลงโทษต่างๆ นานา ในที่สุดเด็กชายโชติต้องจำยอมรับสภาวะอันนั้นเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง

    พ.ศ.๒๔๖๗ เด็กชายโชติ อายุ ๑๖ ปี มารดาจึงได้นำไปฝากให้บวชเรียนกับพระอาจารย์ดุลย์ อตุโล พระอาจารย์ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐาน (ปัจจุบันเป็นเจ้าคุณรัตนากรวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายธรรมยุต) หลังจากนั้น สามเณรโชติก็มีความรู้แตกฉานในพระไตรปิฎก สามารถอ่านและจำความรู้ต่างๆ ในหนังสือขอมกัมพุชพากย์โดยไม่ต้องเรียน เพราะได้เคยเรียนมาแล้วเมื่อชาติก่อน

    พ.ศ.๒๔๗๑ ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุโชติ คุณสมฺปนฺโน ระหว่างที่บวชเรียนได้เจริญวิปัสสนากรรมฐานมาโดยตลอดมิได้ขาด และนิยมในทางศัลเลขปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานไปในที่ต่างๆ ทั้งในเขตลาว เขมร และพม่า ตลอดจนเพื่อศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจากพระอาจารย์ต่างๆ ในทางที่จะให้อาสวะกิเลสหมดสิ้น เพื่อจะได้ไม่เกิดอีก หลังจากที่ท่านได้พบ พระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล พระอาจารย์ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐาน (พระอาจารย์ของพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต) ที่วัดเลียบ จังหวัดอุบลราชธานี แล้วท่านก็ได้แนวทางการปฏิบัติที่ตรงมรรค ตรงผล และเจริญรอยตามพระอาจารย์เสาร์ จนกระทั่งมรณภาพ

    หลวงพ่อโชติ ท่านถือหลักปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอน ของพระพุทธเจ้าอย่างเคร่งครัด ท่านจะสนองศรัทธาต่อผู้มีจิตศรัทธาและเมตตากรุณาต่อคนทุกชั้นวรรณะทัดเทียมกัน ท่านผ่านการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานมามากต่อมาก ทั้งในชาติก่อนและในชาตินี้

    ท่านเป็นพระที่ถือเคร่งจากแบบเก่าแต่อนุโลมตามสมัยใหม่ เรื่องการฉันอาหารมื้อเดียวและเทคลุกรวมอยู่ในบาตทั้งของคาวหวานนั้น ท่านได้เคยปฏิบัติมาแล้ว ต่อมาท่านจึงไม่ค่อยถือ คือจะฉันอย่างไรก็ได้แล้วแต่ศรัทธาของญาติโยม ข้อสำคัญก็คือ ญาติโยมที่ฟังพระสวด อันเป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้านั้น ควรจะเข้าใจในคำสอนด้วย ไม่ใช่สักว่าแต่ท่องบ่นโดยไม่ทราบความหมาย ดังนั้น วิธีการเทศน์และการสวดมนต์ของท่านจึงมีลักษณะที่แปลกกว่าพระอื่นๆ

    คือเวลาท่านว่าคาถาบาลีแลสันสกฤตเสร็จ ท่านก็แปลเป็นภาษาไทยให้ญาติโยมเข้าใจเป็นประโยค ๆไปเสียเลยทีเดียว ถ้าญาติโยมเป็นคนทางเหนือท่านก็แปลเป็นภาษาเหนือ ถ้าเป็นลาวก็แปลเป็นภาษาลาว เป็นเขมรก็แปลเป็นภาษาเขมร ที่แปลกยิ่งกว่านั้นก็คือ ถ้ามีทั้งคนลาวและเขมร บางทีก็แปลทั้งสองภาษาเลยทีเดียว สำหรับการสวดแปลเป็นภาษาพม่าและภาษาจีน ทราบว่าท่านก็สามารถทำได้ แต่โอกาสที่จะสวดแปลมีน้อย เราจึงไม่ค่อยได้เห็นท่านแปลเป็นภาษาพม่าและภาษาจีน

    สำหรับการทำวัตต์ของท่าน มีทั้งวัตตเช้าและวัตต์เย็น ในตอนเย็นส่วนมากท่านจะวิปัสสนาองค์เดียวอยู่จรถึงดีสามทุกคืน พอประมาณตีสี่ท่านก็ตื่น ท่านจึงมีเวลาพักผ่อนน้อยมาก เวลาที่ท่านสวดมนต์นั้น เสียงที่ท่านสวดดังกังวานและไพเราะจับใจยิ่งนัก ญาติโยมที่มีบ้านอยู่ใกล้วัดท่าน พอได้ยินเสียงพระในวัดท่านสวดมนต์ครั้งใด ก็มักจะรีบตื่นเช้าเข้าร่วมทำวัตต์ด้วยทุกครั้งไป

    ผู้เขียนจำได้แม่นยำว่า ครั้งหนึ่งตอนที่มีการประชุมใหญ่ เจ้าคณะจังหวัดทุกจังหวัดที่วัดบวรราชาฯ เมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว พอทราบว่าหลวงพ่อโชติมาร่วมประชุมด้วย จึงตื่นแต่เช้ารับทำอาหารปิ่นโตไปถวายท่าน ได้เดินหาท่านตามกุฏิที่พระอาจารย์ชื่อดังซึ่งมาจากจังหวัดต่างๆพักอยู่ก็ไม่พบ ในที่สุดก็ได้พบอาจารย์ลี จึงเรียนถามท่านว่า “ หลวงพ่อโชติท่านพักอยู่ที่ไหนครับ”

    อาจารย์ลีพูดบอกและชี้ไปที่โบสถ์ จึงลงจากกุฏิของอาจารย์ลีไปหาหลวงพ่อที่หน้าโบสถ์ พอเข้าไปที่หน้าโบสถ์เท่านั้น ก็รู้สึกเหม็นคลุ้งแทบจะอาเจียน เพราะบริเวณนั้นเป็นที่ทิ้งขยะและมีกองอาจมสุนัขเต็มไปหมด แล้วก็เหลือบเห็นกลดและกาน้ำร้อนของหลวงพ่อวางอยู่จึงจำได้ แต่ปรากฏว่าคนแถวนั้นบอกว่า หลวงพ่อได้ออกไปบิณฑบาตแต่เช้าแล้ว

    ภาพในวันนั้น ทำให้เกิดความประทับใจอย่างจริงใจว่าหลวงพ่อโชติท่านเป็นพระภิกษุสงฆ์ที่ถือสันโดษ และเคร่งครัดในพระธรรมวินัยอย่างเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ

    ทุกครั้งที่เคยทำบุญและถวาอาหารหลวงพ่อ หลวงพ่อก็มิเคยจะบอกว่าสิ่งนั้นดีสิ่งนี้ชอบหรือไม่ชอบ เหมือนอย่างพระภิกษุรูปอื่นๆบางรูปที่เคยเห็นมา แต่หลวงพ่อ “ฉันอาหารโดยไม่รู้รสว่าอร่อยหรือไม่อร่อย” ทั้งนี้ก็เพราะว่า ถ้าหากรู้รสว่าอร่อยหรือไม่อร่อยแล้ ก็ย่อมจะนำมาให้เกิดกิเลสในการบำเพ็ญวิปัสสนาของท่านได้ การฉันอาหารของท่านเพียงเพื่อยังชีวิตปฏิบัติธรรมเท่านั้น

    ก่อนเมื่อหลวงพ่อจะมรณภาพลง เมื่อ วันที่ 24 มีนาคม 2517 ที่โรงพยาบาลศิริราชนั้น ท่านอาพาธด้วยโรคดีซ่าน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ได้ทรงรับไว้เป็นคนไข้ในพระองค์ และทรงให้คนมาปฏิบัติดูแลอย่างใกล้ชิด ระหว่างอยู่ที่โรงพยาบาลทานไม่เคยบอกว่า ท่านอาพาธเลย ทานบอกว่าท่านสบายดีตลอดเวลา ตรงกันข้ามท่านกลับและนางพยาบาลเหล่านั้น ซาบซึ้งในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอีกด้วย นอก จากนั้นท่านยังประกอบพิธีอุทิศส่วนกุศลถวายแด่สมเด็จพระราชบิดา ซึ่งทรงริเมื่อริเริ่มสร้างโรงพยาบาลแห่งนั้นอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยอีกด้วย

    เมื่อนายแพทย์ได้อาราธนของอนุญาตท่านฉีดยาสลบ เพื่อจะทำการผ่าตัดที่ท้องของท่านตามหลักวิชาการของแพทย์ ปรากฏว่า ท่านยังมีสติสัมปชัญญะและรู้ตัวตลอดเวลา ด้วยการถอดวิญญาณออกจากร่าง เมื่อนายแพทย์ทำการผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยและพอร่างกายท่านฟื้นขึ้นมา ท่านได้เล่าให้บรรดาหมอที่ร่วมในการผ่าตัดครั้งนั้นฟังว่า ท่านได้เห็นและได้ยินการพูดคุยของหมอทุกอย่างว่าหมอได้ผ่าตัดเอาอะไรออกมาใสอะไรเข้าไปและได้พูดคุยกันว่าอย่างไร จนทำให้บรรดานายแพทย์ที่โรงพยาบาลศิริราชต่างพา กันแปลกใจในเหตุการณ์ซึ่งไม่เคยพบเห็นมาก่อนเช่นนี้ในชีวิต เลยต้องพากันมากราบที่แทบเท้าของท่านด้วยความเลื่อมใส

    แม้ว่าทานจะเพิ่งได้รับกาผ่าตัดและเย็บแผลเสร็จเรียบร้อยใหม่ๆ ท่านก็มิได้พักผ่อนเพราะท่านถือว่าท่านมิได้เป็นอะไร เมื่อมีญาติโยมมานิมนต์ท่านไปไหนทานไปทั้งนั้น แม้แต่การเปิดป้ายเจริมร้านค้าท่านก็ไปทั้งนี้เพราะท่านต้องการโปรดสัตว์ในวาระสุดท้ายของชีวิตทาน

    เวลากลางคืนทานก็ไม่ค่อยจะได้จำวัดเมื่อนางพยาบาลได้ขอร้องให้ทานนอนพักผ่อนบ้าง ท่านท่านจะบอกว่า”นั่งอย่างนี้ดีเหลือเกิน ดีกว่านอนเสียอีก”

    เมื่อท่านทราบว่า สังขารของทานจะอยู่เมตตาโปรดญาติโยมผู้มีพระคุณต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ท่านจึงขอนุญาติโรงพยาบาลออกไปเยี่ยมเยียนญาติโยมในกรุงเทพฯเพื่อนโปรดสัตว์เป็นครั้งสุดท้ายอยางถ้วนหน้ากัน

    ญาติโยมคนหนึ่งเล่าให้ฟัว่า ตอนที่นิมนต์หลวงพ่อมา ฉันเพลที่บ้านเชิงสะพานกรุงธนนั้น ท่านบอกว่า”อาตมาออกจากโรงพยาบาลครั้งนี้ เห็นจะต้องกลับไปเป็นเจ้าอาวาสจริงๆเสียที” และเมื่อสังเกตดูร่างกายของท่าน เห็นซีดผอมเหลืองไปหมดเหมือนกับท่านได้มรณภาพไปนานแล้ว ที่อยู่ได้เพราะพลังวิญญาณของท่านเท่านั้น

    แม้ว่าท่านจะบอกเป็นปริศนาว่า ท่านจะปลงสังขารแล้ว ญาติโยมก็มิได้คิดเฉลียวใจในเรื่องนี้ ได้แต่คิดแปลกใจว่า ทำไมท่านจึงบอกเช่นนั้น หรือว่าทีแล้วๆ มานั้นท่านมิได้เป็น เจ้าอาวาสวัดวชิราลงกรณฯ ดอกหรือ ต่อมาเมื่อทราบข่าววาท่านมรณภาพแล้ว จึงรู้สึกขนลุกซู่ไปตาม ๆกันเพราะการไปอยู่วัดจริงๆ ของทานนั้น ก็คือการมรณภาพ แล้วเอาศพไปทำบุญที่วัดนั่นเอง

    ญาติคนหนึ่งที่มาเยี่ยมท่าน เล่าให้ฟังว่า ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ แม้ว่าท่านจะนั่งหลับตาในห้องพักที่โรงพยาบาลท่านก็อยู่ในสมาธิตลอดเวลา เมื่อญาติโยมคนใดเข้ามาเยี่ยม เพียงแต่โผล่ประตูเข้ามาเท่านั้น ดูท่านทราบและรู้ไปหมดว่าเป็นใครมาจากไหน ทั้งๆ ที่ท่านนั่งหลับตาอยู่

    สำหรับอาหารที่ท่านฉันที่โรงพยาบาลนั้น แม้ว่าจะมีการจัดอาการอย่างดีไปถวายท่าน แต่ท่านกลับให้เณรที่คอยปรนนิบัติท่านออกไปบิณฑบาตทุกเช้า แล้วแบ่งอาหารที่บิณฑบาตมาได้นั้นเอามาฉันอีกทีหนึ่งทั้งนี้ก็เนื่องจากท่านต้องการที่โปรดญาติโยมและปฏิบัติตามวินัยของสงฆ์ จนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต

    watvajira.com/index.php?option=com_content&view=article&id=2&Itemid=3
     
  11. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866
    นอนก่อนล่ะครับวันนี้ ตีหนึ่งกว่าๆอีกแล้วครับ
     
  12. sellcat

    sellcat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +6,706
    ลพ.เพี้ยน ผมมีหลงมาอยู่องค์นึง
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  13. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    พระปิดตาวันนี้

    [​IMG]


    [​IMG]
     
  14. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448

    ;aa44 สวัสดีและราตรีสวัสดิ์ครับคุณกันต์ [​IMG] ----> [​IMG]
     
  15. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    เดี๋ยวตลับแบบนี้ไม่ค่อยได้พบเห็นอีกเลย
     
  16. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    สวัสดี คุณเอ็ม เงียบไปตั้ง 2-3 วัน ไปแอ๋วที่ใดมา
     
  17. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    เห็นรูป ลพ. ที่ถ่ายร่วมกับท่านสุเมโธ(พระฝรั่ง ลูกศิษย์ลป.ชา) ใช่ที่ อังกฤษหรือเปล่าครับ
     
  18. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    น้อมกราบนมัสการ ครูบาอาจารย์ทุกๆรูปครับ
    รูปที่ 3 ที่มีท่านสุเมโธ(พระฝรั่งลูกศิษย์ลป.ชา)ร่วมด้วย น่าจะเป็นภาพถ่ายที่ประเทศอังกฤษ ใช่เปล่าครับ คุณวรรณ
     
  19. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    โอ้โห..ผมละอิจฉาตาร้อน สุดๆเลย ครับคุณกันต์
     
  20. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    สวัสดีครับคุณเอ๊ะ ช่วงนี้อาจจะพักผ่อนไม่เต็มที่ เนื่องจากการเดินทางบ่อยๆ พักผ่อนให้มากๆนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...