ซูกระแท้ว....แซวกระทู้....

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย raming2555, 14 เมษายน 2014.

  1. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    ติงก็ชอบดูหมอ...เอ๊ะ! ไม่ใช่สิ ชอบให้หมอดู...
    เฮ้ย! ไม่ใช่อีกแหละ ใช้คำอย่างไรดีนะ ๕๕๕
    ติงเคยทำท่าเป็นหมอดูที่เว็บพลังจิตนะคะ มีเพื่อนที่แปรสภาพเป็นบ่างมายุให้ดู...โดยผ่านรูปแทนตัว
    งานเข้าละสิคะพี่ระมิงค์
    ก็ติงมั่วล้วนๆ...
    มีสมาชิกมาให้ความเชื่อถือให้ดูให้ บอกว่าติงดูแม่นยังกะตาเห็น
    (ก็แน่ละสิ ตามองเห็นจริงๆนี่นา)
    โชคดี ติงมีเพื่อเป็นท่านซินแสมาช่วยเอาไว้ ไม่งั้นติงซี้แหง แบนคาเว็บพลังจิตไปแล้วค่ะ ไม่เหมือนพี่ระมิงค์ที่เก่ง แบนแล้วก็ยังโพสต์ได้:cool::cool::cool:
     
  2. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    ที่จริงสมัยเด็กๆเนี่ย...ผมเรียนวิชาโหราศาสตร์เอาไว้ ก็มีจุดประสงค์แอบแฝงเหมือนกันนะ..
    คงเพราะหน้าตาผมไม่ได้น่ารักน่าชังเหมือนคนอื่นๆเขา หน้าตาก็ออกไปแนวทางลูกหลานท่านกวนอูครับ จึงได้ชื่อว่ากวนโอ๊ย...
    ผมสังเกตว่า ถ้าใครรู้วิชาโหราศาสตร์แล้ว เวลาเข้าพวกเข้าหมู่ จะเข้ากับคนได้ง่าย เพราะมีคนสนใจมาก พอบอกว่าดูหมอเป็นเท่านั้นแหละ สักเดี๋ยวเดียวก็จะมีหมู่มิตรรายล้อมมากมาย....อันนี้จึงเป็นวัตถุประสงค์หลัก ที่จะศึกษาเอาไว้ สำหรับสร้างมนุษยสัมพันธ์...

    แต่เวลาดูดวงไม่ค่อยมีใครบอกวันเดือนปีเกิด เพราะกลัวว่าผมจะเอาไปทำเสน่ห์ ทั้งๆที่หน้าตาอย่างผมไม่ต้องใช้วิชาทำเสน่ห์ก็ได้นะ ใช้ไปเท่าไรก็ไม่ให้ผล มันเกินเยียวยาซะแล้ว...ว่าจะเก็บตังค์ไปศัลยกรรมที่เกาหลี ไปเจอหมอเข้า หมอส่ายหน้า แล้วแนะนำให้ไปเกิดใหม่เถอะ...แหมๆๆๆ...พูดซะเรางี้ คันตามฝ่ามือฝ่าเท้าขึ้นมาทันที...

    พอมาเรียนเรื่องโหงวเฮ้ง ฮวงจุ้ย ตี่ลี่ โป๊ยยี่สี่เถียว ออกฤกษ์ ฯลฯ
    มันก็ง่ายหน่อยตรงที่ พอดูหน้า ดูกริยาท่าทางประกอบแล้วทายได้เลยว่าคนนี้เป็นคนอย่างไร แต่ก็เลือกทายแต่เรื่องดีๆเขานะ หรือว่าเรื่องกลางๆ เรื่องไม่ดีแบบเล็กๆน้อยๆก็พอทายได้ แต่ไม่ทายแรง เพราะเกรงว่าคนทายจะชะตาขาดซะเอง...

    ผลก็คือ ได้เพื่อนฝูงมากขึ้น มีเรื่องเสวนาบ้าบอคอแตกมากขึ้น มันก็สนุกดีนะ จะว่าไม่เหงาก็ได้ แต่จริงๆแล้วผมไม่รู้หรอกว่าเหงามันหน้าตาเป็นยังไง เพราะชอบอยู่คนเดียวมากกว่า เพียงแต่มนุษย์เป็นสัตว์สังคม เวลาออกสังคมก็ต้องมีเรื่องเฮฮาให้ได้คุยกัน สนุกสนาน ดังนั้น วิชาโหราศาสตร์ มีติดตัวเอาไว้ก็ได้ใช้แบบนี้นี่เอง....
     
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    *******************************************
    เรื่องดูลายมือนี่มีเสน่ห์จริงๆ เพื่อนๆชอบเข้าคิวกันให้ดูเลย ดูได้ไม่กี่เส้นหรอก โม้เสียส่วนใหญ่ (deejai)
     
  4. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    ตอนเรียนดูลายมือ อาจารย์จะสอนให้ดูรูปมือก่อน เพราะรูปมือสำคัญกว่าเนิน เนินสำคัญกว่าเส้น เพราะถ้ารูปมือเสีย เนินดีก็ทายเสีย ถ้าเนินเสีย เส้นดี ก็ทายเสีย...

    เวลาเรียนผมก็ชอบไปซักอาจารย์ กะว่าถ้ามั่วเมื่อไรก็โดนผมซักจนมุมเมื่อนั้นแหละ แต่อาจารย์แกก็ตอบได้หมดเหมือนกัน จนผมพอจะสรุปได้ว่า ลายมือก็คงเหมือนภาษาอีกภาษาหนึ่ง ถ้าเราอ่านออกเราก็จะรู้ว่ามันเขียนไว้ว่ายังไง และโหราศาสตร์ก็อ้างอิงจากหลักสถิติ และความน่าจะเป็น จึงมีโอกาสผิดได้บ้างเหมือนกัน

    ผมเคยลองเอาไปใช้กับแขก แม้ว่าจะขยับเวลาตามตำแหน่งเส้นรุ้งเส้นแวงแล้วก็ตาม ไม่ว่าลายมือ หรือโหวงเฮ้ง ต่างก็ใช้กับคนเหล่านั้นไม่ได้ครับ...
    เท่าที่ดูแล้วใกล้เคียงก็คงมีเฉพาะคนเอเซียด้วยกันนี่เอง...
     
  5. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    แกล้งบ้า...

    หลายคนก็เคยเจอพวกที่ทำตัวบ้าๆบอๆ หลังจากที่ผ่านการฝึกกรรมฐานมาอย่างยาวนาน บ้างก็ทำตัวเพี้ยนๆบ้าง เฮฮาบ้าง ดูไม่น่าเชื่อถือ แม้แต่พระสงฆ์หลายๆรูปก็ทำตัวแปลกๆ ต่อเมื่อมรณะภาพไปแล้วกระดูกกลายเป็นพระธาตุขึ้นมา เมื่อนั้นจึงได้รู้ แล้วก็มาเสียดาย แต่บางคนก็บอกว่าจะไปรู้ได้ยังไง ก็เห็นตอนมีชีวิตอยู่ก็ทำตัวบ้าๆบอๆ ไม่รู้ว่าจะรู้ธรรมเห็นธรรมอะไร...

    เหตุที่ต้องทำตัวบ้าๆบอๆอยู่ในสังคม ก็เพราะว่า ถ้าพูดเรื่องธรรมะขั้นสูงออกไปแล้ว คนส่วนมากไม่เข้าใจ ไปว่าท่านเหล่านี้เข้า จะลงอเวจีมหานรกอย่างเดียว ลำพังเรื่องที่ท่านเหล่านี้จะเดือดร้อนเพราะคำด่าของปุถุชนทั้งหลายนั้น ไม่มีแล้ว กว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ ท่านเหล่านี้ผ่านโลกธรรม 8 ประการไปนานแล้ว ท่านไม่เดือดร้อนด้วย...

    แต่ที่ต้องทำตัวบ้าๆบอๆ ก็เพื่อไม่ให้ชาวบ้านมาถามธรรมะ แล้วปรามาสธรรมะขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องธรรมะ ไม่ใช่เรื่องของพระอริยะสงฆ์ โทษมันก็มีน้อย ท่านเหล่านี้จึงทำตัวบ้าๆบอๆ เพื่อป้องกันชาวบ้านที่ไร้เดียงสาจำนวนมาก ไม่ให้ตกอเวจีมหานรก เท่านั้นเอง นี่จริงๆเป็นความเมตตาของท่านเหล่านี้...

    ดังนั้นทางที่ดี ถ้ายังไม่รู้อะไรมากนัก ก็อย่าเสี่ยงไปด่าคนอื่นเขาเลยจะดีกว่า เพราะด่าไปก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมา ไม่ได้ทำให้ตัวเราเองดีขึ้น แถมเวลาจะด่าใครเรายังต้องคิดคำพูดร้ายๆ คำพูดชั่วร้ายทั้งหลายขึ้นมาในจิตใจของเราก่อน ก่อนจะเปล่งวาจาออกไป ความคิดร้ายๆ เหล่านี้เอง เป็นเหมือนอสรพิษที่จะคอยขบกัดดวงจิตดวงใจของเรา ให้พินาศย่อยยับลงไป ฉะนั้นแล้ว ถ้าจะด่าใครเขา เปลี่ยนเป็นมาสวดมนต์ภาวนาอยู่ในใจเราจะดีกว่า...
     
  6. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    เชอะ..หมั่นไส้ ทำพูดดีนัก

    ======
    เคยพบเจอเรื่องพระธุดงค์ประหลาด..นอนพักรอนแรมข้างทางหลวง
    ชอบเอาขี้มาทาหัว ทาตัว ทาจีวรออกบินฑบาตร จนโยมเหม็นแตกกระจาย

    แถบๆ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี เมื่อหลายสิบปีก่อนหรือเปล่า???
    นั่นหน่ะสาย..หลวงปู่ใหญ่

    เคยพิมชื่อลงไว้..แล้วมีเหตุให้อันตธานหายไป
    ..สรุปว่า..ห้ามบอกชื่อ!!!

    ทางใครทางมัน..

    ติงเนง..ติ๊เนง เต่งๆ เต๊งเหน่ง..ๆๆๆ
     
  7. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    "ดังนั้นทางที่ดี ถ้ายังไม่รู้อะไรมากนัก ก็อย่าเสี่ยงไปด่าคนอื่นเขาเลยจะดีกว่า เพราะด่าไปก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมา ไม่ได้ทำให้ตัวเราเองดีขึ้น แถมเวลาจะด่าใครเรายังต้องคิดคำพูดร้ายๆ คำพูดชั่วร้ายทั้งหลายขึ้นมาในจิตใจของเราก่อน ก่อนจะเปล่งวาจาออกไป ความคิดร้ายๆ เหล่านี้เอง เป็นเหมือนอสรพิษที่จะคอยขบกัดดวงจิตดวงใจของเรา ให้พินาศย่อยยับลงไป ฉะนั้นแล้ว ถ้าจะด่าใครเขา เปลี่ยนเป็นมาสวดมนต์ภาวนาอยู่ในใจเราจะดีกว่า..."

    ขอบพระคุณในคำสอนของพี่ค่ะ
     
  8. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    ตาคนนี้ก็อีกคนแหละครับ ตัวอย่างของพวกแกล้งบ้า...
    บ้าจริงๆเมื่อไรก็เข้าป่าไปนะครับ...ไม่งั้นจะมีชาวบ้านลงนรกกันอีกเยอะ...
    ไม่ได้บอกว่าไปพาเขาลงหรอกนะครับ แต่ชาวบ้านเขาอาศัยเป็นสะพานลงกันไปเอง...

    ว่าแต่ตอนนี้ ครูติง จะว่าก็ยังว่าได้อยู่นะ แกยังตะเลงเตงๆ อยู่ครับ...
    รีบๆจัดไป อย่าให้เสียโอกาส...อ้อ..แม่ต้อยร่วมด้วยก็ได้ครับ ..ช่วยกันรุม..อิอิ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    ไม่ทราบว่าหลวงปู่รูปนี้จะเข้าข่ายแบบที่ท่านโตว่าไว้หรือเปล่านะคะ
    มีคนบอกว่าพบท่านได้ยากมาก
    แต่วันที่ติงไปท่านเมตตาจริงๆ อธิษฐานวัตถุมงคลให้เป็นพิเศษ
    และพบท่านได้ง่ายๆค่ะ
    โยมวัดที่อายุ ๖๐ กว่าปี บอกว่ารูปกายท่านเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เขายังเด็ก
    ใครมาถามว่าท่านอายุเท่าไร
    ท่านก็บอกว่าอายุ ๓๘ ปีอยู่อย่างนั้นค่ะ
    (สุนัขในวัดของท่านก็ห้อยตะกรุดที่คอด้วยค่ะ ^-^)

    ในรูปเป็นกุฏิของท่านค่ะ มีทางเดินเล็กๆเข้าไปในห้อง...
    พี่สาวบอกว่าท่านไม่สรงน้ำ แต่ผิวกายท่านสะอาดนะคะ ผ่องใส ไม่มีกลิ่นสาบสางแบบเราๆท่านๆ ที่ไม่อาบน้ำ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2014
  10. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ทำไม...๓และ ๘ หรือชะรอย..ท่านกำลังสอนคุณธรรมบางอย่างอยู่รึไม่??
    ถ้าเลข หมายถึง..ไตรสรณะ,ไตรลักษณ์ (อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา).. ฯลฯ
    ถ้าเลข หมายถึง...มรรคมีองค์... แปด, อริยะบุคคลทั้ง 8 เหล่า( 4 จำพวก), และโลกธรรม 8 ให้เกิดสุข ทุกข์ ก่อเป็นวงจรโมหะวัฏฎะสงสารอยู่ร่ำไป

    สิ่งเหล่านี้หาได้พ้นไปจากกฏความเป็นจริง..
    ที่ยังคงเที่ยงแท้..คงคู่สัตว์โลกนี้...ตราบนานแสนนาน

    ม่ะ..ลองมาฟอร์มนี้..ก็ช่างดูดี มีบุคลิกเท่จริงๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2014
  11. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    ***************************************
    ขอปรบมือให้ท่านอาจารย์ที่คิดไปในทางธรรมค่ะ :VOถ้าเป็นคนอื่นคงไปซื้อเลข๓๘กันแล้ว แม้กระั่ทั่งหลวงพ่อบางองค์คนก็แอบตามท่านเวลาเข้าส้วม แล้วมาตีความหมาย"แปด แปด" เออ ได้ข่าวว่าถูกกันเป็นแถวเลย
     
  12. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ป้ายยาม่วง..เข้าให้เลย

    ไม่มีอะไรครับ..แค่หมั่นไส้ ไม่มีที่มา
    อยากทำแบบนี้แหละ..ก็แค่ ไม่แคร์สังคม
     
  13. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    นั่นแน่ นักป้ายยาม่วงมาเสนอตัวแล้ว เคยโดนมาเหมือนกันแต่ปรากฎว่าเป็นคนชอบสีม่วง เหอๆๆ น้องแตน น้องลม น้องภิศรณ์มาเร็วๆค่ะ เอ จะมาช่วยข้างไหนเนี่ย
     
  14. ภิศรณ์

    ภิศรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2012
    โพสต์:
    278
    ค่าพลัง:
    +1,495
    คริ คริ :d แล้วข้างไหนเป็นมุมแดง มุมน้ำเงิน หล่ะคะ เดี๋ยวเราไปจับจองที่นั่งกันก่อนนะคะพี่ต้อย ดีไหมคะ
     
  15. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    เมื่อวาน มีเพื่อนโทรมาบอกว่า วันอาทิตย์จะไปเบิกเนตร พระนอนตาหวาน อยู่เกือบๆถึงโคราช โดยมีพระคุณเจ้าระดับสมเด็จ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ด้วยเพราะเธอผู้นี้นิมนต์ท่านไป ทำให้พระอาจารย์เจ้าของสำนักสงฆ์ เกิดปีติเป็นอันมาก พระเจ้าคณะต่างๆ พากันอยากจะไปร่วมงาน จนมีปัญหาว่าจัดที่นั่งให้ไม่ทัน จากทีแรกหลักสิบรูป ตอนนี้ 500 รูปซะแล้ว...

    บนแผ่นดินถิ่นขอมเก่า ที่เคยรบราฆ่าฟันกันมาเมื่อ1200-1300ปีก่อน มาวันนี้ไม่อยากเล่าต่อ ด้วยกงกำกงเกวียน น่าเวียนหัวและปวดใจ เมื่อไรจะยุติความอาฆาต พยาบาท จองเวรกันเสียที...

    เรื่องการสร้างพระพุทธรูปนั้น ผมก็ขอโมทนาบุญด้วย เป็นการสร้างเพื่อเป็นพุทธบูชา เพื่อเจริญศรัทธาของเหล่าพุทธศาสนิกชน...
    หลายท่านที่ผมเคยได้ยินได้ฟังมา โดยมากจะบอกให้ช่วยพากันสร้างพระในใจคน มีประโยชน์กว่า และมีความสำคัญกว่า...อันนี้ผมก็เห็นชอบด้วย...

    ผมเองก็คิดอยู่ตลอดมาว่า ด้วยวิชาความรู้ ทั้งทางโลก และ ทางธรรม ประสบการณ์จากการฟันฝ่าอุปสรรคทั้งหลายนานา เราจะมีทางไหนบ้าง ที่จะช่วยสร้างพระในใจคน...ไม่ใช่สักแต่พูดเพื่อให้ตัวเองดูดี

    เรื่องการเผยแพร่ธรรมะนั้น ครูบาอาจารย์ท่านก็สอนมากอยู่ด้วยกัน แต่ผลที่เกิดขึ้นกับพุทธบริษัทฯนั้นก็ยังมีน้อยอยู่
    เพราะธรรมดาคนโดยมากนั้น นิยมทำบุญทำทานเพื่อหวังความร่ำรวยในภายภาคหน้ามากกว่า
    รองลงมาจึงคิดสวดมนต์ไหว้พระ
    หาน้อยที่จะฝึกกรรมฐาน เจริญภาวนา
    และน้อยยิ่งกว่าน้อยที่จะเจริญปัญญาเพื่อแสวงหาทางหลุดพ้น...

    ตอนนี้ก็พอมีทางที่จะทำอะไรขึ้นมาเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดพระในใจคนได้แล้ว
    ได้เริ่มต้นเสียที ... สัปดาห์หน้าคงส่งถึงหมู่กัลยาณมิตร เพื่อทดลองดูว่า พอจะเกิดประโยชน์ต่อพุทธศาสนิกชนได้บ้างอย่างไร...
    ขอบอกว่าสิ่งนี้ ไม่ได้ทำขึ้นด้วยใจ...ที่จริงแล้วทำขึ้นด้วยมือทั้งสองข้างนี้ตะหากล่ะ...
    มันเหมือนว่าจะง่าย แต่มันก็ยาก คือมันยากมากที่จะทำให้มันออกมาง่ายๆ และเกิดประโยชน์ต่อกัลยาณมิตร ชนิดที่ไม่เลือกชนชั้นวรรณะ ไม่เลือกฐานะชาติ ตระกูล ให้ต่างก็เสมอกัน เหมือนเมื่อครั้งพุทธกาล ที่ผู้ออกบวชแล้ว ย่อมนุ่งห่มผ้ากาสาวพัตรเหมือนๆกัน ไม่แบ่งชาติ ชนชั้น ฐานะ ใดๆ...

    จะค่อยๆทำไป...ทำเพื่อพระศาสนา...เพื่อให้ชาติหนึ่งที่เกิดมา พอจะมีประโยชน์กับสังคม ชุมชน ได้บ้าง...ไม่ใช่ทำเพียงเพื่อประโยชน์ของตนเอง และคนรอบข้าง...ที่ได้ทำมามากแล้ว...
     
  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    *****************************
    เชียรสองข้างเลยค่ะ:cool:
     
  17. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    *************************************
    **** พวกเรายังรอท่านอยู่ค่ะ
    ****แปลกใจมากๆ คนโพสสุดท้ายมีชื่อครูติงติง แต่พอคลิกเข้าไปจริงๆ คนสุดท้ายคือท่าน อ ระมิงค์ ตะลิงติง ติง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2014
  18. lomdadbaimai

    lomdadbaimai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +1,379
    นี่ถ้า พี่ต้อย เรียกขึ้นเครื่องบิน ก็คงจัดว่าตกเครื่องไปหลายรอบแล้ว ไม่เข้าข้างไหนนะคะ ขอมายืนดูยิ้ม ๆ ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2014
  19. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    [​IMG]

    มาแล้วขอรับ...
    รูปแบบของเก้าอี้สำหรับนั่งสวดมนต์ เพื่อช่วยลดอาการปวดขา ปวดเข่าในท่าเทพธิดา และช่วยลดอาการปวดเอวในท่านั่งพับเพียบ...
    ทำจากไม้สนเหลือง ของอเมริกาเหนือ ที่คงทนกว่าสนของนิวซีแลนด์และมีตาไม้น้อยกว่า
    น้ำหนักเบา ทำให้สะดวกต่อผู้สูงวัยในการหยิบ ยก ย้าย...

    [​IMG]

    มีการปรับมุมก้ม 2 ระดับ เพื่อให้รองรับท่านั่งได้อย่างแนบเนียน แล้วไม่ทำให้หน้าคะมำ
    คิดและออกแบบทำมาเกือบปีนึง ปรับปรุงจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ...
    แล้วก็ทำใช้เอง...
    หน้าตาที่ทำใช้เองคือเปลือยๆแบบนี้...

    [​IMG]

    แต่พอคิดว่าอยากจะทำเอามาแบ่งปัน ในหมู่กัลยาณมิตร ก็ต้องคิดเพิ่มเติมถึงการหุ้มเบาะ วัสดุต้องทน ดูดี ราคาไม่แพง ไม่ลื่นเวลานั่ง สกปรกยาก ทำความสะอาดง่าย ฯลฯ
    แล้วปกติผู้หญิงจะเข้าวัดมากกว่าผู้ชาย จึงทำแบบเตี้ยลงมาอีกระดับหนึ่งให้เหมาะสำหรับผู้หญิง นี่คิดหลายอยู่เหมือนกันนะ...

    ก่อนหน้านี้เคยคิดว่า พวกเราทั้งหลายต่างพากันสร้างหนังสือสวดมนต์กันก็มาก...
    มากซะจนแต่ละบ้านมีกันร่วมสิบเล่ม...ทุกคนที่สร้างก็หวังจะเป็นธรรมทาน...
    แต่เอาเข้าจริงๆ ปัญหามันคือ ไม่มีใครเอามานั่งสวดมนต์ ...
    เพราะนั่งแล้วเมื่อยขา ปวดเข่า ปวดเอว...

    ผมจึงคิดว่าถ้าผมมีปัญหา คนอื่นๆก็คงจะมีปัญหาเหมือนกันแหละ...
    แล้วก็คิดว่าถ้ามีอุปกรณ์อะไรที่จะช่วยเหล่ากัลยาณมิตรบรรเทาความเจ็บปวดแล้วล่ะก็
    พรรคพวกเราทั้งหลายก็จะได้สวดมนต์กันได้มากขึ้น คือสวดได้นานขึ้น
    อานิสสงค์ที่ได้รับทันทีเลยคือ จิตมีสมาธิเพิ่มมากขึ้น จากการนั่งสวดมนต์ไปสัก 1-2 ชั่วโมง...

    เวลาคิดออกแบบต่างๆจนออกมาเป็นรูปเป็นร่าง การเลือกวัสดุต่างๆเอามาประกอบกันนั้น ยากอยู่แล้ว แต่ลงมือทำจริงๆผมว่าไม่น่ายาก ก็ปรากฎว่าช่างทั้งหลายไม่เอาเลย บ่นแต่ว่ายาก เดินหนีกันหมด...ผมว่ามันทำไม่ยากแล้วนะ ...
    สุดท้ายต้องลงมือทำเอง...คิดในใจว่าเราจะทำถวายเป็นพุทธบูชาก็แล้วกัน เพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนา...ถ้าเราทำให้ชาวพุทธหันมาสวดมนต์กันได้มากขึ้น ใจเขาจะค่อยๆดีขึ้น สมาธิเขาจะค่อยๆดีขึ้น แล้วทุกอย่างจะค่อยๆดีขึ้นเอง...มันก็มีกำลังใจทำนะครับ...แล้วพอนึกถึงหน้าใครบางคนขึ้นมาว่า เราจะช่วยให้เขาเหล่านี้นั่งสวดมนต์ได้สบายขึ้น...ก็..เอาวะ...สู้ๆ...

    คนที่จะทำบุญทำทานมีมากอยู่ด้วยกัน คนที่จะมาสวดมนต์นั้น มีน้อยกว่า แต่คนสวดมนต์ก็ยังมีมากกว่าฝึกสมาธิ ด้วยเพราะสวดมนต์ยังดูว่าง่ายกว่า นี่เองทำให้ผมรู้สึกว่า ถ้าเราช่วยคนมาสวดมนต์กันได้มากๆขึ้น ก็จะเป็นการส่งเสริมพระพุทธศาสนาได้อีกทางหนึ่ง...
    ใครที่มีพ่อแม่ สูงอายุแล้ว ไม่สะดวกในการนั่งพับเพียบนานๆ เพื่อสวดมนต์ ถ้าสิ่งที่เราทำได้ช่วยให้ ลูกได้แสดงความกตัญญู เกื้อกูลบุพการีในทางธรรมได้ ย่อมเป็นเรื่องดี...

    อาทิตย์หน้าคงมีคนได้ทนลองใช้แล้วเอามาเล่าสู่กันฟังบ้างครับ ว่าใช้แล้วเป็นอย่างไร...จะปรับปรุงตรงส่วนไหนอีกบ้าง...เพื่อให้ถูกใจพวกพ้องน้องพี่...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤศจิกายน 2014
  20. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    เวลาทำไป ทำไป ผมก็คิดฟุ้งซ่านไปเหมือนกันนะ...
    ผมคิดว่าที่ผมทำนี่คือ วัตถุมงคล อย่างหนึ่ง...
    แตกต่างจากวัตถุมงคลอื่นๆก็คือ
    วัตถุมงคลอื่นๆนั้น สามารถคุ้มครองเจ้าของ ได้ในยามที่มีลมหายใจ...
    แต่วัตถุมงคลที่ผมทำอยู่นี้ จะสามารถคุ้มครอง เจ้าของไปได้จนสิ้นลมหายใจไปแล้ว...
    และยังตามให้ผลไปยังภพชาติอื่นๆได้ด้วย...
    นี่วัตถุมงคลของผมจึงไม่ธรรมดาครับ...

    วัตถุมงคลที่มีกันอยู่นั้น ต้องเคารพ ต้องบูชา ต้องศรัทธา...
    ส่วนวัตถุมงคลที่ผมทำขึ้นนี้ ท่านต้องใช้บ่อยๆ ใช้ให้มาก จะได้ผลดี...ไม่ต้องเคารพ ไม่ต้องบูชา...ไม่ต้องศรัทธา ก็ไม่เป็นไร...ลบหลู่ก็ยังได้...คือให้คุณอย่างเดียว ไม่ให้โทษ...

    นึกครึ้มขึ้นมา ผมก็พาลไปคิดว่า นี่มันธรรมทานเชียวนะเนี่ย...
    แล้วยังคิดฟุ้งซ่านต่อไปอีกว่า นี่จะได้เป็นการสร้างพระในใจคน ตามที่ครูบาอาจารย์ท่านเคยปรารถเอาไว้...นี่เราจะมีส่วนสนับสนุนให้กัลยาณมิตรของเราได้สร้างพระในใจของตนก็คราวนี้แหละ...นี่แอบดีใจลึกๆ...

    เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆแบบนี้ก่อนครับ...

    จากนั้นก็จะเริ่มทำเก้าอี้สำหรับนั่งสมาธิ ที่จะช่วยลดอาการเจ็บปวด และช่วยให้จิตดิ่งเข้าสู่สมาธิได้เร็ว และทรงตัวอยู่ได้นาน...
    ซึ่งออกแบบและสรรค์สร้างได้ยากพอสมควร ลงทุนก็คงเป็นหลักแสนบาท กว่าจะปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้อง รับประกันว่า ทำทิ้งกันหลายๆครั้งแน่ๆ...
    มันก็คล้ายๆกับงานวิจัยนะครับ...
    เพียงแต่ที่ผ่านมามันวิจัยกันให้กับองค์กรรัฐ...
    ไม่มีใครจะวิจัยแล้วทำออกมาเป็นฮาร์ดแวร์เพื่อให้ประชาชนชาวบ้านๆ ได้ใช้ประโยชน์บ้างเลย...
    ทำไมน่ะเหรอ...
    เพราะทำให้ชาวบ้านใช้ มันไม่เท่ห์...ได้ตังค์น้อย...และลึกๆแล้ว มันยากมาก ที่จะทำให้มันออกมาง่าย แล้วชาวบ้าน ชาวเมือง ใช้ได้โดยทั่วถึงกัน...ยากจริงๆแหละครับ..
     

แชร์หน้านี้

Loading...