เรื่องเด่น อย่าตำหนิกรรมของผู้อื่น( โดยสมเด็จองค์ปฐมฯ)

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 17 มกราคม 2015.

แท็ก:
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    อ้อ..ครับ
    การปฏิบัติธรรมถ้ามัวไปกางแบบกางตำรา
    ประเดี๋ยวอุปาทานมันก็หลอกเอา ได้ขั้นนั้นแล้วขั้นนี้แล้ว ตรงนี้ต้องดูให้ดี

    เอาเป็นว่าให้ความสงบมีเป็นพื้นฐานก่อน รู้จักสงบใจให้เป็น
    สมาหิโต ยถาภูตัง ปชานาติ - ผู้มีจิตตั้งมั่นแล้ว ย่อมรู้ตามความเป็นจริง
    ทำอย่างไรถึงจะมีจิตตั้งมั่นได้ มีวิธีตั้งร้อยแปดพันเก้ามากมาย แล้วแต่จริต
    อย่างไหนทำให้จิตใจสงบระงับลงได้ก็เอาอันนั้นแหละ ที่สำคัญให้มีสติควบคู่ไปด้วย
    อย่าไปหลงใหลได้ปลื้มกับความสงบให้มากมาย มันก็แค่ปรากกฏการณ์ สร้างเหตุอย่างไรก็ได้อย่างนั้น
    ให้รู้ตามความเป็นจริง รู้เท่าทันความยินดียินร้าย เท่าทันความหลงปรุงแต่งที่เกิดขึ้น

    ฝึกจนสติมันเกิดเองได้บ่อย ๆ นั่นแหละดี
    ให้มันรู้ทันการหลงโลก หลงรัก หลงชัง หลงเกลียด หลงกลัว
    รู้เท่าทันการมีตัณหา รู้ทันอาสวะที่มี เอาเท่านี้ก่อนก็พอ
    ว่าแต่ว่า ตอนนี้รู้จักตัณหาตามความเป็นจริงบ้างแล้วหรือยังหนอ..
     
  2. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    คุณคร้าบ ฟังดีๆนะ

    เวลาเห็น นิมิตเนี่ยะ เขาไม่ได้ให้ออกมาปรารภว่า ไม่เอาจิตไปยุ่ง แต่ ทะลึ่งเอานิมิตเรื่องยุ่งๆ
    มาเล่าเป็นคุ้งเป็นแคว ......อะไรแบบนี้ เขาเรียกว่า " เอาจิตเข้าไปยุ่งกับโลก "

    ทีนี้ฟังดีๆนะ จะสอน อุเบกขาสัมโพฌชงค์ ให้ฟัง

    เวลาเห็น นิมิต เวลาออกมาแล้ว ให้ระลุกความ ยินดี ยินร้าย ที่จะทำให้ เกิดการเก็บ
    งำเอาไว้ว่า ตัวไปรู้ไปเห็น แล้ว พอมีจิตไม่เป็นกลาง กามในอดีตมันกำเริบ มันจะ กะต๊ากๆ
    ป่าวประกาศว่า ข้าเห็นนิมิต

    ทีนี้ หากกำหนดรู้ ความยินดี ยินร้าย หลังจากเห็น นิมิตได้ จะค่อยๆ เห็น ว่า อีกฝาก
    หรือ อีกแง่ มุมของจิต หลังจากเห็นนิมิต ....เอ......เราเห็นแบบไม่ยินดี ยินร้ายกับ
    นิมิตก็ได้ .....เกิดความเป็นกลางต่อการเห็น

    คราวต่อไป เห็นนิมิตอีก ก็ เห็นได้อีกว่า จิตเป็นกลาง มีรสเป็นอย่างไร

    คราวต่อไป เห็นนิมิตอีก ก็ เห็นได้อีกว่า จิตเป็นกลาง มีรสเป็นอย่างไร

    คราวต่อไป เห็นนิมิตอีก ก็ เห็นได้อีกว่า จิตเป็นกลาง มีรสเป็นอย่างไร

    พอ ชำนาญในการเห็นจิตเป็นกลางมากๆ เข้า มันจะแยกแยะออกว่า กามในอดีต ที่
    ทำให้เกิดอาการ ฮานาก้า กู รู้ กูเห็น นิมิต มันมีอาการ ส่งออกจากฐานจิต ไปด้วย
    เหตุอะไร

    ง่ายมาก ก็เพราะ จิตไม่รู้คุณประโยชน์ของจิตเป็นกลาง หลังเห็นนิมิต อย่างทั่วถึง

    และ เพราะไม่ได้กำหนดรู้ ความดับไปของนิมิต ความไม่เที่ยงนิมิต ความที่นิมิตนั้น
    ไม่ใช่ตัว ใช่ตน ไม่ใช่ของๆเรา [ โลกมันแปรปรวน แตกดับ มันก็เรื่อง เก่า ของเก่า ]


    เนี่ยะ

    หากฟังเข้าใจ จะไม่ตกใจ จนไปกล่าวว่า อย่าวิปัสสนานะ เดี๋ยวอดมีฤทธิ์ ไม่เห็นโน้นเห็นนี่

    เปล่าเลย หากฝึกบ่อยๆ จะเห็น นิมิตได้นับไม่ถ้วน เพียงแต่ อาศัยระลึกเห็นความเป็นกลาง
    เพื่อรู้ทั่วถึง ประโยชน์ของจิตเป็นกลาง ให้ทั่วถึง เสพคุ้น

    เนี่ยะ อุเบกขาสัมโพชฌงค์ ไม่ได้ตัดนู้น ตัดนี่ ไม่คิด ไม่เห็น อะไรต่อมิอะไร

    แต่ จะกล่าวไหมว่า เห็นโน้น เห็นนี่ มากมาย .......ในขณะที่ จิตเป็นกลางต่อการเห็นมีรสเลิศกว่า

    เนี่ยะ เขาเรียกว่า นิมิต มันดับ เหลือแต่ จิตเป็นอุเบกขา มีสติ รู้อยู่ที่ฐานจิต

    [ แต่ เห็น นิมิต ทะลุทะลวง มากมาย ไม่ใช่ไม่เห็นและ ไม่ใช่ไป ปรามาส
    เหยียบพวกหน้าส้นสิบ อวดการมีฤทธิ์ แต่อย่างใด ]

    พอยกขึ้น ธรรมวิจัยสัมโพชฌงค์ ได้ .......ค่อยว่ากันต่อเรื่อง จิตเดิมแท้ ที่เกิด แล้วก็ดับ

    จิตดับ ยัง งง อยู่อีกไหมว่า ไม่มีจิต หรือ มีจิต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2015
  3. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    สาธุ

    ไปสู่ที่ชอบที่ชอบเถิด
     
  4. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    <MARQUEE>
    [​IMG]</MARQUEE>

    มีกลางคืน ก็ย่อมมีกลางวัน

    ความสว่าง เที่ยงหรือไม่เที่ยง

    ปิติ เที่ยงหรือไม่เที่ยง

    ถ้าไม่เที่ยง ปิติ ความสว่าง ควร ปักใจ เป็นของตนหรือ !?
     
  5. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    ความจริงก็คือความจริง. ทุกคนก็ยังมีกลิ่นเหม็นอยู่มากหรือน้อย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2015
  6. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    ธรรมของท่านไม่เบานิ

    รู้จัก ทฤษฏีความสมมาตร ด้วย ฤา แห

    สมมาตร และ การทำลายสมมาตร เราจึงมิควรอยู่ ณ ที่แห่งนี้

    เพราะการสั่น สมมาตรจึงถูกทำลาย
    เพราะหยุดสั่น สมมาตรจึงทรงตัวอยู่ได้
    เพราะมีวิปปฏิสาร ความสงบจึงถูกรบกวน
    เพราะอวิปปฏิสาร ความสงบจึงมีอยู่

    ที่ชอบ ที่ชอบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2015
  7. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    น้าจรโว้ยยยยย

    มารับเพื่อนโต้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
     
  8. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    เรียกทำไม ผมไม่มีใครกล้าคบเป็นเพื่อนหรอก เพราะมีแต่ผมเท่านั้น ที่จะเลือกว่าจะคบใครเป็นเพื่อนน่ะ ก็เถียงกันต่อไปสิครับ หาบทสรุปกันไม่ได้หรือครับ
     
  9. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    การตำหนิแล้วช่วยแก้ไข ช่วยเขาได้จริง จึงควรตำหนิ ถ้าแค่ว่าตำหนิเพราะไม่ถูกใจตน แล้วช่วยอะไรเขาไม่ได้ คนแบบนี้เขาให้หาก้อนหินมาอมไว้ในปาก จะดีกว่าครับ
     
  10. ZIGOVILLE

    ZIGOVILLE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    196
    ค่าพลัง:
    +792
    ขอบพระคุณมากครับท่านอาจารย์ "บุคคลทั่วไป 3 คน" ถ้าสามารถยกขึ้นธรรมวิจัยสัมโภชฌงค์ได้แล้วผมจะมาต่อเรื่องจิตเดิมแท้กับท่านในอนาคตถ้ามีโอกาสครับ และถ้าท่าน หรืออาจารย์คนไหนมีอะไรจะสอนศิษย์คนนี้เพิ่มอีก ขออาราธนาท่านเลยครับ ไม่ต้องยั้งมือ ผมยอมรับเลยว่าโง่ครับ ไม่ค่อยจะรู้ศัพท์บาลีสักเท่าไหร่ ดังนั้น ขอคำอธิบายเป็นขั้นตอนการปฏิบัติเลยละกันว่า

    จะฝึกให้จิตไม่ให้เข้าไปยึดสัญญาตั้งแต่กำลังจะเกิดต้องทำยังไงถึงจะตัดได้ถาวร? และสภาวะจิตขณะนั้นเป็นลักษณะแบบไหนถึงจะได้ชื่อว่าไม่ยึดมั่นสัญญาทั้งปวง ?
    การเดินจิตเข้าธรรมวิจัยสัมโภชงค์ทำยังไงครับ ต้องทำตอนไหน จิตมีสภาวะเช่นไรจึงพร้อมที่จะทำ?
    จะข้ามจิตผู้รู้ต้องทำยังไงครับ จิตมีสภาวะเช่นไรจึงจะสามารถข้ามผ่านไปได้ ?

    จริงๆ ยังมีอีกหลายคำถามแต่ไว้มีโอกาสจะถามต่อครับผม ขอบพระคุณล่วงหน้าครับท่านอาจารย์ทั้งหลาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มกราคม 2015
  11. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ต้องการรู้ พร้อมละ สิ่งไหน

    ก็กำหนดรู้ ลงไตรลักษณ์ไป

    วิธีเดิม ในการละการเห็นนิมิต ที่อธิบาย
    ไปโน่นแหละ

    การจะเข้าถึง แทงตลอดได้ว่า อ้าวมีทางเดียว
    เดินคนเดียว รู้คนเดียว ไม่ใช่ฟังจากใคร

    มันต้องหยุดอวดโง่ ทำเปนยอมรับว่าโง่
    ด้วยการปฏิบัติแบบจริงใจ ซื่อตรงต่อธรรมเอาเอง

    ตัดสินใจเพียรเมื่ไหร่ พ้นโง่ พ้นฉลาดทันที
    ใครก็ตำหนิไม่ได้

    เปนแต่เพียง ธรรมสากัจฉา ไป
     
  12. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ทีนี้ พอทวงถามการปฏิบัติไปแล้ว

    ตอบ ก็บอกให้ กำหนดรู้ไปแล้ว

    แต่ใจกลับว่างเปล่าจาก หนทางปฏิบัติ

    เราจะสังเกตุคู่สนืนาธรรมได้ทันทีว่า

    ที่อ้างว่าเหนนิมิต นั่นเหนด้วยความชำนาญ หรือส้มหล่น
    แล้วดีใจ รีบอุปโลคตนเปนผุ้มีบุญธิการ

    คือ จะเกิดคำถามโน้นนั่นนี่ต่อ

    ไอ้แบบนี้ ควรสำรวจตนดีๆ เอาคุณธรรม
    อริยะทรัพย์ที่ชำนาญจริงๆมากล่าวถามแทน

    ซึ่งคำตอบ ก็จะเหมือนคนกวนส้นสิบ

    คำตอบจะอันเดิม คือให้กพหนดรู้

    แม้นว่าจะไม่มีฌาน มีกิลส นิวรณ์เท่านั้นที่
    ปรากฏบ่อย หรือชำนาญ

    ก็ กำหนดรู้ได้หมด

    เพราะอะไร


    เพราะเราแทงตลอดสัพสังขารทั้งปวงเปนทุกข์
    ตรงต่อธรรมที่พระพุทธองค์ทรงชี้ให้ดู

    แต่ไม่ยอมดู ไม่ลงมือปฏิบัิต

    เอาแต่รอภัยพิบัติ แล้วจะงัด เจ้าโลก ความมีบุญญธิการ
    เอาลอยๆ
     
  13. ZIGOVILLE

    ZIGOVILLE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    196
    ค่าพลัง:
    +792
    ขอบพระคุณครับท่านอาจารย์นิวรณ์ มีอะไรแนะนำเพิ่มเติมอีกมั้ยครับ
     
  14. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    มี

    สำนวนไทยใช้ผิด เวลาคนใช้ความรู้
    ที่เปนตัวสังขาร พี่ไทยจะพุดว่า

    สัญญาล้วนๆ สัญญาทั้งนั้น

    ทำให้เราคลากจากธรรม

    เอาสังขาร ไปเปนสัญยา เลนกลัว
    สัญญา จนขี้หดตดหาย

    สัญญนั้นมีธรรมขาติดับเปนแสนในหนึ่งขณะจิต

    การระลึกได้สัญญเกิดอย่างไร ดับอย่างไร
    จะเปนตัว ญานทัสนวิสุทธิ

    ที่ทำให้เข้าถึง นิโรธนได้

    ดังนั้น อย่าไปกลัวสัญญา

    อย่ากลัว การฉลาดในการมีอารมณ์เปนหนึ่ง


    อย่าใช้สำนวนไทย ที่ทำให้คลาดจากธรรม

    และอย่า ด่าบรรพบุรุษ
     
  15. ZIGOVILLE

    ZIGOVILLE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    196
    ค่าพลัง:
    +792
    ขอบพระคุณมากครับท่านอาจารย์นิวรณ์ ขออภัยนะครับที่จะขออนุญาตติงท่านอาจารย์นิดนึงว่าในการแนะนำแนวทางการปฏิบัติระดับนี้ไม่ควรใช้การสังเกตุอย่างเดียวนะครับควรจะตรวจดูลักษณะพื้นฐานจิตของศิษย์ด้วย ๑ ตรวจดูการปฏิบัติในอดีต ๑ ตรวจดูการปฏิบัติในปัจจุบัน ๑ ถ้าบางอย่างเกินความสามารถของเรา ควรที่จะอาราธนาคุณครูบาอาจารย์ทางภพภูมิเข้ามาช่วยเหลือ...เพราะเรื่องการแนะนำด้วยเมตตาจิตนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรที่จะเลือกให้เหมาะสมเหมือนแพทย์เฉพาะทางที่สามารถแนะนำตัวยาที่ถูกต้องให้ผู้ป่วยหายได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าเราบอกตัวยา หรือบอกแนวทางการรักษาผิดพลาด ก็อาจทำให้เกิดผลเสียได้เช่นเดียวกัน




    เพราะเราแทงตลอดสัพสังขารทั้งปวงเปนทุกข์
    ตรงต่อธรรมที่พระพุทธองค์ทรงชี้ให้ดู
    แต่ไม่ยอมดู ไม่ลงมือปฏิบัิต

    ขอบพระคุณมากครับท่านอาจารย์ ตรงนี้เห็นด้วยครับ แม้ธรรมะที่เกิดขึ้นในจิต ก็เป็นทุกข์ ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา ไม่เที่ยงแท้ มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปอยู่เป็นนิจ...ผมจะปฏิบัติต่อไปครับ แต่จะไปเรื่อยๆเหมือนพายเรือใบ(นึกถึงพระเจ้าอยู่หัวท่านทรงเรือใบคล่องมากนะ ผมจะเอาพระองค์ท่านเป็นแบบอย่าง)




    เอาแต่รอภัยพิบัติ แล้วจะงัด เจ้าโลก ความมีบุญญธิการ
    เอาลอยๆ

    อันนี้ขออนุญาต ฮา นะครับท่านอาจารย์ :cool::cool::cool:
     
  16. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    ระวัง วิปัสสานูกิเลส เข้าหละ !!!

    หากแม้แต่พระพุทธเจ้าก็ไม่รับสดับฟังนี่ คงไม่ต้องกล่าวเอื้อนอ้อยอีกอื่นอันใด ฤา แห


    ในพุทธกาล ก็มีโพธิสัตว์ท่านหนึ่งกล่าวต่อสาวกพระพุทธเจ้าว่า ไม่ต้องไปเป็นสาวกพระพุทธเจ้า ไม่ต้องฟังพระพุทธเจ้า ให้ตั้งจิตตรงไปที่อนุตตรสัมมาสัมโพธิญานเลย
    กล่าวเสร็จ โพธิสัตว์ท่านนั้นก็ไปกราบเท้าพระพุทธเจ้า 3 ที รับฟังโอวาท
    เออ งง กะเขาจริงๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มกราคม 2015
  17. ZIGOVILLE

    ZIGOVILLE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    196
    ค่าพลัง:
    +792
    ขอบพระคุณมากครับ ผมจะลองพยายามต่อไปครับ แสดงว่าท่านเริ่มเข้าใจตรงกันกับผมแล้วล่ะ ได้ผลอย่างไรเดี๋ยวจะแจ้งให้ทราบในเร็ววันครับท่านอาจารย์ ถ้าวิธีนี้ทำให้ผลสำเร็จได้ ผมจะจดจำท่านไว้ในใจตลอดไป จะไม่ลืมพระคุณของท่านตลอดกาลสมัย...ท่านมีอะไรแนะนำเพิ่มเติม หรืออาจารย์ท่านอื่นๆ มีแนะนำเพิ่มเติม ขอเชิญได้เลยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มกราคม 2015
  18. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    เนี่ยะ อย่าว่าอย่างงุ้นอย่างงี้เลยนะ

    คนที่ฟังธรรมเพื่อปฏิบัติ

    กับ พวกฟังธรรมเพื่อ ความมากบปบาทเนี่ยะ

    เราจะดุที่การ เก๊กหล่อต่อปากต่อคำ

    ถ้าคนปรารภความเพียรทันที มันจะแสดงออกอย่างหนึ่ง

    แต่ถ้าเปน ปทปรมะ มากบทบาท มันจะทน
    ไม่ได้ จะต้องปรารภความหล่อ ออกมา

    บัวเต่าถุย
     
  19. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    คงเป็นวิบากเดิม เคยกระทำไว้ มันตามมาส่งผลกระมัง
     
  20. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    อ้อ... ถึงถามว่าไปได้กลิ่นอะไรรึไง..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มกราคม 2015
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...