ขอคำแนะนำค่ะ การปฎิบัติตนระหว่างทางโลกและทางธรรม

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย หนูนะโม, 30 มกราคม 2015.

  1. หนูนะโม

    หนูนะโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2015
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +128
    อยากทราบการปฎิบัติตนในชีวิตประจำวันของนักปฎิบัติคะ
    หากเรายังไม่เป็นเพศบรรพชิต ยังต้องดำรงชีวิต ทำงานเลี้ยงชีพ
    ยังต้องมีการพบป่ะผู้คน เกิด รัก โลภ โกรธ หลง ฯลฯ
    ต่างจากที่เราปฎิบัติธรรมเมื่ออยู่เพียงผู้เดียวได้สงบจิต สงบใจ
    ทุกท่าน มีวิธีการเจริญสติ อย่างไรคะ ในช่วงเวลาที่อยู่ข้างนอกบ้าน
    ที่หาความสงบไม่ได้ เพราะยังต้องมีชีวิตในทางโลกอยู่ ต้องพบป่ะผู้คน
    เข้าสังคม ... ???
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2015
  2. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ส่วนตัวก็ฝึกแบบ เด็ก บ้าน บ้าน
     
  3. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,104
    ค่าพลัง:
    +70,433
    ขณะใดที่ใจฉลาด ก็ไม่วิ่งเข้าไปหาไฟ

    แต่ถ้าไฟ ทะลักเข้ามาตามช่องทั้งหกตามประสาคนโลกๆที่ยังบกพร่อง ก็ตั้งมั่นด้วยขันติ -โสรัจจะ
    มีสติ-สัมปชัญะ อย่าให้เหตุและเชื้อไฟในบ้านติดไฟเพิ่มอีกก็พอ
    เดี๋ยวเหตุกับเชื้อไฟที่ทะลักเข้ามาตามช่องทั้ง6หมดแล้ว บ้านก็ปกติ

    ทำงานในบ้านต่อไป
    เรียนรู้เรื่องโครงสร้างบ้าน
    เตรียมหาช่องทางไม่ต้องกลับมามีบ้านอีกต่อไป
     
  4. หนูนะโม

    หนูนะโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2015
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +128
    รบกวนช่วยชี้แนะด้วยค่ะ อยากทราบวิธีการปฎิบัติ
    ของหลายๆท่าน เพื่อนำมาปรับใช้กับตัวเองค่ะ
     
  5. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +3,084
    ทำงานไปตามหน้าที่ ว่างก็นับลมหายใจเล่น
     
  6. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,104
    ค่าพลัง:
    +70,433
    เจ้าของบ้านแต่ละคน ต้องเรียนรู้บ้านของตน

    ตนจะรู้จักบ้านของตนได้ดีกว่าใครๆ

    ช่องไหน ในช่องทั้ง6 ที่่อ่อนแอที่สุด ไฟและเชื้อไฟทำปฏิกิริยาได้มากที่สุด
    ก็ซ่อมแซมให้ดี ปรับปรุงให้ดี รู้วิธีดับเหตุ-ควบคุม ระวังผล ณ ช่องนั้นๆ


    อย่าจุดไฟนอกบ้าน ให้บ้านอื่นเดือดร้อน

    อย่าประมาทไฟ ณ ช่องทั้ง6

    อย่าประมาทปล่อยให้ไฟลุกลามในบ้าน
     
  7. หนูนะโม

    หนูนะโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2015
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +128

    แล้วถ้าเราจะต้องเจอไฟทุกวัน หากไม่ทันระวังไฟไหม้บ้านขึ้นมาจริงๆ
    มีวิธีป้องกันไหมคะ หรือทำได้แค่รู้เมื่อไฟมาถึงบ้านแล้ว แล้วพยายามดับมันให้เร็วที่สุด??
     
  8. หนูนะโม

    หนูนะโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2015
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +128
    อนุโมทนาค่ะ เห็นภาพชัดเจน ขอบพระคุณค่ะ
     
  9. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    เพิ่มเติมจากที่ท่านอื่น ๆ ที่กล่าวมาดีแล้วคือ

    ข้อแรกก็ต้องมีสติก่อน
    ฝึกสติอย่างฆราวาส สติปัฏฐาน ๔ ก็เจริญได้
    เอามาเจริญให้เป็นปกติในชีวิตประจำวัน
    ค่อย ๆ รู้กายเวทนาจิตธรรมตามความเป็นจริงไป

    เอาหลักฆราวาสธรรมมาใช้ในชีวิตประจำวันด้วย
    เป็นการฝึกสติฝึกคุณธรรมไปในตัวอีกทางหนึ่ง
    (ความจริงมีอีกมากที่เอามาเป็นแบบฝึกหัดได้
    เช่น สังคหวัตถุ ๔ พรหมวิหาร ๔ เป็นต้น)
    ในที่นี้เสนอแบบฝึกหัด ฆราวาสธรรม ๔ ก่อน

    ฆราวาสธรรม ๔ - ธรรมสำหรับฆราวาสผู้ครองเรือน
    สัจจะ - จริงใจ ตรงไปตรงมา ไม่หลอกตัวเอง
    ทมะ - ข่มใจ ฝึกข่มใจ รู้จักหักห้ามอารมณ์ ความอยาก อย่าตามใจตัวเองจนเกินไป
    ขันติ - อดทน รู้จักรอ อย่าใจร้อน
    จาคะ - เสียสละ มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อต่อผู้อื่น ต่อสังคมส่วนรวม

    อันนี้แหละคือปฏิบัติธรรมอยู่ตลอดเวลาเลยทีเดียว พอไหวนะ
     
  10. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    หลักธรรมก็มีลำดับ เบื้องต้นก็เป็นทานและศีล การให้ทานนั้นหมายรวมถึงการที่เราได้ช่วยเหลือผู้อื่นตามสมควรแก่ความรู้ความสามารถ และสมควรแก่ฐานะของเรา เรื่องศีลก็พึงระมัดระวัง หากเลือกที่จะไม่ผิดศีลไม่ว่าข้อใดก็ควรเลือก หลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง อย่าปล่อยตัวไหลไปตามกระแสสังคมที่เราเห็นว่าไม่ดี แต่ไม่ควรไปต่อต้านเพราะจะทำให้เราอยู่ลำบาก ฝึกอย่างนี้ก็เป็นการสร้างบารมีและฝึกสติไปด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2015
  11. หนูนะโม

    หนูนะโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2015
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +128
    พอไหวคะ อนุโมทนาบุญค่าา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2015
  12. หนูนะโม

    หนูนะโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2015
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +128
    อนุโมทนาค่ะ
    ท่านใดที่ให้ธรรม ก็ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปนะคะ สาธุคะ
     
  13. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    ตั้งสติ คิด พูด ทำที่ถูก
     
  14. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    นึกยังไง ถึงได้มาถามว่า จะภาวนายังไง เอาตอนที่ โพสกระทู้หลวงตาไปหลายโพส

    ความศรัทธาในปฏิปทาหลวงตา อยู่ดีๆ หายไปไหน .......ความพอใจที่เคยมี
    หายไปไหน มันต้องแจ้งตรงนี้ให้ทราบกันก่อน

    ไม่เช่นนั้น กำลังปฏิบัติด้วยมรรควิธีของหลวงตา ดีอยู่แล้ว ก็ เกิดอยากเปลี่ยน

    แต่ถ้า ก่อนหน้านั้น โพสธรรมเป็นวรรคเป็นเวร ตัดสินธรรมด้วย ว่าอะไรใช่
    อันไหนไม่ใช่ อันไหนชอบใจ(เป็นสุภาษิตเอามาสมาทานแล้วเห็นผลตามนั้น จึงอนุโมทนา)

    เก่งขนาดตัดสินธรรม รู้รสธรรมได้ว่าอันไหนปฏิบัติได้ผล อันไหนปฏิบัติไม่ได้ผล

    แล้วอยู่ดีๆ เฮ้ย......ขอฟังธรรมคนอื่นหน่อย ว่า เริ่มต้นนับหนึ่งกันอีท่าไหน


    พอดี กรรมฐานหากเคยปฏิบัติดีอยู่แล้ว ก็ล้มไม่เป็นท่า

    หรือ

    ไม่เคยปฏิบัติหรอก แต่ต้องการ ทราบวิธีอื่นอีกและ จะได้ มีความสุขจาก
    การเปลี่ยนเรื่องฟังไปเรื่อยๆ .................ขอเกาะกอสวะของท่านๆหน่อย
    ก็พอดี ไม่ได้ไปไหน

    ได้แต่ อนุโมทนาธรรม โดยไม่ได้รู้รส รู้อรรถ ตามความเป็นจริงอะไร

    มีแต่บัญญัติที่ฟังดูดี แล้วก็ สุขใจที่ได้ กล่าวว่า เอ้อ ข้าชอบภาษิตนี้
     
  15. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    เคยเห็น หมาแมว ในวัดไหม

    หมาแมวในวัด ชอบ ตามอนุโมทนา สาธุ นักปฏิบัติ พอเขาเทศนา สวดมนต์
    ก็ไปนอนหลับตา มีความสุข ทนไม่ไหว อยากกดไลค์ อยากกดอนุโมทนา
    ก็ " บรูวววววววส์ " ตามวาสนา

    การอนุโมทนา สาธุุ มันต้อง ทราบรสที่เขาได้ หรือ รู้จักกุศลชนิดนั้นๆ อัน
    มีในจิตเรา เคยมีในจิตเรา

    เห็นคนเขาตักบาตร เราจะ สาธุ อนุโมทนา เราต้อง ระลึกได้ ในสภาวะจิต
    ที่เป็นกุศลที่ได้ตักบาตร

    แต่ถ้าไม่เคยตักบาตร ไม่เคยรู้รส ไม่รู้จักกุศลจิตชนิดนั้น แล้วไป สาธุ อนุโมทนา
    อันนี้ มันเป็น โมหะมูลจิต มันเป็น ความหลง มันจะทำให้ไปเกิดเป็น เดรัจฉาน

    แต่ถ้าเราจะสาธุ อันนั้นใช่ อันนี้ดี อันนี้เราเคยลิ้มรสธรรมอันนั้น แต่มันแปรปรวน
    เกิดดับ หายไปจากจิต เพราะไม่ได้ประกอบ เนี่ยะ สาธุแบบนี้ อนุโมทนาแบบ
    นี้จะตามเห็นความแปรปรวนของกุศลจิตได้ตามความเป็นจริง นิพพานได้เร็วกว่า
    คนที่เขาตักบาตรทำทาน รักษาศีล สวดมนต์ นั่งภาวนาหลายพันเท่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2015
  16. นางสาวอยู่จ้ะ

    นางสาวอยู่จ้ะ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,041
    ค่าพลัง:
    +3,865
    ช่วงที่แล้วเราไปดูกิเลสที่เกิดที่จิต
    แต่ตอนนี้หันมาโฟกัส "ตัณหาผู้สร้างเรือน"
    ก็ธรรมดาๆน่ะค่ะ อาณาปานสติ+พุทธานุสติ
    ระวังใจไม่ให้ฟู ไม่ให้แฟบ ไม่ให้เผลอ ไม่ให้เพลิน
    ซึ่งมันยากมากเลยนะ เพราะตัณหาเป็นเครื่องขับเคลื่อนโลก
    แต่เรายังต้องอยู่กับโลก ก็ต้องตั้งสติดึงกลับมาน่ะ

    เหมือนกำลังฝึกโยนเหรียญ มันง่ายมากที่จะให้ออกหัว-ก้อย
    แต่วันนี้เราต้องฝึก ทอยเหรียญ ให้สันเหรียญตั้งขึ้น

    ปล. เราเห็นในมุมของเรานะ แล้วก็เฉพาะช่วงนี้ด้วย
    อนาคตอาจเปลี่ยนไปโฟกัสมุมอื่นอีก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2015
  17. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918

    โน้นปะไร !!!

    เริ่มดูรวนเร

    มาดูกันก่อน

    การมีสติตามดูความคิด ที่คิดไปเลย เพื่ออาศัยเป็นเครื่องรู้ของสติ

    การมีสติตามดูความคิด ที่บริกรรมพุทโธไปเลย เพื่ออาศัยเป็นเครื่องรู้ของสติ

    ถ้า คุณ ฮานาก้า เรายึดติดพุทโธเกินไป แล้ว ทะลึ่งเปลี่ยนไปตามรู้ ความคิด
    อันนี้คนละเรื่องหน่าคร้าบ

    ถ้า คุณ ฮานาก้า พุทโธ ก็คือ ความคิด ความคิดในชีวิต ก็คือ ความคิด
    แล้วเห็นได้ว่า มันคือ สัญญาขันธ์ "ธรรมะสัญญา" ตัวเดียวกัน หลัง
    จากนั้น จะอาศัย พุทโธ ต่อไปก็ได้ หรือ พุทโธหายจิตไหลไปคิด ก็
    ตามดูความคิดแทนพุทโธ ก็ได้ ไม่มความต่างกัน เป็นแค่ กำหนดรู้
    สัญญาขันธ์แสดงความเกิดดับ ฉลาดในการกำหนดเห็น ขันธ์ดับ กองเดียว
    ฉลาดในอารมณ์อันเดียว อย่างนี้ ก็ใช่

    แต่ถ้า ไม่เอาละ พุทโธ กูยึดติดเกินไป ขอออกไปคิด บรา บรา ดีกว่า สบาย
    งานการไหลรื่น ชีวิตกำลังจะจบ กำลังจะทำงาน ก็ดูมีความหวัง ฉิหายเลย !!

    ฉิหาย ตรงที่ ความคิดที่เราคิดมันมี " อกุศล กุศล อัพพยากตา " หากอินทรีย์
    ภาวนาอ่อน ความคิดนั้นย้อมติดจิตเกิดการเพลินในการคิด แล้ว ความคิดนั้น
    เป็นอกุศล( ร้อยละ 90 จิตปุถุชน ไหลไปทางอกุศล หลงไหล ) ก็พอดีไปเกิด
    เป็นเดรัจฉานกัน ........แต่ถ้า กล้าพอ ภาวนาจนจิตแยกจากความคิดได้จริง
    อันนี้ก็ รอดปิดอบายได้ ที่เหลือก็ว่ากันต่อ

    แต่ถ้า แทนที่จะให้ความคิดมันสะเปะสะปะ พระพุทธองค์บอกว่า ให้จิตโดน
    ย้อมด้วยนามของพระพุทธองค์ซะ จิตนั้นหากโดนย้อม ภาวนาไม่ขึ้น ยกสติ
    ไม่ได้ ก็จะไปเกิดเป็น เทวดา .....แต่ถ้า ภาวนาจนจิตแยกจากความคิดได้จริง
    อันนี้ก็ รอดปิดอบายได้ ที่เหลือก็ว่ากันต่อ

    ดังนั้น

    จะฮานาก้า หลงยึดติดพุทโธ แล้วไง จะทิ้ง หรือ จะบริกรรม ตัดสินใจดีๆ
    เอาให้เหมาะกับ " ฉันทะ "

    ถ้า ฉันทะ ไปทางไหน ก็เอาทางนั้น ฉันทะมีเมื่อไหร่ เวทนากุศลจะเกิด อันนี้ ให้ร่ำไปเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2015
  18. เดินตรง

    เดินตรง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2015
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +91
    เรื่องภาวนาผมยังไม่เก่งแต่ผมก็อาศัยทำไปเรื่อยเรื่อยมีศรัทธาเต็มที่ ผมขอถามท่าน เล่าปัง หรือ คุณบุคคลทั่วไป3ท่าน(คนเดียวกันใช่ไหมครับ) ที่คุณ นะโม บอกว่า ยึดติดกับพุทโธมากเกินไป หมายความว่าอย่างไรครับ ผมไม่เข้าใจ ตัวผมเองอยากจะติดพุทโธอยากจะระลึกพุทโธให้ได้ตลอด24ชั่วโมงเลยครับ พุทโธคือ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานเป็นชื่อของพระพุทธเจ้า การยึดติดกับพุทโธจะเสียหายตรงไหนครับ หรือผมยังไม่เข้าใจความหมายที่คุณ นะโม เขียนมาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2015
  19. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ไอ้บุคคลทั่วไป3เปรต กับ เล่าปังหนมปัง มันคนเดียวกัน

    ไอ้นี้มีหลายไอดี มีอีกมาก

    มันบ้าแน่ๆ ป๋มรับรอง
     
  20. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    อย่าหนีความจริง ควรยอมรับความจริงว่า มนุษย์ทุกคนยังมีกิเลส คือ โลภ โกรธ หลง (ราคะ = โลภะ โทสะ โมหะ) เรียกอกุศลมูล เมื่อยังมีกิเลส (ธรรมชาติที่ทำให้จิตใจเศร้าหมอง) ก็โกรธบ้างเกลียดบ้างเป็นธรรมดาของมัน ยอมรับ อย่าหนีความจริง

    แต่อีกด้านหนึ่ง เมื่อรู้ตัวว่าไฟสามกองนั้นมีโทษเป็นโทษทั้งแก่ตนและผู้อื่น เราก็ต้องฝึกความรู้สึกตัวบ่อยๆ เมื่อมีสติสัมปชัญญะ รู้สึกตัวเร็ว ก็ปรับตัวปรับใจ

    "ต่างจากที่เราปฎิบัติธรรมเมื่ออยู่เพียงผู้เดียวได้สงบจิต สงบใจ" สงบเพราะกด ข่ม เพราะหนีปัญหา หรือสงบเพราะหมดเชื้อ ก็ควรกำหนดรู้ด้วย
     

แชร์หน้านี้

Loading...