-> ตีแผ่ --> สมเด็จวังหน้า + สมเด็จวัดพระแก้ว + สมเด็จพระธาตุพนม

ใครเก่งคำนวณลองคำนวณอัตรามวลสาร/ครก /จำนวนพระ
คำนวณจำนวนบล็อคพิมพ์ คนพิมพ์ / พระที่พิมพ์ได้ในแต่ละวัน
คำนวณพื้นที่ของกระด้ง หรือวัสดุที่ใช้ตากพระ / พื้นที่ที่จะวางตาก
คำนวณขนาดขององค์พระ / พื้นที่ของลังหรือวัสดุบรรจุก่อนลงกรุ
คำนวณหาน้ำหนักพระของลังแต่ละใบที่บรรจุพระว่าหนักเท่าไหร่
คำนวณพื้นที่ห้องกรุใต้ดินว่ากว้างยาวขนาดไหน บรรจุได้เท่าไหร่
หากเป็นเพดานโบสถ์จะมากน้อยขนาดไหน คานโบสถ์ พื้นเพดานโบสถ์รับน้ำหนักได้หรือไม่

น่าสนุกดีนะครับ ผมไม่เก่งคำนวณ ใครก็ได้ช่วยสงเคราะห์ที หากเผื่อมีนิทานแตกกรุรอบหน้าเขาจะได้เอาไปปรับปรุงใหม่ให้สมจริงสมจังกว่านี้

 

มันก็น่าแปลกนะครับ งานบูรณะของทางราชการกลับไม่มีการค้นพบพระสมเด็จวังหน้า เลย แต่กลับถูกลักลอบขนออกไปจนหมด จากที่ว่าพระมีเป็นแสนองค์ งงงงงงง????? มาก ๆ ครับ อยากรู้จริง ๆ ครับ ว่านายทหารท่านนี้เป็นใครกัน ถือว่าสุดยอดมาก ขนออกไปเป็นแสน ๆ องค์ โดยไม่มีใครตรวจพบ ยิ่งอ่านยิ่งงง ครับ แถมข่าวเขาว่ามีบรรจุในเพดานโบสถ์ วัดพระแก้ว พระระดับเป็นหมื่น ๆ องค์ ทำไมถึงไม่พังทะลายลงมา
ผมแค่คนมาหาข้อมูล ยิ่งอ่านก็ยิ่งงง อยากได้ข้อมูลแท้ ๆ จริง ๆ ครับ ว่านายทหารที่ขนออกมานั้นต้องระดับไหน ยศอะไร ทำไมถึงกล้าทำอะไรที่มิบังควร ลบหลู่เบื้องสูง ได้ถึงขนาดนี้ ถ้ามีจริงเท่ากับว่า ขโมยสมบัติของชาติเลยนะครับ

 

ลองคิดเล่น ๆ ครับ ภาพก็ยืมภาพเขามาประกอบ แม่พิมพ์พระ / ครกตำมวลสาร

ตำมวลสาร 1 ครก จะได้ก้อนใหญ่ขนาดไหนจึงจะกดพระได้ทันโดยมวลสารไม่แห้งจับตัวแข็งก่อนกดเสร็จ/องค์

ถ้าหนึ่งครกได้มวลสารสำหรับกดพระ 20 - 50 องค์ กดพิมพ์พระแกะพระออกจากพิมพ์ทำความสะอาดพิมพ์จนกดพระใหม่ ตก 3 นาที/องค์ ถ้าทำพระตั้งแต่หกโมงเช้าถึงหกโมงเย็นก็ 12 ชั่วโมง คิดเป็นนาทีได้ 720 นาที หาร 3 = 240 องค์ หมดมวลสารไป 5 ครก

ถ้าแม่พิมพ์ 50 บล็อค คนกด 50 คน 50x240 = 12,000 องค์ / วัน มวลสาร 250 ครก

ถ้าพระ 2,000,000 องค์ หารด้วย 12,000 = 167 เป็นจำนวนวันกดพระโดยประมาณ

ระยะ 167 วัน กับกระด้งตากพระ 12,000 องค์/วัน โดยประมาณจะไม่มีใครรู้เห็นเชียวหรือ

นี่คิดแบบระดมพลสร้างโดยไม่มีกำหนดฤกษ์ยามแล้วถ้าสร้างตามแบบโบราณราชประเพณีมีพิธีกรรมกำหนดฤกษ์ยามในการกดพิมพ์พระ

ถ้ามีการกำหนดฤกษ์สร้างพระด้วยแล้ว ฤกษ์ดี ๑ วันมีเท่าไหร่ กดได้กี่องค์ ใช้เวลากี่วัน กี่ปีจึงจะได้ 2,000,000 องค์

 

ตามหลักเหตุและผลเป็นไปได้ยากมาก..พระจำนวน.เยอะมากๆจะปกปิดกันได้หมด..และการขนของจำนวนเยอะจาขนคนเดียวหมดรึ ถ้าทยอยขน..กี่วันจะไม่มีคนเห็นรึ..ไหนรุ้แม้กะทั้งคนสร้าง...

1ถ้าไม่มีหลักฐาน..บันทึกใว้..ก็นั่งเทียนเขียน

2ต้องอยู่ในเหตุการณ์สมัยนั้นถึงรู้ได้..แต่มันผ่านมากีาปีท่าน.อายุยืนขนาดนั้นเหรอ


3..นอกจากท่าน.สนิทกัลโดเรม่อน..นั่ง..ะไรนะที่เขาเรียกกัน..ไทม์แมชชีนเหรอ..นั่งไป

ฝากใว้ข้อคิด

 

ทุกอย่างต้องมีที่มาที่ไป ชัดเจน ครับ ไม่ใช้ เอานิทาน มาบอกต่อครับ ทำให้ผิดเพี้ยนน

 

คุณpeetบอกว่าพระกริ่ง 500องค์คิดเป็นน้ำหนักทองราวๆ 1500 บาท เฉลี่ยคือหนักองค์ละ 3บาทแต่พระที่คุณว่าคงไม่ใช่โลหะทั้งหมด งั้นผมขอคิดแบบถัวเฉลี่ยง่ายๆว่า พระหนักองค์ละ หนึ่งบาท หรือ 15กรัม สองล้านองค์ ก็เท่ากับ 30,000 กิโลกรัม หรือ เท่ากับ 30ตันครับ น้ำหนักขนาดนี้จะเก็บไว้ตรงไหนได้ครับ สงสัยจัง แล้วเวลาขนออกมานี่ต้องใช้รถอะไรขนล่ะครับ รถpickup ก็บรรทุกได้แค่ 1ตัน หรือว่าใช้สิบล้อ แล้วนายทหารต้องเกณฑ์ ไอ้เณร มาช่วยขนกี่สิบคนถึงจะขนได้หมดในเวลาสั้นๆช่วงกลางคืน ถ้าจะให้ดีถ้าคุณมั่นใจข้อมูลเรื่องนี้ก็ เปิดเผยมาเลยครับ ว่า นายทหารคนที่ว่านี่ชื่ออะไร ยศระดับไหน สังกัดหน่วยไหน มีข้อมูลอยู่ไม่ใช่หรือครับ กล้าๆหน่อยครับ

 

นายมะโนโอ้อวดบอกว่าแอบขนใส่กะติบข้าวของคนงานอิสานออกมาครับ55555555555555...ดูสิมันยังโยนการกระทำที่บัดซบระยำตำบอนอย่างนี้ไปให้คนงานอิสานว่าเป็นผู้ขโมยออกมา ไอ้คนคิดอย่างนี้มันชั่วมันเลวจริงๆ

 

ร้องเรียนครับ ลบของผมแต่ไม่ลบข้อความนี้ ขอให้ลบด้วยครับเพื่อลดการขัดแย้งครับ

 

อย่าว่าแต่เหล็กหรือโหหะอะไรเลยครับ แม้แต่ก้อนอิฐหินดินปูนที่จะเอามาสร้างป้อมค่ายคูประตูกำแพงพระนครยังต้องเกณฑ์คนถ่อเรือให้ขึ้นไปรื้อเอา อิฐหินดินปูนป้อมค่ายคูประตูกำแพงเก่ากรุงศรีอยุธยามาสร้างเลยครับ ถ้ามีแร่เหล็กมีโลหะมากมายขนาดนั้น กลมพระราชวังบวรวิไชยชาญ วังหน้าท่านคงไม่เอาโลหะเหล่านั้นมาสร้างพระรูปพระหล่อหรอกครับ แต่จะเอาไปสร้างเรือและสร้างปืนหรือสร้างเครื่องจักรกลมากกว่า เพราะว่าวังหน้าท่านมีความรู้ความสามารถแตกฉานในสรรพวิชาวิทยาการสมัยใหม่แบบตะวันตก พระองค์มีความสามารถเล่นแร่แปรธาตุได้จนเป็นที่ยอมรับนับถือของชาวต่างชาติ.....

 

ถ้าใส่กระติบข้าวที่ทำจากไม้ไผ่สาน 1 กระติบใส่ได้กี่องค์
พระ 500000 - 1000000 องค์ถ้าคนเดียวขน ต้องเดินกี่เที่ยว
เดินเข้าเดินออกเป็นระยะทางเท่าไหร่ พระจึงจะหมด
พระเป็นล้านองค์ คนรอบข้างจะไม่เห็นเชียวหรือ

ถ้าขนกันเป็นขบวนการ 100 คน ถือกระติบข้าวเดินเข้าเดินออก
งานการไม่ทำเพราะมัวแต่ขนพระ ตำรวจวัง ทหารเฝ้าประตูไม่สงสัยหรือ
ขนออกมาจะเอาไปกองไว้ตรงไหนจึงจะเก็บงำได้มิดชิด
ขนตอนกลางคืนยิ่งเป็นไปไม่ได้ เขตพระราชฐานไม่ใช่สวนสาธารณะ
ที่จะเดินเข้าเดินออกได้เป็นว่าเล่น

ลองคิดดูว่ากระติบข้าวใบขนาดไหนที่คนงานพกไปด้วย และทำวิธีไหนจึงจะใส่พระออกมาได้ถึงล้านองค์ โดยที่คนไม่สงสัย

 

เครื่องตรวจ X-ray Fluorescence XRF

ขอดูใบตรวจค่า ของ สถาบัน ที่ คุณ ได้ ทำการ ตรวจ ค่า XRF หน่อยครับ ว่ามาจาก สถาบัน ที่เชื่อถื่อได้หรือไม่ เพราะ ผม เคยได้ยิน พี่ ชายเพื่อนบอกมาว่า รับตรวจ ค่า ความเก่า หรือ ค่า เงิน ทอง แต่สุดท้ายไปสถานที่ ให้ตรวจ กลับเป็นตึก แถว ธรรมดา โดยพี่ชายเพื่อน ยินยอมที่ จะจ่าย ค่าตรวจ หา แต่ ขอไปดู อุปกรณ์ ที่ มิจฉาชีพ กล่าว อ้าง ว่ามีจริงหรือไม มิจฉาชีพ กลับไม่ให้ดู อ้างว่า เป็นเครื่องราคาแพงมาก .........

ผมกลัวคุณโดน ต้มตุ๋น จาก พวก นี้ครับ จะได้ตื่นจากความเป็นจริงสักที ครับ

สถาบันที่ เชื่อถือ ได้

X-ray Fluorescence XRF

 

เพิ่มเติมครับ การตรวจค่า หามวรสาร ต้องละลาย ด้วย

ข้อมูลจำเพาะของเครื่อง XRF

ยี่ห้อ HORIBA รุ่น MESA-500WPeriodic05
Detector เป็น High purity Si dope Li (หล่อเย็นด้วยไนโตรเจนเหลว)
สามารถวิเคราะห์ ธาตุได้ตั้งแต่ Na - U
สามารถเลือกสภาพแวดล้อมในการทดสอบ ได้สองแบบ คือ Vaccuum และ Air
สามารถวิเคราะห์ได้ทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ (ในกรณีวิเคราะห์ิเชิงปริมาณ สามารถทำการทดสอบได้ทั้งแบบใช้และไม่ใช้สารมาตรฐาน)

เครื่อง XRF แม้ว่าจะสามารถวิเคราะห์ตัวอย่างได้ในหลายรูปแบบ แต่ตัวอย่างที่เหมาะสมที่สุด ก็คือ ตัวอย่างที่อยู่ในรูปของแข็ง และสามารถทนต่อสภาพ Low Pressure หรือ Vaccuum ได้ ดังนั้น ในกรณีตัวอย่างที่เป็น Powder ต้องทำการอัดขึ้นรูปเป็นเม็ด โดยต้องมีขนาดไม่น้อยกว่า 20mm (ด้านกว้าง - ยาว หรือ เส้นผ่าศูนย์กลาง) และต้องมีขนาดไม่เกิน 15cm หนาไม่เกิน 7.5cm (สำหรับตัวอย่างที่เป็นทรงกระบอกนะครับ) ในกรณีที่ ตัวอย่างอยู่ในรูปของแข็ง ด้านที่ต้องการทดสอบ ต้องขัด หรือ ทำให้เรียบ

ตามเวปที่ แนบมาครับ
X-ray Fluorescence XRF

ถ้าคุณจะเอาพระที่คุณรักมากแล้วโดน ขูดหรือ ทำให้พระชำรุด คุณจะยินยอมไหม ใน ตรรกะ ง่าย ครับ สำหรับคนชอบ สะสมของเก่าครับ เพื่อ ได้ค่าที่ชัดเจน แม้นยำ ของค่าตัวเครื่องที่คำนวนออกมา ได้ครับ

ผมกลัวคุณโดน ต้มตุ๋น จาก พวก นี้ครับ จะได้ตื่นจากความเป็นจริงสักที ครับ

 

จำนวน400,000 500,000 อัน มันไม่ได้อยู่ที่บ้านใครอย่างที่นายมะโนโอ้อวดเพ้อเจ้อหรอกครับ แต่มันคือจำนวนพระเก๊ที่มีอยู่ที่ท่าพระจันทร์นั่นเองครับ ถ้านับรวมที่อื่นๆก็มีเป็นล้านๆอัน อย่างไม่ต้องสงสัย ลองเข้าไปดูในเวปขี้โม้โอ้อวดโชว์โง่อวดพระกริ่งพระชัยวัฒน์ประจำรัชการดูสิครับ จะรู้ว่าของพวกนี้เอามาจากใหน...

 

สรุปแล้ว คือ

มี ป้าคนหนึ่ง (คงอยู่ใน "กลุ่มผู้ผลิตพระเก้ ") ทำการผลิตพระเก้ไว้มาก แต่ นิยายหลอกขายพระเก้ เวอร์ชั่นแรก โดนน๊อคไปแล้ว แต่ยังเหลือพระเก้ตกค้างอยู่อีกเยอะ(เป็น 400,000-500,000 องค์) จึง สร้างนิยายหลอกขายพระเก้ เวอร์ชั่นที่สอง ออกมาใหม่ โดยนำเอาภาพนายทหารบางนาย(ที่เป็นใครก็ไม่รู้) มาประกอบการเล่านิยายสร้างความน่าเชื่อถือ หลอกขายพระเก้ให้แก่ นักสะสมที่โง่เขลาเบาปัญญา คนหนึ่ง

ช่างไร้สาระ น่าสงสาร น่าสมเพช จริงๆๆ

เชื่อไปได้ยังไง....?????
ใช้รถบรรทุกขนพระเครื่อง 2,000,000 กว่าองค์ ขับออก ประตูพระราชวัง ผ่านสารวัตรทหารเวรยามที่ยืนเฝ้าประตูไม่รู้กี่ด่านต่อกี่ด่าน สารวัตรทหารไม่รู้กี่คนต่อกี่คน ออกมาได้โดยไม่มีใครจับผิดได้ เอาเป็นว่า
"แค่คิด" ก็เป็นการคิดทำการหมิ่นเบื้องสูง แล้ว

ไม่ปัญญาอ่อน ก็ โง่เขลาเบาปัญญา จริงๆ..

ต่อไปผมก็จะไม่ข้องแวะ..กับนักแถ..กับนักมโน..โอ้อวด...
เพื่อตัวผมเองจะได้ “ปลอดภัยไร้กังวล”ทุกกรณี...
(ตามคำแนะนำของ นายรู้ลึก แสนชัดลึก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์)

.

 

การบูรณะวัดพระศรีรัตนศาสดาราม

h ttp://kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/book.php?book=16&chap=1&page=t16-1-l1.htm

ดังความปรากฏ ในคำกราบบังคมทูลรายงานการบูรณะปฏิสังขรณ์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระบรมมหาราชวัง ตอนหนึ่งว่า

"ครั้งถึงปลายปีพุทธศักราช ๒๕๒๓ ใกล้เวลาที่จะมีการสมโภชพระนคร จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งให้ข้าพระพุทธเจ้า เป็นประธานกรรมการอำนวยการบูรณะปฏิสังขรณ์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระบรมมหาราชวัง ฉลองพระเดชพระคุณ คิดการดำเนินการให้แล้วเสร็จบริบูรณ์ ทันการกำหนดสมโภชพระนครให้จงได้"

การบูรณปฏิสังขรณ์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม แล้วเสร็จสำเร็จทันการฉลองสมโภช ๒๐๐ ปีกรุงรัตนโกสินทร์นี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้กราบบังคมทูลรายงานการบูรณะ ตอนหนึ่งว่า "กรมศิลปากร ตลอดจนผู้มีหน้าที่รับผิดชอบดำเนินการ และเหล่าช่างนายด้านทำการได้ลงมือ ปฏิสังขรณ์ตามโครงการแต่เดือน ๙ ปีมะเส็ง นพศก จุลศักราช ๑๓๓๙ ตรงกับพุทธศักราช ๒๕๒๐ สืบมาจนถึงวันขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๕ ปีจอ จุลศักราช ๑๓๔๓ ตรงกับพุทธศักราช ๒๕๒๕ ประมวลเวลาที่เหล่าช่างและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ได้ทำการมาด้วยความวิริยะอุตสาหะยิ่ง เป็นเวลาถึงกว่า ๔ ปี สิ้นเงิน ๓๕๐ ล้านบาท การแล้วเสร็จทุกสิ่งสรรพ สมดังพระราชประสงค์ทุกประการ"

นายทหารยศสูง ผู้ควบคุมงาน
ท่านอยู่ไหน??????​

.

 

pmorn เคยไปเที่ยวในวัดพระแก้วไหม ตอบมาก่อนแล้วจะอธิบายอะไรให้ฟัง

 

คุณไม่มีความรู้เรื่องการสร้างพระเลยนะ เรื่องจำนวนพระที่จะสร้างได้ในแต่ละวัน เรื่องพระกี่องค์จะเก็บในภาชนะอะไรจะใส่ได้กี่องค์ เวลาตากพระจะทำให้แห้งต้องใช้พื้นที่ตากพระเท่าไร ไว้ผมจะสงเคราะห์ให้ฟัง

 

เอาล่ะ
ผมจะสงเคราะห์เด็กที่ไม่ตั้งใจเรียนในสมัยอยู่ในวัยศึกษา วิชาการคำนวนมันไม่ได้ยากมากมายอะไรเลย ยิ่งการคำนวนแบบพื้นๆเด็ก ป.๔ ก็คำนวนเป็น

เนื่องจากพระพิมพ์แบบสมเด็จเป็นพระที่มีจำนวนมากที่สุดในกรุวัดพระแก้ว ดังนั้นผมจะคำนวนโดยอ้างอิงจากขนาดของพระสมเด็จเป็นหลัก

รูปที่ 1 ขนาดของพระสมเด็จทั่วไป
พระสมเด็จมีขนาดโดยเฉลี่ยที่กว้างคูณยาวคูณหนา ที่ประมาณ 2.5 cm x 3.7 cm x 0.5 cm
ดังนั้นพระสมเด็จจะมีปริมาตรที่องค์ละ 4.6 ลูกบาศ์กเซ็นติเมตร
ผมเคยนำพระสมเด็จทั่วไปๆชั่ง พระสมเด็จองค์หนึ่งหนักประมาณ 10 กรัม

ทีนี้ลองมาคำนวนดูว่าพระสมเด็จ 100,000 องค์ต้องใช้ภาชนะในการเก็บประมาณเท่าไร
พระสมเด็จแสนองค์มีปริมาตร 100,000 x 4.6 ลูกบาศ์กเซ็นติเมตร คือ 460,000 ลูกบาศ์กเซ็นติเมตร
หรือคิดเป็นลูกบาศ์กเมตรคือ 460,000 x 10-6 ลูกบาศ์กเมตร คือ 0.46 ลูกบาศ์กเมตร
สำหรับผู้ที่ไม่ตั้งใจเรียนคงนึกขนาด 1 ลูกบาศ์กเมตรไม่ออก ผมจะยกตัวอย่างให้ดู 1 ลูกบาศ์กเมตรคือน้ำประปา 1 ยูนิต หรือ 1 คิว (ซึ่งย่อมาจากคิวบิกเมตรนั่นเอง) น้ำ 1 คิว กระประปาขายให้ประชาชนทั่วไปที่ คิวละ 10.50 บาท

ปริมาตร 1 ลูกบาศ์กเมตรคือปริมาตรเท่ากับกล่องขนาด ยาว 1 เมตร กว้าง 1 เมตร และสูง 1 เมตร จะเห็นว่าเป็นภาชนะขนาดเท่ากับหีบใบหนึ่งๆเท่านั้นเอง
รูปที่สอง แสดงหีบไม้โบราณ ซึ่งมีขนาดประมาณ 1 ลูกบาศ์กเมตร
คราวนี้ถ้าเรียงพระสมเด็จใส่หีบโบราณจะได้ซักกี่องค์
หีบโบราณมีปริมาตร 1 ลูกบาศ์กเมตร พระสมเด็จ 1 องค์มีปริมาตร 4.6 x 10-6 เมตร
ดั้งนั้น 1 หีบจะบรรจุพระสมเด็จได้ 1/ 4.6x10-6 = 217,391 องค์
แต่เวลาเรียงพระสมเด็จใส่หีบคงต้องมีช่องว่างบ้าง สมมุติให้มีช่องว่างประมาณ 20 % ดังนั้นจะเรียงพระได้
217,391 x 0.8 = 173,913 องค์
คงเห็นภาพคร่าวๆแล้วใช่ไหมว่าหีบ 1 หีบเก็บพระเต็มๆได้ประมาณ 170,000 องค์
พระ 400,000-500,000 องค์เก็บในหีบโบราณก็ใช้ประมาณ 3 หีบเอง
คนไม่ตั้งใจเรียนคงนึกว่าต้องใช้รถ 10 ล้อขนเป็นร้อยๆเที่ยวเลยมั้ง

ลองมาคำนวนพื้นที่ที่ใช้ตากพระดูบ้าง มีบางคนที่ตอนเด็กๆไม่ตั้งใจเรียนบอกว่าต้องใช้พื้นที่เท่าสนามฟุตบอล
ตามรูปที่ ๓ ขนาดสนามฟุตบอลแบบมาตรฐาน

ขนาดสนามฟุตบอลโดยเฉลี่ยมีขนาดกว้าง 80 เมตร ยาว 100 เมตร ดังนั้นขนาดสนามฟุตบอลคือ 8,000 ตารางเมตร
พระสมเด็จ 1 องค์มีขนาด 2.5 x 3.7 cm2 นั่นคือมีพื้นที่ 9.25 cm2
ดังนั้นสนามฟุตบอล 1 สนามตากพระสมเด็จได้ 8,000 / 9.25x10-4 องค์ = 8,648,648 องค์
แน่นอนไม่มีใครเรียกพระสมเด็จชิดกันขนาดไม่มีช่องว่างได้ ผมให้มีช่องว่างประมาณ 20% ดังนั้นจะเรียกพระสมเด็จได้ 8,646,648 x 0.8 = 6,918,919 องค์ หรือปัดเศษเป็น 7 ล้านองค์
คราวนี้มาดูเรื่องน้ำหนักกันบ้าง พระสมเด็จ 1 องค์หนักประมาณ 10 กรัม
พระสมเด็จ 100,000 องค์หนักประมาณ 100,000x 10 g = 1,000,000 กรัม หรือ 1,000 kg หรือ 1 ตัน
พระสมเด็จแสนองค์หนัก 1 ตันครับ พระสมเด็จ 1 ล้านองค์หนัก 10 ตันครับ
ดังนั้นป้าท่านนั้นที่รับซื้อมาจากนายทหารก็บรรทุกใส่รถ 6 ล้อมาเที่ยวเดียวครับ คือประมาณ 5 ตัน ถ้าเป็นรถ GMC ของทหารจะบรรทุกได้ 20 ตันก็จะบรรทุกได้ 2 ล้านองค์ต่อ 1เที่ยว
จะเห็นว่าการขนพระออกม 2 ล้านองค์ใช้รถแค่เที่ยวเดียว ไม่มีอะไรมากมาย ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต

ว่าด้วยเรื่องปูน
ปูน 1 ถุงหนัก 25 กิโล หรือถ้าจะใส่กระสอบก็หนักประมาณ 100 กิโล
ดังนั้นสร้างพระสมเด็จ 1 ล้านองค์ใช้ปูน 10 ตัน เท่ากับใช้ปูน 100 กระสอบ
(คนไม่ตั้งใจเรียนเอามาจากไหน 10,000 ถึง 100,000 กระสอบ)
ปูน 100 กระสอบใช้พื้นที่จัดวางนิดเดียวถ้าวาง 10x10x10 ก็จะใช้พื้นที่ประมาณ 8 เมตร x 12 เมตรเอง เท่ากับห้องนอนใหญ่ๆห้องเดียว

อีกประเด็นหนึ่งที่คนไม่ตั้งใจเรียนคิดว่าคงจะสร้างพระในกรุวัดพระแก้วคงจะสร้างในคราวเดียวกัน 2 ล้านองค์ ผมได้เคยกล่าวไว้แต่เดิมว่าพระนั้นทยอยสร้างมาตั้งแต่รัชกาลที่ ๓ รัชกาลที่ ๔ รัชกาลที่ ๕ จนถึงรัชกาลที่ ๗ สร้างมากสุดคือรัชกาลที่ ๕ และรัชกาลที่ ๔ ตามลำดับ
สมัยรัชกาลที่ ๔ นั้นมีการสร้างพระโดยวังหน้าด้วย แต่พระวังหน้าส่วนใหญ่จะถูกขนออกมาไว้ที่วัดพระแก้วคราวรื้อเจดีย์พระธาตุพนมจำลองและคราวที่นำวังหน้ามาเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติในสมัย ร.๕
พระไม่ได้สร้างคราวเดียวกัน 2 ล้านองค์หรอก ผมไม่รู้หรอกว่าในวัดพระแก้วมีพระพิมพ์อยู่กี่องค์แต่ประเมินจากคำบอกเล่าคาดว่าคราวที่ขนออกมาคือขนออกมาได้ประมาณ 2 ล้านองค์
ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมประเทศมันถึงไม่เจริญ เพราะว่าคนไทยอ่านหนังสือไม่แตก คำนวนไม่เป็น ตรรกะบกพร่องกันมากมายนี่เอง

 

เด็กน้อยเอ๋ย เมื่อเจ้ายังจ้อยเร่งศึกษา เมื่อเติบใหญ่ก็จะได้มีวิชา
เป็นเครื่องหาเลี้ยงชีพสำหรับตน

ไปศึกษามาใหม่นะ เครื่อง XRF น่ะมันทำงานยังไง ตรวจด้วยเทคโนโลยีอะไร ตรวจจริงๆน่ะแป๊บเดียว ชิ้นงานตัวอย่างก็ไม่ถูกทำลาย เครื่องทั้งชุดสามารถวางบนโต๊ะได้ตัวเดียว ราคาปัจจุบันถูกลงมากแล้ว ที่สำคัญยังมีแบบมือถืออีก

 

ถ้าเป็นหีบไม้ผมคิดว่าคงไม่ใช้หีบขนาด 1x1x1 เมตร หรอกครับ ลองนึกถึงเวลาจัดเรียงคงลำบากพิลึก ยกเว้นว่าจะเอามาเทลงไปเลย ซึ่งก็ไม่น่าจะทำแบบนั้นเพราะพระไม่ใช่ข้าวสารหรือข้าวเปลือก อีกอย่างนึง ถ้าใส่พระ 170,000 องค์ น้ำหนัก 1,700 กก. คงไม่สะดวกในการขนย้าย
อีกสิ่งที่น่าสงสัยคือ พระมากมายขนาดนั้นทำไมเจ้าหน้าที่ กรมศิลปากร ที่เข้าไปทำงานจึงไม่ทราบ หรือพบเห็นของเหล่านี้กันบ้าง แล้วทางสำนักพระราชวังไม่มีการไปแจ้งความบ้างหรือ สมบัติของชาติถูกลักลอบนำออกไปมากมายตั้งขนาดนั้น