บทความ...กระดานเล่าสู่กันฟัง

เอิ่บ....เราไม่มีเจ้ากรรมนายเวรมาบอกอะไรอ่ะ มีแต่องค์แม่หรือไม่ก็ครูบาอาจารย์มาบอกเรื่องข้อธรรม แต่เดี๋ยวนี้มีแต่เราไป ไปทุกคืนเลย ไปเห็น ไปรู้ เหมือนไปโปรด

ไปรู้ไปเห็นก็พวกอวิชชาทั้งหลายในกลุ่มสังคมที่เราเข้าไปคลุกคลี ท่านก็จะให้ได้รู้ว่ามีใครบ้าง มีลักษณะเป็นอย่างไร ใช้วิชาอะไร แต่พวกเค้าเหล่านั้นไม่ได้คิดมาทำอะไรเราหรอก เอ๊ะ! หรือว่าคิด (ก็ไม่รู้เหมือนกัน) เราเห็นพวกเค้าจับกลุ่มปรึกษาหารือกันว่าเอายังไงดี

คนพวกนี้จะมีเป็นกลุ่มๆ นะ มีตั้งแต่ระดับต่ำๆ ไปจนถึงพวกยอดวิชา 555

ระยะสองสามวันมานี้ รู้สึกหงุดหงิดง่ายจากการไปกระทบกระแสไม่ดีต่างๆ มา ไม่ได้นั่งกรรมฐานนานแล้ว มีแต่นอนสมาธิ (ขี้เกียจอ่ะ) มัวแต่ไปดูคนอื่น ลืมดูตัวเอง (แย่จัง) :'(

 

23 กรกฎาคม 2014 19:55

O......สวัสดีค่ะขอบคุณทื่รับเป็นเพื่อนนะคะ
N......ยินดีค่ะ
O......ดีใจที่รู้จักนะคะ เรียกอะไรก็ได้เนาะรู้จักกันเเล้วมีอะไรเเลกเปลื่ยนสนทนากันค่ะ
N......อยู่ต่างประเทศหรือคะ ยินดีแลกเปลี่ยนตามภูมิที่มีอยู่ค่ะ
O......ค่ะมาตั้งเเต่อายุ12ค่ะตามคุณเเม่มาเรียนหน้งสือ
N......ตอนนี้ก็เป็นชาวต่างชาติไปเลย
O......5555ไม่หรอกค่ะ พอมามีลูกมีสามีอยู่กันมา26ปืละ
N......ยินดีด้วยค่ะ
O......เลยไม่ได้ไปไทยคุณเเม่เป็นพยาบาลทำงานที่อเมริกานี่หละค่ะตอนนื้เเก่ละ80ปื
N......ว้าว ดีจัง ยังมีญาติๆ อยู่ที่ไทยหรือเปล่าคะ
O......มีนะคะน้าสาวน้องเเม่อีก2คนก็เเก่อิอิ ทำไมคุณน้องเศร้า
N......เอ๋า เศร้ายังไง
O......พี่สัมผัสบางอย่างเกี่ยวก้บสุขภาพคุณขอโทษนะคะถามมากไป
N......ไม่เป็นไรค่ะ ยินดีรับฟัง บอกมาเถอะค่ะ
O......ถ้าใช่จะได้บอกต่อเพราะเเค่สัมผัสเฉยๆ
N......บางทีน้องก็ไม่รู้ตัวค่ะ บอกได้เลย
O......อาจจะผิดก็ได้มันเกี่ยวก้บระบบในช่องท้องหน้าอกหายใจติดขัด
N......อืม น้องหายใจเบาๆ มันเป็นเอง เหมือนไม่หายใจ
O......ใช่ ท้องอืดบ่อย เเกสเยอะ
N......มีลมในท้องเยอะหรือคะ
O......ค่ะ
N......วันๆ ไม่ได้อ้าปากเลยอ่ะ
O......และบางช่วงถ้าไม่สบายใจกะคนในบ้านท้องจะมีลมเยอะ มันจะอึดอ้ด
N......อืม ปกติน้องสบายใจดีนะคะ เหมือนอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีใครมายุ่งวุ่นวายด้วยค่ะ ไม่นะ พี่
O......เเปลกพี่ทำไมสัมผัสเเบบนื้
N......งง
O......ตอบไม่ได้เลยว่าทำไม
N......อ้าว
O......จริงค่ะจิตมันบอกเเบบนื้
N......น้องแข็งแรงดีค่ะ ไม่เคยป่วยเลย แต่ท้องอืดเนี่ย มันเป็นยังไง น้องไม่อึดอัดในท้องเลยนะ
O......คุณน้องมีองค์หรือเปล่าคะ
N......แม่น
O......เเปลว่าอะไร
N......มีธาตุลมเยอะ
O......สงสัยว่าคุณน้องไปรักษาใครมาปะคะ
N......น้องมีญาณของพระแม่อุมาค่ะ รักษาอะไร
O......สาธุค่ะสาธุ
N......แต่น้องไม่ได้เป็นร่างทรง

 

O......เพราะพี่ไม่สามารถเห็นคุณในจิตได้เเต่สัมผัสพลังบางอย่าง
N......ค่ะ
O......มีพลังทื่หน้าผากด้วยอ่ะ
N......ค่ะ
O......ชัดจริงๆสาธุค่ะ ทราบเเต่ว่าพลังของท่านเข้าออกที่หน้าผาก ไม่เลย เพราะพี่มีพลังจิตสัมผัสค่ะ
N......เข้าออกทางกระหม่อมค่ะ น้องจะรู้เวลาที่ญาณเข้าออก
O......เเล้วถ้าท่านไม่ช่วยคนท่านมาทรงญานเข้าร่างทำไม
N......ไม่มีหน้าที่อย่างอื่น นอกจากเผยแพร่ธรรม องค์แม่คือน้อง แต่น้องไม่ใช่องค์แม่ งงมั้ยคะ
O......ไม่งง เข้าใจค่ะ ท่านงดงามเห็นละ ผมท่านยาวสวยนะ
N......น้องช่วยได้เฉพาะกับคนที่ขอร้องให้ช่วยเท่านั้น เพราะหน้าที่ๆ แท้จริงของน้องคือบำเพ็ญเพียรเพื่อโปรดสัตว์ในอนาคต
O......พี่คงเคยรู้จักคุณมาถึงได้มาพบเจอคุยกัน
N......น้องก็ว่างั้น ไม่อย่างนั้น พี่คงไม่ขอแอดน้องมา กระแสแห่งองค์แม่ดึงเข้ามาให้รู้จักกัน
O......พี่จะเลือกเฉพาะคนที่คุยธรรมะอ่ะค่ะ มันรู้สึกถูกใจตอนอ่านข้อความของคุณที่อธิบายเลย
N......ปกติ น้องไม่ขอแอดใครเลยนะคะ แล้วก็จะไม่รับแอดใคร ถ้าน้องไม่แน่ใจ
O......ขอบคุณค่ะ
N......แต่น้องอ่านตัวหนังสือของพี่ แล้วสัมผัสได้ถึงความเยือกเย็น เป็นสมาธิ จิตใจดี
O......เมื่อก่อนเฟสพี่จะมีเเต่หมาๆอิอิเพราะพื่ช่วยหมาจรจัดอยู่สัก2ปืเลย
N......น้องไม่ชอบเรื่องร่างทรงค่ะ เพราะทำให้คนหลงทาง
O......จริงค่ะสมัยนี้คนชอบของปลอม ของจริงยากคนไม่ชอบ
N......คนส่วนใหญ่มีความกลัวอยู่ในเชื้อสันดานอยู่แล้ว ขาดความรู้จริง หลงติดอยู่กับมายา แยกแยะเองยังไม่ได้ เพราะขาดปัญญา จึงถูกชักจูงไปในทางมิจฉทิฐิได้ง่ายๆ
O......น่าเวทนาคนพวกนื้ชอบไปเเก้กรรมเสียเงินทำพิธีอะไรวุ่นเลย
N......กระแสกรรมชั่วในอดีตมันดึงกันไปค่ะ ก็จะเป็นอย่างนี้ซ้ำๆ ซากๆ พี่มีญาณที่เกิดจากสมถะสมาธิ คงจะปฏิบัติมานานแล้วเหมือนกัน

 

O......อิอิ ตั้งเเต่อายุ12ปีค่ะ เพราะมันคือทางหลุดพ้นเเก้ปัญหา
N......นั่นไง เชี่ยวชาญแล้ว
O......ไม่ค่ะไม่เลย ต้องทำไปจนกว่าจะหมดอายุไข
N......พี่นิ่งสงบมากค่ะ ใจใส
O......ไม่หรอกบางวันกิเลสมันมาเเทบเอาไม่อยู่ เเต่พี่พยายามค่ะมองกิเลสให้ออกช้าบ้างไวบ้างว่ากันไป
N......ธรรมดาค่ะ ยังไม่หมดจด ก็ยังต้องเพียรละกันต่อไป ให้รู้ทันก็ถือว่าสุดยอดแล้ว
O......ใจเราเนาะต้องเฝ้าดูไม่งั้นมันเหลิง
N......แม่นค่ะ
O......เผลอทีไรมาเลยมาร
N......ใช่ค่ะ มันจ้องเราอยู่ทุกขณะ ยิ่งนักปฏิบัติด้วยแล้ว ยิ่งต้องระวังให้มาก
O......ใช่เลยมันมายกกำล้ง10เลย5555
N......พี่...ตามมันไปหรือเปล่าอ่ะ
O......ไม่เลย
N......ดีค่ะ
O......เเค่รู้ว่ามารมานะสติๆอย่าหลุด เเต่หลุดบ่อยเเต่ไม่นาน มีเเต่ตัวรู้ตัวเห็นมาเป็นพักๆ ดูไรล่ะ ดูไม่เป็น
N......ดูจิตตัวเองไง
O......ดูเห็นเเต่สีจิต มองจิตคนอื่นก็ได้ของคุณมีพลังพิเศษสีฟ้าด้วยนะ
N......พี่...ปฏิบัติสายพุทโธหรือเปล่าคะ
O......ใช่ค่ะ เเต่เดี๋ยวนื้เลิกคำบริกรรมเเล้วเเต่วางจิตก็ได้เเล้ว พี่เคยเรียนกะพระฤษีด้วย
N......น้องปฏิบัติมาตั้งแต่ 10 ขวบ สายพุทโธนี่แหละค่ะ แล้วก็เจริญวิปัสสนาตอนอายุยี่สิบกว่าๆ
O......สาธุๆดีจัง พี่มีอะไรกะชาวอินเดียนะเคยเรียนกะพวกอินเดียค่ะ
N......สายฤาษี จะเก่งด้านฌาน
O......เขาเคยให้พรพี่ ใช่ค่ะ หลังจากที่เรียนกะพวกเขา4วันเองได้ณานเลย
N......ถึงว่าซิ พี่นิ่งจังเลย จิตเป็นฌาน อยู่ในฌานตลอดเวลา
O......ไม่หรอกไม่นิ่งมาก
N......เวลาหลับจิตตื่นตลอด น้ำนิ่ง ด้านบนราบเรียบค่ะ แต่ภายในมีกระเพื่อมบ้างเป็นบางครั้ง

 

O......อิอิ
N......แต่ถือว่าดีกว่าคนอื่นๆ ที่น้องรู้จัก
O......ยอเกินไป
N......จริงค่ะ ไม่ได้ยอ
O......คนที่เขาปฎิบัติดีมีอีกมากนะพี่ว่า
N......มีค่ะ แต่ที่เข้าถึงจริงๆ มีน้อย เพราะคนไม่เข้าใจหลงในกิเลส ส่วนใหญ่จะไปติดกันที่เปลือก ติดอยู่ในสภาวะธรรม จึงไม่ก้าวหน้า
O......ที่เราทำเเบบนื้เพราะจะได้มีสติเวลาทุกข์เวทนามา
N......เค้าไปจับกันที่ภายนอก
O......พี่ทำบ้านตัวเองให้เป็นวัดค่ะ
N......พูดเก่งทุกคนเลยค่ะ เป็นนกแก้วนกขุนทอง ถามได้ตอบได้ทั้งนั้น แต่พอถึงเวลาที่ผัสสะมากระทบก็เอาตัวไม่รอด น้องก็ปฏิบัติเองที่บ้านค่ะ
O......ใช่ๆเหมือนกันบางทีก็เเทบตายนะเวลากิเลสมันมา
N......เรียนธรรมะตอนหลับ
O......สุดยอดเลย
N......จิตมันสอน คุยกับตัวเองนี่แหละ
O......จริงๆมันทำงานตลอดเลยเนาะ มีคน2คนในตัวเรา
N......ใช่ค่ะ
O......ไปบอกคนอื่นเขาว่าเราบ้าอ่ะจริงเลย
N......น้องคุยกับตัวเองมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วค่ะ ตอนเด็กๆ น้องไม่ชอบพูดกับใคร พูดกะคนนะเรื่องเยอะ เวลาสงสัยอะไร แค่นึกถามในใจ ก็จะมีคำตอบผุดขึ้นมา มีเเต่คนพูดไม่จริงใจ
O......พี่เหมือนกันเวลาปัญหามาจะรีบๆเเก้ให้จบไม่ให้ยืดเย้อ
N......ไม่ใช่พูดไม่จริง แต่ไม่มีใครที่รู้จริงค่ะ เค้าก็พูดในแง่มุมความคิดของเค้า ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็ล้วนเป็นปุถุชนธรรมดาที่ยังมีรักโลภโกรธหลง มีคติและอคติอยู่ในใจด้วยกันทั้งนั้น
O......จริงเลยค่ะ เเละก็ชอบอวดกัน น่าเบื่อหน่ายมาก
N......น้องมองว่าเป็นธรรมดาของสัตว์โลกที่ชุ่มด้วยกิเลส ตัณหา อุปาทานนะคะ มีเพียงเมตตาให้ สงสารมากกว่าค่ะ
O......ดูๆก็เหมือนเราอยู่ละครโรงใหญ่นะพี่ว่า 555 เราก็แสดงไปตามบทบาท บางทีเล่นเลยบทอิอิ
N......น้องไม่เล่นด้วยหรอก ขอเป็นผู้ดู อิอิ
O......พี่หละเผลอตลอดอิอิ
N......อะไรที่มันหนักและร้อน จะไม่เอามาใส่ใจเลยค่ะ
O......จริงค่ะมันไม่ช่วยให้เราสบายใจเลย พี่จะไปนอนละอิอิพรุ่งนื้เรามาคุยกันอีกนะคะ
N......ระวังรักษาใจอย่างเดียว ฝันดีค่ะ

 

หมกมุ่นด้วยกาม

วันนี้ฟังธรรมพระอริยะเจ้า ท่านกล่าวถึง"ปัจจุบันจิต ปัจจุบันธรรม" เป็นเรื่องของสติปัฏฐานสี่ ทางสายเอกขององค์สมเด็จพระบรมศาสดา อ้าวๆๆๆ แล้วไปเกี่ยวอะไรกับเรื่องหมกมุ่นด้วยกาม

ได้ยินได้ฟังกันมาบ่อยๆ ว่าเสพติดกาม อย่าไปมองว่ากามที่พูดถึงนี้มีแต่เฉพาะกามราคะอย่างเดียว พอพูดถึงวัตถุกาม กิเลสกาม หูยยยยยยยย...มันเยอะนะ ไม่ใช่น้อยๆ เลย จะละยังไงให้ได้หมด ก็ต้องมาพิจารณาถึงปัจจุบันจิต ปัจจุบันธรรม (ย้ำๆๆๆๆๆ) นี่แหละค่ะ

เป็นอันเข้าใจดี........5555555555

 

(kiss)

 

เน็ตกากมว๊ากกกกกกกกกก สุดสโลว์โมชั่นเลย โหลดทีเป็นชาติ ตายแล้วเกิดใหม่ได้ 555

วันนี้จะเล่าเรื่องอะไรดีล่ะ ท่านผู้ชมไม่ค่อยมีคอมเม้นท์เลย นึกไม่ออกบอกไม่ถูก

 

ไปอ่านเจอมาจ้าาาาาาาาา เอามาฝากเพื่อนๆ นักอ่าน กิกิ

อืมแต่ไม่เอามาลงดีกว่า เพราะชอบมีคนมาก๊อปไปตั้งกระทู้

 

บางส่วนจากโอวาทธรรม ของ ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ ที่เกี่ยวกับเรื่องของจิต

ชีวิต และนิพพาน ธาตุขันธ์มีจิตสิงอยู่เรียกว่าชีวิต เมื่อพิจารณาวางตามสภาพได้แล้ว จิตหดหาจิตเดิมเข้า รู้เห็นในปัจจุบันเจริญมหาสติรอบในสติ มหาปัญญารอบในปัญญา

นิพพาน นั้นคือ จิตหดโดยเห็นธาตุ รู้แจ้งธาตุ จิตฐิติภูตัง รู้อยู่นั้น เป็นตัวนิพพาน

วิชชา 3 ของพระพุทธเจ้า ลึกลับสุขุมมาก ในยามที่ 1 พระองค์ทำความรู้เท่าอย่างนั้น ยามที่ 2 พระองค์ทำความรู้เท่าอย่างนั้น ยามที่ 3 พระองค์ ทำความรู้เท่าคือแก้อวิชชาและ ปฏิจจสมุปบาท ในของจิต ในช่องแคบมารแย่งไม่ได้ มีความรู้อันพิเศษขึ้นมาว่า พระองค์เป็นสยมภูความที่ท่านแก้อวิชชาเป็นของขั้นละเอียดยิ่งนัก บุคคลจะรู้เห็นตามนั้นน้อยที่สุด สุดอำนาจของจิต เมื่อกำหนดรู้ลงไปเป็นของว่างหมด ไม่ใช่ตัวตนสัตว์บุคคลเราเขา ไม่ใช่ผู้หญิงผู้ชาย ธาตุสุญโญ เป็นธาตุสูญ แล้วกำหนดจิต รู้จิต ตั้งอยู่ในฐีติธรรม

พระอรหันต์ทั้งหลาย จิตไม่มี มีแต่สติ เพราะจิตสังขารมันเป็นตัวสังขาร สังขารไม่มีในจิตของพระอรหันต์

เหตุผลมาจากความที่เป็นหนึ่งของจิต เป็นเหตุเป็นปัจจัยประกอบกัน จึงตั้งเป็นบทบาทคาถา มีหลายนัย ถึง 84,000อาการ

ธาตุ 84,000 ออกมาจากจิตหมด

ให้รู้ธรรมะและอาการของธรรมขึ้นขั้นละเอียดแล้วจะรู้เองเห็นเอง

ต้องทำจิตให้เป็นเอก ต้องสงเคราะห์ธรรมให้เป็นเอกเสมอ

ให้เป็นมหาสติ มหาปัญญา รอบกาย รอบจิต มรณะร้ายมาถึงแล้ว ต้องเข้าแย่งในช่องแคบ แม้โพธิสัตว์ชนะมาร ชนะในช่องแคบ

 

วิธีปฏิบัติของเหล่าผู้เรียนมาก

ผู้ที่ได้ศึกษาเล่าเรียนคัมภีร์วินัยมาก มีอุบายมากเป็นปริยายกว้างขวาง ครั้งมาปฏิบัติทางจิต จิตไม่ค่อยรวมง่าย ฉะนั้น ต้องให้เข้าใจว่าความรู้ที่ได้ศึกษามาแล้ว ต้องเก็บใส่ตู้ใส่หีบไว้เสียก่อน ต้องมาหัดรู้ คือ จิตนี้ หัดสติให้เป็นมหาสติ หัดปัญญาให้เป็นมหาปัญญา กำหนดรู้เท่ามหาสมมติมหานิยม อันเอาออกไปตั้งไว้ว่า อันนั้นเป็นอันนั้น เป็นคืนเดือนปี เป็นฟ้าอากาศกลางหาว ดวงนักขัตฤกษ์ สารพัดสิ่งทั้งปวง อันเป็นเจ้าสังขาร คืออาการจิต หากออกไปตั้งไว้บัญญัติไว้ว่าเขาเป็นนั้น เป็นนี่ จนรู้เท่าแล้วเรียกว่ากำหนดรู้ทุกข์ สมุทัย เมื่อทำให้มาเจริญให้มาก รู้เท่าเอาทันแล้ว จิตก็จะรวมลงได้ เมื่อกำหนดอยู่ก็ชื่อว่า เจริญมรรค หากมรรคพอแล้วนิโรธก็ไม่ต้องกล่าวหากจะปรากฏชัดแก่ผู้ปฏิบัติเอง

เพราะศีลก็มีอยู่ สมาธิมีอยู่ ปัญญาก็มีอยู่ ในกาย วาจา จิตนี้ เรียกว่า อกาลิโก ของมีอยู่ทุกเมื่อ โอปนยิโก เมื่อผู้ปฏิบัติมาพิจารณาจองที่มีอยู่ ปัจจัตตัง จึงจะรู้เฉพาะตัว คือ มาพิจารณากายอันนี้ให้เป็นของอสุภะ เปื่อยเน่า แตกพังลงไปตามสภาพความจริง ของภูติธาตุ ปุพเพสุ ภูเตสุ ธัมเมสุ ในธรรมอันมีมาแต่เก่าก่อน สว่างโร่อยู่ทั้งกลางวันและกลางคืน ผู้มาปฏิบัติพิจารณาพึงรู้อุปมารูปเปรียบดังนี้

อันบุคคลผู้ทำนาก็ต้องทำลงไปในแผ่นดิน ลุยตามลุยโคลนตากแดดกรำฝน จึงจะเป็นข้าวเปลือก ข้าวสาร ข้าวสุกมาได้ และได้บริโภคดื่มสบายก็ล้วนทำมาจากของมีอยู่ทั้งสิ้น ฉันใดผู้ปฏิบัติก็ฉันนั้น เพราะศีล สมาธิ ปัญญา ก็มีอยู่ใน กาย วาจา จิต ของทุกคน

 

วิธีภาวนา คือ การสังเกตจิตที่อยู่ไม่เป็นสุข ด้วยสติตามรู้การเคลื่อนไหวของจิต โดยบริกรรมธรรมบทที่ให้ผลดี วิธีภาวนาก็คือ วิธีสังเกตตัวเอง สังเกตจิตที่มีนิสัยหลุกหลิก ไม่อยู่เป็นปกติสุขด้วยมีสติตามระลึกรู้ความเคลื่อนไหวของจิต โดยมีธรรมบทใดบทหนึ่งเป็นคำบริกรรม เพื่อเป็นยารักษาจิตให้ทรงตัวอยู่ได้ด้วยความสงบสุขในขณะภาวนา ที่ให้ผลดีก็มีอานาปานสติ คือการกำหนดจิตตามลมหายใจเข้าออกด้วยคำภาวนา พุทโธ พยายามบังคับใจให้อยู่กับอารมณ์แห่งธรรมบทที่นำมาบริกรรมขณะภาวนา พยายามทำอย่างนี้เสมอด้วยความไม่ลดละความเพียร จิตที่เคยทำบาป หาบทุกข์อยู่เสมอจะค่อยรู้สึกตัว และปล่อยวาง ไปเป็นลำดับ มีความสนใจหนักแน่นในหน้าที่ของตนเป็นประจำ จิตที่สงบตัวลงเป็นสมาธิเป็นจิตที่มีความสุขเย็นใจมาก และจำไม่ลืม ปลุกใจให้ตื่นตัวและตื่นใจได้อย่างน่าประหลาด

ดับ 3 โลก (กามโลก รูปโลก อรูปโลก ) คงดับอยู่ที่จิต จนทำลายกิริยา คือตัวสมมุติ หมดสิ้นจากจิต ยังเหลือแต่อกิริยา เป็นฐีติจิต ฐีติธรรม อันไม่รู้จักตาย

อกิริยา เป็นที่สุดโลก สุดสมมุติบัญญัติ สัจธรรมเป็นเครื่องเหยียบก้าว (กริยา) ขึ้นไปสู่ปัญญา รอบรู้จนเป็นอกิริยา ก็ย่อมดับโลก 3 ได้

มูลการของสังสารวัฏ คือฐีติภูตัง (จิตดั้งเดิม) อันประกอบด้วย อวิชชา และวิชชา ฐีติภูตัง ที่มีอวิชา เป็นมูลการเวียนว่ายตายเกิด ฐีติภูตัง ที่มีวิชชาเป็นมูลการหยุดหมุดหมดการเวียนว่ายตายเกิด

วิชชา 3 ของพระพุทธเจ้า ลึกลับสุขุมมาก ในยามที่ 1 พระองค์ทำความรู้เท่าอย่างนั้น ยามที่ 2 พระองค์ทำความรู้เท่าอย่างนั้น ยามที่ 3 พระองค์ ทำความรู้เท่าคือแก้อวิชชาและปฏิจจสมุปบาท ในของจิต ในช่องแคบมารแย่งไม่ได้ มีความรู้อันพิเศษขึ้นมาว่า พระองค์เป็นสยมภูความที่ท่านแก้อวิชชาเป็นของขั้นละเอียดยิ่งนัก บุคคลจะรู้เห็นตามนั้นน้อยที่สุด สุดอำนาจของจิต เมื่อกำหนดรู้ลงไปเป็นของว่างหมด ไม่ใช่ตัวตนสัตว์บุคคลเราเขา ไม่ใช่ผู้หญิงผู้ชาย ธาตุสุญโญ เป็นธาตุสูญ แล้วกำหนดจิต รู้จิต ตั้งอยู่ในฐีติธรรม

ธรรมะ ธัมโม เรียนมาจากธรรมชาติ เห็นความเกิดความแปรปรวนของสังขารประกอบด้วยไตรลักษณ์

อรหันต์ก็เป็นคุณอนันต์นับหาประมาณมิได้ พระอรหันต์ตรัสรู้ในตัว เห็นตัวมีญาณแจ่มแจ้งดี ล้วนแต่เล่าเรียนธรรมชาติทั้งนั้น

ในโลกนี้เป็นอนัตตาหมด ไม่มีต้นไม้และภูเขา วิปัสสนาลบล้างหมด ไม่มีเชื้อโรคอยู่ในโลกชื่อว่า โลกุตระ

ธรรมเป็นฐีติธรรม ตั้งเที่ยงอยู่เช่นนั้น แปรปรวนอยู่เช่นนั้น ให้รู้ให้เห็นเฉพาะที่เกิดกับจิต

ที่มา : http://www.larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/005191.htm

 

อันนี้ใช่เลย 555

 

คุณกำลังอยู่ในกลุ่มพวกมากลากไปหรือเปล่า?

เราคนหนึ่งที่เป็นคนประเภทนั้น อยู่สังคมไหนก็ถูกกลมกลืนโดยสังคมนั้น ดังนั้น เราจึงชอบที่จะอยู่แบบโดดเดี่ยวเดียวดาย สันโดษตามประสาเราดีกว่าที่จะถูกพวกมากลากไป ลากไปดีหรือลากไปชั่ว เราก็ไม่ต้องการทั้งนั้น ขอเป็นตัวของตัวเอง ผิดโดยตนเอง ถูกโดยตนเอง ไม่โทษปี่โทษกลอง มีความเห็นจริง มองโลกด้วยความจริงปราศจากคติมายาใดๆ

การเรียนรู้อย่างเป็นกลางจึงจะเกิดขึ้นที่ใจ ไม่ปนเปื้อน ไม่มีคัมภีร์บังพระธรรม ไม่มีความลำเอียงบังปัญญา เมื่อความจริงอันเป็นสัจธรรมปรากฏเกิดขึ้นที่ใจแล้ว ใจย่อมเป็นอิสระจากเครื่องร้อยรัดทั้งปวง

วันนี้จึงต่างจากวันนั้นโดยสิ้นเชิง กลายเป็นใจที่ปลีกวิเวก ไม่ข้องติดกับเรื่องโลกๆ ใจไม่เกาะ ใจวางเฉย

 

น่าอ่านดีนะค่ะ

 

สวัสดีค่ะคุณเมฆนา ขอบคุณค่ะ
หากมีเรื่องราวบทความมาร่วมแชร์ได้ที่นี่นะคะ จะรออ่านค่ะ

 

ยังไม่เรื่อง แต่มีภาพสวยๆ มาให้ชมค่ะ

 

เสียงบอกเล่าจากแดนไกล

จะมีใครสักกี่คนที่รู้ว่าพระแม่ได้แบ่งภาคมาเกิดเพื่อบำเพ็ญบารมีโพธิสัตว์ และบัดนี้ก็ได้ทำบารมีจนเต็มแล้ว คงมีเพียงผู้บรรลุญาณอภิญญาที่จะมองเห็นกายโพธิสัตว์นี้ ทรงชุดขาวและประทับอยู่บนดอกบัว หลายๆ คนบอกว่าเป็นเจ้าแม่กวนอิม หาได้ใช่ไม่ ผู้ใดที่บำเพ็ญหนทางโพธิสัตว์เมื่อบารมีเต็มแล้ว กายในจะทรงชุดขาวและนั่งบนดอกบัว

เมื่อได้มาคลุกคลีอยู่กับเหล่าสรรพสัตว์บนภพภูมิมนุษย์โลกนี้ จึงทำให้ได้รู้ว่าความทุกข์ของเหล่าสรรพสัตว์แต่ละประเภทมีเหตุจากอะไรบ้าง เหล่ามนุษย์ที่ได้แต่ร้องขอเพื่อสนองความต้องการของตนเอง ร้องขอเพื่อให้พ้นจากทุกข์ที่บีบคั้นทางใจและทางกาย ถึงแม้พวกเขาเหล่านั้น ไม่มีแม้ความดีอะไร แต่พระแม่ก็ยังทรงโปรดประทานความเมตตากรุณาให้ในทุกครั้งที่ร้องขอ

เราไม่เข้าใจอยู่ดีว่าสิ่งที่พระแม่บำเพ็ญมานี้มีแต่ให้ความช่วยเหลือ แม้สรรพทุกขเวทนาวิญญาณทั้งหลายก็ยังทรงโปรดประทานความเมตตากรุณาอันไม่มีประมาณ กลับได้รับคำดูหมิ่นเหยียดหยามจากมนุษย์ผู้เป็นมิจฉาทิฏฐิ มนุษย์ผู้ชุ่มด้วยกิเลสตัณหาอุปาทาน พระแม่ทรงยิ่งใหญ่เสมอ ไม่ได้ยิ่งใหญ่เพราะคำยกยอ แต่ทรงยิ่งใหญ่ในภาระกิจที่ทรงกระทำอย่างไม่ย่อท้อมาเป็นเวลาเนิ่นนานนับอสงไขยแสนกัปป์

ไม่เคยทรงบิดเบือนคำสอนของพระพุทธองค์ เพราะนี่คือโองการแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและคือภาระกิจของการขนสรรพสัตว์ออกจากวัฏสงสาร ปัญญามนุษย์แยกแยะกันไม่เป็น แยกแยะกันไม่ได้ มองเห็นเพียงภาพมายาที่เหล่ามนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่อหลอกกันเอง เพียงเพราะกิเลสความโลภในใจที่เป็นเชื้อสันดานของมนุษย์ทั้งหลาย จึงสร้างภาพให้พระองค์เป็นเทพ เป็นมาร เป็นพระเจ้า หลอกเอาลาภสักการะจากความนับถือบูชานี้จากเหล่าเพื่อนมนุษย์กันเอง

จงจำกันไว้ให้ดีๆ ในอนาคตกาลข้างหน้าจะทรงกลับมาจุติอีกครั้งในภาคโพธิสัตว์ทรงมังกรขาว เพื่อปลดปล่อยทุกขเวทนาให้กับเหล่าสรรพสัตว์ เพื่อขนสรรพสัตว์ออกจากวัฏสงสารตามวาสนาบารมีของมนุษย์และอมนุษย์ทั้งหลาย

 

ขอเล่านิทานหน่อย

ช่วงนี้รู้สึกแปลก คล้ายพบเจอการเหลื่อมล้ำของเวลา จึงพยายามหาว่าเกิดอะไร

ไปเจอคำว่า วิมุตติ เหนือ วิมุตติ

จุดที่เวลาหยุดนิ่ง

ฌานเหนือฌาน

ปัญญาเหนือปัญญา

นิทานก็คือนิทานอ่ะนะ อ่านเล่นเพลินๆ 5555